มหาเวสสันดร ๑๓ กัณฑ์ อย่างละเอียด

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 3 เมษายน 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    เมื่อพระเจ้ากรุงสญชัยได้ทรงสดับคำทูลถามดังนี้ จึงรีบตรัสตอบว่าชาลีและกัณหาทั้งสองนั้น บิดาได้สละทรัพย์ถ่ายจากพราหมณ์ไว้แล้ว ขอพระลูกแก้วอย่าเป็นทุกข์ถึงชาลีกัณหาเลย ฝ่ายพระมหาสัตว์เจ้าครั้นได้ทรงสดับข่าวของพระเจ้าลูกทั้งสองแล้ว ก็ทรงปลื้มพระหฤทัยว่าสมกับพระพรชัยที่ท้าวสหัสสนัยน์เทวราชได้ทรงประสิทธิ์ประสาทให้นั้น จึงกลับทูลสนองพระดำรัสของพระราชบิดาว่า ข้าแต่พระราชบิดาเจ้า พระองค์ยังทรงเป็นสุขสบายอยู่หรือ ไม่มีพระโรคภัยมากล้ำกรายพระองค์แลหรือ พระเนตรทั้งสองของพระราชมารดาเจ้าก็ยังเป็นปกติอยู่หรือ

    จึงตรัสตอบว่า ลูกเอ๋ย บิดายังเป็นสุขสบายอยู่ จักษุมารดาของเจ้าก็ยังเป็นปกติอยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศ ยวดยานพาหนะของหลวงก็ยังเป็นปกติอยู่หรือ ประชาชนทั้งปวงก็เป็นสุขสบายอยู่หรือ ทั้งฝนก็ยังตกต้องตามฤดูกาลอยู่หรือพระพุทธเจ้าข้า จึงตรัสตอบว่า ลูกเอ๋ย ยวดยานพาหนะของหลวงก็ยังเป็นปกติอยู่ ประชาชนทั้งปวงก็ยังเป็นสุขสบายอยู่ ทั้งฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาลอยู่ เป็นอันว่าในประเทศบ้านเมืองของเรายังมีความสุขเป็นปกติเหมือนแต่ก่อนมา

    อิจฺเจว มนฺตยนฺตานํ มาตา เนสํ อทิสฺสถ

    เมื่อกษัตริย์ทั้งสาม คือสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยขัตติยาธิเบศร์กับพระเวสสันดรราชฤาษี และนางมัทรีเกศกษัตริย์ ทรงนั่งสนทนากันอยู่ด้วยประการนี้ ฝ่ายสมเด็จพระนางผุสดีผู้เป็นพระราชชนนีก็ทรงกำหนดเห็นว่า เวลานี้กษัตริย์ทั้งสามคงสร่างความเศร้าโศกโสกีแล้ว พระนางเธอจึงเสด็จแคล้วคลาดจากที่ประทับ พร้อมด้วยสนมกำนันในเป็นอันมาก พอเสด็จไปถึงปากประตูเขาวงกตใกล้อาศรมบทศาลาของพระราชโอรส พระนางเธอก็ถอดฉลองพระบาทออก ทรงพระดำเนินไปด้วยพระบาทเปล่าจนเสด็จเข้าไปถึงที่ใกล้อาศรม เมื่อพระราชโอรสและพระนางมัทรีได้ทอดพระเนตรเห็นพระราชชนนีผู้มีพระหฤทัยจดจ่ออยู่ในพระราชโอรสเสด็จมาดังนั้น ก็พร้อมกันลุกขึ้นไปต้อนรับถวายอภิวาท ส่วนพระนางมัทรีราชกัลยาก็หมอบลงแทบบาทของพระสัสสุธิราชแล้วกราบทูลว่า

    ข้าแต่พระราชมารดาเจ้า เกล้ากระหม่อมฉันมัทรีเป็นศรีสะใภ้ของพระองค์ขอถวายบังคมซึ่งพระบาทยุคคทั้งคู่ด้วยเศียรเกล้าในบัดนี้ ฯ ในขณะนั้นพระกัณหาชาลีภาคิไนยนัดดานาฏก็แวดล้อมด้วยอเนกกุมารราชบริพาร เสด็จขึ้นอาศรมสถานทิพยนิเวศน์ ฯ ส่วนพระมัทรีได้ทอดพระเนตรเห็นพระเจ้าลูกทั้งสององค์ มิอาจที่จะดำรงพระสรีระกายให้ระส่ำระสายเสียวสั่นหวั่น ๆ พระทรวง ทรงพระกรรแสงเสด็จแล่นจนสุดแรงไม่รอรั้ง วจฺฉา พาลาว มาตรํ เหมือนหนึ่งแม่โคนมอันนิราศบุตร ครั้นเห็นลูกแก้วก็สุดกำสรดเทเวศ สมเด็จพระอัครเรศราชมารดามีพระสรีระกายนี้กัมปนาท ดุจแม่มดอันปีศาจเข้าสู่สิง ส่วนสองกุมารก็วางวิ่งเข้ากอดพระชนนี สามกษัตริย์ก็ทรงโสกีรำพันพิลาปจนวิสัญญีภาพสลบลง ดูนี่ก็น่าพิศวงสังเวช ขีรธารา อันว่ากระแสวาเรศขีโรทก ก็ไหลออกจากพระเต้าเข้าในคลองพระโอษฐ์ของสองกุมาร ผิว่าพระชาลีกัณหามิได้เสวยขีรวารีรส พระหฤทัยก็ระทวยทดหดเหือดแห้งหาย นสฺสึสุ ก็จะวอดวายวางพระชนม์ชีวิต

    ส่วนสมเด็จบรมบพิตรพระเวสสันดร เมื่อได้ทรงทอดพระเนตรสองบังอรอัครปิโยรส ก็ทรงพระกำสรดสิ้นสมปฤดี องค์สมเด็จพระอัยกีก็ทรงพระกรรแสงสุดแสนพิลาปจนถึงวิสัญญีภาพทั้งหกพระองค์ บรรดาพวกพหลพลจตุรงคราชมนตรีทั้งแสนสาวสนมนารีนิกรกำนัน ต่างก็ชวนกันโศกศัลย์แล้วสลบซบเศียรสังเวชตั้งสิ้นบริเวณจังหวัดสักกทัตติเยสขัตติยาศรม เปรียบประหนึ่งว่ากำลังลมยุคันธวาอันพัดสาลวันให้ล้มลงเนรนาดเป็นอัศจรรย์

    ขณะนั้นก็บังเกิดโกลาหลทั่วทั้งสากลกำเริบรอบสะท้านสะเทือนถึงขอบเขตจักรวาล แผ่นพื้นพสุธานี้ก็กัมปนาทตลอดถึงพิลาพสุธาวาสอันสูงสุด สาคโร ทั้งพระมหาสมุทรสาครก็ตีฟองนองระลอกคลื่นกระทบกระทั่งฝั่งกระฉอกอยู่ฉาดฉาน สิเนรุปพฺพตราชา ทั้งขุนเขาป่าหิมพานต์สัตตภัณฑ์สิเนรุราชก็น้อมยอดอย่างจะอภิวาทพระบารมี สกฺโก เทวราชา

    ส่วนสมเด็จท้าววชิรปาณีมงกุฎเทเวศร์ทรงพระอาวัชนาการก็ทราบเหตุอัศจรรย์ จึงทรงบันดาลห่าฝนโบกขรวัสสันตรสิกธาราให้ตกลงมาในที่ประชุมแห่งขัตติยวงศา ทั้งหกกษัตริย์ก็ค่อยบรรเทาทุกข์โทมนัสชุ่มชื่น ต่างก็ได้สติฟื้นคืนสมปฤดีพ้นจากวิสัญญีนั้นแล ภิกขฺเว ดูก่อนสงฆ์ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เมื่ออัศจรรย์บันดาลบังเกิดจลาจลทั่วสากลโลกธาตุ ทั้งห่าฝนโบกขรพิรุณสาทตกลงประพรม ในตำแหน่งขัตติยาสมควรจะปรีดา ทุกหมู่หมวดมุขมาตยาทิชาชาติเสนาพฤฒามาตย์ราชกวี อีกทั้งพระสนมนารีนิกรอนงค์ทั้งปวงพหลพลจตุรงค์ประชากร ก็บังเกิดโลมชาติสยดสยองแสยงพระเดช ต่างก็พากันน้อมเกศกราบบังคมทูลว่า

    ข้าแต่พระนเรนทรสูริย์สมมติเทวราช จงทรงพระกรุณาโปรดอดโทษที่ประมาทแต่หลังมา ขอเชิญเสด็จละอองธุลีลาผนวชไพร ทรงขัตติยวิสัยศวรเยศคืนพระนครอันวิเศษด้วยสิริสมบัติ สืบเสวยศวรยาธิปัตถวัลยวงศ์ เป็นมิ่งมงกุฎดำรงสกลอาณาจักร จะได้เป็นที่พึ่งพำนักสัตว์นิกร ให้บรรเทาทุกข์เดือดร้อนระงับภัย ดุจมหาเศวตฉัตรชัยอันกางกั้น ให้ร่มเย็นทั่วไปทุกอเนกอนันต์นิกรประชาชน จงทรงพระกรุณาโปรดรับนิมนต์ข้าพระบาทฝูงเสนาพฤฒามาตย์ราชประชา อันกราบทูลอาราธนานี้เถิด

    สมาคตานํ ญาตีนํ เพราะเหตุการณ์ดังนี้ สมเด็จพระชินศรีศาสดาจึงโปรดประทานเทศนาไว้ว่า เมื่อพระญาติทั้งหลายได้มาประชุมพร้อมกันแล้ว ก็เกิดเสียงบันลือกึกก้องขึ้น ภูเขาทั้งหลายก็สั่นสะท้าน พื้นแผ่นพสุธาก็ไหวสะเทือน ฝนโบกขรพรรษอันมีลักษณะเหมือนกับน้ำในใบบัวก็ตกลงมาทันที เมื่อพระเวสสันดรราชฤาษี พระเจ้ากรุงสีพี พระนางผุสดี พระนางมัทรี พระชาลีและกัณหาประชุมกันพร้อม ประชาชนทั้งปวงก็พร้อมกันประณมกรอัญชลี เฉพาะต่อหน้าพระชินศรีและพระนางมัทรี กราบทูลอันเชิญว่า ขอพระองค์ทั้งสองจงเป็นพระราชาธิบดีแห่งข้าพระองค์ทั้งหลายในบัดนี้เถิด สิ้นเรื่องราวพระเวสสันดรในตอนที่ ๑๒ ซึ่งเรียกว่ากัณฑ์ฉกษัตริย์เพียงเท่านี้




    เอวํ ก็มี ด้วยประการฉะนี้ ฯ
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ๑๓.กัณฑ์นคร


    ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อิมํ คาถมาห ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺตํ รฏฺฐา ปพฺพาชยิตฺถ มํ ตวญฺจ ชานปทา เจว เนคมา จ สมาคตาติ

    ณ บัดนี้ อาตมภาพจักแสดงเรื่องพระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์ขัตติยราชในคัมภีร์ขุททกนิกาย มหานิบาตชาดก กัณฑ์ที่ ๒๕๐ ตอนที่ ๑๓ ซึ่งเรียกว่านครกัณฑ์ สืบต่อไป เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สดับเรื่องพระเวสสันดรเจ้า ในคราวเสด็จกลับคืนเข้าครอบครองซึ่งราชสมบัติในกรุงเชตุดรนั้น โดยวิธีประพันธ์ให้เสนาะโสตแปลกจากกัณฑ์ที่แล้วมาทั้งหมดข้างต้น คือกัณฑ์ต้น ๆ ทั้งหมดตามที่แสดงมาแล้วนั้น ได้แสดงโดยธรรมวัตร คือถ้อยคำธรรมดา

    ส่วนในกัณฑ์นี้จะได้แสดงโดยมีระเบียบประพันธ์ คือให้มีสัมผัสกันเป็นระเบียบ เพื่อแก้ความเบื่อหูที่ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สดับฟังคำธรรมดามาแล้วนั้น ส่วนทำนองจักแสดงตามทำนองธรรมวัตรเพื่อจักให้เรื่องชัดเจนขึ้น ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายฟังง่ายขึ้น โดยเหตุนี้ ขอให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจงตั้งใจฟังเรื่องพระเวสสันดรตอนสุดท้าย อันแสดงเป็นคำประพันธ์เศกสรรค์เป็นร่าย ดังจะแสดงต่อไปนี้

    ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ปิตรา สทฺธึ สลลฺปนฺโต ครั้นสมเด็จพระมหาสัตว์ขัตติยาธิเบศร์เวสสันดร เมื่อได้ทรงฟังฝูงชนมาทูลวิงวอนอาราธนาจะให้ลาบวชเนาว์ในสมบัติ จึงกราบทูลแด่พระเกศกษัตริย์ชัยชนกาธิราชว่า เมื่อข้าพระบาทดำรงรัตนราชัยมไหศวรรย์โดยทศพิธราชธรรมประเพณี ดังฤาพระร่มเกล้าชาวนิคมสีพีชนบทประชุมชวนกันพร้อมหมดมาเนรเทศ ให้พระลูกจากนัคเรศมาแรมไพร บัดนี้จักให้มาอาราธนาคืนเวียงชัยเสวยสิริราชสมบัติ ดูก็ไม่ควรแก่เหตุที่เคืองขัดในภายหลัง

    เมื่อท้าวเธอได้ทรงฟังจึงตรัสปลอบประโลมพระโยรส เพื่อจะให้อดโทษโปรดประกาศว่า ดูก่อนพ่อผู้อัครชาติเฉลิมวงศ์ พระบิดานี้มาลุ่มหลงเชื่อคำชาวพระนคร จึ่งมาขับพระหน่อนเรศราชอุทรผู้เนียรโทษ กระทำให้เสื่อมสูญเสียประโยชน์วุฒิอันตราย ก็เป็นกรรมอันทารุณกำเริบร้ายวิปริตผิดอยู่แล้ว อนึ่งธรรมดาว่าลูกแก้วเกิดกับอก ยกย่องอภิชาติเช่นปิโยรสย่อมจะเสียสละชมชีพทดแทนสนองคุณพระชนกชนนี โดยกิจกตัญญูกตเวทีทางธรรมวิเศษ จะพึงบำบัดเสียซึ่งทุกขเทเวศของพระบิดามาตุราชทั้งพระวงศาคณาญาติราชประยูร เหตุฉะนั้นพ่อจงดับอาดูรดวงกมลพิโรธ จงอดโทสานุโทษแก่พระบิดา ทั้งแสนเสนาประชาชาววิชัยเชต เชิญพ่อเปลื้องเครื่องดาบสเพศผนวชไพร จงทรงซึ่งขัตติยวิสัยเสวยศวรรยาธิปัตย์ เป็นปิ่นสีพีบุรีรัตนพารา ตามคำของพระราชบิดานี้เถิด

    โพธิสตฺโต สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ศรีวิสุทธิเทพวงศ์ มีพระกมลจำนงจะครองสิริสมบัติ จึงขอพรแด่สมเด็จวชิรหัตถ์เทเวศร์ ข้อที่ทูลทัดขัดพระบิตุเรศราชนรินทร์ ด้วยเกรงประชาชนจะชวนกันดูหมิ่นว่าพระทัยเบาไม่หนักหน่วงจะล่วงเข้ามายินร้าย จึงทูลสนองขัตติยราโชบาย ดังนี้ เมื่อสมเด็จพระจอมพิภพสีพีตรัสอาราธนาถึงทุติยวาร ก็รับพระราชโองการว่าสาธุแล้วมิช้า

    ขณะนั้นหมู่ภิมุขมาตย์สหชาติทั้งหกหมื่น รู้ว่าท้าวเธอรับอาราธนาจะลาผนวชคืนเข้านคเรศ ต่างคนก็ชวนกันน้อมเกศกราบบังคมทูลว่า ข้าแต่นเรนทรสูรสมมติวงศ์ กาลนี้ก็ควรจะเสด็จโสรจสรงทรงสุคนธวารินชำระพระสรีรมลทินในสกลกาย ท้าวเธอจึงตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงยับยั้งหน่อยหนึ่งก่อน แล้วเสด็จบทจรเข้าสู่พระอาศรมสถาน

    จึงเปลื้องเครื่องดาบสบริขารเลียงลำดับไว้ ทรงเศวตวิภูษิตผ่องใสดังสังข์บริสุทธิ์สะอาด แล้วเสด็จยูรยาตร์ยังหน้ามุขบรรณศาลา จึงทรงพระจินตนาในพระทัยว่า โอ้พระอาศรมบทนี้เอ๋ย เป็นที่อาตมะเคยสืบสร้างศีลบารมีนับได้เก้าเดือนกับสิบห้าราตรีเป็นกำหนด ได้ทรงประพฤติพรหมพรตพิธีฌานบำเพ็ญมหามงคลมกุฏทานอันยอดยาก เสียสละภริยาบุตรบริจาคเป็นมหัศจรรย์ พื้นพสุธานี้ก็มาบันลือลั่นทั่วสากลโลก นับแต่วันจะวิโยคไปจำไกล ทรงพระอาลัยในบรรณศาลามิใคร่จะนิราศ แล้วกระทำปทักษิณพระอาวาสสิ้นตติยวาร ถวายทสนขสโมธานด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วเสด็จสถิตยังหน้ามุขพระอาศรม ทรงพระปรีดาภิรมย์ราชหฤทัยด้วยสมดังพรสหัสนัยน์ที่ประทาน นั้นแล
    +
    ลำดับนั้น หมู่ภิมุขมาตย์ราชมนตรี ทั้งแสนสุริยเสนีในนอกตำแหน่ง ก็เร่งรัดจัดแจงตามกระทรวง สำหรับพระราชพิธีทั้งปวงทุกประการ ชาวพนักงานเครื่องต้นก็ถวายเจริญพระเกศามัสสุมงคลควรแก่ราชกิจ แล้วเชิญบรมบพิตรสรงสนานวารีอันปรุงด้วยสุคนธารกลิ่นตระหลบ ชำระพระสรีราพยพฟุ้งขจรแล้วทรงเครื่องสิริราชวัตถาภรณ์วิจิตรจำรัส อันล้วนแล้วด้วยสัตตรัตนามาศงามดังองค์สมเด็จวัชรินทรเทวราชอันเรืองเดช

    จึงสมเด็จบรมปิตุเรศราชนริทรก็อัญเชิญพระเอกอัครบดินทรอดุลโอรส อันรุ่งเรืองด้วยดิเรกยศราชสิงคาร เสด็จขึ้นสู่อุทุมพรสาขพิมานอันเลิศแล้ว สถิตย์เหนือพระที่นั่งบัลลังก์แก้วกาญจนมณี เบื้องบนรัตนราศีอันโอภาส ประดับด้วยเบญจพิธราชกกุธภัณฑ์สรรพราชูปโภคพร้อมเสร็จ จึงอภิเษกสมเด็จพระหน่อนเรศเป็นบรมขัตติเยศยอดมนุษยนิกรฝ่ายพิชัยเชตุดรดำรงราชย์ แทนองค์สมเด็จบดินทรชนกนาถในเศวตฉัตร สืบเสวยศวรรยาธิปัตย์ปิ่นประชาชนทั่วสากลพิภพสีพี

    แล้วถวายมุรธาภิสิตวารีแด่บรมกษัตริย์ สรงด้วยสังข์ทักษิณาวัตรวิชัยมงคลและสังข์สุวรรณหิรัญวิมลทั้งสามประการ ท้าวเธอก็ประกอบด้วยพระเกียรติยศไพศาลสุดที่จะพรรณนา เมื่อทอดพระเนตรในทิศานุทิศใดก็ชุลีกรไสวอยู่เดียรดาษ ขณะนั้นหมู่ทิชาชาติราชปุโรหิตผู้เชี่ยวชาญชำนาญนิติไตรเพท ก็โอมอ่านอิศวรเวทวิษณุมนต์อวยสิริสวัสดิ์มงคลถวายชัย ชาวพนักงานก็ประโคมขานไขมโหระทึกทั้งดุริยางค์ก้องกึกแตรสังข์ เสียงฆ้องกลองก็มาประดังอยู่เนียรนาท สะเทื้อนท้องวนาวาสหิมวันต์ ดุจสำเนียงอสุนีสนั่นในท้องมหาสมุทร ฝ่ายมุขมาตย์ราชบุรุษเสวการ ก็ตกแต่งพญากุญชรเศวตคชประดับด้วยหัตถาลงกตกาญจนามัย ประทับเทียบยังเกยชัยคอยรับเสด็จ ส่วนพระบรมหน่อสรรเพชญ์โพธิพงศ์ ก็สอดสพักพระแสงขรรค์ธำรงวราวุธวิเศษ อาจจะล้างอมรินทปราชเยศทั่วทิสาภาค

    นาคมารุยฺหา เสด็จทรงมงคลรัตนาเคนท์อันเป็นบรมอัครเชนทราอาสน์ ฝ่ายภิมุขมาตย์สาชาติทั้งหกหมื่น ก็ชวนกันชมชื่นปรีดาสโมสร ต่างก็ประดับประดากายด้วยสุภาภรณ์มีอาวุธประจำกรถ้วนทั่วทุกตัวคน ก็แวดล้อมพระจอมภพสกลมกุฏเกศกษัตริย์ ฝ่ายอเนกนงคนารีรัตนราชกัญญา ก็เชิญเสด็จพระสร้อยสุณิสามัทรีศรีอัครเรศ ให้ลาดาปสินีเพศผนวชไพร

    แล้วโสรจสรงเสาคนธมาลัยอุทกธารา ช่วยกันขัดสีพระกายยอดเยาวมาลย์ แล้วทรงบวรวัตถาลังกาวิลัยเลศ ต่างก็อวยสิริสวัสดิ์ประเสริฐประสิทธิพร ให้เสวยสุขสถาพรวายทเวศร์ สรรพทุกขภัยพิบัติเหตุอย่าแผ้วพาน จงมีพระบวรสันดานชื่นชมด้วยบรมญาติ ทั้งสมเด็จพระชนกนาถราชสามี และพระกัณหาชาลีสองกษัตริย์ อย่ารู้มีพระทัยโทมนัสหน่ายแหนงกัน จงทรงสมัครสโมสรเกษมสันต์สารภิรมย์ ด้วยมหามิตรธรรมวโรดมเป็นนิรันดร ในพระนครนี้แล

    ภิกขฺเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรวิเศษ อุโภ ขตฺติยา อันว่าบรมขัตติเยสทั้งสองพระองค์ คือสมเด็จพระเวสสันดรพงศ์พิสุทธิเทวราช และพระเอกอัครอนงค์นาฏมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา ท้าวเธอได้คืนครองสิริสมบัติสืบเสวยบวรเศวตฉัตรเฉลิมวัง จึงทรงอนุสรคำนึงถึงความหลังตั้งแต่บรรพชิตเพศ เสวยทุกขเทเวศในกลางไพร บัดนี้บริบูรณ์ไปด้วยมไหสุริยสิงคาร ควรที่จะเบิกบานทั่วพระธรณี จึงให้เอาอานันทเภรีอันวิจิตรด้วยพิธกาญจนลดามาศ ไปป่าวประกาศแก่มหาชนในเวิ้งหว่างวนาสณฑ์สิขเรศประเทศวงกต ว่าบัดนี้พระเอกอัครปิโยรสราชสุริยวงศ์เสด็จคืนครองพิภพดำรงก่อนเก่า พระราชอาณาจักรเป็นของพระลูกเจ้าตั้งแต่นี้ไป ให้จตุรงคเสนาในนิกรประชาเล่นอนันทมหามหรสพคำรบตติยวาร เสียงนี้ก็เอิกเกริกสะเทื้อนสะท้านวนาวาส

    ลกฺขณา อันว่าสมเด็จพระเยาวมาลย์มาศมงกุฎคณานางอันทรงศุภลักษณะสรรพางค์พิไลเลิศ เมื่อประสบพระโอรสประเสริฐสองกุมารา ก็ทรงพระโสมนัสปรีดาด้วยพระหน่อกษัตริย์ จึงมีพระเสาวนีตรัสปลอบประโลมพระลูกแก้วแล้วรับขวัญว่า เจ้าแม่เอ๋ย แม่ลูกได้เห็นหน้ากันเมื่อยามยาก จำเดิมแต่วันพราหมณ์มาพรากไปจากอก พระชนนีก็แสนวิตกตั้งแต่ตรมตรอม จนพระสรีระรูปก็มาซูบผอมผิดพิกล เสวยแต่อัสสุชลครวญคร่ำกำสรด ด้วยบำราสพระโอรสทั้งสองรา พระแม่นี้ก็มาตั้งวัตรจริยาทรมานตน เมื่อยามเสวยก็เสวยแต่วันละหนทนทุกข์เทเวศ ยามไสเยศก็บรรทมกับปฐพีปราศจากบรรจฐรณ์แทนที่จะรองกาย ตั้งพระทัยมั่นหมายจะประสบพบพระลูกแก้ว บัดนี้วัตรปฏิบัติก็สำเร็จแล้วด้วยลุปรารถนา แม่ได้มาเห็นหน้าเจ้าทั้งสององค์ ก็สมเหมือนจิตแม่ประสงค์ในวันนี้

    ดูก่อนแม่กัณหาพ่อชาลีหน่อกษัตริย์ อันว่าสิ่งแสนโสมนัสปรีดาอันบังเกิดด้วยเสน่หาการุณจิต แห่งสมเด็จพระบรมบพิตรผู้ชนกนาถราชชนนี ทั้งพระอัยกาธิบดีอันเรืองเดช จงรักษาเจ้าผู้ดวงเนตรทั้งสององค์ อนึ่ง ทั้งพระราชอานิสงส์กุศลวัตร เป็นต้นว่าศีลสมาธิบวรทาน อันพระชนกชนนีมีพระภินิหารมาแต่ปางก่อนตราบเท่าถึงบรรพชากรในครั้งนี้ จงคุ้มครองสองศรีผู้ดรุณปิโยรส ให้เจ้าเจริญพระยศนิราศโรค สรรพสิ่งทุกข์โศกอย่าบีฑา จงยืนพระชนม์พรรษาสืบสุริยวงศ์ เสวยพิภพดำรงราชอาณาเขต ในกรุงสีพีพิชัยเชตุตรมหานครนั้นแล
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ภิกขฺเว ดูก่อนสงฆ์ผู้ทรงศีลสมาธิอินทรีย์ ส่วนสมเด็จพระผุสดีศรีสุนทรวิลาสผู้เป็นบรมสัสสุราชพระมารดา ก็ทรงจัดพระภูษาอลังการากรณ์อันเพริศแพร้วใส่ในผอบแก้วกาญจนมณี พระราชทานไปแก่พระสร้อยสุณิสามัทรีให้ประดับองค์ล้วนแต่สรรพเครื่องทรงกษัตริย์ คือพระภูษากัปปาสิกพัสตร์เกิดแต่กรุงกาสิกรัฐบุรีรมย์ อันนายช่างทอด้วยด้ายอุดมดูละเอียดอ่อน ทั้งไกไสยวัตถาภรณ์อันไพบูลย์บังเกิดแต่ตระกูลโกไสยราฐ อันแล้วไปด้วยใยกิมิชาติช่างรจนา เป็นสีสุวรรณอาภาพิพิธพรรณราย วิจิตรไปด้วยลวดลายนี้หลายอย่าง

    ทั้งพื้นพรรณต่าง ๆ ประหลาดกัน มีทั้งโขมภูษาพรรณพิสุทธิเศวต อันขจิตรไปด้วยเปลือกไม้วิเศษในโขมราฐ อีกบวรวัตถาชาติต่าง ๆ พรรณ เกิดแต่ในเขตขัณฑโกทุมพรรัฐอันนายช่างทอด้วยขนสัตว์วิจิตรบรรจง กำหนดราคาคงได้แสนตำลึง แต่ละผืน ๆ หนึ่งก็มีค่ามาก ล้วนแต่พระภูษาหายากทั้ง ๔ ตระกูล

    อนึ่งทั้งเครื่องอลงกรณ์จำรูญเรืองจำรัส คือสุวรรณพาหุรัตบวรวิไล ล้วนสัตตรัตนามัยอันไพโรจน์ ทั้งกุณฑลมณีโชติชัชวาล รัตพัสตรแก้วกาญจโนภาษ ทั้งสุวรรณรัตนราชธำมรงค์ สำหรับจะสอดสวมซึ่งนิ้วพระหัตถ์ทั้งสายสร้อยนพรัตน์อลงกรณ์ เป็นเครื่องพระกัณฐาภรณ์บวรวิเศษ ทั้งพระมหามกุฏวชิเรศอย่างขัตติยนารี อันเป็นเครื่องประดับพระเกศาเมาลีวิลัยเลิศ อีกอลงกตประเสริฐสุวรรณมาลา สำหรับจะแซมใส่พระเกศานางกษัตริย์ ล้วนแล้วด้วยพิพิธรัตนามาส เป็นเครื่องเฉลิมพระนลาตอันโอฬาร ทั้งปโยธรอลงกาญจนบวร อีกทั้งพระอังสาภรณ์วิจิตรเพริศแพร้ว ทั้งฉลองพระบาทมณีแก้วกนก ล้วนแต่เครื่องต้นอย่างดีสิ้นทุกสิ่ง

    ส่วนสมเด็จพระยอดเยาวมาลย์มิ่งมกุฏกัญญา อันเป็นบรมนเรศธิดาดวงกษัตริย์ ผู้ทรงสิริสวัสดิ์วิลาสเลิศมนุษย์คณานาง ด้วยบวรลักษณะเบญจางค์เจริญเนตร ก็ทรงสรรพวิภูษิตวิเศษสุภาภรณ์ งามดังองค์อินทร์อัปสรเสด็จประพาสยังทิพยนันทวันราชอุทยาน พระวรองค์อ่อนระทวยปานกาญจนกัทลี บังเกิดในสวนศรีสักกเทเวศ อันชื่อว่าจิตลดาวัลย์วิเศษแสนสุดภิรมย์ ยามเมื่อต้องลมรำเพยพัดก็น้อมยอดทอดก้านอยู่ไปมา ผู้ใด้ได้ทัศนาการก็พิศวง ด้วยพระสิริลักษณ์ลออองค์อันวิลาส ทั้งปวงโอษฐ์เอี่ยมสะอาดอันอำไพ มีพรรณดังผลไทรสุกสด สรรพสิ่งงามพร้อมหมดทั้งพระอินทรีย์ ดุจนางเทพกินนรีวิหคอนงค์ มีรูปทรงนี้ก็เหมือนมนุษย์บริสุทธิ์สมบูรณ์ ทั้งปีกหางก็วิจิตรจำรูญเจริญตา แล้วบินฟ้อนร่อนราในอากาศ

    ขณะนั้นหมู่มุขมาตย์ราชมนตรี ก็ผูกคชสารศรีพระที่นั่งต้นอันเป็นมิ่งมหามงคลคเชนทร มิได้แก่อ่อนเป็นปัจฉิมชาติเชื้อกุญชร เชี่ยวชาญชำนาญในพิชัยยุทธ อาจจะอดกลั้นสรระสัตราวุธและหอกปืน ไม่ย่อย่นยั่งยืนหวั่นสงคราม มีงางอนงามดังงอนรถ ดูนี่ก็ช้อยชดเชิดขึ้นขวา ทรงพิริยะกำลังกล้าและว่องไว อาจจะปราบอรินทร์ให้ปราชัยทั่วทิศาดล ประดับด้วยหัตถาภรณ์เครื่องต้นเสร็จ แล้วก็นำมาประทับกับเกยแก้ววิจิตรรุจี

    จึงสมเด็จพระมัทรีศรีวิสุทธิกัญญาก็ทรงบรมไอยราคชาชาติ แวดล้อมไปด้วยดิเรกราชบริพาร กษัตริย์ทั้งสองก็ประดับด้วยแสนสิงคารมหัตติเยศ เสด็จถึงขันธวารประเทศที่ประทับไพร ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยราชอัยกา ก็พาบรมบุตรและนัดดาคณานิกรอนงค์ ทั้งหมู่พลพหลจตุรงค์ราชโยธีสิบสองอักโขเภณี เที่ยวประพาสชมพนมพนัสพนาวาสหิมพานต์ กำหนดได้เอกมาสประมาณโดยนิยม สรรพสัตว์มิได้บีฑาซึ่งกันและกันในจังหวัดวนาสัณฑ์สิงขรเข ด้วยบวรบุญฤทธิ์ศักดาเดชสมติงสบารมี แห่งสมเด็จพระหน่อชินศรี นั้นแล

    ภิกขฺเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิสังวร ปางเมื่อสมเด็จพระเวสสันดรอดุลดวงกษัตริย์ อันทรงประพฤติความเจริญสิริสวัสดิ์แก่ชาวสีพีราช เสด็จจากสักกทัตติยาวาสวนาสณฑ์ สรรพสัตว์ในพนัสพนมแนวพนาเวศทั่วปริมณฑลขอบเขตทั้ง ๓ โยชน์เป็นกำหนด ซึ่งสมเด็จพระยอดประยูรยศมกุฏกษัตริย์อันทรงแผ่พรหมวิหารสีมาไปกางกั้น คือข่ายเพชรทั้งเจ็ดชั้นช่วยกำบังภัย ประมาณมากน้อยเท่าใดแต่บรรดามี ก็มาสโมสรประชุมในประเทศที่มีอันเดียวดูอัศจรรย์แล้ว

    ต่างก็ปรับทุกข์กันตามประสาสัตว์ ว่าพระเดชพระคุณได้อยู่คุ้มสรรพอุปัทวอันตราย เราท่านทั้งหลายนี้ก็กอปรไปด้วยเมตตากรุณาจิต มิได้เกิดประทุษกิจต่อการพาลพิบัติเหตุ บัดนี้ก็พระปิ่นปกเกศจะจากไกล ว่าชาวเราทั้งหลายเอ๋ย จำเดิมแต่นี้ไปเราจะอนาถาต่าง ๆ จะไม่มาสำราญกายละอายบาป จักริเริ่มทำกรรมหยาบอย่างโบราณกาล จักเบียดเบียนกันเป็นอาหารตามประโยชน์ตน สรรพสัตว์จตุบาททวิบาทสิ้นทั้งไพรสณฑ์ชวนกันเศร้าโศก ด้วยมหาบุรุษวิโยคอาดูรมิได้เปล่งเสียงไพเราะจำรูญเจริญใจ ให้เย็นยะเยียบเงียบสงัดไปทั่วพนาเวศ

    ส่วนสมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยธิเบศร์บรมกษัตริย์จึงตรัสถามถึงมรรคา อันประดับไปด้วยมุขมนตรีเหล่าอำมาตย์ ก็ยอกรอัญชลีกราบบังคมทูลให้ทรงทราบโดยพระราชประสงค์ ขออัญเชิญพระยอดขัตติยวงศ์มกุฏเกศเสด็จดำเนินพลนิวัตนิเวศน์สู่เวียงชัย ท้าวเธอก็สั่งให้ไปทูลพระเอกอัครดนัยหน่อกษัตริย์ ให้เอาพิชัยเภรีรัตน์ไปตีประกาศแก่หมู่จตุรงค์ประชาราษฎร์สิ้นทั้งปวง กำหนดจะยกพยุหทัพหลวงคืนเข้ากรุงไกรพระพิชัยสีพีมหาบุรีนั้นแล

    ภิกขฺเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงจตุปาริสุทธิศีลวิเศษ อันว่าถ่องแถวสถลวิถีทุเรศราชมรรคา อันบุคคลตกแต่งประดับประดาดูมโหฬารดุจวันวิสาขบูชากาลนักขัตตมงคลเป็นต้นว่า ทุบปราบให้ราบรื่นเอาทรายรายเรี่ยพื้นสะอ้านสะอาด วิจิตรไปด้วยธงฉัตรกัททลีมาศมีสีต่าง ๆ ตั้งราชวัตรทั้งสองข้างทางเป็นระยะไป อีกทั้งหม้อน้ำและหม้อดอกไม้พันธุ์นานา ดาษไปด้วยกุสุมาลาสรรพสิ่งพิเศษ คือดอกหญ้าแพรกและข้าวสารสุทธิเศวตกับเมล็ดพันธุ์ผักกาด อีกทั้งสุมนาบุปผาชาติโอฬาร มีข้าวตอกเป็นคำรบ ๕ ประการพอครบสิ่ง จักได้ชื่อว่าเป็นของบูชาอันยิ่งอย่างบูรพประเพณี โปรยปรายไปในราชวิถีทั่วทั้งปวง ประมาณมรรคประเทศทางหลวงได้หกสิบโยชน์เป็นกำหนด ตั้งวงกตบรรพตตราบเท่าถึงพระนคร

    ฉ ขตฺติยา ส่วนสมเด็จบรมอดิสรทั้งหกกษัตริย์ ก็ทรงวิภูสิตรัตนะอลังการแล้วต่างเสด็จทรงคเชนทราธารพระที่นั่งต้น อันประดับด้วยหัตถาภรณ์เลิศล้นล้วนกนกมณี

    ลำดับนั้น หมู่สหชาติโยธีทั้งหกหมื่นอันเกิดร่วมวันทันคืนกับบรมนเรศล้วนแต่ทรงสุรศักดาเดชในยุทธสงคราม มีกายอันงามไปด้วยเครื่องประดับควรจะจับใจถืออาวุธแกว่งไกวประจำกร ก็แห่ล้อมพระจอมพิภพเชตุตรเดียรดาษ ส่วนแสนสุรางค์อนงนาฏนิกรกัญญากับทั้งกุมารีเหล่าประยูรวงศาต่าง ๆ ก็ขึ้นสู่อลงกตสีวิกามาศ ทั้งรถรัตนอัศวราชชาติกุญชรโดยตำแหน่งฐานันดรแห่งตน กับทั้งพราหมณ์อันชำนาญมนต์ในไตรเวทและพ่อค้าวานิชเพศสิ้นทั้งปวง ก็โดยเสด็จในกระบวนทัพหลวงพยุหบาท พวกพลคเชนทร์ที่เชี่ยวชาญขับขี่คชสารดูองอาจ พลอาชาชาติเรี่ยวแรงล้วนแต่เข้มแข็งว่องไว พลรถเรียงไสวแลเป็นทิวธงชายปลิวปัดปลายงอน พลบทจรดูนี้ก็เหี้ยมหาญ ล้วนชำนิชำนาญในการศึก หมู่พลจตุรงค์พิลึกทั้งสี่เหล่างามเพริศเพราไปด้วยเครื่องประดับสรรพสรรพางค์พิลึก สวมหมวกมาศพื้นทองใส่เกราะกรองเสื้อหนัง อาจจะปิดป้องกำบังสรรพอาวุธเครื่องพิชัยยุทธณรงค์ มีมืออันทรงศร

    ภิกขฺเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรอินทรีย์ อันว่าพระบรมนราธิบดีทั้งหกกษัตริย์เสด็จถึงบุรีรัตนสีพีราชอันประกอบด้วยซุ้มทวารกาญจนามาศอยู่เรียงราย ทั้งปราการป้อนค่ายนี้ก็มั่นคงดูก็ก็สมทรงเงื้อมตระหง่านงามอาจป้องกันสรรพสงครามหมู่อมิตรราชปรปักษ์ บริบูรณ์ด้วยอเนกนาอัครรสโภชน์ทั้งอัฏฐบานเอมโอชอันอุดมกับสิ่งทั้งสองประเสริฐสมสำหรับนคร คือดุริยางค์ขับฟ้อนแสนสุขบันเทิง เป็นที่เกษมสำเริงราษฎร์ประชาชาวพิชัยเชต

    หกกษัตริย์ก็เสด็จประเวศราชธานีพรั่งพร้อมด้วยแสนสุรชาตโยธีอันแห่แหนตามท้องถนนแน่นอยู่เนืองนันต์ ฝูงประชาชนก็ประชุมชวนกันสิ้นทั้งปวงมานั่งเบียดเสียดทั้งสองข้างถนนหลวงอยู่แออัดต่างคนก็โสมนัสยินดี คอยรับเสด็จพระยอดขัตติยาภิเศษสมมติวงศ์อันอาจจะให้สรรพสิ่งทั้งประสงค์ทรัพย์โภไคยบ้าง ก็เปลื้องผ้าห่มทำเป็นธงชัยโบกโบยเหนือเศียรเกล้าบูชาสมเด็จพระลูกเจ้าจอมกษัตริย์ต่าง ๆ ก็อวยสิริสวัสดิ์ถวายพร

    ท้าวเธอก็เสด็จขึ้นสู่คฤหรัตนอลงกรณ์กาญจนพิมานประดับด้วยมไหสุริยสิงคารควรจะเปรมปรีดิ์ เสด็จเสวยอุฬาริกราชกามสมังคีศรีสุขุมแสนสารภิรมย์อันยิ่งด้วยพระยศอุดมดูวิลาส จึงให้เอาอานันทเภรีตีประกาศแก่ประชาราษฎร์ชาวพระนคร ให้ปล่อยสัตว์นิกรที่กักขังโดยต่ำมีกำหนดตั้งแต่วิฬาอย่าขังไว้ให้ได้ทุกขเวทนารีบปล่อยไป ครั้นเมื่อราตรีภาคปัจจุสมัยจึงทรงพระปริวิตกว่า เพลาพรุ่งนี้นี่ฝูงยาจกทั่วทั้งปวงแจ้งว่าอาตมาเสด็จคืนยังเมืองหลวงจะชวนกันปรีดาต่าง ๆ ก็จะแตกตื่นกันมาคอยรับพระราชทาน จะพูนเพิ่มบวรกฤษฎาภินิหารมหาบริจาค เออไฉนจะได้ทรัพย์อันใดโดยมากมาแจกจ่ายให้อิ่มพระกมลมุ่งหมายในครั้งนี้

    ขณะนั้นก็ร้อนถึงอาสน์โกสีย์สักกเทวราช จึงยังห่าฝนสัตตรัตนมาศมีพรรณนานา คือสุวรรณหิรัญมุกดาเวฑุริยจำรัส ทั้งวิเชียรมณีรัตน์ประพาฬ ก็ครบ ๑๗ ประการสรรพสิ่งวิเศษ ได้ตกเต็มสกลนคเรศทั่วทุกลำเนาสูงประมาณเพียงเข่าพึงจะยินดี แต่บริเวณจังหวัดรัตนประสาทศรีท่วมถึงสะเอวดูอัศจรรย์ จึงป่าวประกาศให้ราษฎรชวนกันมาขนเป็นของประชาชนตามคามเขต เหลือนั้นให้ขนเข้านิเวศน์ท้องพระคลังหลวง ฝูงชนทั้งปวงก็พากันชื่นบาน ท้าวเธอก็ตั้งบำเพ็ญพระบรมโพธิสมภารทานบารมี โดยพุทธางกูรบารมีนั้นแล
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าสมเด็จพระบรมขัตติยาธิบดินทรสัมภินพงศ์เวสสันดรมหาราช อันประกอบด้วยพระปรีชาฉลาดในที่จะบำเพ็ญทาน ทรงสืบสร้างกฤษฎาภินิหารทานบริจาคอันมากบริบูรณ์แก่พระอัธยาศัย ตราบเท่ากำหนดพระชนม์ชีพได้ร้อยยี่สิบพระวัสสา ก็ทำลายปัจจุปาทานขันธ์สวรรคตขึ้นไปอุบัติปรากฏเป็นสันดุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติในรัตนพิมานมาศเมืองสวรรค์ชั้นดุสิตเทวราช

    สตฺถา อิมํ คาถาสหสฺสปฏิมณฺฑิกํ มหาเวสฺสนฺตรชาตกํ อาหริตฺวา ครั้นสมเด็จพระนราสภศาสดาจารย์ โปรดประทานเทศนาเรื่องพระมหาเวสสันดรชาดกอันประดับด้วยพระคาถาพันหนึ่งดังนี้แล้ว จึงตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันห่าฝนโบกขรพรรษซึ่งปวัตตนาการตกลงมาในครั้งนี้ ก็ได้เคยตกมาแล้วในครั้งเราเป็นเวสสันดร

    ครั้นตรัสดังนี้แล้วจึงทรงแสดงพระจตุราริยสัจสืบต่อไป เมื่อจบอริยสัจทั้งสี่แล้วจึงทรงประชุมชาดกว่า พราหมณ์ชูชกในครั้งนั้นได้เกิดมาเป็นพระเทวทัตในบัดนี้ นางอมิตตดาปนานั้นได้มาเกิดเป็นนางจิญจมาณวิภา นายพรานเจตบุตรนั้นได้เกิดมาเป็นพระสารีบุตร ท้าวสักกเทวราชนั้นได้มาเกิดเป็นพระอนุรุทธ์ พระวิษณุกรรมเทพบุตรนั้นได้มาเกิดเป็นพระโมคคัลลาน์ เทพยดาที่นิรมิตเป็นพญาสีหราชนั้นได้มาเกิดเป็นพระอุบาลี เทพยดาที่นิรมิตเป็นพญาเสือโคร่งได้มาเกิดเป็นพระสีวลี เทพยดาที่นิรมิตเป็นเสือเหลืองได้มาเกิดเป็นพระจุลนาค เทพยดาที่นิรมิตเป็นพระเวสสันดรคอยประคองสองบังอรราชโอรสธิดาได้มาเกิดเป็นพระมหากัจจายนะ เทพยดาที่นิรมิตเป็นพระนางมัทรีได้มาเกิดเป็นนางวิสาขา พระยาเศวตกุญชรชาติคชาธารได้มาเกิดเป็นพระมหากัสสป นางช้างซึ่งเป็นมารดาของพญาเศวตกุญชรนั้นได้มาเกิดเป็นนางกิสาโคตรมี พระราชบิดาของพระนางมัทรีได้มาเกิดเป็นมหานามศากยราช อำมาตย์ที่เป็นนายนักการซึ่งไปกราบทูลสาส์นแก่พระเวสสันดรนั้นได้มาเกิดเป็นพระอานนท์ อำมาตย์คนที่จัดสัตตสดกมหาทานได้มาเกิดเป็นอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้ากรุงสญชัยผู้เป็นพระชนกาธิบดีได้มาเกิดเป็นพระพุทธบิดา พระนางผุสดีได้มาเกิดเป็นพระพุทธมารดา พระนางมัทรีได้มาเกิดเป็นมารดาพระราหุล นางกัณหาได้มาเกิดเป็นนางอุบลวัณณา สหชาติโยธาทั้งหกหมื่นได้มาเกิดเป็นบริวารของเราตถาคต ส่วนพระเวสสันดรผู้ปรากฏยิ่งด้วยทานบารมีคือเราตถาคตในบัดนี้แล ท่านทั้งหลายจงจำไว้ดังที่แสดงมานี้




    จบเรื่องพระเวสสันดรชาดกทั้ง ๑๓ กัณฑ์ แต่เพียงเท่านี้


    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=2695

    http://www.geocities.com/barame10/10ve/mainve.htm
     
  5. detprasit

    detprasit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องมหาเวสสันดรชาดก

    :cool:พี่ครับ เรื่องมหาเวสสันดรชาดกอ้างอิงจากหนังสืออะไรครับ
     
  6. detprasit

    detprasit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ]:cool:พี่ครับ เรื่องมหาเวสสันดรชาดกอ้างอิงจากหนังสืออะไรครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...