"พลังหลังบ้าน"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 22 เมษายน 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487



    นิธิพร มั่นนาค

    [​IMG]

    ไทยแลนด์แดนสยามในปัจจุบันนี้ เป็นยุคที่ได้รวมเอาวัฒนธรรมอันหลากหลายเข้าไว้ด้วยกันทั้งความเจริญทางวัตถุ แนวคิดปรัชญาแบบตะวันตก ความรู้เทคโนโลยีก้าวหน้ามากมายที่ให้เราได้ศึกษา ถามว่า...ดีไหมที่มีโทรศัพท์มือถือ ก็ดีอยู่หรอกถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน เราก็สามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น...แล้วดีไหมที่เรามีรถยนต์สวยๆ ขับ ก็ดีอยู่หรอกถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเราก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนั้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน จนบางอย่างกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เสียด้วย...ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงแค่วัตถุภายนอก เปลือกนอก ที่แม้ผู้คนจะให้ความสนใจอย่างมาก แต่คุณค่า ความสำคัญ ดูจะน้อยกว่าเรื่องภายในจิตใจ ที่ทุกคนมองข้าม

    ทุกวันนี้เราปฏิเสธได้ไหมว่า เด็กรุ่นใหม่บางคนมีจิตสำนึกเรื่องศีลธรรม จริยธรรม จรรยามารยาทน้อยมาก...ปฏิเสธได้ไหมว่า ผู้ใหญ่เองก็สะกดคำว่าความถูกต้องไม่ค่อยได้ สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนออกมาเป็นปัญหาทางสังคม ที่เข้าขั้วป่วนจนอาการสาหัสแล้ว ซึ่งเราก็อ่านเจอบนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน เน้นว่า ทุกวันนะคะ เช่น คดีข่มขืนต่างๆ การก่ออาชญากรรม ฆาตกรรม ปัญหาวัยรุ่นเรียนรู้และกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ปัญหายาเสพติด และคอร์รัปชั่นเป็นต้น...แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นไปตามทฤษฎีทางสังคมวิทยา ที่ว่า ความเจริญทางวัตถุก้าวเร็วกว่าความเจริญทางศีลธรรมเสมอ...นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงความจริงอันเลวร้าย ให้กลับกลายเป็นด้านที่สวยงามนั้น ไม่ต้องมองหาให้ยุ่งยากเลย เพราะในเมื่อปัญหาเกิดจากคน ก็แก้ไขที่คนสิคะ...และแต่ละคนมีต้นกำเนิดจากไหนล่ะ? ก็จากครอบครัวนั่นเอง...ถูกต้องแล้วค่ะ เพียงแต่คุณทำสถาบันให้เข้มแข็ง เพียงเท่านี้จะช่วยลดปัญหาต่างๆ ได้มากมาย...ถ้าครอบครัวอบอุ่น เด็กๆ ก็อยากอยู่บ้าน ดึกๆ ก็ไม่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน อุบัติเหตุก็จะลดลง คดีข่มขืนก็จะลดลง หรือถ้าสมาชิกในครอบครัว รักใคร่กลมเกลียวกัน เวลาที่ใครสักคนประสบปัญหา ทุกคนในบ้านจะช่วยกันหาทางออก และร่วมให้กำลังใจ ถ้าเป็นอย่างนี้ใครไม่รักครอบครัวก็แปลกแล้ว

    อย่างภาพของครอบครัว "ชินวัตร" ซึ่งเรื่องอื่นเราจะไม่พูดถึง แต่อยากให้มองในมุมของความเป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่ในภาวะไหน สถานการณ์เช่นไรเราก็จะเห็นว่ามีคุณหญิงพจมานและลูกๆ อยู่เคียงข้างเสมอ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันตลอดเป็นกำลังใจอันสำคัญของกันและกัน นั่นเป็นสิ่งที่เหมือนพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้คนๆ หนึ่ง สามารถยืนหยัดอยู่ได้...แม้เจอปัญหามากมาย ก็สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แม้บางครั้งอาจจะเซไปบ้าง แต่ก็มีมือคอยพยุงไว้แล้วแม้ว่าคนภายนอกสักกี่คนจะมองคนในบ้านเราในมุมไหน แต่เมื่อหันกลับไป ก็ยังคงมีสายตาแห่งความเข้าใจจากคนในครอบครัวเสมอ..ซึ่ง "พลังหลังบ้าน" นี้ เราจะเห็นได้จากครอบครัวของผู้นำในอีกหลายๆ ประเทศที่โดดเด่นและพร้อมเผชิญกับทุกอุปสรรคได้ด้วยการที่สมาชิกในครอบครัวพร้อมเดินเคียงข้างเขาทุกสถานการณ์ และเชื่อเถอะค่ะว่า ไม่ใช่แค่บุคคลที่เป็นผู้นำประเทศเท่านั้นที่ต้องการ "พลังหลังบ้าน"...ทุกคน ก็ต้องการเช่นเดียวกัน

    วันนี้...สังคมไทยจึงต้องหันมาดูแล ใส่ใจสถาบันครอบครัวให้มากยิ่งขึ้นต้องสร้างจิตสำนึกกันใหม่ รณรงค์กันใหม่ ให้สมาชิกแต่ละคนในบ้านรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองที่มีแต่สมาชิกคนอื่น ซึ่งนั่นจะทำให้เขารักตัวเอง รักครอบครัวมากขึ้น จากนั้นก็จะพัฒนาจนกลายเป็นรักสังคม และประเทศชาติในที่สุด...นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หรือจินตนาการเพ้อเจ้อ แต่เชื่อไหมคะว่า มันคือความจริงที่เกิดขึ้นได้...และสุดท้ายทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องหวาดระแวง และเกิดความกลัวอย่างทุกวันนี้ ลองร่วมพิสูจน์ไปพร้อมๆ กัน...ดีไหมคะ?



    ที่มา ข่าวสด
     

แชร์หน้านี้

Loading...