พ่อ เเม่ พระในบ้าน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย siamgirl, 18 มิถุนายน 2009.

  1. siamgirl

    siamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,682
    ค่าพลัง:
    +2,742
    เรามักจะคิดกัดว่า ถ้าจะต้องไหว้พระก็ต้องไปหาหรือไหว้ท่านที่วัด บางคนก็ไปกราบไหว้พระพุทรุปที่เป็นพระประธานในโบสถ์หรือพระพุทธรุป สำคุญๆต่างๆ อันเป็นที่เคารพบูชาก็ดีค่ะ เเม่ชีไม่ว่าอะไร เพราะการที่เรากราบไหว้สิ่งที่ควรบูชา ก็นับว่าเป็นสิริมลคงเเก่ตัวเราผู้หราบไหว้อยู่เเล้ว ส่วนบางคนก็ไปหาหรือกราบไหว้บูบาพระภิกษุสงฆ์ทั้งที่มีชื่อเสืองเเละไม่มีชื่ออันเป็นที่เคารพนับถือ นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เเต่ที่สำคัญก็คือ พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสไว้ว่า....

    --ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต--

    ซึ่งมีความหมายว่า

    ผู้ใดเข้าใจเเละปฎิบัติตามพระะรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ดีเเล้วชอบเเล้ว ผู้นั้นย่อมเป็นคนดีที่เข้าถึงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ีือพระศาสนาอย่างเเท้จริง


    เเต่ก็ยังมีคำถามอีกว่า ถ้าอยากจะไหว้พระโดยไม่ต้องไปวัดละ จะทำได้ไม่

    ได้ค่ะ.ก็ไหว้พระในบ้านซีค่ะ

    ไม่ใช่พระพุทธรุปในห้องพระหรือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาด้วยนะ เเต่เป็นพระในบ้านทีเ่ปรียลบได้กับพระอรหันต์ทีเดียวละ
    ไม่ต้องหันหน้าไปมองหาใคร พ่อ-เเม่ ของเราเองนี่ละ เมือ่ได้กราบไหว้ ท่านย่อมได้อานิสงฆืผลบุญเหมือนกับได้กราบไหว้พระอรหันต์เชียวนะจะบอกให้

    คำว่า พ่อ กับ เเม่ เป็นคำที่น่าฟังไพเราะเสนาะหูไม่ว่าจะอยู่ในภาษาของคนชาติใดภาษาใด เเละผู้เป็นลูกหรือในยามที่ลูกยังเป็นทารกกำลังหัดพูดอยู่นั้น ก็จะพ๔ูดสองคำนี้ได้ก่อนสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนว่า เเม่ ในภาษาไทย อาม่า หรืออาเเหมะ ในภาษาจีน มัม หรือ มอม หรือ มัทเซอร์ ในภาษาอังกริด หรือเเม้เเต่ มาตา ในภาษาบาลี เช่นเดียวกับคำว่า พ่อ หรือ อาปา หรือ ป๊ะป๋า หรือบิดา นับว่าคนที่คิดคำที่มีึความหมายว่าพ่อกับเเม่ชึ้นมาน่าจะเป็นอันฉริยะท่างภาษา หรือไม่ก็คิดขึ้นมาจากความรู้สึกเเละหัวใจโดยเเท้

    นอกจาก พ่อ-เเม่ จะเป็นพระในบ้านเเล้วในทางพระพุทธศาสนายังเรียกคนที่เป็นพ่อ -เเม่ ว่าเป็น พรหม ของบุตรธิดาเพราะผู้เป็น พ่อ-เเม่ นั้นท่านมีคุณธรรมของ พรหม อยู่ นั้นก็คือ

    -เมตตา

    พ่อเเม่ ย่อมปรารถนาความสุขความเจริญเเก่ลูก
    -กรุณา
    พ่อเเม่ย่อมสงสาร อยากจะช่วยลุกให้พ้นจากความทุกข์ ความเดือดร้อน
    -มุทิตา
    พ่อเเม่ ย่อมยินดีเปลินใจเมือ่เห็นลูกมีความสุข ความเจริญ ห้าวหน้าในชิวิตการงาน
    -อุเบกขา
    พ่อเเม่ ย่อมวางเฉยไม่เข้าไปข้องเกียวเมื่อเห็นว่าชีวิตของลูกปรกติดีเเล้ว ยามใดที่มีปัญหาจคงเข้ามาเเก้ไข

    พ่อ เเม่ คือ เทวดา เเละร่มโพธิ์ร่วมไทรของลุก เพราะท่านคือผู้ที่ให้ความคุ้มครองรักษา มีคำกล้าวว่า ..บ้านเรื่อนใดมีการเคารพบิดามารดา บูชาบิดามาร บ้านเรือนนั้นมีเทวดา รักษาบ้านเรือนใดไม่มีการเคารพบิดามารดา ไม่บูชาบิดามารดา บ้านเรือนนั้นย่อมไม่มีเทวดารักษา..

    คำว่าเทวดาในที่นัี้ก็คือ คุรงามความดีนั้นเอง ไม่ใช่รูปเทวดาที่วาดไว้ตามฝาผนังหรือรูปปั้นของเทวดาองค์ไหน ความรักที่ลุกมีให้กับพ่อเเม่ จึงย้อนกลับมารให้ความร่มเย็นเป็นสุขเเต่ลูกเหมือนดังมีร่มโพธิ์ร่วมไทยคอยให้ร่มเงา เเละย่อมฝ่อนคลายความร้อนจนสดชื่นสบายกายสบายใจ

    พ่อ-เเม่คือ ครูคนเเรกของลุกคำกล่าวนี้ย่อมถูกต้อง ที่นุด เพราะผู้ที่สอนให้เราหัดกิน หัดนั่ง หัดยืน หัดเดินคนเเรก ก็คือพ่อก้บเเม่นั่นเอง เเละก่อนที่ลุกจะไปโรงเรียนเพื่อหัดเขียนอ่าน ลุกก็ต้องผ่านการสอนของพ่อเเม่อีกมากมายเกินกว่าจะพรรณาได้ในที่นี้

    เเม่ชีก็บรรยายมายืดยาม ตอนนี้มาเข้าเรื่อง กรรม ของเราต่อดีกว่า...

    ลูกดื้อคือกรรมเก่า

    คุณโยมคนหนึ่งเข้ามาปรึกษาเเม่ชีด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า
    --เเม่ชีขา..ไม่รู้ว่าลุกมีกรรมอะไร ทำไมลุกเเท้ ๆที่ให้กำเนิดมาด้วยตัวเอง ถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้ ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตามคำสั่ง หรือคำสอน จะป็นเพระากรามเก่ามาเเต่ครั้งก่อนหรือเปล่าค่ะ..--

    ** เมื่อมีผลมันก็ต้องมีเหตุค่ะ นอกจากจะเป็นกรรมปัจจุบันที่คุณโยมเคยทำไว้ นั่นก็คือ โยมไม่เต็มใจที่จะให้ลุกเกิดมาเท่าไหร่ เเถมยังเคยคิดที่จะเอาออกด้วยใข่ไม่ค่ะ**

    --ค่ะ..เเม่ชี เเต่ตอนนี้ลุกก็พยายามเลี้ยงลุกอย่างดี ตามใจเอาอกเอาใจลุกทุกสิ่งทุกอย่าง เเต่ลุกก็ยังดื้อเเพ่งไม่ยอมเชื่อฟัง อยู่ดีค่ะ..--

    **งั้นตอบคำถามเเม่ชีก่อนนะค่ะ โยมมาปรึกษาเเม่ชีเรือ่งลุกของโยมในฐานะทีโยมเป็นเเม่ เเล้วในฐานะที่เป็นลูกละค่ะ โยทมปฎิบัติต่อพ่อเเม่ของโยมยังไง**

    คุณโยมอื้งไปเล้กน้อย ก่อนจะตอบว่า
    --ไม่ได้ปฏฎิบัติยังไงหรอกค่ะ เพราะไม่ได้อยู่กับพ่อเเม่มาตั้งเเต่เด็กเลยไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่--

    **งั้นเเม่ชีจะบอกให้ว่า คุณโยมก็เป็นลูกที่มีกรรมเก่าติดตรมตัวมา ตอนที่โยมจะเกิด พ่อเเม่ก็ไม่หร้อมให้โยมเกิดมาถึฃ กับเคยไปเอาออก เเต่โยมก็หัวเเข็งอยู่รอดมาได้ เมื่อเกิดมาเเล้วพ่อเเม่ ก็ยังไม่พร้อมจะเลี้ยงดู ก็เลยต้องให้โยมไปอยู่กับคนอื่น เเละคนอื่นก็เลี้ยงดูโยมมา โยมก็เลยรู้สึกว่าน้อยในกับสิ่งที่พ่อกับเเม่ทำกับโยมอยู่ในใจ ใช่ไม่ค่ะ..**

    --ใช่ค่ะ รู้สึกน้อยใจเเล้วก็ไม่ค่อยรักหรือนับถือพ่อเเม่ซักเท่าไหร่เเต่ลูกก็ไม่ผิดไม่ใช่หรือค่ะ--

    **ผิดค่ะ..ผิดในฐานะที่เป็นลุกถึงจะไม่ใช่ลูกที่พ่อเเม่เลี้งดูมาเเต่ก็เป็นเลือดเสื้อเชื้อไขจากการปฎิสนธิของสายเลลือดผู้เป็นพ่อ ส่วนหนึ่งกับไข่ของคนที่เป้นเเม่ เเล้วยังดูดกินอาหารจากเลือดเนื้อของเเม่อยู่ในท้องถึงเก้าเดือน เเล้วจะบอกว่าเเม่ไม่เลี้ยงได้ยังไง โยมต้องไม่คิดว่าเป็นความผิดของพ่อเเม่ซิค่ะ ท่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพียงเเต่ไม่หร้อมเท่านั้น เเละนั่นก็คือกรรมเก่าของโยมที่ปฎิเสธพ่อเเม่ พอโยมมีลุกให้ตอนนี้ ลุกก็ปฎิเสธโยมเหมือนกัน เเละมันจะวนเวียนเป็นวงเวียนกรรมอยู่อย่างนี้**



    --งั้นชีวิตของลูกก็ติดอยู่ในบ่วงกรรมนี้น่ะซิค่ะ เเม่ชีพอจะมีทางหรือช่วยเเนะนำวิธีเเก้ไขได้บ้างไหมค่ะ--

    ร้อยมะลิ..เป็นมาลัยรัก

    ถ้าเเม่ชีจะบอกว่าไม่มีหนทางเกเ้ไขได้ ก็อกอจะเป็นการโหดร้ายเกินไปเเละไม่ใช่วิสัยของเเม่ชีนะซิค่ะ เเละทุกวันนี้เเม่ชีก็ทำหน้าที่คลายทุกข์ให้เเก่ญาติโยมด้วยการช่วยชี้เเนะอยู่นี่ยังไง
    **มีซิค่ะ..รับรองว่าเเม่ชีบอกวิะีเเก้ให้โยมได้ เพียงเเต่โยมจะเต็มใจทำหรือเปล่าเท่านั้น**
    --เต็มใจค่ะ..เต็มใจ--

    คุณโยมรีบระลั่าระลักตอบทันที

    **ฟังเเม่ชีก่อนค่ะ..โยมขา่ เคยเห็นพวกมาบัยที่เขาใช้บูชาพระใช่ไหมค่ะ ดยมคิดว่าพ่อจะร้อยเองได้ไหม**

    --ได้ค่ะ..ไม่เห็นจะยากอะไร--

    **ยากค่ะ..เพราะไม่ใช่ร้อยเด้วยมือเท่านั้น ต้องร้อยด้วยใจ**

    --หมายความว่ายังไงหรือค่ะเเม่ชี--

    **งั้นฟังเเม่ชีให้ดีๆ นะค่ะ เข็มที่ใช้ร้อยนะเปรียบเหมือนกรรมที่เราเคยทำไว้ เคยคิดไม่ดีต่อพ่อเเม่ เวลาร้อยดอกต่อดอกต้อองคิดตลอดเวลาว่าจะขออโหสิกรรมต่อพ่อเเม่ คิดด้วยความเคารพ เอาเข็มทิ่มเเทงกรรมนั้น ส่วนดอกมะลิก็เปรียบเหมือนความบริสุทธิ์ใจที่จะไปขออภัย ไปกราบขออโหสิ ดอกมะลินี่มีคุณลักษณะดเศษหลายอย่างนะค่ะ มีสีขาวสะอาดที่เเสดงถึงความบริสุทธิ์ กลิ่นหอมชื่นใจ ให้ความรู้สึกอ่อนโยน นุ่มนวล สู้เเดดสู้ฝน เเต่ก็บอบบางขาดง่ายย จคงต้องตั้งใจใช้ใจช่วยร้อยให้ดี เเม่จะมีดอกไม้อื่นมาประกอบมาลัย เเต่ก็เป็นพวกดอกรัก..ใช่ไม่ค่ะ หรือดอกกุหลาบก็เป็นสัญลักษณ์ของความรกัอยู่ดี ทีนี้โยมก็เอามาลัยรักที่ร้อยเองนี้ไปกราบขออโหสิกับพ่อเเม่..เเต่พูดยากมากเลยใช่ไม่ค่ะ**






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2009
  2. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,132
    มีผู้บรรลุขันโสดาบันบอกถามผมและสอนผมดังนี้ครับ
    คุณ ไม่ใช่ผมนะ(ไม่ใช่ตัวผู้ถาม) ผู้ถามยกมือพนมท่วมหัว ขอถามหน่อยว่า ทุกวันคุณกราบไว้อย่างไร
    ผมตอบ ผมกราบและไว้ 5 ครั้ง
    ผู้ถาม อย่างไรลำดับมา
    ผมตอบ ผมกราบ/ไหว้ 5 ครั้ง
    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระบิดามารดา พระอุปฌาอาจารย์และผู้มีพระคุณ
    ผู้ถาม ผิด ใครสอนมา
    ผมตอบ ตามคำบอกกล่าวของคนโบราณครับ
    ผู้ถาม เขาบอก/สอนแบบผิด ๆ จึงผิดกันมาตลอด
    ผมตอบ งั้นผมจะเริ่มใหม่ครับ
    ผู้ถาม พระพุทธเจ้าเกิดมาจากไหน
    ผมตอบ จากพระบิดามารดา
    ผู้ถาม เออ ต้องกราบไหว้พ่อแม่ก่อน แล้ว อุปฌาอาจารย์ ไม่ต้อง เพราะพ่อแม่เป็นครูบาอาจารย์ตั้งแต่แรกเกิดอยู่แล้ว
    ผมตอบ ครับนับแต่นี้ไปผมจะกราบไหว้บิดามารดาก่อนต่อด้วยพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ครับ รวม 5 ครั้ง ครับ
    ผู้ถาม ตามที่จะปฏิบัติ
    ผมตอบ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. ik que jun

    ik que jun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +14
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ เรื่องกราบ 5 ครั้ง โดยมีกราบพ่อแม่เป็นอันดับแรกเนี่ย .. ได้ทดลองมาระยะหนึ่งแล้ว โดยกราบ 5 ครั้งก่อนนอน ขณะกราบพ่อแม่ให้นึกภาพพ่อแม่ด้วย ภาพที่พ่อแม่แสดงออกถึงความสุขที่ลูกเคารพ รัก และปรารถนาดีต่อท่าน แล้วความเจริญจะมาสู่ผู้ปฏิบัติอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ จริง ๆ
     
  4. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    พ่อแม่ท่านมีความเมตตาขนาดที่ว่า
    มีถ่านร้อนๆตกใส่ท่านกับลูกของท่านพร้อมๆกัน
    แต่ด้วยความเมตตาของพ่อแม่
    ท่านเลือกที่จะปัดถ่านร้อนๆออกจากตัวลูกก่อนแล้วค่อยมาปัดของตัวเอง

    สาธุครับ
     
  5. nonglake

    nonglake Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +31
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ พระคุณพ่อแม่เลิศฟ้ามหาสมุทร ยิ่งใหญเหนือสิ่งใดเทียบทาน รักคุณพ่อและคุณแม่กันให้มากๆนะคะเพราะความกตัญญูคือเครื่องหมายของคนดีค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...