พระโพธิสัตว์ต้องต่อสู้กับความทุกข์ เพื่อความสุขของผู้อื่น

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นพณัฐ, 27 ตุลาคม 2012.

  1. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    [​IMG]

    กำลังใจผู้ปรารถนาพุทธภูมิ
    โดยพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน
    (คัดลอกบางตอนจากหนังสืออนุสติ หน้า ๑๑๕)

    ...สำหรับท่านที่บำเพ็ญตนซึ่งปารถนาเป็น พระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ
    คนที่ปรารถนาพุทธภูมินี่ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล

    สำหรับท่านที่ปรารถนาเป็นพุทธภูมิ เป็นของดี แต่ต้องทำความความรู้สึกไว้ว่า
    เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการรื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข

    ฉะนั้นขณะใดที่กำลังใจปรารถนาพุทธภูมิ จิตต้องคิดเสมอว่า
    ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้
    หมายความว่า
    เราจะทุกข์แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่องของเรา ไม่มีความสำคัญ จิตของเรานั้นเราคิดว่า
    เราจะพ้นทุกข์ได้เพราะว่า เราช่วยเหลือความสุขแก่บรรดาประชาชนที่มีความทุกข์
    ถ้าเราเปลื้องความทุกข์ของเขาได้ เราก็เป็นคนหมดทุกข์ เราสร้างให้เขาเป็นคนมีความสุขได้ เราก็เป็นคนมีความสุข

    จิตของพระโพธิสัตว์มีอารมณ์อย่างนี้ แต่ทว่าให้เป็นไปตามบารมี

    เพราะว่าบารมีของพระโพธิสัตว์นั้น ถึงแม้จะเป็น การเริ่มต้น แห่งการปรารถนาพุทธภูมิ

    กำลังใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาปราณี ก็จะมีบริษัทมาก จะมีพวกมาก จะมีบริวารมาก
    การมีพวกมาก การมีลูกน้องมาก การมีบริวารมาก เป็นการฝึกกำลังใจของนักปฏิบัติเพื่อพุทธภูมิ
    เพื่อจะได้ซ้อมกำลังใจของเราว่า เรามีความหนักแน่นเพียงใด ถ้าจิตใจของเรามีความท้อถอย
    นั่นหมายความว่ากำลังใจการจะก้าวเข้าไปหาพุทธภูมิยังมีกำลังอ่อนมาก
    นักปรารถนาพุทธภูมิจะต้องมีทั้ง ขันติ และก็ โสรัจจะ

    ๑. ขันติ มีความอดทนต่อความยากลำบากทุกประการ เพื่อความสุขของปวงชน
    . โสรัจจะ ถึงแม้จะกระทบกระทั่งที่ทำใจให้ตนไม่สบายเพียงใดก็ตาม ก็ทำหน้าแชมชื่นไว้เสมอ

    นี่เป็นก้าวแรก สำหรับพุทธภูมิ ท่านผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ

    แต่ทว่ากำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะละเว้นไม่ได้นั่นคือ พระนิพพาน
    จงอย่าคิดว่า ถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้วความเป็นพุทธภูมิจะหายไป
    ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่าเป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงความสำคัญของพุทธภูมิ

    พุทธภูมิ: จะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอว่า เราเป็นผู้ต้องการพระนิพพาน

    อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ
    ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังใจใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ เพื่อความสุขของจิต
    เพื่อปัญญาเลิศ
    นอกจากนั้นแล้วก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไร
    เมื่อนั้นบารมีของเรานี้ไซร้จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้นพุทธวิสัย
    ชื่อว่าการปรารถนาพระโพธิญาณของเรานี้เข้าถึงแน่ แต่ว่าการจะเข้าพระนิพพานคนเดียวเราไม่เข้า
    มองใจเข้าไว้ว่า บุคคลใดที่มีความทุกข์ ในโลกที่ยังมีความฉลาดไม่พอ
    บุคคลนั้นเราเองจะเป็นผู้อุ้มเขาไปสู่แดนเอกันตบรมสุข คือ พระนิพพาน

    อันนี้เป็นกำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ...




    ที่มาจาก www.3a100.com
    ขอขอบคุณภาพจาก www.mthai.com
     
  2. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    แสดงความคิดเห็น

    ยากที่จะหาสูตรมาสรุป

    ทำเพราะอยากเป็น

    ทำไปแล้วคนอื่นเขาว่าเป็น

    ทำไปเถอะ บุญบารมีเต็มอะไรก็ห้ามไม่อยู่

    รู้เอง
     
  3. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    โอย เกรงใจๆ

    กลัวก็มี กล้าๆกลัวก็มี ท้อก็มี ถอยมาตั้งหลักก็มี ถอยให้ผู้ที่เก่งและเหมาะสมกว่าก็มี แล้วแต่สถานการณ์
     
  4. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    ขออนุโมทนา ในทุก ๆ ความคิดเห็น เป็นประโยชน์อันควรยิ่งแล้วครับ

    อุปมาว่า.... การสอนคนให้ว่ายน้ำ ผู้สอนเองจะต้องว่ายน้ำเป็นก่อน จึงจะสอนผู้อื่นได้
    เสมือนว่า.... ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้เมื่อไร เมื่อนั้นจึงจะเป็นที่พึ่งให้แก่ผู้อื่นได้
    แล้วความสุขที่แท้ ของพระโพธิ์สัตว์ คืออะไรหรอครับ

    ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    พระโพธิสัตว์ต้องต่อสู้กับความทุกข์ เพื่อความสุขของผู้อื่น<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นพณัฐ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6901663", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    พวกที่จะไปเป็นครูเขา มันต้องเรียนรู้ถูกผิดด้วยตนเองอยู่แล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างในโลก และข้อสำคัญเรียนทางธรรมทุกรูปแบบ อย่างไหนไม่มี ไม่เต็ม มันก็ต้องลงมาเกิด ทำความเห็นให้ถูกให้เต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้ครบ ชาตินี้ไม่ได้ ชาติต่อๆไปต้องทำให้ได้ จนกว่าบารมีจะเต็ม และเรียนรู้อารมย์ พระอริยเจ้าตั้งแต่ พระโสดาบัติ จนถึงอารมย์พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ต้องเรียนรู้หมด ไม่ใช่ ภาษาพูด มันต้องลงมือทำ และต้องไปให้ถึงครับ ไม่ถึงก็คงต้องลา ครับ ส่วนใหญ่ บารมีใกล้เต็ม หรือเต็มแล้ว จึงลากันเสียส่วนใหญ่ ใครไม่ลา ก็เรื่อง ของแต่ละบุคคล อยู่ที่แต่ละท่าน จะมีเหตุผล แต่ละท่านเพียงไร ผมเองก็เจอมาไม่น้อย สำหรับ และข้อสำคัญชาติสุดท้าย ที่ลืมกันไม่ได้ เป็นกฎตายตัวสำนักพุทธภูมิ ทั้งหลาย ต้องบริจาคลูกเมียให้เป็นทาน ถ้ายังก็หมดสิทธิที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าครับ จนท่านทั้งหลาย ให้ลูกเมียเป็นทานเมื่อไหร่ ท่านได้สิทธินั้นทันที


    พวกพุทธภูมิ ทั้งพระ ฆราวาส ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แม้แต่สัตว์ ก็หลายท่าน ที่เจอ พบ และอยู่ด้วยกันมา จึงพอจะเข้าใจได้บ้างเท่านั้นเอง ก็ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน ในการตั้งใจ บำเพ็ญต่อไปให้ถึง แต่สำหรับผม ถ้าไปได้ ขอไปในชาตินี้ ถ้ายังไม่ได้ ขอต่อที่พรหม หรือเทวดา ถ้าไม่ได้จริงๆ ถ้าเกิดทันพระศรีอริย ได้ฟังธรรมจากท่าน ก็คง ได้ธรรมมะแน่นอนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    สังเกตไหมว่า การกล่าววาทะ ไม่เป็นไปในทางเดียว

    และ ไม่เป็นไปเพื่อการ สละออก

    การจะ ตรัสรู้ได้ด้วยตัวเอง มันก็ต้องเป็นเรื่อง การพิจารณาทุกข์ กล่าวแต่
    เรื่องการเห็นทุกข์

    แต่นี่ ไม่ทันไร ไม่กี่โพส ก็กลับกรอกกลายเป็น "ชี้ว่ามีสุขจากการช่วยผู้อื่น"

    ทำไมถึง ยกชี้ว่า กลับกรอก กันซึ่งๆหน้า

    ก็เพราะว่า นอกจากจะไม่เข้าข้อที่ 1 เรื่องการ เห็นทุกขสัจจด้วยตัวเอง
    ยังไม่เข้าข้อ 2 ด้วย


    พระพุทธองค์กล่าวว่า เราเป็นโพธิสัตว์ ไม่ใช่เพราะอยากเป็นโพธิสัตว์
    แต่ โพธิสัตว์นั้นเกิดตามปัจจัยการ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ไปตามเหตุ
    ปัจจัย ไม่ใช่เรื่อง สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา เอา อุปทานใดๆ สร้างขึ้น
    มา จึงตรัสรู้ แหวกอาสวะ อุปทาน ได้ในที่สุด

    หลวงปู่ทวด กล่าวว่า โพธิสัตว์ที่แท้ จะต้องปฏิบัติแบบ เสียโพธิสัตว์
    ( คือ ไม่สำคัญตัวเองว่าเป็น โพธิสัตว์ ตั้งเอาไว้ก่อน แล้ว เล่นละครลิง
    ตามอุปทานนั้นๆ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อันนี้ ลองไป พิจารณา ชาดก เรื่องต่างๆ เอา เฉพาะเรื่อง
    ที่ มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ โพธิสัตว์ด้วยกัน
    มาปรารภต่อกัน แบบให้กำลังกันอย่างโพธิสัตว์

    ไปสังเกตุดู ไอ้เรื่องจะมาปรากฏ เพื่อ โอ๋ โอ๋ แต่ช้าแต่ อันนี้ไม่มีหรอก

    ส่วนใหญ่คือ ไอ้คนที่เป็นโพธิสัตว์นี่ ต้องกรรม จวนเจียนจะตายอยู่แล้ว
    เขากำลังจะบั่นหัวแล้ว หรือ พิษกำลังกำเริบแล้ว ไฟกำลังไหม้ท่วมกายหมด
    แล้ว จิตกำลังจะเคลื่อนไปเกิดตามแรงกรรม ตามปัจจัย พระพุทธเจ้า หรือ
    ประปัจเจก หรือ โพธิสัตว์ด้วยกัน ก็จะ เล็งเห็นญาติ

    แล้วจึงปรากฏเอาตอนจะจวนเจียนจะไปอยู่แล้ว แล้วเวลามาปรากฏ ก็ไม่ได้มา
    โอ๋กัน มากล่าวให้เข้าใจ ให้ระลึกได้เท่านั้นว่า

    ไอ้ที่เป็นแบบนี้ กำลังจะตายนี้ เพราะว่า มีปัจจัยจากการตั้งจิตอธิษฐานเป็นโพธิสัตว์

    คือ มากล่าวชี้ทุกข์อีกนั่นแหละ กรรมสร้างไว้อย่างนั้นก็เลยต้องเสวยแบบนั้น
    ( พูดอีกแง่หนึ่งคือ ก็ทะลึ่งปราถนาพุทธภูมิเอง ก็เลย เจอกรรม แบบนี้แหละ ปรกติ )

    ก็จะเห็นว่า เรื่องการ มาคอยโอ๋ นี่ไม่ใช่แน่ๆ ไม่ใช่เรื่อง แรดนอเดียวเทียวไปแน่ๆ
    ไอ้เรื่อง คนต้องโอ๋ หรือ คนเข้าไปโอ๋บ่อยๆนี่ ไม่ใช่โพธิสัตว์ แต่เป็นเรื่องของ
    คนเล่นละคร อยากสวมบทตัวละคร โดยที่ ไม่รู้เรื่อง "อิทัปปัจจัยตา" เลยแม้แต่น้อย

    **********

    ทำไมต้องมาเตือน เอาตอนใกล้ตายว่า ก็ทะลึ่งปราถนาเป็นโพธิสัตว์เอง จะไปโทษ
    อะไรๆ ไม่ได้นะ

    ก็เพราะ เอื้อให้จิตแล่นตรงสู่นิพพานเข้าไว้ ต่างหาก แต่ถ้าจิตมันยังมีแรงกรรม มีเชื้อ
    เกิด ก็จะแล่นไปสู่การเกิดตามแรงกรรมนั้นๆเอง จะตกนรกหรือขึ้นสวรรคิ์ ก็ว่าไปตาม
    อิทัปปจัยยตา ....

    แล้วถ้าไม่มีเชื้อเกิดหละ ก็เข้านิพพานไปเลย

    ( อานาปานสติ กรรมฐานของมหาบุรุษ จึงมี อานิสงค์ข้อหนึ่ง ระบุว่า สามารถเข้า
    นิพพานได้ในปัจจุบันชาติ ใน ลมหายใจสุดท้าย ได้ )


    ************

    จะเห็นว่า โพธิสัตว์ จะช่วยเหลือกันเอง ก็ไม่ใช่ เอา ภพ หรือ อุปทาน มาหลอกกันเอง

    แต่จะกล่าวไปในทิศทางเดียว คือการ สละออก นำออกจากภพ แต่ ส่วนเดียว เท่านั้น
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    จะเอาไป คิดทำไมหละคร้าบ ท่าน !!

    อ่านแล้ว เขาให้โยนทิ้งไปเลย
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ก็ไม่ใช่อีก หากตอนนี้ พึงมานึกขึ้นได้ว่า จะเอาไปปฏิบัติ ไม่สายไปหน่อยเหรอ

    ดังนั้น

    หากจะให้ถูกจริงๆ ก็ต้อง ด่ากลับ อะไรทำนองนี้ ยังมีแนวโน้มใช่กว่า

    แต่ ไม่ใช่ ด่ากันเพราะ ขบเหลี่ยมด้วยความคิดนะ

    มันต้องเหมือน อย่างสัตว์เดรัจฉานที่เป็นโพธิสัตว์ คือ เกิดเป็นกระรอก

    กระรอกโพธิสัตว์เนี่ยะ เขามั่นใจว่า เขาปฏิบัติอยู่ แน่นอน ไม่ว่าจะปฏิบัติ
    อะไรอยู่ก็ตามแต่ จะมีความมั่นใจว่า ปฏิบัติเต็มที่อยู่แล้ว

    ดังนั้น

    หากมี ใครหน้าไหน โพล่หน้ามา ช่วยเหลือ แม้แต่ให้ความคิด
    คนที่มีความภูมิใจเต็มที่ ว่า ปฏิบัติอยู่เต็มทีแล้ว เขาก็จะ ด่ากลับ
    ไอ้คนมาเสือกไปเลย

    ************

    เนาะ ไม่เป็นไร เอาไว้คราวหน้า ค่อยด่ากลับ ตอนนี้ ไปละโว้ยยยยย!!

    ตัวใครตัวมัน
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    งั้น ให้อีกหน่อย กะว่าจะไม่ ชวนสนทนามาก แต่ไปเห็นอีกกระทู้ เนี่ยะ กำลัง
    จะไล่จิกหัวคนที่บอกว่าพยามารลาพุทธภูมิ

    ก็เลยต้องกล่าวชี้ ทุกข์บางประการไว้หน่อย


    ไม่รู้ว่า คุณเคยเลี้ยง ลูกผู้ชาย ไหม

    คนเราเวลาเลี้ยง ลูกผู้ชายให้เป็นผู้ชาย เป็นสัตบุรุษ เราจะไม่มีวันเลี้ยงแบบ โอ๋
    เด็ดขาด จะไม่ยินดีกับคนที่เข้า โอ๋ ด้วย !!

    หาก เด็กมันล้มลง เราจะข่มใจ ให้มัน ลุกเอง !!

    ทำไม เราถึงปล่อยให้ลุกเอง เพราะ สิ่งนี้มีคุณค่ามาก เราจะเข้าไปทำลายไม่ได้ !!

    คนที่จะทราบซึ้งได้ว่า "การล้มเอง ก็ต้องลุกขึ้นเอง" มีคุณค่า ย่อมต้องปฏิบัติ
    ด้วยตัวเองมาก่อน ไม่ใช่มานั่งนึกๆ คิดๆเอาทาง ปรัชญา จารีต ตรรกศาสตร์ เพราะ
    มันจะโลเลในที่สุด และเพราะไม่ใช้นึก ไม่ใช่คิด แต่ เอาประสบการณ์จริงเกิด
    ขึ้นไปตามเหตุปัจจัย จึงได้รู้ คุณค่าอันประเมินไม่ได้ของการปล่อยให้ ล้มลงไป
    แล้ว ก็ต้องปล่อนให้ ลุกเอง
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สันดรคนมันพอขุดได้ แต่สันดานคน มันขุดยาก คนเราถ้ามันไม่มีพื้นฐานมามันคงพูดไม่ได้แน่นอนครับ คนที่แสดงตนว่าดี แต่ว่า เสียดสีผู้อื่น ตั้งชื่อใหม่มาเรื่อยๆมันก็ไม่ต่างอะไร กับจิตใจของสัตว์หรอกครับ หรอกคนอื่นน่ะหรอกได้ แต่หรอกตัวเอง คงยากครับ คนบางคนไม่เคยสำผัสอะไรมา มักเอา เอาความคิด ตัวเอง ไปว่าร้ายคนอื่น นึกว่าตัวเองวิเศษ สินะ ว่าตัวเป็นผู้รู้ ประวัติหลวงปู่หลวงพ่อ ท่านก็มาเขียนจารึก ไว้ให้ลูกศิษย์ ลูกหา ได้ศึกษา จำได้มากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีในพระไตรปิฎก หรือท่านจะเก่ง กว่าหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ที่มีลูกศิษย์ ลูกหา มากมาย และร่างกายท่าน ก็ไม่เน่าเปื่อย มีออกมากมาย ที่ได้ไปกราบมา ท่านคง ใจไม่บอดตาไม่บอดน่ะ ถ้ามันผิดก็ขออภัย ในความไม่ชอบของท่าน ในความเห็นของนาย


    ในพระไตรปิฎกไม่ได้บอกไว้ ว่า ในปัจจุบัน หลวงปู่หลวงพ่อองค์นั้นๆ มาเป็นพระอรหันต์ ในสมัยนี้ เขาจึงเชื่อ ในกลุ่มผู้เคารพ ใครไม่เชื่อไม่เคารพ ก็อยู่แบบเฉยๆไปก็ได้ เพราะสิ่งใด คุณรู้ ผมไม่รู้ นั้นมีอยู่ แต่สิ่งที่ผมรู้ คุณไม่รู้ นั้นอีกเยอะนะจะบอกให้ ของใครของมัน ของท่านก็อยู่ส่วนท่าน เท่านั้น และคนที่เชื่อคำสอนของพระพุทธองค์ เท่านั้น ที่จะเชื่อตรงกัน และพวกปะทะปะระมะ พระพุทธองค์ ยังหลีกเลย ไม่ทรงคบ และไม่สอน พวกพระเทวทัต หรือตัว มารทั้งหลาย ตาบใด โลก ยังมีการเกิดอยู่ พวกพ้องเขาย่อมเกิดขึ้น ไปตามเหตุการณ์ ตามปัจจัย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ท่านน่ะมีคติ แน่นอนหรือยัง แต่พระเทวทัต นั้นน่ะมีคติแน่นอนแล้ว พระพุทธองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  12. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    ดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า ภูผาสิงขรไม่สั่นไหวด้วยแรงลม ฉันใด
    จิตเมตตาแห่งปณิธานโพธิ์สัตว์ ย่อมไม่สั่นไหวด้วยความสงสัยลังเล ฉันนั้น

    ขอให้ท่านผู้ปรารถนาโพธิ์ญาณทั้งหลาย
    มีความเพียร และ ตั้งมั่น ตั้งใจ ในปณิธานต่อสิ่งที่ตนเชื่อ...
    มุ่งปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้ล่วงพ้นจากทุกข์
    โดยไม่หวั่นไหว หรือ ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ
    และ พึงความเมตตา กรุณา ที่บำเพ็ญมาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายเถิด...

    ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป
     
  13. apithatha

    apithatha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    ร้อยคนร้อยความคิก

    คำสอนพระพุทธองค์มีไว้เพื่อให้คนที่ปฏิบัติตาม ได้พ้นทุกข์ มิได้เอามาโอ้อวดกัน
    ทางปฎิบัติมีแตกต่างกัน แต่หนทางพ้นทุกข์มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น
    และเช่นกันกับวิธีคิด คิดถูกหรือผิด ก็คิดเช่นกัน ..แต่ผลลัพธ์ทางความคิดจะออกมาแตกต่างกัน..ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและการกระทำ
    ..ความสงบไม่ได้อยู่ที่ใคร..อยู่ที่เราเท่านั้น..rabbit_restrabbit_restrabbit_
     
  14. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    รักษาภาพพจน์ ของเจ้าของรูปภาพหน่อย ก็คงจะดี
     
  15. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    รักษาภาพพจน์ เจ้าของรูปภาพหน่อยก็คงจะดี
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({)สันดรคนมันพอขุดได้ แต่สันดานคน มันขุดยาก คนเราถ้ามันไม่มีพื้นฐานมามันคงพูดไม่ได้แน่นอนครับ คนที่แสดงตนว่าดี แต่ว่า เสียดสีผู้อื่น ตั้งชื่อใหม่มาเรื่อยๆมันก็ไม่ต่างอะไร กับจิตใจของสัตว์หรอกครับ หรอกคนอื่นน่ะหรอกได้ แต่หรอกตัวเอง คงยากครับ คนบางคนไม่เคยสำผัสอะไรมา มักเอา เอาความคิด ตัวเอง ไปว่าร้ายคนอื่น นึกว่าตัวเองวิเศษ สินะ ว่าตัวเป็นผู้รู้ ประวัติหลวงปู่หลวงพ่อ ท่านก็มาเขียนจารึก ไว้ให้ลูกศิษย์ ลูกหา ได้ศึกษา จำได้มากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีในพระไตรปิฎก หรือท่านจะเก่ง กว่าหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ที่มีลูกศิษย์ ลูกหา มากมาย และร่างกายท่าน ก็ไม่เน่าเปื่อย มีออกมากมาย ที่ได้ไปกราบมา ท่านคง ใจไม่บอดตาไม่บอดน่ะ ถ้ามันผิดก็ขออภัย ในความไม่ชอบของท่าน ในความเห็นของนาย

    ในพระไตรปิฎกไม่ได้บอกไว้ ว่า ในปัจจุบัน หลวงปู่หลวงพ่อองค์นั้นๆ มาเป็นพระอรหันต์ ในสมัยนี้ เขาจึงเชื่อ ในกลุ่มผู้เคารพ ใครไม่เชื่อไม่เคารพ ก็อยู่แบบเฉยๆไปก็ได้ เพราะสิ่งใด คุณรู้ ผมไม่รู้ นั้นมีอยู่ แต่สิ่งที่ผมรู้ คุณไม่รู้ นั้นอีกเยอะนะจะบอกให้ ของใครของมัน ของท่านก็อยู่ส่วนท่าน เท่านั้น และคนที่เชื่อคำสอนของพระพุทธองค์ เท่านั้น ที่จะเชื่อตรงกัน และพวกปะทะปะระมะ พระพุทธองค์ ยังหลีกเลย ไม่ทรงคบ และไม่สอน พวกพระเทวทัต หรือตัว มารทั้งหลาย ตาบใด โลก ยังมีการเกิดอยู่ พวกพ้องเขาย่อมเกิดขึ้น ไปตามเหตุการณ์ ตามปัจจัย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ท่านน่ะมีคติ แน่นอนหรือยัง แต่พระเทวทัต นั้นน่ะมีคติแน่นอนแล้ว พระพุทธองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้แล้ว
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ choksila58
    ..เอาเถอะท่านลุง พูดไปเดี๋ยวจะยาวยังไงท่านลุงก็อย่าจุดเทียนส่องพระหรือพูดธรรมะในวงเหล้ามันเข้ากันไม่ได้ บัณฑิตต้องทำตนให้เหมือนกลอง เค้าตีถึงจะดังหากเค้าไม่ตีเสือกดังมันใช้ไม่ได้ บางอย่างต้องปล่อยให้เค้าเรียนรู้และเข้าใจเอง.. สาธุ ๆ ผู้มีเจตนาดีทั้งหลาย


    อ๋อ ในวง เหล้าผมก็เข้าใจ เพราะเพื่อนผมเมื่อก่อน มีครบครับ เสือสิงห์กระทิงแรด ถ้าคุยผมคุยได้ทุกเรื่องกับคุณ แต่ขอให้มีเหตุผลเท่านั้น ยอมรับ สิทธิซึ่งกันและกัน ก็ถือว่าโอเคครับ ไม่ใช่เบ่งทับคุณ แต่ผมมีประสพการณ์มาอย่างนั้นจริงๆ แต่จะไม่ละเอียด พอพูดได้ งูๆปลาๆครับ ธรรมะในวงเหล้า คุยกันไม่ได้อยู้แล้วครับ มันคนละประเด็น ไปคุยเข้า วงคคงแตกแน่ครับ แค่เราเอาของไปแจก ชาวบ้าน มันยังมีคนไม่ถูกใจ คนบางคนเลยครับ มาหาเรื่องด้วยซ้ำไป ใช่แน่นอน ตีกลองข้างเดียว มันคงดังไม่เพราะเท่าน สองข้างแน่นอนครับ


    ( ขอบอกเลยนะ เจ้าของกระทู้ เขาไปถามผมตั้งแต่เขายังไม่มาตั้งกระทู้เลย) ถามอะไรผมตอบ แต่เขา ถามพีเอ็มผมมาตลอด ผมจำตัวหนังสืออังกฤษ ได้ ผมไม่รู้จักเขาเลย ตอบไป เขาก็ไม่เคยยอมรับ ผมบอกให้เขาเลิกมาถามผม เขายิ่งทำใหญ่ ขนาดผมด่าเขา ให้เขาเลิก ก่อกวนผม ก็ไม่เลิก ขนาดเขาตั้งกระทู้มา ผมก็มาตอบแบบธรรมดา ไม่ได้ไปให้ร้ายเขาแต่ประการใด ผมจึงให้คุณ ย้อนกลับไปดู ไงครับ นอกจาก คนที่ศึกษา ธรรมแล้ว มีใจเป็น กลางเขาถึงจะรู้ครับ แล้วคนที่เขาใช้ความรู้มาเบ่ง แล้วผมตอบไปแล้ว เขายังดันทุรัง ให้หาหนังสือพระไตรปิฏก มาแสดง ตัวอย่างส่วน ที่ผมตอบมา

    จะใช้ความรู้ ของครูบาอาจารย์ ที่ท่านได้เรียนรู้มาแล้ว มาตอบ อ้างเหตุและผล คนเรามีปัญญา ทุกคนจะเอามันออกมาใช้ หรือเปล่า ไม่ใช้เหตุและผล หัวเราะข้างเดียว มันไม่ดังหรอกครับ คุณ ๕๘ แม้แต่ ในกัปนี้ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๑๐ พระองค์ เขาบอกมีแค่ ๕ องค์ ผมตอบไป ๑๐ พระองค์ ตอนนี้เขาบอกมาในกระทู้ รู้แล้ว ทั้งๆที่คุณ น่ะไม่รู้เลย ว่า เขามีอะไรกับผมมาก่อนเขาก็ให้ผมหาหลักมาแสดง ผมอ้างอิง เขาไม่พอใจ ยังทุรังตลอด หาเรื่องมาตลอด ให้เลิกก็ไม่เลิก ถ้าเป็นคุณ จะทำอย่างไร อยู่ๆ คุณ ๕๘ อยู่เฉยๆ มีคนมาด่า พ่อแม่คุณ คุณจะโต้ตอบไหม ขออธิบายให้ฟัง หน่อยครับ จริงๆ เยอะมาก ถ้าตอบกัน โดย ธรรม มันจะมีปัญหาอะไร นอกจากคนพาล เท่านั้นครับ พระพุทธเจ้า ยังหลีกเลยครับ
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814

    ทำไมที่ผมพูดไปก็มาถามให้หมดสิ ว่า ผมพูดต่ออีกว่า พระแม่กวนอิม ก็ลาเข้านิพพานไปแล้ว พระเจ้าตากก็ลาเข้านิพพานไปแล้ว เพราะว่า ผมไปอ่านหนังสือ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านพูดบอกมาเช่นนั้น ผมก็เชื่อผมได้พิสูตรอะไรมามากมาย พยามาร ลาพุทธภูมิ ผมก็รู้มาเช่นนั้น แต่ถ้าผิด ก็ขออภัย ในความรู้ผิดพาดของผม พระยามารปราถนาพุทธภูมิเช่นกัน ท่านกลัว พระพุทธองค์ พาคนไปนิพพานหมด เวลาท่านมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว จะไม่มีใคร ฟังธรรมของท่าน ตอนที่ท่านมาตรัสรู้ ท่านใจของท่านเลยเป็นมิจฉาทิฏฐิ เลยมาขวางทางของพระพุทธองค์ เพื่อจะขัดขวาง ไม่ให้บรรลุอภิเศกสัมมาสัมโพธิญาณ


    ขัดขวางทุกอย่าง ผมไม่เห็นว่ามันเสียหายตรงไหน ชอบหรือไม่ชอบหรือ ไม่ ก็หาทางพิสูตร หรือถามผู้รู้ ประวัติ หลวงปู่ หลวงพ่อ ต่างๆ ท่านก็บอกชัดเจน ลามาจาก พุทธภูมิ ไปหาอ่านได้ ไอ้ที่จะหาพักพวก ให้ เอนเอียงมาหา หรือเข้าข้างตนนั้น ไม่ใช่วิสัย ของผู้รู้ จะหาทางเอาชนะเท่านั้น คุณมันเล่นงานผมมามากพอสมควรแล้ว ทั้งๆผมบอก ให้เลิกยังไม่เลิก ไปก่อกวนผมถึงในกระทู้ โถ อุตส่าต์อวดเบ่ง ว่าเรียนพระไตรปิฏก มาแล้วเอาความรู้ มาทับผม ผมก็บอกแล้ว ไม่ได้เรียนมา อาศัย เรียนรู้ ประสพการณ์มาจาก ครูบาอาจารย์

    และ ไปรู้เห็น มาด้วยตนเองส่วนใหญ่ บังเอิญผมมากระทู้นี้ เลยเห็นอีก ขอบคุณครับที่อุตส่าต์จี้แนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  19. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499

    ขออภัยครับลุง กระผมว่า น่าจะโพสข้อความผิดกระทู้น่ะครับ ...
    พอดีกระผม ก็ติดตามอ่านอยู่อีกกระทู้หนึ่ง เห็นเป็นโพสเดียวกัน
    กับที่มาลงไว้ที่นี่ อ่านแล้วเลย งง ๆ น่ะครับ
    ขอขอบพระคุณ ลุงบุญอีกครั้งด้วยครับ
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814

    ขอโทษทีครับน้องนพณัฐ ผมรู้ว่า เขาจะเล่นงานผมไม่หยุด และมีคนในกระทู้คอยเน็บแนบครูบาอาจารย์ ผม ๆ ไม่แน่ใจว่า พวกพ้องเขาหรือเปล่า แม้ไปกระทู้อื่นก็เห็นบางคนไม่ชอบผม เน็บแนมอยู่เรื่อย ก็เลย เอามาแปะครับ ขออภัยจริงๆครับ เผื่อเขาไม่ได้อ่าน ที่ผมโพต์ไว้ เขาว่าผมพอว่า แต่เขาไป ว่าถึงครูบาอาจารย์ ไปสร้างกรรมเปล่าๆ ผมเห็นคุณในหลายๆกระทู้ คุณ เป็นคน อยู่กลางๆไม่ค่อยเอนเอียงครับ ผมไม่มาโพต์ เกือบครึ่งเดือน ว่าจะไม่เข้ามา ตอนหลังอดไม่ได้ บางคน ใจเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่พอ สอนบอกคนอื่นไปอีก หลายต่อ เลยเข้ามาตอบบ้าง ที่พอจะมีประสพการณ์ ของจริงที่เจอมา และผมเองก็ไม่มีเลสในใด จะแกล้งใคร

    บางทีเขาหยุด ในกระทู้กระทู้เขา แต่เขา ไปลุ้นกระทู้อื่น เมื่อผมไปเห็น ผมก็ย่อม แสดงให้เขารู้บ้างเท่านั้นแหละครับ ผมไม่เป็นภาษาอังกฤษ เขาตั้งชื่อ ไม่ไทย ก็เลยไม่รู้ชื่อ เดี๋ยวมีโอกาศ จะไปเล่า ประสพการณ์ ใน ประสพการณ์ วัตถุมงคลครับ จะได้ให้น้องเขาไปตั้งกระทู้ให้ ครับ ขอบคุณน้องมากที่เข้าใจ และสงสัย


    อ๋อผมขอต่ออีกนิดครับเมื่อเช้า เขามาโพต์ที่นี่ครับ เขาคงลบไปแล้ว ไม่เห็น แต่ที่แน่ๆ ใบหน้าเขาในกระทู้เขาหายไปแล้วครับ ว่ามาโพต์ให้คนไปดู ในกระทู้อื่นและขอร้องคนอื่นๆให้เข้าไป คนเป็นมิจฉาทิฏฐิ จะหาพวกพ้อง น้องคงเข้านะครับ เมื่อกี้ผมไปดูด้านบน ไม่มีหนังสือ ที่เขามาขอร้องใครๆไว้ให้เข้าไปดูที่เขาเอาลิ้งมา เอาไว้เฉพาะลิ้ง และที่เขาโพต์ไว้ เขาลบไปแล้วด้วยครับ เขาเล่นงานผมตั้งแต่ไม่มาตั้งกระทู้โน้น หรอกคนอื่นน่ะหรอกได้ แต่หรอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...