ภาพงานพระราชทานเพลิงศพ,พระธาตุ,เชิญร่วมบริจาคสร้างเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 26 เมษายน 2007.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร
    ร่วมทำบุญงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่จันทร์โสม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=24512&st=0

    เรื่องเล่างานถวายเพลิงหลวงปู่จันทร์โสมช่วง 19-21มีนาคม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=25402&st=0

    ภาพงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่จันทร์โสม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=25447&st=0

    นำภาพงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่จันทร์โสม มาให้ชมกันครับ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=75501

    อัฐิหลวงปู่จันทร์โสมกลายเป็นพระธาตุหลังพระราชทานเพลิงศพในชั่วข้ามคืน
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=75886

    เชิญร่วมบริจาคสร้างเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=25916&st=0
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

    [​IMG]

    กราบขออนุญาตหลวงปู่จันทร์โสมครับ

    ขณะนี้งานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของศรัทธา สาธุชน ผู้ศรัทธาในศาสนาและหลวงปู่จันทร์โสมกัน

    ตามธรรมเนียมที่ควร ซึ่งเมื่ออัฐิธาตุของหลวงปู่ได้มีบางส่วนกลายเป็นพระธาตุแล้ว คณะสงฆ์วัดป่านาสีดาเห็นควรให้มีการสร้างเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร เพื่อเป็นการระลึกคุณของหลวงปู่และประกาศคุณธรรมแด่องค์หลวงปู่

    การสร้างเจดีย์จะมีการจัดเก็บพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และอัฐิธาตุและอัฐบริขานของหลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร ซึ่งได้วางศิลาฤกษ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ณ บริเวณถวายพระเพลิง
    แต่ทางวัดยังขาดปัจจัยอีกมาก ในการสร้างเจดีย์ จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคปัจจัย สร้างเจดีย์ถวายหลวงปู่จันทร์โสมได้ที่

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยอ.ศรีเชียงใหม่
    ชื่อบัญชี กองทุนสร้างเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
    ประเภทออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 392-2-17444-9


    <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    อังคารบางส่วนที่กลายเป็นพระธาตุแล้วครับ รูปล่างเป็นแบบจำลองเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม
    [​IMG]
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร แสงธรรมอีสาน

    ที่บ้านนาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มีวัดป่าวัดหนึ่งอยู่กลางทุ่งกว้าง ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นป่าไม้ตะเคียนหนาทึบ บัดนี้ ป่าหายหลังจาก รพช. ตัดถนนเข้าไป กลายเป็นหมู่บ้านชาวไร่ชาวนา วัดนี้ชื่อ "วัดป่าจันทรังสี" สาขาวัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษย์ หรือหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี สมภารเจ้าวัดคือ "หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร " อายุ 84 ปี พรรษา 63

    พระเถระสายวิปัสสนากรรมฐาน ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งยังดำรงชีพเป็นมิ่งขวัญของชาวบ้าน และคณะสงฆ์อรัญวาสี โดยเป็นพระวิปัสสนาจารย์รูปที่ 3 แห่งภาคอีสานเหนือ รองจากพระไตรโลกาจารย์ วัดศรีเมือง และหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต

    ท่านเกิดในตระกูล "ปราบพล" เมื่อวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย. พ.ศ.2465 ตรงกับวันจันทร์ แรม 3 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ ณ ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี บุตรของนายกรม และนางอาน มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 6 คน คือ บุญชม ใจหาญ ด.ญ.คำ ปราบพาล ด.ญ.อ่ำ ปราบพาล ด.ญ.ไอ่ ปราบพาล เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก พระจันทร์โสม กิตติกาโร และนายกองแก้ว ปราบพาล

    วัยเด็กคลุกคลีอยู่กับวัด เพราะบิดาเป็นมัคนายกวัดบ้านนาสีดา อายุ 10 ขวบ ก็เข้ารับการศึกษาประชาบาลที่วัดบ้านกลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ระยะแรกที่เรียนหนังสือนั้นต้องไปๆ มาๆ ระหว่างวัดกับบ้าน ผลที่สุดได้ไปอยู่วัดเป็นประจำ จนจบชั้นประถม 4 เมื่ออายุ 14 ปี หลังจากออกจากโรงเรียนแล้วก็ได้กลับมาอยู่บ้าน ด้วยเหตุที่วัดไม่มีพระอยู่ ต่อมามีพระกรรมฐานเดินรุกขมูลมาพัก จึงเข้าไปปฏิบัติรับใช้อยู่จนกว่าท่านจะออกเดินทางหาวิเวกที่อื่น

    พออายุ 15 ปี ได้ไปอยู่กับท่านอาจารย์เกตุ ขนฺติโก พี่ชายหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสระวารี อ.บ้านผือ และได้รับการสอนให้เขียนหนังสือขอมาหนึ่งปีผ่านไป ก็ย้ายไปอยู่ถ้ำพระนาผักหอก อ.บ้านผือ กับอาจารย์วารี เรี่ยวแรง

    เมื่ออายุได้ 16 ปี ใน พ.ศ.2481 ได้ไปอยู่ที่ถ้ำพระนาผักหอก อ.บ้านผือ กับอาจารย์วารี เรี่ยวแรง (ขณะนั้นบวชเป็นพระ) ท่านอาจารย์วารี มีแต่พระอยู่ไม่มีเณรรับใช้ จึงจำเป็นต้องไปอยู่รับใช้จนตลอด 3 เดือนจึงได้กลับบ้าน กระทั่งปี 2482

    จากนั้นอายุ 17 ปี โยมพ่อเสียชีวิตลงไม่มีใครช่วยทำนาทำไร่ มีแต่โยมแม่ พี่สาวและพี่เขยเท่านั้น หลวงปู่จันทร์โสม จึงจำเป็นต้องอยู่บ้านช่วยพี่สาวและ พี่เขยทำนาทำไร่เลี้ยงครอบครัว เพราะน้องชายก็ยังเป็นเด็กเล็กทำงานอะไรไม่ได้ ในสมัยที่โยมพ่อยังมีชีวิตอยู่ การทำนาก็ยังต้องอาศัยการจ้างแรงงานช่วยทำทุกปีกว่าจะแล้วเสร็จ ท่านจึงได้ช่วยครอบครัวทำนาอยู่จนอายุครบ 20 ปี และได้พิจารณาถึงความศรัทธาที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา กับระลึกถึงกุศลเจตนาของโยมพ่อ จึงเข้าอุปสมบท ณ วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. พ.ศ.2485

    ท่านเจ้าคุณพระธรรมไตรโลกาจารย์ (รักษ์ เรวโต) ครั้งดำรงสมณศักดิ์พระครูวิชัยสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

    [​IMG]
    ท่านเจ้าคุณพระเทพญาณวิศิษย์ วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก จุดชนวนถวายเพลิงหลวงปู่

    หลังพรรษาแรกผ่านพ้น ท่านออกวิเวกไปในที่ต่างๆ อาทิ บ้านน้ำอ้อม อ.วังสะพุง จ.เลย และวัดหนองขาม อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนที่จะกลับมาเกณฑ์ทหารในปี พ.ศ.2486 ในปีนั้น ได้จำพรรษาที่วัดอรัญญวาสี เข้าเรียนนักธรรมชั้นตรี ปรากฏว่าสอบได้ ทางการจึงยกเว้นไม่ต้องไปเป็นทหารจึงไปพักกับอาจารย์เกตุที่วัดป่าช้าบ้านสว่าง

    ปี พ.ศ.2487 กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวาสี เรียนนักธรรมโท ออกพรรษาสอบได้แล้วก็ออกรุกขมูลมาตามริมแม่น้ำโขง บุกป่าผ่าดงมาจนถึงวัดพระพุทธบาทคอแก้ง (เวินกุ่ม) ก่อนจะกลับไปบ้านนาสีดาในปี พ.ศ.2488

    ปี พ.ศ.2498 จำพรรษาที่วัดศรีชมชื่น (วัดป่าบ้านนาสีดา) เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และได้รับการฝากให้เป็นศิษย์รับใช้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอยู่ปฏิบัติอาจาริยวัตรกับหลวงปู่มั่นเป็นเวลา 2 พรรษา คือ ปี พ.ศ.2490-2491 ก็กราบลาไปเที่ยววิเวกที่บ้านห้วยหวายกับหลวงปู่อุ่น ชาคโร

    ปี พ.ศ.2492 กลับมาอยู่กับหลวงปู่เทสก์ และช่วยงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่นจนเสร็จสิ้น ก็เที่ยววิเวกไปกับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร และหลวงปู่อรุณ อุตตโม วัดพระบาทนาสิงห์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคายต่อมาได้ติดตามหลวงปู่เทสก์ไปเผยแผ่ธรรมที่ภาคใต้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2495-2499 และกลับมาอยู่วัดศรีชมชื่นถึงปี พ.ศ.2514 ย้ายออกมาอยู่บริเวณป่าช้าดงบ้านเลา ซึ่งเป็นสถานที่กว้างขวางร่มรื่นเงียบสงบ ก่อสร้างกุฏิ เสนาสนะต่างๆ โดยลำดับ

    โดยตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า "วัดป่าบ้านนาสีดา" และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค. พ.ศ.2531

    หลวงปู่จันทร์โสมท่านมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี จึงได้รับการอบรมบ่มสอนมาตั้งแต่เด็ก แม้บวชเรียนแล้วก็อยู่ในสายตา คอยแนะนำทางที่ถูกให้ประพฤติปฏิบัติไม่เคยทอดทิ้งจนกระทั่งตัวท่านละสังขารไป

    เหตุการณ์สำคัญในชีวิตก็คือ การไปใช้ชีวิตกับหลวงปู่เทสก์นานถึง 8 ปี ในการเผยแผ่พระธรรมและกรรมฐานที่ภูเก็ต สมัยนั้น "พระป่า" ยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดปัญหาขัดแย้งจนถึงขับไล่ไสส่งกัน แต่คณะของหลวงปู่เทสก์ก็ต่อสู้แก้ไขจนสถานการณ์ลุล่วงไปด้วยดี

    นอกจากนี้ จากการได้อยู่ปรนนิบัติหลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิดถึง 2 ปี จึงได้รับ "ของดี" มาอย่างเต็มๆ ทั้งข้อวัตรปฏิบัติ การสำรวมกาย วาจา ใจปฏิปทาและหลักธรรมนานาของพระอาจารย์ใหญ่ ซึบซาบเข้าในสายเลือดสมัยนั้นการเข้าไปขอสมัครเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการกลั่นกรองเป็นขั้นเป็นตอนพระเณรที่ขาดการสำรวมทำอะไรไม่ถูกต้อง จะโดนดุว่าตรงๆ แรงๆ เป็นการถากถางกิเลส คนจิตไม่แกร่ง ไม่ทน จึงพากันถอย สำหรับหลวงปู่จันทร์โสม ท่านสอบผ่านโดยง่ายดาย เพราะอุปนิสัยเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาแต่เยาว์วัย
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ปัจจุบันจึงเป็นพระผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านชาวเมืองกราบไหว้ยกย่องนับถือในวัตรปฏิบัติและปฏิปทา รวมทั้งการเทศนาสอนธรรมกรรมฐานแก่ญาติโยม ท่านบริหารวัดตามแนวของหลวงปู่เทสก์ ด้วยการสร้างศรัทธาปสาทะให้ญาติโยมรอบวัดเลื่อมใสก่อน ส่วนการปฏิบัติธรรมได้ยึดตามแนวหลวงปู่มั่น เทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวันของผู้คน อาทิ

    "คนทุกคนสามารถสร้างคุณงามความดีได้ทุกคน
    "แต่ที่เขาไม่อยากทำ เพราะเชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง
    "อย่าว่าแต่ฆราวาสเลย พระที่บวชในพุทธศาสนา ถ้าเชื่อจริงๆ จังๆ แล้ว ทำอะไรก็ได้ผล
    "เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เรียกว่า สงสัย ลังเล ก็เลยเดินไม่ถูก

    "ไม่ว่าสมัยใด ทำเมื่อไหร่ได้เมื่อนั้น" ฯลฯ

    ใครก็ตามที่ต้องการปฏิบัติให้จิตสงบ ท่านให้คำแนะนำง่ายๆ ว่า ให้เลือกยึดอนุสติ 10 มาเป็นหลักพิจารณาเพียงหนึ่งอย่าง โดยเลือกให้ถูกกับอุปนิสัยของตนเอง และเลือกข้อที่นำมาปฏิบัติแล้ว เกิดความสลดสังเวช เกิดความเบื่อหน่ายเพื่อที่จะแก้ไขตัวเองได้ ลูกศิษย์ลูกหาที่ได้รับโอสถธรรมจากท่าน สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้มากมาย

    ในวัย 80 ปี หลวงปู่จันทร์โสม ผิวพรรณวรรณะท่านยังผ่องใส สุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมกับเป็นพระปฏิบัติ และไม่เคยละเว้นการสอนศีลสอนภาวนาแก่ญาติโยมที่สนใจ โดยจะย้ำถึงอานิสงส์แห่งการภาวนาอยู่เสมอ

    "การภาวนา นอกจากให้ผลทางจิตใจแล้ว
    "ความเอ็นดู เมตตาสงสารคนอื่นก็เกิดขึ้น
    "ที่เราโกรธเกลียดพยาบาทก็หายไป
    "เห็นโทษก็สงสารเขา มีธรรมะในใจ
    "ความอิจฉาพยาบาทเบียดเบียนก็ไม่เกิดขึ้น อยู่หมู่คณะใดก็ไม่เกิดขึ้น" และ
    "ขออย่าประมาท อย่าละทิ้งการภาวนา
    "ทำเป็นไม่เป็นก็ช่างเถอะ ขอให้ได้ทำอย่างเดียว นานๆ เข้าก็ติดจิตไปด้วย
    "สะสมวันละนิด งานก็ใหญ่ขึ้น ทำให้จิตใจเราสบายเป็นอานิสงส์
    "จิตใจสบาย มันก็คลุกคลีทุกสิ่งทุกอย่าง
    "มันเดือดร้อน เราภาวนาก็ทำให้จิตใจเย็น" ฯลฯ

    ผู้อยากพบแสงสว่างทางใจ หมั่นภาวนาตามมรรคาที่ท่านวางไว้โดยพลัน !!

    สัจธรรมแห่งชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีได้พ้น หลวงปู่จันทร์โสม ในวัยชราเริ่มอาการเจ็บป่วยเข้ามาแผ้วพาน วันที่ 26 ก.พ. พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา หลวงปู่จันทร์โสม ได้มีอาการปวดท้องเจ็บหน้าอก คณะศิษยานุศิษย์ได้รีบนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช

    กระทั่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค. พ.ศ.2549 หลวงปู่มีอาการกำเริบหนักขึ้น ปวดท้องแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยสะดวก คณะแพทย์ได้รีบช่วยกันปั๊มหัวใจรักษาอาการอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้

    ในที่สุด หลวงปู่จันทร์โสม ได้ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคหัวใจล้มเหลว สิริรวมอายุ 84 พรรษา 63 ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์เป็นยิ่งนัก

    .............................................................

    คัดลอกมาจาก ::
    - นสพ.ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด
    วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2545 และวันที่ 7 มี.ค. พ.ศ.2549
    - นสพ.คมชัดลึก หน้า 1
    วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2547
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1581
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ร่วมสร้างเมรุถวายหลวงปู่จันทร์โสม นับเป็นวาระสุดท้าย
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    การสร้างเจดีย์จะมีการจัดเก็บพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และอัฐิธาตุและอัฐบริขานของหลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร ซึ่งได้วางศิลาฤกษ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ณ บริเวณถวายพระเพลิง
    แต่ทางวัดยังขาดปัจจัยอีกมาก ในการสร้างเจดีย์ จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคปัจจัย สร้างเจดีย์ถวายหลวงปู่จันทร์โสมได้ที่

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยอ.ศรีเชียงใหม่
    ชื่อบัญชี กองทุนสร้างเจดีย์หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
    ประเภทออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 392-2-17444-9


    [​IMG]
    แมลงเกาะบาตรบริขารหลวงปู่

     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    มีรูปเก่าๆ มาให้ชมกันครับ ในอดีตท่านที่เคยกราบหลวงปู่เหรียญ ก็มักจะได้กราบ หลวงปู่จันทร์โสม ไปไหนท่านก็จะไปด้วยกัน เป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับท่านที่ติดตามพระป่ากรรมฐาน
    ภาพถ่ายเมื่อปี 2545 ที่ มศว ประสานมิตรครับ หลวงปู่เหรียญมาเป็นประธานสงฆ์ พร้อมหลวงปู่จันทร์โสมด้วย แล้วก็มีครูบาอาจารย์ที่มาร่วมงานมรณะภาพแล้วอีกองค์คือ หลวงปู่พวง สุวีโร ก็ถือว่าเป็นบุญแก่มหาวิทยาลัยมาก หลังจากครั้งนั้นทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้จัดทำบุญแบบนี้อีกเลย
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ภาพต่อมา เป็นงานทำบุญวันเกิดหลวงปู่เหรียญปีหนึ่งครับ ตรงกลางภาพ คือ หลวงปู่พระธรรมไตรโลกาจารย์ วัดศรีเมือง หนองคาย เป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่จันทร์โสม กับหลวงปู่บุญฤทธิ์ด้วย ปัจจุบันมรณภาพแล้วครับ
     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    จากรอบๆ เมรุ ภายหลังจากงานพระราชทานเพลิงแล้ว จะทำการก่อสร้างเจดีย์ในบริเวณเดียวกันนี้ จึงต้องมีการเทหินคลุกเพิ่มเติม เพื่อให้บริเวณพื้นที่ที่เดิมเป็นดิน มีความมั่นคงขึ้น ​
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    เชิงตะกอนครับ ประดับบัวรอบแล้ว สีแดงนี้คือสีรองพื้น เมื่อแล้วเสร็จจะทาสีทอง
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    เสาโคมไฟลายกระจังรอบเมรุ มาติดตั้งแล้ว​
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    [​IMG]
    โคมไฟรูปหงษ์ จะตั้งประดับทางเดินประธานสู่เมรุ
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    ลักษณะเมรุจะทำเป็นเนินดินรูปวงกลม มีร่มกลดใหญ่กลางให้ร่มเงาอยู่บนเชิงตะกอนท่อพีวีซีจะใช้สำหรับประดับดอกไม้
     

แชร์หน้านี้

Loading...