เรื่องเด่น ภาพเขียนสีโบราณ“ประตูผา” ลำปาง ช้ำเพราะถูกคนมือบอนริยำทำร้าย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาพเขียนสีโบราณ“ประตูผา” ลำปาง ช้ำเพราะถูกคนมือบอนริยำทำร้าย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 กันยายน 2553 16:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผาวัว กับสายเส้นโบราณที่สวยงามชัดเจนของกลุ่มภาพเขียนสีประตูผา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หากพูดถึงภาพเขียนสีโบราณก่อนประวัติศาสตร์ หลายคนมักนึกถึงภาพเขียนสีที่ผาแต้ม อุบลราชธานี หรือ ภาพเขียนสีในถ้ำที่ จ.กระบี่ แต่ความเป็นจริงนั้น ภาพเขียนสีมีกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ของเมืองไทย

สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ภาพเขียนสีโบราณ"ประตูผา" จ.ลำปาง จัดเป็นแหล่งภาพเขียนสีที่มีจำนวนมากและมีความยาวต่อเนื่องมากที่สุดในภาคเหนือ ทำให้ทางจังหวัดลำปางได้ผลักดันให้พื้นที่ภาพเขียนสีโบราณเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผาเลียงผา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพเขียนสีประตูผา ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของค่ายประตูผา ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของหน้าผาสูงชันและป่าไม้อันเขียวขจี ใกล้ๆกับศาลเจ้าพ่อประตูผา ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้นิยมมาแวะกราบไหว้ขอพร


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลุงโบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพเขียนสีโบราณประตูผาถูกค้นพบโดยพันตรี ชูเกียรติ มีโฉม หรือ "ลุงโบ" ของนักท่องเที่ยวและของทหารหลายๆคน ซึ่งเป็นผู้ให้ความรู้ ความกระจ่างต่างเกี่ยวกับภาพเขียนสีเหล่านี้แก่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน

ลุงโบ เท้าความให้ฟังว่า ในสมัยปี พ.ศ. 2531 ตนเองได้เป็นหัวหน้าชุดครูฝึกซึ่งนำนักเรียนของค่ายออกไปฝึกยังบริเวณหน้าผา และก็ได้พบเจอกับภาพเขียนสีดังกล่าว แต่ในครั้งแรกตนไม่ได้ใส่ใจกับภาพเขียนสีนี้มากนัก เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการปฏิบัติงาน

หลังจากนั้นทางกองทัพบกได้เริ่มให้ความสำคัญกับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ภายในเขตทหาร จึงให้แต่ละหน่วยต้องคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวที่ตนมีและส่งเข้าไปเพื่อพิจารณา ทางค่ายประตูผาจึงส่งภาพเขียนสีเข้าร่วมคัดเลือก ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ต่อมาทางกองทัพบกจึงร่วมมือกับกรมศิลปากรและหน่วยงานต่างๆ ในการศึกษาค้นคว้าถึงที่มาของภาพ หลังจากที่ DIV OF ION PHYSICS UPPSALA UNIVERSITY ประเทศสวีเดนได้เข้าร่วมการตรวจวิเคราะห์ครั้งนี้ ผลปรากฏว่าภาพเขียนสีที่ประตูผานั้นมีอายุอยู่ราว 3,000 ปี มาแล้ว ซึ่งเก่าแก่พอๆ กับภาพเขียนสีที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับกลุ่มของภาพเขียนสีบริเวณนี้มีทั้งหมดประมาณ 1,872 ภาพ ซึ่งกระจายตัวอยู่บนหน้าผา ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร มีบางส่วนที่ถูกเขียนทับโดยนักท่องเที่ยวแต่ยังไม่มากนัก เแบ่งได้ออกเป็น 7 กลุ่มหลักๆ คือ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หนึ่งในผลงานของคนมือบอนที่ทำร้ายภาพเขียนสีโบราณ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ผาเลียงผา เป็นจุดแรกหลังจากที่เดินชมความงามของธรรมชาติมาสักระยะ บริเวณนี้จะพบภาพเขียนรูปสัตว์ต่างๆ เช่น เต่า นก แต่ที่ชัดที่สุดจะเป็นรูปที่มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ตระกูล เลียงผา

ผานกยูง ปรากฎภาพเขียนสีลักษณะคล้ายกับรูปนกยูง สัตว์ต่างๆ และภาพมือของคน อาจจะต้องอาศัยการสังเกตที่ดี เพราะภาพของนกยูงนั้นจะอยู่ในกลุ่มของภาพมือคน

ผาวัว มีความน่าสนใจตรงที่ปรากฏภาพวัว และกลุ่มคน สันนิษฐานว่าเป็นลักษณะของการประกอบพิธีกรรมบางอย่าง ซึ่งจะเห็นได้ถึงความปราณีตของลายเส้นที่เกิดขึ้น และอยู่ไม่สูง สามารถเข้าไปชมได้ใกล้ๆ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผานกยูง </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ผาเต้นระบำ ภาพเขียนบริเวณนี้อยู่สูงจากทางเดินพอสมควร เป็นลักษณะคล้ายกับกลุ่มคนทั้งหญิงและชายกำลังเคลื่อนไหว ท่าทางเหมือนกับการเต้นรำ
ผาหินตั้ง ปรากฎภาพเป็นรูปคนกำลังนอนและมีเครื่องหมายกากบาททับ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นลักษณะของพิธีฝังศพในสมัยก่อน
ผานางกางแขน เป็นภาพที่มีลักษณะคล้ายกับผู้หญิง ซึ่งกำลังยกแขนขึ้นเหนือศรีษะ
ผาล่าสัตว์และผากระจง เป็นส่วนสุดท้ายของกลุ่มภาพเขียนสี โดยเป็นลักษณะภาพกลุ่มคน และสัตว์ สันนิษฐานว่าเป็นการจับสัตว์และฝึกฝนสัตว์ในสมัยก่อน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผาล่าสัตว์และผากระจง </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพเขียนสีทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะของคนในสมัยก่อนเท่านั้น หากแต่ภาพเขียนสีเหล่านั้นยังเป็นบันทึกเรื่องราวแห่งยุคสมัย(โบราณ) ด้วยการเล่าเรื่องผ่านภาพอย่างตรงไปตรงมา คล้ายกับการบันทึกภาพโดยใช้กล้องถ่ายรูปในปัจจุบัน

และที่ไม่น่าเชื่อว่าคนในยุคนั้นจะสามารถคิดได้ก็คือส่วนผสมของสีที่ใช้วาด โดยมีส่วนผสมมาจากสายแร่เหล็กสีแดง ซึ่งพบว่าแทรกตัวอยู่ในหินปูน หินดินดาน และหินทรายแดง นำมาฝนหรือบดให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับยางไม้หรือไขมันสัตว์ กว่าจะออกมาเป็นภาพเขียนสีที่อยู่คงทนมากกว่า 3,000 ปี ทำหน้าที่เป็นหนึ่งผู้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้กับคนรุ่นหลังได้เข้าใจถึงสภาพสังคม ความเป็นอยู่ รวมถึงประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่การค้นพบของลุงโบในครั้งนั้นมิได้มีเพียงภาพเขียนสีโบราณเท่านั้น แต่กลับมีภาพเขียนของมนุษย์มือบอนในปัจจุบันปรากฏอยู่ในบางช่วงบางตอนของภาพเขียนสีโบราณ ด้วยการนำสีไปขีดเขียนฝากรอยตัวหนังสือ ภาพวาด(ใหม่) และบทกลอนต่างๆ ทับรอยภาพเก่าปะปนกับภาพเขียนสีเดิม หรือที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือไปขีดเขียนทับภาพเขียนสีเดิมจนเสียหายยากต่อการแก้ไขบูรณะซ่อมแซม

เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยความคึกคะนอง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนมือบอนเหล่านั้น แต่พวกเขาได้ทำลายสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศเราไปเสียแล้ว ซึ่งจากการสอบถามถึงความเป็นไปได้ที่จะลบสิ่งสกปรกสมัยใหม่ออกไปจากภาพเขียนสีเดิมนั้น ปรากฏว่าผลกระทบอย่างร้ายแรงคือจะทำให้ภาพเขียนสีโบราณนั้นจางหายไปด้วย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ศาลเจ้าพ่อประตูผา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"เราพยายามดูแลรักษาภาพเขียนสีไว้อย่างดีแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเราพบว่ามีการขีดเขียนของคนตั้งแต่ค้นพบภาพเขียนสีครั้งแรก และเพราะมีนักท่องเที่ยวซึ่งผ่านไปมาในเส้นทางนี้เยอะหลังจากที่พวกเขากราบไหว้เจ้าพ่อประตูผาแล้วก็จึงเดินขึ้นไปภาพเขียน โดยไม่มีการแจ้งกับทางค่ายก่อน การควบคุมดูแลจึงทำได้ยากกว่านักท่องเที่ยวที่มากันเป็นหมู่คณะอย่างนักเรียน นักศึกษาที่มาเที่ยวกัน แต่ถึงอย่างไรเราก็จะช่วยกันรักษาภาพเขียนสีนี้เอาไว้จนสุดความสามารถ" ลุงโบกล่าว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพโดเรมอน ผลงานภาพปัจจุบันของคนมือบอนที่วาดให้สีเลียนแบบภาพโบราณ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>อย่างไรก็ตามหลังจากนี้สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ที่เข้ามามีบทบาทการจัดการและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางทหารจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการดูแล และจัดระบบการท่องเที่ยวที่ประตูผานี้ให้มีระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดแนวเขตกั้นพื้นที่สำหรับชมภาพเขียนสี ตลอดจนระบบการจัดการและควบคุมนักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่เกิดจิตสำนึกและร่วมกันอนุรักษ์มรดกที่มีคุณค่าของคนในสมัยก่อน

แต่ในเรื่องนี้ถ้าไม่ได้ความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วน ภาพเขียนสีนี้อาจจะเลือนหายไปพร้อมกับกาลเวลาและคุณค่าที่ไม่อาจหวนคืนมาได้อีก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>Travel - Manager Online - ??࢕¹ʕ⺃ҳ??Ð?ټҔ œ?ҧ ?铠?Òж١???ͺ͹ԓ?Ӄ钂

.

 

ต้องติดกล้องวงจรปิด จับปรับให้ล้มละลายตลอดชีวิต

 

มือบอนจริงๆ ครับ

จุดชมวิวศรีราชาสวยๆเห็นทั้งเมืองและทะเล

 

เกิดมาทั้งที ถ้าทำอะไรที่สร้างสรรค์ไม่เป็น ก็น่าจะอยู่เฉยๆ ไม่ควรทำลายในสิ่งที่ตัวเองเรียกคืนมาไม่ได้

ไม่แน่นะ ไปทำลายศิลปะของเค้า เจ้าของภาพอาจตามมาเรียกไปสั่งสอน

 

อย่างงี้ต้องจับสถานเดียวครับ

 

ส่วนใหญ่เป็นพวกเด็กไม่ค่อยมีความคิดไร้สาระไปวันๆแล้วคิดว่าตัวเองเท่ห์ คิดว่ามือบอนหรือ
ทำเรื่องที่สังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับแล้วจะดูเด่น จะดัง ระวังนะครับอยากดังมากเดี๋ยวได้ดังโป้งนัดเดียวจอดเลย แบบที่เด็กแว้นโดนยิงตายคาถนนเป็นข่าวบ่อยๆไงครับ สนใจบ้างไหมเท่ห์กว่าด้วยลงข่าวหน้าหนึ่ง

ถ้าพูดคำหยาบได้แล้วไม่โดนดุผมอยากจะด่าเป็นชุดๆแต่เราไม่ควรไปทำตัวแบบพวกนั้น ถ้าทำแล้วเท่ห์ ต่อไปอนาคต จะดีหรือลูกเมียดีไม่มีบาปติดตัวที่ทำลายสมบัติของชาติืึี ทำร้ายสิ่งที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้ก็รู้ไป


บางทีเด็กพวกนี้ก็ชอบคิดว่าเท่ห์รวมกลุ่มกันมีเรื่องชกต่อยคิดว่าคนเขาจะกลัวเขาจะมองว่าเก๋า อยากจะบอกว่าสัญชาติญาณลูกผู้ชายหรือสัญชาติญาณตามปกติพื้นฐานของมนุษย์ ชกต่อยเป็นหมดแหละครับ และผมเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาขับคันคงไม่มีใครปล่อยให้ถูกทำร้ายฝ่ายเดียวแน่ แต่คนส่วนใหญ่มีความเป็นมนุษย์คือการควบคุมสติและวุฒิภาวะ รวมไปถึงความฉลาดมากกว่าพวกเวรนี่เท่านั่นเอง ดูจากเขียนตามผนังก็รู้แล้ว แม่งโง่ ควาย