ฟันสมภาร ห้ามไหว้พุทธรูป

สรุป ผมดูจากข้อความที่คุณนำมาโพสต์แล้ว
คุณเลือก เชื่อ เรื่องเล่า มากกว่าพระไตรปิฏก ครับ

รับทราบแล้วครับ

 

เรียนมาจากพระ ไม่เชื่อพระ แล้วจะให้เชื่อใคร

เพราะพระที่สอนก็สอนสนุกดี ถ้าไม่จริงเขาจะสอนทำไม

ถ้ามีพระ ออกมายันว่า มีชื่อพระแม่ธรณีในพระไตรปิฏกหล่ะ...จะว่าไง

ระวังจะหน้าแหกเหมือน อาจารย์นะ 5555

เพราะตอนนี้ คณะสงฆ์ และ พระก็กำลังปราบมารอยู่
โดนดีแน่ๆ สมน้ำหน้า หว่ะ

 

ลืมบอกไป ฝากถามหลวงพ่อเกษมด้วยนะ
ถ้าท่านไปคุยกับเทวดาได้จริง

ทำไม ไม่ฝากถามเทวดา ว่า จะได้ครองผ้าเหลืองต่อไปอีกไหม

ถ้าเรื่องที่พูดโกหก ไม่จริง จงระแม่ธรณี จะสูบเอานะที่ไป ปรามาศ มารดาแห่งโลก

 

ครับ.........อยากทราบเรื่องราวต่อไปเหมือนกันครับ

ว่าใครเป็นพระ ใครเป็นมารครับ

และก็จะรอดูพระแม่ธรณีของคุณมาสูบด้วยครับ

 

<table valign="Bottom" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody> <tr bgcolor="white"> <td rowspan="5" align="center" valign="top" width="280"></td> <td rowspan="5" width="1"> </td> <td vspace="0" hspace="0" align="center" valign="top"><big>สมุดภาพพระพุทธประวัติ</big>
ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา โดย ครูเหม เวชกร
ภาพที่ ๒๖
แม่พระธรณีบิดพระเกศา เกิดเป็นสมุทรธารา พระยามารก็พ่ายแพ้แก่พระบารมี</td></tr> <tr> <td vspace="0" hspace="0" align="left" valign="top">[SIZE=-0] <table valign="Bottom" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="left">

สถานที่ที่พระมหาบุรุษประทับนั่งพื่อทรงบำเพ็ญเพียรทางใจ แสวงหาทางตรัสรู้ ซึ่งอยู่ที่
โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น เรียกว่า 'โพธิบัลลังก์' พระยามารกล่าวตู่ว่าเป็นสมบัติของตน ส่วนพระมหา
บุรุษทรงกล่าวแก้ว่า บังเกิดขึ้นด้วยผลแห่งบุญบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาแต่ชาติปางก่อน แล้วทรง
อ้างพระนางธรณีเป็นพยาน

ปฐมสมโพธิว่า "พระธรณีก็มิอาจดำรงกายอยู่ได้...ก็อุบัติบันดาลเป็นรูปนารี ผุดขึ้นจากพื้น
ปฐพี..." แล้วกล่าวเป็นพยานมหาบุรุษ พร้อมกับบีบน้ำออกจากมวยผม น้ำนั้นคือสิ่งที่เรียกว่า 'ทักษิโณทก'
อันได้แก่ น้ำที่พระมหาบุรุษทรงกรวดทุกครั้งที่ทรงบำเพ็ญบุญบารมีแต่ชาติปางก่อนเป็นลำดับมา ซึ่งแม่
พระธรณีเก็บไว้ที่มวยผม เมื่อนางบีบก็หลั่งไหลออกมา

ปฐมสมโพธิว่า "เป็นท่อธารมหามหรรณพ นองท่วมไปในประเทศทั้งปวง ประดุจห้วง
มหาสาครสมุทร...หมู่มารเสนาทั้งหลายมิอาจดำรงกายอยู่ได้ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำ ปลาสนาการไปสิ้น
ส่วนคิรีเมขลคชินทร ที่นั่งทรงองค์พระยาวัสสวดี ก็มีบาทาอันพลาด มิอาจตั้งกายตรงอยู่ได้ ก็ลอยตาม
ชลธารไปตราบเท่าถึงมหาสาคร... พระยามารก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด"
บารมีนั้นคือความดี พระมหาบุรุษท่านทรงรำพึงว่า ชีวิต ดวงหทัย นัยน์เนตรที่ท่านทรง
บริจาคให้เป็นกุศลผลทานมาก่อนนั้น ถ้าจะเก็บรวมไว้ก็จะมากกว่าผลาผลไม้ในป่า มากกว่าดวงดาราใน
ท้องฟ้า

ความดีที่ทำไว้นั้นไม่หนีไปไหน ถึงใครไม่เห็น ฟ้าดินก็เห็น</pre></td></tr></tbody></table>[/SIZE]</td></tr></tbody></table>

 

ถามคำสิ แม่ธรณี ไปทำอะไรให้พระ เดือดร้อน

ไปเรียก ท่านว่า นังธรมี มัน........ นังธรณีเนื่ยนะ มัน

( เอาแค่ ฆราวาสธรรมดา ยังไม่กล้าไม่กล้าเลย)

ถ้าคนเป็นพระ เขาเป็นกันแบบนี้หมดทุกคน GU จะเปลื่ยนศาสนาไปเลย เพราะ อันธพาลโดยแท้

เอาของสูงมาพูดเล่น ระวังนรกจะกินกบาล

เทพเจ้า เทวดา มีจริง (ในพระไตรปิฎกก็บันทึกไว้) เรื่องพระแม่ธรณีก็เป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องเล่า
แล้วพระก็ต้องเคยได้เรียน และ พระไตรปิฏก ก็มีบันทึก ไม่งั้นจะมีสอนมา 2551 ปีได้ไง ยกเว้นบันทึกจะเปลื่ยนแปลงไป ไม่เหมือนต้นฉบับ

 

ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีคนเขาศรัทธา เคารพ กราบไหว้หรอก

ลืมแล้วเหรอว่า สัญลักษณ์การประปา และ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรูปอะไร

ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง คนเขาจะเคารพกราบไหว้ทำไม

ระวังเถอะ ธรณีจะสูบเอา ความจริง ไม่มีใครรู้เพราะผ่านมานานเป็นพันๆปี
แต่ที่รู้ แม่ธรณียังอยู่ แล้วจะ ลงโทษพวกหลบหลู่แน่นอน

ขอให้ ธรณีสูบ พวกที่ทำลายศาสนา ทีเหอะ แผ่นดินจะได้สูงขึ้น;8

 

ก็ผมตอบคุณไปแล้วไง.......
คุณเล่นถามโดดไปกระทู้นี้ที กระทู้โน้นที ในเวลาติดๆๆกันแล้วคุณจะไปอ่านให้เข้าใจยังไงล่ะครับ
ก็หลวงปู่ท่านเชื่อว่า พระแม่ธรณีไม่มีเพราะท่านไปตรวจสอบจากสวรรค์หลายๆชั้น เทวดาหลายๆองค์ที่เกิดทันในสมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่(อันนี้คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร)
และท่านก็ตรวจสอบจากในพระไตรปิฏกแล้วก็ไม่มี(อันนี้ไม่เชื่อก็ศึกษาในพระไตรปิฏกได้นิครับ)
และคุณก็จะยังว่าท่านไปกล่าวหาของสูงอีก อันธพาลอีก


ส่วนเรื่อง เทวดา ท่านก็บอกว่ามีจริงแล้วไปเกี่ยวอะไรกับพระแม่ธรณี

 

แล้วถ้าคุณเชื่อว่าพระแม่ธรณีมีจริง
และคุณอธิฐานได้อย่างข้อความที่คุณโพสต์
ป่านนี้ หลวงปู่คงโดนสูบตามใจคุณปาราถนาแล้วครับ

 

อย่ามาแก้ตัวเลย งี่เง่า ไร้ที่ติ

ในซีดี เรียกว่าแม่ธรณีว่า นังธรณีมันอย่างงั้น นังธรณีอย่างงี้

( จะให้เอาไฟล์มาย่อให้เล็ก แล้วเอา ตรงที่พูดมาลงในเวบไหมหว่ะ)

เรียกเทพเจ้า ว่า นัง ( เกิดเป็นคนไม่เคยเจอใครก้ามร้าว แบบนี้เลย)

พูดจากใจจริง โคตรจะทุเรศเลยเป็นพระได้ไง เรียกเทพเจ้าที่ คนนับถือกันเยอะว่า นัง

 

ถ้าคุณจะเรียกเทวดา เรียกมารดาแห่งแผ่นดิน

ว่านัง เหมือน อาจารย์ของคุณ ก็ขอให้ กลับไปเรียก แม่ที่บ้านแทนเถิด เพราะมันบาปมาก

เกิดมาไม่เคยสังเวชใครเท่านี้มาก่อนเลย เทพเจ้า( ไม่ใช่ของต่ำนะ เรียกนัง ได้ไง)

 

ก็ท่านเรียกแบบนั้นให้ฟังสำหรับคนที่เชื่อ หรือ เคยเชื่อนิครับ
ก็เหมือนกับที่ท่านทำอย่างเป็นข่าวอยู่ตอนนี้น่ะครับ เรื่องพระพุทธรูป

 

พระทุกคน ข้าพเจ้ากราบไหว้หมด ยกเว้นพระ อวดอุตริ จนเกินเหตุ ปากไม่ดี

พระที่ห้ามกราบพระพุทธรูป
ห้ามสวดมนตร์พระที่เรียก แม่ธรณี ว่า นังธรณีมัน ( แล้ววิเคราะห์ซะเสียเส้นเลยว่าพระแม่ธรณีไม่มีฤิทธิ์พอจะช่วยหรอก )รู้ได้ไงว่าฤิทธิ์ไม่พอจะช่วย พระพุทธเจ้า ไปถามเทวดา หรือ มารมากันแน่ ถึงมาบอกว่า นังธรณีมันจะมีปัญญาอะไร

+++รู้ไปหมดเชียวนะ รู้ดีแบบนี้ ทำไมมีข่าวฉาวหน้า1 หล่ะ++++จะแย่อยู่แล้วถ้าเก่งจริง ลองไปหาเทวดามาช่วยสิ ถ้าแน่จริง

 

อันนี้ในเมื่อคุณกล่าวหาท่านร้ายแรงถึงเพียงนี้
คุณไม่ต้องเป็นห่วงท่านหรอกครับว่าท่านจะแย่ หรือ ไม่แย่ ครับ

 

ข้าพเจ้า จะแปลงร่างเป็น ซุปเปอร์ไซย่า เพื่อปราบมาร

ข้าพเจ้า จะ แฉ พวกท่านเอง ไม่ต้องห่วง VCD ที่แจก รู้ตัวเปล่า นั่นแหล่ะหลักฐานที่สำนักสงฆ์จะเอาผิดดีๆนั่นเอง

งานนี้มีแฉ ในระยะยาวแน่ๆ

แฉทุกวัน แฉทุกคืน ก่อนอื่นต้องแปลงร่างงงงงงงงงงงงงงงงง

ชะล่า เฮด ชาล่า พลังคลื่นเต่า สะท้านฟ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงง นู้นนนนนนนนนน ซํดไปโดนดวงจันทร์แตกเลย

คุณรู้เปล่า ผมสามารถบินไป ดวงจันทร์มาแล้ว

ไปคุยกับท่านเจข้าพิภพมา ท่านเจ้าพิภพบอกว่า พวกYOU ตายแน่

เพราะ ธรณีรอสูบอยู่ 5555555555

สอนมาด้ายยยยยยยยยย คนเอากัน ก็เบิกบุญได้ ( แล้วคนนั่งอึ เบิกบุญได้เปล่าหว่ะ)

 

ไม่เห็นมีเลย อ้างนิยายกันมาทั้งนั้น

แม่ธรณีไม่ได้ช่วยพระโพธิสัตว์วันตรัสรู้นะ เล่ม 73 หน้า 721

....ลำดับนั้น เทวบุตรมารขึ้นช้างที่กันข้าศึกได้
เป็นช้างที่ประดับด้วยรัตนะ (แก้ว) ชื่อคิริเมขละ งามน่าดูอย่างยิ่ง
เสมือนยอดหิมะคิรี ขนาดร้อยห้าสิบโยชน์ (โยชน์ = 16 ก.ม.)
เนรมิตแขนพันแขน ให้จับอาวุธต่าง ๆ ด้วยการจับอาวุธที่ยังไม่ได้จับ.
แม้บริษัท (บริวาร) ของมารมีกำลังถือดาบ ธนู ศร หอก ยกธนู สาก ผาล
เหล็กแหลมหอก หลาว หิน ค้อน กำไลมือ ฉมวก กงจักร เครื่องสวมคอ
ของมีคม มีหน้าเหมือนกวาง ราชสีห์ แรด กวาง หมู เสือ ลิง
งู แมว นกฮูก และมีหน้าเหมือนควาย ฟาน ม้า ช้างพลายเป็นต้น
มีกายต่าง ๆ น่ากลัว น่าประหลาด น่าเกลียด มีกายเสมือนมนุษย์ยักษ์ปีศาจ
ท่วมทับพระมหาสัตว์โพธิสัตว์ ผู้ประทับนั่ง ณ โคนโพธิพฤกษ์
เดินห้อมล้อม ยืนมองดูการสำแดงของมาร.

แต่นั้น เมื่อกองกำลังของมาร เข้าไปยังโพธิมัณฑสถาน บรรดาเทพเหล่านั้น
มีท้าวสักกะเป็นต้น เทพแม้แต่องค์หนึ่ง ก็ไม่อาจจะยืนอยู่ได้.
เทพทั้งหลายก็พากันหนีไปต่อหน้า ๆ นั่นแหละ
ก็ท้าวสักกะเทวราช ทำวิชยุตตรสังข์ไว้ที่ปฤษฎางค์ (ข้างหลัง) ประทับยืน ณ ขอบปากจักรวาล.
ท้าวมหาพรหม วางเศวตฉัตรไว้ที่ปลายจักรวาลแล้วก็เสด็จไปพรหมโลก.
กาฬนาคราชก็ทิ้งนาคนาฏกะไว้ทั้งหมด ดำดินไปยังภพมัญเชริกนาคพิภพลึก 500 โยชน์
นอนเอามือปิดหน้า ไม่มีแม้แต่เทวดาสักองค์เดียว ที่จะสามารถอยู่ในที่นั้นได้.
ส่วนพระมหาบุรุษ ประทับนั่งอยู่แต่ลำพัง เหมือนมหาพรหมในวิมานว่างเปล่า.
นิมิตร้าย ที่ไม่น่าปรารถนาเป็นอันมากปรากฏก่อนทีเดียวว่า บัดนี้ มารจักมา ดังนี้...........

......ครั้งนั้น มารคิดว่า จักยังพระสิทธัตถะให้กลัวแล้วหนีไป แต่ไม่อาจให้พระโพธิสัตว์หนีไปด้วยฤทธิ์มาร
9 ประการ คือ ลม ฝน ก้อนหิน เครื่องประหาร ถ่านไฟ ไฟนรก ทราย โคลน ความมืด
มีใจขึ้งโกรธ บังคับหมู่มารว่า พนาย พวกเจ้าหยุดอยู่ไย จงทำสิทธัตถะให้ไม่เป็นสิทธัตถะ
จงจับ จงฆ่า จงตัด จงมัด จงอย่าปล่อย จงให้หนีไป
ส่วนตัวเองนั่งเหนือคอคชสารชื่อคิรีเมขละ ใช้กรข้างหนึ่งกวัดแกว่งศร เข้าไปหาพระโพธิสัตว์
กล่าวว่า ท่านสิทธัตถะ จงลุกขึ้นจากบัลลังก์. ทั้งหมู่มารก็ได้ทำความบีบคั้นร้ายแรงยิ่งแก่พระมหาสัตว์.

ครั้งนั้น พระมหาบุรุษตรัสคำเป็นต้นว่า ดูก่อนมาร ท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อบัลลังก์มาแต่ครั้งไร
แล้วทรงน้อมพระหัตถ์ขวาสู่แผ่นปฐพี. ขณะนั้นนั่นเอง ลมและน้ำที่รองแผ่นปฐพี
ซึ่งหนาหนึ่งล้านหนึ่งหมื่นสี่พันโยชน์ก็ไหวก่อน ต่อจากนั้น มหาปฐพีนี้
ซึ่งหนาสองแสนสี่หมื่นโยชน์ก็ไหว 6 ครั้ง.
สายฟ้าแลบและอสนีบาต (ฟ้าผ่า) หลายพันเบื้องบนอากาศ ก็ผ่าลงมา.
ลำดับนั้น ช้างคิรีเมขละก็คุกเข่า. มารที่นั่งบนคอคิรีเมขละ ก็ตกลงมาที่แผ่นดิน.
แม้พรรคพวกของมารก็กระจัดกระจายไปในทิศใหญ่ทิศน้อย เหมือนกำแกลบที่กระจายไปฉะนั้น.

ลำดับนั้น แม้พระมหาบุรุษ ทรงกำจัดกองกำลังของมารพร้อมทั้งตัวมารนั้น
ด้วยอานุภาพพระบารมีทั้งหลายของพระองค์ มีขันติ เมตตา วิริยะ และ ปัญญาเป็นต้น...

 

บุคคลใดมีการใช้ปัญญาตามหลักกาลามสูตรที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้ บุคคลนั้นย่อมไม่ไปสู่ทางผิด จงใช้สติไตร่ตรองเถิดครับ หากเรายังเป็นผู้ที่ว่ายไม่ถึงฝั่งเพียงใดให้เราคิดไว้เสมอว่าเรายังเป็นผู้ที่โง่เขลาเพียงนั้น เพราะยังเอาตัวไม่รอดอาจจะจมลงวันนี้ พรุ่งนี้หรือเดี๋ยวนี้ก็เป็นได้นะครับ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ สังขารทั้งหลายไม่ใช่ตัวตนหนอ ผู้ใดหลงยึดถือย่อมเป็นทุกข์เพราะการไม่อยู่ในความควบคุมของสังขารนั้นแล

 

วัตถุ...เป็นสิ่งสมมติ ร่างกาย...ก็เป็นสิ่งสมมติ มิใช่หรือ...การที่สิ่งสมมติ ทำความเคารพสิ่งสมมติ ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร แต่จิตใจเราต่างหาก...ที่ต้องถามว่า ใจเรา กราบอะไร ระหว่างพระพุทธรูป หรือพระพุทธองค์??

 

ผมว่าคุณ nopam จะอธิบายยืดยาวไปหน่อยนะครับ คนไทยอ่านภาษาไทยเข้าใจดีกว่าครับ ขอสั้น ๆ ได้ใจความแบบไม่ต้องตีความหมาย
ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

...