ฟันสมภาร ห้ามไหว้พุทธรูป

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 31 กรกฎาคม 2008.

  1. บัวใต้น้ำ1

    บัวใต้น้ำ1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +32
    ไปยุ่งไรกะเค้ามากมาย..ปรงซะบ้างเหอะ.. มา..ไปดู dragonball กับผมกันดีกว่า สนุกกว่าเยอะ..[​IMG]
     
  2. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ทำดีดีส่งให้เห็นผล

    ทำชั่วชั่วก็ดลชั่วให้

    ชั่วดีดุจตราตรึงตีบอกไว้นา

    ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ด้วยกรรม ฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +2,392
    แฉได้ แต่อย่าปรามาสนะตะเอง มันจะเป็นบาปปปปปปปปปปป

    ;17


    ปล อยากเถียงคุณซุปเปอร์ไซย่าเหมือนกัน แต่เห็นโพสต์แล้วเถียงไม่ออกเลยแฮะ ^^"

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2008
  4. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ไม่อยากให้ชาวพุธ มาตำหนิติเตียนพระเลยครับ ให้พระท่านจัดการกันตามระเบียบของสงฆ์เทิดครับ เรามีศีลแค่ 5 - 8 ข้อ ไม่มีสิทไปด่าว่า หรือตำหนิ พระที่ท่านมีศีล 227 ข้อ นะครับ แม่แต่นำข่าวที่ไม่ดีมาประจานก็มิควรครับ

    ให้พระท่านจัดการกันตามระเบียบของสงฆ์เทิดครับ
     
  5. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    อ้าว!!!ในเมื่อ พระธาตุก็เป็นกระดูก เป็นธาตุดิน ไม่ใช่เหรอคับ แล้วจะบูชาธาตุดินทำไมละคับ ทำไมไม่บูชาพระธรรมอย่างที่พวกคุณชอบอ้างกันละคับ แล้วที่บอกว่ามีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกนั่น มาจากตรงไหนเหอรคับ ช่วยอ้างอิงถึง ให้เป็นบุญสักหน่อยเถิด จะได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้คิดเอาเอง
     
  6. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    พระพุทธ – พระธรรม – พระสงฆ์ เป็นของกลาง เล่ม 13 หน้า 156 – 158
    (เรื่องของพระพุทธเจ้าวิปัสสี)



    .....ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำการสงเคราะห์พระชนก (พ่อ) อยู่แล้ว.
    แม้พระราชาก็ทรงดำริว่า โอรสคนโตของเราออกบวชเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
    โอรสคนที่สองของเราออกบวชเป็นอัครสาวก บุตรปุโรหิตเป็นสาวกรูปที่สอง
    อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายที่เหลือเหล่านี้แม้ในเวลาเป็นคฤหัสถ์ก็ได้แวดล้อมโอรสของเราเที่ยวไป
    ภิกษุเหล่านั้น เมื่อก่อนเป็นภาระของเราแม้เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นภาระ ของเราอยู่นั่นเอง
    เราจักบำรุงภิกษุเหล่านั้นด้วยปัจจัย 4 เราจักไม่ให้โอกาสแก่ผู้อื่นดังนี้.

    พระราชารับสั่งให้สร้างกำแพงทำด้วยไม้ตะเคียนทั้งสองข้าง
    ตั้งแต่ซุ้มประตูพระวิหารจนถึงพระทวาร (ประตู) เมืองพันธุมดี
    คลุมด้วยเสื่อลำแพนมุงด้วยผ้าและปกปิดในเบื้องบน
    ทรงให้ทำเพดานมีพวงดอกไม้หลายชนิด ประมาณเท่าลำตาลห้อยย้อยลงมา
    วิจิตรด้วยดวงทอง ข้างล่างพื้นลาดด้วยเครื่องลาดอันสวยงาม รับสั่งให้จัดดอกไม้ในลำดับกลิ่น
    และจัดกลิ่นในลำดับดอกจนเต็มหม้อน้ำ ในสวนดอกไม้
    ในข้างทั้งสองภายในเพื่อให้อยู่ในทางเดียวกันทั้งสิ้น แล้วรับสั่งให้กราบทูลเวลาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

    พระผู้มีพระภาคเจ้าแวดล้อมด้วยหมู่ภิกษุเสด็จไปเมืองพันธุมดี
    ภายในม่านนั่นเองเสวยพระอาหารเสร็จแล้วเสด็จกลับพระวิหาร.
    ใคร ๆ อื่น ย่อมไม่ได้แม้แต่เห็น ก็การถวายภิกษา (อาหาร) ก็ดี การทำการบูชาก็ดี
    การฟังธรรมก็ดีจะมีแต่ไหนเล่า. ชาวเมืองคิดกันว่า วันนี้เมื่อพระศาสดาทรงอุบัติขึ้นในโลกแล้ว
    พวกเราไม่ได้แม้เพื่อเห็นตลอด 7 ปี 7 เดือน จะกล่าวไปไยถึงการถวายภิกษา
    การทำการบูชา หรือการฟังธรรม พระราชาทรงรักใคร่หวงแหนว่า

    พระพุทธเจ้าของเราผู้เดียว พระธรรมของเราผู้เดียว พระสงฆ์ของเราผู้เดียวแล้ว

    ทรงบำรุงเพียงองค์เดียวก็พระศาสดาเมื่อทรงอุบัติ
    ได้อุบัติเพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูลแก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก
    จริงอยู่นรกของพระราชาไม่พึงร้อน แต่ของคนเหล่าอื่นเช่นกับกอบัวขาบ
    เพราะฉะนั้น พวกเราจะกราบทูลพระราชาหากพระราชาไม่ทรงให้พระศาสดาแก่พวกเรา
    ก็ดีละ หากไม่ทรงให้พวกเราแม้ต้องรบกับพระราชาก็จะพาสงฆ์ไปแล้วทำบุญมีทาน เป็นต้น

    แต่ชาวเมืองผู้บริสุทธิ์คงไม่อาจทำอย่างนั้น พวกเราจะยึดถือบุรุษผู้เจริญคนหนึ่งดังนี้.
    ชาวเมืองเหล่านั้นเข้าไปหาเสนาบดีบอกความนั้นแก่เสนาบดีแล้วกล่าวว่า
    นาย ฝ่ายของพวกเรายังมีอยู่หรือ หรือจะมีแต่พระราชา. เสนาบดีนั้นกล่าวว่า
    เราเป็นฝ่ายของพวกท่าน ก็แต่ว่า วันแรกควรให้เราก่อน
    ภายหลังจึงถึงวาระของพวกท่าน. พวกชาวเมืองเหล่านั้นรับคำ. เสนาบดีนั้นเข้าไปเฝ้าพระราชาทูลว่า
    ข้าแต่พระองค์ ชาวเมืองเขาพากันโกรธพระองค์ พระเจ้าข้า.
    พระราชาตรัสถามว่า โกรธเรื่องอะไรเล่าพ่อ.
    กราบทูลว่า นัยว่า พระองค์เท่านั้นทรงบำรุงพระศาสดา พวกข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้เลย
    หากว่าชาวเมืองได้บำรุงในบัดนี้บ้าง พวกเขาก็จะไม่โกรธ
    เมื่อไม่ได้พวกเขาประสงค์จะรบกับพระองค์ พระเจ้าข้า.
    พระราชาตรัสว่า นี่แน่เจ้า เราจะรบ เราจะไม่ให้หมู่สงฆ์.
    เสนาบดีทูลว่า ข้าแต่พระองค์ ชาวเมืองเป็นทาสของพระองค์ พวกข้าพระองค์จะรบกับพระองค์.
    พระราชาตรัสว่า พวกเจ้าจักจับใครรบ. เจ้าเป็นเสนาบดีมิใช่หรือ.
    เสนาบดีกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ ข้าพระองค์เว้นชาวเมืองเสียแล้วไม่สามารถจะรบได้ พระเจ้าข้า.
    แต่นั้น พระราชาทรงทราบว่า ชาวเมืองมีกำลังมากแม้เสนาบดีก็เป็นฝ่ายพวกชาวเมืองเสียแล้ว...




    เล่ม 13 หน้า 462 (คราวแบ่งพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองกุสินารา)

    โทณพราหมณ์ได้กล่าวเหตุเป็นอันมากให้เข้าใจกันว่า มิใช่พวกท่านพวกเดียวที่เลื่อมใส
    แม้มหาชนก็เลื่อมใส ในชนเหล่านั้น ผู้ชื่อว่า ไม่สมควรจะได้ส่วนแบ่งพระสรีระไม่มีแม้แต่คนเดียว....



    เรื่องเส้นผมของพระพุทธเจ้าเมื่อได้ไปก็ต้องเอาไว้เป็นของกลางเหมือนกัน เล่ม 33 หน้า 59
    (รวมทั้งเส้นผมของพระสงฆ์ด้วย)


    .....ในขณะนั้นพ่อค้าทั้งสองนั้น จึงเอาข้าวสัตตุผงและข้าวสัตตุก้อนใส่ในบาตรของพระตถาคต
    ในเวลาที่พระองค์เสวยเสร็จแล้วถวายน้ำ ในเวลาเสร็จภัตกิจแล้วถวายบังคม
    นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ทีนั้น พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่เขาทั้งสอง.
    ในเวลาจบเทศนา เขาทั้งสองตั้งอยู่ในสรณะ.(ทเววาจิกะ)
    ที่เปล่งวาจาถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมทั้งสองเท่านั้น
    ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว มีประสงค์จะไปสู่นครของตนจึงกราบทูลว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์โปรดประทานเจดีย์สำหรับบูชาแก่พวกข้าพระองค์เถิด.
    พระศาสดาทรงเอาพระหัตถ์ขวาลูบพระเศียรแล้วประทานเส้นพระเกศธาตุ ๘ เส้น แก่ชนแม้ทั้งสอง
    ชนทั้งสองนั้นวางพระเกศธาตุไว้ในผอบทองคำนำไปสู่นครของตน

    ให้บรรจุพระเกศธาตุของพระพุทธเจ้าที่ยังมีพระชนม์ไว้ที่ประตูอสิตัญชนนคร
    ในวันอุโบสถก็มีรัศมีสีนิลเปล่งออกมาจากพระเจดีย์....
     
  7. BRAVA

    BRAVA สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +2
    คุณต้องไปถามพระพุทธเจ้าเเล้วหละ เพราะพระองค์บัญญัติไว้ ดิฉันคงตอบเเทนพระองค์ไม่ได้
     
  8. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    อ้าว ทีนี้ละ อ้างว่าให้ถามพระพุทธเจ้า ......ก็เห็นก่อนหน้านี้ บอกไม่ใช่ๆ อยู่ แล้วตอนนี้มาบอกว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติ ให้ไปถาม พระพุทธเจ้า
    เอะ!!! มันจะยังไงกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...