มนุษย์ต่างดาว อยู่ในภพใหนของ 31 ภพภูมิ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ลูกบัวผัน, 9 กรกฎาคม 2012.

  1. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    มนุษย์ต่างดาว อยู่ในภพใหนของ 31 ภพภูมิ

    จะเป็นเป็นภพมนุษย์ก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้อยู่ในชมพู ทวีป
    แล้วอยู่ในภพไหนกัน:boo:
     
  2. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    มนุษย์ต่างดาวในศาสนาพุทธ : Aliens in Buddhism

    [​IMG]

    [๕๒๐] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟัง
    มาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า ดูกรอานนท์ สาวกของพระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ในพรหมโลก ให้พันแห่งโลกธาตุรู้แจ้งได้
    ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรง
    สามารถที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง พระผู้มีพระภาคตรัส
    ตอบว่า ดูกรอานนท์ นั้นสาวก ส่วนพระตถาคตนับไม่ถ้วน ฯ

    ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเป็นครั้งที่ ๒ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่าดูกรอานนท์ สาวกของพระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ใน
    พรหมโลก ทำให้พ้นแห่งโลกธาตุรู้แจ้งได้ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้
    แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง ฯ
    พ. ดูกรอานนท์ นั้นเป็นสาวก ส่วนพระตถาคตนับไม่ถ้วน

    ท่านพระอานนท์ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคแม้เป็นครั้งที่ ๓ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่าดูกรอานนท์ สาวกของพระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ใน
    พรหมโลก ทำให้พันแห่งโลกธาตุรู้แจ้งได้ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วย
    พระสุรเสียง ฯ
    พ. ดูกรอานนท์ นั้นเป็นสาวก ส่วนพระตถาคตนับไม่ถ้วน

    ท่านพระอานนท์ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคแม้เป็นครั้งที่ ๓ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า ดูกร
    อานนท์ สาวกของพระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีนามว่า อภิภู ยืนอยู่ในพรหมโลกทำให้พันโลกธาตุรู้แจ้งได้ด้วยเสียง พระเจ้าข้า ส่วนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเล่า ทรงสามารถที่จะทำโลกธาตุเท่าไรให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง ฯ

    [​IMG]

    พ. ดูกรอานนท์ เธอได้ฟังเรื่องพันโลกธาตุ เพียงเล็กน้อย ฯ
    อา. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลเวลาแห่งเทศนาที่พระองค์จะพึงตรัส ภิกษุทั้งหลายได้สดับธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาค
    แล้ว จักทรงจำไว้ ฯ
    พ. ดูกรอานนท์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวท่านพระอานนท์ทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรอานนท์ จักรวาลหนึ่งมีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร ทั่วทิศ
    สว่างไสวรุ่งโรจน์ โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน ในโลกพันจักรวาลนั้น มีพระจันทร์พันดวง มีอาทิตย์พันดวง มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง มีชมพูทวีปพันหนึ่ง มีพันดวง มีอาทิตย์พันดวง มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง มีชมพูทวีปพันหนึ่ง มี
    อปรโคยานทวีปพันหนึ่ง มีอุตตรกุรุทวีปพันหนึ่ง มีปุพพวิเทหทวีปพันหนึ่ง มี
    มหาสมุทรสี่พัน มีท้าวมหาราชสี่พัน มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาพันหนึ่ง มี
    เทวโลกชั้นดาวดึงส์พันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นยามาพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดุสิตพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีพันหนึ่ง มีพรหมโลกพันหนึ่ง ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล โลก
    คูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุอย่างเล็ก ซึ่งมีพันจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างกลางมีล้านจักรวาล โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมีล้านจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ดูกรอานนท์
    ตถาคตมุ่งหมายอยู่ พึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ด้วยเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่มุ่งหมาย ฯ

    อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคพึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ให้รู้แจ้งด้วยพระสุรเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมายอย่างไร ฯ
    พ. ดูกรอานนท์ พระตถาคตในโลกนี้ พึงแผ่รัศมีไปทั่วโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล เมื่อใด หมู่สัตว์พึงจำแสงสว่างนั้นได้ เมื่อนั้นพระตถาคตพึงเปล่งพระสุรเสียงให้สัตว์เหล่านั้นได้ยิน พระตถาคตพึงทำให้โลกธาตุ
    อย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง หรือพึงทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมาย ด้วยอาการเช่นนี้แล ฯ

    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ ได้กราบทูลว่า เป็นลาภของข้าพระองค์หนอ ข้าพระองค์ได้ดีแล้วหนอที่ข้าพระองค์มีพระศาสดาผู้มีฤทธิ์
    มีอานุภาพมากอย่างนี้ เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุทายีได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ ในข้อนี้ท่านจะได้ประโยชน์อะไร ถ้า
    ศาสดาของท่านมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากอย่างนี้ เมื่อท่านพระอุทายีกล่าวอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอุทายีว่า ดูกรอุทายี เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ ถ้าอานนท์
    ยังไม่หมดราคะเช่นนี้ พึงทำกาละไป เธอพึงเป็นเจ้าแห่งเทวดาในหมู่เทวดา ๗ ครั้งพึงเป็นเจ้าจักพรรดิในชมพูทวีปนี้แหละ ๗ ครั้ง เพราะจิตที่เลื่อมใสนั้น ดูกรอุทายี
    ก็แต่ว่าอานนท์จักปรินิพพานในอัตภาพนี้เอง ฯ
    จบอานันทวรรคที่ ๓

    [​IMG]

    ฐานสูตร
    [๒๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป ประเสริฐกว่าเทวดา
    ชั้นดาวดึงส์และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการ
    เป็นไฉน คือไม่มีทุกข์ ๑ ไม่มีความหวงแหน ๑ มีอายุแน่นอน ๑ ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปประเสริฐกว่าพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ และพวกมนุษย์
    ชาวชมพูทวีปด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้นดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตร-
    กุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน
    คือ อายุทิพย์ ๑ วรรณะทิพย์ ๑ สุขทิพย์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้น
    ดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป
    ด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีป ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาว
    อุตรกุรุทวีปและเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน
    คือเป็นผู้กล้า ๑ เป็นผู้มีสติ ๑ เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันเยี่ยม ๑ ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีปประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและ
    พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ

    : : :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: : :

    พระพุทธเจ้าตรัสถึงมนุษย์ต่างดาว

    [​IMG]

    จักรวาลอันหนึ่ง โดยยาวและโดยกว้าง ประมาณ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ (๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร)
    ส่วนโดยรอบปริมณฑลทั้งสิ้น (ของจักรวาลนั้น) ประมาณ ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์



    ขนาดหนาของแผ่นดินในจักรวาลนั้น

    แผ่นดินนี้ กล่าวโดยความหนา มีประมาณถึงเท่านี้ คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์


    ขนาดหนาของน้ำรองแผ่นดิน

    สิ่งที่รองแผ่นดินนั้นหรือคือน้ำอันตั้งอยู่บนลม โดยความหนามีประมาณถึงเท่านี้ คือ ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์


    ขนาดความหนาของลมรองน้ำ

    ลมอัน (พัดดัน) ขึ้นฟ้า (โดยความหนา) มีประมาณ ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์ นี่เป็นความตั้งอยู่พร้อมมูลแห่งโลก


    ขนาดภูเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) และต้นไม้ประจำทวีป

    อนึ่ง ในจักรวาลที่ตั้งอยู่พร้อมมูลอย่างนี้นั้น มี
    ภูเขาสิเนรุอันเป็นภูเขาสูงที่สุด หยั่ง (ลึก) ลงไปในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์ สูงขึ้นไป (ในฟ้า) ก็ประมาณเท่ากันนั้น
    ภูเขาใหญ่ทั้งหลาย คือภูเขายุคันธร ภูเขาอิสินธร ภูเขากรวีกะ ภูเขาสุทัสสนะ ภูเขาเนมินธระ
    ภูเขาวินตกะ ภูเขาอัสสกัณณะ อันตระการไปด้วยรัตนะหลากๆ ราวกะภูเขาทิพย์ หยั่ง (ลึก) ลงไป
    (ในมหาสมุทร) และสูงขึ้นไป (ในฟ้า) โดยประมาณกึ่งหนึ่งแต่ประมาณแห่งภูเขาสิเนรุไปตามลำดับ
    ภูเขาใหญ่ทั้ง ๗ นั้น (ตั้งอยู่) โดยรอบภูเขาสิเนรุเป็นที่อยู่ของ (จาตุ)มหาราช เป็นที่ๆ เทวดา และยักษ์อาศัยอยู่


    [​IMG]


    ภูเขาหิมวาสูง ๕๐๐ โยชน์ ยาวและกว้าง ๓,๐๐๐ โยชน์ (เท่ากัน) ประดับไปด้วยยอดถึง ๘๔,๐๐๐ ยอด
    ต้นชมพู (หว้า) ชื่อนคะ วัดรอบลำต้นได้ ๑๕ โยชน์ ลำต้นสูง ๕๐ โยชน์ และกิ่ง (แต่ละกิ่ง)
    ก็ยาว ๕๐ โยชน์ แผ่ออกไปวัดได้ ๑๐๐ โยชน์โดยรอบ และสูงขึ้นไปก็เท่ากันนั้น ด้วยอานุภาพของ
    ต้นชมพู (นี้) ไรเล่า ทวีปนี้จึงถูกประกาศชื่อว่า ชมพูทวีป
    ก็แลขนาดของต้นชมพูนี้ใด ขนาดนั้นนั่นแหละเป็นขนาดของต้นจิตรปาฏลี (แคฝอย) ของพวกอสูร
    ต้นสิมพลี (งิ้ว) ของพวกครุฑ ต้นกทัมพะ (กระทุ่ม) ในอมรโคยานทวีป ต้นกัปปะในอุตตรกุรุทวีป
    ต้นสิรีระ (ซึก) ในบุพพวิเทหทวีป ต้นปาริฉัตตกะ ในดาวดึงส์ เพราะเหตุนั้นแล ท่านโบราณจารย์จึงกล่าวไว้ว่า
    (ต้นไม้ประจำภพและทวีป คือ) ต้นปาฏลี ต้นสิมพลี ต้นชมพู ต้นปาริตฉัตตะของพวกเทวดา
    ต้นกทัมพะ ต้นกัปปะ และต้นที่ ๗ คือ ต้นสิรีสะ ดังนี้


    ขนาดภูเขาจักรวาล

    ภูเขาจักรวาล หยั่ง (ลึก) ลงไปในมหาสมุทร ๘๒,๐๐๐ โยชน์
    สูงขึ้นไป (ในฟ้า) ก็เท่ากันนั้น
    ภูเขาจักรวาลนี้ตั้งล้อมโลกธาตุทั้งสิ้นนั้นอยู่


    ขนาดของภพและทวีป

    ในโลกธาตุนั้น มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ภพดาวดึงส์ ๑๐,๐๐๐ โยชน์ ภพอสูร มหานรกอเวจี และชมพูทวีปก็
    เท่ากันนั้น อมรโคยานทวีป ๗,๐๐๐ โยชน์ บุพพวิเทหทวีปก็เท่านั้น อุตตรกุรุทวีป ๘,๐๐๐ โยชน์ อนึ่ง ในโลกธาตุนั้น
    ทวีปใหญ่ๆ ทวีป ๑ ๆ มีทวีปน้อยเป็นบริวาร ทวีปละ ๕๐๐
    สิ่งทั้งปวง (ที่กล่าวมานี้) นั้น (รวม) เป็นจักรวาล ๑ ชื่อว่า โลกธาตุอัน ๑ ๑ในระหว่างแห่งโลกธาตุ
    ทั้งหลายมีโลกันตนรก (แห่งละ ๑)


    [​IMG]


    ๑. มหาฎีกาว่า จักรวาล ก็คือโลกธาตุ โลกธาตุได้ชื่อว่า จักรวาล ก็เพราะมีภูเขาจักรวาล ซึ่งสัณฐานดังกง
    รถล้อมอยู่โดยรอบเท่านั้นเองไม่ใช่จักรวาลอัน ๑ โลกธาตุอัน ๑
    ๒. ท่านว่าจักรวาลหรือโลกธาตุนั้นมีมากนัก ช่องว่างในระหว่างจักรวาล ๓ จักรวาลต่อกัน มีโลกันตนรก ๑
    ทุกแห่งไป โดยนัยนี้ คำว่า โลกันตนรก ก็แปลว่า นรกอันตั้งอยู่ในช่องระหว่างจักรวาล ๓ อันนั่นเอง

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า
    จักรวาล ประกอบด้วยดวงจันทร์ โลก ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจร ไปร่วมกัน
    จะมีขุนเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) (เป็นภูเขาทิพย์ที่เห็นได้เฉพาะผู้มีอภิญญา) ทวีปต่างๆ ที่ตั้งชื่อกันในสมัย
    นั้นคือ ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป อุตรกุรุทวีป และปุพพวิเทหทวีป มหาสมุทรทั้ง ๔ (นับกันได้ในสมัยนั้น)
    มีนรกขุมต่างๆ สวรรค์ชั้นต่างๆ และพรหมโลกชั้นต่างๆ
    โลกธาตุ มี ๓ ขนาด คือ โลกธาตุอย่างเล็กมีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลางมีจำนวนล้านจักรวาล
    โลกธาตุอย่างใหญ่มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล

    ทั้งโลกธาตุอย่างเล็กก็ดี อย่างกลางก็ดี อย่างใหญ่ก็ดี ยังมีอีกจำนวนมากมาย
    "ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับไปในที่สุด"
    กำเนิดของโลกพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "อัคคัญญสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๖๑ เล่ม ๑๑ ว่า
    เกิดมีน้ำขึ้นในห้วงอวกาศอันมืดมิดก่อนแล้วนานๆไปเกิดการรวมตัวงวดเข้าเป็นง้วนดิน แล้วพัฒนาเป็นกระบิดิน
    ต่อไปเป็นเครือดิน จากนั้นมีต้นข้าวและพืชทั้งหลายเกิดขึ้น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หมู่ดาว
    นรกขุมต่างๆ เทวโลกและพรหมโลกชั้นต่างๆ ก็เกิดขึ้นเอง

    กำเนิดชีวิตพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "เพราะมีความอยาก จึงมีการเกิดเป็นสัตว์เป็นบุคคลขึ้นมา
    เมื่อไม่มีความอยากการเกิดเป็นสัตว์เป็นบุคคลก็ไม่มี"

    : : :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: : :

    ลูกศิษย์ถาม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง "จานบิน" มีจริงหรือไม่ ?

    (เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2516)

    [​IMG]

    ...อาตมาเพียงแต่ฝันไปในตอนตี ๔ คืนวันหนึ่ง ฟังให้ดี ๆ นะ
    อาตมาฝันไป คือ ได้ฝันไปว่า อาตมาได้ขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
    ได้ขึ้นไปหาพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไปนมัสการพระเจดีย์จุฬามณี
    เป็นพระเจดีย์อินทนิลมณีประดับด้วยทองและแก้ว ๗ ประการ
    สูงถึง ๘ หมื่นวา มีกำแพงสีดอกบวบเป็นประกายแวววาวล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
    ด้านละ ๑ แสน ๖ หมื่นวา ประดับด้วยธงประดาก ซึ่งเป็นธงผืนห้อยยาวลงมา
    อย่างธงจระเข้ รวมทั้งธงชัยและกลดชุมสายผ้าตาดทอง มีสายห้อยระย้าอยู่รอบ ๆ
    มีเทวดาดีดสีตีเป่าเครื่องดุริยางค์ ดนตรีสวรรค์บำเรออย่างไพเราะนักหนา
    ถวายบูชาพระเจดีย์จุฬามณีอยู่ตลอดเวลา พระอินทร์และเทพบุตรเทพธิดา
    สาวกบริวารจะเสด็จไปนมัสการพระเจดีย์นี้มิได้ขาด

    ที่พระเจดีย์จุฬามณี พระพุทธเจ้ากับพระอรหันตสาวกจำนวนมากมายได้เสด็จมาพอดี
    อาตมาได้กราบอภิวาทพระพุทธองค์และพระอรหันต์ทั้งหมด...

    อ้อ...ก่อนที่จะได้ขึ้นไปที่พระเจดีย์จุฬามณีนั้น มีอยู่คืนหนึ่งขณะที่อาตมาสอนกรรมฐาน
    ให้ศรัทธาญาติโยมอยู่นั้น มีใครคนหนึ่งได้ถามว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงรึ จานผีหรือจานบิน
    มีจริงหรือเป็นเพียงภาพลวงตาในท้องฟ้า? ทีนี้เมื่ออาตมาขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้า
    ที่พระเจดีย์จุฬามณี พระพุทธองค์ได้ถามดักใจอาตมาว่า สงสัยเรื่องจานบินรึ?

    อาตมาได้กราบทูลตอบไปว่า สงสัยมากแต่ไม่กล้ากราบทูลถาม ด้วยเกรงจะเป็นเรื่อง
    เหลวไหลพระพุทธองค์ได้บอกว่า เรื่องอย่างนี้เป็นความรู้ถามได้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล
    จานผีหรือจานบินที่ชาวโลกเราได้เห็นกันนั้น มาจากดวงดาว ๒ แห่ง แห่งหนึ่งเป็นดาวเล็ก ๆ
    อยู่ดาวพระศุกร์ไปทางซ้ายเล็กน้อย ดาวดวงนี้มีชื่อเรียกว่า จามรทวีป
    โครจรอยู่ในจักรวาลเดียวกับโลกเรา

    จานบินที่มาจากดวงดาวจามรทวีป เป็นจานบินไม่ใหญ่โตอะไรมีขนาดสูงประมาณ ๔ เมตร
    มีสีเขียว ๆ ใช้เวลาบินจากดวงดาวจามรทวีปมายังโลกเรา ๘ ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว
    ระยะทางเป็นแสน ๆ โยชน์ นักวิทยาศาสตร์ทางด้านดาราศาสตร์หรืออวกาศยังไม่รู้จัก
    ดาวดวงนี้ อาจจะมองข้ามไปเพราะนึกว่าเป็นเพียงดาวเล็ก ๆ ไม่มีความสำคัญอะไร
    แต่ความจริงมีความสำคัญมาก ผู้คนพลเมืองของดาวดวงนี้มีความเจริญก้าวหน้า
    ทางวิทยาการมากมาย

    [​IMG]

    พระพุทธองค์ทรงมีพระเมตตาพาอาตมาไปที่ดวงดาวจามรทวีป
    เมื่อไปถึงก็แปลงร่างเป็นชาวบ้านจามรทวีปธรรมดา ไม่ให้พวกเขาสงสัยว่า
    เป็นพระมาจากโลกอื่น เมื่อแปลงร่างเป็นคนธรรมดาแล้วก็พากันนั่งอยู่ใกล้ ๆ
    ประตูใหญ่ทางเข้าออกเมืองจามรทวีป น่าสังเกตว่า ตามพื้นดินที่นั่นมีเพชรมีแก้วมณีสีต่าง ๆ
    งามแพรวพราวอยู่กลาดเกลื่อนเต็มไปหมด เป็นของไม่มีค่าอะไรสำหรับชาวจามรทวีป
    จะมีบ้างที่เอาเพชรนิลจินดาเหล่านั้นไปประดับตามโต๊ะเก้าอี้หรือไม่ก็พวกเด็ก ๆ
    เอาขว้างปากันเล่นเป็นที่สนุกสนาน

    ขณะที่พากันนั่งอยู่เงียบ ๆ ที่ข้างประตู เข้ามหานครนั้น พระพุทธเจ้าได้บอกว่า
    ประเดี๋ยวจะมีผู้หญิงเดินออกมาจากในเมือง ต่อมาก็มีผู้หญิงเดินออกมาจริง ๆ
    แต่ละคนรูปร่างหน้าตาเหมือนชาวมนุษยโลกเราดี ๆ นี่เอง
    แต่ผู้หญิงชาวดวงดาวจามรทวีปสวยมาก ผิวขาวผ่องใส เนื้อเต็มแน่น
    ไม่เห็นปุ่มข้อกระดูก คือข้อศอกก็ดี ข้อมือก็ดี หัวเข่าก็ดี
    ตาตุ่มข้อเท้าก็ดี จะกลมกลึงไปหมด มองไม่เห็นมีปุ่มนูนของกระดูกเลย
    คล้ายไม่มีกระดูกอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงน่าจะมีโครงกระดูกจึงจะทรงร่างอยู่ได้
    เพียงแต่กระดูกไม่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น

    เครื่องแต่งตัวของผู้หญิงชาวดวงดาวจามรทวีปออกจะแปลกตา
    เพราะพวกเธอนุ่งกางเกงรัดเหนือเข่า เสื้อแขนสั้นรัดแขนสีเขียว ๆ มีลายทางดิ่งลง
    พวกเธอมองเห็นพวกเราก็ยิ้ม ๆ แต่ไม่พูดอะไรสักคำ นิสัยใจคอของชาวจามรทวีป
    ทั้งหญิงและชาย มีพรหมวิหาร ๔ สูงมาก เป็นพลเมืองที่ดำรงตนอยู่ในศีลธรรม
    ไม่มีอาวุธร้ายสำหรับประหัตประหารกัน มีวิทยาการก้าวหน้าทันสมัยเหนือกว่าโลกมนุษย์เรา
    หลายร้อยหลายพันเท่านักวิทยาศาสตร์ของเขาสามารถขับขี่จานบินไปได้ทั่วสากลจักรวาล

    การที่ชาวดวงดาวจามรทวีปขับขี่จานบินมาเที่ยวโลกเราอยู่บ่อย ๆ
    ก็เพราะโลกเราเป็นเส้นทางผ่านไปของพวกเขา หมายความว่าพวกเขาชอบท่องเที่ยวมาก
    อยากเที่ยวไปทุกแห่งในจักรวาล จานบินของพวกเขาชอบแวะไปแถวสหรัฐอเมริกาและทวียุโรป
    อยู่บ่อย ๆ ก็เพราะเห็นว่า มีการปล่อยดาวเทียมปล่อยจรวดอะไรต่ออะไรอยู่เรื่อย
    จึงคิดจะติดต่อด้วย

    การที่พวกเราร่อนจานบินลงจอดในโลกแล้วจับเอาคนไปนั้น
    เป็นการจับเอาตัวไปเข้าเครื่องตรวจสอบอารมณ์จิต
    และส่วนประกอบของร่างกายอวัยวะต่าง ๆ เมื่อตรวจสอบแล้วก็รู้ว่า
    ชาวโลกมนุษย์นี้จริตอารมณ์มีตัณหาความโลภอยู่มากเหลือเกิน
    โลภมูลจิตในขันธสันดานของชาวโลกนี้เอง ทำให้ชาวโลกไม่ก้าวหน้าทางพลังจิต
    เหมือนพวกเขาซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาว เนื่องจากตัณหาโลภมูลจิตใจของพวกเขามีน้อย
    ทำให้มีพลังจิตสูง สามารถใช้พลังจิตติดต่อกันได้ไกล ๆ ในระหว่างดวงดาวต่าง ๆ
    โดยไม่จำเป็นฯต้องใช้วิทยุเลย

    [​IMG]

    ดาวอีกดวง คือ ดาวพระศุกร์ นั้น บางแห่งร้อนจัดมาก สามารถหลอมละลายแท่งเหล็กใหญ่ ๆ
    ได้ในพริบตา นักวิทยาศาสตร์ชาวโลกเราบอกว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่บนโลกพระศุกร์เลย
    เพราะร้อนมาก แต่ความจริงมีบางแห่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการพอ ๆ
    กับผู้คนในดวงดาวจามรทวีป บนดาวพระศุกร์มีภูเขาหัวโล้นอยู่แห่งหนึ่งกว้างใหญ่มากเป็นแดนที่ร้อนจัด
    แต่ถัดไปอีกแห่งหนึ่งกลับเป็นเขตแดนหนาวมากมีหิมะเต็มไปหมด
    ไม่มีคนอยู่อาศัยจะมีก็แต่สัตว์ขนยาวชนิดหนึ่งอาศัยอยู่
    ถัดมาเป็นแดนอบอุ่นมีต้นไม้หนาแน่นมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากหลายชนิด

    ส่วนทางด้านทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั้น เยื้องไปทางซ้ายไม่มากชาวดาวพระศุกร์ เรียกว่า แดนสูตู
    เป็นแดนที่เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ผู้คนชาวดาวพระศุกร์ในแคว้นนี้
    มีผิวคล้ำรูปงามคมสัน จานบินของพวกเขาสูงประมาณ ๑๐ เมตร มีสีเหลือง
    ใช้เวลาเดินทางมายังโลกเรา ๑๗ ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

    <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1" width="90%"><tbody><tr> <td>อ้างอิงจาก:</td> </tr> <tr> <td class="quote">บันทึกช่วยจำ ของ... พระอาจารย์สิทธา เชตวัน... </td> </tr></tbody></table>

    [​IMG]
    The Andromeda Galaxy อยู่ห่างจากโลก 2.5 ล้านปีแสง เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา บางทีอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในนั้นก็เป็นได้

    [​IMG]
    The Whirlpool galaxy อยู่ห่างจากกลุ่มดาว Canes Venatici ไปประมาณ 23 ล้านปีแสง ขาวมือคือ NGC 5195 ซึ่งเป็นกาแล็คซี่ข้างเคียง
    _________________
    [​IMG]
     
  3. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    เห็นข้อมูล link ไป link มา น่าเชื่อแค่ 0.10 %

    ในคัมภีร์ ที่พระสารีบุตร บันทึกและ รวมเป็นพระไตรปิกฏมีไหมนะ

    เดี่ยวนี้ในเนต ชอบทำอะไรที่แปลกๆ อยู่ด้วย
     
  4. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ถามกลับล่ะกัน ไฟฟ้า อยู่ตรงไหนของ 31 ภูมิ? เห็นไฟฟ้าไหม แต่ถ้าเชื่อว่าไฟฟ้ามีอยู่จริง ใช้งานได้ ต่างดาวเขาก็อยู่ไม่ไกลหรอก ตา หู มนุษย์นี่หยาบมาก แค่เสียงสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ได้ยินแล้ว
     
  5. แสงอมตะ

    แสงอมตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +486
    ขอบคุุณข้อมูลดีมีประโยชน์ ขอให้ลงอีกนะคุณ suthipongnuy
     
  6. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อืมม อธิบายยาก แต่พวกต่างดาวจริงๆ จะเป็นพวกที่ปฏิบัติการ ไร้เงา

    ในขณะที่ พวกแอบอ้างว่าเป็นต่างดาว ยังคงมีเงาสะท้อนในกระจก ให้จับผิดกัน

    บางคนพบเห็น มนุษย์โคลนนิ่ง ที่ถูกตัดต่อทางพันะุกรรม ให้ไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ คือเลี้ยงเอาไว้ให้เป็นแหล่งอาหาร แหล่งเลือด ก็คิดว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว

    สรุปว่า มนุษย์ต่างดาว เขาสื่อสารกันทางเวฟ พลังจิต กับผู้ที่สามารถได้ยินเขาได้ มิใช่เลือกคุยพร่ำเพรื่อ

    เลยตอบไม่ได้ว่า ใน31 ภพภูมินั้น ต่างดาวที่ท่านพบเจอเป็นแบบไหน
     
  7. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    ยิ่งคิด ก็ยิ่งมาก

    ยิ่งมาก ก็ยิ่งไปกันใหญ่

    อย่าคิดไปเลยอ่ะ

    "ตัวมนุษย์เราเอง อยู่ในมิติของวัตถุ แต่จิตวิญญาณ มันอยู่ในอีกมิตินึงน่ะ"
     
  8. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    อืมมม...นี่สินะ เวลาที่แผ่เมตตาให้ จะมีอยู่ 2 ประโยคที่ว่า...มนุษย์โลกโดยรอบสุดขอบจักรวาล, อนันตะจักรวาล...

    มองรูปกาแลคซี่แล้วรู้สึกว่า สวยจัง อยากไปเที่ยวดูความเจริญที่เค้ามีบ้าง ถ้าไปได้ง่ายๆ ก็ดีสินะ...เฮ้อออ สมาธิเราก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย จะได้ไปเที่ยวต่างดาวกะเค้ามั่งไม๊น๊อออ??
     
  9. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ภพมนุษย์นี้แหละ แต่มีความหยาบละเอียดของกายมนุษย์แตกต่างจากเราบนโลกเท่านั้นเอง
     
  10. เอาฮา

    เอาฮา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +19
    มันมีอยู่ทุกภพนั่นแหละ มันไม่ได้มีแบบเดียว หรือประเภทเดียวสักหน่อย
     
  11. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    เว็บนี้มีมนุษย์กลายพันธ์ มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

    ได้ข่าวว่า มีการซื้อตั๋วไปดาวอังคารอีกต่างหาก

    ถ้าเห็นจริง จะไม่ว่าอะไรเลย ส่วนใหญ่ พอจะรู้เพื่อเอามันสสส์

    และพร้อมจะเชื่อ โดยไม่ทำตามอีกต่างหาก ไร้เหตุผล
     
  12. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=4KQZjJaxV1c&feature=fvsr"]โลกเหมือนเม็ดทรายในจักรวาล.wmv - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=jM6-_cB2J0Q&feature=fvwrel"]มาดูโลกอยู่ที่ไหนของจักวาล - YouTube[/ame]
     
  13. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    จากข้อความ.........

    จักรวาลอันหนึ่ง โดยยาวและโดยกว้าง ประมาณ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ (๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร)
    ส่วนโดยรอบปริมณฑลทั้งสิ้น (ของจักรวาลนั้น) ประมาณ ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์




    ดูที่ตัวเลข ประมาณ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ (๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร)

    1,203,450 x 16 = 19,255,200 กิโลเมตร เป็นขนาดกว้างและยาวของจักรวาลโดยประมาณ




    ระยะทางจาก โลก ถึงดวงอาทิตย์โดยเฉลี่ยคือ 150,000,000 กิโลเมตร




    ทำไมจักรวาลนั้น มันเล็กจัง
     
  14. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ใช่ จากการคำนวณคร่าวๆ หรือความยาวในยุคนั้นมีความยาวมากกว่ายุคนี้ก็ไม่รู้นะ ยังไงขออ่านเป็นตำนานไว้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องไปคิดมาก แม่นบ่อิอิ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...