เสียงธรรม มหาสมัยสูตร...ทำนองสรภัญญะ

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย paang, 10 ธันวาคม 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    เนื้อหาโดยย่อ ตำนานมหาสมัยสูตร

    มหาสมัยสูตรปรากฎความในพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกามหาวรรค ภายหลังการบรรลุอนุตราสัมมาสัมโพธิญาณของพระบรมศาสดา พระองค์ได้เสด็จจาริกไปในสถานที่ต่าง ๆ เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก และเมื่อทราบทราบว่าพระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดาประชวรหนัก จึงเสด็จกลับสู่กรุงกบิลพัสดุ์อีกครั้งเพื่อเยี่ยมอาการพระพุทธบิดา พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกเป็นจำนวนมาก ทรงถวายพยาบาลพระพุทธบิดาตามพุทธวิสัย และโปรดให้พระพุทธบิดาได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ในกาลต่อมาพระพุทธบิดาก็ปรินิพพานบนพระแท่นบรรทมภายใต้เศวตฉัตรนั้งเอง ภายหลังถวายพระเพลิงพระศพพระพุทธบิดา พระพุทธองค์ตรัสว่า "บุคคลใดมีจิตปรารถนาพระโพธิญาณ จงอุตสาหะภิบาลบำรุงบิดามารดา ประพฤติกุศลสุจริตธรรม จักสมปรารถนาทุกประการ"


    รุ่งขึ้นอีกวัน ขณะทีพระองค์ประทับอยู่ที่นิโครธาราม กรุงกบิลพันดุ์ เหล่าพระญาติข้างฝ่ายศากยะ และ โกลิยะที่ตั้งหลักแหล่งอยู่สองฝั่งแม่น้ำโรหิณีได้วิวาทกันเรื่องแย้งน้ำทำนา กษัตริย์ทั้งสองจึงยกกองทัพออกไปจะทำสงครามกัน เพราะไม่สามารถตกลงกันได้ พระพุทธองค์ทรงทราบเหตุการณ์นั้นด้วยพระญาณ ทรงถือบาตรและจีวรด้วยพระองค์เอง ไม่ทรงแจ้งให้ใคร ๆ ทราบ เสด็จพุทธดำเนินแต่เพียงพระองค์เดียว ไปประทับนั่งขัดบัลลังก์ระหว่างกองทัพกษัตริย์ทั้งสองนคร


    ครั้นกองทัพชาวเมืองกบิลพัสดุ์และชาวเมืองโกลิยะเห็นพระองค์นั้น ต่างก็คิดว่าพระศาสดาผู้เป็นพระญาติ ผู้ประเสริฐของพวกเราเสด็จมา จึงทิ้งอาวุธเขาไปเฝ้าพระพุทธองค์ทั้งที่พระองค์ทรงทราบสถานการณ์ขณะนั้นดีแต่ก็ตรัสถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วตรัสสอนว่า มหาบพิตร พวกพระองค์อาศัยน้ำที่มีค่าน้อยแล้วทำให้กษัตริย์ซึ่งหาค่ามิได้ให้ฉิบหายทำไมกัน


    ครั้นแล้ว พระพุทธองค์ได้ตรัส ผันทนชาดก ทุททุภายชาดก และลฏุกิกชาดก เพื่อระงับการวิวาทของพระญาติทั้งสองฝ่าย และตรัสรุกขธรรมชาดก และวัฏฏชาดก เพื่อให้เกิดความสามัคคีพร้อมเพรียงกันว่า "หมู่ญาติยิ่งมากยิ่งดี ต้นไม้ที่เกิดในป่าแม้จะโตเป็นเจ้าป่า ถ้าตั้งอยู่โดดเดี่ยวย่อมถูกแรงลมพัดโค่นลงได้ และว่านกทั้งหลายมีความสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ย่อมพาตาข่ายไปได"้ และในที่สุดก็ตรัส อัตตทัณฑสูตร


    กษัตริย์เหล่านั้นได้สดับพระธรรมเทศนาแล้ว เกิดความสังเวชพากันทิ้งอาวุธกล่าวว่า หากพระบรมศาสดา ไม่เสด็จมา พวกเราก็จะฆ่าฟันซึ่งกันและกันเลือดไหลนองเป็นสายน้ำ ไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเห็นหน้าลูกเมียญาติพี่น้อง กษัตริย์ทั้งสองพระนครจึงถวายพระราชกุมาร 500 องค์ คือ ฝ่ายละ 250 องค์ ให้บรรพชา อุปสมบทกับพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา


    อรรถกถามหาสมัยสูตร เล่าถึงเหตุการณ์ที่ภิกษุราชกุมารเหล่านั้นบรรลุธรรมไว้ว่า เมื่อพระพุทธองค์นำภิกษุราชกุมารเหล่านั้นมาสู่ป่ามหาวัน ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่ภิกษูปูถวาย ในโอกาสทีสงัด ตรัสบอก กัมมัฏฐานแก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับกัมมัฏฐานแล้ว ต่างแยกย้ายกันไปเจริญวิปัสสนาตามเงื้อมผา และโคนไม้ในโอกาสที่เงียบสงัด และก็ทยอยบรรลุพระอรหัตแล้ว ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า จนครบทั้ง 500 รูป


    อรรถถาได้อธิบายความคิดของพระที่ได้บรรลุพระอรหันต์ไว้ว่า พระผู้บรรลุพระอรหัตสิ้นกิเลสอาสวะทั้งหลายแล้ว ย่อมมีความคิดอยู่ 2 อย่างคือ


    1. มีความคิดว่า คนทุกคนตลอดจนเทวดาทั้งหลาย ก็สามารถที่จะบรรลุธรรมตามที่เราบรรลุได้เช่นเดียวกัน


    2. พระที่บรรลุธรรมไม่ประสงค์จะบอกคุณธรรมที่ตนได้บรรลุแก่ผู้อื่น เหมือนคนที่ฝังขุมทรัพย์ไว้ไม่ต้องการให้ใครรู้ที่ฝังขุมทรัพย์ของตน


    เมื่อเทวดาทั้งหลายทราบว่า พระบรมศาสดาประทับอยู่ที่ป่ามหาวันใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ พร้อมด้วยภิกษุ 500 รูป ล้วนเป็นพระอรหัตบวชจากราชตระกูล ต่างก็กล่าวว่า นี้เป็นสมัยแห่งการประชุมใหญ่ในป่ามหาวัน พวกเราจักไปชมความงดงามของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกผู้หมดจด ต่างก็แต่งคาถากล่าวสรรเสริญ พระพุทธเจ้าและเหล่าสาวก เทวดาที่มาประชุมกันใวนนั้นมีจำนวนมากมาย ภิกษุบางรูปก็เห็นเทวดาร้อยหนึ่ง บางรูปก็เห็นพันหนึ่ง บางรูปก็เห็นหมื่นหนึ่ง บางรูปก็เห็นแสนหนึ่ง บางรูปก็เห็นไม่มีที่สิ้นสุด แตกต่างกันไปตามกำลังญาณของแต่ละองค์


    ในยุคของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีการประชุมเทวดาจำนวนมากเช่นนี้ก็เพียงครั้งเดียว พระพุทธองค์ ได้ตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า เทวดาในแสนจักรวาลมาประชุมกันเพื่อชมตถาคตและหมู่ภิกษุสงฆ์ เทวดาประมาณเท่านี้แหละได้เคยประชุมกันเพื่อชมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาลแล้ว และพวกเทวดาประมาณเท่านั้นแหละจักประชุมกันเพื่อชมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล แล้วพระองค์ก็ทรงแนะนำเทวดาแต่ละจำพวกให้ภิกษุทั้งหลายฟังตามลำดับ ตั้งแต่กุมมเทวดาไปจนถึงพรหมโลก


    ขณะที่เทวดาจากหมื่นจักรวาลมาประชุมกันจนครบนั้น ท้องฟ้าโปร่งใส่ไม่มีเมฆหมอก ก็กลับเกิดเมฆฝนคำรณคำรามกึกก้องฟ้าแลบแปล๊บพราย พระพุทธองค์ทรงพิจารณาทราบว่า หมู่มารก็ได้มาด้วย จึงทรงแนะนำให้ภิกษุรู้จักพญามารเอาไว้


    พญามารกำลังสั่งบังคับเสนามารให้ผูกเหล่าเทวดาไว้ในอำนาจแห่งกามราคะ แต่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไม่ให้เหล่าเทวดาเห็น พญามารไม่ได้ดั่งใจจึงทำให้เกิดฟ้าร้องกึกก้องกัมปนาทไปทั่ว


    โดยปกติในที่จะไม่มีการบรรลุมรรคผล พระพุทธองค์จะไม่ทรงห้ามมารแสดงสิ่งอันน่ากลัวของมาร แต่ในที่จะมีการบรรลุมรรคผล พระองค์จะทรงอธิษฐานไม่ให้ใครรู้เห็นสิ่งที่พญามารกำลังทำ เนื่องจากการประชุม ใหญ่ของเทวดาครั้งนั้น จะมีเทพบรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก พระพุทธองค์จึงทรงอธิษฐานไม่ให้พวกเทวดา รับรู้สิ่งอันน่ากลัวของหมู่มารนั้น พญามารนั้นจึงกลับไปด้วยความเดือดดาลฯ


    สวดเมื่อไร ? สวดแล้วได้อะไร ?

    มหาสมัยสูตร เป็นสูตรว่าด้วยสมัยเป้นที่ประชุมใหญ่ของเหล่าเทพ ในยุคของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีการประชุมใหญ่ของเหล่าเทวดาทั้งหลายเช่นนี้เพียงครั้งเดียว เทวดาทั้งหลายจึงพากันคิดว่าพวกเราจะฟังพระสูตรนี้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงมหาสมัยสูตรจบ เทวดาจำนวนหนึ่งแสนโกฎิได้บรรลุพระอรหันตฺ


    พระสูตรนี้จึงเป็นที่รักที่ชอบใจของพวกเทวดา เทวดาทั้งหลายต่างก็คิดว่าพระสูตรของตน เมื่อสวดพระสูตรนี้จะทำให้เหล่เทวดาทั้งหลายประชุมกัน เมื่อเทวดาประชุมกันก็จะทำให้สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายถอยห่างออกไป เป็นการป้องกันสิ่งที่ไม่ดีไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเรานั้นเอง


    พระอรรถกถาจารย์จึงแนะนำว่า "มหาสมัยสูตรนี้ เป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดา ในสถานที่ใหม่เอี่ยม เมื่อจะกล่าวมงคลกถา ควรสวดพระสูตรนี้" หมายความว่าในสถานที่สำคัญที่จะประกอบกิจใหม่ หรือในสถานใดที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ เมื่อจะสวดมงคลกถาในสถานที่เช่นนี้ควรสวดมหาสมัยสูตรนี้


    เนื่องจากมหาสมัยสูตรเป็นสูตรใหญ่ จึงไม่นิยมใช้สวดในงานทำบุญทั่ว ๆ ไป แต่จะนิยมนำไปสวดเฉพาะในพิธีที่เกี่ยวข้องกับความอยู่เย็นเป็นสุขของทางบ้านเมืองเป็นหลัก นอกนั้นแล้ว การเจริญพระพุทธมนต์ยังเป็นรูปแบบของการเจริญสมาธิภาวนาอย่างหนึ่ง แต่แทนที่จะใช้วิธีนั่งบริกรรมให้จิตเกาะเกี่ยวอยู่กับคำใดคำหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพื่อเป็นสื่อให้เข้าถึงความสงบ ก็ใช้วิธีจิตเกาะเกี่ยวไปกับอักขระเป็นเกาะแสเช่นนี้ ไม่ปล่อยให้ความรัก โลภ โกรธ หลง กามราคะ อาฆาตพยาบาท ได้โอกาสแทรกเข้ามาครอบงำจิต ทำให้จิตมีความผ่องใส เป็นจิตมีพลังในการต้านทานกิเลสที่จะเข้ามามีอำนาจเหนือสติปัญญา จิตเช่นนี้เป็นจิตสงบ คือสงบจากกามราคะ อาฆาตพยาบาท หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน รำคาณ เบื่อหน่าย จึงชื่อว่า "จิตเป็นสมาธิ"


    จากหนังสือ "มหาสมัยสูตร" บทสวดมนต์เพื่อความร่มเย็นแห่งแผ่นดิน และเพื่อสันติภาพโลก


    รวบรวมโดย พระมหาเหลา ประชาษฎร์
    ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลที่มาhttp://www.dhammathai.org/indexthai.php



    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="100%" bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>


    </TD><TD>คำนำ</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD width=80>


    </TD><TD>ประวัติ มหาสมัยสูตร</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>


    </TD><TD>บทสวด ปุพพภาคนมสการ (นะโม ...) </TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD width=80>


    </TD><TD>มหาสมัยสูตร</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>


    </TD><TD>Track 5</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD width=80>


    </TD><TD>Track 6</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>


    </TD><TD>Track 7</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD width=80>


    </TD><TD>Track 8</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>


    </TD><TD>Track 9</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD width=80>
    ๑๐


    </TD><TD>Track 10</TD><TD width=90>

    </TD></TR><TR bgColor=#ffffee><TD width=80>
    ๑๑


    </TD><TD>Track 11</TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.wma
      ขนาดไฟล์:
      336.9 KB
      เปิดดู:
      12,751
    • 02.wma
      ขนาดไฟล์:
      5.9 MB
      เปิดดู:
      10,103
    • 04.wma
      ขนาดไฟล์:
      581.3 KB
      เปิดดู:
      7,463
    • 05.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      6,228
    • 06.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      5,371
    • 07.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      5,061
    • 08.wma
      ขนาดไฟล์:
      773.7 KB
      เปิดดู:
      4,387
    • 09.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      4,952
    • 10.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      4,712
    • 11.wma
      ขนาดไฟล์:
      230.4 KB
      เปิดดู:
      3,988
  2. amadi

    amadi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,583
    พี่ครับ Track 3 หายไปน่ะครับ

    ขอขอบคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตครับ
     
  3. ป๊อป อาริ๊

    ป๊อป อาริ๊ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ เป็นมงคลยิ่งครับ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
     
  5. pakin1720

    pakin1720 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +0
    [​IMG]
    โอม นะมัช ศิวายะ นะมะฮา
     
  6. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    อนุโมทนาค่ะ
     
  7. Sudjai99

    Sudjai99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +399
    อนุโมทนาค่ะ
     
  8. อรวี จุฑากรณ์

    อรวี จุฑากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +188
    อนุ โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    เกี่ยวอะไรกับพระศิวะเหรอครับ ??? งง

    สาธุกับเจ้าของกระทู้ครับ งงกับคุณpakin1720
     
  10. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    อนุโมทนาสาธูการค่ะ
     
  11. zetsubo

    zetsubo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +751
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  12. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    อนุโมทนาครับ

    แล้วอย่างนี้เราจะสวดหรือเปิดบทสวดนี้ฟังจะได้ไหมครับเนีย

    รู้สึกหวั่นๆอย่างงัยไม่รู้ครับ สงสัยบุญจะไม่ถึง เหมือนว่าเป็นบทสวดที่มิควรนำมาสวดเหมือนบทสวดทั่วไป

    แม้จะเปิดบทสวดฟังก็ยังไม่ควรเลย ผมคิดมากไปหรือป่าวครับคุณแป้ง ช่วยแนะนำด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2010
  13. kanyaratsrimane

    kanyaratsrimane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +570
    อนุโมทนาด้วยค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. สังวรคุณ

    สังวรคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +766
    "เนื่องจากมหาสมัยสูตรเป็นสูตรใหญ่ เมื่อสวดแล้วเทพเทวาจะมาประชุมกันฟังเป็นจำนวนมาก เพราะต่างก็ปรารภว่า "พระสูตรนี้เป็นของเรา"
    เพราะฉะนั้นถ้าจะสวดพระสูตรนี้ ต้องจัดสถานที่ให้เหมาะสม ถ้านิมนต์พระมาสวดเช่น สวดมนต์ขึ้นบ้านใหม่ จะต้องจัดปรำพิธีที่พระสงฆ์นั่งสวดให้ดีเป็นกรณีย์พิเศษ มีผ้าขาวขึงกั้นเป็นเพดานเหนือที่พระสงฆ์นั่งสวดด้วย ส่วนการจะสวดเองในบ้าน เช่นในห้องพระต้องจัดสถานที่ให้ดูเรียบร้อยเหมาะสม มีอาสนะสำหรับรองนั่้งในการสวดด้วย ส่วนมากนิยมใช้ผ้าขาวเป็นอาสนะรองนัี่่ง เมื่อสวดก็สวดด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างแท้จริง ก็มีแต่ความเป็นมงคล ที่ว่าห้ามไม่ให้สวดในบ้านนั้นไม่เสมอไป เพราะบางบ้านสถานที่ก็เหมาะสม บางบ้านก็สถานที่ไม่พร้อม แต่ถ้ามีศรัทธาที่จะสวดด้วยความเคารพเลื่อมใสด้วยน้ำใสใจจริง เพื่อความเป็นสิริมงคลก็จัดสถานที่เท่าที่มีให้ดูเรียบร้อยเหมาะสมเถิด สิริมงคลย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ที่มีศรัทธาเป็นที่แน่นอน
    หมายเหตุ ฟังต่อๆกันมาจากครูบาอาจารย์เหมือนกันนะครับ พิจารณาหาเหตุหาผลตามแต่จะเห็นสมควรนะครับ ส่วนผมมีความสุขมากที่ได้สวดมนต์บทนี้ เพราะรักและเลื่อมใสเป็นที่สุด ด้วยใจรักนี้เองผมจะตื่นแต่เช้ามาสวดทุกวัน จนจำได้หมด สามารถสวดปากเปล่าได้
    อานิสงส์ที่จะพึ่งมีจากการสาธยาย พระมหาสมัยสูตรด้วยใจที่เคารพของผม ขอแผ่ให้แก่สรรพสัตวัทั้งหลาย เพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ทั้งสิบหกห้องชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน เบื้องล่างต่ำสุด ตั้งแต่โลกันตรมหานรก อเวจีมหานรก ขึ้นมาจนถึงโลกมนุษย์ โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล ผู้ที่มีทุกข์อยู่ขอให้พ้นจากความทุกข์ ผู้ที่มีความสุขขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ผู้ปฏิบัติธรรมไกล้บรรลุมรรคผล ขอให้บรรลุมรรคผลโดยฉับพลันเถิด

     
  15. mephisto

    mephisto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +65
    ไม่เห็นด้วยเลยที่ว่ามีบทสวดใดห้ามนำมาสวดที่บ้าน หรือที่ใหนๆ
    เพราะเป็นบทสวดที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้า หากศรัทธาจะสวดก็ต้องเป็นกุศล

    ที่ว่าเทวดาจะมากันมาก แล้วบ้านมันแคบไป ยิ่งเลอะเลือน
    เทวดาสามารถเนรมิตกายแทรกในเม็ดทรายได้ แล้วมันจะคับแคบไปหรือ
     
  16. Nattawee_nat

    Nattawee_nat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +79
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  17. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. แซ่จู

    แซ่จู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +6
    ผู้ที่สวดบทมหาสมัยสูตรได้มีบุญมากนะค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. Pandhaka

    Pandhaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +458
    ขอบคุณครับ และขออนุโมทนาครับ
     
  20. zxz500

    zxz500 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +52
    กระผม ยังใหม่ต่อบทสวดทั้งหลายทั้งปวง แต่ก็ขออนุโมทนาสาธุ ครับ ขอโหลดไว้ฟังด้วยครับ ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...