พระอรหันต์มรรค ...พระอรหันต์ผล..?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วรณ์นิ, 3 กุมภาพันธ์ 2019.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ท่านอื่นๆมีความ แตกต่าง ไป
    อ่านความคิดเห็นของคุณ อ่านไปก็ ตลกไปด้วย
    นิพพานคืออมตะนิรันดร....แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่นิพพานจะอมตะนิรันดร เหมือนนิพพานนะครับ..อย่าปนกัน อย่ารวมความเอามาเป็นว่าเหมือนกัน คนที่นิพพานคือ ผู้ที่พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง..ไม่ไช่ว่าเขาจะเป็นอมตะนิรันดรนะครับ...
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เป็นสภาวะแห่งความว่าง ที่ไม่ใช่ความว่างเปล่า ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า "สุญญตา" นั่นเองค่ะ

    เป็นผู้สร้างทุกมิติในการเป็นมนุษย์และทุกสรรพสิ่งภายในเอกภพนี้ "องค์ธรรมโลกุตระ" สามารถที่จะ สื่อสารสัมพันธ์ กับทุก ๆ รูปธรรมแก่นแท้รูปธรรมใด ๆ ก็ได้ เพราะเหตุว่าแก่นแท้ในแต่ละรูปธรรมนั้น ไม่ว่าจะมีเปลือกนอกซึ่งมีมวลหยาบ ๆ ห่อหุ้มแก่นแท้หรือไม่ก็ตาม แต่แก่นแท้นั้นก็เป็นสรรพสิ่งซึ่งถูกแบ่งภาคออกมาจากจุดศูนย์กลางของ ความมีที่เหมือนไม่มี หรือ จุดศูนย์กลางแห่ง "สุญญตา" ภายในนิวเคลียสของจิตจักรวาลดวงใหญ่(องค์ธรรมโลกุตระ) ด้วยกันทั้งสิ้น

    แม้บางสรรพสิ่ง เช่น ดวงจิตธรรมญาณผู้เป็นแก่นแท้ในความเป็นมนุษย์ของเจ้า จะได้รับอนุญาตให้แบ่งภาคออกมาเป็นจักรวาลดวงเล็กในแดนสุญญตาก็ตาม แต่จิตจักรวาลดวงเล็กอันเป็นตัวตนภาคแรกอันสูงส่งของมนุษย์ เป็นประหนึ่งอันบริสุทธิ์แห่งความเป็นสุญญตา เช่นเดียวกันกับองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ ที่มีสภาวะแห่งสุญญตาเช่นเดียวกัน

    "แบ่งภาค" นี้มักนิยมใช้กับดวงจิตธรรมญาณ หรือมนุษย์โลกทั้งหลายเท่านั้น

    การแบ่งภาคนี้ คือ การแบ่งมาจากสภาวะจิตที่เป็นสุญญตาด้วยกันทั้งสิ้น แม้จะแยกออกเป็นคนละรูปธรรมแก่นแท้แล้ว หากรูปธรรมหนึ่งมีการสั่นสะเทือนภายในตนเองเกิดขึ้น องค์ธรรมโลกุตระ ผู้เป็นสภาวะสุญญตา ผู้เป็นผู้สร้างทุกมิติ จะสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนของรูปธรรมแก่นแท้ได้เสมอ หมายถึง ไม่ว่ารูปธรรมใด กำลังคิดในเรื่องใด? รู้สึกอย่างไร? เป็นใคร? อยู่ที่ไหน? จะสามารถรับรู้ได้ทุกสภาวะที่สั่นสะเทือนนั้น....

    พอมองภาพออกไหมค่ะ นี่เป็นความรู้ใหม่ที่ได้รับการเปิดเผยในยุคกึ่งพุทธกาล หากใครเคยอ่านกระทู้เตรียมตัวให้พร้อม! มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก จะเคยผ่านตาแล้ว....ว่าอะไรคืออะไร...จึงเป็นเหมือนประโยคที่ท่านได้กล่าวไว้เลยนะค่ะ

     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อะไรเป็นสิ่งที่รับรู้สภาวะนั้น? ก็คือการรับรู้สภาวะนิพพาน

    ที่เราเคยกล่าวกันว่า นิพพานคือการสิ้นกิเลส นิพพานไม่ใช่การดับสูญ แต่...นิพพานคือสิ้นทุกข์ คือ ทุกข์ไม่เกิดขึ้น ทุกข์ไม่มี ทุกข์ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในนั้นได้ เป็นการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง เมื่อดับทุกข์จึงเข้าถึงสภาวะบรมสุขอย่างยิ่ง คือ การถึงนิพพาน

    อะไรเป็นสิ่งที่รับรู้สภาวะนั้น!!

    ถ้าจะเริ่มต้นกันด้วยคำถามที่ว่า "จิตวิญญาณคืออะไร?

    จิตวิญญาณ คือ แก่นแท้ความเป็นแก่นแท้ของมนุษย์แต่ละคนที่แฝงอยู่ในร่างกายของเรา ตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดเจนของจิตวิญญาณ คือ ที่สมอง โดยมีหน้าที่รับรู้ทุกสรรพสิ่งที่แวดล้อมตัวเราผ่านชองทางประสาทผัสทั้ง 5

    จิตวิญญาณที่อยู่ในร่างกายมนุษย์แต่ละคน ล้วนมีชื่อเฉพาะตัวและมีคุณสมบัติเฉพาะตัวด้วยกันทั้งสิ้น โดยจิตวิญญาณนั้นจะเป็นนามธรรมสำหรับมิติโลก เป็นเรื่องของอนุภาคคลื่นแสงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีมวลระดับปรมาณูที่เล็กละเอียดที่ตามองไม่เห็น เป็นคุณสมบัติของแสงที่มีความถี่ย่านความถี่สูงในระดับรังสีแกมม่าขึ้นไป สำหรับจักรวาลอันกว้างใหญ่แล้ว จิตวิญญาณทั้งหลายเป็นกายวัตถุชนิดหนึ่งของจักรวาลเช่นเดียวกันค่ะ

    งง! ไหมค่ะว่า....

    มนุษย์จะตัดสินความเป็นรูปธรรมกับความเป็นนามใด ๆ ตรงที่มีความเป็นจากการมองเห็นสิ่งนั้น ว่าเป็นรูปธรรม และมองไม่เห็นแต่สามารถสัมผัสรับรู้ด้วยปรากฎการณ์หรือจินตนาการ ก็เรียกว่าสิ่งนั้นเป็นนามธรรมไปเสียทั้งหมดก็คงไม่ได้

    การที่จิตวิญญาณเป็นรูปธรรมหรือกายวัตถุของจักรวาลนี้ ก็เหมือนกับการที่เรายอมรับว่าร่างกายมนุษย์เป็นจริงในโลกแห่งกาลเวลา

    ในโลกวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ยอมรับแล้วว่า สิ่งที่แฝงเร้นอยู่ภายในรูปธรรมใด ๆ ก็คือ อนุภาคของมวลและพลังงานในระดับจักรวาลเหนือมิติโลก เป็นคลื่นอนุภาคเล็กละเอียดยิ่งกว่าระดับปรมาณู เล็กยิ่งกว่าอนุภาคโฟตอนของคลื่นแสงที่มนุษย์รู้จักเสียอีก

    ระบบชีววิทยาที่เป็นรูปธรรมมนุษย์ ก็คือรูปธรรมของมิติโลก ที่ประกอบด้วยมวลหยาบ ๆ ที่ร้อยเรียงตัวกันในระดับเซลล์จนเป็นรูปทรง โดยมีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน คือ ส่วนที่เรียกว่า จิตวิญญาณซึ่งก็คือต้นกำเนิดพลังงานที่มีคลื่นอนุภาคเล็กละเอียดระดับปรมาณู ที่เป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กอย่างหนึ่งถูกห่อหุ้มเอาไว้ภายใน โดยมวลของมันก็คือ อนุภาคของคลื่นแสงกลุ่มหนึ่ง
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    คุณเรียกมันว่าเป็นความรู้ใหม่ ในยุคกึ่งพุทธกาล ...อืม.ตั้งชื่อเรียกซะ ให้เท่ห์ว่า มันคือจิตจักรวาล อันแปลงมาจากคำว่า สุญญตา อมตะนิรันดร โดยทั้งหมดล้วนแปลงมาจากคำว่า .....นิพพาน...ทั้งนั้น

    แทนที่จะพากัน ถึงที่สุดแห่งความยึดมั่นถือมั่น ความดับ ใน เป้าหมายของการนิพพาน
    จะกลายไปเป็น พากันค้นหา การมีอยู่ ค้นหาตัวตนของการมีอยู่ของ จิตจักรวาล องค์จิตจักรวาล แดนอมตะนิรันดร ...กันเป็นเรื่องเป็นราวเป็นตัวเป็นตน เป็นดินแดน ...อันเป็นการสร้างภพสร้างชาติ โดยไร้สาระกันต่อไป ไม่สิ้นสุด หลงออกจากทางนิพพานกันอีก

    ก็รู้ๆกันอยู่ว่าความคิดจิตอวิชชาคือตัวการแห่งการสร้างภพสร้างชาติสร้างมิติ ให้มีการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสารนี้ไม่จบสิ้น ...ก็ทำไมพากันไปตีความ แปลความหมายของการนิพพานว่า มีดินแดน มีจิตจักรวาล มีที่อยู่ มีตัวมีตน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความหลงไปกันใหญ่ทั้งนั้น อันผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน..ที่ชี้พระนิพพานว่าคือการพ้นทุกข์ พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นการดับแห่งอวิชชา ที่ทำให้พ้นจากวัฏฏะอันน่าสงสารนี้ได้
    ....
    กรรมอันใดหนอ จึงดลบันดาลให้ พวกท่านคิดได้อย่างนี้
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    การไม่มีกิเลส โลภ โกรธ หลง อยู่ในสภาวะนั้นเลย หรือ ความไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย เป็นสภาวะทุกข์เข้าไปอยู่ไม่ได้ ยังไม่เป็นการพ้นทุกข์อีกหรือคะ

    แล้วถ้าดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง แล้วดับอย่างไร ? สภาวะนิพพานที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เป็นบรมสุขอย่างยิ่ง และอะไร? ที่บรมสุขอย่างยิ่งในความหมายของท่านนะค่ะ
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เรื่องไร้สาระ มาแปลง มาแต่งเติม เรื่องจิตวิญญาณ ให้เป็นสิ่งที่มีค่า เป็นแก่นแท้อะไรกัน มันก็แค่ขันธ์ ...ผมว่าคุณควรศึกษาเรื่อง อริยสัจสี่ให้แจ้งกว่านี้ ก่อนที่เรื่องจิตจักรวาล จิตวิญญาณบ้าบอนี้มันจะพาคุณไปนรก แล้วยังเป็นการชี้นำคนอื่นมห้หลงผิดตามไปด้วย ยิ่งจะเป็นบาปกรรมหนักของตัวคุณ
    จงหยุด ความคิดนี้ จงยุติกรรมนี้ ก่อนที่จะพาคนตามไปลงนรกด้วยเถอะนะ

    ขอเตือนได้แค่นี้แหล่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2019
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    คำตอบนี้ต้อง ให้คุณรู้เอง เข้าถึงเอง ตอบตัวเองได้เอง คุณจึงเข้าใจในคำตอบจริงๆ แต่ขอบอกว่ามันไม่ไช่อย่างที่คุณคิด อย่างที่คุณเข้าใจในตอนนี้หรอก

    แนะนำให้ไปกราบขอขมากับ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์..อันบริสุทธิ์ แล้วตั้งใจ ปฏิบัติ ตามมรรคแปด ค้นหาความจริงจาก อริยสัจสี่..ก่อนที่ชีวิตคุณจะตายเสียก่อน ด่อนจะแก้ไขความหลงผิดนี้
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ค่ะ ถ้าศึกษาเรื่อง วัจฉนะสูตร ว่าพระอรหันต์ตายแล้วสูญหรือไม่!! จิตยิ้มเคยอ่านเจอและนำไปลงในโพสกระทู้ไว้ด้วยว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระองค์ทรงละตัดขาดเหมือนตาลยอดด้วนแล้ว ยังทรงตรัสอีกว่า พระตถาคตเป็นสภาพลึกซึ้งอันประณีตยากหยั่งถึงได้ ลองพิจารณาหาความหมายนี้ดูดีดีค่ะ
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ค่ะจิตยิ้มอาจจะยังไม่ได้นิพพาน แต่การที่ตนเองเห็นความว่างที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติแล้ว เข้าถึงระดับพุทธะภายในแล้ว และจิตที่หลุดพ้นไปจากโลกเป็นอิสระจากพันธนาการเป็นอย่างไร? และการที่เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลเป็นอย่างไร? จึงเข้าใจเรื่องนี้ได้ทั้งหมด นี้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้นที่ประสบพบเจอยังมีอีกมาก ที่เป็นสภาวะโลกุตระธรรม

    ถ้าไม่ใช่เราต้องเอาเหตุและผลมาหักล้างกันค่ะ และจิตยิ้มก็มีคำตอบจากพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฏกด้วย

    ถ้าสิ่งที่จิตยิ้มกล่าวว่าไม่ใช่ แล้วสิ่งที่ใช่เป็นอย่างไรล่ะค่ะ ถ้าเป็นสิ่งที่มีเหตุผลกว่าจะยอมเชื่อโดยดุษฏี
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้ รู้เรื่องของคนอื่น แล้วเอาเรื่องของคนอื่นมาคิด ไม่ได้สอนให้เอาสิ่งที่พบที่เจอมาตีความหมาย...พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้ทำแบบนี้...แต่สอนให้พิสูจน์ด้วยตนเอง ให้พบเจอคำตอบเอง อย่าเอาคำตอบจากคนอื่น...ทางพุทธะ แค่คิด ก็ผิดแล้ว....พุทธะไม่ไช่รู้จากความคิด แต่เป็นรู้เพราะเป็นตัวเอง

    ขอถามข้อเดียว..ถ้าคืนนี้คุณจะตาย ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตคุณ...คุณปรารถนาสิ่งใดมากที่สุดในโลก....ก่อนตอบ ช่วยพิจารณาในใจให้เหลือเพียงคำตอบที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณเพียงคำตอบเดียว ...แล้วตอบผมมา
     
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เคยได้ยินคำนี้ไหมคะ

    "สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา จะป็นผู้สร้างสรรพสิ่งที่มีอัตตาเสมอ"

    สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาที่เอง ที่ล้วนเป็นผู้สร้าง "อัตตา" คือ ความมีตัวตน ให้เกิดขึ้น โดยจะซ่อนเร้นสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาแต่เดิมซึ่งยังมิได้หายไปไหนเอาไว้ภายในเปลือกนอกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยพลังอำนาจของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตานั่นเอง

    หมายความว่า ถ้าสรรพสิ่งใดที่มีอัตตาหรือมีความเป็นตัวตนทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น สรรพสิ่งนั้นจะต้องมีอีกสรรพสิ่งหนึ่งที่เป็นอนัตตาเป็นแก่นแท้เร้นอยู่ข้างในเสมอ

    เรื่องนี้ถ้าใครศึกษาคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล เป็นอย่างดีจะพอเข้าใจได้หมายถึงอะไรนะค่ะ
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    คุณก็ตอบเองในประโยคแรก...ว่าตนเองยังไม่ได้นิพพาน....แล้วที่อวดตนต่อมาอีกยืดยาว..เพื่อสิ่งใดกันล่ะ..หรืออยากดังหรือครับ บอกว่าตนเองเข้าถึงระดับพุทธะแล้วเอย..เห็นความว่างที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติแล้ว..จิตตนหลุดพ้นไปจากโลกเป็นอิสระจากพันธนาการ....ที่เอามากล่าวอวดอ้างนี่..อยากดัง อยากให้มีคนมานัยถือกราบไหว้หรือครับ ...หรืออยากให้คนอื่นรู้

    ถ้าอยากให้คนอื่นรู้คุณก็ลองเอาไปสอนคนอื่น แล้วให้คนอื่นรู้ตามคุณให้ได้ก่อนว่า เป็นการพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้บ้าอยู่คนเดียว ลองสิครับว่าจะมีใคร รู้ได้เหมือนคุณเป็นมั้ย
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    จิตยิ้มชอบดูนิทานปัญญายุทธ์นี้มาก ชอบสุด ๆ มีข้อคิดมากหลาย
    ลองดูคำตอบในนี้ดูก็ได้ค่ะ

     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    พอเถอะ เลิกไร้สาระ ต่อเถอะ..ใครจะสร้างอะไร คุณอยากเข้าไปร่วมสร้างด้วยงั้นหรือ เป็นหน้าที่ของคุณหรือ ตนเองเกิดเป็นผู้หญิง ควรมีครอบครัวสร้างครอบครัว าร้างชีวิตสร้างเด็กได้ แต่ยังไม่มีปัญญามีครอบครัว ไม่มีปัญญาสร้างลูกได้...แล้วยังจะ(เผยอ)ไปอวดอ้าง การเกิดของสรรพสิ่ง มาทำไม อะไรจะเกิดก็เกิดไป นั่นมันธรรมชาติของสิ่งอื่น..มันไม่ไช่ธรรมชาติของคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2019
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เลิกบ้าได้แล้ว คุณจิตยิ้ม..เรื่องไร้สาระต่างๆที่คุณชอบ ไม่ต้องยกมาเสนอหน้าในกระทู้หรอกครับ ให้คุณบ้าไปคนเดียว อย่าดึงคนอื่นให้บ้าตามเลย มันเป็นบาปกรรมนะครับ...
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เอาความจริงมาให้คนอื่นพิจารณา ไม่ได้บอกว่าต้องบังคับให้เชื่อนี่คะ
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    บ่ค่ะ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ไม่อยากได้อะไรซักอย่าง เป็นคนธรรมดานี่สุขที่สุดแล้ว หากจะได้ ก็ให้คนอื่นได้ประโยชน์ด้วยแค่นั้นเองค่ะ
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อยากลองฟังสภาวะนิพพานการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงของท่านบ้างค่ะ ว่าเป็นลักษณะอย่างไร?
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อะไรคือต้นเหตุแห่งการเกิด....ก็ไปดับตัวนั้น
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    จุดเริ้มต้นของอวิชชา เกิดจากสิ่งนี้ค่ะ

    images.png

    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎก พระสูตรหนึ่งไม่แน่ใจว่าเล่มที่ 9 หรือ 10 เกี่ยวกับวงจรปฏิจจสมุปบาท ว่าทรงดับที่ วิญญาณ เพราะการดับวิญญาณ นาม-รูป ก็ดับ ส่วนเรื่อง สังขาร และอวิชชา เป็นเรื่องเหตุของอดีต จิตยิ้มจำไม่ได้แล้วคำพูดที่ถูกต้องกล่าวอย่างไร ต้องค้นก่อน แต่วงจรปฏิจจสมุปบาท ให้ดับที่วิญญาณ เมื่อวิญญาณดับแล้ว นามรูปก็ไม่มีเหลือแล้วค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...