ภาพงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สอ พนธุโล

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย takemby, 17 พฤศจิกายน 2009.

  1. Nu_Ni

    Nu_Ni เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +2,782
    สังเกตเหมือนกันค่ะ
    พระปรางนาคปรกค่ะ

    สาธุ
     
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]

    ภาพนี้หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ แสดงปาฏิหาริย์ครับ



    ปาฏิหาริย์พระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)


    พระพุทธสิริสัตตราช สิ่งศักสิทธิ์ ที่ต้องเข้าไปนมัสการ เพื่อความเป็นสิริมงคล


    รายละเอียด ของพระพุทธสิริสัตตราช
    ภาพที่ปรากฏในอัลบั้ม เป็นประมวลภาพเหตุการณ์ ณ บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว


    ระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน 2544 ในโอกาสที่พระเดชพระคุณพระครูภาวนากิจโกศล
    (หลวงปู่สอ พันธุโล)ให้จัดงานในเทศกาลตรุษสงกรานต์ เพื่อให้ชาวพุทธในกรุงเทพมหานคร
    และในปริมณฑลใกล้เคียง ได้มีโอกาสมาทำบุญ ตักบาตร ถวายภัตตาหารและสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล
    ผลบุญแด่บุพพการีชน ครูบาอาจารย์ และสรงน้ำพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ
    และพระธาตุครูบาอาจารย์ เลือกมาเฉพาะภาพที่”ไม่ธรรมดา” ปรากฏ”รังสี”หรือ”แสง” ส่วนภาพอื่น
    เลือกมาเพียงเพื่อลำดับเหตุการณ์เท่านั้น
    “รังสี”หรือ”แสง”เหล่านี้ ท่านเพิ่งมายินยอมอธิบายให้ศิษย์ผู้ใฝ่ในการเรียนทำสมาธิภาวนา
    ทราบ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2544นี่เอง โดยทุกครั้งก่อนหน้านั้น เมื่อกราบเรียนถาม ท่านจะเพียงเปรย
    ให้ศิษย์ใกล้ชิด(ที่ใฝ่ภาวนา)ฟังเท่านั้นว่า วันนี้-คืนนี้ ครูบาอาจารย์มาทุกองค์ เทวดาก็มามาก…….
    เต็มไปหมด บางเวลาหากเรียนถามลึกลงไปว่า ท่านหลวงปู่องค์นั้น…..องค์นี้มาหรือไม่ ท่านจะตอบรับ
    ว่า-มา บอกแล้วว่ามาทุกองค์ เทวดา ชั้นพรหม ชั้น…..มาไหม ท่านจะยิ้มตอบรับแล้วนิ่งอยู่……….
    ก็เพียงแค่นั้น…….เป็นอย่างมาก
    แต่ครั้งนี้ เป็นโอกาสพิเศษด้วยเรียนถามท่านด้วยความสงสัยว่า ทำไมภาพ”ไม่ธรรมดา”
    จึงมีมากมาย เป็นภาพพิเศษกว่า70% โดยที่ทุกครั้ง จะมีภาพพิเศษเพียงไม่เกิน 10%ของภาพที่ถ่าย
    บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด



    หลวงปู่ท่านอธิบายว่า พุทธาภิเษกครั้งนี้กระทำต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุและ
    พระธาตุครูบาอาจารย์ “ท่าน”และ “เทวดา” จึงมาอวยชัยให้พรมาก และอีกประมาณหนึ่ง เป็นการพุทธาภิเษก
    ที่จะหาทุนมาจัดสร้างพระพุทธรูป เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย “พระ”ผู้ทรงเป็น “ยอด”และ “ปิ่น”แห่งแผ่นดินทั้งสองพระองค์ เพื่อพระราชทานให้บังเกิดความร่มเย็น สันติสุขแก่แผ่นดินและทวยราษฎร์ ครูบาอาจารย์
    และปวงเทพ จึงมาชื่นชมแซ่ซ้องสาธุการอย่างน่าอัศจรรย์
    หลวงปู่(สอ พันธุโล)ท่านเมตตา ถึงกับชี้ให้ดูในแต่ละภาพว่า ที่นั้นๆมี “ใคร”อยู่ กลุ่มพ่อแม่ครูอาจารย์
    เหาะลอยอยู่บริเวณนี้……..แสงของเทวดาที่เหาะเข้ามากราบและลอยขึ้นไป…….อยู่บริเวณใด จุดใด…………
    จึงมี”รังสี-แสง”เป็นร่องรอย ให้พอบันทึกภาพได้บ้าง
    แสงสีเหลือง………….ครูบาอาจารย์
    แสงสีขาว…………….พรหม
    แสงสีเขียว……………จนทั้งภาพกลายเป็นสีเขียว พระอินทร์และคณาบริวาร
    แสง สีอื่นๆ เทพที่มาเป็นกลุ่ม จะมีพัสตราภรณ์สีต่างๆกัน ในความเป็นทิพย์แต่งองค์เช่นไร
    “รังสี-แสง”ที่บังเอิญกล้อง “จับ”ได้ ก็จะปรากฏขึ้นมาเป็น “สี”เช่นนั้น
    “แสง” เป็น “ดวงกลม” ท่านมาเป็นกลุ่ม เป็นคณะ บางทีพร้อมวิมาน……





    ในเทศกาลตรุษสงกรานต์ ขึ้นปีใหม่ไทยวันที่ 14-16 เมษายน 2544 ณ บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว
    มีประชาชนมารอร่วมใส่บาตร ถวายสังฆทาน และสรงน้ำหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุและพระธาตุครูบาอาจารย์อย่างคับคั่ง หลวงปู่สอ พันธุโลนำคณะสงฆ์ออกรับบาตรในภาพหลายภาพ ปรากฏ”แสง”เป็นดวงกลม ซึ่งท่านว่าเป็น “แสงเทพ”
    ถวายสังฆทานอันประกอบด้วย ภัตตาหารและบริวาร “สังฆทาน”ประเภทอาหารคาว หวาน ต้อง
    ลำเลียงมาจากข้างล่าง ใช้เวลาประเคนประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
    ท่านอาจารย์ ดาด สิริปุญโณ นำขมาพระรัตนตรัย ขอขมาหลวงปู่สอ
    หลวงปู่สอ นำสงฆ์สรงน้ำพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)องค์จริง พระบรมสารีริกธาตุ
    พระธาตุพระปัจจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระอรหันต์สมัยพุทธกาล พระธาตุพระอรหันต์นิรนามสมัยโบราณและ
    พระธาตุครูบาอาจารย์สมัยปัจจุบัน
    ก่อนพิธีพุทธาภิเษก หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และขณะนี้ท่านไป
    เผยแพร่ธรรมอยู่ที่ออสเตรเลีย ได้เดินทางมาเยี่ยม ได้คุยกับท่านถึงความหลัง เมื่อกำลังเขียนประวัติหลวงปู่ชอบ
    ประมาณ พ.ศ.2529 ท่านมากราบหลวงปู่ชอบที่เรือนไทย
    ท่านกล่าวว่า เรื่องหลวงปู่ชอบ เต็มไปด้วยเทวดา แต่หลวงปู่บุญฤทธิ์ยังไม่เคยพบเทวดา จึงไม่กล้า
    เชื่อว่าเทวดามีจริง ทันใดนั้นที่เรือนไทย ก็ส่งเสียงครืนลั่น กลดแดงใหญ่ที่หลวงปู่หลุยให้ไว้ แกว่งหมุน เสียงครืนลั่นขนาดนี้ เรือนไทยน่าจะไหวโยกทั้งหลัง ท่านมองหน้าผู้เขียนว่าเป็นเสียงอะไร
    หรือเป็นเสียงเทวดา…………?
    ผู้เขียนบอกว่า ถ้าเป็นเสียงเทวดา ขอฟังอีกสักครั้งชัดๆ ปรากฏเสียงครืนดังลั่น ติดต่อกันเป็นระยะจนต้องร้องว่า เชื่อแล้วว่าเทวดามีจริง เสียงจึงหยุด รุ่งขึ้นเรียนถามหลวงปู่ชอบ ซึ่งท่านพักจำวัตรอยู่ในกุฏิตรงหน้า หลวงปู่ชอบท่านรับว่า ใช่-เสียงเทวดาเขาทำให้ฟัง
    คืนวันที่ 14 เมษายน 2544เป็นเวลา 15 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลวงปู่บุญฤทธิ์มานั่ง
    ตรงจุดที่ท่านเคยนั่งเมื่อปี2529 ท่านก็เปรยว่า เทวดา เขายังอยู่ตรงนี้หรือเปล่า
    ภาพที่ถ่ายออกมาเลยมี “แสง”ให้ปรากฏ



    ปาฏิหาริย์พระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)(ต่อ)



    หลวงปู่สอ และคุณหญิงสุรีย์พันธ์ มณีวัต


    เมื่อเดือนธันวาคม2543 พระอินโดนีเซีย 2 องค์พร้อมคหบดีชาวอินโดนีเซียอีก 2คน มาขอกราบ
    พระบรมสารีริกธาตุที่บ้านลาดพร้าว ด้วยทราบกิติศัพท์จากสมเด็จพระสังฆราชได้บอกเขาไปว่า ปัจจุบันจะเปิดให้กราบและสรงน้ำเฉพาะระหว่างสงกรานต์เท่านั้น ถ้าหากสนใจขอให้มาระหว่างวันที่ 14-15เมษายนปี 2544นี้
    คหบดีชาวอินโดนีเซียและเพื่อนมีความเคารพเลื่อมใสพระบรมธาตุมาก เขาได้นำภาพถ่ายและวีดีโอ
    ออกมาอวด โดยจัดที่ตั้งบูชา ประดับดอกไม้สดอย่างสวยงาม เป็นแท่นบูชายาวเกือบ 300 เมตร เสียค่าดอกไม้
    ประดับไปเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท โดยมีพระธาตุเพียง 111 องค์เท่านั้น
    พระอินโดนีเซียและฆราวาสบอกว่า ยินดีที่จะบินมาและอาจชักชวนเพื่อนผู้ศรัทธามาด้วย
    น่าตื้นตันใจ ที่พอถึงวันที่ 14 เมษายน 2544 ท่านทั้งสองได้พาคณะศรัทธาชาวพุทธอินโดนีเซียบินมา
    กราบพระธาตุจริงๆ รวมถึง 31 คน คณะท่านมากราบถึง 2 วัน คือคืนวันที่ 14 และ 15 เมษายน ได้มอบพระบรม-
    สารีริกธาตุให้แก่ทุกคนในคณะและเกิดปาฏิหาริย์เพิ่มขึ้นอีก 8 ซอง คณะอินโดนีเซียตื่นเต้นกันมาก พระท่านเลยขอไปไว้ที่วัดในสุราบายาและเดนปาซาร์
    ก่อนเริ่มพุทธาภิเษก เริ่มมี “รังสี “ปรากฏ
    จุดเทียนที่อ่างน้ำมนต์
    รังสีเหนือเศียรหลวงปู่
    รังสีสีเขียว จับองค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ จนเห็นชัด แม้ด้วยตาเปล่า
    หลวงปู่บอกว่า เป็นรัศมีของพระอินทร์ที่พาเทวดาคณาบริวารมากราบและร่วมพิธี
    ภาพล่างซ้ายสุด ตอนบนในความเป็นจริงไม่มีลักษณะดังในภาพ
    รังสีเหนือเศียรหลวงปู่สอ มีอยู่ในภาพล่างซ้ายสุดและภาพกลางของหน้าขวา
    บน……..หลวงปู่ดับเทียนชัย



    ในพิธีการฯ


    บน:….พระธาตุหลวงปู่สอ พันธุโล ซึ่งเกิดจากเส้นเกศาและเล็บมือเล็บเท้าของท่าน จาก”เส้น-
    เกศา”ปีนี้ใสเพิ่มขึ้นเป็น “แก้วใสดุจเพชร”และเพิ่มจำนวนมากขึ้นมาก จาก”เล็บมือเล็บเท้า”เล็กขนาดเท่าไข่ปลา
    ใสเช่นกัน
    ล่าง:….โอ่งน้ำมนตร์ ซึ่งปักเทียนเป็นแนวนอน ปรากฏว่า เมื่อเทียนใกล้จะหมดเล่ม ก็ควรจะตกลง
    ในอ่างน้ำมนตร์และดับ แต่เทียน 2 เล่มกลับปักตั้งบนขอบโอ่ง และมีเทียนอีกเล่มหนึ่ง “ไปตั้งอยู่บนผิวน้ำและเปลวไฟลุกต่อไปได้อย่างอัศจรรย์”
    ภาพ”ไม่ธรรมดา”ในอัลบั้มที่ผ่านมา เป็นภาพในงานสงกรานต์ วันที่ 14-16 เมษายน 2544 ณ บ้าน
    เรือนไทย ลาดพร้าว และส่วนใหญ่เป็นภาพระหว่างพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)
    ขนาด 1.9 ซม.เมื่อคืนวันที่ 14 เมษายน 2544
    พิธีพุทธาภิเษกก็ดี พิธีเทเทองหล่อพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลองก็ดี มักจะมีภาพพิเศษที่ไม่ธรรมดา มี”รังสี” มี “สี” มี “แสง”รวมอยู่ด้วยเสมอ
    พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ณ บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว ในวาระต่างๆกัน
    พระพุทธรูปหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์นี้ กล่าวกันว่า ท่านเหมือนกับมนุษย์ มีเลือดเนื้อ บางทียิ้มได้ ลืมตาได้ ขยับมือเปลี่ยนจากมือขวาทับมือซ้าย ปลายนิ้วชี้ซ้ายขวาจรดกัน ปลายนิ้วหัวแม่มือซ้ายขวาจรดกัน…..





    ปาฏิหารย์ท่ามกลางหมู่สงฆ์


    รูปหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ทุกรูป เป็นรูปองค์ประธานที่บ้านเรือนไทย ถ่ายโดยกล้องเดียวกัน ในเวลา
    ติดต่อกัน(ยกเว้นภาพล่างซ้ายซึ่งเห็นองค์ท่านยิ้มจนแก้มปริ) แต่พักตร์ท่านต่างกัน บางรูปยิ้มมาก บางรูปทอดตา
    ลงต่ำ บางรูปยิ้มลืมตาจนเห็นแก้วตาสีดำ
    ในพิธีเททองหล่อพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ขนาดหน้าตัก 39นิ้ว สององค์
    ซึ่งขอพระราชทานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สำหรับพระราชทานให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ เขื่อนภูมิพลและ
    เขื่อนสิริกิติ์ เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธี ณ หน้า
    อุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2542 ได้ปรากฏภาพที่ “ไม่ธรรมดา”อย่างน่าอัศจรรย์
    ดูหน้าตรงข้าม
    เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเททอง เสื้อผ้าเจ้าหน้าที่โรงหล่อ ซึ่งปกติเป็นสีขาวปลอด(เทียบกับรูปซ้ายมือ)เปลี่ยนเป็นลายดุจงู
    ใน 2 ภาพขวามือ เห็นพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯอยู่ด้านหลัง
    บนขวา : ลำแสงสีขาวพุ่งออกมาทางกลางภาพซ้ายมือ ส่วนบนเป็นรูปแสงสีขาวคล้ายเศียรพญางู
    บน : ระหว่างพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ขนาดหน้าตัก
    39 นิ้ว ณ เขื่อนภูมิพล
    ภาพซ้าย ยังไม่เริ่มพิธีพุทธาภิเษก ภาพขวากำลังพุทธาภิเษก ไฟฟ้าแสงสว่างไม่ได้เปิดเพิ่มขึ้น
    แต่องค์พระที่กำลังพุทธาภิเษก สว่างเรืองด้วยแสงสีแดงและเขียว เห็นความแตกต่างชัดระหว่างภาพทั้งสอง
    ล่าง ; ตอนเช้า ถวายภัตตาหาร มี “แสงดวงกลม “ลอยอยู่ ดังที่ท่านผู้รู้บอกว่า เป็นกลุ่มเทพยดามาอนุโมทนา



    ปาฏิหาริย์ต่อเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระราชินีนาถ
    ปาฏิหาริย์พระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)(ต่อ-1)





    บน : วันรุ่งขึ้น หลังพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว ณ เขื่อนสิริกิติ์ มีแสงดวงกลมลอยมาปรากฏทั้งสองภาพ
    ล่าง ; ต่อมาผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ได้นิมนต์ให้ท่านไปแผ่เมตตาที่ต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังทรุดโทรมต้องการการอนุรักษ์อย่างมาก มีเทวดามาคารวะ ครั้งถ่ายภาพก็ปรากฏแสงวงกลมสีเหลืองและสีฟ้า
    พิธีเททองหล่อพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว จำนวน 2 องค์ ซึ่งจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬาภรณ์ ที่มณฑลพิธีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2543
    บางจุดถ่ายเห็นแสงเป็นดวงกลมสีเหลืองนวล ซึ่งหลวงปู่บอกว่า เป็นรังสีแห่งทวยเทพยดา
    ด้านในของหลังคาเต๊นท์ เป็นสีหม่นค่อนข้างเก่า แต่เมื่อถ่ายรูปออกมา มีรังสีเรืองรอง เป็นสีชมพู
    -ฟ้า-ม่วง-เขียวอ่อน-เขียวแก่-ขาวและเหลืองดุจแสงฉัพพรรณรังสี
    ระหว่างพิธีเททองหล่อพระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)จำลอง ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว
    จำนวน2องค์และ19นิ้ว1องค์ ซึ่งจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ เขื่อนสิรินธร โรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตระคองแบบสูบกลับ และเขื่อนน้ำพุง ตามลำดับ
    ที่มณฑลพิธี สำนักงานใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์2544
    มีลำแสงพิเศษเช่นกัน





    พระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)องค์จริง
    กล่าวกันว่า ท่านเหมือนกับมนุษย์ พูดได้ สอนธรรมะได้ (สำหรับผู้ปฏิบัติภาวนา)
    รูปปกติของท่าน จะทอดตาลงต่ำ พักตร์นิ่ง สงบ แต่บางครั้ง ท่านจะยิ้มให้อย่างเมตตา
    บางเวลากล้องจับอากัปกิริยาของท่านได้
    ภาพซ้าย เป็นภาพที่ท่านยิ้ม ลืมตา
    ภาพขวา นอกจากยิ้มและลืมตาแล้ว มือทั้งสองที่เคยวางทับกัน มือขวาทับมือซ้าย
    กลับเปลี่ยนเป็นนิ้วหัวแม่มือทั้งสองจรดกัน
    ภาพอัศจรรย์ ณ วัดเวฬุวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ หลายครั้งระหว่างพิธี-ไม่ว่าจะเป็น
    พุทธาภิเษกหรือเททอง-หลวงปู่จะบอกพวกลูกศิษย์นักภาวนาว่า ขณะนี้”หลวงพ่อ”ท่านมีพญางู
    แผ่พังพานอยู่เหนือมณฑลพิธี



    ในท่ามกลางพิธีใหญ่


    วันนั้นที่วัดเวฬุวัน ผู้ไม่มีตาทิพย์จึงอธิษฐานขอเห็นบ้าง(ขอเห็นโดยตาเนื้อ-)
    หลังอธิษฐานไม่กี่อึดใจ เมฆบนท้องฟ้าซึ่งเป็นสีเทาทะมึน เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
    สดใส และมีเมฆขาวกลุ่มใหญ่ลอยมา แล้วแปรเปลี่ยนเป็นเหมือนเศียรพญางู 7 เศียรแผ่พังพาน
    จึงประกาศให้ผู้ที่อยู่ในมณฑลพิธีประมาณหนึ่งหมื่นคน ได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า หลายสิบคนร้องไห้
    ด้วยความปลื้มปีติ ภาพบนท้องฟ้าปรากฏอยู่เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีจึงเลือนหายไป
    รูปทั้ง 4 นี้ ผู้ถ่ายภาพอยู่ต่างสถานที่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 100 เมตร มองขึ้นไปบนฟ้าเห็นภาพ
    ในมุมต่างกันบ้าง
    ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าดังเช่นที่วัดเวฬุวันนี้ เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะในระหว่างพิธี
    พุทธาภิเษก ณ บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเวลากลางคืน ทำให้น่าเสียดายที่ไม่อาจถ่ายรูปท้องฟ้า
    ในเวลากลางคืนได้
    ภาพชุดนี้ เกิดขึ้นที่เขื่อนสิริกิติ์ ระหว่างเชิญหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์องค์จริง ลงเรือไปในอ่างเก็บน้ำ
    เมฆเกล็ดเหมือนคลื่นงูตัวใหญ่น้อย ปรากฏที่ด้านหลังของเรือ ครั้นเมื่อเรือแล่นไปประมาณ 1 ชั่วโมง
    เมฆขาวกลุ่มเหมือนคลื่นงูนี้ก็สลายตัว แล้วไปลอยอยู่บนฟ้าเบื้องหน้าเรือแทน



    ปาฏิหาริย์ท่ามกลางฝูงชนหนาแน่น


    ภาพอัศจรรย์ในวันพระราชทานเพลิงศพ น.ส.ศราวณี มณีวัต ณ เมรุวัดธาตุทอง วันที่ 7
    ตุลาคม 2543 เวลาประมาณ 17.00 นาฬิกา
    เป็นที่ทราบกันดีว่า หลวงปู่สอ พันธุโลและหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ยิ่งด้วยความเมตตาต่อสาธุชน
    และผู้ที่มีความเคารพศรัทธาต่อท่าน โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บไข้ หากภาวนาถึงด้วยความเลื่อมใส ท่านจะไปปรากฏ
    องค์อนุเคราะห์เสมอ
    ศราวณีป่วยด้วยโรคร้าย แต่หลวงปู่และหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ก็มาโปรด เห็นทั้งด้วยตาเนื้อและ
    ในสมาธิ เป็นที่น่าประหลาดใจว่า จวบจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ศราวณีไม่ปวดเจ็บเลย ผิดจากผู้ป่วยด้วยโรคนี้
    รายอื่นๆ เธอจากไปอย่างสงบยิ่ง
    เมื่อทราบข่าว ทั้งๆที่เป็นเวลาระหว่างพรรษา หลวงปู่เมตตาสัตตาหะมากรุงเทพ มานำร่างเธอ
    จากโรงพยาบาลไปส่งวัด และอยู่เป็นประธานในงานสวดจนเสร็จงาน
    วันพระราชทานเพลิงศพ ไม่ทราบว่าหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์มาโปรดศิษย์หรือไม่ แต่ภาพแรก มีรังสี
    เริ่มปรากฏที่มุมบนขวาของภาพระหว่างผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในพิธีกำลังทอดผ้าไตร
    ภาพที่สอง รังสีแผ่ลงมามากขึ้น
    ภาพที่สาม มุมขวาล่าง มีรังสีสีขาวเป็นกลุ่มใหญ่แผ่กำจายอยู่
    ภาพที่สี่ ครั้น พล.อ.ต.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรีประธานในพิธีเตรียมทอดผ้าไตร รังสีสีขาว
    ก็แปรให้เห็นเป็นคล้ายด้านหลังขององค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์อย่างชัดเจน…..จบบริบูรณ์.


    ……………………………………….



    ............ของกำนัลแถมพิเศษ...........
    ปาฏิหาริย์พระพุทธสิริสัตตราช(หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)(ต่อ-2)



    แสงสีแดงและสีเขียวที่ปรากฏกับองค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์อย่างชัดเจนแม้ด้วยตาเปล่าๆก็ตาม.....


    ท่ามกลางหมู่สงฆ์และประชาชนหนาแน่น....ในงานจะมีใครจะได้ทราบ/ เห็นหรือไม่ว่ามีเทพ พรหม นางฟ้า ครูบาอาจารย์ พระอินทร์ เทพชั้นผู้ใหญ่ได้มาร่วมพิธีการอยู่ด้วย


    แสง สี เป็นวงกลมหลากสีสันมากมาย.....ได้ปรากฏขึ้นในบริเวณปะรำพิธีอย่างสวยงามในภาพ ที่จริงถ้าทุกคนได้เห็นด้วยตาของทุกคนด้วย น่าจะเป็นการดีสำหรับการสร้างศรัทธาปสาทะในบวรพุทธศาสนา ท่านคิดเหมือนๆเราหรือเปล่า?.....


    ภาพปาฏิหาริย์บนท้องฟ้าเหนือหลังคาโบสถ์ปรากฏเป็นเศียรพญางูใหญ่แผ่พังพาน 7 เศียรซึ่งมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าๆในพื้นที่ต่างๆห่างกันกว่า 100 เมตร เป็นเวลานานประมาณ 15 นาทีเศษทีเดียว....มีผู้รู้ท่านบอกว่าเป็นพญา นาคที่มีเศียร 7เศียรที่มีชื่อว่า พญามุจลินทร์ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์มากมายที่มาอยู่กับพระพุทธสิริสัตตราชองค์นี้!! ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่บันทึกไว้นี้ก็ปรากฏเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีอยู่แล้ว.....

    ภาพ-เรื่อง เอื้อเฟื้อเขียนโดย คุณหญิงสุรีย์พันธ์ มณีวัต บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว กทม.
    คัดลอกจากhttp://www.agalico.com/board/showthread.php?t=31824
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  3. ฤาษีท้ายเรือ

    ฤาษีท้ายเรือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,991

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a-1.jpg
      a-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.6 KB
      เปิดดู:
      152
    • a-2.jpg
      a-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.6 KB
      เปิดดู:
      130
    • a-3.jpg
      a-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.7 KB
      เปิดดู:
      150
    • a-4.jpg
      a-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      119
    • a-5.jpg
      a-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.9 KB
      เปิดดู:
      134
    • a-6.jpg
      a-6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      113
    • a-7.jpg
      a-7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      111
    • a-8.jpg
      a-8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.7 KB
      เปิดดู:
      120
    • a-9.jpg
      a-9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      121
    • a-10.jpg
      a-10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      119
    • a-13.jpg
      a-13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.9 KB
      เปิดดู:
      117
    • a-11.jpg
      a-11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      114
    • a-12.jpg
      a-12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      152
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  4. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    <TABLE class=tborder id=post2624063 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175></TD><TD class=alt1 id=td_post_2624063 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->สาธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ


    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม
    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->[​IMG]เต้ากรวดน้ำทองเหลือง<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]


    กราบหลวงปู่สอด้วยความนอบน้อมอย่างสูง

    ขอบคุณเจ้าของภาพทุกท่าน
     
  6. ต้นไม้..

    ต้นไม้.. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +911
    กราบนมัสการหลวงปู่ครับ...
     
  7. takemby

    takemby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +199
    สุดท้ายจากมือถือค่ะ ขออภัยที่รูปไม่ชัดนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0236.JPG
      IMG_0236.JPG
      ขนาดไฟล์:
      537.5 KB
      เปิดดู:
      84
    • IMG_0237.JPG
      IMG_0237.JPG
      ขนาดไฟล์:
      573.7 KB
      เปิดดู:
      93
    • IMG_0238.JPG
      IMG_0238.JPG
      ขนาดไฟล์:
      459.9 KB
      เปิดดู:
      100
    • IMG_0239.JPG
      IMG_0239.JPG
      ขนาดไฟล์:
      511.4 KB
      เปิดดู:
      128
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่เจ้าค่ะ
     
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]





    สังเกตุภาพพระที่ปรากฏที่เศียรนาคตนที่3ซ้ายมือโดยบังเอิญครับ เข้าใจว่าเป็นแสงสะท้อนบนกระจกกระมังครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  10. sp3540

    sp3540 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +10
    ขอบคุณคุณอีฟสำหรับภาพที่เอามาฝากค่ะ

    ขอกราบนมัสการและน้อมส่งหลวงปู่สอด้วยค่ะ
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อหลายปีก่อนเคยได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่สอที่บ้านเรือนไทย ได้รับโอกาสอนุญาตจากหลวงปู่ให้ได้อัญเชิญหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์องค์จริง มาทูนท่านไว้บนหัว เป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่งครับ สาธุๆๆ อนุโมทามิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  12. ฤาษีท้ายเรือ

    ฤาษีท้ายเรือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,991
    โมทนาด้วยครับ

    เสียดายไม่ได้อยู่ตอนเก็บอัฐิหลวงปู่ ต้องกล้บมาทำงาน..แต่ยังดีที่ได้แบกโลงสรีระท่าน
    แบกไป สวดไป น้ำตามันจะไหลให้ได้เลย..

    ประสบการณ์ที่เกิด กับ หลวงปู่สอ

    http://palungjit.org/threads/ระลึกถึง-หลวงปู่สอ-พันธุโล-กับ-พระเครื่อง.213808/


    พระพุทธบาท 4 รอย - หล่อพระจักรพรรดิ์ 3 เมตร
    http://palungjit.org/threads/4-5-6-...รดิประทับยืนปางเปิดโลก-ความสูง-3-เมตร.213973/
     
  13. wataru_nat

    wataru_nat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +83
    น้อมส่งหลวงปู่คับ
     
  14. TOTGOOD

    TOTGOOD สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +9
    จบตำนานหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระดีจากไปอีกองค์แล้วสิครับ
     
  15. SPARTANS

    SPARTANS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,380
    ค่าพลัง:
    +2,986
    กราบไว้อาลัยหลวงปู่มา ณ ที่นี้ครับ
     
  16. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    ขอส่งจิตน้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่สอที่ได้ละสังขารเข้าสู่พระนิพพาน กรรมใดที่ลูกได้กระทำผิดต่อองค์หลวงปู่ ขอหลวงปู่โปรดงดโทษกรรมนั้น ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แล้ว เห็นแล้ว ขอให้ลูกหลานได้รู้ตาม เห็นตาม ด้วยเทอญ
     
  17. ปุญญานุภาพ

    ปุญญานุภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +916
    กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระมหาเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐ

    *มีหนึ่งภาพที่ท่าน จขกท ถ่ายติดแบบปฏิหารย์ ครับ สังเกตุดี ๆ นะครับ จะเห็นเหมือนพระคุณท่านนั่งขัดสมาธิ อยู่บนที่ปลงพระศพครับ

    อนุโมทนาสาธุการครับ
     
  18. ปืนไฟ

    ปืนไฟ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +63
    กราบนมัสการหลวงปู่สอ พันธุโล.... จากศิษย์ปลายแถว

    น้อยครั้งมากในช่วงหลังที่ผมจะได้เข้ามาที่ web พลังจิต..

    หลังจากได้รับ email ตอบจากพี่สหายธรรมท่านหนึ่ง เพื่อขอรูปที่เอามาลง ผมจึงได้เข้ามาเพื่อดูรูปอื่นๆบ้างครับ

    เส้นทางพระอริยะนับว่ายากมากสำหรับคนอย่างผม แต่อาจง่ายสำหรับหลายท่านที่สะสมบุญบารมีมาเพียงพอแล้ว...

    ผมดีใจและปีติทุกครั้งที่ได้เห็นศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่แสดงกตเวทิตา ต่อหลวงปู่ ไม่วาจะด้วยการแสดงความเคารพกราบไหว้บูชาต่อพระอริยเจ้าองค์นี้ หรือการนำภาพหลวงปู่มาลงเพื่อให้กราบไหว้บูชาเป็น รัตนัตยานุสติ

    ผมเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ตรงในคำทำนายของหลวงปู่ต่อเหตุการณ์บ้านเมืองตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งหลายครั้งผมอยู่ในเหตุการณ์ที่หลวงปู่สอทำนายไว้... และผมยืนยันได้ตรงนี้ว่า ในชีวิตผม ผมไม่เคยเห็นพระอริยเจ้าองค์ใดที่ทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองได้ถูกตรงขนาดหลวงปู่สอ....

    หลายท่านในที่นี้อาจเคยไปกราบหลวงปู่ที่บ้านเรือนไทยหรือที่ใดๆ ก็ตาม... คงจะจำรอยยิ้มของหลวงปู่เวลาสอนธรรมให้พวกเราได้อย่างดี...

    ทุกวันนี้ ผมยังกำหนดใบหน้าหลวงปู่ในยามยิ้มเพื่อเป็นอารมณ์สมถะ ในเวลาที่จิตใจผมหดหู่...

    ผมในฐานะศิษย์ปลายแถวที่ได้มีโอกาสนวดเฟ้นหลวงปู่เพียงไม่เกิน 3 ครั้ง... ขอกราบนมัสการครูบาอาจารย์ผู้จะอยู่ในอารมณ์กรรมฐานของผมตลอดไป

    แม้วาระสุดท้ายแห่งสังขาร หลวงปู่ยังได้ใช้สังขารของท่านสอนให้ผมได้สดับธรรมว่า

    โรคาพยาธิ ไม่เลือกหน้าไหน แม้แต่พระอริยเจ้าก็เลี่ยงไม่ได้...
    ความรัก ความผูกพัน ความอยากที่ไม่รู้จักพอ และความหลงในโลกธรรมทั้งมวล ล้วนเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์...
    ความตายเป็นที่สุดแห่งสังขาร...
    "สติ" เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา...
    และคุณวิเศษใดๆ ในโลกหล้า ไม่อาจเทียบค่า "สติพร้อมตาย".. เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่ขจัดทุกข์ในใจเล็กๆ ของเรา...

    ที่งานปลงสังขารหลวงปู่ ผมได้ยินบทธรรมที่ก้องในหูวนไปวนมาเป็น 100 ครั้งว่า

    อนิจจา วะตะ สังขารา อุปาทะวะยะ ธัมมิโน อุปปัฌชิตวา นิรุตฌันติ เตสังวูปะสะโม สุขโข
    สัพเพสัตตา มะรันติจะ มะริงสุจะ มะริสสะเร ตะเถวาหัง มะริสสามิ นัตถิเม เอตถะ สังสะโย

    ซึ่งเมื่อแปลโดยรวมพอเข้าใจได้ว่า สังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไปเป็นธรรมดา การเข้าไประงับสังขารได้เป็นความสุข
    สัตว์ทั้งหลายที่ตายอยู่ ที่ตายแล้ว และกำลังจะตาย สักวันหนึ่ง เราก็ต้องไปที่จุดเดียวกันนั้น ความสงสัยในเรื่องตายจึงไม่มีแก่เรา

    ครั้นมาดูตอนเผาสังขารหลวงปู่แบบกลางแจ้ง เราก็เข้าในบทธรรมที่ว่า

    อจีรัง วะตะ ยังกาโย ปฐวิง อธิเสสะติ ฉุฑโฑ อเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะลิงคะรัง

    แปลโดยรวมว่า กายของเรานี้มันไม่ยั่งยืน เมื่อวันหนึ่งปราศจากวิญญาณแล้ว มันก็เหมือนท่อนฟืนที่เขาทิ้งเสีย หาประโยชน์มิได้

    ที่เขียนนี้ ผมไม่ได้บังอาจแสดงธรรมนะครับ แต่เพียงเป็นการถวายความอาลัยแด่สังขารพระอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ซึ่งผมเองในฐานะของผู้เคยพอมีประสบการณ์การถือธุดงค์บ้าง ก็เห็นสัจจะแห่งสังขาร เมื่อวันที่เราเดินอยู่บนเส้นทางระหว่างความเป็นกับความตายที่จะพรากเราได้ทันที แม้เราจะวังตัวเพียงใดก็ตาม ศีลที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่จะทำให้เราตายได้อย่างมีสติ ซึ่งในความจริงแล้วศีลที่บริสุทธิ์และการภาวนาอย่างจริงจัง ย่อมเป็นกำแพงแก้วป้องกันภยันตรายทั้งปวง ไม่มีคาถาใดที่จะช่วยเราได้ นอกจาก "พุทโธ"

    อาจาริเย ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อัปะราทัง ขะมะถะเม ภันเต..
    อาจาริเย ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อัปะราทัง ขะมะถะเม ภันเต..
    อาจาริเย ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อัปะราทัง ขะมะถะเม ภันเต..

    สุดท้ายนี้ ขออนุโมทนากับรูปที่ posted ทุกรูปในที่นี้ และขออนุโมทนากับเจ้าของภาพทุกท่านนะครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    สวัสดีครับ









     
  19. thirayu

    thirayu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +12
    นิพานะ ปัจจะโย โหตุ
    ขอกราบอนุโมทนา....พร้อมทั้งกาย วาจา ใจ
     
  20. หวานอุบล

    หวานอุบล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +230
    กราบส่งท่านด้วยคนครับ สาธุ สาธุ สาธุ จากคนอุบลคนนึง
     

แชร์หน้านี้

Loading...