"พระอยู่ที่ใจ ไยต้องไปแสวงบุญ"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 6 พฤษภาคม 2009.

  1. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    [​IMG]

    "พระอยู่ที่ใจ ไยต้องไปแสวงบุญ"


    คมชัดลึก :หลายๆ คน โดยเฉพาะชาวพุทธยุคใหม่ที่เน้นอะไรตามสไตล์ไดนามิก อาจจะถามครับว่า ทำไมชาวพุทธที่เน้นเรื่องของการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์นั้นต้องเดินทางไปยังอินเดียและเนปาล เพื่อไปแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถาน 4 อันได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และ ปรินิพพานของพระพุทธองค์


    ทีมงาน “ชีพจรโลก” ได้เดินทางไปยังสังเวชนียสถาน 4 และสถานที่สำคัญในพุทธประวัติอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยนาลันทา, เขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์, แม่น้ำคงคา และบ่อน้ำตโปธาราม เพื่อถอดรหัสธรรมว่า อะไรคือ “แก่นธรรม” ที่สามารถตอบโจทย์คนในยุค “ทุน” ได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน

    และด้วยการที่มี “พระสงฆ์ผู้รู้โลก” อย่าง พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ผู้ที่มีความรู้ไม่เพียงแต่แก่นธรรม แต่ยังแตกฉานในเรื่องของโลกทุนของฆราวาสที่นับวันจะยิ่งหมุนเร็ว แรงและก้าวร้าว จะทำให้การถอดรหัสธรรมและการเข้าถึงแก่นธรรม เพื่อตอบโจทย์โลกของทุน นั้นกระจ่าง และสามารถเชื่อมโลกทั้งสองให้สนับสนุนกันและกันได้อย่างสมบูรณ์ด้วย


    การเดินทางนั้นเริ่มต้นกันที่สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ กล่าวคือที่ลุมพินีวัน ในอดีตนั้นถือได้ว่าเป็นดินแดนที่อยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ ตามหลักปักปันเขตแดนปัจจุบันแล้ว ลุมพินีวัน กลายมาเป็น อำเภอลุมมินเด ในเขตประเทศเนปาล อยู่ห่างจากชายแดนอินเดีย (ตอนเหนือ รัฐอุตตรประเทศ) เนปาล ด้วยทางรถยนต์ก็ 30 นาที ปัจจุบันพื้นที่ ณ อุทยานแห่งนี้ได้กลายมาเป็นพื้นที่มรดกโลกด้วย โดยกินพื้นที่ถึงกว่า 6,000 ไร่


    หลักฐานทางโบราณถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาพุทธศาสนามาก สถานที่สำคัญๆ จะมีหลักฐานอยู่เสมอๆ โดยหลักฐานเหล่านั้นเป็นการยืนยันว่า พระพุทธเจ้า ทรงเป็นบุคคลจริงที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ โดยมีหลักฐานที่ชัดเจน


    ในแง่โบราณคดีแล้ว หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญคือ “เสาอโศก” จำนวนมากมาย ที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างขึ้นและปักเอาไว้ ณ สถานที่สำคัญในพุทธประวัติทั้งหมด เสาอโศก นั้น ปกติแล้วคือเสาทรงกลมที่สร้างขึ้นจากหินทรายสีต่างๆ โดยบนยอดเสาจะมีรูปของสัตว์ต่างๆ เช่น สิงโต ม้า อยู่ด้วย โดยบนต้นเสาจะมีบันทึกเป็นอักษรพราหมี ถึงความสำคัญของสถานที่ต่างๆ โดยเสาอโศกนั้นถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ หรือประมาณ 300 ปี หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน โดยว่ากันว่าพระองค์สร้างเสาอโศกทั้งสิ้น 8.4 หมื่นต้น เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ในพระไตรปิฎกด้วย


    ร่องรอยของเสาอโศกต้นสำคัญๆ รวมถึงสถูป เจดีย์ ที่ถูกสร้างขั้นเป็นพุทธบูชานั้นถูกรวบรวมบันทึกเอาไว้จากการจดบันทึกของพระสมณะจีน “ถังเสวียนจัง” หรือที่เรารู้จักในนาม พระถังซัมจั๋ง ที่บันทึกเอาไว้ที่เดินทางมาศึกษาพระศาสนาที่ ชมพูทวีป (อินเดีย) ช่วงรัชสมัยพระเจ้าถังไท่จงมหาราช (ต้นศตวรรษที่ 7 หรือ ค.ศ.600 กว่าๆ) แม้ว่าหลักฐานทางโบราณจะไม่ได้รับการดูแล แต่นักโบราณคดี ในกองทัพอังกฤษ เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม ได้ขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์จนกลับสู่สภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ในยุคที่อังกฤษครอบครองอินเดียเป็นเวลา 70 ปีนั้น


    นัยสำคัญทางโบราณคดีบอกอะไรกับเรา? พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ชี้ว่า หลักฐานเหล่านี้ยืนยันว่า พระพุทธองค์นั้นทรงเป็นปุถุชน ผู้มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่หลายคนหลงเข้าใจผิดคิดว่าพระพุทธองค์นั้นเป็นเทพเทวดา ทั้งๆ ที่ศาสนาพุทธนั้นเป็นศาสนากลุ่ม “อเทวนิยม” (atheism) หากพระพุทธองค์ ทรงเป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ เราสามารถที่จะตั้งคำถามได้ วิเคราะห์ได้ และการศึกษาอย่างวิเคราะห์ จะทำให้ชาวพุทธเข้าถึงพระธรรมได้เหนือกว่าการเข้าถึงธรรมด้วยการมองพระพุทธองค์ว่าเป็นเทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ ตั้งคำถาม และวิพากษ์ได้แม้แต่น้อย


    ดังนั้นในการศึกษาพระพุทธประวัติ เราสามารถที่จะตั้งคำถามได้ วิเคราะห์ได้ ตัวอย่างเช่น การตั้งคำถามถึง อิทธิปาฏิหาริย์ที่มีอยู่มากมาย และคงพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ที่เราสามารถมองได้ว่าเป็นรหัสธรรมที่มีแก่นสาร


    ก่อนที่ทีมงานจะเดินทางไปยังสังเวชนียสถานแห่งที่ 2 หรือสถานนที่แห่งการตรัสรู้ เพื่อกราบสักการะจากเจดีย์พุทธคยา (หรือเจดีย์มหาโพธิมหาวิหาร) เรายังได้เดินทางไปยังบ้านของนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสแก่พระโพธิสัตว์ (พระพุทธองค์ก่อนตรัสรู้) และแม่น้ำเนรัญชรา


    ณ แม่น้ำเนรัญชรานี้เป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธประวัติเมื่อพระโพธิสัตว์อธิษฐานลอยถาดทองคำ ที่ได้ลอยทวนน้ำแสดงถึงการที่พระองค์จะตรัสรู้ โดยถาดทองคำได้จมลงใต้บาดาล และกระทบกับ ถาดทองอีกสองใบที่พระพุทธเจ้าก่อนหน้าพระองค์ทรงมาเสี่ยงทาย เสียงดังกริ๊ก กระทบกับโสตของ พระยากาฬนาคราช เจ้าบาดาล


    การที่กาฬนาคราชแสดงความไม่สนใจต่อการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ (ที่รำพึงกับตนเองเมื่อยามได้ยินเสียงถาดทองคำกระทบกับถาดอีก 2 ใบก่อนหน้านั้นว่า “มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีกองค์แล้วรึ.. เมื่อวานก็เพิ่งมีมาสององค์” ว่าแล้วก็บรรทมต่อไป) มิใช่เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ที่ชาวพุทธต้องเชื่อ แต่ เป็นเสมือนรหัสธรรมที่เปรียบได้กับบุคคลที่ปฏิเสธธรรม แม้แต่ธรรมะนั้นจะอยู่ใกล้ตัวขนาดไหนก็ เลือกที่จะปฏิเสธนำมาปฏิบัติใช้ให้เป็นมงคลประโยชน์แด่ชีวิต


    หญ้าคาแปดกำที่พระองค์ได้รับจาก โสตถิยะพราหมณ์ เพื่อนำไปปูลาดเป็นอาสนะ โคนต้นโพธิ์ นั้นสำหรับพระอาจารย์ ว. ก็เป็นรหัสธรรมเช่นกัน หญ้าคา ขึ้นชื่อว่ามีใบคมและบาดได้ แต่พระพุทธองค์นำไปปูลาดจนตรัสรู้ “หญ้าคาแปดกำ” เป็นรหัสธรรมแทน “โลกธรรมแปด” หรือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และทุกข์ หากว่าเราจัดการกับมันได้ เราก็จะประสบกับความสุข แต่หากเราจัดการกับโลกธรรมทั้ง 8 โดยปราศจากภูมิปัญญาและความรู้โลก ก็จะกลายเป็นผู้ที่ถูก "โลก-กระทำ"


    เราชาวพุทธในโลกวันนี้ นับตั้งแต่วันที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้มาก็ 2597 ปีแล้ว (2,552 ปี พุทธกาล หลังจากการดับขันธ์ปรินิพพาน รวมกับอีก 45 ปี ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมหลังการตรัสรู้) ดูเหมือนกับจะห่างธรรมะออกไปทุกวัน บางคนปิดใจกับพุทธศาสนา เพราะจับแก่นธรรมไม่ได้ และอคติกับกระพี้ และสิ่งปลอมปน แต่ลืมเปิดใจที่จะศึกษาว่าพระองค์ตรัสรู้อะไร เป็นวิทยาศาสตร์อย่างที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวถึงจริงหรือไม่และอย่างไร บุคคลธรรมดย่างเราจะบรรลุธรรมได้หรือไม่ หากจะเปิดใจ ต้องเปิดอย่างไร เพื่อให้ แก่นธรรม ตอบโจทย์คนในโลกทุนอย่างทุกวันนี้




    รายงานพิเศษจากอินเดีย-เนปาล

    ตามรอยพระพุทธเจ้ากับรายการ "ชีพจรโลก"

    ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน และทีมงาน "ชีพจรโลก"

    (ติดตามรายการชีพจรโลก ตอน ตามรอยพระพุทธเจ้า เริ่มออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค. 2552 เวลา 23.00-24.00 น.)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2009
  2. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    การแสวงบุญ ไม่จำเป็นต้องไปยัง สังเวชนียสถาน 4 อันได้แก่ สถานที่ประสูติ

    ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และ ปรินิพพานของพระพุทธองค์


    ในเมืองไทยมีวัดวาอาราม สถานที่ปฎิบัติธรรม พระสงฆ์องค์เจ้าอยู่มากมาย

    เที่ยว และเรียนรู้เท่าไหร่ก็ไม่หมด


    ธรรมมะจริงๆ อยู่ที่ความเข้าใจว่า..อะไรคือธรรมมะ และสิ่งใดคือคำสอนที่แท้

    จริงของพระพุทธองค์ และสิ่งนั้นต้องพิสูจน์ได้


    ถ้าอยากแสวงบุญกันจริงๆ ร่างกายเรา มีไม่กี่ศอกกี่วา แสวงบุญกันที่นี่ก็พอ!

     
  3. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ถือว่าเป็นการเรียนรู้ พบมิตรในธรรม เป็นการรวมตัวกันของชาวพุทธ หากเรารวมตัวกันทุก ๆ ช่วงเวลาเช่น วันอาทิตย์ไปศึกษาธรรมที่วัดตนชอบ ทำให้ธรรมทั้งหลายให้แจ้ง ลดความเป็นอัตตาลงได้ วันพระใหญ่ ๆ เช่นวันวิสาขบูชา ก็ต้องไปทำบุญในเวลาเช้า เวียนเทียนเวลาเย็น ร่วมสวดทำวัตรเย็นกับพระสงฆ์ หากชาวพุทธทุกคนทำได้ในเรื่องง่าย ๆ เหล่านี้ ใจก็เป็นบุญเป็นกุศล ก็ได้บุญและเพื่อนเดี๋ยวนี้บ้านติดกันยังไม่รู้จักกันเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...