ปิดรับบริจาค ภาพงานถวาย มหาสังวาลแก้วถวายพระพุทธเจ้า28พระองค์ ณ.วัดพระพุทธบาท4รอย และอีก6วัดใหญ่ในเชียงใหม่

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 13 มิถุนายน 2016.

  1. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สวัสดีญาติธรรมทั้งหลาย หลังจากงานมหากุศลที่พวกเราทั้งหลาย ได้ถวาย(สังวาลที่ยาวที่สุดในโลก18เมตร)และมหาสังวาลจักพรรดิ์28พระองค์ได้ผ่านพ้นไปอย่างสวยสดงดงาม ด้วยกำลังกายกำลังใจจากญาติธรรมทั้งหลายที่ได้ร่วมกันจนเสร็จสมบูรณ์ บริบูรณ์ และเป็นที่ประจักษ์แก่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ทางวัดพระพุทธบาทสี่รอย ได้อนุโมทนา อนุญาติยินดีให้เราได้จัดสร้างถวาย(สังฆฏิแก้วพร้อมมหาสังวาลแก้ว)ถวายพระประธาน และ พระพุทธเจ้าทั้ง28พระองค์ เพื่อน้อมถวายเป็น พุทธบูชา-ธรรมบูชา-สังฆบูชา ไว้ที่อนุสาวรีย์แห่งพระพุทธะในภัทรกัปป์นี้ ถวายวันพระที่ 4 ก.ค 2559 ตรงกับ(แรม15ค่ำเดือน7) ครั้งนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างยิ่งๆ ที่ได้มีโอกาสสร่างมหากุศลที่ทำได้ยากยิ่งอีกครั้ง จึงอยากจะเชิญชวนญาติธรรมทั้งหลายมารวมตัวกันอีกครั้ง มาร่วมกันบูชาคุณแห่งพระรัตนตรัยและให้งานบุญครั้งนี้สำเร็จสมบูรณ์ บริบูรณ์ทุกๆประการ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ

    ร่วมทำบุญได้ที่

    ธนนท์
    ธ.กรุงเทพ เลขบัญชี 240 065 2224
    โทร-090-9861646(โต)

    เจ้าภาพชุดและ3500บาท(สังฆฏิแก้วพร้อมสังวาลแก้ว)

    ขอความกรุณาท่านเจ้าภาพช่วยแจ้งซื้อและระบุพระนามพระพุทธเจ้าองค์ที่เป็นเจ้าภาพด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1592.JPG
      IMG_1592.JPG
      ขนาดไฟล์:
      22.3 KB
      เปิดดู:
      464
    • IMG_1587.JPG
      IMG_1587.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      123
    • IMG_1578.JPG
      IMG_1578.JPG
      ขนาดไฟล์:
      979.9 KB
      เปิดดู:
      112
    • IMG_1585.JPG
      IMG_1585.JPG
      ขนาดไฟล์:
      830.8 KB
      เปิดดู:
      52
    • __711.jpg
      __711.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      142
    • 1325309288.jpg
      1325309288.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105 KB
      เปิดดู:
      87
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2016
  2. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ประวัติโดยย่อของพระพุทธเจ้า28พระองค์

    ๑.. พระพุทธเจ้าตัณหังกร -คุณยุ

    ๒. พระพุทธเจ้าเมธังกร - คุณยุ

    ๓. พระพุทธเจ้าสรณังกร -

    ๔. พระพุทธเจ้าทีปังกร - คุณโบ

    ๕. พระพุทธเจ้าโกณฑัญญะ - คุณโอ๋

    ๖. พระพุทธเจ้าสุมังคละ -

    ๗. พระพุทธเจ้าสมุนะ -

    ๘. พระพุทธเจ้าเรวัต -คุณจอนและครอบครับ

    ๙. พระพุทธเจ้าโสภิตะ -คุณเล็ก

    ๑๐. พระพุทธเจ้าอโนมัทสส - คุณสุเมธ

    ๑๑. พระพุทธเจ้าปทุมะ - ผู้ทำให้โลกสว่าง-
    ๑๒. พระพุทธเจ้านารทะ -
    ๑๓. พระพุทธเจ้าปทุมุตตระ - น.ส. สมฤดี ธารามรรค์

    ๑๔. พระพุทธเจ้าสุเมธะ - คุณความสุข
    ๑๕. พระพุทธเจ้าสุชาติ -

    ๑๖. พระพุทธเจ้าปิยทัสสี -
    ๑๗. พระพุทธเจ้าอัตถทัสสี -
    ๑๘. พระพุทธเจ้าธัมมทัสสี -

    ๑๙. พระพุทธเจ้าสิทธัตถะ - ผู้หาบุคคลเสมอมิได้ในโลก-คุณพรรณี
    ๒๐. พระพุทธเจ้าติสสะ - ผู้ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย-
    ๒๑. พระพุทธเจ้าปุสสะ - ผู้ประทานธรรมอันประเสริฐ-

    ๒๒. พระพุทธเจ้าวิปัสสี - ผู้หาที่เปรียบมิได้-

    ๒๓. พระพุทธเจ้าสิขี - ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์-คุณภีรีรยศ

    ๒๔. พระพุทธเจ้าเวสสภู - ผู้ประทานความสุข-คุณธีรชัย-ยุพร-จิตรลดา เอื้อชลิตนุกูล

    ๒๕. พระพุทธเจ้ากกุสันธะ - ผู้นำสัตว์ออกจากกันดาร คือ กิเลส-คุณยงยุธ

    ๒๖. พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ - ผู้หักเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส-คุณนฤมล

    ๒๗. พระพุทธเจ้ากัสสปะ - ผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ-คุณหนึ่ง

    ๒๘. พระพุทธเจ้าโคตมะ (พระสมณะโคดม) - ผู้ประเสริฐแห่งหมู่ศากย-คุณนานา
    29.พระศรีอริยเมตตรัย-คุณjasmin
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2016
  3. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ตำนานพระพุทธบาทสี่รอย (ฉบับล้านนา)
    พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ (พระครูบาพรชัย ปิยะวัณโณ)
    วัดพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    ความเป็นมาของมหาศิลาเปรต

    ย้อนไปในอดีตกาลอันไกลโพ้น นับได้ ๙๒ กัป ที่ล่วงมาแล้ว
    ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง สมัยนั้นนั่นแล
    ทรงพระนามว่า “พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า”
    เสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ ให้ล่วงพ้นวัฏฏสงสาร
    เฉกเช่นเดียวกับพระสมณโคดมพุทธเจ้าของเราในปัจจุบันสมัยนี้

    ในครั้งนั้นบังเกิดมีพระสาวกองค์หนึ่งในพระวิปัสสีพุทธเจ้า
    มีฐานะเป็นพระสังฆนายก ปกครองพระภิกษุเถรานุเถระเป็นอันมาก
    แต่พระสังฆนายกองค์นี้ กลับแสวงหาปัจจัยทั้งสี่
    อันได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย มากเกินสมควร
    ได้มีคำสั่งออกไปทั่วสังฆมณฑลว่า

    “วัดของเรานี้ไม่เหมือนวัดอื่นๆ
    ด้วยเป็นที่ชุมนุมของพระมหาเถระเจ้าทั้งหลายอยู่เป็นเนืองนิตย์
    ฉะนั้นขอให้พระภิกษุทั้งหลาย
    จงนำเอาปัจจัยสี่อันเป็นของสงฆ์ทั้งหลาย
    อันได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย
    รวมทั้งแก้วแหวนเงินทองทั้งปวงมาให้แก่วัดของเรา
    เพื่อว่าเราจะได้นำมาถวายทาน แก่พระมหาเถระเจ้าทั้งหลายต่อไป”

    เมื่อพระภิกษุทั้งหลายได้รับคำสั่งของพระสังฆนายกดังนี้แล้ว
    ต่างก็ล้วนลำบากใจ แต่ไม่กล้าทักท้วงคัดค้าน ด้วยเกรงจะมีความผิด
    คงได้แต่จำใจนำของมามอบให้ที่วัดของพระสังฆนายก
    จนเต็มโบสถ์เต็มวิหารไปหมด

    ท้ายที่สุดเมื่อพระสังฆนายกองค์นั้นได้มรณภาพลงไปแล้ว
    ก็ได้ตกนรก จมลงไปหมกไหม้อยู่ในอบายภูมิทั้ง ๔ ตลอดกาลนาน
    ด้วยผลกรรมที่ได้เบียดเบียนพระสงฆ์ทั้งหลายให้ต้องได้รับความลำบาก
    เมื่อชดใช้กรรมในนรกแล้ว อดีตพระสังฆนายกองค์นั้น
    ก็ได้เกิดมาเป็นเปรต มีนามว่า “มหาศิลาลวงใหญ่” (เปรตหิน)
    พูดวาจาใดใดไม่ได้ ด้วยสรีระกลายเป็นหิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • __711.jpg
      __711.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      35
  4. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    พระพุทธเจ้ากกุสันโธ เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต
    และทรงเมตตาประทับรอยพระพุทธบาทไว้
    เหนือหินมหาศิลาเปรตเป็นรอยแรก โดยทรงเมตตาประทานให้เอง

    นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง ๙๒ กัป
    ลุถึงสมัย “พระพุทธเจ้ากกุสันโธ”
    ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑ ในมหาภัทรกัปนี้
    พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ได้เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรตแล้ว
    จึงทรงประทับรอยพระบาทไว้เหนือก้อนหินมหาศิลาเปรตนั้นเป็นรอยแรก

    และทรงมีพระมหากรุณาตรัสสอนมหาศิลาเปรต
    และให้ภาวนาบริกรรมคาถาว่า “อัปปะกิจโจ อัปปะกิจโจ”
    ซึ่งหมายถึง เป็ยนักบวชควรทำตนเป็นผู้มีภาระน้อย
    เพราการมีภาระมากไม่ใช่ทางบรรลุมรรคผลนิพพาน
    จะกลายมาเป็นมารมาผูกมัดจิตใจ
    ทำให้ตนต้องได้ตกอยู่ในอบายภูมิ

    พระพุทธเจ้าโกนาคมโน เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต
    และทรงเมตตาประทับรอยพระพุทธบาทเป็นรอยที่ ๒
    โดยทรงประทานให้เอง ซ้อนรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ

    ภายหลังที่พระพุทธเจ้ากกุสันโธได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
    ก็มาถึงสมัยของ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน
    พระองค์ก็ได้เสด็จมาที่มหาศิลาเปรต
    ให้ภาวนาบริกรรมคาถาว่า “สัลละหุกะวุตติ” ไปตลอด
    จะได้หลุดพ้นจากความเป็นเปรตในภายภาคหน้า
    จากนั้นพระพุทธเจ้าโกนาคมโนก็ได้ประทับรอยพระบาทซ้อนไว้
    ในรอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธเป็นรอยที่ ๒
    (ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารอยที่ ๑)

    พระพุทธเจ้ากัสสโป เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต
    และทรงเมตตาประทับรอยพระพุทธบาท เป็นรอยที่ ๓
    โดยประทานให้เอง ซ้อนรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๒ พระองค์
    ในมหาภัทรกัปนี้

    ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าโกนาคมโน ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
    ก็มาถึงสมัย พระพุทธเจ้ากัสสโป
    ซึ่งพระองค์ก็ได้เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต
    ด้วยเหตุผล ๒ ประการ คือ

    เพื่อทรงชี้แนวทางตรงไปสู่พระนิพานหนึ่ง
    และเพื่อให้มหาศิลาเปรตนั้น พ้นจากปิติวิสัย (ภูมิแห่งเปรต) อีกประการหนึ่ง

    พระพุทธเจ้ากัสสโป จึงเสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรตเป็นพระองค์ที่ ๓
    และได้ทรงมีระพุทธดำรัสตรัสชี้แนะให้มหาศิลาเปรตนั้น
    ภาวนาบริกรรมคาถาว่า “อัปปะคัพโภ อัปปะคัพโภ”
    ด้วยทรงมีพระมหากรุณาให้พ้นจากความเป็นหิน

    แล้วจึงได้ทรงประทับรอยพระบาท
    ซ้อนไว้ในรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์
    ปรากฏเป็นรอยที่ ๓ ขึ้นมา (ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารอยพระพุทธบาททั้ง ๒ รอย)
     
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    พระพุทธเจ้าโคตโม (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)
    เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต
    ณ เวภารบรรพต (วัดพระพุทธบาทสี่รอย ในปัจจุบันนี้)
    และทรงเมตตาประทับรอยพระพุทธบาทเป็นรอยที่ ๔
    โดยประทานให้เอง ซ้อนรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์
    ในมหาภัทรกัปนี้

    ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้ากัสสโป ได้เสด็จดับขันธปรินิพานไปแล้ว
    ก็มาถึงพุทธสมัยแห่งพระศาสนาของ พระพุทธเจ้าโคตโม (พระสมณโคดม)
    ได้เสด็จจาริกประกาศธรรมโปรดเวไนยสัตว์
    ไปตามสถานที่ต่างๆ พร้อมด้วยพุทธสาวก ๕๐๐ องค์
    อันมี พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ และพระอานนท์ เป็นต้น
    จนกระทั่งเสด็จมายัง ปัจจันตยประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)

    ถึงเทือกเขาตอนเหนือของประเทศชื่อ เวภารบรรพต (สถานที่แห่งนี้)
    และได้แวะเสวยจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้
    เมื่อพระพุทธองค์เสวยจังหันสร็จ
    ขณะประทับอยู่ที่นั่น ก็ได้ทรงทราบด้วยพระญาณสมบัติว่า
    ในเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า
    ที่มาตรัสรู้ก่อนในภัทรกัปนี้ประทับอยุ่บนก้อนหินก้อนใหญ่

    พระองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์
    คือ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ พระพุทธเจ้าโกคมโน พระพุทธเจ้ากัสสโป

    ในวาระนั้น พระพุทธเจ้าโคตโม
    ได้มีพระพุทธดำรัสกับพระอานนท์ว่า

    “ดูกร อานนท์ ก้อนศิลาอันงามวิเศษ
    ที่เป็นเหตุแห่งการโปรดสัตว์ทั้งหลายยังปรากฏมีอยู่ฤา”

    พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก จึงกราบทูลว่า

    “ภันเต ภะคะวา ก้อนหินนี้มีรอยพระพุทธบาทใหญ่ ๓ รอย
    งดงามยิ่งนัก เหมือนรอยพระพุทธบาทของพระศาสดาพระพุทธเจ้าข้า”

    จากนั้น พระพุทธเจ้าโคตโม
    จึงได้ตรัสถึงอดีตกาลที่ได้ผ่านมาแล้วแต่ปางบรรพ์
    แก่พระอานนท์และพุทธสาวกว่า

    “ดูกรอานนท์ ก้อนศิลานี้มิใช่ศิลาแท้จริงดอก
    แต่เป็นก้อนอสุราที่กลับกลายเป็นก้อนศิลา (เป็นศิลาเปรต)
    ศิลานี้เคยเป็นพุทธสาวกในพระพุทธเจ้า วิปัสสี

    สมัยนั้นท่านเป็นพระสังฆนายก ถืออำนาจบาตรใหญ่
    บังคับเอาของของคนอื่นมาเป็นของตน

    ตนเองเป็นพระภิกษุ แต่มักมาก ถือว่าตนเองฉลาด
    คิดว่าตนเองได้ของมาโดยบริสุทธิ์
    โดยมิได้คำนึงถึงความผิดถูกตามพระธรรมวินัย
    ถือว่าตนเองเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้า
    และเป็นใหญ่ เอาของของสงฆ์มาใช้ตามอำเภอใจ
    จึงทำให้เป็นศิลาเปรตอยู่ในบัดนี้

    พระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล
    ได้ทรงประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นี้ ทุกพระองค์

    และแม้ พระศรีอริยเมตไตรย
    ก็จะเสด็จมาประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นี้
    และจักประทับรอยพระพุทธบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว
    (คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว)”
     
  6. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว
    พระองค์ก็เสด็จประทับพระบาทซ้อนรอยพระบาท
    ของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ แล้วก็ทรงอธิษฐานว่า

    ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว
    เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของกูตถาคต
    มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทนี้

    ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี
    พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ก็จักปรากฏแก่ปวงมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
    เพื่อมนุษย์และเทวดาทั้งหลายจักได้มากราบไหว้และสักการะบูชา
    เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้ว
    จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์
    จึงกำเนิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย

    เมื่อพระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระพุทธบาทแล้ว
    ก็เสด็จไปเขตวันอาราม อันมีในเมืองสาวัตถีนั้นแล
    เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว
    เทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์
    มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาทสี่รอย
    และเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานล่วงมาแล้ว ๒,๐๐๐ วัสสา (ปี)
    เทวดาทั้งหลายต้องการให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลาย
    ตามที่พระองค์ทรงอธิษฐานไว้

    ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้ง (เหยี่ยว) ตัวใหญ่ บินลงมาจาก เวภารบรรพต
    อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้
    ไปจับลูกไก่ของชาวบ้าน (พรานป่า) ที่อาศัยอยู่เชิงเขา เวภารบรรพต
    แล้วบินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา

    พรานป่าโกรธมากจึงติดตามขึ้นไป
    คิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไปค้นหาดู
    แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นอีก เห็นแต่รอยพระพุทธบาทสี่รอย
    อันอยู่บนพื้นใต้ต้นไม้และเถาวัลย์

    พรานป่าผู้นั้นจึงทำการสักการะบูชา
    เสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา
    พอมาถึงหมู่บ้านก็บอกเล่าแก่ชาวบ้านทั้งหลาย
    คนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชา
    และเรียกขานพระพุทธบาทนั้นว่า “พระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)”
    บูรพมหากษัตริย์ในอดีตของล้านนา และเชื้อพระวงศ์
    และบูรพมหากษัตริย์ของไทย ที่เคยเสด็จไปกราบไหว้
    และสักการบูชารอยพระพุทธบาทสี่รอย

    ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย
    เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่
    ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาประสงค์
    จะเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอย

    ครั้นแล้วได้เสด็จพร้อมด้วยพระราชเทวี
    และเสนาอำมาตย์พร้อมกับบริวารทั้งหลาย
    และเมื่อทรงกราบนมัสการเสร็จแล้ว
    พระองค์พร้อมด้วยพระราชเทวี
    และบริวารทั้งหลายจึงเสด็จกลับสู่เชียงใหม่
    เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยน (สิ้น) อายุขัยแล้ว

    พระโอรสและพระนัดดาที่สืบราชสมบัติต่อมา
    ก็เจริญตามรอยพระยุคลบาทก็ได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาทสี่รอบทุกพระองค์

    หลังจากนั้นมา พระบาทรังรุ้ง หรือ รังเหยี่ยว นี้
    ก็เปลี่ยนชื่อเป็น “พระพุทธบาทสี่รอย”

    มาในสมัยยุคหลัง คนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่า พระพุทธบาทสี่รอย
    เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย
     
  7. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงมาแล้ว
    ในภัทรกัป นี้คือ

    ๑. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
    ซึ่งเป็นรอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว ๑๒ ศอก

    ๒. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมโน
    ซึ่งเป็นรอยที่ ๒ ยาว ๙ ศอก

    ๓. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสโป
    ซึ่งเป็นรอยที่ ๓ ยาว ๗ ศอก

    ๔. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตโม (องค์ปัจจุบัน)
    ซึ่งเป็นรอยที่ ๔ ยาว ๔ ศอก

    เมื่อมาถึง พระยาธรรมช้างเผือก ผู้ครองนครเชียงใหม่
    พร้อมด้วยบริวาร ๕๐๐ คน
    ก็เสด็จขึ้นไปกราบสักการบูชารอยพระพุทธบาทสี่รอย
    และได้สร้างครอบพระวิหารรอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว

    โดยแต่เดิม ถ้าใครจะดูรอยพระพุทธบาทสี่รอยจะต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปดู
    ซึ่งก็คงขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น

    ดังนั้น พระยาธรรมช้างเผือก
    จึงรับสั่งให้สร้างแท่นยืนคล้ายๆ นั่งร้าน
    รอบก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอย
    เพื่อที่ผู้หญิงจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทด้วย
    และได้สร้างหลังคาชั่วคาราวมุงไว้
    ต่อมา พระชายาเจ้าดารารัศมี
    ได้เสด็จขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย
    และได้มีศรัทธาสร้างวิหารเพื่อเป็นการสักการบูชารอยพระพุทธบาทไว้ ๑ หลัง
    หลังเล็กถวายเป็นพุทธบูชา

    ปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง
    จะเหลือไว้แต่ผนังวิหาร พื้นวิหาร และแท่นพระ ซึ่งยังเป็นของเดิมอยู่
    ถ้าหากท่านมีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย
    ก็จะเห็นวิหารแห่งนี้

    นอกจากนี้ หลักฐานในกาลวัตถุที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง
    ได้ปรากฏอยู่ในหนังสือโบราณ “คำให้การของขุนหลวงหาวัด”
    ซึ่งเป็นหนังสือบันทึกเรื่องราวของกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ต้นจนอวสาน

    ที่ พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่ามีพระบัญชา
    ให้อาลักษณ์บันทึกจากถ้อยรับสั่งของ เจ้าฟ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด)
    ภายหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ไว้อย่างละเอียด

    โดยตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึงเมื่อคราวที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    เสด็จไปทรงนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย
    (สมัยโบราณเรียก รอยพระบาทรังรุ้ง หรือ รอบพระบาทเขารังรุ้ง)
    ไว้อย่างชัดเจนว่า

    “สมัยสมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปรบที่เมืองหาง
    พระองค์ทรงทราบว่ามีรอยพระพุทธบาทอยู่บนยอดเขา
    เรียกว่า เขารังรุ้ง จึงได้เสด็จขึ้นไปนมัสการ
    ทรงเปลื้องเครื่องทรง ทั้งสังวาลย์และภูษาแล้ว
    ทรงถวายไว้ในรอยพระพุทธบาท
    และทำสักการบูชาด้วย ธง ธูป เทียน ข้าวตอกดอกไม้
    มีเครื่องทั้งปวงเป็นอันมาก แล้วจึงทำการพิธีสมโภชอยู่ถึง เจ็ดราตรี”

    จากข้อความประวัติศาสตร์ดังกล่าวนี้เอง
    ทำให้เราได้ทราบข้อเท็จจริงในทางโบราณคดี เพิ่มเติมอีกประการหนึ่งว่า
    โดยแท้จริงแล้ว รอยพระพุทธบาทในประเทศไทยรอยแรก
    ที่คนไทยได้รู้จักและมักคุ้นนั้นก็คือ พระพุทธบาทสี่รอย
    อันประดิษฐานอยู่ ณ เขต อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบันนี่เอง

    ในขณะที่ รอยพระพุทธบาท ที่ สระบุรี เขาสัจจพันธุ์ นั้น
    ได้รับการค้นพบเจอในรัชสมัย พระเจ้าทรงธรรม
    ซึ่งเป็นยุคหลังรัชสมัยแห่ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถึงกว่า ๕ ทศวรรษ
    พระอริยสงฆ์ที่สำคัญของล้านนาและของประเทศไทย
    ที่เคยธุดงค์เพื่อไปกราบสักการบูชารอยพระพุทธบาทสี่รอย

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย
    ก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย
    และได้รื้อพระวิหารที่ เจ้าพระยาธรรมช้างเผือก สร้างไว้ชั่วคราวนั้นเสีย
    แล้วได้สร้างวิหารใหม่ครอบรอยพระพุทธบาทไว้
    และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย
    เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพระศาสนาสืบไปตลอดกาลนาน

    ด้วยวัดพระพุทธบาทสี่รอย
    เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๔ พระองค์
    คือ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน
    พระพุทธเจ้ากัสสโป พระพุทธเจ้าโคตโม (องค์ปัจจุบัน)

    Image
    [อนุสาวรีย์พระรูปของครูบาศรีวิชัย บริเวณทางขึ้นพระวิหาร วัดพระพุทธบาทสี่รอย]


    จึงนับได้ว่า เป็นปูชนียสถานที่มีความสำคัญมาก
    เป็นที่สักการบูชาของทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

    พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ครูบาอาจารย์ พระธุดงค์กรรมฐาน
    สาย ครูบาเจ้าศรีวิชัย หลายองค์ อาทิเช่น

    ครูบาหน้อย ชยวํโส วัดบ้านปง, ครูบาอิน อินฺโท วัดฟ้าหลั่ง,
    ครูบาอินแก้ว ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี,
    ครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ วัดร้องขุ้ม,
    ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ฯลฯ

    พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล วัดพระธาตุศรีจอมทอง,
    ครูบาเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่น, ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เป็นต้น

    Image
    [หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร]


    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
    และพระธุดงค์กรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น

    ได้แก่ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่,
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดป่าอรัญญวิเวก นครพนม,
    หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย,
    หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึง เชียงใหม่,
    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย,
    หลวงปู่สิม พุทธจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่,
    หลวงปู่จาม, พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป
    และอีกหลายองค์ ในสายพระอาจารย์มั่น

    นอกจากนี้ยังมี หลวงปู่สี ฉนทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค นครสวรรค์
    (ได้ยาอายุวัฒนะจากบริเวณป่าใกล้วัดพระพุทธบาทสี่รอย),
    หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร,

    Image
    [หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมรมฺโภ วัดวังก์วิเวการาม]


    หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมรมฺโภ วัดวังก์วิเวการาม
    (ไปธุดงค์ไปองค์เดียวเพื่อไปกราบนมัสการ
    เมื่อ ๕๐ กว่าปีมาแล้ว ราว พ.ศ. ๒๔๙๐)
    และหลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ นครสวรรค์,
    หลวงปู่เมฆ วัดป่าขวางพระเลไลย์ สงขลา

    ได้เคยเดินธุดงค์ ขึ้นไปนมัสการมาแล้ว
    และได้รับรองว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริง

    นอกจากนี้ยังได้รับคำยืนยันรับรองของ
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก จ.นครพนม
    ว่ารอยพระพุทธบาทดังกล่าวเป็นรอยพระพุทธบาทสี่รอย
    ของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ในมหาภัทรกัปนี้จริง

    และเป็นสัญญลักษณ์แห่งมหาภัทรกัปที่สำคัญสูงสุดในจักรวาล
    และรอยพระพุทธบาทสี่รอยนี้ประดิษฐานอยู่ที่
    วัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

    Image
    [หลวงปู่สิม พุทธจาโร]


    นอกจากนี้ หลวงปู่สิม พุทธจาโร ซึ่งเคยเดินขึ้นไปนมัสการมาแล้วเช่นกัน
    ดังธรรมเทศนาของท่านตอนหนึ่ง
    (คัดลอกมาจาก หนังสือพุทธาจารานุสรณ์ ที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ
    หลวงปู่สิม พุทธจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว
    จังหวัดเชียงใหม่ พุทธศักราช ๒๕๓๖)

    “ในเขตเชียงใหม่นี้ ยังมีพระบาทสี่รอยอยูในเขตอำเภอแม่ริม
    แต่ว่าลึกเข้าไปในภูเขา หลวงปู่ผู้เทศน์ปูแล้วกราบไหว้
    มันเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นไปอยู่ข้างริมแม่น้ำ

    พระพุทธเจ้ากกุสันโธได้มาตรัสรู้ในโลก
    ท่านก็มาเหยียบรอยพระพุทธบาทไว้
    ในยอดหินก้อนนั้น ยาวขนาด ๑๒ ศอก

    เมื่อหมดศาสนาพระพุทธเจ้ากกุสันโธแล้ว
    พระพุทธเจ้าโกนาคมโน ก็มาตรัสรื้อขนสัตว์ไปอีก
    ก็นิพพานท่านก็มาเหยียบไว้ที่พระบาทแม่ริมนี้ เป็นรอยที่สอง (ขนาดลดลงมา)

    มาถึงพระสัมสัมพุทธเจ้ากัสสโปมาตรัสรู้
    ท่านก็มาเหยียบไว้ได้ ๓ รอย

    แลพระพุทธเจ้าโคดมมาตรัสรู้
    ก่อนที่ท่านจะนิพพานก็เหยียบรอยพระบาทไว้ในหินก้อนเดียวกัน
    จึงให้ชื่อว่าพระพุทธบาทสี่รอย

    ยังมีพระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์
    จะมาตรัสรู้แล้วมาโปรดเวไนยสัตว์ ก็มาเหยียบไว้อีก

    เรียกว่าแผ่นดินที่เราเกิดนี้ นับว่าเป็นแผ่นดินที่ร่ำรวยที่สุด
    แผ่นดินนี้เรียกว่า ภัทรกัป มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ได้ห้าพระองค์

    พระพุทธเจ้าองค์ใดมาตรัสสอนก็ตาม
    ก็สอนให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายบำเพ็ญทาน รักษาศีล ภาวนา
    ละกิเลส ความโกรธ ความโลภ ความหลง อันเก่านี้แหละ

    เมื่อใดปฏิบัติภาวนาบารมีเต็มแล้ว ก็รู้แจ้งพระนิพพาน
    เมื่อรูปนามแตกดับแล้วไปสู่พระนิพพาน
    ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดในโลกอันแสนทุรกันดารนี้อีกต่อไป”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2016
  8. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณยุ Switzerland เจ้าภาพพระองค์ที่1-2 สาธุๆๆ อานุโมทามิ
     
  9. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณjasmine. เจ้าภาพพระอชิตะ กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ สาธุๆๆอานุโมทามิ
     
  10. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณยงยุทธพระองค์ที่25 สาธุๆๆอานุโมทามิ
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณหนึ่ง(เชียงราย) เจ้าภาพพระองค์ที่27 กราบโมทนาสาธุๆๆครับ
     
  12. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับพี่ๆเพื่อนๆญาติธรรมทุกๆท่านที่ไดักลับมาร่วมบุญกันอีกอย่างแน่นหนา ทั้งที่พึ่งร่วมบุญกันไปไม่นาน เดือนหน้าเสร็จงานบุญนี้ โตก็ต้องไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ คงว่างแว้นจากงานบุญอีกระยะหนึ่งเพราะจะต้องไป2ประเทศ ตอนนี้มีเวลาก็เลยตุนสะเบียงบุญเอาไว้ และโอกาสก็อำนวยโตขอโมทนาบุญกับพี่ๆเพือนๆญาติธรรมทุกๆท่าน ดีใจมากๆที่กลับมาร่วมบุญกันอีกครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรื่องอานิสงส์แห่งการถวายสังวาลนี่แรงจริงๆ ให้ผลตั้งแต่ชาติบัจจุบันทำให้ได้กัลยนมิตที่ดีได้ร่วมกันสร้างบารมีอีก สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2016
  13. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    คุณนฤมลเจ้าภาพองค์ที่26 กราบโมทนาสาธุๆๆครับ
     
  14. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับพี่เล็ก บ้านหมี่ ร่วมทำบุญ400บาท กราบโมทนาสาธุๆๆ
     
  15. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    คุณวีระและครอบครัวร่วมสร้างสังฆฏิแก้ว1000บาท กราบโมทนาสาธุๆๆอานุโมทามิ
     
  16. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    คุณพี่อ้อมัณฑนา ร่วมทำบุญ500บาท กราบโมทนาเป็นอย่างสูง สาธุๆๆอานุโมทามิ
     
  17. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ข้าพเจ้า
    นางสาว พรรณี พวงมาลี
    ร่วมเป็นเจ้าภาพ
    ลำดับที่๑๙. พระพุทธเจ้าสิทธัตถะ - ผู้หาบุคคลเสมอมิได้ในโลก-
    โมทนาสาธุคะ
    โอนวันที่28/6/2016นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มิถุนายน 2016
  18. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุๆๆอานุโมทามิ
     
  19. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณnanaเป็นเจ้าภาพพระองค์ที่28 กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆสาธุๆๆ
     
  20. capsoon1

    capsoon1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +153
    นายภีรียศ เมฆม่วงแก้ว ขอจองเป็นเจ้าภาพ องศ์ท่ี 23 พระพุทธเจ้าสิขี
     

แชร์หน้านี้

Loading...