พุทธวจน-เราเป็นใคร-มาจากไหน-ในเมื่อตัวเราไม่ใช่เรา จิต ก็ไม่ใช่เรา..

มันเห็นชัดเลย
คนที่ภาวนาจนจิตทิ้งขันธ์ได้
จนกลายเป็นจิตดวงเดียว

กับคนไม่ภาวนาแล้วมาคิดวิเคราะห์
วงจรปฏิจฯ
มันจะว่าจิตคือเป็นวิญญาณขันธ์ทั้งนั้น..

จิตที่อยู่เหนือขันธ์ห้ามันนึกไม่ออกเพราะไม่เคย
ภาวนาเจอ

เหมือนต้นไม้ทั้งต้น
เรามองเห็นแต่ส่วนบนดิน
ส่วนรากมันมองไม่เห็นเพราะดินมันปิดไว้

ในวงจรปฏิจฯก็เหมือนกัน
ส่วนที่เป็นนามรูป
(ขันธ์ห้า รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ)
ส่วนนี้พอเรียนรู้ได้

ส่วนที่อยู่เหนือนามรูปมีอยู่
วิญญาณ สังขาร. อวิชชา
ส่วนต้องภาวนาเอาจึงจะเห็น

ที่นี้ตำราดันเอาคำเหมือนกันมาใช้ร่วมกัน
สังขาร วิญญาณ ในนามรูป
สังขาร วิญญาณ ที่อยู่เหนือนามรูปก็มี

นามรูปคือขันธ์ห้า น่าบอกให้ชัดไปเลย
สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์

ส่วนที่อยู่เหนือนามรูป
จิตสังขาร จิตวิญญาณ
แต่ถ้าไม่ภาวนาก็หาส่วนนี้ไม่เจอ
แล้วคิดว่าไม่มี ปัญหามันอยู่ตรงนี้

การพิจารณาวงจรปฏิจฯมันถึงไม่ทะลุ
ไปในส่วนที่อยู่เหนือนามรูป

ก็เห็นมามากที่ยกเอาปฏิจฯมา
แล้ววิเคราะห์แต่ขันธ์ห้านามรูปทั้งนั้น
แล้วบอกว่าเข้าใจหมดแล้ว

อย่างจิตยิ้มยกมา
แต่เวลาอธิบาย..ตัวเองยังเข้าใจว่าจิตอยู่ที่สมองอยู่นะ

มันก็ไม่แปลก..

 

คำของพระพุทธองค์
ไม่มีขัดแย้ง
ชัดเจน และ ครอบคลุมทางพ้นทุกข์

ใครศึกษาแล้วบอกตำรา
น่าจะเพิ่มนั่น บวกนี่ ให้ใช้คำง่ายๆ
ต้องมาเข้ากลุ่มหลังไมค์
ถามจริง

เมิงเปนใคร วะ

...
เหนือสังขตธรรม ก็ อสังขตธรรม
ท่านตรัสไว้แล้ว
ยังเจือกไปบัญญัติ ว่าจิตเหนือนามรูป

ภาวนาจนจิตเที่ยง
เฮียจน +++

 

ในภาคของการภาวนาจะเห็นชัด
ภาวนาจนเหลือจิตดวงเดียว
แล้วออกจากกายไปเที่ยว ด้วยดวงจิตอย่างเดียว
ไปเที่ยวส่องดูโน้นนี้นั่น
ไปด้วยดวงสว่างนั่นนะเห็นชัด

แต่ถ้าถอดแบบมีกายละเอียดที่เรียกว่า
กายทิพย์หรือเรียกว่าจิตวิญญาณก็ได้
ท่องไปในภพภูมต่างๆ
อย่างนี้จะเข้าใจชัดว่าจิตวิญญาณเป็นอย่างไร..

 

อิอิ

 

ไปรับรู้ได้อย่างไรหรือคะ?

งั้นถามกลับก่อนค่ะ ได้ติดตามอ่านโพสของจิตยิ้มทุกโพส หรือเปล่าคะ ถ้าใช่ก็จะรู้ว่าเกือบห้าปีที่ผ่านมาจิตยิ้มจะ โพสแต่เรื่องธรรมโลกุตระ และเรื่องจิตจักรวาล และสัจธรรมเหนือมิติโลกซะเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหมคะ?

งั้นก็แสดงว่าตลอดระยะเกือบ 5 ปี จิตยิ้มจะกล่าวเรื่องแบบนี้เสมอมา หากบุคคลใดมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอยู่แต่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าเขาจะต้องพบและเจออะไร ๆ ในสิ่งเหล่านั้นอย่างแน่นอน ตามปกติธรรมดาสามัญที่ควรจะเป็นใช่ไหมคะ?

ทุกคนที่รู้อยู่แล้วว่าจิตยิ้มไม่ใช่คนโอ้อวด รู้บอกว่ารู้ ไม่รู้บอกว่าไม่รู้ ไม่ใช่บอกว่าไม่ใช่ ผิดก็จะยอมรับผิดทันที นี่คือนิสัยของตนเอง ที่ต้องนำธรรมโลกุตระมากล่าวในยุคกึ่งพุทธกาล ที่เกี่ยวกับองค์ธรรมิกราชา ที่ต้องเปิดเผยอาจเพราะว่าเหตุปัจจัยอะไรบางอย่างก็ได้ค่ะ ทั้ง ๆ ใครก็รู้ว่าระดับความสามารถของจิตยิ้มเมื่อเทียบกับใครหลาย ๆ ในที่นี้ ความสามารถแค่หางอึ่งเองเท่านั้นค่ะ

แต่ธรรมโลกุตระที่ตนเองพบเจอ ขอย้ำนะคะ พบเจอเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น มีทั้งสภาวะที่เหนือโลก และสภาวะปาฏิหาริย์ในโลก รวมแล้วเกือบ 20 สภาวะ ซึ่งเป็นสภาวะสัจธรรมเหนือมิติโลก ไม่ต่ำกว่า 8 สภาวะ แต่..ฝ่ายมารไม่ต้องคิดอะไรกับจิตยิ้มกันหรอกนะคะ เพราะจิตยิ้มไม่มีอะไรเลยค่ะ หากว่าบุคคลใดคิดว่าจิตยิ้มไม่ใช่บุคคลธรรมดา แล้วจะมีการจัดการ คิดผิดค่ะ จิตยิ้มไม่มีอะไรที่ต้องเล่นงานเลย ธรรมดามาก ๆ (ออกตัวไว้ก่อนค่ะ)

5555 อารัมภบทมาต้องเยอะกว่าจะเข้าเรื่องได้...

ยุคนี้เป็นยุคกึ่งพุทธกาลค่ะ เป็นยุคเข้าสู่พลังงานใหม่ ใครที่เป็น fc จิตยิ้ม จะรู้ได้ค่ะคืออะไร ที่โลกเราเกี่ยวกับภัยธรรมชาตินั้นมีสาเหตุใดมาจากสิ่งใด!!

ยุคนี้จะเข้าถึงสัจธรรมเหนือมิติโลกกันได้ง่ายกว่าเดิม มีการเปิดให้เห็นสัจธรรมในธรรมชาติ เนื่องจากการยกระดับพลังงานมิติโลกให้สูงขึ้นค่ะ

และปัจจุบันนี้เฉพาะบุคคลในเว็บพลังจิตนี้นะคะ เท่าที่ทราบน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 คน ที่จิตยิ้มอ่านความเห็นยองเขาที่สามารถมองเห็นสัจธรรมเหนือมิติธรรมชาติได้ในปัจจุบันนี้

และในอนาคตอันใกล้นี้ มนุษย์จะสามารถมองเห็นบางอย่างที่เหนือธรรมชาติได้ ที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าอยู่คนละมิติกันกับโลก แม้ยังไม่บรรลุสภาวะการรู้แจ้งเหมือนยุคพลังงานเก่าเลยก็ตาม ซึ่งมนุษย์ทั่วไปอาจคิดว่า เป็นเรื่องอัศจรรย์ ลึกลับหรือเหลวไหล แต่ความจริงในข้อนี้ มนุษย์ทุกคนมีโอกาสจะได้เรียนรู้ความจริงมันได้ด้วยตนเอง ในช่วงอายุขัยที่เหลืออยู่บนดาวเคราะห์โลกนี้อย่างแน่นอน แม้จะเป็นการสัมผัสที่ไม่ใช่การรู้แจ้งก็ตาม จิตยิ้มยืนยันเพราะสัมผัสมาแล้ว แต่คนเราอาจจะสัมผัสสิ่งอัศจรรย์นั้นได้ต่างสภาวะกันไปแล้วแต่บุคคล แม้จะไม่ใช่สัมผัสในลักษณะผู้รู้แจ้งก็ตามค่ะ มนุษย์จึงเตรียมตรวจสอบตนเองและรอรับรางวัลนี้กันด้วยความยินดีกันได้แล้ว (แต่จะได้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมา ก็ต้องสร้างเหตุนั้นไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่ได้มาโดยลอย ๆ หรือบังเอิญนะค่ะ)

ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่า "ยุคอภิญญาสาธารณะ" ก็ด้วยเหตุนี้แหละค่ะ

 

ท่านใครบรรลุธรรมไม่เห็นด้วยตรงจุดไหนคะ จะได้เอาเหตุและผลมาแย้งกันให้ได้ความจริงค่ะ

 

แสดงว่า จิ ยิ้ม กำลังคัดง้าง กับพระสูตร
ว่า นิพพาน ไปเที่ยวได้เป็นครั้งคราว
อาจจะมีบางคนฟลุ๊ค ไปเห็นได้ครั้งสองครั้ง
Ok ปิดจ๊อบ ไม่ต้องตอบข้ออื่นแล้ว

ป่าราบ.......

ไอ้เสือ ถอยยย

 

ใครว่าจิตเที่ยงคะ

พุทธองค์ก็ตัสไว้ว่า จิต มโน วิญญาณ คือ ขันธ์ห้า คือ ร่างกาย ไม่เที่ยงนะคะ

 

จิ ยิ้ม
กำลัง ตั้งสำนัก พุทธมหายาน สายที่ 999

ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
ถ้าใครมีลูกศิษย์มาก นั่งมาธิ ใช้หมอง
ไปพบเจอสภาวะ ก็เอามาสอนลูกสิทธิ

พอเจอพระสูตรตบหน้า มันก็จะบอกว่า
อรหันต์ ถอยหลังได้ เฮ่ย!!!

แล้วก็แยกนิกาย แม่มเลย ........


อรหันต์ ก็เลยยังถอยหลังได้ อยู่ทุกวันนี้
ไม่เข้าโลกตระ ไปให้พ้น ๆ ซักที
หยิบ ฉวย พลังงานจล โลกกุตระมาดม
แล้วก็พาศิษย์ เข้าไปวิ่งเล่น...


ฟินกันไป.............

 

เข้าใจผิดแล้วค่ะ ใครว่าไปเที่ยวนิพพานคะ

เป็นการสัมผัสสัจธรรมเหนือมิติโลกด้วยอายตนะรู้ ในสภาวะที่รู้อยู่ นิ่งว่างอยู่ ด้วยการพิจารณาในสัจธรรมและปรากฎให้เราเห็นและรับรู้ได้ค่ะ เหมือนการเห็นในอีกมิติหนึ่งที่สูงกว่า และสภาวะนั้นมันอธิบายด้วยสภาวะด้วยตัวมันเอง โดยที่เราไม่ได้นึกคิดปรปรุงแต่งสิ่งใด ๆ เลยค่ะ

 

5555 แสดงว่ายังไม่เคยพบนะซิ ถึงกล่าวแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยนะ ถามลุงแมวดูซิคะ หรือท่านอณูธาตุ หรือท่านสงบ มีหลายคนค่ะ จำชื่อไม่ได้แล้ว

 

องค์สหธรรมมิก ทีว่านะ

ไม่ใช่ความว่างหนึ่งเดียวกับจักรยานเหรอ
ว่างหนึ่งเดียว แล้วยังมีตัวเป็นขันธ์
แยกออกมาอีกได้งัยอะ

นิพพานน่าจะธรรมชาติเนื้อเดียวกันหมดนะ

แยกขันธ์ออกมาแสดงละคร ในสังสารวัฏอีกได้อิหยังอะ

 

อย่าพบอะดีแล้ว

ถ้าได้พบแบบนี้ ไปดูบอลดีกว่า

เดินจงกลม ใส่บาตรกรวดน้ำ
ยังฟินกว่านะ

ว่าแต่จิงดิ ลุงแมว

ลุงแมว ก็พบองค์สหธรรมมิกแว้วเหยอ!!!

โหย ไม่มาอัพเดตให้ฟังหน่อยเล้ยยย เสียจายยย

 

เห็นสัจธรรมในธรรมชาติ ก็ต้องอยู่ในเนื้อธรรมชาติซิคะ

 

ฮั่นแน่... มีถาม
ลุงแมวด้วย55

 

แล้วอ่านข้อความในเหตุผล กับคำสอนในพระไตรปิฎกของพระพุทธเจ้าก็ไม่อาจค้านได้แล้วค่ะ ยกเว้นเสียแต่ว่าไม่ยอมเปิดของที่คว่ำนะค่ะ

 

อยู่ในเนื้อจริงอะ

แล้วยังไปรู้ว่า คนนี้เป็นองค์นั้น องค์นี้ได้ไง

มันยังแยกตัวละคร ได้อีกแหนะ
มึนแว้วนะ .....

 

จิ ยิ้ม เคยได้ยินไหม

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

คือเนื้อเดียวกันอะ....


แล้วองค์ สหธรรมมิก มาจากไหน

 

ความสามารถในการบรรยายอะไรยาว ๆ
ในเรื่อง ๆหนึ่ง

มันไม่ใช่การการันตี ว่าคนนั้นเข้าใจธรรม
หรือเข้าถึงธรรม จริง ๆได้หรอกนะ


ความสามารถแบบนี้ หาได้ดาษเดื่อน
อย่างวิทยากร บรรยายสัมนา

หรือยกตัวอย่าง
ท่าน ป ปยุตโต
ลองให้ท่านพูดเรื่องเกี่ยวกับศีล 5
แค่หัวข้อเดียวดิ

ท่านเขียนออกมาได้เป็นเล่ม ๆ


ไม่ใช่เครื่องวัดสอบ การันตีอะไร
ว่าคนนี้ เข้าถึง โลกุตระ ลึกซึ้งจริง

 

สัจธรรมชาติไม่มีแยกองค์ แยกคนค่ะ

- ความว่างที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ
- จิตพ้นไปจากโลก
- สภาวะเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
- การเห็นธรรมชาติไร้แก่นสาร มีโหวงเหวง ไม่มั่นคง เหมือนสารลอยแขวนในอากาศ
- การเข้าถึงสภาวะจิตพุทธะผ่านในกายนี้ โดยผ่านคลื่นสั่นสะเทือนลงไป พบกับการอธิบายสัจธรรมความจริงที่ไม่อาจสามารถปฏิเสธได้
- และอีกหลายปรากฎการณ์ที่สามารถทำให้รอบรู้และเข้าใจในพระไตรปิฎกได้ เพียงแค่อ่านรู้ได้ว่าคืออะไร นะค่ะ