{พิเศษ} พระอุปคุต ลป. หา สุภโร กรรมฐานแพง etc

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย โอสถ, 13 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    พุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่ กรุวัดสารนาถ เนื้อพิเศษ

    รายการ show พุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่ กรุวัดสารนาถ เนื้อพิเศษ

    พระพุทโธน้อย เนื้อผงแบบพิเศษ (เนื้อน้ำมัน) ของคุณแม่บุญเรือน

    พระที่สำเร็จโดยคุณแม่บุญเรือนและเข้าพิธีใหญ่ของวัดสารนารถ ปี 2499 อีกครั้ง

    เป็นพระพุทโธน้อยวัดสารนารถ ระยอง หลังยันต์เฑาะว์ ที่งดงาม

    สภาพสวยสมบูรณ์มาก บัวนูนลึกคมชัด

    องค์นี้นอกจากเป็นเนื้อพิเศษแล้ว ยังเป็นลักษณะ พระคราบกรุจากเพดานโบสถ์วัดสารนาถ ซึ่งหมายถึงผ่านพิธีมงคลต่างๆของวัดสารนาถเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก

    พุทธคุณและความสวย ที่พิเศษเหนือกว่าปกติทั่วไป หายาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2016
  2. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    นาคปรกมงคลมหาลาภ พิมพ์ใหญ่ กรุวัดสารนาถ แบบพิเศษ

    รายการ show นาคปรกมงคลมหาลาภ พิมพ์ใหญ่ กรุวัดสารนาถ แบบพิเศษ

    พระพิมพ์นาคปรก พิธีมงคลมหาลาภ ปี 2499 วัดสารนาถ พิมพ์ใหญ่

    สภาพสวยสมบูรณ์มาก

    ความพิเศษของพระองค์นี้ คือ มีคราบกรุจากใต้ฐานพระประธาน คลุมอยู่เต็มองค์ ทำให้เป็นสีน้ำตาล สวยงามและหายาก ...
    การที่อยู่ใต้ฐานพระประธานย่อมหมายถึงผ่านพิธีมงคลต่างๆของวัดสารนาถมาอีกเป็นจำนวนมาก


    พุทธคุณและความสวย ที่พิเศษเหนือกว่าปกติทั่วไป หายาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2016
  3. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +272
    ***

    ดีครับพี่โอสถ:cool:
     
  4. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  5. tkj4078

    tkj4078 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +68
    ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับรางวัลที่ได้100วัน1000ปี ไม่เคยมีโชคลาภเหมือนคนอื่นเลยครับ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับผมจริงๆครับ ขอบคุณครับ
     
  6. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    ยินดีด้วยครับ กติกาที่ตั้งไว้มุ่งหวังให้เพื่อนสมาชิกได้รับรางวัลโดยง่ายครับ

    เราจะเห็นได้ว่า เพียงสมาชิก 3 ท่าน จองบูชาคนละ 1 รายการ ก็สามารถลุ้นรับรางวัลได้แล้ว ... และ 1 ใน 3 ท่านจะมี 1 ท่านที่ได้รับรางวัลแน่นอน

    ผมบอกข้อมูลเพิ่มเติม อาจจะเป็นโชค 2 ชั้น คือ

    วัตถุมงคลชุดที่คุณ tkj4078 บูชาไปนั้น ผมตั้งค่าบูชาไว้ ต่ำกว่าทุน หรือแบ่งให้แบบขาดทุนนิดหน่อย อาจถือว่าเป็นโชคอีกชั้นหนึ่ง

    +++++++++++++++++++
     
  7. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  8. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  9. Hermitt99

    Hermitt99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +914
    ได้รับแล้วนะครับ สวยงามมากเลยครับ
     
  10. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    ยินดีด้วยครับ พระรุ่นนี้ศิลปะและการออกแบบสวยงามมาก ผมเองยังเก็บสะสมไว้เป็นสมบัติส่วนตัว

    ส่วนชุดที่ส่งให้พวกเราล่าสุดนี้ ผิวเป็นสีทองคำ สวยผุดๆ ... ใครชอบแนวสีทองคำ รับรองไม่ผิดหวัง
     
  11. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  12. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    ปิดรายการ

    รายการที่ 36 พระนาคปรก มงคลมหาลาภ พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์ ปี2499

    พระมงคลมหาลาภ เนื้อผงโสฬสมหาพรหม วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

    สุดยอดพระเครื่องแห่งยุค พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ในรอบ 50 ปี

    ข้อมูลเกี่ยวกับพระมงคลมหาลาภ เป็นพระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อผงขาว (และส่วนผสมดังกล่าวแล้ว) ด้านหลังเป็นยันต์เฑาะดอกบัว อะอุมะ พิมพ์ใหญ่กลางเล็ก จำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ซึ่ง “พระรัชชมงคลมุนี” (พระมหารัชชมังคลาจารย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้มอบให้ “พระชอบ สัมมาจารี” วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพ ฯ สร้าง เพื่อนำมาแจกในงานสมโภชพระประธาน โดยส่ง “ผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณต่าง ๆ เป็นแท่ง ๆ ประทับตรา “วัดสัมพันธวงศ์” ให้นำมาผสม โดยเรียก “พระนาคปรก” นี้ว่า “พระมงคลมหาลาภ” ซึ่งมีชื่อของท่านคือ “พระรัชชมงคลมุนี” อยู่ในชื่อพระด้วย ในพิธีนี้แม่ชีบุญเรือนได้อธิษฐานจิตร่วมอยู่ในพิธีด้วย

    หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ องค์ประสานงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ได้บอกศิษย์ว่า “พระผงนี้ดีมาก มีรังสี สีขาว และเหลือกระจายออกสว่างไสว” นอกนั้น ท่านยังได้ขอพระผงมงคลมหาลาภที่ชำรุดประมาณ ๑ บาตรพระ นำไปบดใส่ “พระใบโพธิ์เนื้อดิน พ.ศ. ๒๕๐๐“ ของท่านด้วย

    “ เฮ็ดหยังแรงจังซี่” เป็นคำอุทานที่ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ อุทานเมื่อครั้งยังเป็นเพียงผง และท่านได้ขอพระหักไปสร้างพระโพธิจักรฉลอง 25 ศตวรรษที่วัดอโศการาม 1 บาตร ) “สมัยแรกที่ได้เอาพระมงคลมหาลาภบรรจุไว้ได้ฐานพระในกุฏิ เห็นมีรัศมีสีเขียวพุ่งออกมาเป็นวาเลย “เขียวมาเชียวน๊ะ” (พระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร) “พระองค์หนึ่ง เท่ากับพระธาตุองค์หนึ่ง เมื่อนำมาไหว้พระสวดมนต์ สามารถสื่อกับเทพพรหมได้ ทุกสวรรค์ชั้นฟ้าจรดบาดาลเลยทีเดียว” (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ทักหลานคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำที่ห้อยพระมงคลมหาลาภไปทำบุญกับท่านครั้งหนึ่ง) “พระนี้ แรงยิ่งกว่าพระกรุทุกกรุเท่าที่หลวงปู่เคยสัมผัสพลังมา แม้พระรอดมหาวันก็ไม่สู้” (คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีอรหันต์แห่งคำชะอี ที่หลวงปู่ชอบรับรองว่า สามารถเหาะไปสวรรค์ได้ทั้งกายเนื้อ) “พระมงคลมหาลาภนี้ มีรัศมีสีเขียว ดีทางแคล้วคลาดยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต้องไปหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว” (หลวงปู่คำพันธุ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม กล่าวยกย่องพระมงคลมหาลาภอย่างยิ่ง รวมถึงอาจารย์ปถม อาจสาครเอง ก็ได้เอาผงพระ “มงคลมหาลาภ” หักๆนี้ไปทำพระผงรุ่น “โสฬสมหาพรหม” 2505 ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิดในเวลาต่อมาด้วย สมกับท่านอาจารย์ ปถมบันทึกไว้เองว่า “รวบรวมผงหักป่นไว้ได้สักโหลใหญ่ พระที่ผมสร้างจึงขลัง “เพราะได้ผงหลักจาก” พระมงคลมหาลาภ นี่เอง

    ขนาดขององค์พระ พิมพ์ใหญ่ ฐานกว้างประมาณ ๒.๕ – ๓.๘ ซม. หนา ๐.๕ ซม. พิมพ์เล็ก ฐานกว้างประมาณ ๒.๒ – ๒.๕ ซม. หนา ๐.๕ ซม ด้านหลัง มีตราวัดสัมพันธวงศ์ “เฑาะรัศมีดอกบัว อ.อุ.ม. ประทับลงในเนื้อเป็นตรารูปไข่ ขนาดของความหนาไม่แน่นอน หนาบ้าง บางเฉียบบ้าง แล้วแต่ขนาด

    พิธีพุทธาภิเษกที่วัดสัมพันธวงศ์ นั้นในวันที่ 3 มีนาคม 2499 มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมานั่งปรกจำนวนมากเช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อลีวัดอโศการามพระอาจารย์นอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา หลวงพ่อสด วัดโพธิ์แดงใต้ พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี พระครูวินัยธร เฟื่อง พระอาจารย์สะอาด วัดสัมพันธวงศ์ หลวงพ่อเฮี้ยง วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี ฯลฯ

    พิธีพุทธาภิเษกที่วัดสารนาถธรรมาราม นั้นพระราชรัชมงคลโกวิท เจ้าอาวาสวัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง เคยไว้เล่าว่า พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นภูริทตโต กว่าร้อยรูป มี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์ลีวัดอโศการาม เป็นต้น ทำพิธีนั่งปรกพุทธาภิเษกพระประธาน และพระเครื่องต่าง ๆมีพระมงคลมหาลาภ พระพุทโธน้อย เป็นต้น โดยทำพิธี 18 วัน 18 คืนท่านเล่าต่ออีกว่าในชีวิตที่ท่านเกิดมา ยังไม่เคยเห็นพิธีพุทธาภิเษกที่ไหนใหญ่โตเท่าครั้งนี้อีกเลยในพิธีนี้แม่ชี บุญเรืยนได้อธิษฐานจิตร่วมอยู่ในพิธีด้วย

    เกร็ดพิเศษ พระมงคลมหาลาภ(เพิ่มเติม)
    1.สร้างจากผง"โสฬสมหาพรหม" ล้วนๆ (ผง"กูโบ๊ส" หรือที่บางคนเรียกว่า"ผงโสฬสมหาพรหม" ได้ทำขึ้นเพื่อพระชุดนี้เป็นการเฉพาะ ที่แม้แต่ท่านพ่อลี วัดอโศการามสัมผัสดูถึงกับสะดุ้ง ร้องว่า"เฮ็ดหยังแรงจั่งซี่" และขอผงพระหัก 1 บาตรไปผสมสร้างพระใบโพธิ์ วัดอโศการาม ,อาจารย์ปถม อาจสาคร เอาพระหักรุ่นนี้ไปสร้างชุด"บินเดี่ยว" หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิด)
    2.ผงวิเศษ รวมจากสุดยอดพระคณาจารย์ในยุค 2500 มากมาย
    3.พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่วัดสัมพันธวงศ์ นอกจากจะทำพิธีเสกแบบ"พรหมศาสตร์" เหมือนตอนทำผง"โสฬสมหาพรหม" (เสกก็นิมนต์พรหมชั้นโสฬสลงมาเสกด้วย)แล้ว ก็ยังได้นิมนต์สุดยอดพระคณาจารย์ในยุคนั้นอย่างมหาศาล น้องๆพระ 25 ศตวรรษ มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้นฯลฯ
    4. และยังเสกเบิ้ลที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง อีกถึง 18 วัน 18 คืน ด้วยพระสายระยอง (มีหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นอาทิ) พร้อมสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่นอีก 100 กว่าองค์ นำทีมโดยพระอาจารย์สิงห์ ขันตยคโม,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, ท่านพ่อลี ธัมมธโร ฯลฯ ในพิธีสมโภช"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่" ที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นประธานจัดสร้างและคุมงานเอง
    หมายเหตุ ...พูดง่ายๆก็คือ พระพิธีนี้ เป็นการผนึกกำลังของพระสาย"เกจิ"และ"อริยะ" ระดับสุดยอดมากเป็นประวัติการณ์ ยิ่งกว่า"พระ 25 ศตวรรษ"เสียด้วยซ้ำ (พระ 25 ศตวรรษจะมีสายวิทยาคมเสียโดยมาก แต่สายกรรมฐานมีน้อยกว่า และเสกกันเพียง 3 วัน และครั้งเดียวที่วัดสุทัศน์เท่านั้น) อีกทั้งยังเป็นพิธีที่เหมือนจะเป็นการ"ประลองฤทธิ์"กันสุดๆระหว่าง "ท่านพ่อลี วัดอโศการาม" พระอริยเถระผู้ยิ่งด้วยบุญฤทธิ์ เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายบรรพชิต" กับ"คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" ยอดหญิงอริยะผู้ยิ่งด้วยอิทธิฤทธิ์เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส" (โอย..แค่คิดก็"มันส์หยด"แล้ว....อยากมีตาทิพย์จัง จะได้ย้อนไปดูเหตุการณ์ในวันนั้น ว่างานนั้นท่านใช้ฌาณฤทธิ์ระดับสุดยอดสู้กันเปรี๊ยะๆเปรี้ยงๆปร้างๆฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย เพื่อสร้างความขลังกันสุดฤทธิ์สุดเดชถึงขนาดไหนนะเนี่ย???)
    5. สร้างจำนวนเพียง 84,000 องค์
    6.เรื่องของประสพการณ์ไม่ต้องพูด คนระยอง,จันทรบุรีรู้ซึ้งถึงเยื่อในกระดูกดี มีคนรอดตายจากพายุ เพราะมีพระนี้ห้อยคออยู่องค์เดียวโดดๆก็มีมาแล้ว
    7.พระชุดนี้ ขลังขนาดเปล่งรัศมีสีเขียวยาวเป็นวาให้พระในสมัยนั้น เห็นด้วย"ตาเนื้อ"กันจะๆได้
    8.บูชาแทน "พระผงโสฬส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่" ที่"แพงจัด"และ"ปลอมระเบิด"ได้อย่างสบายๆ เพราะนี่คือ"ต้นธาตุ"แห่ง"พระผงโสฬส" แถมยังได้นิมนต์หลวงปู่ทิม ตอนอายุ 70 กว่าๆมานั่งปรกด้วย
    9.อ.ปถม อาจสาคร หลังจากที่"ลุย"มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ถึงกับต้องยกนิ้วการันตีแบบสุดตัวว่า พระมงคลมหาลาภนี้ "แคล้วคลาดสุดยอด" ชนิด "ไม่ต้องหาพระรอดมหาวัน"ให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว.....!!!!!

    สมเด็จพระมงคลมหาลาภ สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ พระนครแล้วเชิญไปประดิษฐานเป็นพระธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ ๕-๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙ นั้น บางท่านยังไปทราบประวัติที่ควรทราบ ซึ่งเป็นเหตุจะจงใให้เกิดความเลื่อมใสสัทธา เพื่อได้เคารพบูชาให้แน่บแน่นสมกับเป็นปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลเหตุเครื่องเจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ แลลาภยศ สรรเสริญ สมบัติเกียรติศักดิ์ แลคุณธรรม คือเป็นสือสำคัญที่จะให้ใจเข้าถึงอิฐผลนั้นๆ อันนับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต สามารถให้ถึงภาวะอันเป็นอิสสระเต็มที่ มีความเกษมนิรันดร

    เมื่อสร้างแจ้งให้ทราบแต่การประกอบพิธีบันจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่ โดยสังเขป ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ ๗ สี แลอาหารผลไม้ถึงอย่างละ ๓๗๕ ที่มีเบญจา มีเสวตฉัตร ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก ๘ ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก อย่างละ ๘ ต้น บันจุพระพุทธมนต์ลงไปในน้ำ และผงที่จะสร้างพระนั้น โดยนิมนต์อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์ เข้าพิธีปลุกเศกมี

    พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร
    พระวรเวทย์คุณาจารจย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
    พระมหารัชชมังคลาจารย์
    พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป)
    พระสอาด อภิวฒฒโน วัดสัมพันธวงศ์
    พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน
    พระชอบ สัมมาจารี วัดอาวุธวิกสิตาราม ธนบุรี
    เป็นต้น

    พร้อมด้วยบันจุ เทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบันจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็นองค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเศกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง

    พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเศกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว ๗ ชั้น ผ้าเขียว ๗ ชั้น พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อบันจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่จะสร้างพระ ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี ๔๐ ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถิ่นผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง มีผู้สนใจต้องการทราบอยู่เป็นจำนวนมา จึงสมควรเขียนประวัติ เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้

    ๑. ผงขอจากพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด เช่นวัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ วัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ ผงแป้งที่ทำแลผงจากพระของเก่าบ้าง
    ๒.ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ ๑๐๘ อย่าง ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ ๑๐๘ อย่าง
    ๓. ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ ๗ ท่า และจากสระน้ำ ๗ สระ
    ๔. ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานแลสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข ๑ ถึง ๕ นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อน แล้วเอาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีนี้ด้วย
    ๕. ผงที่ได้จากดินที่สังเวชนียสถาน แห่งในอินเดียคือ ๑ ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึ่งเป็นที่ประสูดของพระพุทธเจ้า ๒ ดินที่มหาโพธิพุทธคยาที่ตรัสรู้ ๓ ดินทีสารนาถ มฤคทายวัน เมื่องพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักร ๔ ดินที่กุสินนาราซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
    ๖. ดินจากสถานที่สำคัญอีก ๙ แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จเสวยวิมัติสุข ๗ แห่ง ปริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลินเป็นต้น แลดินที่พระคัณธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าบนเขาคิชกูฏ (เมืองราชคฤห์) ๑ ดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ๓ ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์ ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระฃึกถึงแลบูชา สังเวชนัยสถานด้วย
    ๗. ผงปูนขาวหินราชบุรี
    ๘. ผงปูนซิเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง แลน้ำอ้อยเป็นต้น

    ผงเหล่านี้นั้น ประสมกันมากบ้างน้อยบ้าง แล้วบดให้ละเอียดแร่งกรองด้วยผ้าป่าน สำเร็จเป็นผงที่จะสร้างพระเครื่อง ใช้น้ำมนต์ที่ทำไว้นั้นประสมกับของที่จะทำพระให้พระมีคุณภาพดี สวยงามทนทาน ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ประสมผงพิมพ์เป็นรูป พระพุทธมงคลมหาลาภ บ้างสมเด็จบ้าง

    ส่วนพระเครื่องอื่นสร้างด้วยดินประสมผงเผาแล้วนำมา เข้าพิธีปลุกเศกในคราวเดียวกันกับพระพุทธมงคลมหาลาภเสร็จพิธีแล้วแจกจ่ายใน งานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พร้อมด้วยพระอัครสาวก ในการต่อมา พระเครื่องเหล่านี้ เมื่อแจกจ่ายแก่ผู้จำนงในงานผูกพัทธสีมา อุโบสถวัดสารนาถธรรมารามแล้ว ก็จะได้จัดการทำพิธีบันจุในอุโบสถ หรือเจดีย์ตามควร เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่วัดสารนาถธรรมาราม อันเป็นมหาปูชนียสถานในกาลต่อไปฯ

    จากบันทึกของพระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) ดังกล่าวข้างต้น อาจที่จะสรุป เพื่อความเข้าใจง่ายที่สุดก็คือ

    1. พระผงมงคลมหาลาภนี้ สร้างในงานฉลอง"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่"ที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมสร้างถวายเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ วัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ของท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ในสมัยนั้น ท่ามกลางเหตุปาฏิหาริย์มากมาย(จะได้กล่าวต่อไปในภายหลัง)

    2.ผงโสฬสมหาพรหมที่นำมาสร้างพระผงมงคลมหาลาภนี้ เกิดจากการใช้วิชาพรหมศาสตร์อัญเชิญพรหมอริยะชั้นโสฬส(สุทธาวาส) และพระผู้เป็นเจ้าของทั้ง 3 ศาสนา(พราหมณ์,คริสต์,อิสลาม) ซึ่งพระอริยคุณาธาร(ปุสโส เส็ง) และท่านผู้รู้ต่างๆกล่าวตรงกันว่า แท้จริงแล้ว "พระเจ้า"หรือ"พระผู้เป็นเจ้า"เหล่านี้ ก็เป็น"พระเถระ"ของ"พุทธ" ที่เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาตามสถานที่ต่างๆ แล้วคนรุ่นต่อมามาตีความดัดแปลงไปตามความเชื่อส่วนตัวของศาสดานั้นๆ จนเคลื่อนจากหลักเดิมไป

    3. ผง"โสฬสมหาพรหม" (ความจริงน่าเรียกว่า ผง"มหาพรหมอริยะโพธิสัตว์ผู้เป็นเจ้า" จะตรงและครอบคลุมกว่า) ไม่ได้เป็นการลบผงทีละกระดาน (ไม่ทันกิน) เลยเล่นเอาผงปูนมาเสกทีละเป็นกระสอบๆ โดยเชิญ"พระเบื้องบน"ลงประทับทำ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่แม้แต่ท่านพ่อลี วัดอโศการามเมื่อสัมผัสผงนี้แล้ว ก็ถึงกับสะดุ้งออกวาจาอุทานว่า "เฮ็ดหยังแรงจังซี่" ( อะไรจะพลังแรงได้ขนาดนี้??) ก่อนที่จะขอผงพระมงคลมหาลาภหักๆไปผสมทำพระใบโพธิ์ 25 ศตวรรษที่วัดอโศการามในเวลาต่อมา รวมถึงอาจารย์ปถม อาจสาครเอง ก็ได้เอาผงพระ"มงคลมหาลาภ"หักๆนี้ไปทำพระผงรุ่น"โสฬสมหาพรหม" 2505 ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิดในเวลาต่อมาด้วย สมกับท่านอาจารย์ปถมบันทึกไว้เองว่า " รวมรวมผงหักป่นไว้ได้สักโหลใหญ่ พระที่ผมสร้างจึงขลัง"เพราะได้ผงหลักจาก"พระมงคลมหาลาภ"นี่เอง (ใครไม่มีพระผงโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ทิมที่หายากและแพงจัด หากมีพระผงมงคลมหาลาภนี้ไว้ ก็คง"นอนหลับฝันหวาน"ไป 3 วัน 7 วันได้แล้วนะครับ.....

    4.และเมื่อเอาผง"โสฬสมหาพรหม"หรือผง"มหาพรหมอริยะโพธิสัตว์ผู้เป็นเจ้า"มากด พิมพ์สร้างพระ"มงคลมหาลาภ"แล้ว ก็ได้ประกอบพิธีทางพรหมศาสตร์อัญเชิญ"พรหมโสฬส"และ"พระผู้เป็นเจ้า" ลงเสกซ้ำอีกครั้ง พร้อมด้วยพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังยุค 2500 อย่างมหาศาล (มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมฯลฯ )ที่วัดสัมพันธวงศ์เป็นประเดิมก่อน แล้วจึงอัญเชิญไปประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกพร้อมกับ"พระพุทโธภาสชินราชจอม มุนี"(พระพุทโธใหญ่) ที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยองอีก 18 วัน 18 คืน โดยพระคณาจารย์สายหลวงปู่มั่น 100 กว่าองค์ (มีพระอาจารย์สิงห์ ขันยาคโม,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯเป็นอาทิ) พร้อมกันนี้ ก็ยังได้นิมนต์พระสายตะวันออก,ระยองมาร่วมนั่งปรกด้วย (มี หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เป็นต้น ฯลฯ) โดยมี"ท่านพ่อลี วัดอโศการาม" เป็น"เจ้าพิธี"ฝ่ายสงฆ์ และมี "คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" วัดอาวุธฯ เป็นทั้ง"เจ้าพิธี"และ"ประธานดำเนินการสร้าง/เสก" ทุกขั้นตอนเอง

    พระองค์นี้สภาพสวยสมบูรณ์ เนื้อแก่ผงโสฬสมหาพรหม หนึกนุ่มสวยงาม

    พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์ วัดสัมพันธวงศ์ สร้างให้วัดสารนาถ

    จองแล้วทาง พีเอ็ม

    แบ่งให้บูชา บาท ( ค่าจัดส่ง EMS ครั้งละ 80 บาท )
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2015
  13. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ ล.พ.ชาญณรงค์ อภิชิโต รุ่นสุดท้าย

    รายการ show พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ ล.พ.ชาญณรงค์ อภิชิโต รุ่นสุดท้าย

    พระสมเด็จ วัดเงิน (วัดรัชดาธิษฐาน) บางพรหม ตลิ่งชัน ปี 2529 ล.พ.ชาญณรงค์ อภิชิโต รุ่นสุดท้าย

    สร้างขึ้นเพื่อหาเงินไปบูรณะวัดอัมพวัน จ.หนองคาย โดยพระมหาเหลื่อมเป็นผู้ขอสร้าง มีพิธีสร้างและปลุกเสกที่วัดเงิน ตลิ่งชัน โดยหลวงพ่อเป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวด้วยกายเนื้อตลอดพรรษาทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันเดียว และยังเชิญพระในดงทุกองค์มาร่วมปลุกเสกพระรุ่นนี้ รวมทั้งท่านอาจารย์ใหญ่คือหลวงตาดำ อภิมหาปรมาจารย์ของพระในดงผู้เรืองฤทธิ์ สิ่งมงคลและทุกอย่างที่เป็นของอาถรรพ์ในโลกนี้ ท่านได้นำมาใส่ไว้ในการสร้างพระรุ่นนี้ทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นที่สุดของพระเครื่องในยุคหลังกึ่งพุทธกาล ที่จะรอสร้างปาฏิหาริย์ในวันหน้าเมื่อบ้านเมืองถึงคราวยุคเข็ญ เท่าที่สอบถามและดูรายละเอียดที่มีการบันทึกไว้ในมวลสารต่างๆของพระรุ่นสุดท้ายปี 2529 เอาแค่ที่จำได้มีดังนี้

    -พระสมเด็จวัดระฆัง ที่เป็นสมบัติตกทอดจากตระกูลท่าน
    -พระสมเด็จบางขุนพรหมจำนวนมากทั้งที่หักและสภาพดี
    -พระสมเด็จวัดเกศจำนวนหนึ่งกระป๋องนมตราหมี
    -พระพุทโธน้อยของคุณแม่บุญเรือน (ทั้งสองท่านรู้จักกันดี)
    -พระของขวัญวัดปากน้ำ(ท่านสนิทกับหลวงพ่อสดดี)
    -พระและผงของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
    -ผงพระวังหน้าและผงจากกรุวัดพระแก้วที่ได้มาจากหลังคาโบสถ์
    -ผงวิเศษและดินอาถรรพ์จากในดง ที่ท่านไปนำมาเพื่อใช้สร้างพระรุ่นนี้โดยเฉพาะ
    -ทรายจากขั้วโลกเหนือ ที่เป็นทรายเสกของพระอุปคุต
    -ใส่เขาปลาวาฬขั้วโลก(เป็นกระดูกที่งอกขึ้นบนหัวคล้ายเขาม้ายูนิคอร์น) ที่เจ้าสัวใหญ่มอบให้มา
    -ใส่ปากกา ปากเหยี่ยว จมูกเสือ เป็นเคล็ดวิชาแก้อาถรรพ์
    -ใส่ผงเขี้ยวทั้ง9 และผงเขาทั้ง 5 เพื่อแก้และกันอาถรรพ์ในป่าในดง
    -ใส่ทองอำพัน ใส่แก้วโป่งข่าม แก้วขนเหล็ก แก้และกันอาถรรพ์โลกวิญญาณ
    -ใส่ผงวิเศษที่ผู้มีบุญสูงศักดิ์ของเมืองไทยประทานมอบให้โดยเฉพาะ
    -ผงว่านสบู่เลือด ผงจ่าว่าน ผงไพรดำ
    -ใส่พระและผงจากกรุพระเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเทวดานำมามอบให้ท่าน
    -ใส่ผงจากการสร้างพระวัดลาดบัวขาวปี 2485 ที่กดไม่ทันฤกษ์และเก็บรักษาไว้
    -ผงก้นกรุพระวัดชนะสงคราม
    -ผงจากพระและผงกรุวัดสามปลื้ม
    -ผงกรุพระวัดราษฎร์บูรณะ
    -ใส่พระสมเด็จแดง สมเด็จดำ สมเด็จเขียว ที่เหลืออยู่ทั้งหมด
    -ผงจากเจดีย์เมืองหงสาวดี ประเทศพม่าที่เป็นผงพันปีจากโลกลี้ลับ
    -อีกหลายอย่างที่ล้วนหายากและเป็นของในตำนานวัตถุอาถรรพ์

    พิธีสร้างพระเครื่องปี2529 นี้ มีพราหมณ์ผู้จัดการบวงสรวงพิธีชื่อพราหมณ์แป๊ะ ซึ่งเป็นศิษย์อีกคนหนึ่งของท่าน ที่เรียกเข็มจากใต้น้ำได้ แก้อาถรรพ์วิชาได้ เป็นผู้ทำพิธีต่างๆตั้งแต่ต้นจนเสร็จ พระเครื่องรุ่นนี้ท่านสร้างไว้เพื่อให้เกิดปาฏิหาริย์ต่อผู้ใช้บูชา เพื่ออำนวยผลต่อคนในยุคหน้าที่สังคมเสื่อมทรามและโลกถึงคราวพบเคราะห์กรรม ใช้ป้องกันนิวเคลียร์ กันภัยจากรังสีร้ายแรง ท่านได้ใส่อาคมที่กันได้ในวิชาอาคมทั้ง 18 อักขระภาษา เช่นกูโบ๊ส แขก มอญ ละติน ขอม ฯลฯ กันไว้ทั้ง 10ทิศทั้งวันเปิด-วันปิดของคนบูชา ป้องกันคุณไสย ป้องกันการคัดถอนวิชาอาคมในตัว มีพยานรู้เห็นหลายคนว่า พระเครื่องรุ่นนี้ท่านปลุกเสกจนพระทั้งหมดลอยขึ้นจากพื้น (บางคนบอกว่าท่านเสกจนพระบินได้) ในพิธีปลุกเสกนั้น ไฟฟ้าในวัดทุกดวงได้ดับลงขณะท่านกำหนดสมาธิจิตจรดปากกาลงบนแผ่นจารเพื่อทำพิธีโดยที่ไฟฟ้านอกวัดไม่ดับเลย เมื่อท่านปล่อยจิตเป็นปกติไฟฟ้าก็ติดทุกดวง คนยุคนั้นและคนทั้งบางละแวกนั้นจะรู้จักพระรุ่นนี้ว่า”พระรุ่นไฟดับ”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2016
  14. ชัยชโย

    ชัยชโย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +261
    ขอทราบราคาครับ
     
  15. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  16. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  17. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    การแลกบุญด้วยเงิน

    การแลกบุญด้วยเงิน

    โยม ; หลวงปู่เจ้าขา ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่ให้ทาน เดี๋ยวก็ถวาย เดี๋ยวก็ถวาย นี่อย่างวันนี้ก็ถวายเทียน ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า กฐิน มีแต่ถวายเต็มไปหมดแสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินเสียทองสิเจ้าค่ะ

    หลวงปู่ ; อือ บุญเป็นชื่อของความสุข ทำแล้วทุกข์อย่าทำ
    โยม ; โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม ศาสนามีแต่การให้ทาน

    หลวงปู่ ; การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทาน ระดับศีล ระดับภาวนา คนใจยังไม่สูงก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว คนใจสูงมาอีกหน่อยก็ทำบุญเรื่องศีล เมื่อใจถึงระดับแล้วเขาจะทำบุญด้วยการภาวนา

    เพราะทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด บางคนทำบุญแล้วไม่รู้เรื่องบุญก็มัวแต่หาว่ามีแต่ทานแต่ทาน คนบ้าทานก็ทำทานเอาหน้า ทำทานเอาตรา ทำทานเพื่อโฆษณา แท้จริงแล้วจุดประสงค์เพื่อละตัวเรา เพื่อละของเรา อาศัยสิ่งของเพื่อละความเห็นแก่ตัว ละความถือตัวถือตน

    บางคนทำบุญทำทานไม่เป็นให้แล้วยังถือว่าเป็นเราเป็นของเรา บางคนทานแล้วประสงค์นั่น อธิษฐานนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ให้ทานเอาตัณหา ให้ทานเอาโลก ให้ทานเอากิเลส ทานที่แท้จริงต้องทานเพื่อละเพื่อทิ้ง เอาของมาทานให้หลวงปู่แล้วมาให้หลวงปู่เสกนั้นเป่านี่ อธิษฐานเอานั้นเอานี่ เหมือนหลวงปู่จะบันดาลให้ได้

    คนที่เอาเอาข้าวให้หมากินเขายังได้อานิสงค์มากว่าคนพวกนี้ เพราะเขาให้ทานเพื่อละ ให้ทานเพื่ออนุเคราะห์สัตว์ตกยาก เขาให้ทานโดยไม่ความเป็นตัวเป็นตน ไม่อธิฐานเอานั้นเอานี่จากหมา ไม่ต้องบอกหมาว่า ต้องฉันของโยม ของหนู ของฉัน นั้นคนพวกนั้นเขาทานเพื่อละเพื่อวาง

    คนที่วางตัววางตน ก็ไม่มีตัวไม่มีตน คนไม่มีตัวไม่มีตนมันจะทุกข์มาจากไหน เพราะมีตัว อะไรก็ของตัว ได้ตัวก็ได้ เสียตัวก็เสีย กระทบอะไรตัวก็กระทบ มันจึงทุกข์จึงยาก แต่ละตัวละตนเสียแล้วจะทุกข์กับอะไร ถ้าคุณเข้าใจอย่างนี้หลวงปู่เรียกคนเหล่านั้นว่าเขาทำทานเพื่อพึ่งพา ให้ทานเพื่อละ เพื่อวาง เขาจะไม่ทุกข์กับการให้ทาน เขาเป็นนักทานที่แท้จริง เข้าใจนะ

    ที่มา : คติธรรม คำสอน โดย หลวงปู่หา สุภโร
     
  18. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    เกี่ยวกับอัตราค่าบูชา พระอุปคุตสุภโร เนื้อเบญจโลหะ หลังจากที่เราเปิดให้จองในอัตราพิเศษเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วนั้น

    ทางเราจะรับจองในอัตราเดิม จนถึง วันศุกร์ ที่ 20 มีนาคม 58 เวลา 24.00 น.

    หลังจากนั้น จะปรับเป็นอัตราเดียว คือ องค์ละ 1,500 บาท

    พระเนื้อเบญจโลหะ มีจำนวนจำกัด เท่าที่ได้ลงไว้แล้ว จำนวนมีแต่จะลดลงไปเรื่อยๆ ไม่มีมากกว่านี้

    แจ้งเพื่อทราบ

    ขอบคุณครับ
     
  19. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
  20. โอสถ

    โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,545
    ค่าพลัง:
    +12,113
    วิธีการบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด

    วิธีการบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด

    โยม ; หลวงปู่ครับผมทำอย่างไรจะบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด

    หลวงปู่ ; ก็ละความอยากบรรลุธรรมของคุณสิ ได้เร็วที่สุด คุณละได้เร็วเท่าไหร่คุณก็จะบรรลุธรรมได้เร็วเท่านั้น

    โยม ; ไม่ใช่ครับผมหลวงปู่ ผมหมายถึงว่า ในการปฏิบัติธรรม วิธีการปฏิบัติของสายใดเป็นวิธีลัดให้เราบรรลุธรรมได้ง่ายๆและเร็วที่สุด

    หลวงปู่ ; เออ ก็อย่างนั้น แล้วคุณจะรีบไปไหนหล่ะ หรือทุกวันนี้คุณรีบไม่พอ เดินทางก็รีบ ทำมาหากินก็รีบ รีบไปหมด การปฏิบัติธรรมก็รีบ คุณดูนี่ (แล้วท่านก็ยกมือข้างซ้ายท่านขึ้นมา กางนิ้วมือทั้ง ห้าน้ิวออก แล้วก็เริ่มโบกเร็วๆ) คุณว่าตอนนี้มีกี่นิ้ว

    โยม ; เห็นไม่ชัดครับผม หลวงปู่ต้องโบกข้าๆครับผม ผมถึงจะเห็น

    หลวงปู่ ; นั้นๆ นี่ไงหล่ะ ขนาดคุณยังอยากให้หลวงปู่โบกมือช้าๆเลย โบกมือเร็วๆไม่เห็นนิ้วมือใช่ไหม โบกช้าๆมันจึงจะเห็นชัด การปฏิบัติธรรมหน่ะคุณเอ้ย มันไม่มีอะไรเร็วได้ดอก รีบทำ รีบทำ มันไม่เห็นปัญญานะ ถึงเห็นมันก็ไม่แจ้ง ต้องค่อยๆทำ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่อย่าหยุด เดินทุกวัน ทำทุกวัน ภาวนาทุกวัน ขี้เกียจขี้คร้านก็ทำ ขยันหมั่นเพียรก็ต้องทำ อย่าหยุด ค่อยเป็นค่อยไป พวกคุณใช้ชีวิตแบบเร่งๆรีบๆจนเคยตัว เลยคิดว่าการพ้นทุกข์นั้นก็รีบได้

    ยิ่งพวกคุณอยาก พวกคุณรีบ ยิ่งพวกคุณปฏิบัติสุกเอาเผากิน ธรรมมะก็ยิ่งจะหนีห่างพวกคุณออกไปไกลเรื่อยๆ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ สังเกตุไปทุกระยะ ตั้งสติอย่าขาด อย่าวาดอนาคต อย่าผูกอดีต อย่าอยาก การปฏิบัติธรรมให้เหมือนการเอามือกำนกตัวน้อยๆ กำแรงนกก็ตาย กำเบานกก็บินหนี กำให้มันพอดี อย่าเบาอย่าแรง อย่าเร่งอย่ารีบ อย่าอยากมุงหลังคาทั้งๆที่ยังไม่ตั้งเสายังไม่เทพื้นเทคาน ทานเป็นเหตุชำระกิเลสอย่างหยาบมีศีลเป็นผล ศีลเป็นเหตุชำระกิเลสอย่างกลางมีสมาธิเป็นผล สมาธิเป็นเหตุชำระกิเลสอย่างละเอียดมีปัญญาเป็นผล ปัญญาเป็นเหตุรู้รอบในกองสังขารทั้งปวงมีวิมุติความหลุดพ้นเป็นผล

    ทำไปตามขั้นตามตอน อย่าอยากอย่าเร่งอย่ารีบ ถ้ามันบ่มให้สุกได้อย่างกล้วย อย่างมะม่วง มันก็ดีหน่ะสิแต่ในความเป็นจริงมันทำไม่ได้ ไม่มีใครลัดได้ดอก ดูความยากของการปฏิบัตินะ มันจะได้ละอยาก ละความห่วงในโลก อันนั้นหล่ะคุณจะได้ไวไว

    ที่มา : คติธรรม คำสอน โดย หลวงปู่หา สุภโร
     

แชร์หน้านี้

Loading...