มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการของพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 17 มิถุนายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    มหาปุริสลักษณะ
    หมายถึง ลักษณะพิเศษของมหาบุรุษ ซึ่งผู้ที่จะมีมหาปุริสลักษณะนั้น จะมีคติเป็น ๒ คือ พระเจ้าจักรพรรดิ หรือ พระพุทธเจ้า มหาปุริสลักษณะนั้น มี ๓๒ ประการ คือ

    ๑. มีพระบาทราบเสมอกัน (พระบาท = เท้า)
    ๒. ลายพื้นพระบาทเป็นจักร (จักร = รูปรอยล้อรถ คือธรรมนำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ดุลล้อนำไป สู่ที่หมาย)
    ๓. มีส้นพระบาทยาว (ถ้าแบ่ง ๔ ส่วน พระชงฆ์ตั้งอยู่ในส่วนที่ ๓) (พระชงฆ์ = แข้ง)
    ๔. มีนิ้วยาวเรียว (หมายถึงนิ้วพระหัตถ์และพระบาทด้วย)(นิ้วพระหัตถ์ = นิ้วมือ)
    ๕. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม
    ๖. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย
    ๗. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ อัฐิข้อพระบาทตั้งลอยอยู่หลังพระบาท กลับกลอกได้คล่อง เมื่อทรงดำเนินผิดกว่าสามัญชน (อัฐิ = กระดูก ดำเนิน = เดิน)
    ๘. พระชงฆ์เรียวดุจแข้งเนื้อทราย
    ๙. เมื่อยืนตรง พระหัตถ์ทั้งสองลูบจับพระชานุ (พระชานุ = เข่า)
    ๑๐. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก (พระคุยหะ = อวัยวะที่ลับ)
    ๑๑. มีฉวีวรรณดุจสีทอง (ฉวีวรรณ =สีผิวกาย)
    ๑๒. พระฉวีละเอียด (พระฉวี = ผิว)
    ๑๓. มีเส้นพระโลมาเฉพาะขุมละเส้น ๆ (พระโลมา = ขน)
    ๑๔. เส้นพระโลมาดำสนิทเวียนเป็นทักขิณาวัฏ มีปลายงอนขึ้นข้างบน (ทักขิณาวัฏ = วนเลี้ยวทางขวาอย่างเข็มนาฬิกา)
    ๑๕. พระกายตั้งตรงดุจท้าวมหาพรหม
    ๑๖. มีพระมังสะอูมเต็มในที่ ๗ แห่ง (คือ หลังพระหัตถ์ทั้ง ๒ และหลังพระบาททั้ง ๒ , พระอังสาทั้ง ๒, กับลำพระศอ) (พระมังสะ = เนื้อ , ชิ้นเนื้อ พระอังสา = บ่า,ไหล่ พระศอ = คอ)
    ๑๗. มีส่วนพระสรีระกายบริบูรณ์ (ล่ำพี) ดุจกึ่งท่อนหน้าแห่งพญาราชสีห์ (สรีระ = ร่างกาย)
    ๑๘. พระปฤษฎางค์ราบเต็มเสมอกัน (พระปฤษฎางค์ = ส่วนหลัง,ข้างหลัง)
    ๑๙. ส่วนพระกายเป็นปริมณฑล ดุลปริมณฑลแห่งต้นไทร(พระกายสูงเท่ากับว่าของพระองค์)(วา = เท่ากับ ๔ ศอก ประมาณ 2 เมตร)
    ๒๐. มีลำพระศอกกลมงามเสมอตลอด
    ๒๑. มีเส้นประสาทสำหรับรสพระกระยาหารอันดี
    ๒๒.มีพระหนุดุจคางแห่งราชสีห์ (โค้งเหมือนวงพระจันทร์)(พระหนุ = คาง)
    ๒๓.มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ (ข้างละ ๒๐ ซี่) (พระทนต์ = ฟัน)
    ๒๔.มีพระทนต์เรียบเสมอกัน
    ๒๕.พระทนต์เรียบสนิทมิได้ห่าง
    ๒๖.เขี้ยวพระทนต์ทั้ง 4 ขาวงามบริสุทธ์
    ๒๗.พระชิวหาอ่อนและยาว (อาจแผ่ปกพระนลาฏใต้)(พระชิวหา = ลิ้น พระนลาฎ = หน้าผาก)
    ๒๘.พระสุรเสียงดุจท้าวมหาพรหม ตรัสมีสำเนียงดุจนกการเวก
    ๒๙.พระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด
    ๓๐.ดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด
    ๓๑.มีอุณาโลมระหว่างพระโขนง เวียนขวาเป็นทักขิณาวัฏ (อุณาโลม = ขนระหว่างคิ้ว)
    ๓๒.มีพระเศียรงามบริบูรณ์ดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ (พระเศียร = ศีรษะ)

    http://larndham.net/index.php?showtopic=30722
     
  2. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ดู ก่ อ น. . .ภิ ก ษุ ทั้ ง ห ล า ย
    ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เอก หาได้ยากในโลก
    บุ ค ค ล ผู้ เ อ ก เ ป็ นไ ฉ น
    บุ ค ค ล ผู้ เ อ ก คื อ พ ร ะ ต ถ า ค ต อ ร หั น ต สั ม ม า สั ม พุ ท ธ เ จ้ า
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เป็นเอกนี้แลหาได้ยากในโลก
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
    เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่ออัตถะเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
    เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ยถาปิ อุทเก ชาตํ ปุณฺฑรีกํ ปวฑุฒฒิ
    โนปลิปฺปติ โตเยน สุจิคนฺธํ มโนรมํ
    ตเถว จ โลเก ชาโต พุทฺโธ โลเก วิหรติ
    โนปลิปฺปติ โลเกน โตเยน ปทุมํ ยถาฯ

    ดอกบัว เกิดและเจริญงอกงามในน้ำ แต่ไม่ติดน้ำ
    ทั้งส่งกลิ่นหอม ชื่นชูใจให้รื่นรมย์ ฉันใด
    พระพุทธเจ้าทรงเกิดในโลก และอยู่ในโลก
    แต่ไม่ติดโลก เหมือนบัวไม่ติดน้ำ ฉันนั้น
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ๑. . .สุ ป ะ ติ ฎ ฐิ ต ะ ปา โ ท. . .
    พ ร ะ บ า ท ป ร ะ ดิ ษ ฐ า น เ ป็ น อั น ดี
    เมื่อทรงเหยียบพระบาท ทรงจรดพื้น
    ด้วยฝ่าพระบาททุกส่วนเสมอกัน
    เมื่อทรงยกพระบาทขึ้นก็เสมอกัน

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~
    พระพุทธองค์ทรงไม่มีข้าศึกศัตรูภายใน
    คือ ราคะ โทสะ โมหะ
    ไม่มีข้าศึกศัตรูภายนอก
    คือ สมณพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
    ใครๆ ในโลกนี้มิอาจจะข่มได้. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~
    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงยึดมั่นในกุศลอย่างมั่นคง
    ประพฤติกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต
    บำเพ็ญทาน สมาทานศีล เบญจศีล อุโบสถศีล
    ปฏิบัติดีต่อบิดา มารดา สมณพราหมณ์
    เคารพผู้ใหญ่ในตระกูล เคารพในธรรมที่สูงขึ้นไป. . .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  3. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

    ๗. ลักขณสูตร (๓๐)

    [๑๓๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ
    ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัส
    เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว
    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษผู้
    สมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการเหล่านี้ ย่อมมีคติเป็นสองเท่านั้น
    ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือน จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม
    เป็น
    พระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดินมีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชนะ
    แล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้าง
    แก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้วเป็นที่ ๗
    พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์
    สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรม โดยเสมอ มิต้องใช้
    ศัสตรา มิต้องใช้อาชญา มิได้มีเสนียด ครอบครองแผ่นดิน มีสาครเป็น
    ขอบเขต มิได้มีเสาเขื่อน มิได้มีนิมิต ไม่มีเสี้ยนหนาม สำเร็จ แพร่หลาย
    มีความเกษม สำราญ ถ้าเสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันต-
    *สัมมาสัมพุทธเจ้า
    มีหลังคา คือ กิเลสอันเปิดแล้วในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการนั้น เป็นไฉน ซึ่งพระมหาบุรุษประกอบแล้วย่อม
    มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้า-
    *จักรพรรดิ ฯลฯ อนึ่ง ถ้าพระมหาบุรุษนั้น เสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะ
    ได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษในโลกนี้

    ๑. มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี ภิกษุทั้งหลาย การที่พระมหาบุรุษ
    มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี นี้เป็นมหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษ ฯ
    ๒. ณ พื้นภายใต้ฝ่าพระบาท ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำ
    ข้างละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง ภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พื้น
    ภายใต้ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำข้างละพัน มีกง
    มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง นี้ก็มหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษ ฯ
    ๓. มีส้นพระบาทยาว ฯ
    ๔. มีพระองคุลียาว ฯ
    ๕. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม ฯ
    ๖. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย ฯ
    ๗. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ ฯ
    ๘. มีพระชงฆ์รีเรียวดุจแข้งเนื้อทราย ฯ
    ๙. เสด็จสถิตยืนอยู่มิได้น้อมลง เอาฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองลูบคลำได้ถึง
    พระชาณุทั้งสอง ฯ
    ๑๐. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก ฯ
    ๑๑. มีพระฉวีวรรณดุจวรรณะแห่งทองคำ คือ มีพระตจะ ประดุจหุ้ม
    ด้วยทอง ฯ
    ๑๒. มีพระฉวีละเอียด เพราะพระฉวีละเอียด ธุลีละอองจึงมิติดอยู่ใน
    พระกายได้ ฯ
    ๑๓. มีพระโลมชาติเส้นหนึ่งๆ เกิดในขุมละเส้นๆ ฯ
    ๑๔. มีพระโลมชาติมีปลายขึ้นช้อยขึ้นข้างบน มีสีเขียว มีสีเหมือนดอก
    อัญชัญ ขดเป็นกุณฑลทักษิณาวัฏ ฯ
    ๑๕. มีพระกายตรงเหมือนกายพรหม ฯ
    ๑๖. มีพระมังสะเต็มในที่ ๗ สถาน ฯ
    ๑๗. มีกึ่งพระกายท่อนบนเหมือนกึ่งกายท่อนหน้าของสีหะ ฯ
    ๑๘. มีระหว่างพระอังสะเต็ม ฯ
    ๑๙. มีปริมณฑลดุจไม้นิโครธ วาของพระองค์เท่ากับพระกายของพระองค์
    พระกายของพระองค์ก็เท่ากับวาของพระองค์ ฯ
    ๒๐. มีลำพระศอกลมเท่ากัน ฯ
    ๒๑. มีปลายเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารอันดี ฯ
    ๒๒. มีพระหนุดุจคางราชสีห์ ฯ
    ๒๓. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ ฯ
    ๒๔. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน ฯ
    ๒๕. มีพระทนต์ไม่ห่าง ฯ
    ๒๖. มีพระทาฐะขาวงาม ฯ
    ๒๗. มีพระชิวหาใหญ่ ฯ
    ๒๘. มีพระสุรเสียงดุจเสียงแห่งพรหม ตรัสมีสำเนียงดังนกกรวิก ฯ
    ๒๙. มีพระเนตรดำสนิท [ดำคม] ฯ
    ๓๐. มีดวงพระเนตรดุจตาแห่งโค ฯ
    ๓๑. มีพระอุณณาโลมบังเกิด ณ ระหว่างพระขนง มีสีขาวอ่อน ควร
    เปรียบด้วยนุ่น ฯ
    ๓๒. มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ ฯ


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พระมหาบุรุษ มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบ
    พระพักตร์นี้ ก็เป็นมหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษนั้น ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการเหล่านี้แล ที่มหาบุรุษ
    ประกอบแล้ว ย่อมเป็นเหตุให้มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครอง
    เรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ อนึ่งถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรง
    ผนวชเป็นบรรพชิต จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอัน
    เปิดแล้วในโลก ภิกษุทั้งหลาย พวกฤาษีแม้เป็นภายนอก ย่อมทรงจำมหาปุริส-
    *ลักษณะของพระมหาบุรุษ ๓๒ เหล่านี้ได้ แต่ฤาษีทั้งหลายนั้น ย่อมไม่ทราบว่า
    เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก สัตว์ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนี้
    อันตนทำสั่งสมพอกพูนไพบูลย์ สัตว์ที่บำเพ็ญกุศลกรรมนั้น ย่อมครอบงำเทวดา
    ทั้งหลายอื่นในโลกสวรรค์ โดยสถาน ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ ความสุข
    ทิพย์ ยศทิพย์ ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์
    และโผฏฐัพพทิพย์ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อม
    ได้เฉพาะ ซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ ฯ


    [๑๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน
    กำเนิดก่อน เป็นผู้มีสมาทานมั่นในกุศลธรรม มีสมาทานไม่ถอยหลังในกายสุจริต
    ในวจีสุจริต ในมโนสุจริต ในการบำเพ็ญทาน ในการสมาทานศีล ในการรักษา
    อุโบสถ ในการปฏิบัติดีในมารดา ในการปฏิบัติดีในบิดา ในการปฏิบัติดีในสมณะ
    ในการปฏิบัติดีในพรหม ในความเป็นผู้เคารพต่อผู้ใหญ่ในสกุลและในธรรมเป็น
    อธิกุศลอื่นๆ ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก
    เพราะกรรมนั้น อันตนทำสั่งสม พอกพูนไพบูลย์ ตถาคตย่อมครอบงำเทวดา
    ทั้งหลายอื่นในโลกสวรรค์ โดยสถาน ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ ความสุข
    ทิพย์ ยศทิพย์ ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์
    และโผฏฐัพพทิพย์ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาถึงความเป็นอย่างนี้ ย่อม
    ได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ ฯ




    [๑๓๒] พระมหาบุรุษนั้น มีพระบาทตั้งอยู่เฉพาะเป็นอันดี คือทรง
    เหยียบพระบาทเสมอกันบนพื้น ทรงยกพระบาทขึ้นก็เสมอกัน ทรงจดภาคพื้นด้วย
    ฝ่าพระบาททุกส่วนเสมอกัน
    พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครอง
    เรือนจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ดำรงอยู่ในธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นอิสระ
    ในแผ่นดินมีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชำนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง
    สมบูรณ์ด้วยรตนะ ๗ ประการ คือ จักรรัตน์ หัสดีรัตน์ อัสวรัตน์ มณีรัตน์
    อิตถีรัตน์ คฤบดีรัตน์ ปริณายกรัตน์เป็นที่ ๗ และมีพระราชโอรสมากกว่าพัน
    ล้วนเป็นผู้แกล้วกล้า มีพระรูปสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาแห่งปรปักษ์
    เสียได้ และพระมหาบุรุษนั้นทรงชนะโดยธรรมมิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา
    ปกครองแผ่นดินนี้มีสาครเป็นขอบเขต มิได้มีเสาเขื่อน มิได้มีนิมิต ไม่มีเสี้ยน
    หนาม มั่งคั่งแพร่หลาย มีความเกษมสำราญ มิได้มีเสนียด เมื่อเป็นพระราชาจะ
    ได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้ผลข้อนี้ คือ ไม่มีใครๆ ที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเป็น
    ข้าศึกศัตรูจะพึงข่มได้ อนึ่ง ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรงผนวชเป็นบรรพ-
    *ชิต จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก
    เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้ผลข้อนี้ คือ ไม่มี
    เหล่าข้าศึกศัตรูภายในหรือภายนอก คือ ราคะ โทสะ โมหะ หรือสมณพราหมณ์
    เทวดา มาร พรหม ใครๆ ในโลกจะพึงข่มได้ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความ
    นี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า ฯ


    [๑๓๓] พระมหาบุรุษยินดีในวจีสัจ ในธรรม [กุศลกรรมบถ] ความ
    ฝึกตน ความสำรวม ความเป็นผู้สะอาด ศีลที่เป็นอาลัย
    อุโบสถกรรม ความไม่เบียดเบียนเหล่าสัตว์ และกรรมอันไม่
    สาหัส สมาทานแล้วมั่นคง ทรงประพฤติมาแล้วอย่างรอบคอบ
    เพราะกรรมนั้น พระมหาบุรุษจึงหลีกไปสู่ไตรทิพย์ เสวย
    ความสุขและสมบัติเป็นที่เพลิดเพลินยินดี จุติจากไตรทิพย์แล้ว
    เวียนมาในโลกนี้ เหยียบปฐพีด้วยฝ่าพระบาทอันเรียบ พวก
    พราหมณ์ผู้ทำนายพระลักษณะมาประชุมกันแล้วทำนายว่า พระ-
    *ราชกุมารนี้มีฝ่าพระบาทประดิษฐานเรียบ เป็นคฤหัสถ์หรือ
    บรรพชิต ก็ไม่มีใครข่มได้ พระลักษณะนั้นย่อมเป็นนิมิตส่อง
    เนื้อความนั้น พระราชกุมารนี้ เมื่ออยู่ครองฆราวาส ไม่มีใคร
    สามารถข่มได้ มีแต่ครอบงำพวกปรปักษ์เหล่าศัตรูมิอาจย่ำยีได้
    ใครๆ ที่เป็นมนุษย์ในโลกนี้หาข่มได้ไม่ เพราะผลแห่งกุศล
    กรรมนั้น ถ้าพระราชกุมารเช่นนั้น เข้าถึงบรรพชา ทรงยินดี
    ยิ่งด้วยความพอใจในเนกขัมมะ จะมีพระปรีชาเห็นแจ่มแจ้ง
    เป็นอัครบุคคล ไม่ถึงความเป็นผู้อันใครๆ ข่มได้ ย่อมเป็นผู้
    สูงสุดกว่านรชน อันนี้แลเป็นธรรมดาของพระกุมารนั้น ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2008
  4. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๒. . .เ ห ฎ ฐ า ป า ท ะ ต ะ เ ล สุ จั ก ก า นิ. . .
    ใ ต้ พ ร ะ บ า ท ทั้ ง ส อ ง มี ล า ย ธ ร ร ม จั กร ม ง ค ล ๑ ๐ ๘ ป ร ะ ก า ร

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั นนี้ ~
    พระพุทธองค์ทรงมีบริวารมาก
    มีบริวารเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก
    อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค
    คนธรรพ์ นก สัตว์สี่เท้าที่มียศมาก
    แวดล้อมพระองค์ไม่มีใครยิ่งกว่า. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~
    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ ได้นำความสุขมาให้แก่ชนเป็นอันมาก
    บรรเทาความหวาดกลัว จัดการรักษา คุ้มครอง
    ป้องกันอย่างเป็นธรรม ให้ทานด้วยสิ่งของต่าง ๆ. . .
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  5. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๓๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน
    กำเนิดก่อน ได้เป็นผู้นำความสุขมาให้แก่ชนเป็นอันมาก บรรเทาภัยคือความ
    หวาดกลัวและความหวาดเสียว จัดความรักษาปกครองป้องกันโดยธรรม และ
    บำเพ็ญทานพร้อมด้วยวัตถุอันเป็นบริวาร
    เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อม
    เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้นอันตนทำสั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯ
    ตถาคตย่อมครอบงำเทวดาทั้งหลายอื่นในโลกสวรรค์โดยสถาน ๑๐ คือ
    อายุทิพย์ วรรณทิพย์ ความสุขทิพย์ ยศทิพย์ ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์
    เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ และโผฏฐัพพทิพย์ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้น
    แล้ว มาถึงความเป็นอย่างนี้ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ ในฝ่าพระ
    บาททั้ง ๒ มีจักรเกิดเป็นอันมาก มีซี่กำพันหนึ่ง มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการ
    ทั้งปวง
    มีระหว่างอันกุศลกรรมแบ่งเป็นอันดี พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น
    ถ้าอยู่ครองเรือน จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร
    เมื่อเป็นพระราชาจะได้ผลข้อนี้ คือ มีบริวารมาก คือ มีบริวารเป็นพราหมณ์ เป็น
    คฤหบดี เป็นชาวนิคม เป็นชาวชนบท เป็นโหราจารย์ เป็นมหาอำมาตย์ เป็น
    กองทหาร เป็นนายประตู เป็นอำมาตย์ เป็นบริษัท เป็นเจ้า เป็นเศรษฐี เป็น
    ราชกุมาร ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรงผนวชเป็นบรรพชิต จะเป็นพระ
    อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระ
    พุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้ผลข้อนี้ คือ มีบริวารมาก คือ มี
    บริวารเป็นภิกษุ เป็นภิกษุณี เป็นอุบาสก เป็นอุบาสิกา เป็นเทวดา เป็นมนุษย์
    เป็นอสูร เป็นนาค เป็นคนธรรพ์ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระ
    โบราณกเถระทั้งหลาย จึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า

    [๑๓๕] พระมหาบุรุษเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อนๆ ผู้นำความสุขมา
    ให้แก่ชนมาก บรรเทาภัยคือ ความหวาดกลัวและความ
    หวาดเสียว ขวนขวายในความคุ้มครองรักษาป้องกัน เพราะ
    กรรมนั้น พระมหาบุรุษจึงหลีกไปสู่ไตรทิพย์ เสวยความสุข
    และสมบัติเป็นที่เพลิดเพลินยินดี ครั้นจุติจากไตรทิพย์แล้ว
    เวียนมาในโลกนี้ ย่อมได้ลายจักรทั้งหลาย มีซี่กำพันหนึ่ง มี
    กง มีดุม โดยรอบ ในฝ่าพระบาททั้ง ๒ พวกพราหมณ์ผู้
    ทำนายลักษณะมาประชุมกันแล้วเห็นพระราชกุมารมีลักษณะอัน
    เกิดด้วยบุญเป็นร้อยๆ แล้วทำนายว่า พระราชกุมารนี้จักมี
    บริวาร ย่ำยีเสียซึ่งศัตรู เพราะจักรทั้งหลายมีกงโดยรอบอย่าง
    นั้น ถ้าพระราชกุมารเช่นนั้นไม่เข้าถึงบรรพชา จะยังจักรให้
    เป็นไป และปกครองแผ่นดิน มีกษัตริย์ที่มียศมากเป็นอนุยนต์
    ติดตามห้อมล้อมพระองค์ ถ้าและพระราชกุมารเช่นนั้นเข้าถึง
    บรรพชา เป็นผู้ยินดียิ่งด้วยความพอใจในเนกขัมมะ จะมีพระ
    ปรีชาเห็นแจ่มแจ้ง พวกเทวดา มนุษย์ อสูร ท้าวสักกะ
    ยักษ์ คนธรรพ์ นาค วิหค และสัตว์ ๔ เท้า ที่มียศมากจะ
    ห้อมล้อมพระองค์ผู้ไม่มีใครยิ่งกว่า อันเทวดาและมนุษย์บูชา
    แล้ว ฯ
     
  6. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๓. . .อ า ย ะ ต ะ ปั ณ หิ. . .

    ส้ น พ ร ะ บ า ท ย า ว
    พระบาทแบ่งออกเป็นสี่ส่วน
    ปลายพระบาทสองส่วน ลำพระชงฆ์ (แข้ง)
    ตั้งในส่วนที่สาม เหลือส้นพระบาทอีกหนึ่งส่วน
    และส้นพระบาทนั้นสีแดงงาม

    ๔. . . ที ฆั ง คุ ลี . . .

    นิ้ ว พ ร ะ หั ต ถ์ นิ้ ว พ ร ะ บ า ท ยา ว เ รี ย ว ก ล ม ง า ม

    ๕. . . พ ร ห มุ ชุ คั ต โ ต . . .

    พ ร ะ ว ร ก า ย ตั้ ง ต ร ง ดั ง ก า ย ท้ า ว ม ห า พ ร ห ม
    ไม่น้อมไปข้างหน้า หรือหงายไปข้างหลัง

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์มีพระชนมายุยืน
    ไม่มีผู้ใดปลงพระชนม์ชีพได้ . . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงเว้นปาณาติบาต
    มิได้เหยียบสัตว์ให้ตายด้วยความประมาท
    มิได้ประหารสัตว์ให้ตายด้วยพระหัตถ์
    มีความละอาย มีความกรุณา
    มีความปรารถนาดีแก่สัตว์ทั้งปวง . . .
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  7. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน
    กำเนิดก่อน ละปาณาติบาตแล้ว เว้นขาดจากปาณาติบาตแล้ว วางทัณฑะ วาง
    ศาตราแล้ว มีความละอาย มีความกรุณา
    หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่
    ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น
    อันตนทำสั่งสมพอกพูนไพบูลย์ ตถาคตย่อมครอบงำเทวดาทั้งหลายอื่นในโลก
    สวรรค์ โดยสถาน ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ ความสุขทิพย์ ยศทิพย์
    ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ และโผฏฐัพพ-
    *ทิพย์ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่ง
    มหาปุริสลักษณะ ๓ ประการ คือ ส้นพระบาทยาว ๑ มีนิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาท
    ยาว ๑ มีพระกายตรงดังว่ากายแห่งพรหม ๑
    พระมหาบุรุษนั้นสมบูรณ์ด้วยลักษณะ
    ทั้งหลายนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชา
    จะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาได้ผลข้อนี้ คือ มีพระชนมายุยืนดำรงอยู่นาน ทรง
    อภิบาลพระชนมายุยืนยาว ไม่มีใครๆ ที่เป็นมนุษย์ซึ่งเป็นข้าศึกศัตรูสามารถปลง
    พระชนม์ชีพในระหว่างได้ ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรงผนวชเป็นบรรพชิต
    จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อ
    เป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้ผลข้อนี้ คือ มีพระชนมายุ
    ยืนดำรงอยู่นาน ทรงอภิบาลพระชนมายุยืนยาว ไม่มีข้าศึกศัตรูจะเป็นสมณะ
    พราหมณ์ เทวดา พรหม มาร ใครๆ ในโลก สามารถปลงพระชนม์ชีพใน
    ระหว่างได้ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลาย จึง
    กล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะเหล่านั้นว่า

    [๑๓๗] พระมหาบุรุษทรงทราบว่าการฆ่าอันเป็นเหตุให้สัตว์ตายว่าเป็นภัยแก่ตน ได้เป็นผู้เว้นขาดแล้ว เบื้องหน้าแต่มรณะ ได้ไปแล้วสู่สวรรค์ เพราะกรรมที่ทรงประพฤติดีแล้วนั้น เสวยวิบากอันเป็นผลแห่งกรรมที่ทรงทำดีแล้วจุติ [จากสวรรค์] แล้วเวียนมาในโลกนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งลักษณะ ๓ ในโลกนี้ คือ มีส้นพระบาทยาวงาม ๑ พระกายเกิดดีตรงสวยงาม ประหนึ่งว่ากายพรหม มีพระพาหางาม มีความเป็นหนุ่ม ทรวดทรงสวยเป็นสุชาต ๑ มีนิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทยาวอ่อนดังปุยฝ้าย ๑ พระชนกเป็นต้นทรงบำรุงพระราชกุมาร เพื่อให้มีพระชนมายุเป็นไปนาน เพราะพระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยปุริสลักษณะ ๓ ประการ ถ้าพระราชกุมารเป็นคฤหัสถ์ ก็จะให้พระชนม์ชีพเป็นไปนาน ถ้าทรงผนวชก็จะให้พระชนม์ชีพเป็นไปนานกว่านั้น เพื่อให้วสีและอิทธิเจริญไป พระลักษณะนั้นเป็นนิมิต เพื่อความเป็นผู้มีชนมายุยืนด้วยประการดังนี้ ฯ
     
  8. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๖. . . สั ต ตุ ส ส ะ โ ท . . .

    พ ร ะ มั ง ส ะ ( เ นื้ อ ) อู ม ใ น ที่ ๗ แ ห่ ง
    ได้แก่ หลังพระหัตถ์ทั้งสอง
    หลังพระบาททั้งสอง
    พระอังสา (บ่า) ทั้งสอง
    ลำพระศอ (คอ)
    มิได้เห็นเส้นปรากฏออกมาภายนอก

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ได้ของที่ควรเคี้ยว
    ควรบริโภค ควรลิ้ม น้ำที่ควรดื่ม
    อันประณีต มีรสอร่อย . . .

    ~ บุพพกรรม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงให้ ของที่ควรเคี้ยว
    ของที่ควรบริโภค ของที่ควรลิ้ม
    น้ำที่ควรดื่ม อันประณีต
    มีรสอร่อย เป็นจำนวนมาก . . .
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  9. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน
    กำเนิดก่อน เป็นผู้ให้ของที่ควรเคี้ยวและของที่ควรบริโภคอันประณีตและมีรสอร่อย
    และให้น้ำที่ควรซดควรดื่ม
    ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตาย
    เพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ
    ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริส
    ลักษณะนี้ คือมีมังสะอูมในที่ ๗ สถาน คือที่หลังพระหัตถ์ทั้ง ๒ ก็มีมังสะอูม
    ที่หลังพระบาททั้ง ๒ ก็มีมังสะอูม ที่บนพระอังสาทั้ง ๒ ก็มีมังสะอูม ที่ลำพระศอ
    ก็มีมังสะอูม
    พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือน จะเป็น
    พระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับ
    ผลข้อนี้ คือ ย่อมเป็นผู้ได้ของที่ควรเคี้ยวและของที่ควรบริโภคอันประณีตและมี
    รสอร่อย และได้น้ำที่ควรซดควรดื่ม ถ้าพระมหาบุรุษนั้น ออกจากเรือนทรงผนวช
    เป็นบรรพชิต จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้ว
    ในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้
    คือ ทรงได้ของที่ควรเคี้ยว และของที่ควรบริโภคอันประณีต และมีรสอร่อย
    และทรงได้น้ำที่ควรซดควรดื่ม พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณก
    เถระทั้งหลาย จึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า


    [๑๓๙] พระมหาบุรุษอุดม เป็นผู้ให้ของที่ควรเคี้ยว และของที่ควร
    บริโภค และน้ำที่ควรซดควรดื่ม มีรสอันเลิศ เพราะกรรมที่
    ทรงประพฤติดีแล้วนั้น พระมหาบุรุษนั้น จึงบันเทิงใจอยู่นาน
    ในสวนนันทวัน มาในโลกนี้ ย่อมได้มังสะอูมเจ็ดแห่ง และ
    ได้พื้นพระหัตถ์และพระบาทอ่อนนุ่ม บัณฑิตผู้ฉลาดในนิมิต
    แห่งลักษณะ กล่าวไว้เพื่อความเป็นผู้ได้ของควรเคี้ยวและ
    โภชนะอันมีรส ลักษณะนั้น ใช่ว่าจะส่องอรรถ แม้แก่
    พระมหาบุรุษผู้เป็นคฤหัสถ์เท่านั้น ถึงพระมหาบุรุษทรงผนวช ก็
    ได้ขัชชโภชนาทิวัตถุนั้นเหมือนกัน พระองค์เป็นผู้ได้ของควร
    เคี้ยวและโภชนะมีรสอันอุดม บัณฑิตทั้งหลายกล่าวแล้วว่า
    พระองค์เป็นผู้ตัดกิเลสเป็นเครื่องผูกของคฤหัสถ์ทั้งปวงเสีย ฯ
     
  10. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๗. . . มุ ทุ ต ะ ล ะ น ะ หั ต ถ ะ ป า โ ท . . .

    ฝ่ า พ ร ะ หั ต ถ์ ฝ่ า พ ร ะ บ า ท อ่ อ น นุ่ ม

    ๘. . .ช า ล ะ หั ต ถ ะ ป า โ ท . . .

    ฝ่ า พ ร ะ หั ต ถ์ ฝ่ า พ ร ะ บ า ท
    มี ล า ย ดั ง ต า ข่ า ย
    มีนิ้วพระหัตถ์ยาวเรียว
    มีนิ้วพระบาททั้งห้าเสมอกัน ชิดสนิทดี

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงมีบริวาร
    ที่พระองค์สงเคราะห์เป็นอย่างดี
    ผูกใจบริวารได้เป็นอย่างดี
    โดยการสงเคราะห์ในบุพชาติ (กรรม)
    และในปัจจุบัน (อุปนิสัย)
    เป็นที่รักของบริวาร. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ชน
    ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ได้แก่
    ท า น ( การให้ )
    ปิ ย ว า จ า ( วาจาไพเราะ )
    อั ต ถ จ ริ ย า ( บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ )
    ส ม า นั ต ต า ( วางตนเหมาะสม ). . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  11. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน เป็นผู้สงเคราะห์ประชาชนด้วยสังคหวัตถุ ๔ คือ การให้ การกล่าวคำเป็นที่รัก การประพฤติให้เป็นประโยชน์ และความเป็นผู้มีตนเสมอ ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้วมาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะ ทั้ง ๒ นี้ คือ พระหัตถ์และพระบาทมีพื้นอ่อนนุ่ม ๑ และมีพระหัตถ์และพระบาทมีลายดังว่าร่างข่าย ๑ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะทั้ง ๒ นั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีบริวารชนอันพระองค์ทรงสงเคราะห์แล้วเป็นอย่างดี บริวารชนที่พระองค์ทรงสงเคราะห์เป็นอย่างดีนั้น เป็นพราหมณ์ เป็นคฤหบดี เป็นชาวนิคม เป็นชาวชนบท เป็นโหราจารย์ เป็นมหาอำมาตย์ เป็นกองทหาร เป็นนายประตู เป็นอำมาตย์ เป็นบริษัท เป็นเจ้า เป็นเศรษฐี เป็นราชกุมาร ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรงผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีบริวารชนอันพระองค์ทรงสงเคราะห์แล้วเป็นอย่างดี บริวารชนที่พระองค์ทรงสงเคราะห์เป็นอย่างดีนั้น เป็นภิกษุ เป็นภิกษุณี เป็นอุบาสก เป็นอุบาสิกา เป็นเทวดา เป็นมนุษย์ เป็นอสูร เป็นนาค เป็นคนธรรพ์ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะเหล่านั้นว่า


    [๑๔๑] พระมหาบุรุษ ทำแล้ว ประพฤติแล้ว ซึ่งการให้ ๑ ซึ่งความเป็นผู้ประพฤติให้เป็นประโยชน์ ๑ ซึ่งความเป็นผู้กล่าวคำเป็นที่รัก ๑ ซึ่งความเป็นผู้มีพระฉันทะเสมอกัน ๑ ให้เป็นความสงเคราะห์อย่างดีแก่ชนเป็นอันมาก ย่อมไปสู่สวรรค์ด้วยคุณอันตนมิได้ดูหมิ่น จุติ [จากสวรรค์] แล้วเวียนมาในโลกนี้ เป็นพระกุมารยังหนุ่มแน่นงดงาม ย่อมได้เฉพาะซึ่งความเป็นผู้มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่มด้วย ซึ่งความเป็นผู้มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายเป็นร่างข่ายงามยิ่ง และ มีส่วนสวยน่าชมด้วย พระองค์มาสู่แผ่นดินนี้ มีบริวารชนอันพระองค์พึงตรวจตราและสงเคราะห์ดี ตรัสถ้อยคำเป็นที่น่ารัก แสวงหาผลประโยชน์เกื้อกูลและความสุขให้ ทรงประพฤติความดีมากหลายที่พระองค์โปรดยิ่ง ถ้าพระองค์ทรงละความบริโภคกามารมณ์ทั้งปวงเป็นพระชินะตรัสธรรมกถาแก่ประชุมชน ประชุมชนก็จะสนองคำของพระองค์ เลื่อมใสยิ่งนัก ครั้งฟังธรรมแล้ว ย่อมจะพากันประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ฯ
     
  12. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๙. . .อุสสังขะปาโท. . .

    ห ลั ง พ ร ะ บ า ท นู น ดุ จ สั ง ข์ ค ว่ำ
    ข้อพระบาทกลอกกลับผันแปรอย่างคล่องขณะย่างพระบาท

    ๑๐. พ ร ะ โ ล ม า (ข น) มี สี ดำ ส นิ ท
    ขดเป็นทักษิณาวัฎ (เวียนขวา) ๓ รอบและมีปลายช้อนขึ้น


    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้เลิศ
    ผู้ประเสริฐ เป็นประมุขสูงสุดกว่าสัตว์ ทั้งปวง. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้กล่าววาจา
    ประกอบด้วยอรรถด้วยธรรม
    แนะนำประชาชนเป็นอันมาก
    เป็นผู้นำประโยชน์และความสุข
    ให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้บูชาธรรมเป็นปกติ. . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  13. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน เป็นผู้กล่าววาจาประกอบด้วยอรรถ ประกอบด้วยธรรม แนะนำประชาชนเป็นอันมาก เป็นผู้นำประโยชน์และความสุขมาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้บูชาธรรมเป็นปรกติ ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ จุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะ ๒ ประการนี้ คือมีพระบาทดุจสังข์คว่ำ ๑ มีพระโลมชาติล้วนมีปลายช้อนขึ้นข้างบนทุกๆ เส้น ๑ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะทั้ง ๒ นั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้เลิศประเสริฐ เป็นประธานสูงสุด ดีกว่าหมู่ชนที่บริโภคกาม ถ้าพระมหาบุรุษออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้เลิศประเสริฐ เป็นประธานสูงสุด ดีกว่าสรรพสัตว์ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้
    ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะเหล่านั้นว่า

    [๑๔๓] พระมหาบุรุษ พิจารณาก่อน จึงกล่าวคำอันประกอบด้วยอรรถและธรรม แสดงแล้วกะประชาชนเป็นอันมาก เป็นผู้นำประโยชน์และความสุขมาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้ไม่ตระหนี่ได้เสียสละบูชาธรรมแล้ว พระองค์ย่อมไปสู่สุคติ บันเทิงอยู่ในสุคตินั้น เพราะกรรมอันพระองค์ประพฤติดีแล้ว มาในโลกนี้ ย่อมได้ลักษณะ ๒ ประการ เพื่อความเป็นผู้มีความสุขอันอุดม พระมหาบุรุษนั่นนั้น มีพระโลมชาติมีปลายช้อนขึ้นข้างบนและมีพระบาทดำรงอยู่แล้วเป็นอันดี อันพระมังสะและโลหิตปิดบัง อันหนังหุ้มห่อแล้ว และมีพระเพลาเบื้องบนงาม พระมหาบุรุษเช่นนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะถึงความเป็นผู้เลิศกว่าพวกที่บริโภคกาม ไม่มีใครๆ ยิ่งกว่าพระองค์ทรงครอบงำชมพูทวีปเสียสิ้น อนึ่ง หากพระองค์ทรงผนวช ก็จะทรงพระวิริยะอย่างประเสริฐ ถึงความเป็นผู้เลิศกว่าสรรพสัตว์ ไม่มีใครๆ ยิ่งกว่าพระองค์ได้ ทรงครอบงำโลกทั้งปวงอยู่ ฯ
     
  14. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๑๑. . . เ อ ณิ ชั ง โ ฆ . . .

    พร ะ ช ง ฆ์ ( แ ข้ ง) เ รี ย ว ดั ง แ ข้ ง เ นื้ อ ท ร า ย ก ล ม ก ลึ ง ง า ม

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงได้ปัจจัยอันควร
    แก่สมณะและบริษัท เครื่องสมณูปโภค
    อันควรแต่สมณะ โดยพลัน. . .

    ~ บุพพกรรม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ตั้งใจสอนศิลปะวิทยา
    จรณะ(ศีล สมาธิ) หรือกรรม (การงาน)
    ที่ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนใคร ๆ
    โดยตั้งใจว่า ทำอย่างไรชนทั้งหลาย
    จะเรียนรู้เร็ว สำเร็จเร็ว ไม่ลำบากนาน. . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  15. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน เป็นผู้ตั้งใจสอนศิลปะ วิชชา จรณะ [ข้อที่ควรประพฤติ] หรือกรรม [ปัญญาเป็นเครื่องรู้ว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน] ด้วยมนสิการว่า ทำไฉนชนทั้งหลายนี้พึงรู้เร็ว พึงสำเร็จเร็ว ไม่พึงลำบากนาน ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสมพอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ มีพระชงฆ์เรียวดังแข้งแห่งเนื้อทราย พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ จะทรงได้เฉพาะซึ่งหัตถาทิวาหนะ อันคู่ควรแก่พระราชา ซึ่งเป็นองค์แห่งเสนาของพระราชาและเครื่องราชูปโภคอันสมควรแก่พระราชาโดยพลัน ฯลฯ ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือจะทรงได้เฉพาะซึ่งจีวราทิปัจจัยอันสมควรแก่สมณะ และจตุบริษัทอันเป็นองค์ของสมณะ และทรงได้บริขารเป็นสมณูปโภคอันสมควรแก่สมณะโดยพลัน พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า


    [๑๔๕] พระมหาบุรุษปรารถนาอยู่ว่า ทำไฉน พวกศึกษาเหล่านี้จะรู้แจ่มแจ้งเร็วในศิลปะ ในวิชชา ในจรณะ และในกรรม และด่วนบอกศิลปะที่ไม่เป็นไปเพื่อจะเบียดเบียนแก่ใครๆ ด้วยความตั้งใจว่า ผู้ศึกษาจะไม่ลำบากนาน ครั้นทำกุศลกรรมมีความสุขเป็นผลนั้นแล้ว ย่อมได้พระชงฆ์ทั้งคู่เป็นที่ชอบใจ มีทรวดทรงดี กลมกล่อม เป็นสุชาต เรียวไปโดยลำดับ มีโลมชาติมีปลายช้อยขึ้นข้างบน มีหนังอันละเอียดหุ้มห่อแล้วบัณฑิตทั้งหลายชมพระมหาบุรุษนั้นว่า พระองค์มีพระชงฆ์ดังว่า แข้งแห่งเนื้อทราย และชมพระลักษณะ คือโลมชาติเส้นหนึ่งๆ อันประกอบด้วยสมบัติที่ใครๆ ปรารถนา รวมเข้าไว้ในที่นี้ พระมหาบุรุษเมื่อยังไม่ทรงผนวช ก็ได้ลักษณะนั้น ในที่นี้เร็วพลัน ถ้าพระมหาบุรุษเช่นนั้นเข้าถึงบรรพชา ทรงยินดียิ่งแล้วด้วยความพอพระทัยในเนกขัมมะ มีพระปรีชาเห็นแจ่มแจ้ง ทรงพระวิริยะยอดเยี่ยม จะทรงได้พระลักษณะเป็นอนุโลมแก่ พระลักษณะที่สมควรเร็วพลัน ฯ
     
  16. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๑๒. . . สุ ขุ ม มั จ ฉ วี . . .

    พ ร ะ ฉ วี ว ร ร ณ ( ผิ ว ) ล ะ เ อี ย ด
    ธุลีละอองมิติดต้องพระวรกายได้
    มลทินใดมาสัมผัสก็เลื่อนหลุดไปดุจน้ำกลิ้งตกจากใบบัว

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงมีพระปรีชามาก
    กว้างขวาง ว่องไว เฉียบแหลม
    ทำลายกิเลส ปัญญาเหนือกว่าสัตว์ทั้งหลาย
    บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ . . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงเข้าหาสมณพราหมณ์
    สอบถามธรรม ตั้งใจฟัง ทำความเข้าใจ
    ไตร่ตรอง เพื่อความเจริญทางปัญญา. . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  17. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน กำเนิดก่อน เป็นผู้เข้าหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วซักถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญกรรมส่วนกุศลเป็นอย่างไร กรรมส่วนอกุศลเป็นอย่างไร กรรมส่วนที่มีโทษเป็นอย่างไร กรรมส่วนที่ไม่มีโทษเป็นอย่างไร กรรมที่ควรเสพเป็นอย่างไร กรรมที่ไม่ควรเสพเป็นอย่างไร กรรมอะไรข้าพเจ้าทำอยู่พึงเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน อนึ่ง กรรมอะไรข้าพเจ้าทำอยู่พึงเป็นไปเพื่อเป็นประโยชน์ เพื่อสุขตลอดกาลนาน ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ มีพระฉวีสุขุมละเอียด เพราะพระฉวีสุขุมและละเอียด ธุลีละอองมิติดพระกายได้ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีปัญญามาก ไม่มีบรรดากามโภคีชนผู้ใดผู้หนึ่งมีปัญญาเสมอ หรือ มีปัญญาประเสริฐกว่าพระองค์ ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ มีพระปรีชามาก มีพระปรีชากว้างขวาง มีพระปรีชาร่าเริง มีพระปรีชาว่องไว มีพระปรีชาเฉียบแหลม มีพระปรีชาทำลายกิเลส ไม่มีบรรดาสรรพสัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งมีปัญญาเสมอ หรือมีปัญญาประเสริฐกว่าพระองค์ พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า

    [๑๔๗] พระมหาบุรุษ เคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อนๆ ประสงค์จะรู้ทั่วถึงเข้าหาบรรพชิต สอบถามตั้งใจฟังด้วยดี มุ่งความเจริญอยู่ภายในไตร่ตรองกถาอันประกอบด้วยอรรถ มาอุบัติเป็นมนุษย์ มีพระฉวีละเอียด เพราะกรรมอันดำเนินไปเพื่อความได้เฉพาะซึ่งปัญญา บัณฑิตผู้ฉลาดในลักษณะและนิมิตทำนายว่า พระราชกุมารเช่นนี้จะทรงหยั่งทราบอรรถอันสุขุมแล้วเห็นอยู่ ถ้าไม่เข้าถึงบรรพชาก็จะยังจักรให้เป็นไป ปกครองแผ่นดิน ในการสั่งสอนสิ่งที่เป็นประโยชน์และในการกำหนด ไม่มีใครประเสริฐหรือเสมอเท่าพระองค์ ถ้าพระราชกุมารเช่นนั้น เข้าถึงบรรพชายินดียิ่งด้วยความพอพระทัยในเนกขัมมะ จะมีพระปรีชาเห็นแจ่มแจ้ง ทรงได้พระปรีชาอันพิเศษ อันยอดเยี่ยมบรรลุพระโพธิญาณ ทรงพระปรีชาอันประเสริฐกว้างขวางดังแผ่นดิน ฯ
     
  18. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๑๓. . . สุ วั ณ ณ ะ วั ณ โ ณ . . .

    พ ร ะ ฉ วี ว ร ร ณ ( ผิ ว ) เ ห ลื อ ง ง า ม ดั ง ท อ ง ค ำ

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงได้เครื่องลาด
    ผ้านุ่งห่มอย่างดี เนื้อละเอียด. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานความไม่โกรธ
    และให้ทานเป็นผ้าเนื้อละเอียด จำนวนมาก. . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  19. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [๑๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อนกำเนิดก่อน เป็นผู้ไม่มีความโกรธ ไม่มีความแค้นใจ แม้ถูกคนหมู่มากว่าเอาก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธ ไม่ปองร้าย ไม่จองผลาญ ไม่ทำความโกรธความเคืองและความเสียใจให้ปรากฏ และเป็นผู้ให้เครื่องลาดมีเนื้อละเอียดอ่อน และให้ผ้าสำหรับนุ่งห่ม คือ ผ้าโขมพัสตร์มีเนื้อละเอียด ผ้าฝ้ายมีเนื้อละเอียด ผ้าไหมมีเนื้อละเอียด ผ้ากัมพลมีเนื้อละเอียด ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ มีวรรณะดังทองคำ มีผิวหนังคล้ายทองคำ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ จะได้เครื่องลาดมีเนื้อละเอียดอ่อน ทั้งได้ผ้าสำหรับนุ่งห่ม คือ ผ้าโขมพัสตร์มีเนื้อละเอียด ผ้าฝ้ายมีเนื้อละเอียด ผ้าไหมมีเนื้อละเอียด ผ้ากัมพลมีเนื้อละเอียด ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ ทรงได้เครื่องลาดมีเนื้อละเอียดอ่อน ทรงได้ผ้าสำหรับนุ่งห่ม คือ ผ้าโขมพัสตร์มีเนื้อละเอียด ผ้าฝ้ายมีเนื้อละเอียด ผ้าไหมมีเนื้อละเอียด ผ้ากัมพลมีเนื้อละเอียด พระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า

    [๑๔๙] พระมหาบุรุษอธิษฐานความเป็นผู้ไม่โกรธไว้ และได้ให้ทานคือผ้าเป็นอันมาก ล้วนแต่มีเนื้อละเอียดและมีสีดี เป็นผู้ดำรงอยู่ในภพก่อนๆ ทรงเสียสละเหมือนฝนตกทั่วแผ่นดิน ครั้นทรงทำกุศลกรรมนั้นแล้ว จุติจากมนุษยโลกเข้าถึงเทวโลก เสวยวิบาก อันเป็นผลกรรมที่ทำไว้ดี มีพระฉวีเปรียบด้วยทอง ดุจพระอินทร์ผู้ประเสริฐกว่าสุรเทวดา ย่อมลบล้นอยู่ในเทวโลก ถ้าเสด็จครองเรือนยังไม่ประสงค์ที่จะทรงผนวช ก็จะทรงปกครองแผ่นดินใหญ่ ทรงได้เฉพาะซึ่งสัตตรตนะ และความเป็นผู้มีพระฉวีสะอาดละเอียดงามลบล้นประชุมชนในโลกนี้ ถ้าเข้าถึงบรรพชา ก็จะทรงได้ซึ่งผ้าสำหรับทรงครอง เป็นผ้าเครื่องนุ่งห่มอย่างดี และเสวยผลกรรมที่เป็นประโยชน์ดีที่ทรงทำไว้ในภพก่อน ความหมดสิ้นแห่งผลกรรมที่พระองค์ทำแล้ว หามีไม่ ฯ
     
  20. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๑๔. . . โ กโ ส หิ ต ะ วั ต ถ ะ คุ โ ย ห ะ . . .

    พ ร ะ คุ ย ห ะ เ ร้ น อ ยู่ ใ น ฝั ก
    องค์กำเนิดเพศชายหดเร้นเข้าข้างใน

    ~ ผ ล ใ น ช า ติ ปั จ จุ บั น นี้ ~

    พระพุทธองค์ทรงมีพระโอรสมาก
    หมายถึง พุทธบุตร สาวก
    ผู้ดำเนินตามพุทธพจน์ จำนวนหลายพัน. . .

    ~ บุ พ พ ก ร ร ม ~

    ในภพชาติก่อน
    พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้นำญาติมิตร
    ที่สูญหาย พลัดพรากไปนาน
    มาพบกัน แล้วทรงมีความชื่นชม. . .

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     

แชร์หน้านี้

Loading...