เรื่องเด่น พระไทย เดินเท้าข้ามประเทศสหรัฐอเมริกา สู่นครนิวยอร์ค เพื่อเผยแพร่พุทธศาสนา

เดือน พ.ค.ในปีนี้ ถือเป็นเดือนแห่งมหามงคลในประเทศไทย มีข่าวหนึ่งที่ผมติดตามในโลกโซเซี่ยล รวมทั้งสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาตามรัฐต่างๆ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ให้ความสนใจมากขึ้น รวมทั้ง “คนไทย” ในสหรัฐอเมริกา ตื่นเต้นกับภารกิจ การเดินข้ามทวีปอเมริกาของ หลวงพี่สุธรรม นทีทอง หลวงพี่แวะมาที่สถานีแห่งหนึ่ง ก่อนเดินทางไปสหรัฐมีโอกาสได้สนทนากับหลวงพี่ เปรยว่า “เราจะเดินข้ามทวีปอเมริกา” ในความรู้สึกผม มันจะเป็นไปได้อย่างไร ยังนึกไม่ออกเลยว่าภารกิจความมุ่งมั่นนี้จะสำเร็จได้อย่างไร



ก่อนหน้านี้หลวงพี่เดินทางตามเส้นทาง”หลวงพ่อทวด” มาแล้ว จากรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซียเดินและเดินไปถึงจ.อยุธยา ย้อนเส้นทางหลวงพ่อทวด จากเมืองไทรบุรีถึงอยุธยา และหลวงพี่สุธรรมก็เดินจนถึงวัดแค (วัดราชานุวาส) จ.พระนครศรีอยุธยา



ในค่ำคืนที่ถึงวัดแคหลวงพี่บอกผมว่า ค่ำคืนนั้นพระจันทร์ช่างสวยงามเต็มดวงเหมือนเมื่อครั้งที่หลวงพ่อทวดมาจำพรรษาครั้งวัยหนุ่มในกรุงศรีอยุธยา ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ภารกิจครั้งนี้ข้ามประเทศสหรัฐอเมริกา ผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่า จะเดินอย่างไร จะจำวัดที่ไหน จะขบจะฉันพยุงสังขารอย่างไร? แต่แล้ว “ความจริง” “ความร่าเริงในธรรม” อุปสรรคที่คิดไว้แทบจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง



ภารกิจการเดินเริ่มต้นที่ ชายหาด Santa Monica รัฐCalifornia เมื่อวันที่2 มีนาคม คาดว่าจะถึง มหานครNew York ใช้เวลาประมาณ 130 วัน และเมื่อวันที่29 เมษายน หลวงพ่อสุธรรม นทีทองเดินด้วยเท้ามาถึงรัฐ Oklahoma
จุดประสงค์ที่หลวงพี่สุธรรม นทีทองเดินทางไกล “เดินด้วยเท้า” เดินและเดิน เดินเพื่อบอกถึงศรัทธาของนักบวชในพุทธศาสนาจากประเทศไทยในครั้งนี้ ได้บอกกับน้องๆที่ทำสื่อว่าความมุ่งหมายในครั้งนี้



1 เดินรณรงค์สันติภาพจะไปให้ถึงตึกUN ในนครนิวยอร์ค
2 เดินเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนา
3 เดินเพื่อปฏิบัติธรรมยังความเพียรเพื่อฝึกฝนขัดเกลาตนเอง
ผมเชื่อว่าคนไทยในสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ได้เกาะติดเรื่องนี้จากสื่อต่างๆเช่นกัน ถึงเดือนกรกฏาคม อยากเชิญชวนคนไทยในมหานครนิวยอร์คได้ต้อนรับร่วมกันทำบุญ กับ ศรัทธาอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของนักบวชพุทธศาสนาของไทยด้วย



จิตอันมุ่งมั่น..สร้างสิ่งที่เป็นไปได้ยากให้เป็นจริงได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ขอพระธรรมอันประเสริฐ เป็นพละกำลังหนุนเสริมกำลังสังขารให้ภารกิจครั้งนี้ บรรลุถึงปลายทางด้วยเทอญ!!



ขอบคุณภาพและข้อมูล : Mee Nabon

ขอขอบคุณที่มา
https://www.tnews.co.th/contents/504565