มรรคแท้มีอันเดียว (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 9 กรกฎาคม 2012.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    [​IMG]

    ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นมรรค อันเอกอุกฤษฏ์


    เดินทางนี้ตรงไปสู่ความดับทุกข์ได้แน่ อันพระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น ได้ดำเนินมาสำเร็จตามปรารถนามาแล้วทุกๆ พระองค์ มรรค ๘ เป็นทางดำเนินด้วยใจ ถึงแม้จะแสดงออกมาให้เป็นศีล ก็แสดงศีลในองค์มรรคนั่นเอง


    มรรคแท้มีอันเดียว คือ สัมมาทิฏฐิ อีก ๗ ข้อเบื้องปลายเป็นบริวารบริขารของสัมมาทิฏฐิทั้งนั้น
    หากขาดสัมมาทิฏฐิตัวเดียวเสียแล้ว สัมมาสังกัปปะเป็นต้น ย่อมเป็นไปไม่ได้


    เช่น ปัญญาพิจารณาเห็นความทุกข์ตามเป็นจริงว่า มนุษย์สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ย่อมถูกทุกข์คุกคามอยู่ตลอดเวลา โลกนี้จึงเป็นที่น่าเบื่อหน่ายเห็นเป็นภัย แล้วก็ดำริตริตรองหาช่องทางที่จะหนีให้พ้นจากกองทุกข์ในโลกนี้



    การดำริเช่นนั้นก็เป็นผลสืบเนื่องมาจาก สัมมาทิฏฐิ ปัญญาอันเห็นชอบนั่นเอง
    การ ดำริที่ชอบที่ถูกนั้นก็เป็นสัมมาวาจาอยู่แล้ว เพราะวาจาจะพูดออกมาก็ต้องมีการตริตรองก่อน การตริตรองเป็นศีลของอริยมรรค การพูดออกมาด้วยวาจาชอบเป็นศีลทั่วไป


    การงานของใจ คือ ดำริชอบ วาจาชอบ อยู่ภายในใจ เป็นการงานของอริยมรรคผู้ไม่ประมาท ดำเนินชีวิตเป็นไปในอริยมรรคดังกล่าวมาแล้วนั้น ได้ชื่อว่าความเป็นอยู่ชอบของผู้นั้น ผู้พยายามดำเนินตามอริยมรรคดังกล่าวมาแล้ว โดยติดต่อกันตามลำดับไม่ขาดสายได้ชื่อว่ามีความเพียรชอบในมรรคทั้งแปด



    ๖ ข้อเบื้องต้นมีความเห็นชอบเป็นต้น มีความพยายามชอบเป็นที่สุด
    หากขาดสัมมาสติ ตั้งสติชอบเสียแล้ว จะเดินไปให้ถึงสัมมาสมาธิไม่ได้เลย เหมือนทางที่ไม่ติดต่อเชื่อมกัน จะนำยานพาหนะไปตลอดทางได้อย่างไร


    องค์สุดท้ายคือสัมมาสมาธิ
    ยิ่งเป็นกำลังใหญ่สนับสนุนให้องค์มรรคนั้นๆ มีกำลังกล้าหาญที่จะไม่ท้อถอยในหน้าที่ของตนๆ พึงสังเกตดูเถิดว่า นักปฏิบัติโดยมาก หากสมาธิไม่มั่นคงแล้วมักไปไม่รอด ปัญญาสัมมาทิฏฐิเป็นผู้ส่องทางให้เห็นทางเดินก็จริง แต่เมื่อสติกับสมาธิอ่อนกำลังลงแล้ว ปัญญาอาจกลายเป็นสัญญาเป็นสังขารไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้


    คัดลอกจาก I am ลานธรรมจักร

    http://www.dhammajak.net/board/view...ghlight=&sid=bba31f313fbc48ad74d4e67b61cf6e2c
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  2. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ขอคัดค้านหัวข้อธรรมที่กล่าวเช่นนี้ที่ว่า มรรคแท้มีอันเดียว (และคำว่ามรรค ๘ จะหายไป)
    ลำพังสัมมาทิฏฐิองค์เดียวนั้นก็ไม่สามารถทำลายกิเลสได้เลย
    ต้องมีการประชุมและพร้อมกันจึงจะชำแรกกิเลสได้

    เหมือนหนึ่งว่า ของที่หนักนั้นต้องมีคนจำนวน ๘ คนจึงจะยกขึ้นได้
    ฉะนั้นคนใดคนหนึ่งขาดไป หรือเพียงแค่ออกกำลังน้อยไปก็ยกไม่ขึ้น
    หรือออกกำลังยกแต่ไม่พร้อมกันก็ยกไม่ขึ้น ดังนั้น องค์มรรคทั้ง ๘ จึงมีความสำคัญเหมือนกัน
    คือเท่ากันหมดจะไปให้ความสำคัญกับมรรคใดมรรคหนึ่งเด่นกว่าก็ไม่ได้
    เป็นช่วงมรรคนั้นต้องพร้อมเพรียง พร้อมใจ พร้อมกันจึงจะชื่อเป็นมรรคสมังคีย์เพื่อประหานกิเลส
    ดังเช่น จขกท.ตั้งหัวข้อไว้ ผู้อ่านและผู้อนุโมทนาอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนย่อมยึดถือเอาความเห็นผิดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2012
  3. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    ปัญญามีหลายระดับ ปัญญาในการพิจารณาเป็นปัญญาระดับโลกียะ
    ปัญญาที่เกิดสุดท้ายในการเห็นนิพพานครั้งแรกคือ ปัญญาในโลกุตตระ
    ที่ยกมากล่าวนี้เป็นปัญญาระดับโสดาปัตติมรรคบุคคล
    สืบต่อด้วยจิตขณะต่อไปเป็น โสดาปัตติผลบุคคล
     

แชร์หน้านี้

Loading...