พระโสดาบันโดยอนาคามี...

การเป็นพระโสดาบันอีกแนวทางหนึ่ง ที่ผมค้นพบเอง เริ่มเลย 1.ปล่อยวางภาระหน้าที่การงานต่างๆเอาไว้ก่อน จากนั้นอาบน้ำถูสบู่ให้สะอาด สระผม ตัดผมให้เรียบร้อย นุ่งผ้าใหม่ แล้วหาสถานที่ที่เหมาะๆ เช่น ที่ในห้องนอน ที่ห้องพระ ที่โต๊ะกินข้าว ที่เก้าอี้ในบ้าน ที่วัด หรือที่ห้องดูทีวี เป็นต้น 2.กราบพระรัตนตรัยแล้วตั้งจิตปฏิญาณตนเป็นพุทธสาวกของพระพุทธเจ้า ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าสูงสุดคือพระรัตนตรัย 3.ทำสมาธิให้จิตสงบในอริยาบทที่สะดวก หายใจเข้าภาวนาพุทธ หายใจออกภาวนาโธ สติคือลมหายใจ เมื่อจิตสงบค่อยออกด้านปัญญาภาวนา เช่น ทำสมาธิซัก 5-15 นาที เป็นต้น 4.ละสักกายะทิฏฐิคือไม่มีสักกายะทิฏฐิ หมายถึงไม่มีทิฏฐิต่อพระพุทธเจ้า ต้องเคารพและศรัทธาท่าน ต้องถือว่าท่านเป็นศาสดา จงรักภักดีต่อท่าน และศึกษาธรรมะของท่านแล้วนำมาปฏิบัติที่กาย วาจา ใจ 5.ไม่มีวิจิกิจฉา คือไม่สงสัยในสัจจธรรมที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ต้องเชื่อจริงและไม่กระทำชั่ว ทำแต่ความดีออกมาจากจิตใจภายในอันแท้จริง 6.ไม่มีศีลลัพรตปรามาส คือไม่เป็นคนโง่ ไม่หลงใหลอะไรตามกระแสอย่างทำตัวเหลวไหล พระโสดาบันทำได้รูปงาม และถือศีล 5 โดยเฉพาะไม่กินเหล้า บุหรี่น่ะพอได้ แต่งดเหล้าได้ได้เป็นพระโสดาบัน และพระโสดาบันท่านกราบพระพุทธรูปนะ ไม่กราบไม่ใช่ 7.จิตใจประเสริฐและไม่หยิ่งนี่แหละพระโสดาบัน...แสดงธรรมโดยพระอนาคามีสันดุสิต..........

 

เริ่มลามปามหนักขึ้นทุกทีละ... มีการประกาศวิธีการเป็นพระโสดาบันด้วย...

ศาสนาของพระโคดมไม่ดีหรืออย่างไร? อยากตั้งศาสนาใหม่มากหรือ ฟางว่าน? ทำไมต้องแต่งเติมคำสอนพระศาสดา?

 

อันนี้ไม่เรียกว่าค้นพบเองเรียกว่าบังเอิญขี้ตรงร่อง

ทางที่ดีเพิ่ม อุปสมานุสสติกรรมฐาน เข้าไปอีกข้อ

 

คุณคีย์บอร์ด ที่คุณสื่อออกมานี่ เรียกว่าต้องเตรียมตัวเป็นพระโสดาบันหรือเปล่า?
สมัยนี้ถึงขนาดต้องเตรียมตัวกันเลยหรือ ทำเรื่องธรรมดาให้มันเกินธรรมดา
ไปรึเปล่า ปรามาสพระธรรมนี่เขาจัดว่าเป็นอย่างไรนะ
_________________
ดูจิต.........ด้วยสติ

 

ขอ ธรรม ทั้งหลาย อันเป็นที่พึ่งของคุณ
จงรักษาคุ้มครอง และ ช่วยนำพาจิต
กลับมาที่เดิม อย่างปลอดภัย
อย่าได้หลง ไปไกลกว่านี้เลย...