ภาพรวมของนิพพาน คือ อสังขตธาตุ..นั่นเอง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ใครบรรลุธรรม, 5 มีนาคม 2019.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แกอ่านข้อ 9.ซิ
    ทุกอย่างทั้งสิบข้อ ความหมาย หมายถึงอันเดียวกันทั้งนั้น
    ก็มีแต่เมึงนั่นแหล่ะ ที่เถียงอยุ่นี่
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เมึงยก กถามาเองว่าจิตมีชื่อเรียกขานตั้ง 10 ชื่อ ความหมายมากมาย แต่หมายถึงจิตอันเดียวกันทั้งหมด แล้วมึงจะมาแยกอะไรอีก...

    ถ้าไม่รู้การทำงานของ ผัสสะ กายใจ แกก็ไม่รู้หรอกว่าจิตคืออะไร

    รู้จักอายคนมั่งสิ
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ฟังแกเพ้อเจ้อ ไปเรื่อยๆนี่นะ
    วิปัสสนึกเอา มาอวดเพื่ออะไร ในสิ่งที่ตนเองก็ไม่เข้าใจ

    ช่วยไปอวดความโงๆ ที่อื่นไป
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200

    1.ธรรมชาติใดที่คิด ย่อมไม่เที่ยง เรียกว่าจิต

    ค่ะ คือ จิตสังขาร คือ สังขารในขันธ์ 5

    2.ธรรมชาติใดที่ไม่เที่ยงน้อมไปหาอารมณ์(รู้อารมณ์ เสพอารมณ์) เรียกว่าจิต

    ค่ะ คือ วิญญาณขันธ์

    3.จิตที่ไม่เที่ยงรวบรวมอารมณ์ไว้เรียกหทัย(คือใจ)

    ค่ะ เวทนาขันธ์ กับ สัญญาขันธ์

    4.ธรรมชาติที่ไม่เที่ยงที่มีฉันทะ(ความพอใจ)ที่มีในใจเรียกมนัส(มนะ หรือมโน)

    ค่ะ ก็คือ เวทนาขันธ์

    5.จิตเป็นธรรมชาติที่ไม่เที่ยงที่ผ่องใสจึงเรียก ปัณฑระ(....)

    ค่ะ นี้คือธรรมชาติเดิมของวิญญาณขันธ์ (รวมเรียกว่า "จิตใจ" ) เพราะคือดวงตาของจิตวิญญาณ ที่แยกมาทำหน้าที่ของมนุษย์ ถ้าจิตใจบริสุทธิ์ จิตวิญญาณก็จะบริสุทธิ์ เพราะขัดเกลาจิตใจให้ใสบริสุทธิ์แล้ว


    6.มนะเป็นอายตนะเป็นเครื่องต่อ จึงเรียก มนะอายตนะ(มโนอายตนะ ใจอายตนะ)
    7.มนะนั่นแหล่ะที่ครองความเป็นใหญ่จึงเป็นอินทรีย์(เจ้าธาตุรวม)จึงเรียกมนินทรีย์
    8.ธรรมชาติใดที่ไม่เที่ยงที่รู้แจ้งอารมณ์ เรียก วิญญาณ(จิต หรือหทัยหรือจิตใจ หรือมนะหรือมโน)
    9.วิญญาณนั่นแหล่ะเป็นขันธ์ จึงเรียกวิญญาณขันธ์ (ก็อันเดียวกันชัดเจน)
    10.มนะ(มโน ใจ หทัย จิต )เป็นธาตุชนิดนึงจึงเรียกมโนวิญญาณขันธ์

    ค่ะ ทั้งหมดก็คือ ตัววิญญาณขันธ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2019
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แค่ข้อแรก แกก็แปลผิด เติมแต่ง เป็นจิตสังขาร เป็นสังขารขันธ์ ก็เพิ่มเติมมาจนได้

    ใน กถา ก็บอกว่าจิตมี10ชื่อเรียก แล้วแกจะ แตกออกไปไหน อย่าคิดไปเรื่อยเหมือนคนเมาสิวะ..มันอันเดียวกัน...

    แล้วแก มาแยก ว่า วิญญาณขันธ์ เป็นคนละตัวกับวิญญาณ ..เอาที่ไหนมาคิดวะ..อ่านเอง เผือกไม่เข้าใจ...ยังด้านหน้ามาอวดความโง่ อีก
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ไอ้คำว่า วิญญาณคือ ดวงตาของจิตวิญญาณขันธ์นี่ แกตีความมาได้ยังไง
    ตีความจากอะไร ข้อไหน.?
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200
    จิตสังขาร ก็คือ จิตที่ปรุงแต่งดี-ชั่ว นะค่ะ
    จิตสังขารที่ปรุงแต่งจึงไม่เที่ยงนะค่ะ

    ก็วิญญาณเป็นผู้รู้ ผู้รู้แจ้งในอารมณ์
    วิญญาณจึงเป็นขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยงไงค่ะ
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200
    องค์ธรรมิกราชาค่ะ ขอเป็นวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ดึกแล้วค่ะ
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    งั้น มาคุยเรื่อง
    ข้อ 5..จิตเป็นธรรมชาติที่ไม่เที่ยงที่ผ่องใส ที่บริสุทธฺ เป็น ปัณฑระ..

    นี่ก็เป็น 1ใน10ชื่อเรียกของจิตที่ไม่เที่ยง

    แกจะเอาอะไรมาเที่ยง ได้อีก
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    องค์ตัวไหนอีกวะ นึกว่ามีแต่องค์จิตโลกุตระ องค์จิตจักรวาลของแก ก็โคตระโง่อยู่แล้ว
    ยังมีองค์ธรรมิกราชอีกเรอะ....เนี่ย..

    โถ่ นางองค์สติแตก...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2019
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แล้วมีอะไรเหลือให้เที่ยง มั่ง....จิตที่ผ่องใสบริสุทธิ์ มาจากไหนล่ะ
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ข้อที่2.ธรรมชาติที่เสพ อารมณ์ เรียกว่าจิต.แปลว่า มีจิต ตัวนึง ...อารมณ์เป็นอีกส่วนนึงที่มีตัวสร้างอารมณ์ขึ้นมา คือ สฬายตนะคือผัสสะ คือสมอง

    มีตัวที่ปรุงอารมณ์คือใจ คือมโน (ทางกายภาพคือสมอง) แล้วจิตมาน้อมเข้าหา เกลือกกลั้ว คลุก เปื้อน ร่วมคิดตามไปด้วย จนเกิดมีอุปทาน......
    ตอนแรกถ้าไม่รู้ความจริง ก็จะเรียกการทำงานร่วมกันนี้ว่า เป็นจิตใจหรือเป็นจิต หรือเป็นจิตวิญญาณ หรือมโน มนะ หทัย พอพูดถึง ในฐานะที่ยังมีอวิชชา ก็ จะเรียก ได้ ทั้ง 10ชื่อ นั่นแหล่ะ

    แต่ถ้ารู้การทำงานของผัสสะจริงกายใจมันปรุงมันทำงาน ตามผัสสะที่รับมา
    ถ้าไม่มีจิต มาร่วมแจม ก็จะเรียก อารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด..ธรรมดา

    แต่ถ้ามีจิต มีจิตวิญญาณที่เป็นขันธ์ มาร่วมคิด ร่วมแจม อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด จะเรียกว่า เวทนาสุขทุกข์ เกิดความพอใจไม่พอใจจากการเสพอารมณ์
    แล้วปรุอต่งเกินความเป็นจริงเรียกว่า อุปทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2019
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แล้วแต่จะเข้าใจ ณ ปัจจุบันเนาะ
    อนาคต หากมีการเปลี่ยนแปลง
    ไปในทางที่ดีขึ้น
    บางทีได้ย้อนมาอ่านข้อความเดิมๆ
    อาจจะขำตัวเองในอดีตก็ได้ครับ ^_^
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จิตทั้ง10 ชื่อเรียก ก็ไม่เที่ยง
    ผัสสะอายตนะกายใจ ก็ไม่เที่ยง
    มีอะไรเหลือให้เที่ยง

    นิพพานเหรอ...นิพพานมันอยู่ที่ไหน
    ถ้านิพพานเที่ยง.
    แล้วกายใจ จิตวิญญาณที่ไม่เที่ยง...เมื่อมันไปรู้นิพพานที่เที่ยง
    จะแปลว่า กายใจ จิตวิญญาณ มันจะเที่ยงเหมือนนิพพานงั้นเหรอ
    เอาอะไรมาคิด..?

    ความเที่ยงของนิพพาน หมายถึง ความจริงของความไม่เที่ยงทั้งหลาย
    มันเป็นสัจธรรม ของความไม่เที่ยง..มันไม่ไช่ ผู้วิเศษที่เที่ยงแท้เพื่อจะทำให้อะไรเที่ยงแท้
    จิตที่รู้นิพพาน จะกลายเป็นจิตที่เที่ยงแท้ งั้นหรือ เอาที่ไหนมาคิด..?
    จิตที่รู้นิพพาน ถึงนิพพาน คือจิตที่บริสุทธิ์ งั้นหรือ เอาที่ไหนมาคิด..?
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ทำไมจิต จึงต้องน้อมเข้าหาอารมณ์ เสพอารมณ์...?
    เพราะเป็นธรรมชาติของจิต...

    เป็นธรรมชาติแบบไหน..?
    เป็นธรรมชาติที่เกิดจากความไม่รู้ เพราะอวิชชา เป็นธรรมชาติของอวิชชา

    เนื่องจาก รูปนาม เกิดจาก อวิชชา...ดังนั้น ทั้งหมดของนามรูป คือ สฬายตนะ ผัสสะ จึงเกืดจากอวิชชา ดังนั้น ..อารมณ์ความรู้สึก ความนึกคิด จึงถูกจิตครองทั้งหมด...กลายเป็น เวทนา กิเลสตัณหา อุปทาน ภพชาติ ต่อไป...
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ท่านน่าจะแนะนำ เรื่อง...องค์ธรรมโลกุตระ องค์จิตจักรวาล สิครับ
    เผื่อมันจะได้รู้มั่งว่าคนอื่นคิดยังไง
    นี่ยังมีองค์ธรรมมิกราช อีก ...นะ

    ช่วยอธิบายเรื่องนี้หน่อยท่าน..นพ
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ข้อ3ธรรมชาติที่รวบรวมอารมณ์ เรียกหทัย(ใจ)
    ข้อ4ธรรมชาติที่มีฉันทะที่มีในใจเรียก มนัส(ใจ..เพราะมันมีในใจ)
    ข้อ6มนะเป็นอายตนะเครื่องต่อจึงเรียก อายตนมนะ
    ข้อ7มนะนั่นแหล่ะที่ครองความเป็นใหญ่ จึงเป็นอินทรีย์(ธาตุ)

    .......
    ทั้งสี่ข้อ กล่าวถึง..ใจ ถ้ามีจิตครองเรียกจิตใจ..หรือจิตวิญญาณ.แต่ถ้าชำระอวิชชาได้
    จากจิตใจ ผมก็เรียกว่า ใจ...ผมจึงเรียกว่า การที่ใครชำระอวิชขา ชำระจิตวิญญาณได้ ผมจะหมายถึง มีเหลือแค่กายใจ...ไม่มีจิตที่เกิดจากอวิชชา
    จะเหลือแค่ ผัสสะ อายตนะกายใจ ตามจริง มีอารมณ์ตามจริง..ไม่มีเวทนา กิเลสมตัณหา อุปทาน ภพชาติ
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ดังนั้น การมีสังขตธาตุ ...ก็คือการมีอวิชชา จิตอวิชชายังอยู่ จิตวิญญาณขันธ์ยังอยู่....การเกิด วัฏสงสาร ยังมีอยู่ อุปทานมีอยู่ ภพชาติมีอยู่..

    ส่วนอสังขตธาตุ ก็คือ การหมดอวิชชา ไม่มีจิตอวิชชา ไม่มีจิตวิญญาณขันธ์..การเกิดใหม่ ก็ไม่เกิดได้อีก...เพราะมีแค่กายใจ กับอารมณ์ความรู้สึกตามจริง...ไม่มีอุปทานภพชาติ..
    แต่จะมาบอกว่า เป็นการขำระจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์ เหมือนจิตเดิม นั้น...มันไม่ถูกต้อง
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนตัวมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่ควรจะเล่า
    ตอนนี้หรอกครับ หากว่าการปฎิบัติ
    ยังน้อยกว่าการค้นพบทางโลก
    ณ ตอนนี้ยิ่งอ่านไม่เข้าใจครับ

    ที่วิเคราะห์เอา
    แล้วเข้าใจว่าตนปฎิบัตินั้น
    ยังไม่ถึงครึ่งเท่า
    ที่วิทย์ศาสตร์ค้นพบครับ
    ถึงบอกว่า ถ้าใครเรียนทางวิทย์
    มาบ้าง พอเข้าใจเรื่อง
    องค์ประกอบสะสาร
    แม้ไม่เคยฝึกอะไรมา
    ได้มาอ่านจะขำไงครับ


    หากว่าเล่าในภาคปฎิบัติยิ่งจะงงอีกครับ อีกอย่างเอาปัญญานำ อะไรก็เข้าใจว่าผู้รู้
    เห็นสิ่งที่เกิดจะเป็นผู้รู้ได้ไง
    มันไม่มีมนุษย์คนไหน ถอดประกอบ
    ขิ้นส่วนรถในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ได้หรอกครับ
    แต่นี้ รถวิ่งอยู่แท้ๆ กลับเข้าใจว่าตน
    รู้ขั้นตอน ส่วนประกอบทั้งหมด

    แถมสมถะก็อ่อน กว่าจะเห็นทั้งวงจรกระบวนการเกิดได้ กว่าจะไปเรื่องการกำเนิด
    ไปเรื่องจักรวาล เปรียบเหมือนยืน
    มองเครื่องบิน แล้ววิเคราะห์เอา
    จากสัญญาต่างๆว่า
    ภายในมีอะไรบ้างนั้นหละครับ


    พอเข้าใจเนาะท่าน
    อย่างคุณนะ ถ้าส่วนตัวเขียน
    ยังพอจะเกทอยู่
    เครเนาะ
     
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ช่วยปรามช่วยแย้งมันหน่อย มันจะได้รู้ตัว ขึ้นมาบ้าง
    ถ้าพูด เพราะๆ มันก็ไม่สะดุ้งสะเทือนเลย นางตอแหลได้เรื่อยๆ
    ถ้ามีคนช่วยกันด่ามัน มันคงจะสะดุ้ง มาบ้างไงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...