พลังจิตใต้สำนึก พลังจิตเหนือสำนึก จะปลุกขึ้นมาใช้อย่างไร?

โพสนี้จะขอกล่าวถึง

- พลังจิตสำนึก
- พลังจิตใต้สำนึก
- พลังจิตเหนือสำนึก

ว่าคืออะไร มีคุณประโยชน์และโทษอย่างไร
จะปลุกพลังมาใช้อย่างไร และควบคุมอย่างไร
ซึ่งผมจะค่อยๆ อธิบายไปนะครับ

 

พลังจิตจากจิตทั้งสาม

พลังจิตสำนึก, จิตใต้สำนึกและจิตเหนือสำนึกต่างกันอย่างไร มีดังต่อไปนี้

1 พลังจิตสำนึก (ตือโป้ยก่าย)
เป็นพลังจิตของมนุษย์ปกติ ปุถุชนปกติที่ต้องมี ต้องใช้ เพื่อการดำรงอยู่ใน
โลกอย่างสงบสุขแบบมนุษย์ เช่น พลังที่ใช้ทำงาน, หาอาหาร, เลี้ยงดูลูก
หากขาดพลังนี้ไป คนจะไม่เป็นคน หรือสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป ไม่มีมโน
สำนึกในความเป็นมนุษย์ เช่น ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกในใส้ของตัวเอง ทิ้งทารก
ที่เพิ่งคลอดให้ตายไป หรือทำแท้ง เป็นต้น พลังจิตสำนึกทำให้เรายังมีจิต
สำนึกของความเป็นมนุษย์ แม้ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ก็ยังมีสำนึกอยู่บ้างเหมือน
ตือโป้ยก่ายที่คิดแต่จะกินจะนอนไปวันๆ แต่ก็ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง

2 พลังจิตใต้สำนึก (หง๋อคง)
เป็นพลังจิตระดับลึกที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ เช่น พลังในการเอาตัวรอดยาม
คับขัน, พลังในการสืบพันธุ์ ฯลฯ พลังพวกนี้ทำให้เราเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่สน
จารีตประเพณี หรือกฏระเบียบใดๆ แต่มีพลังมากและสามารถใช้เอาตัวรอด
ได้ยามจำเป็น พลังจิตใต้สำนึกสามารถถูกกระตุ้นและปลดปล่อยออกมาใช้
ได้ เหมือนสัตว์ที่ถูกกักขังนานๆ แล้วถูกปล่อยออกมา เหมือนซุนหงอคงที่
ถูกขังอย่างนั้น เมื่อได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้วจึงมีีฤทธิ์มาก ทว่า อาจ
ไม่อยู่ในกฏระเบียบใดๆ ของสังคม ต้องควบคุมและใช้พลังนี้อย่างมีสติ

3 พลังจิตเหนือสำนึก (ซัวเจ๋ง)
เป็นพลังจิตระดับสูงที่เหนือกว่าปุถุชนขึ้นไป เช่น พลังความรักในอุดมคติ,
พลังความคิดเชิงบวก, พลังแห่งแสงสว่าง, พลังแห่งความดีงาม-คุณธรรม
ฯลฯ เป็นพลังที่ไม่เหมาะสมในการดำรงอยู่แบบมนุษย์ก็จริง เพราะสูงเกิน
ไปกว่าความเป็นปุถุชน แต่ก็ช่วยให้เรายกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นได้
เราจึงมีพัฒนาการไปสู่สภาวะที่สูงเกินกว่ามนุษย์ได้ เช่น เทวสภาวะ ทำ
ให้เราเหมือนเทพเดินดิน พลังงานนี้อุปมาเหมือน "ซัวเจ๋ง" ที่พยายามทำ
สิ่งที่ดี เหมือนนักบวช แต่หลายอย่างทำไม่ได้จริง เป็นไปไม่ได้จริงในชีวิตปัจจุบัน

ในการใช้จิตสำนึกนั้น เป็นจิตมนุษย์สามัญปกติ เราใช้กันเป็นอยู่แล้ว ขอ
แค่เรายังมีจิตสำนึกปกติของมนุษย์ เราก็จะไม่ทำอะไรเกินขอบเขตไป
แต่จิตเหนือสำนึกและจิตใต้สำนึก จะต้องเรียนรู้ที่จะดึงเอาพลังออกมาใช้
และฝึกใช้อย่างถูกวิธีครับ เราก็จะใช้จิตในระดับต่างๆ ทั้งสามระดับนี้ได้
ซึ่งผมจะได้อธิบายวิธีการและรายละเอียดในการปฏิบัติให้ได้ผลในโพสต่อๆ ไป

 

วิธีใช้ จิตเหนือสำนึก และจิตใต้สำนึก


ดังที่ได้กล่าวแล้วว่าจิตสำนึกเป็นจิตปกติมนุษย์ ในที่นี้จึงไม่ได้
เน้น เพราะหลายท่านใช้ได้อยู่แล้ว ยกเว้นว่าสูญเสียจิตสำนึกไป
ก็จะหาวิธีฟื้นฟูให้นะครับ (ซึ่งการฟื้นฟูจะแนะนำกันในคราวหน้า)
ดังนั้น จึงขอแนะนำการใช้จิตใต้สำนึกและจิตเหนือสำนึก ดังนี้

1 จิตใต้สำนึก
จะใช้ได้จะต้องไม่ถูกกดทับหรือข่มอยู่ด้วยมโนสำนึก หรือจิตสำนึก
จะต้องปลดปล่อยตัวเองให้มีอิสระจากความคิด ทุกสิ่งทุกอย่าง ราว
กับสัตว์ป่าที่ไม่ยึดถืออะไร หรืออยู่ในสถานการณ์คับขัน เช่น ถูกล่า
ถูกทำร้าย, ไฟใหม้ ฯลฯ พลังนี้จะตื่นขึ้นมาได้ ซึ่ง ก็มีอยู่หลายชนิด
พลังนี้เหมือนสัตว์ป่าดิบเถื่อนที่ได้รับการปลดปล่อยออกมา นั่นเอง

2 จิตเหนือสำนึก
จะถูกนำมาใช้ได้ เมื่อพลังจิตสำนึกไม่กดข่ม ไม่ทับถมอยู่ จะต้อง
ให้จิตสำนึกปกติ เหมือนหลับอยู่แต่ไม่หลับไปเสียหมด คล้ายๆ คน
กึ่งหลับกึ่งตื่น หรือถูกสะกดจิต หรือสะกดจิตตัวเองอยู่ ปล่อยใจให้
ล่องลอย ไม่ยึดมั่นในอะไรทั้งสิ้น ให้อิสระเสรีภาพแก่ตัวเองอย่างที่
สุด เหมือนกำลังฝันอยู่ เหมือนกำลังจินตนาการอยู่ จับกระแสพลังที่
มาจากจักรวาลให้ได้ มีความคิดอะไรรอบๆ ตัวเราที่ดูแปลกๆ ไม่เป็น
ปุถุชนบ้างไหม? จับกระแสความคิดนั้นได้ก็ตมกระแสนั้นไปเลย ไม่
ต้องลังเล ปลดปล่อยออกมาด้วยการพูดหรือเขียน ประสานพลังนั้น
ให้สนิทเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน คล้ายการเข้าทรง แต่ไม่ใช่นะครับ


ลองฝึกใช้ดู แล้วท่านจะรู้ว่า "มันใช้ได้จริง" ครับ

 

สวัสดีครับท่านดอกไม้ บังเอิญจังรู้สึกสงสัยมาหลายครั้งในเรื่องนี้ท่านก็มาพอดี ผมทำอย่างที่ท่านกล่าวในข้อ 2 มานานมากแล้ว สามารถทำได้ตลอดเวลาจนเป็นปรกติ แต่ช่วงตื่นนอนมันจะเยอะมากคือเหมือนพลังงานต่างๆมากมายมันเพิ่มขึ้นจนรูั้สึกว่ามันล้น เหมือนมันจะรั่วออกมา เมื่อก่อนจะรั่วซึมบริเวณขาทั้ง 2ข้าง ปัจจุบัน มันจะซึมออกมาช่วงแขนส่วนบนทั้ง 2ข้าง ก็จะมีอาการแสบๆเล็กน้อยบริเวณนั้น ทิ้งไว้ 1 วันก็จะกลับมาเป็นปรกติครับ ผมก็เลยไม่ค่อยปล่อยสภาวะให้กลืนเท่าไหร่ครับผม และก็ช่วงนี้ความรู้สึกที่ก้นกบก็เกิดขึ้นเองตลอดครับ

 

1 พลังหลายสาย
จิตเหนือสำนึกมีมากมายหลายระดับ เป็นพลังงานเบื้องบนเหมือน
คลื่นโทรศัพท์มีหลายสาย ดังนั้น หากเราสมาธิไม่ดี ก็จะมีคลื่นมา
แทรกได้มากมาย หากจับสัญญาณดีๆ แน่วแน่ ทีละสายๆ ไป จะ
ได้สัญญาณที่ชัดเจน แจ่มใส ดีกว่า การเปิดกว้างแต่ผสมไปหมด

2 พลังล้น
เป็นธรรมดาของพลังจักรวาลที่เกินอินทรีย์สังขารจะรับได้อยู่แล้ว
พลังงานจึงเหมือนรั่วไหลออกไป ซึ่งเหมือนการอาบน้ำชำระล้าง
ร่างกายน่ะละครับ เราไม่จำเป็นต้องกักเก็บไว้ เพราะพลังงานนี้มี
อยู่ในจักรวาล เพียงจูนได้ก็เชื่อมโยงนำมาใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ

3 อาการแสบ
หรืออาการต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ในระดับละเอียด แต่ไม่ถึงขั้น
เป็นโรคทางการแพทย์ ดังนั้น หากไปรักษาอาจไม่พบโรคอะไร
เลยก็ได้ครับ นี่เป็นธรรมดาของ "การชำระล้าง" พลังภายในของ
เราที่อยู่ระดับต่ำจะถูกชำระล้างออกไป เราจึงมีอาการต่างๆ ได้

4 พลังตอนตื่นนอน
เนื่องจาก สมองยังว่างอยู่ จึงใสและรองรับพลังจักรวาลได้ดีกว่า
ขณะอื่นๆ ดังนั้น พลังจักรวาลจึงจูนมาหลังตื่นนอนได้ดีกว่าเวลา
อื่นครับ แต่หากต้องใช้พลังจักรวาลหรือพลังจิตเหนือสำนึกเวลา
อื่นๆ ก็สามารถทำได้ หากสมองว่างโล่ง จิตใจใสสะอาดขณะนั้น

5 พลังที่ก้นกบ
ไม่เรียกว่าพลังจักรวาล เพราะไม่ใช่พลังภายนอก แต่เป็นพลัง
ภายในตัวเราเอง เป็นพลังชีพชนิดหนึ่งในหลายๆ ชนิด ซึ่งอาจ
จะตื่นขึ้นมาได้ เพราะได้รับพลังจักรวาล หรือ พลังจากจิตเหนือ
สำนึกแต่พลังที่ก้นกบเกี่ยวข้องกับพลังจิตใต้สำนึกมากกว่าครับ

 

ขอบคุณมากครับท่านดอกไม้ เท่าที่ลองตรวจสอบดูก็มีคำตอบคล้ายกันในเรื่องของอาการแสบเล็กน้อยของกายละเอียดครับ แต่ยิ่งทำนานยิ่งแสบมากเหมือนกันครับ ก็เลยทำแค่พอสมควรครับ
ว่าแต่พลังเหล่านี้โดยส่วนใหญ่ใช้ทำอะไรกันมั่งเหรอครับผม

 

ทำได้ทุกอย่าง แบ่งเป็น 5 แบบใหญ่ๆ

1 พลังภาคผู้สร้าง
2 พลังภาคผู้รักษา
3 พลังภาคผู้ทำลาย
4 พลังภาคปราบ
5 พลังภาคโปรด

แล้วแต่เราจะเลือกจูนพลังชนิดไหนครับ

 

ขอบคุณมากครับท่านดอกไม้ หลุมดำมาทางผู้ทำลายครับผม
อ่าให้ท่านดอกไม้อธิบายตามขั้นตอนดีกว่าครับขอโทษที่ขัดจังหวะครับ

 

ไม่เป็นไรครับ ไม่ขัดอะไร เชิญสนทนากันได้ตามสบายนะครับ

 

องค์ความรู้ใหม่ๆ ถูกนำเสนอออกมา
หลายเรื่องราว....แต่รู้สึกไม่อยากรับรู้
รับทราบเพิ่มเติมอีก เพราะนี่มันเลยยุคเรา
ไปแล้ว ยอมรับในการเป็นผู้ตกยุคได้แล้วมั๊ง
ตัวเรา

 

ท่านกระต่ายคงยังร่วมสมัยอยู่นะฮะ

 

เขียน ๒๐.๕๖

ขออภัย ไม่ได้รับอนุญาติให้ติดต่อได้โดยอิสระ
จนกว่า moderator6 จะคืน bat of light
ข้อมูลข่าวสารมากมาย ต้องตกหล่นสูญไป
ก็ถือว่าเป็นกรรมของ มอดหก ละกัน นะ

เบื้องบนและเบื้องล่าง ที่ยังรอคิวสื่อสารอยู่
ก็ลงบัญชีกะ มอดหก ไว้ละกัน ที่ขวาง
อยู่ดีไม่ว่าดี เตือนแล้วก็ยังไม่ฟัง
อวดดี และดื้อรั้น คิดว่าเท่ห์

หน้าที่ทางโลก จะสู้กฏแห่งกรรมได้รึ
ทางโน้นเค้าไม่สนหรอก ใครถูกใครผิด
แต่สิ่งที่จะเกิดติดตามมาต่างหาก ที่สำคัญ
ดื้อด้านเข้าไป ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนนะ..เฮ้ย


มัจจุราช สะบัดผม / เอายูสของกูคืนมาาาา
.

 

.
เขียน ๒๒.๐๖

ด่วน..เล็กน้อย
แผ่นดินไหว ๗.๙
เราไม่เกี่ยวด้วยนะจ๊ะ
คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ นะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / มัจจุราชรับจ๊อบ
.

ปล.ต่อไปจะเจออะไรหว่า หึหึหึ

 

ถ้าจะเอาจริง ก็ต้องเสี่ยงบ้า เสี่ยงตายนะ
ผมยังต้องหาคู่หู มาประสานพลังคนละอย่างเลย
ไม่งั้นก็อุปทานไปว่าเรามีครบห้าอย่างแล้ว ฝันไปเอง


เพราะอันตรายที่จะมีพลังที่ต่างกันหลายอย่างมากเกินไปครับ

 

เมื่อผมประสานพลัง ปราบ-โปรด กับสามเณร


ครั้งนั้น สามเณรฝึกฤทธิ์ชั้นสูงมาก ผมทำหน้าที่ภาคโปรด เขาปราบ
บำเพ็ญจนได้มังกรสี่หัว ผมก็งงๆ เพราะไม่เคยเห็นมังกรมีหลายหัว?
แต่พอดูเรื่อง "โคมวิเศษเจ้าแม่หัวซาน" แล้วเลย อ้าว ในหนังมีสาม
หัว ของเราเจอจริงๆ มีตั้งสี่หัว นี่ละนะ ของจริง ยิ่งกว่าอิงนิยาย

สุดท้าย ทำงานมากไป สามเณรควบคุมฤทธิ์ไม่ได้ เขาถูกพลังครอบงำ
สาปแช่งเทวดาฟ้าดิน แช่งทุกคนหมด มังกรสี่หัว ถูกลงโทษ พระยูไล
ลงมาปราบ ถูกกักขังไว้ในภูเขาแห่งหนึ่งในโลก ผมเลยต้องบำเพ็ญต่อ
ไป เพราะเป็นคนถ่ายทอดวิชาให้เขา จะปฏิเสธไม่รู้เห็นไม่ได้ แถมโดน
ทัณฑ์สวรรค์ไปด้วย ขนาดพยายามไม่เป็นภาคปราบแล้ว ยังหนีไม่รอด


เดี๋ยวนี้จะทำอะไร ก็ทำอย่างระมัดระวังมากขึ้นแล้วครับ เพราะผลกระทบมันเยอะ