"พเยาว์ พูลธรัตน์" ตายสงบ สิ้น "ฮีโร่'โอลิมปิก"

"พเยาว์ พูลธรัตน์" ตายสงบ สิ้น "ฮีโร่''''โอลิมปิก"

<center>"พเยาว์ พูลธรัตน์" ตายสงบ สิ้น "ฮีโร่''''โอลิมปิก" </center>
<!--detail--><!--images--><center>
</center>
<!--images-->สิ้น "พเยาว์ พูลธรัตน์" ฮีโร่เหรียญโอลิมปิกคนแรกของไทย เผยป่วยด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมถอย หรือเอแอลเอส มานานกว่า 5 ปี ต้องนอนรักษาร.พ.เรื่อยมา เผยกลางดึกอาการกำเริบ หมอต้องปั๊มหัวใจ ก่อนจะสิ้นใจอย่างสงบที่ศิริราช หลังรักษาตัวมานาน ลูกเมียตั้งศพสวดที่วัดตรีทศเทพ ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และขอพระราชทานเพลิงศพ นอกจากคว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกแล้ว ยังเป็นแชมป์มวยโลก ก่อนจะหันมาเล่นการเมืองจนได้รับเลือกเป็นส.ส.ประจวบฯ
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 13 ส.ค. นางอดาวัลย์ พูลธรัตน์ อายุ 38 ปี อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 3 พรรคไทยรักไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ สามี อดีตส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เสียชีวิตแล้วอย่างสงบที่ร.พ.ศิริราช ด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมถอย หรือเอแอลเอส หลังจากป่วยมาตั้งแต่ปี 2545 จากนั้นตระเวนรักษาอาการป่วย ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย จนกระทั่งเสียชีวิต โดยก่อนเสียชีวิตมีอาการโคม่าและพูดไม่ได้ตลอดค่ำวานนี้
นางอดาวัลย์ กล่าวต่อว่า พเยาว์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ธ.ค. 2548 เป็นเวลานานกว่า 8 เดือน ที่ผ่านมาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลายแห่งตั้งแต่ปี 2545 หลังจากทำหน้าที่ส.ส.ได้เพียง 1 ปี สำหรับศพจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดตรีทศเทพ กทม. จะทำพิธีรดน้ำศพในวันที่ 14 ส.ค.นี้ เวลา 17.00 น. พร้อมกับขอพระราชทานเพลิงศพ เนื่องจากที่ผ่านมาร.ต.อ.พเยาว์เป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในฐานะวีรบุรุษเหรียญทองแดงโอลิมปิก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังตึกอัษฎางค์ บริเวณหออภิบาลการหายใจ ชั้น 2 ร.พ.ศิริราช ที่เป็นห้องรักษาอาการป่วยของร.ต.อ.พเยาว์ หรือพงศพัฒน์ พูลธรัตน์ พบว่ามีนางอดาวัลย์ น.ส.รมณ พูลธรัตน์ อายุ 20 ปี และนายบัณณพัฒน์ พูลธรัตน์ อายุ 16 ปี ลูก พร้อมญาติจำนวนหนึ่งยืนรออยู่หน้าห้องผู้ป่วยเพื่อรอรับศพ ก่อนที่จะนำออกมาในเวลา 17.40 น. เพื่อไปเก็บไว้ในห้องเก็บศพของร.พ.
ด้านน.ส.รมณ ลูกสาวนักชกเหรียญทองแดงโอลิมปิก กล่าวว่า ตนเป็นลูกคนโต ศึกษาอยู่ที่มศวประสานมิตร กรุงเทพ ศึกษาอยู่สาขาการท่องเที่ยว ปี 3 ส่วนน้องชายอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร.ร.วชิราวุธ กทม. ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิตนั้นมารักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ศิริราชอยู่นานแล้ว ที่ตึก 84 ปี ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ตึกอัษฎางค์ ในช่วงค่ำโดยอาการทั่วไปของคุณพ่อปกติดี ดูแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก เวลา 24.00 น. ตนกับคุณแม่จึงเดินทางกลับบ้านพัก
"หลังจากนั้น เวลา 04.00 น. คุณหมอที่โรงพยาบาลโทร.มาหาที่บ้าน บอกว่าพ่ออาการไม่ค่อยดีเลย จึงรีบเดินทางไปที่ร.พ.ทันที คุณหมอบอกว่า ในเวลา 03.40 น. มาวัดความดันโลหิตยังปกติดีอยู่ แต่ช่วง 04.00 น. พบว่าพ่อไม่มีอาการตอบสนองกับคุณหมอเลย หมอจึงปั๊มหัวใจประมาณ 10 นาที และก็ไม่รู้ตัวอีกเลย ก่อนที่คุณหมอจะนำคุณพ่อเข้าไปในห้องหออภิบาลการหายใจ และเสียชีวิตในเวลา 15.20 น. ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมถอย" น.ส.รมณกล่าว
สำหรับประวัติ ร.ต.อ.พเยาว์ เกิดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2499 เริ่มต้นเส้นทางบนผืนผ้าใบด้วยการชกมวยไทย ก่อนจะผันตัวเองมาต่อยมวยสากลสมัครเล่น แล้วสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาเมืองไทย โดยเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองแดงเป็นเหรียญรางวัลแรกจากกีฬาโอลิมปิก ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในปี 2519 ก่อนจะหันมาชกมวยสากลอาชีพ และได้เป็นแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวท ปี 2526 และป้องกันแชมป์ถึง 8 ไฟต์ ติดต่อกันก่อนจะแขวนนวม
ร.ต.อ.พเยาว์ เข้าสู่สนามการเมืองด้วยการเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2544 เป็นส.ส.คนเดียวของพรรค ที่สามารถชนะเลือกตั้งในจ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากพ่ายแพ้มาเกือบ 20 ปี โดยสามารถล้มตระกูลการเมืองเจ้าของพื้นที่มานาน แต่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งปี 2548 โดยให้ภรรยาลงสมัครส.ส.ในพื้นที่เดิม ในนามพรรคไทยรักไทยแทน
ร.ต.อ.พเยาว์ จบการศึกษาชั้นปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เมื่อปี 2530 เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อก่อสร้าง ธนาคารกรุงเทพ และอดีตวิศวกร กองโยธาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ มงกุฎไทย เมื่อปี 2539
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
ภาพจากหนังสือพิมพ์