พระอริยะเจ้าหัวใจเพชร : หลวงปู่ดาบส สุมโน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 สิงหาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]
    พระรูปเหมือนรุ่นแรก รุ่นเดียว เนื้อนวะโลหะเต็มสูตร หลวงปู่ดาบส สุมโน สำนักสงฆ์เวฬุวัน เชียงราย ( พุทธคุณสุดๆ มาก หลวงปู่ทำไว้ให้เป็นตัวแทนท่านเลย มีพระธาตุเสด็จ )


    เป็นพระรูปเหมือน รุ่นแรกที่ดีทั้งนอกและในครับ เพราะก่อนสร้างได้นำมวลสาร คือ แผ่ยยันต์ และ ชนวน นำมาให้หลวงปู่ดาบส อธิษฐานก่อนนำไปหล่อเป็นองค์พระ.

    หลังจากสร้างพระเสร็จแ้ล้ว หลวงปู่ได้เมตตา อธิษฐานจิตเดี่ยวๆ ให้หลายวัน ....

    หลวงปู่บรรลุธรรมชั้นสูงมากๆ ซึ่งในเมืองไทยจะหาพระที่ได้ขนาดนี้ไม่เกิน 10 ท่าน ครับ.


    สำหรับ หลวงปู่ดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า ที่บำเพ็ญพระโพธิญาน บารมีท่านสูงมากๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้นครับ..

    ขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต อีกด้วย พระระดับนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยเจอนะครับ.

    เรื่องเล่าจากหลวงตาวัชรชัย

    ครั้ง หนึ่ง ตอนบวชได้พรรษา ๒ หลวงตาได้เที่ยวไปพบพระดีเข้าอีกองค์หนึ่งที่จังหวัดเชียงราย คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน แห่งสำนักไผ่มรกต ที่กล้าเรียกท่านว่าพระดี ก็เพราะว่าท่านดีต่อหลวงตา และได้มอบความดีให้หลวงตาประมาณไม่ได้และความดีศรีสุขอันนั้นมันเกี่ยวกับ หลวงพ่อฤๅษี ฯ โดยตรงเสียด้วย

    ครั้งแรกที่ไปกราบหลวงปู่ดาบส ท่านก็ทักถูกใจเราทันทีว่า
    "อยู่กับหลวงพ่อฤๅษี ฯ สอนมโนมยิทธิหรือ?"
    "ครับผม"
    "อภิญญาสมาบัติที่ทรงอยู่ คล่องดีแล้วใช่ไหม?"

    ตอนนี้หลวงตาตกใจ เพราะเข้าใจว่าเรื่องอภิญญาสมาบัติเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าตัวเองจะยอมรับว่า "ทำได้คล่อง" จึงตอบไปว่า

    "ไม่ใช่ขอรับ ผมยังไม่ได้อภิญญา ผมพยายามทำตามที่หลวงพ่อท่านสอน และแนะนำคนอื่นเท่าที่จะนึกได้"

    "นั่นแหละ เขาเรียกว่าอภิญญา พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็ใช้อย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็ทรงใช้อย่างนี้ ใช้แบบวิธีเหมือนกันแต่ความบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน ความมั่นใจไม่เท่ากัน ใจที่บริสุทธิ์มาก มั่นคงมั่นใจมาก ก็ใช้ได้คล่องแคล่วชัดเจนมาก บริสุทธิ์ถึงที่สุด มั่นคง มั่นใจไม่สงสัย ก็ใช้ได้ถึงที่สุด เป็นเรื่องธรรมดา"

    หลวงตาเข้าใจ แต่ยังไม่มั่นใจ

    แล้วหลวงปู่ดาบสก็มองหน้าหลวงตา พูดเสียงชัดเจนว่า

    "ออกจากวัดท่าซุง มาอยู่ด้วยกันไหม มาหาที่สงบซุ่มปฏิบัติธรรมให้สมใจ สมวาสนาบารมี"

    "พอสบายจบกิจแล้วจะได้ตั้งสำนักใหม่ สอนพระกรรมฐานให้มีชื่อลือลั่น ไว้ชื่อครูบาอาจารย์ ว่าเรานี่แหละลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ"

    "...................................."

    หลวงตาตกใจ เจ้าประคุณเอ๋ย ความในใจที่อุตริคิดฝังไว้ก้นบึ้งดวงใจไม่เคยเล่าสู่ใคร ไม่เคยถามไถ่แม้แต่หลวงพ่อฤๅษี ฯ คิดซ่อนเร้นไว้กว่า ๑๐ ปี ถึง ๔ ข้อ บัดนี้ได้ถูกหลวงปู่ดาบสไขออกมาไม่มีเหลือ กำลังใจขณะนั้นได้ตอบท่านไปใน ๒ ข้อแรก (และรับรู้ใน ๒ ประการหลัง ซึ่งจะไม่บอกใครจนวันตาย)

    "ไม่เอาครับ หลวงปู่ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับหลวงพ่อในวัดท่าซุงตลอดไป"

    "ดีแล้ว" ท่านยิ้มยืนยันว่า

    "ถูกต้องแล้ว อยู่ที่นั่นไม่ต้องไปที่ไหน"

    "เรื่องธุดงค์บางองค์ก็ไม่ต้องธุดงค์หรอก การที่พระสงฆ์ท่านออกธุดงค์กันในที่ต่างๆ ก็เอาคำสอนครูบาอาจารย์ที่น้อมรับเอาไปใส่ใจ แล้วก็ประคองใจอันนั้น ไปหาต้นไม้ หาถ้ำ หาที่วิเวกเหมาะกับจิตใจ เอาเป็นที่บำเพ็ญความเพียรพิจารณาธรรมอันนั้นจนได้มรรคได้ผล แล้วก็ต้องกลับไปอยู่กับผู้คนแทนคุณพระศาสนา แต่ที่วัดท่าซุงนะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง คือ ต้นหลวงพ่อฤๅษี ฯ ร่มรื่น ร่มเงาเย็นสบาย ผลไม้อริยผลก็ออกดอกเต็มต้น ไปนั่งนอนเดินยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้น อย่าจากไปไหน แล้วก็ประคองมือเอื้อมเด็ดผลไม้ มากินให้หวานชื่นใจด้วยความเคารพ ก็จะบรรลุมรรผลได้ในชีวิตนี้"

    ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า

    "พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

    จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"

    นี่หลวงตาเล่าให้ฟังตามที่ได้พบเห็นได้ยินมาเฉพาะตัวหลวงตาเอง ท่านใดจะชื่นชมสมใจหรือแหนงหน่าย อึดอัดก็โปรดเป็นไปตามกฎธรรมดา ตามปรารถนาเถิด..

    แล้วหลวงตาก็กลับวัด ก่อนลาหลวงปู่กลับ ก็ถ่ายรูปร่วมกับท่านมาภาพหนึ่ง กลับมาถึงก็เล่าให้พี่น้องบรรพชิตและฆราวาสฟังว่า มีหลวงปู่ดาบส แห่งสำนักไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย ท่านพูดถึงพ่อเราอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านก็งามนักหนา ทั้งหน้าตามารยาท ถ้าพ่อเราเป็นพระอาทิตย์เต็มองค์ทรงกลด หลวงปู่ดาบสก็งามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญที่ไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง แล้วก็เอารูปของท่านออกมาอวดไปทั่ววัด

    ก็อวดมาถึงหลวงพี่วิรัช ท่านก็เอาไปเล่าอวดหลวงพ่อพร้อมรูปใบนั้น พ่อเราฟังไป ดูรูปไป ก็ส่งรูปคืนให้หลวงพี่วิรัช พร้อมกับพูดลอย ๆ ออกมาว่า

    "เออ.. ๒๐ ปีแล้วซีนะ"

    หลวงพี่วิรัชก็กลับมาบอกคืนหลวงตาว่า คงเป็นเพื่อนหลวงพ่อ ไม่ได้พบกัน ๒๐ ปีกระมัง

    พอตอนเย็น ไปทำวัตรเย็นและปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพี่อนันต์ เรียกหลวงตาเข้าไปหาแล้วบอกว่า

    "หลวงพ่อให้บอกท่านว่า พระเจ้าของรูปนั้นได้อรหันต์มา ๒๐ ปีแล้ว"



    www.siamamulet.net
     
  2. bcbig_beam

    bcbig_beam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,821
    ค่าพลัง:
    +3,247
    ท่านบำเพ็ญสายโพธิญาณ แต่สำเร็จอรหันต์แล้ว
    ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ ใครพอจะมีรายละเอียดเรื่องนี้บ้างครับ
    ให้ความรู้เป็นธรรมทานด้วยครับ
    ขอโมทนาบุญด้วยทุกประการครับ
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  3. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,292
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,115
    ใช่หลวงปู่องค์นี้หรือเปล่าครับ

    ผมเพิ่งได้ภาพมาครับ ไม่ทราบว่า เป็นองค์เดียวกันหรือเปล่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. theexcaribur

    theexcaribur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,907
    องค์เดียวกันครับ ผมเคยไปอาศรมไผ่มรกต 1 ครั้ง จะมีตู้ให้หยอดทำบุญ
    พอหยอดแล้วจะมีเสียงหลวงปู่ดาสบสให้พรเพราะๆครับ :cool:
     
  5. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    ท่านลาพุทธภูมิ เข้าสู่อรหันต์ภูมิคับ เพื่อเป็นกำลังใหญ่ให้ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันอยู่ได้ครบห้าพันปี เอาแค่นี้ก่อนละกันนะคับ ส่วนรายละเอียดลึกๆกว่านี้กล่าวในที่นี้คงไม่เหมาะ คุณต้องลองหาศึกษาเอาเองคับ
     
  6. คนไทในสโลวีเนีย

    คนไทในสโลวีเนีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +367
    คุณพ่อได้พาผมไปกราบหลวงพ่อเมื่อปีพศ.๒๕๒๘ ก่อนทีีจะไปสอบโควต้า เข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลวงพ่อได้ให้พรและบอกว่า...ผมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้แน่นอน...ได้กำลังใจก็เลยทำข้อสอบได้...น้ำเสียงของหลวงพ่อเย็นชุ่มใจและใสมากๆ...กราบหลวงพ่อ
    ครับ...
     
  7. พลังเมตตา

    พลังเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +150
    [​IMG]

    "พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

    "จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"

    ชอบมากครับ ค้นกระทู้มาให้ทุกท่านได้อ่านครับ
    กราบนอบน้อมแด่หลวงปู่ดาบส และหลวงพ่อพระราชพรหมยานครับ^^
     
  8. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา
    [​IMG]</O:p>
     
  9. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    คนเชียงรายนับถือท่านมากครับ เวลาว่างพ่อแม่มักจะพาไปกราบนมัสการท่านเสมอๆคับ
    คนที่เข้าไปให้ท่านช่วยก็เยอะ ท่านก็เข้ากุฏิแล้วกลับออกมาพร้อมวิธีแก้ไข เช่นขุดบ่อบาดารไม่ได้น้ำก็มาขอให้ท่านช่วย ท่านก็จะกรุณาบอกว่าให้เจาะตรงนั้นตรงนี้ วันที่จะเผาสังขารของท่านท้องฟ้าก็มีเสียงร้องดังคล้ายจะบอกว่าสิ้นแล้วพระอรหันต์ ทั้งๆที่เป็นเวลากลางวันและไม่มีเมฆฝน .... ท่านจะมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอเวลาไปพบท่านคราใดแม้ญาติมิตรจะเยอะเพียงไหน ท่านก็มักจะเมตตาแก่ทุกท่าน ....กราบนมัสการ พระคุณเจ้า....
     
  10. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    บทธรรมคำสอนหลวงปู่ดาบส
    กายของคนเรามีกายซ้อนกันอยู่ถึง๔กาย

    กายของคนเรานี้ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือว่าเป็นชาย ก็มีกายทั้ง๔ซ้อนกันอยู่ทั้งนั้น กายแรกคือสะรีระกาย หรือกายเนื้อเรียกว่าสะรีระกาย แล้วก็กายที่๒คือเทพกายหรือกายเทวดา กายที่๓คือพรหมกาย หรือกายพรหม กายที่๔คืออรหันตกาย หรือกายอรหันต์ ในกายของเราท่านทั้งหลายนี้ มีกายซ้อนกันอยู่ แต่โดยมากแล้ว คนเรามักจะไม่รู้ว่ากายของตัวนั้นมีอยู่๔กาย กายเนื้อเป็นกายที่ แก่ เจ็บ ตาย

    เป็นกายเน่า กายเปื่อย กายผุพัง กายเน่าเหม็น กายอันประกอบไปด้วย กองกระดูก คือปฎิสนธิในครรณ์ คลอดออกมาจากครรณ์ของมารดา แล้วเจริญขึ้นด้วยนม ข้าวสุกขนมสด เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงเรื่อยมา อันนี้เป็นกายเนื้อ กายเนื้อนี้เป็นกายหยาบ จึงว่าเป็นสะรีระกาย กายอันนี้ต้องเน่าเปื่อย เสื่อมสลายอยู่ในโลกนี้ กายที่๒เป็นกายทิพย์ หรือกายเทวดา หรือกายทิพย์อันนี้เป็นกายที่ไม่ตาย กายที่ไม่ตายอันนี้ก็ออกจากร่าง คือทิ้งร่างไปเมื่ิอกายตัวนอกมันหมดอายุ สิ้นอายุ หมดลมหายใจ กายตัวในอันเป็นกายทิพย์ก็ต้องละทิ้งร่างไป กายทิพย์ก็ไปปฎิสนธิใหม่ หรือไปถือเอาภพเอาชาติใหม่ ถ้าทำดีก็ไปถือเอาภพเอาชาติที่ดี มีความสุข ถ้าทำกรรมไว้ไม่ดีหรือมีจิตใจเศร้าหมอง ก็จะไปถือเอาภพเอาชาติที่พบกับทุกขเวทนามาก แม้จะเป็นกายทิพย์หรือกายเทวดา แต่ด้วยอำนาจจิตที่มืดดำ หรือด้วยอำนาจกรรมที่ทำไว้ ก็ไปถือเอาภพเอาชาติที่เลว หรืออบายภูมิ ส่วนกายที่๓คือกายพรหม กายพรหมนั้นก็คล้ายๆกับกายเทวดาเหมือนกัน กายอรหันต์หรือกายพระอริยะบุคล ก็อยู่รวมกันในกายทิพย์นั่นเอง ก็เพราะฉะนั้นในที่นี้พอจะย่อกายเข้ามาได้เป็น๓กาย ย่อลงมาเหลือเป็น๓กาย คือกายเนื้อ กายทิพย์ และกายพระอรหันต์หรือธรรมกาย ท่านผู้ฟังทั้งหลาย นี่ก็คือกายอันมีอยู่ในตัวคนเรานี้ซ้อนกันอยู่ แต่มนุษย์เราก็ใช้แต่ร่างกายที่เป็นมนุษย์ กายที่เป็นเทวดาก็เอามาใช้น้อย กายที่เป็นพรหมก็เอามาใช้น้อย กายที่เป็นพระอรหันต์ก็ไม่ได้เอามาใช้เสียเลย แต่ถ้าเราเอากายเทวดามาใช้ เอากายพรหมมาใช้ก็จะปรากฎ เป็นกายเทวดา เป็นกายพรหม เป็นกายพระอรหันต์ กายดีซึ่งไม่ปรากฎก็เพราะว่า คนเรามัวเมาอยู่ด้วยความโลภ ด้วยความโกรธ ด้วยความหลง กายที่เป็นกายเทวดาก็ไม่ปรากฎ เหมือนกับไม่มี ก็เพราะที่ว่าในกายของคนเรานี้ มีกายเทวดา มีกายพรหม มีกายพระอรหันต์ เกิดขึ้นเป็นไปตามลำดับขั้นของการปฎิบัติ เช่นกายเทวดาก็จะปรากฎเมื่อ คนเรามีหิริโอตัปปะ รู้จักละเว้นบาป รู้จักการทำบุญ รู้จักการไม่ประกอบกรรมอกุศล กายเทวดาก็จะปรากฎ ถ้าเจริญเมตตา ภาวนา มีเมตตา กรุณาต่อคนต่อสัตว์ทั้งหลาย กายพรหมก็จะปรากฎ ถ้าเป็นผู้ที่ปราศจาก โลภะ โทสะ โมหะ กายพระอรหันต์ก็จะปรากฎ กายอันมี๓กายซ้อนกันอยู่ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับต้นไม้ ชั้นนอกเป็นเปลือกไม้ ชั้นกลางเป็นกระพี้หรือเนื้อไม้ ชั้นในเป็นแก่นไม้ ต้นไม้มีแก่นอยู่ข้างใน มีกระพี้หุ้มห่อแก่นอยู่ แล้วก็มีเปลือกหุ้มห่อกระพี้อยู่อีกชั้นหนึ่ง แก่นนั้นแข็งที่สุดคือเป็นแก่นใน ท่านผู้ฟังทั้งหลายคนเราก็อย่างเดียวกันเหมือนกัน ถ้าจะเปรียบอีกอย่างหนึ่ง คนเรานี้เหมือนมีน้ำมันหรือเปรียบเหมือนมะพร้าว มะพร้าวนี้มีน้ำมันอยู่ในเนื้อมะพร้าวหรือในกาบในเปลือกมะพร้าว ที่เป็นมะพร้าวแก่ถ้าเราเอามาผ่าออกไป ก็จะเห็นเนื้อมะพร้าว แต่เนื้อมะพร้าวนั้นยังไม่ใช่น้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าวนั้นต้องเอาไปขูด เมื่อขูดแล้วก็เอาไปคั่นจึงจะได้กระทิ ส่วนเปลือกเมื่อทิ้งเสีย มันก็เปรียบเหมือนกายมนุษย์นั่นแหละ ส่วนกระทิก็เปรียบเหมือนกับกายทิพย์ แต่กายทิพย์นั้นก็มีกายธรรมหรืออรหันตกายซ้อนกันอยู่ มีลักษณะใสบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันใสสะอาด เราต้องเอาไปเคี่ยวอีกทีหนึ่ง ! จึงจะออกมาเป็นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันสุดท้ายนั่นแหละ หลังจากที่เราเอากระทิไปเคี่ยว มันก็จะปรากฎมาเป็นน้ำมันมะพร้าว ในขั้นสุดท้าย ฉันใดก็ดีกายในขั้นสุดท้ายก็จะปรากฎมาเป็นธรรมกาย หรือกายพระอรหันต์ คือกายที่สาม ก็สรุปได้ว่าการปฎิบัติธรรม เราจะถึงความเป็นเทวดา ถึงความเป็นพรหม ถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ด้วยการปฎิบัติ เจาะลึกเข้าไปด้วยการปฎิบัติของเรานี้แหละ หรือว่าคั่นเข้าไป เคี่ยวด้วยสติปัญญา พยายามปลดเปลื้อง จากตัญหาอุปาทาน ความยึดมั่นในสะรีระร่างกายเรานี้ออกไป กายทิพย์ก็จะปรากฎ แต่ถ้าหมดกิเลส กายพระอรหันต์ก็จะปรากฎ เพราะฉนั้นท่านผู้รู้จึงกล่าวว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...