เว็บพลังจิต มหาเศรษฐีตายแล้วไปเกิดเป็นลูกขอทาน โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 22 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    [​IMG]

    มหาเศรษฐี ตายแล้วไปเกิดเป็นลูกขอทานเพราะกรรมอะไร?

    พระสูตรเรื่องนี้ เป็นพระสูตรชี้เหตุชี้ผล ที่คนขอบพูดกันว่า
    "ความชั่วไม่ทำ ความดีไม่สร้าง ตายแล้วมีความสุข"<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ในพระสูตรเรื่องกลับบอกว่า "คนที่ความชั่วไม่มี ความดีไม่สร้างนั้น<O:p</O:p
    ตายแล้วผลกรรมส่งผลให้เกิดเป็นอัครมหาทุคตะ" คือขอทานผู้อดอยาก<O:p</O:p
    เป็นเลิศ หมายความว่า ขอทานธรรมดายังมีคนให้ แต่ผู้ไม่ทำความดี<O:p</O:p
    ไม่มีความชั่วนี้ กลับอดไม่มีใครให้ เรื่องมีมาในพระสูตรดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี ทรงปรารภ อานันทเศรษฐี<O:p</O:p
    ผู้เป็นจอมอดอยากหรือจะเรียกว่า เป็นผู้เลิศในทางอด ก็คงไม่ผิด
    เนื้อความย่อมีอยู่ว่า<O:p</O:p
    สมัยนั้น มีเศรษฐีท่านหนึ่งมีนามว่า อานันทเศรษฐี ท่านเศรษฐีผู้นี้มีความดี<O:p</O:p
    เป็นพิเศษ คือ ของๆ เขาเราไม่เอา ของๆ เราก็ไม่ให้ใคร คือท่านมีความรู้สึก
    อยู่เสมอว่า ทรัพย์สินที่จะมีถึงความเป็นเศรษฐีได้อย่างนี้ ไม่มีใครให้เรา
    เป็นทรัพย์สินที่ปู่ย่าตายายหาไว้ให้ ชาวบ้านไม่เคยนำมาให้<O:p</O:p
    เมื่อปู่ย่าตายายท่านหามาด้วยความเหนี่อยยาก ค่อยๆ เก็บรวบรวมมา
    จนมีทรัพย์สมบัติขนาดนี้ เราเป็นผู้สืบต่อตระกูล เป็นมหาเศรษฐี
    เราก็ควรที่จะรักษา ความเป็นมหาเศรษฐีไว้โดยไม่ต้องแบ่งหรือให้ใครเลย
    แล้วท่านก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ใครมาขอก็ไม่เคยให้ พระพุทธเจ้ามาบิณฑบาตร
    ก็ไม่เคยใส่บาตรแถมไม่เคยแม้แต่ก้มหัวให้นิดหนึ่งก็ไม่มี

    ดูตามปกติแล้วรู้สึกว่าท่านจะทำถูก ของเราไม่ให้ ของใครก็ไม่เอา
    ไม่ให้ใครและก็ไม่เบียดเบียนใคร แต่ผลของการไม่ให้มันก็มีผลร้ายเหมือนกัน
    คือกินของเก่าหมด ของเก่าคือบุญ<O:p</O:p
    คนที่มีเป็นมหาเศรษฐีได้เพราะอาศัยผลของการให้ทานมาในกาลก่อน<O:p</O:p
    เมื่อเกิดมาใหม่ผลของทานให้ผลเป็นมหาเศรษฐี คือทานที่ทำแล้วมีอานิสงส์
    มาก เช่นสังฆทาน ถวายผ้าป่า ความจริงผ้าป่าก็คือสังฆทานนั่นเอง ถวายกฐิน<O:p</O:p
    เฉพาะการถวายกฐินนี้มีอานิสงส์เลิศเป็นพิเศษ ผูกขาดเป็นมหาเศรษฐีถึง ๕๐๐ ชาติ
    ผลของทานที่ท่านมหาเศรษฐีให้มาแล้วบันดาลให้ท่านเป็นมหาเศรษฐี
    แต่เมื่อมาหยุดการให้ทานต่อ ท่านก็นั่งนอนกินบุญเก่าที่ทำไว้จนหมด
    ในที่สุดท่านก็ตาย ความตายของท่านอาศัยที่ท่านไม่มีบาปก็ไม่ไปอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น<O:p</O:p
    แต่ท่านก็ไปสวรรค์ไม่ได้ เพราะท่านไม่เคยทำบุญ บุญที่จะพาท่านไปสวรรค์<O:p</O:p
    ไม่มีแก่ท่านเลย ต้องมาเกิดเป็นคนใหม่
    <O:p</O:p

    เมื่อจิตออกจากร่างแล้วก็ตุปัตตุเป๋ไปตามเรื่องเพื่อหาที่เกิด ไปบ้านใหน
    ประตูทางเข้าก็ไม่เปิดรับ พอดีไปเจอประตูว่าง ไม่มีใครห้ามเข้าในที่แห่งหนึ่ง<O:p</O:p
    จึงเข้าไปนอนสบายใจ ประตูที่เข้าไปและห้องที่นอนนั้น เป็นท้องของขอทาน<O:p</O:p
    ที่กำลังพร้อมจะมีครรภ์ ตั้งครรภ์คือมีลูก อานิสงส์ท่านไม่ให้อะไรใครเลย<O:p</O:p
    เมื่อเข้าไปอยู่ในท้องมารดา กรรมนั้นก็ให้ผลทันที คือเมื่อมารดาของท่าน<O:p</O:p
    ไปขอทานกับกลุ่มขอทานที่เคยไปด้วยกัน วันนั้นทั้งวันไม่มีใครให้ทานเลย
    ตามปกติแล้วเมื่อไปขอทานกันมีคนให้ทุกวัน วันนี้คนให้ก็ไม่มีแม้แต่คนมองดู
    ก็ไม่มีอีก เลยไม่ต้องกินอะไรเลย ที่เป็นอย่างนี้เพราะบารมีของเด็กในครรภ์<O:p</O:p
    สงเคราะห์ให้อด
    เมื่อหมดเวลาขอทานที่เป็นหัวหน้าก็พาคณะขอทานกลับที่พัก<O:p</O:p
    ท่านหัวหน้าก็มาดำริว่า เหตุที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ต้องมีใตรในคณะของเรา
    เริ่มมีครรภ์ และเด็กในครรภ์นั้นต้องเป็นคนอัปรีย์ จึงขาดคนเมตตา
    พรุ่งนี้ก่อนออกไปขอทานตามปกติ เราต้องแบ่งคณะออกเป็น ๒ พวก
    เพื่อทราบว่าใครมีคนอัปรีย์เกิดขึ้นในท้อง
    พอรุ่งขึ้น หัวหน้าใหญ่ก็สั่งให้แยกออกเป็น ๒ คณะ วันนั้นพวกที่ไปกับ
    แม่ของเด็กในครรภ์คืออานันทเศรษฐีมาเกิด ก็ไม่มีใครให้อะไรเลย
    อดเรียบร้อยเป็นเอกฉันท์ วันต่อมาหัวหน้าก็แบ่งคณะย่อยเล็กออกไป
    ตามลำดับ จนเหลือคนเดียว เป็นอันรู้แน่ว่าคนอัปรีย์มาเกิดในท้องแม่
    ของอานันทเศรษฐีแน่ เขาจึงสั่งให้เธออยู่บ้าน ไม่ต้องออกขอทาน
    เพราะออกไปก็ไม่ได้อะไร เหนื่อยเปล่าๆ พวกขอทานทั้งหมดช่วยหามาเลี้ยง
    เมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว วันใดแม่ไปขอทานโดยเอาลูกชายไปด้วย
    วันนั้น ไม่มีใครให้อะไร แต่วันใดเธอไม่นำลูกชายไปด้วย วันนั้น
    ได้ของเหลือกินเหลือใช้

    เป็นอันว่าเมื่อลูกชายเดินได้คล่องตัว ท่านแม่ก็เอาขันจอกเก่าๆ
    สำหรับขอทานหากินมาใส่มือแล้วบอกว่า
    "ลูกรัก แม่ไม่สามารถเลี้ยงเจ้าได้ ขอเจ้าจงไปจากแม่ จะไปไหน
    ก็ตามใจลูก แต่จงอย่าอยู่กับแม่"
    เพราะอาศัยที่เธอเป็นคนไร้เมตตา ความชั่วไม่ทำ ความดีไม่สร้าง
    ตามที่เคยได้ยินอยู่เสมอว่า บุญไม่ทำ กรรมไม่สร้าง เราต้องเกิดใหม่
    ในที่ๆ มีความสุข ผลที่มีความคิดอย่างนี้ เด็กคนนี้จึงมีรูปร่างเหมือน
    ปีศาจคลุกฝุ่น ลองคิดดู เป็นปีศาจก็ดูเหมือนจะแย่อยู่แล้ว แถมคลุกฝุ่นด้วย
    ก็ยิ่งน่าเกลียดไปใหญ่
    เมื่อถูกแม่ไล่เธอก็ไปตามกรรมของเธอ เดินสะเปะสะปะไปตามที่คิดว่าจะไป
    ไปไหนบ้างเธอก็ไม่รู้จักทาง ไปแล้วก็ไม่รู้ตรงนี้เขาเรียกว่าอย่างไร
    แต่ทว่าคนที่ตายจากความเป็นคนแล้วเกิดเป็น่คน สามารถระลึกชาติได้ ๑ ชาติ

    ความจริงเรื่องระลึกชาติได้ ๑ ชาตินี้ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๗ - ๒๕๐๘ มีคนไทย
    ที่ออกมาจากครรภ์มารดาตามปกติและเป็นลูกชาวไร่ชาวนา เมื่อโตขึ้นพอพูดได้
    ระลึกชาติได้สามารถเล่าเหตุการณ์ในชาติที่แล้วได้ถูกต้อง
    มีอยู่รายหนึ่งเมื่อตอนตายเธอเป็นหนุ่ม ตอนนั้นไปรักสาวคนเดียวกันกับเพื่อน
    ต่อมาเพื่อนชวนไปเที่ยวแล้วแทงเธอตาย เมื่อเธอมาเกิดใหม่ในเวลาห่างกันไม่นาน
    และเมื่อเธอพูดได้ชัดพอฟังรู้เรื่อง เธอก็เล่าเหตุการณ์ที่เธอตายแล้วกลับมาเกิดใหม่
    ให้ผู้ใหญ่ฟัง เป็นการบังเอิญที่เธอเกิดไม่ไกลจากบ้านเดิม เรื่องราวต่างๆ
    จึงมีผู้รับรองว่ามีจริง และปลัดอำเภอที่ทำการสอบสวนในคดีที่เธอถูกฆ่าตาย
    ก็ยังอยู่ที่อำเภอนั้น ยังไม่ได้ย้ายไปไหน ท่านปลัดก็รับรองว่าเป็นเรื่องจริง
    และชื่อคนที่เด็กอ้างถึงก็มีตัวตนอยู่จริง

    เป็นอันว่าเรื่องราวของอานันทยาจก ตอนนี้ต้องยกคำว่าเศรษฐีออก
    เพราะได้กลายเป็นขอทานปีศาจคลุกฝุ่นไปแล้ว เมื่อเธอออกไปจากแม่
    ก็ระลึกได้ว่า เมื่อก่อนที่เธอจะตาย เธอเป็นมหาเศรษฐีอยู่ที่โน่น
    และนึกได้ว่าที่นั่นเดินไปทางไหน เธอก็ไปตามความรู้สึกของเธอ
    ไปถึงบ้านเดิมตอนเช้า เจ้าของบ้านคนใหม่คือลูกชายของเธอ
    ยังไม่ตื่นจากที่นอน พอไปถึงเธอก็ถือสิทธิ์เดิมที่เคยเป็นเจ้าของบ้าน
    จะเข้าประตูบ้าน คนเฝ้าประตูก็ไม่ยอมให้เข้า ดึงกันไปดันกันมาอยู่อย่างนั้น

    จนถึงเวลาที่พระพุทธเจ้ากับพระอานนท์ท่านไปบิณฑบาตทางนั้นพอดี
    เมื่อพระพุทธเจ้าท่านเห็นเด็กขอทานรูปร่างเหมือนปีศาจคลุกฝุ่น
    ท่านก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์จึงทูลถามเรื่องการแย้มพระโอษฐ์
    ทานทรงตรัสว่า "อานนท์ เธอเห็นอานันทเศรษฐีใหม"
    พระอานนท์ก็มองซ้ายมองขวาไม่เห็นอานันทเศรษฐี ด้วยท่านเคยรู้จัก
    เมื่อตอนเขามีชีวิตอยู่ ท่านพระอานนท์จึงกราบทูลสมเด็จพระบรมครูว่า
    "ไม่เห็นพระเจ้าข้า" สมเด็จพระบรมศาสดาจึงตรัสถามว่า "เธอเห็นเด็ก
    ที่มีรูปร่างเหมือนปีศาจคลุกฝุ่นที่ประตูบ้านท่านมหาเศรษฐีไหม"
    พระอานนท์ก็ทูลตอบว่า "เห็นพระเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าทรงตรัสต่อว่า
    "เด็กคนนั้นนั่นแหละคืออานันทเศรษฐี เธอจงบอกนายประตูเรียกท่าน
    มหาเศรษฐีลงมาพบตถาคต" พระอานนท์ก็บอกนายประตูตามนั้น
    นายประตูไปบอกเศรษฐีเจ้าของบ้านว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ให้ลงมาพบ ท่านมหาเศรษฐีหนุ่มก็ลงมา นมัสการพระพุทธเจ้าด้วยความเคารพ

    พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า "เธอจำบิดาของเธอได้ใหม"
    เขาก็ทูลตอบว่า "จำได้ แต่ทว่าพ่อเขาตายไปแล้ว ไม่ทราบเวลานี้ท่านอยู่ที่ไหน"
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เด็กคนนี้คืออานันทเศรษฐีพ่อของเธอ"
    ท่านมหาเศรษฐีหนุ่มส่ายหน้ากราบทูลว่า "พ่อของข้าพระพุทธเจ้าแก่กว่านี้และ
    ตายไปนานแล้ว เด็กคนนี่ไม่ใช่พ่อแน่"
    พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่จะช่วยเด็กขอทานไม่ให้อดอยากต่อไป
    จึงถามเด็กคนนั้นว่า "อานันทเศรษฐี ทรัพย์สมบัติมากมายที่เธอฝังไว้
    ที่บุตรของเธอไม่รู้มีบ้างไหม" เขากราบทูลสมเด็จพระจอมไตรว่า "มี"
    ทรงตรัสต่อว่า "ถ้ามีเธอจงพาลุกชายไปขุด" เขาก็นำลูกชายไปขุดได้ทรัพย์
    มากมายตามที่เขาบอก
    เป็นอันว่าเขาได้กินอาหารต่อไปจนกว่าจะหมดอายุขัย เพราะพระพุทธเจ้าทรงเมตตา
    มิฉะนั้นด้วยอำนาจกรรมที่เขาไม่ทำบุญ คงทำให้เขาอดอยากไปตลอดชีวิต

    พระสูตรเรื่องนี้มีมาในพระธรรมบท เป็นเครื่องเตือนใจให้ทราบว่า
    การที่จะมีทรัพย์สิน จะมากหรือน้อยก็ตาม ได้มาจากผลของการบริจาคทาน
    การให้ทานเป็นบ่อเกิดแห่งทรัพย์สินในชาติต่อไป
    ความจริงถ้าเป็นนักบุญที่เนื่องในการให้ทานจริงๆ
    ทำบุญให้ทานในเขตทานที่ให้ผลมาก ไม่ต้องทำคราวละมากๆ
    ทำน้อยๆ พอไม่เดือดร้อน แต่ทำบ่อยๆ ให้ติดต่อกันเป็นประจำ
    เช่นการถวายสังฆทานเป็นปกติ
    สังฆทานก็ไม่ต้องลงทุนมาก ใส่บาตรวันละองค์สององค์
    หรือเอาข้าวเปลือกข้าวสารใส่ที่เก็บเล็กๆ ไว้วันละนิดหน่อย
    ตั้งใจว่า ข้าวที่เก็บไว้นี้เราจะรวมไว้ เมื่อมีมากพอสมควร
    จะเอาไปถวายเป็นอาหารของพระ อย่างนี้เรียกว่าถวายสังฆทาน

    ทำอย่างนี้เสมอๆ ขอให้ค่อยๆ พิจารณา เมื่อวันเวลาผ่านไปสักปีสองปี
    จะเห็นว่าผลของทานแม้เล็กน้อยเพียงเท่านี้ จะทำให้ความเป็นอยู่
    เพิ่มพูนขึ้นกว่าปกติมาก มีการหาได้คล่องตัวขึ้น ชาติหน้าจะรวยมหาศาล
    ถึงขั้นมหาเศรษฐีอย่างอานันทเศรษฐีก่อนตายทีเดียว......



    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา</O:p>
    <O:p>*
    [​IMG]
    </O:p>
    <O:p>

    </O:p>

    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เชิญท่านแวะชมและโมทนาบุญ
    มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มจากเดิมอีกหลายรายการครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ดีแล้วชอบแล้ว


    ในสังคมยุคนี้ ก็ยังมีคนประเภทนี้อยู่ไม่น้อย



    .
     
  3. greenice

    greenice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +1,390
    อนุโมทนาสาธุครับ ขึ้นชื่อว่าทานนั้นเป็นประดุจประตูเอกแห่งบุญของสัตว์โลกที่ยังไม่เข้าถึงพระนิพพาน ซึ่งจำเป็นต้องกระทำ
     
  4. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    สาธุ สาธุ สาธุ

    สมัยนี้ไม่ทำบุญเองยังไม่พอ ยังขัดขวางคนอื่นทำบุญอีก อนาคตคงแย่กว่าอานันทเศรษฐีอีก
     
  5. ผู้ตามหา

    ผู้ตามหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +818
    สาธุ....ทานศีล ภาวนา รักษาให้มั่น หมั่นทำจิตให้บริสุทธิ์
     
  6. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    จำได้ขนาดนี้ ทำไมไม่ไปขุดซะตั้งแต่แรก ทนหิวโซอยู่เป็นปีๆทำไม











    อย่าคล้อยตามหรือขัดแย้งอะไรมากมายเลย สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
    เพราะอกุศลกรรมบดบังความคิดไว้ ทำให้คิดไม่ออกและไม่ฉุกคิดว่ามีสมบัติฝังที่ไหนบ้าง แต่ถึงแม้ชาติที่แล้วจะไม่เคยทำบุญหรือบาป ก็ใช่ว่าชาติก่อนๆหน้าจะไม่เคยทำ ไม่งั้นคงไม่เกิดเป็นเศรษฐี
    เมื่อได้รับอานิสงฆ์จากพุทธบารมี ทำให้กรรมดีเก่าสามารถแหวกกรรมเลวเข้ามาได้ จึงสามารถจะจำได้นึกได้ ว่ามีสมบัติอยู่ที่ไหน
    ถ้าคุณอยากนึกถึงสมบัติเก่าๆได้บ้างก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรกับเทพยดาที่คุ้มครองคุณบ่อยๆสิ อิๆ อ้อ..เทวดา เขารู้ว่าคุณเดือดร้อนอะไรต้องการอะไร แต่ถ้าคุณไม่ขอเขาก็ไม่ให้ เป็นซะงี้แหละ
     
  7. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเริ่มกินของเก่าหมด จึงเร่งทำใหญ่เลย T _ T
     
  8. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    สาธุครับ ทำทานบ่อยๆดีกว่า อิอิ
    __________________________________________________________
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ<O:p</O:p
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
  9. manussanun

    manussanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +202
    ไม่ทำความชั่ว
    แต่ก็ควรจะทำความดี

    จะว่าไปชาตินี้เราเพิ่งทำได้ไม่มากแฮะ
    รีบไปทำความดีเพิ่มดีกว่า *_*

    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2010
  10. sazukia007

    sazukia007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +710
    อืม ทานย่อมทำให้เราอิ่มเอม
     
  11. nangkeaw

    nangkeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +396
    ความเมตตาเป็นบุญอันบริสุทธิ์แ้ท้หนอ
     
  12. ผู้เบิกบาน

    ผู้เบิกบาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +463
    ขอบคุณมากๆคะ กับความรู้ ต้องหมั่นทำบุญทำทานรักษาศีลเจริญภาวนาเร่งทำความดี สิ้นชาตินี้ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย่์ เพื่อสะสมบุญกรรมดี เพื่อเข้าสู่นิพพานในชาติต่อไปที่บุญบารมีถึง
     
  13. Here-Pi

    Here-Pi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +254
    มาเร่งสร้างบุญสร้างกุศลกันครับเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว.......
     

แชร์หน้านี้

Loading...