พระแก้วคู่บารมีพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Wisdom, 23 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีพระแก้วประจำองค์
    และมีได้ตั้งแต่ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่และจะปรากฎชัดขึ้น
    ตามความเข้มข้นของบารมีที่สร้าง
    ยุคพระศรีก็จะมีพระแก้วแดงทำจากทับทิมแดง
    (คล้ายพระพุทธรูปในภาพเหตุที่ใช้ว่า "คล้าย" เพราะองค์จริงงดงามกว่ามาก)​

    ส่วนพระแก้วขององค์ปฐมนั้นจะเป็นองค์สีขาว ​

    ยกตัวอย่างพระแก้วคู่บารมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้

    [​IMG]

    1. พระกกุสันธพุทธเจ้า หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์
    เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า เมื่อสมัย เป็นพระโพธิสัตว์
    หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์

    เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 40,000 พรรษา
    พระสรีระสูง 40 ศอก หรือ 20 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 10 เดือน
    พุทธรังสีสร้านไปไกล 10 โยชน์ (160 กิโลเมตร)
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วขาว หน้าตักกว้าง 20 วา

    2. พระโกนาคมพุทธเจ้า
    หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
    เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์

    เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 30,000 พรรษา
    พระสรีระสูง 30 ศอก หรือ 15 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 1 เดือน
    พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วเหลือง หน้าตักกว้าง 15 วา

    3. พระกัสสปพุทธเจ้า
    หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
    เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,024 พระองค์
    เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 20,000 พรรษา
    พระสรีระสูง 20 ศอก หรือ 10 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
    พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วน้ำเงิน หน้าตักกว้าง 10 วา

    4. พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า
    หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
    เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 4 องไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีก 24 พระองค์ ซึ่งน้อยมาก
    เป็นปัญญาพุทธเจ้า อายุไขย 80 พรรษา
    พระสรีระสูง 4 ศอก หรือ 2 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 6 ปี
    พุทธรังสีสร้านไปข้างละ 1 วา เป็นปกติ
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วเขียว(เขียวมรกต) หน้าตักกว้าง 5 วา

    5. พระอริยเมตตรัยพุทธเจ้า
    หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
    เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 16 อสงไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 477,029 พระองค์
    เป็นวิริยะพุทธเจ้า อายุไขย 80,000 พรรษา
    พระสรีระสูง 80 ศอก หรือ 40 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
    พุทธรังสีสร้านไปไกล ยังกำหนดไม่ได้
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วแดง และทรงเครื่องบรมหาจักรพรรดิ
    หน้าตักกว้าง 20 วา

    พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีพระแก้วประจำองค์
    และมีได้ตั้งแต่ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่และจะปรากฎชัดขึ้น
    ตามความเข้มข้นของบารมีที่สร้าง
    ยุคพระศรีก็จะมีพระแก้วแดงทำจากทับทิมแดง
    ปัจจุบันนี้ประดิษฐานเตรียมไว้แล้ว ณ ภูมิทิพย์
    ซึ่งซ้อนอยู่กับ สถานที่แห่งหนึง
    และพระแก้วแดงจะปรากฎออกมา เมื่อถึงยุคพระศรี
    พระแก้วคู่บารมีของพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันก็คือพระแก้วมรกต
    ส่วนพระแก้วคู่บารมีของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
    เป็นพุทธนิมิตอยู่ที่พระนิพพานคู่วิมานพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์​


    วันหนึ่งหลวงปู่ดู่ได้เล่าถึงการปฏิบัติครั้งคุมสมาธิศิษย์
    ยกใจความมาตอนหนึงว่า

    วันหนึ่งหลวงพ่อได้เล่าถึงการปฏิบัติ โดยท่านเป็นผู้บอกว่า “เมื่อไปถึงวิมานแก้วได้แล้ว เป็นวิมานแก้วของพระพุทธเจ้าก็เหมือนกุฏิของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ก็มีวิมานพระธรรม อยู่ไปทางขวามือของพระพุทธเจ้ามีตู้พระไตรปิฎกอยู่หลายตู้ เขียนเป็นภาษาบาลีอักษรขอม ถ้าอยากรู้แปลว่าอะไรให้ถามหลวงปู่ทวด ซ้ายมือเป็นวิมานของพระสงฆ์ มีพระสงฆ์อยู่พระพุทธเจ้าเป็นประธาน แกเดินจิตให้ดีจากวิมานแก้วจะไปถึงพระพุทธรูป 4 องค์ของกัปป์นี้ มีลักษณะหน้าตักกว้างไม่เท่ากันตามบารมี องค์แรกเป็นของพระกกุสันโธมีหน้าตักกว้าง 20 วา องค์ที่สองพระโกนาคม หน้าตัก 15 วา องค์ที่สาม ของพระกัสสปหน้าตัก 10 วา องค์ที่สี่ หน้าตัก 5 วา ถ้าเป็นพระศรีอริย์องค์ที่ห้า ยังไม่ปรากฎถ้าอธิษฐาน ขอดูจะพบว่ามีหน้าตักเท่ากับองค์แรก เพราะท่านสร้างบารมีมาถึง 16 อสงไขยกับแสนมหากัปป์"

    ที่มา: พระแก้วคู่บารมีพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มีนาคม 2012
  2. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขอบพระคุณครับที่นำบทความดี ๆ มาให้อ่านกัน ขออนุโมทนาด้วย..........
     
  3. yenpat

    yenpat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +168
    พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า
    หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
    เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 4 องไขยแสนกัป
    ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีก 24 พระองค์ ซึ่งน้อยมาก
    เป็นปัญญาพุทธเจ้า อายุไขย 80 พรรษา
    พระสรีระสูง 4 ศอก หรือ 2 เมตร
    บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 6 ปี
    พุทธรังสีสร้านไปข้างละ 1 วา เป็นปกติ
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วเขียว(เขียวมรกต) หน้าตักกว้าง 5 วา

    ที่ว่าได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีก 24 พระองค์ ซึ่งน้อยมาก นี้คือ ท่านได้รับการพยากรรึป่าวครับ ท่านก็สร้างมาก่อนหน้านั้นแล้วไม่ใช่เหรอครับ เวลาตั้ง 4 อสงไขย ถือว่านานมากนะครับ ท่านน่าจะสร้างมาก่อนนั้นแล้วนะครับ

    เป็นเพียงดุลพินิจครับ
     
  4. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    จำนวนดังกล่าวที่ว่ามานี้นับเฉพาะตั้งแต่ท่านได้รับพยากรณ์ครั้งแรก
    สมัยครั้งที่ท่านเสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบส และได้รับพยากรณ์จาก
    พระพุทธเจ้านามว่า พระทีปังกร แต่ก่อนหน้าที่ีท่านจะได้รับพุทธพยากรณ์
    ครั้งแรกนั้น ท่านก็ได้สร้างบารมีมาก่อนหน้านั้นเป็นเวลาอันยาวนาน

    พระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วหลายพระองค์ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน อุปมาว่าจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วมีจำนวนมากกว่าเม็ด ทรายในมหาสมุทรทั้งสี่ พระพุทธเจ้าทรงแนะว่าไม่ควรคิดถึงเรื่องของพระพุทธเจ้า เพราะเป็นอจินไตย (แปลว่า เป็นเรื่องที่มนุษย์ปุถุชนอย่างเราไม่ควรคิดเพราะเป็นเรื่องที่ลึกลำเหนือ จินตนาการของมนุษย์)

    พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ
    จนครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัป

    สมัยหนึ่ง พระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาที่จะเป็น พระพุทธเจ้า ทั้งหลายควรใช้เวลานานเท่าไร พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุด ๒๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนด ปานกลาง ๔๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนดอย่างสูง ๘๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป ทั้ง ๓ ประเภทนั้น คือ พระพุทธเจ้าผู้เป็นปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ "
    อาจมีผู้สงสัยว่า ทำไมต้องกำหนดเวลานานอย่างนั้นด้วย ถ้าเร่งสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เพียงไม่กี่ล้านชาติ ก็น่าจะสามารถตรัสรู้ธรรมได้ เหมือนกับถ้าขยันเรียนหรือขยันทำงาน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่อันที่จริงการจะเป็น พระพุทธเจ้าไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิด พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้บุคคลจะถวายมหาทาน เหมือนกับมหาทาน ของพระเวสสันดรทุกๆ วันก็ดี สั่งสมบารมีธรรม มีศีล เป็นต้น เพื่อมุ่งสัพพัญญุตญาณก็ดี หากยังไม่ถึง ๒๐ อสงไขย ๑๐๐,๐๐๐ กัปแล้ว ยังไม่อาจเป็นพระพุทธเจ้าได้ เพราะญาณยังไม่แก่รอบ ยังไม่ถึงความไพบูลย์ เปรียบเหมือนข้าวกล้าจะออกรวงได้ ต้องใช้เวลา ๔ หรือ ๕ เดือน แม้จะขยันรดน้ำวันละ ๑๐๐,๐๐๐ ครั้ง ทุกๆ วัน ก็ยังไม่อาจออกรวงภายใน ๑ เดือน ฉันใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปตามกาลเวลาที่เหมาะสม ฉันนั้น

    ระยะเวลากว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    จากตัวอย่างของพระโคดมพุทธเจ้า นับแต่เริ่มสร้างบารมี โดยได้พบและอธิษฐานในใจต่อเบื้อง พระพักตร์ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก จนกระทั่งได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีระยะเวลาอันยาวนานและ ได้พบพระพุทธเจ้า เป็นจำนวนมากมายดังต่อไปนี้

    ช่วงคิดในใจ ๗ อสงไขย พบพระพุทธเจ้า ๑๒๕,๐๐๐ พระองค์

    ๑. นันทอสงไขย พบ ๕,๐๐๐ พระองค์
    ๒. สุนันทอสงไขย พบ ๙,๐๐๐ พระองค์
    ๓. ปฐวีอสงไขย พบ ๑๐,๐๐๐ พระองค์
    ๔. มัณทอสงไขย พบ ๑๑,๐๐๐ พระองค์
    ๕. ธรณีอสงไขย พบ ๒๐,๐๐๐ พระองค์
    ๖. สาครอสงไขย พบ ๓๐,๐๐๐ พระองค์
    ๗. ปุณฑริกอสงไขย พบ ๔๐,๐๐๐ พระองค์

    ช่วงเปล่งวาจา ๙ อสงไขย พบพระพุทธเจ้า ๓๘๗,๐๐๐ พระองค์

    ๘. สัพพถัททอสงไขย พบ ๕๐,๐๐๐ พระองค์
    ๙. สัพพผุลลอสงไขย พบ ๖๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๐. สัพพรตนอสงไขย พบ ๗๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๑. อสุภขันธอสงไขย พบ ๘๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๒. มานีภัททอสงไขย พบ ๙๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๓. ปทุมอสงไขย พบ ๒๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๔. อุสภอสงไขย พบ ๑๐,๐๐๐ พระองค์
    ๑๕. ขันธคมอสงไขย พบ ๕,๐๐๐ พระองค์
    ๑๖. สัพพผาลอสงไขย พบ ๒,๐๐๐ พระองค์

    ช่วงได้รับพุทธพยากรณ์ ๔ อสงไขย แสน มหากัป พบพระพุทธเจ้า ๒๗ พระองค์ มีพระนามดังต่อไปนี้

    อสงไขยที่ ๑๗ เป็นสารมัณฑกัป พบ ๔ พระองค์ ได้แก่ พระตัณหังกรพุทธเจ้า พระเมธังกร พุทธเจ้า พระสรณังกรพุทธเจ้า พระทีปังกรพุทธเจ้า (ได้รับพุทธพยากรณ์เป็นนิยตโพธิสัตว์)

    อสงไขยที่ ๑๘ เป็นสารกัป พบ ๑ พระองค์
    คือ พระโกณฑัญญพุทธเจ้า

    อสงไขยที่ ๑๙ เป็นสารมัณฑกัป พบ ๔ พระองค์ ซึ่งได้แก่ พระสุมังคลพุทธเจ้า พระสุมนพุทธเจ้า พระเรวตพุทธเจ้า พระโสภิตพุทธเจ้า

    อสงไขยที่ ๒๐ เป็นวรกัป พบ ๓ พระองค์ ได้แก่ พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า พระปทุมพุทธเจ้า พระนารท- พุทธเจ้า

    ช่วงเศษแสนกัปของอสงไขยที่ ๒๐

    สารกัป พบ ๑ พระองค์ คือ พระปทุมุตร- พุทธเจ้า (พระสาวกส่วนใหญ่เริ่มได้รับพุทธพยากรณ์)

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๓๐,๐๐๐ กัป

    มัณฑกัป พบ ๒ พระองค์ คือ พระสุเมธ
    พุทธเจ้าและพระสุชาตพุทธเจ้า

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๖๐,๐๐๐ กัป

    วรกัป พบ ๓ พระองค์ คือ พระปิยทัสสีพุทธเจ้า
    พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า พระธรรมทัสสีพุทธเจ้า

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๒๔ กัป

    สารกัป พบ ๑ พระองค์ คือ พระสิทธัตถพุทธเจ้า

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๑ กัป

    มัณฑกัป พบ ๒ พระองค์ คือ พระติสสพุทธเจ้า พระปุสสพุทธเจ้า

    สารกัป พบ ๑ พระองค์ คือ พระวิปัสสีพุทธเจ้า

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๖๐ กัป

    มัณฑกัป พบ ๒ พระองค์ คือ พระสิขีพุทธเจ้า พระเวสสภูพุทธเจ้า

    สุญญกัป ว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าไป ๓๐ กัป

    ภัทรกัป มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ คือ

    ๑. พระกกุสันธพุทธเจ้า
    ๒. พระโกนาคมนพุทธเจ้า
    ๓. พระกัสสปพุทธเจ้า
    ๔. พระสมณโคดมพุทธเจ้า
    ๕. พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า

    จะเห็นได้ว่าหลังจากได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นตนมา พระบรมโพธิสัตว์ ไดพบพระพุทธเจ้าถึง ๒๓ พระองค์ กว่าจะได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้

    ยอดนักสร้างบารมีทั้งหลาย...การสร้างบารมีชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันของพระบรมโพธิสัตว์เพื่อ การได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณนั้น ต้องใช้เวลายาว นานเหลือเกิน แต่ก็ไม่เกินใจที่ท่านจะไปถึง และท่าน ก็ทำได้สำเร็จอีกด้วย ยิ่งถ้าหากเราได้ศึกษาวีรกรรม แห่งความดีระหว่างการสร้างบารมีของพระองค์จะยิ่งซาบซึ้งหนักขึ้นไปอีก เพียงเท่านี้ ก็นับเป็นบุคคล มหัศจรรย์ที่สุดในโลกแล้ว ดังนั้น วันวิสาขบูชาจึง สมควรแล้วที่องค์การสหประชาชาติจัดให้เป็น วันสำคัญสากลโลก ชาวพุทธทุกคนจึงควรจะเจริญพุทธานุสติ รำลึกนึกถึงพระพุทธคุณอันไม่มีประมาณ ทั้งพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระกรุณาธิคุณ แล้วหาโอกาสแสดงออกถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพุทธคุณทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา เข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติตนให้สมกับเป็นพุทธมามกะ อานิสงส์นี้จะได้หนุนส่งให้ทานทั้งหลายได้เกิดใน บวรพุทธศาสนาไปทุก ภพทุกชาติ ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม...

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เอกบุรุษเมื่ออุบัติขึ้นในโลก ย่อมอุบัติขึ้นเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนหมู่มาก เพื่อความอนุเคราะห์ ชาวโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เอกบุรุษคือใคร คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"
     
  5. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    อสงไขย คือ การบอกจำนวนหรือปริมาณทั่วๆ ไปที่ไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นหน่วยของอะไร, เช่น หากใช้ระบุปริมาณเมล็ดถั่ว ก็ใช้ว่า มีถั่วเป็นจำนวน 1 อสงไขยเมล็ด เป็นต้น. แต่ในพระพุทธศาสนามักจะใช้กล่าวถึง ระยะเวลาที่พระโพธิสัตว์สร้างสมบารมีมาเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า โดยนับหน่วยเวลาเป็นอสงไขยกัป. อสงไขยเป็นปริมาณหรือจำนวนที่มีการกำหนดที่นับประมาณมิได้ ซึ่งมีอุปมาเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ฝนตกใหญ่อย่างมโหฬารทั้งวันทั้งคืน เป็นเวลานานถึง 3 ปี ไม่ได้ขาดสายเลย จนกระทั่งน้ำฝนท่วมเต็มขอบจักรวาล ซึ่งมีระดับความสูง 84,000 โยชน์ หากว่ามีใครสามารถนับเม็ดฝนที่ตกลงมาตลอดทั้ง 3 ปีได้ นับได้เท่าไร นั่นคือจำนวนเม็ดฝน 1 อสงไขย.
    อนึ่ง คำว่า อสงไขย นั้น มาจากภาษาบาลี ว่า อ + สงฺเขยฺย (สันสกฤต : อ + สํขฺย) หมายถึง นับไม่ได้ หรือนับไม่ถ้วน นั่นเอง พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542ระบุจำนวน ของอสงไขย ไว้ว่า เท่ากับ โกฏิ ยกกำลัง 20



    การคำนวณความยาวนาน

    สมมุติมีกล่องใบหนึ่ง กว้าง 100 โยชน์ ยาว 100โยชน์ และ สูง 100 โยชน์ ในเวลา 100 ปี ให้เอาเมล็ดผักกาด 1 เมล็ด ใส่ลงไปในกล่องนั้น ทำอย่างนี้จนเมล็ดผักกาดนั้นเต็มเสมอเรียบปากกล่อง นั้นละจึงเท่ากับ 1 กัป
    (บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์) วิเคราะห์คำนวณ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร ดังนั้นกล่องใบนี้มีปริมาตร = 1600X1600X1600 = 4,096,000,000 ลูกบาศก์กิโลเมตร ประมานว่า เมล็ดผักกาด มีขนาด .5 มิลลิเมตร 1 กิโลเมตรเทียบเป็นมิลลิเมตรได้ดังนี้ 10X100X1000 = 1,000,000 มิลลิเมตรจะได้ 1 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1,000,000)/0.5 = 2,000,000 เมล็ด
    ดังนั้น 1600 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1600X2,000,000 = 3,200,000,000) เมล็ด ถ้าเป็นปริมาตร คือ (กว้าง x ยาว x สูง) ต้องใช้เมล็ดผักกาดทั้งหมด คือ (3,200,000,000X3,200,000,000X3,200,000,000 = 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000 เมล็ด)
    ใน 100 ปี ใส่เมล็ดผักเพียง 1 เมล็ด ดังนั้นต้องใช้เวลาทั้งหมดคือ 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000X100 =3,276,800,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี
    จึงได้เวลา 1 กัป ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปีประมาณ 3.3 X 10 ยกกำลัง 30 ปี
    1 อสงไขยมีกี่ปีนั้นเป็นจำนวนที่แน่นอน คือ 1 ตามด้วยเลข 0 จำนวน 140 ตัว หรือ 1 X 10 ยกกำลัง140 ปี
    วิธีนับอสงไขย



    การนับอสงไขยให้เทียบเอาดังนี้
    สิบ สิบหน เป็น หนึ่งร้อย
    สิบร้อย เป็น หนึ่งพัน
    สิบพัน เป็นหนึ่งหมื่น
    สิบหมื่น เป็น หนึ่งแสน
    ร้อยแสน เป็นหนึ่งโกฏิ
    ร้อยแสนโกฏิ เป็น หนี่งปโกฏิ
    ร้อยแสนปโกฏิ เป็น หนึ่งโกฏิปโกฏิ
    ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น หนึ่งนหุต
    ร้อยแสนนหุต เป็น หนึ่งนินนหุต
    ร้อยแสนนินนหุต เป็น หนึ่งอักโขเภนี
    ร้อยแสนอักโขเภนี เป็น หนึ่งพินทุ
    ร้อยแสนพินทุ เป็น หนึ่งอพุทะ
    ร้อยแสนอพุทะ เป็น หนึ่งนิระพุทะ
    ร้อยแสนนิระพุทะ เป็น หนึ่งอหหะ
    ร้อยแสนอหหะ เป็น หนึ่งอพพะ
    ร้อยแสนอพพะ เป็น หนึ่งอฏฏะ
    ร้อยแสนอฏฏะ เป็น หนึ่งโสคันธิกะ
    ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น หนึ่งอุปละ
    ร้อยแสนอุปละ เป็น หนึ่งกมุทะ
    ร้อยแสนกมุทะ เป็น ปทุมะ
    ร้อยแสนปทุมะ เป็น หนึ่งปุณฑริกะ
    ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็นหนึ่งอกถาน
    ร้อยแสนอกถาน เป็น หนึ่งมหากถาน
    ร้อยแสนมหากถาน เป็น หนึ่งอสงไขย
    จำนวนอสงไขย



    อสงไขย มี 7 อสงไขย คือ
    นันทอสงไขย
    สุนันทอสงไขย
    ปฐวีอสงไขย
    มัณฑอสงไขย
    ธรณีอสงไขย
    สาครอสงไขย
    บุณฑริกอสงไขย

    อ้างอิง
    พระคัมภรีอนาคตวงศ์
     
  6. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    แนะนำอ่านกระทู้ต่างๆต่อไปนี้เพิ่มเติม เป็นความรู้เสริมสำหรับผู้สนใจนะครับ

    พระอดีตวงศ์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้มาตรัสรู้ในอดีตกาล
    http://palungjit.org/threads/พระอดีตวงศ์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้มาตรัสรู้ในอดีตกาล.76066/

    พระอนาคตวงศ์ 10 พระองค์
    http://palungjit.org/threads/พระอนาคตวงศ์-10-พระองค์.110586/

    ธรรมรักษา
     
  7. poopenๆ

    poopenๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +86
    ทฤษฎีมากไม่ค่อยจะเข้าใจนักหรอก..
    สงสัยแค่เพียง ทำไมอายุขัยของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันถึงได้น้อยกว่าพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆมากมายขนาดนั้น
     
  8. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    ถาม : พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ กับวิริยาธิกะ มีความสามารถต่างกันอย่างไรครับ ?

    ตอบ : ต่างกัน อย่างปัญญาธิกะบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารของท่านก็จะมีดี มีชั่ว มีรวย มีจน มีสวยงาม มีอัปลักษณ์ ปะปนกัน ถ้าหากว่าศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารของท่านจะดี รวย สวย เสมอกันหมด เขตที่ท่านประกาศศาสนาคนชั่วจะเข้าไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัป นอกจากบริวารจะดี รวย สวย เสมอกันหมดแล้ว โลกยุคนั้นคนชั่วไม่ได้เกิด ตกลงที่ท่านต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นเขาเป็นเท่าตัวไป เหนื่อยเพื่อบริวารของตัวเอง แต่ว่าสิ่งที่ท่านทำก็จะทำให้บุญญาบารมีท่านมากกว่าองค์อื่นที่ทำมาน้อยกว่า ถ้าหากว่าอยู่ข้างบนพระวรกายของท่านจะใหญ่โตกว่าเขา
     
  9. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ จะลงมาเกิดในช่วงคนอายุ 100-5,000 ปีซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์มีความยากลำบากมีทุกข์จากการที่ต้องทำมาหากิน มีเดียรถีความคิดแตกต่างหลากหลาย ต้องเป็นพระพุทธเจ้าที่มีความสามารถอย่างยิ่งจึงจะโปรดคนในยุคนี้ได้ พระพุทธเจ้าศรัทธาธิกะ จะลงมาเกิดในช่วงคนอายุ 10,000-40,000 ปี พระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ จะลงมาเกิดในช่วงคนอายุ 50,000-100,000 ปี โลกตอนนั้นมีแต่ความสุข ไม่ต้องทำมาหากิน โภชนาอาหารเกิดขึ้นเอง อุดมสมบูรณ์

    ธรรมรักษา
     
  10. suttatika

    suttatika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +258
    โมทนาสาธุอย่างสูงครับ.... แม้เพียงเวลานี้หากได้"เห็นธรรม" ก็คือได้พบ"พระพุทธองค์" เหมือนกันไม่เสียชาติเกิดดั่งคำกล่าว"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต".....
     
  11. poopenๆ

    poopenๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +86
    ขอบคุณมากครับ แต่ด้วยความทึบปัญญาของข้าพเจ้า จึงขอรู้แค่ลมหายใจเข้าออกเป็นพอดีกว่าครับ แหะๆๆ
     
  12. yenpat

    yenpat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +168
    โมทนาสาธุๆๆๆ นับว่าพระคุณของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์นั้น สุดจะประมาณหามิได้ สาธุๆๆๆๆๆ
     
  13. beauty cosme'

    beauty cosme' สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
    ข้าพเจ้าจะพยายามทำให้ได้อย่างท่านผู้รู้ครับ
    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำความดีต่อไป ^^
     
  14. BADDOGGG

    BADDOGGG สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    หลวงปู่ดู่นี้ท่านจะได้เป็นพระศรีอริยเมตไตรยหรือครับ
     
  15. bonzai

    bonzai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +180
    อนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวล สาธุ..
     
  16. Kump

    Kump เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +508
    พระแก้วประจำองค์ พระแก้วเขียว(เขียวมรกต) หน้าตักกว้าง 5 วา

    ใช่พระแก้วมรกตที่อยู่วัดพระแก้วหรือเปล่าครับ

    หรือว่าพระแก้วประจำองค์ จะเสด็จไปพร้อมกันเมื่อพระพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพาน
     
  17. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    พระแก้วมรกตที่วัดพระแก้วเป็นพระพุทธรูปที่พลังงานสื่อถึงองค์พระแก้วประจำตัว
    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันโดยตรงครับ(ยุคพุทธศาสนา5พันปีนี้เป็นเขตศาสนาขององค์ปัจจุบัน)
    ส่วนพระแก้วประจำองค์พระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ แม้ท่านจะดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว
    หากมีกำลังขึ้นไปกราบพระได้ก็อธิษฐานขอดูพระแก้วประจำองค์พระพุทธเจ้า
    แต่ละองค์ได้ครับเช่นสมเด็จองค์ปฐมนั้นจะเป็นพระแก้วสีขาวเป็นต้น
    ตัวอย่างอื่นๆก็ตามเนื้อหาของหัวกระทู้เลยครับ

    ธรรมรักษา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2012
  18. OMG_WTF

    OMG_WTF Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +48


    ตำราเยอะดีนะ แต่เท่าที่จำได้ พระองค์ได้รับพยาการณ์มา26พระองค์+พระอง๕เองอีก =27 พระองค์ไม่ใช่เหรอ อันนี้จำไมได้จริง
    หรือ28 นี้แหละ ครับ ยังไง บริโภคตำรามากไป แล้ว งงงง น่ะครับ
     
  19. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ในคัมภีร์พุทธวงค์ ได้รวบรวมพระเทศนา โดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราโดยตรง (พระนามว่าโคตมพุทธ) ซึ่งทรงเทศนาถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตอีก 24 พระองค์ รวมทั้งพระพุทธองค์ด้วย เป็น 25 พระองค์ ความจริงพระพุทธองค์ในอดีตมีมากกว่า 25 พระองค์ แต่ที่นำเฉพาะ 25 พระองค์มากล่าวเพราะพระพุทธเจ้าที่พวกเรากำลังกราบไหว้อยู่นี้ ได้ทรงแสดงถึงสมัยที่พระองค์ทรงเป็นพระมหาโพธิสตว์ ตั้งแต่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าทีปังกร ว่าจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอย่างแน่นอน จากนั้น พระพุทธองค์โคตมได้ทรงพบกับพระพุทธเจ้าอีก 23 พระองค์

    พระพุทธเจ้า 25 พระองค์นี้ 24 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าที่ระโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ได้ทรงพบและพระโคดมพุทธเจ้าทรงได้รับพยากรณ์ว่า จะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า นิยมนับรวมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเข้ารวมด้วยเรียกว่า "พระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์" นับแต่พระองค์แรกจนถึงพระโคดมพุทธเจ้า มีดังนี้

    ๑. พระทีปังกร (ได้รับพยากรณ์ครั้งแรก)
    ๒. พระโกณฑัญญะ
    ๓. พระสุมัคละ
    ๔. พระสุมนะ
    ๕. พระเรวตะ
    ๖. พระโสภิตะ
    ๗. พระอโนมทัสสี
    ๘. พระปทุมะ
    ๙. พระนารทะ
    ๑๐. พระปทุมุตตระ
    ๑๑. พระสุเมธะ
    ๑๒. พระสุชาตะ
    ๑๓. พระปิยทัสสี
    ๑๔. พระอัตถทัสสี
    ๑๕. พระธรรมทัสสี
    ๑๖. พระสิทธัตถะ
    ๑๗. พระติสสะ
    ๑๘. พระปุสสะ
    ๑๙. พระวิปัสสี
    ๒๐. พระสิขี
    ๒๑. พระเวสสภู
    ๒๒. พระกกุสันธะ (พระพุทธเจ้าองค์ต้นภัทรกัปนี้)
    ๒๓. พระโกนาคมนะ
    ๒๔. พระกัสสปะ

    ปัจจุบัน

    ๒๕. พระโคตมะ (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)

    ธรรมรักษา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2012
  20. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    รวบรวมสรุปไว้ได้ครบถ้วน ขออนุโมทนากับท่าน จขกท. ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...