ภาวนาคาถาเงินล้าน.แล้วชอบรู้สึกตัวในความฝัน

คือปกติจะภาวนาคาถาเงินล้านเป็นประจำจนชินแต่ผมทำแบบภาวในใจไปเรื่อย..เคยสังเกตุหลายครั้ง.ภาวนาจนหลับ และจะรู้สึกตัวในความฝันว่าเราฝันอยู่ และบ้านเมืองเราอำเภอที่เราอยู่จะไม่เหมือนโลกซะทีเดียว..มีถนนเพิ่มขึ้น..บ้านเรือนเพิ่มขึ้น จะบางทีหลงทางจำได้ว่าถนนนี้เคยไปที่นี่ แต่ในฝันดันมีถนน มีบ้านเพิ่มเข้ามา...เมื่อคือก็เอาอีกไปงานศพญาติมา อยู่ในบรรยากาศอึมครึม.เราก็ไปภาวนาไปเรื่อย จนกลับมาบ้านภาวนาจนหลับทีนี้ในฝันเราอยู่กับแฟนเรา เราบอกว่านี่เรากำลังฝันอยู่นะ..แต่สถานทีจะไม่เหมือน
อำเภอเราเปะๆนะ.. มีบ้านเพิ่ม มีถนนเพิ่ม..ในฝันแฟนเราไม่เชื่อ เราบอกฝันจริงๆ เราเลยบอกเดี๋ยวทำอะไรให้ดู เลยเดินเข้าไปร้านค้าแห่งนึง เป็นตึกใหม่ๆแต่ถ้านอกความฝัน
ตึกนี้จะไม่มีเลย..เราเดินเข้าไปขอเงิน เจ้าของร้านใจดีควักให้เลย เป็นปึก เราบอกเราฝันอยู่ เจ้าของร้านเค้าบอกรู้อยู่ เราเลยขับรถเข้าไปโรงเรียนเก่า จากโลกจริงมีไม่กี่ตึก กลายเป็นตึกเยอะมาก แถมมีบ้านพักครูเป็นชุมชนเลยในโรงเรียน แทบหลงเหมือนกัน
เลยสงสัยว่า..มันคือโลกของคนตายทับซ้อนกับที่ที่เราอยู่ในโลกจริงใช่มั้ย

 

หลังจากเราตื่นขึ้นแล้วเงินปึกนั้นยังอยู่มั้ยครับ

 

ความฝัน ก็คือความฝัน
ยังแกล้งบ้าถามว่า"เงินปึกนั้นอยู่ไหม??"
ลุงแมวคนอ่าน กลัวคนแกล้งบ้าจะบ้าจริงๆนะฮะ

เขียนอะไร นึกถึงคนอ่านอีกเป็นสิบเป็นร้อยบ้าง
ฮะ

 

คงควักให้เป็นพิธีมั้งครับ....แต่พอเหมือนจะหลุดออกจากฝัน ตั้งสมาธิใหม่เข้าได้ใหม่อีก
แต่ไม่ชอบที่ เมืองพอมาอยู่ในฝัน มันหนาแน่นขึ้น ถนนหนทางเพิ่มซับซ้อนขึ้น บางทีถนนที่เคยวิ่งตรงถึงบ้าน..กับต้องเลี้ยวเยอะขึ้น มีซอยเพิ่มขึ้น

 

เห็นคนที่ตายแล้วฟื้นมาเล่าถึง
การไปสถานที่สำคัญๆ
มักจะเคลื่อนที่ผ่านภูมิประเทศ
ที่คล้ายๆกันมากเช่นป่ารกชัฏมี
ลำน้ำต้นไม้ใหญ่ดึกดำบรรพ์ฯลฯ
ประมาณนี้

เลยคิดเอาเองว่าแดนสัตว์นรก แดนเทพเทวา
คงอยู่บนโลกเดียวกับสัตว์มนุษย์นี่แหละ
แต่คนละมิติ และไม่คิดว่าจะทับซ้อนกันนะฮะ

คนรู้ชัดเจนรื่องนี้มีนะฮะ
แต่เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมา
เปิดเผย เพราะเสี่ยงต่อการปรามาส
ให้เป็นบาปอกุศล

 

โลกของกายทิพย์ ต้องขอความเห็น
จากผู้ที่มีวิชากายทิพย์มาชี้แนะ
มันน่าสนใจครับ
จะติดตามครับ

 

ก็นั่นน่าซี่ ก็มันเป็นความฝัน จะไปเอาอะไรกับความฝันเล่าลุงแมว คิกๆๆ

 

ก็ข้างบนพูดอยู่หยกๆว่าฝัน นี่ไปกายทิพย์แล้ว คิกๆๆ

 

เพราะมีที่มาให้ฝันเช่นนั้น
คือเขาทำ การเจริญสติด้วย
การภาวนา สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม ฯ
จึงเอามาเป็นกระทู้ให้ผู้รู้ช่วยชี้แนะไงครับ

 

สั้นๆนะครับ ผลของพระคาถาทำให้ ระบบภาคทิพย์เรามันทำงาน ทำให้เราเข้าถึงตรงนี้ครับ.
พูดง่ายๆว่าคล้ายๆฝัน .
และมันจะไปตามสภาวะจิตของเรา ณ ขณะนั้นๆครับ..
ซึ่งในระบบภาคทิพย์นี้ มันจะเป็นอะไรที่บอกความเป็นตัวเราจริงๆครับ
เพราะว่าในเวลาปกติพวกนี้เราจะไม่เป็นครับ...
ประโยชน์คือ เราใช้พิจารณาว่า ในฝันนั้นเรายังติดขัด ยังอ่อนกิเลส
ตัวไหนๆอยู่ พอเราลืมตากลับสู่โลกความเป็นจริงเราก็มาปรับปรุงตัว
เองให้มันดีขึ้นครับ..โดยนัยยะ ถ้าถึงขั้นได้ไปขอเงินคนอื่นๆ
หรือว่าเพื่อจะต้องพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องเงิน ถือว่าสอบตกร้อยเปอร์เซนต์เต็มครับ
แต่ว่า ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ
ปล.เวลาลืมตาปกติ แล้วค่อยมาตัดกิเลสเรื่องนี้ใหม่ครับ..เด่วก็จะฝัน
เกี่ยวข้องกับกิเลสเรื่องอื่นๆที่เหลือต่อไปครับ

 

ในฝันที่เขากล่าวถึงมันคล้ายอีกโลกที่มีโลเกชั่น
คล้ายโลกปัจจุบันแต่ไม่ใช่เพาาะมีหลายสิ่งเพิ่มเติม
ขึ้นมา
ลุงแมวก็เลยเรียกว่าเป็นโลกทิพย์ หรือโลกวิญาณ
มันก็ยังอยู่ในเรื่องเดียวกันะฮะ

 

ถ้ามีความรู้สึกแบบ " โดดๆ" ในตัวในกายฝัน ฝันอยู่ในตัว สิ่งต่างๆ ก็คล้ายยักษ์ที่เนรมิตเมืองหลอกทัพพระราม คือ กายเราหลอกเราเองฝันล้วนๆ

แต่ถ้ารู้สึกลอย รู้สึกตัวยังไม่พอ ยังรู้สึกว่ามีอีกกาย " อยู่" แถมสิ่งๆ ต่างๆ ไม่อาจควบคุมได้ คือ ลองนึกเปลี่ยน มันไม่เปลี่ยน แถมเสถียรเอาซะงั้น ปกติโลกเรายังไง ถอดไปก็เห็นยังงั้น แต่ถ้าจะเข้ามิติที่ซ่อน ก็ต้องมีความเป็นทิพย์แยกออก เช่น วิมานทิพย์ของศาลพระภูมิ รุกขเทวดา ถ้าเราไม่มีความเป็นทิพย์ก็แทรกเข้าไปไม่ได้

ถ้าถอดกายคน ออกไปดูโลกเทวดาก็ไม่เห็นครับ ถ้าถอดกายทิพย์ คือ กายอย่างเทพ จิตมีพลังมาก นั้นจะเห็นอะไรก็ได้ จะเข้าออกภพนั่นภพนี่ก็ได้

ต้องถามว่า ถอดกายอะไรไป ถ้ากายฝัน ที่ไม่มีแสงสว่างจะเอากายนั่นทะลวงไปโลกทิพย์คงไม่ได้

ที่พูดไปนี่ ฝันเอานะครับ อย่าจริงจัง

 

ต้อง นมสิการธรรมบทว่าด้วย ปฏิจสมุปบาท เข้ามาแก้ปัญหา...

บ้าน ถนน หนทาง เพิ่มขึ้น เปลี่ยนไป น้อยลง มันคืออะไร ....
เอาแบบง่ายๆ คือให้ยุบเข้าเป็น "ผัสสะ" สิ่งที่ อยาตนะภายในของจิตไปกระทบรู้
แล้ว ทวนกระแสกลับไปเป็น สฬายตนะ นามรูป วิญญาณ จนมาหยุดที่ สังขาร

บ้านก็คือว่าเป็นสังขาร ถนนก็ถือว่าเป็นสังขาร .....ฯลฯ [ ถ้าไม่เป็นสังขาร
มันควรจะเห็นว่ามันคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นปรมัตถธรรม ]

ทีนี้ บ้านเยอะขึ้น ถนนเยอขึ้น โลกอดีต โลกอนาคต มิติคู่ขนาน ทับซ้อน
หรือไม่ มันจะไม่เป็น คำถาม ถ้าเรา ยุบการเห็นแจ้งธรรม พิจารณาธรรม
ด้วยการเห็นว่ามันเป็นเพียง " กองสังขารขันธ์ "

แล้ว สังขารขันธ์ เหล่านั้นมีอะไรเป็นปัจจัย .............

สังขารเกิดขึ้น เพราะมี อวิชชาเป็นปัจจัย หากจิตมีอวิชชา สังขารนานาจำนวน
และชนิด ก็เกิด

บ้าน เกิดจาก อวิชชา เพราะ จิตมันมีนิวรณ์เป็นเชื้อ คือมี กามฉันทะกุมจิต
มีถีนมิททะกุมจิต มีกุกกุจจกุมจิต มีมุธัยจะฝุ้งซ่านกุมจิต เราจึง เห็น ดิน น้ำ ลม
ไฟ กลายเป็น บัญญัติเรียกว่าบ้าน ไม่สามารถแหวกบัญญัตนี้เพื่อการเห็น ทะลุ
ทะลวง เห็นวิเศษ มีทิพย์จักขุ มีทิพย์จักษุ มีธรรมจักขุ

ตรึกลงปฏิจสมปุบาทแบบนี้ แล้ว ลองตั้งจิตดูใหม่ ว่า สามารถตั้งจิตให้ตรง
เพื่อการเห็น ธรรมได้ไหม

หรือจะเอาแต่ งง งวย จมไปกับ เอ อะไรหว่า มีเท่านั้นหลัง มีถนนยางมะตอย
มีถนนคอ นก รีด ถูกตาข่ายแห่งทิฏฐิ บัญญัติที่เรียกว่า โลกียธรรม โลกธรรม8
มันดักเอาไว้ เพื่อให้เผลอไปจากการตั้งจิตตั้งใจ เห็นธรรม ปฏิบัติเพื่อธรรม มีสบบัติ
เลิศกว่าพระเจ้าจักรรพรรดิ์ ที่ครองแผ่นดินจรดสี่ทวีป บางสมัย พระเจ้าจักรพรรดิ์
มีกามกำเริบก็อาจจะครองสมบัติของท้าวดุสิตด้วย กึ่งหนึ่ง แบบว่า ถ้าออกจากโรงลิเก
เดินออกมาจากฉากหน้า ก็จะรู้ว่า สมบัติบ้าทั้งนั้น ที่ตีความ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็น
บ้าน เป็นเงิน เป็นโภคสมบัติ มูลค่าร้อยล้านพันล้าน

 

ขอบคุณอาจารย์แมว ทำให้ตื่นครับ

 

กล่าวโดย นัยยะ ของหนัง interstellar

ฝาหรั่ง เขา ตั้ง สมมติธรรม ควันตัมฟิสิกส์ สสารมืด หรือ ทฤษฏีสตริง
หรือที่ ลึกซึ้งกว่านั้น คือ กฏแห่งDNA ซึ่ง ฝาหรั่ง เขาสร้างทฤษฏี
ไปถึง สรรพสิ่งถูกกำหนดด้วยตัวกำหนดรหัส ที่เป็นตัวเดียวกัน ไม่ว่าจะ
ดวงดาว โลก แสง ชีวิต ก็ออกมาจาก กฏๆหนึ่งที่ทำการ zip รหัส
เอาไว้ และ มันจะแสดงเป็น รูปโลก รูปแห่งชีวะ โลกแห่งสัตว์ เมื่อ
ถูก ก่อกวนด้วยการถูกสังเกต ซึ่งทำให้ ชีวิต โลก จักรวาล อาจจะมี
หลายมิติ ไม่ใช่ มิติเดียว มิติที่ปรากฏแก่เราปัจจุบัน เป็นเพียง การ
ถอดรหัสมายาเท่านั้น ความเป็นจริงอาจจะเป็น มิติอื่น

แต่ฝาหรั่ง ก็สรุปลงมาที่ สรรพสิ่งมันมี เหตุเกิดมาจาก กฏเดียว

ซึ่งจริงๆแล้ว ฝาหรั่งเขามาตันที่ " อวิชชา ปัจจัยยา สังขารา "

ตรงตามที่พระพุทธองค์แสดงธรรมเอาไว้ว่า คนที่ไม่มีศาสนา เป็นนักตรึก
จะตรึกมาถึงแค่ อวิชชา รู้ว่า ทุกสิ่งเกิดจาก บางสิ่งที่เป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าไปรู้(อวิชชา)

ที่เขาตรึกได้แค่นั้น ก็เพราะ เขาไม่ ตั้งจิต ตั้งใจ ให้ตรงสู่การ สิ้นกิเลส สิ้นตัณหา

ทำให้ ไม่ได้ยก นิวรณ์ ที่เป็น อาหาร หรือ ปัจจัยให้เกิด อวิชชา

การติดการนอน ติดกามฉันทะ ติดพยาบาท ติดรำคาญใจ และ ฝุ้งซ่าน เหล่านี้
ก่อกวนให้ นามรูป หรือ ควันตัม หรือ อะไรก็แล้วแต่ ที่ ฝาหรั่งเขาจะ นิยาม
มันขึ้นเพื่อการแก่งแย่งแข่งการอวดรู้ อวดเห็น มันก่อตัวขึ้นเป็น ดวงดาว เป็นระบบดวงอาทิตย์
เป็นดวงจันทร์ เป็นต้นไม้ เป็นดอกไม้ เป็นเมล็ดพันธ์ เป็นสรรพสัตว์ที่กินอาหารคือคำข้าว
เกิดเป็นสัตว์ เป็นคน

ผู้รู้ ผูู้ตื่น ผู้ตั้งจิตให้ตรง สู่การสิ้นกิเลส หรือ นิพพาน จะไม่ติดข้อง สาระวนอยู่ในโลก
แห่ง ขันธ์5 เหล่านั้น

ผู้รู้ ผูู้ตื่น ผู้ตั้งจิตให้ตรง จะหมั่นสดับ ธรรมของสัตบุรุษ ธรรมที่ว่าด้วยการไม่คลุกคลี
การไม่สะสม การไม่เนิ่นช้า ธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง ธรรมเพื่ออมตะที่แท้จริง

 

ตามอัคคัญญสูตร โลกไม่มีอะไร พรหมโลกก็ไม่มีอะไรนะครับ แต่พอพรหมแก่สงสัยใคร่รู้แค่นั่น โลกก็ถูกปรุงแต่งไปเรื่อยๆ

แปลความ ธาตุล้วนๆ เลย ไม่มีอะไร พอจิต(พลังงาน) ลงมาปรุงแต่งแค่นั้น เป็นนู้นนี่นั้นหมด

 

คาถาเงินล้านดังว่าโน่น หรือที่ลุงแมวว่า สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม เป็นการเจริญสติหรืออ่ะ:d

 

ใข่ฮะ คาถาหรือมนต์ทุกบ่อน

ใช้สวดภาวนาเพื่อเจริญสติได้เจริญสมาธิได้ทั้งหมด
เช่น อิติปิโส หรือ พาหุง รวมถึงคาถาชินบัญชร ก็ได้
ฮะ

 

แล้วก่อนที่จะท่องคิดยังไง ยก ตย. คาถาเงินล้าน

 

เคยสวดช่วงหนึ่งรู้สึกว่าจะฝันบอกเป็นนัยถึงเหตุการณ์ที่ต้องเจอ แต่ฝันเลขฝันหวยไม่เคยถูกเลยบางที่ฝันถูกก็ไม่ซื้อ เซ็ง!!! ไม่รู้ติดขัดอะไรเกือบได้ทุกที :'(