พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ประกอบพระราชพิธี พสกนิกรทำบุญถวาย ร่วมจุดเทียนรำลึกร.9

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ 9 ครบรอบปีที่ 2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรที่พระลานพระราชวังดุสิตเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 จากนั้นช่วงเย็นนำจุดเทียนรำลึกที่ท้องสนามหลวง พร้อมพสกนิกรทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาชนรวมใจใส่เสื้อเหลืองร่วมพิธีรำลึกที่ศิริราช ท่ามกลางสายฝน พร้อมนั่งเจริญจิตตภาวนา เวลา 15.52 น. ซึ่งเป็นเวลาเสด็จสวรรคต

“พระเจ้าอยู่หัว”เสด็จฯพิธีรำลึก”ร.9”

เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 13 ต.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรี นารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เฝ้าฯรอรับเสด็จ

จากนั้นเสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ 89 รูป สวดพระพุทธมนต์จบแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ 89 รูป และพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จฯ กลับ

“นายกฯ”ร่วมทำบุญตักบาตร

เมื่อเวลา 06.15 น. ที่พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร 890 รูป เพื่อบำเพ็ญกุศลถวายเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม โดยมีคณะองคมนตรี ครม.และคู่สมรส ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประชาชน ร่วมพิธีพร้อมเพรียง

โดยทันทีที่มาถึง นายกฯสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ให้ศีล นายกฯถวายผ้าไตรจำนวน 10 ไตร และถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายกฯ นำครม. ข้าราชการ วางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทย

“ทบ.-ทอ.-ทร.”ตักบาตรพระ 89 รูป

เมื่อเวลา 06.39 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. ผู้แทนผบ.ทบ. เป็นประธานพร้อมด้วยคณะ ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลร่วมบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลครบรอบ 2 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป จากวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร ถวายเป็นพระราชกุศล ที่บริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 กองบัญชาการกองทัพบก จากนั้นกระทำพิธีสวดพระพุทธมนต์ โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 10 รูป จากวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร

เวลา 06.35 น. พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล รองผบ.ทร. เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จากวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหา วิหาร จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล บริเวณลานหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ที่ท้องพระโรง พระราชวังเดิม จากนั้นถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ และทอดผ้าไตร 10 ผืน

เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ รองผบ.ทอ. เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ มีพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวาย เป็นพระราชกุศลฯ และพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป โดยนิมนต์พระจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 79 รูป และวัดดอนเมือง 10 รูป โดยมีคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพลของกองทัพอากาศ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และสมาคมข้าราชการบำนาญทหารอากาศ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ประชาชนสวมเสื้อเหลืองร่วมงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.30 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวงเขตพระนคร กทม. ภายในงานบรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัยและชาวต่างชาติต่างตั้งใจ สวมใส่เสื้อสีเหลือง เพื่อเดินทางมาไว้อาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันครบรอบสวรรคต 2 ปี โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทั้งสำหรับป้องกันแดด ซุ้มพยาบาลจากร.พ. รามาธิบดี ร.พ.กรุงเทพ รวมถึงน้ำ อาหาร จากโรงครัวพระราชทาน และยาดม ยาหม่อง สำหรับผู้สูงอายุด้วย

นอกจากนี้ยังมีประชาชนจิตอาสาหน่วยงานตำรวจ หน่วยงานราชการ หลายหน่วยงานมาช่วยดูแล มีการจัดเต็นท์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางเข้ามารอ เพื่อเข้าร่วมพิธีถวายบังคมและจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเวลา 19.00 น.ด้วย

นางรสลิน มณีอินทร์ อายุ 64 ปี ชาวบ้าน จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนเป็นคนจ.สุพรรณบุรี แต่มาอาศัยอยู่กับครอบครัวแถวหนองแขม ตั้งใจเดินทางมารอเข้าร่วมพิธีถวายบังคมและจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนอายุ 10 ปี ตนมีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขณะนั้นพระองค์เสด็จฯมากราบไหว้พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ ที่วัดประดู่ฉิมพลี ตอนนั้นตนเห็นทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิด รู้สึกปลาบปลื้มและดีใจอย่างมากที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ตนเชื่อว่า แม้จะผ่านไปแล้วถึง 2 ปี แต่ชาวไทยทุกคนล้วนคิดถึงพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก

พสกนิกรร่วมจุดเทียนน้อมรำลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง ฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ยังมีประชาชนยังคงเดินทางมาบริเวณท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนักมีจิตอาสา หน่วยงานตำรวจ หน่วยงานราชการ ยังคงดูแลบริเวณรอบท้องสนามหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่กำลังจะเดินทางมาเข้าร่วม “พิธีถวายบังคมและจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ในเวลา 19.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองมาร่วมงาน

“นายกฯ”นำจุดเทียนน้อมรำลึก

เมื่อเวลา 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานพิธีถวายบังคมและจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรี พร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือนและประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

นายกรัฐมนตรีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ใจความว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง ณ ที่แห่งนี้ ล้วนมีจิตใจตั้งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้

ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ ตั้งแต่พุทธศักราช 2489 ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อพุทธศักราช 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงดำรงมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม และทรงยึดมั่นในพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” อีกทั้งทรงพระวิริยอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ หยาดพระเสโทจากการที่พระองค์ทรงทุ่มเท พระวรกายเพื่อประชาชนเปรียบเสมือนหยาดน้ำทิพย์ที่ชโลมผืนแผ่นดินและจิตใจของพสกนิกรให้ได้รับความร่มเย็น ตลอดจนทุกคราที่ชาติบ้านเมืองประสบความทุกข์ยากจากวิกฤตภัยต่างๆ พระองค์ได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานแนวทาง เพื่อคลี่คลายขจัดปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นำความผาสุกมาสู่ประเทศและอาณาประชาราษฎร์โดยถ้วนหน้า

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กว่า 4,000 โครงการล้วนเป็นการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้พสกนิกรชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตด้วยความผาสุกมั่นคงในทุกสถานการณ์ของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนตระหนักถึงการทำหน้าที่บนหลักของการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ นับเป็นแนวทางสำคัญที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายยึดถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่เสมอมา

แม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรจะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่โครงการตามพระราชดำริน้อยใหญ่ยังคงผลิดอกออกผลและให้ความร่มเย็น พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสในโอกาสต่างๆ ยังคงเปรียบดุจดังแสงสว่างที่คอยชี้นำแนวทางในการดำรงชีวิตแก่ปวงพสกนิกร และจะยังคงสถิตในดวงใจของเหล่าปวงชนชาวไทยสืบไป

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี จะยึดมั่นในการปฏิบัติดี รักษาชาติบ้านเมือง และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนตลอดไป

โอกาสนี้ขอให้ผู้ที่ชุมนุมร่วมกัน ณ สถานที่แห่งนี้และสถานที่ต่างๆ พร้อมใจกันจุดเทียนและยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

จากนั้นนายกฯและภริยารับมอบโคมเทียนพร้อมยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นเวลา 89 วินาที ต่อด้วย ชมวีดิทัศน์ประกอบเพลง “พระผู้ทรงเป็น นิรันดร์” ก่อนเสร็จสิ้นพิธี

“ศิริราช”ทำบุญตักบาตร

ส่วนที่ร.พ.ศิริราช เมื่อเวลา 06.00 น. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “ศิระกราน พระภูบาล นวมินทร์” ในวาระครบ 2 ปี การเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเริ่มจากพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป (ข้าวสาร อาหารแห้ง) จุดที่ 1 พระสงฆ์ 50 รูป จากหน้าพลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรณีย์ ขึ้นสะพานอรุณอมรินทร์ สู่สี่แยกศิริราชรวมกับจุดที่ 2 พระสงฆ์ 49 รูป จากสี่แยกศิริราชผ่านถนนวังหลังเข้าประตู 8 ผ่านถนนบวรสถานพิมุข สู่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก



โดยมีประชาชนสวมเสื้อสีเหลือง เตรียมข้าวสารอาหารแห้งเดินทางมาตั้งแถวรอใส่บาตรตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยมีศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้นำบุคลากรทางการแพทย์ภายในร.พ.ศิริราช และประชาชนใส่บาตร จากนั้นเวลา 07.30 น. มีพิธีสวดพระพุทธมนต์และสดับปกรณ์ พิธีถวายสักการะ กล่าวสดุดีเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ผู้ร่วมพิธียืนสงบนิ่ง 89 วินาที ที่ลานพระราชานุสาวรีย์ฯ

จากนั้นเวลา 10.00 น. มีพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ห้องจุฬาภรณ์ ตึกสยามินทร์ ชั้น 2

ต่อมาเวลา 12.00 น. มีการฉายภาพยนตร์เทิดพระเกียรติสร้างแรงบันดาลใจ เรื่อง “ของขวัญ” ได้แก่ The Letter โดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว, ดอกไม้ในกองขยะ โดยนนทรีย์ นิมิบุตร, สัจจะธรณี โดยก้องเกียรติ โขมศิริ, เมฆฝนบนป่าเหนือ โดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล จากจอภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ทั่วบริเวณโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งประชาชนนั่งชมจำนวนมาก

เวลา 14.45 น. มีพิธีสวดพระพุทธมนต์อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

นั่งเจริญภาวนาเวลา 15.52 น.

ต่อมาเวลา 15.52 น. ซึ่งเป็นเวลาที่พระองค์เสด็จสวรรคต ที่โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนจำนวนมากซึ่งสวมเสื้อเหลืองร่วมเจริญจิตตภาวนาโดยพร้อมเพรียงกัน แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม แต่ทุกคนก็ยังคง นั่งร่วมเจริญจิตตภาวนาด้วยความสงบนิ่ง บางคนร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นที่เหนือตึกศรีสังวาลย์ตามเดิมจะมีการแสดงภาพประติ มากรรมแสงเงา โดย ดร.บุรินทร์ ธราวิจิตรกุล, ผศ.กานต์ คำแก้ว และ ผศ.ดร.ยุทธนา ทองท้วม แต่เนื่องจากก่อนหน้าเกิดฝนตกหนัก ทำให้ไม่มีแสงแดด จึงไม่สามารถแสดงประติมากรรมแสงและเงาได้ตามกำหนดการ

จากนั้นเวลา 16.30 น. ที่ลานพระราชา นุสาวรีย์ฯ มีพิธีศิระกราน พระภูบาลนวมินทร์ พิธีถวายสักการะอันทรงเกียรติที่เกิดจากหัวใจของบุคลากรศิริราช และพสกนิกร

เวลา 17.30 น. มีการโชว์การบรรเลงดนตรีและขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ และบทเพลงที่น้อมรำลึกฯ โดยวงดุริยางค์ราชนาวี ร่วมด้วยนักร้องกิตติมศักดิ์ ได้แก่ จินตนา สุขสถิตย์, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส, จิตติมา เจือใจ, อุมาพร บัวพึ่ง, วินัย พันธุรักษ์, ทิพวัลย์ ปิ่นภิบาล, น้ำตาล น้ำเพชร, โฉมฉาย อรุณฉาน, สันติ ลุนเผ่, และ นักร้องประสานเสียงศิริราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันมีประชาชนจำนวนมากต่างสวมใส่เสื้อสีเหลืองทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่ทั่วบริเวณโรงพยาบาลศิริราชเพื่อรอร่วมพิธีจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

กระทั่งเวลา 19.30 น. มีการจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมกับพิธีที่ท้องสนามหลวง จากนั้นร่วมกันร้องเพลงขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป เสียงดังกึกก้องทั่วบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เสร็จแล้วมีการแสดงแสงสีสื่อผสม”ชุดความฝันของพ่อ”

“สังฆราช”ทรงบำเพ็ญพระกุศล

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ต.ค. สมเด็จพระ อริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตเป็นปีที่ 2

การนี้ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามจัดพิธีตักบาตรอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลในช่วงเช้า

จากนั้นเวลา 17.00 น. คณะสงฆ์วัดราชบพิธฯร่วมกับสาธุชน สวดพระพุทธมนต์อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล ที่พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมากราบพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โดยทางวัดเปิดให้เข้าไปกราบได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น.

เชียงใหม่ร่วมน้อมรำลึกร.9

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในต่างจังหวัดทั่วประเทศพร้อมใจกันประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และชาวเชียงใหม่ ซึ่งสวมเสื้อสีเหลืองประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกร ชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้

จากนั้นเวลา 18.30 น. มีพิธีถวายบังคมและจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณ ที่ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนม พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่

ผู้ว่าฯโคราชนำทำบุญตักบาตร

เวลา 07.00 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนทุกหมู่เหล่าในพื้นที่จ.นครราชสีมาร่วมกัน จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯนครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนกว่า 3,000 คนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ ร่วมกันประกอบพิธี โดยนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และทอดผ้ามหาบังสุกุล จากนั้น ผู้ว่าฯนครราชสีมานำประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 89 รูป เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย

ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. มีพิธีสวดมนต์เจริญจิตตภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ที่พระอุโบสถวัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส่วนต่างอำเภอ ทั้ง 32 อำเภอมีการจัดสถานที่ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เช่นกัน

“ประจวบ”จัดนิทรรศการรำลึกร.9

ส่วนที่บริเวณชายหาดบ้านกรูด อ.บาง สะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการจัดนิทรรศ การเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม ในชื่อนิทรรศการ “รูปที่มีทุกบ้าน” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่บริเวณชายหาดบ้านกรูด ด้านหน้าศูนย์ ท่องเที่ยวบ้านกรูด โดยมีประชาชนชาว อ.บาง สะพานและนักท่องเที่ยวจำนวนมากทยอยเข้าชมนิทรรศการบนชายหาดเกือบ 500 ภาพ พร้อมมุมพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาเรือใบกันอย่างต่อเนื่อง

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุจินต์ ไชย ชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมมูลนิธิพระคชบาล สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาคมอยุธยารวมใจ ประชาชนชาวพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิพระมงคลบพิตร สวมใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมด้วยช้างจากวังช้างอยุธยา แลเพนียดจำนวน 10 เชือกแต่งกายจัดริ้วขบวนตามแบบโบราณ เชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 เดิน เทิดพระเกียรติจากศาลหลักเมือง ไปตามถนนศรีสรรเพชญ ไปยังวิหารพระมงคลบพิตร

ปัตตานี-สงขลาจัดทำบุญตักบาตร

ส่วนที่จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 06.00 น. นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าฯปัตตานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป ที่บริเวณอาคารโดมโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล เพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

จากนั้นร่วมวางพวงมาลาและถวายบังคม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี จากนั้นเวลา 18.30 น. ร่วมจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณา ธิคุณของพระองค์ ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี

ส่วนที่บริเวณสี่แยกพระพุทธศรีสงขลานครินทร์ จ.สงขลา นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าฯสงขลา นำส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันคล้าย วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา โดยผู้เข้าร่วมพิธีพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อโทนสีเหลืองและร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1686843