มันเป็นเช่นนั้นเอง . . (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 11 พฤศจิกายน 2009.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    มันเป็นเช่นนั้นเอง . . (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)

    ชาวพุทธเราควรจะอยู่ด้วยความไม่เป็นทุกข์ในอะไร ๆ ที่เกิดขึ้น
    ให้ทำใจให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าส่งใดจะเกิดขึ้น ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง
    หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวิถีชีวิตของเรา เราก็จะไม่เป็นทุกข์ในเรื่องนั้น
    เราจะใช้สติปัญญา เป็นเครื่องพิจารณา แล้วรู้จักปลง รู้จักวางในสิ่งนั้น ๆ
    ไม่เข้าไปยึดถือ ด้วยความโง่ ด้วยความเขลา

    เพราะถ้าเราเข้าไปยึดไปถือด้วยความโง่ ความเขลา เราก็เป็นทุกข์
    มันไม่ได้ประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย ที่นั่งเป็นทุกข์
    แต่เป็นการลงโทษตัวเอง ลงโทษสุขภาพจิต สุขภาพกาย ทำให้จิตเสื่อม
    ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่เร็ว แล้วก็ตายเร็วด้วย
    เพราะว่ามีความทุกข์มาก มีความกลุ้มใจมาก
    ตัดทอนสุขภาพทั้งกาย ทั้งใจ ไม่เป็นเรื่องดีแม้แต่น้อย

    ความทุกข์เป็นเหมือนน้ำร้อน เราคิดให้มันเป็นทุกข์
    ก็เหมือนเอาน้ำร้อนมาราดตัว ตั้งแต่หัวถึงเท้า
    ถลอกปอกเปิกเป็นคนดำ ๆ ด่าง ๆ ไป
    มันจะได้เรื่องอะไร เราไม่ควรจะคิดเช่นนั้น

    เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเฉพาะหน้าให้พยายามคิดว่า ดีแล้ว ... พอแล้ว
    หรือ "เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว" อย่างนี้ใจก็สบาย
    เช่น คนทำมาค้าขาย เป็นนักธุรกิจ ทำกิจการต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
    บางคราวมันก็ได้กำไร บางคราวก็ขาดทุน บางคราวก็พอเสมอตัว
    ถ้าหากว่าจิตใจของเราตื่นเต้นอยู่กับิสิ่งเหล่านั้น
    พอได้ก็ดีใจ เกิดใจฟูขึ้น พอไม่ได้ก็แฟบลงไป
    ขึ้นแล้วก็ลงขึ้นแล้วก็ลงอยู่อย่างนี้
    เหมือนกับวานรมันเต้นอยู่ในกรงของมัน ดิ้นรนอยู่ แต่ออกไม่ได้
    มันเป็นสุขที่ตรงไหนในการที่จิตของเราเป็นอย่างนั้น
    ไม่เป็นความสุขอะไรเลย

    เราจึงควรจะทำความพอใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น
    นึกว่า "ธรรมดา ... มันเป็นเช่นนั้นเอง"

    คำนี้สำคัญมาก เรียกว่าเป็นคาถาวิเศษสำหรับเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน
    คือคำว่า "ตถาตา" แปลว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง"

    อะไร ๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เราจะไปบังคับมันก็ไม่ได้ จะไปฝึนมันก็ไม่ได้
    มันไม่ได้อยุ่ในอำนาจของเรา เราควรจะคิดว่า "เออ ! ธรรมดามันเป็นอย่างนี้"
    เรานึกอย่างนี้ ก็พอปลง พอวาง สภาพจิตก็พอจะรู้เท่ารู้ทันในสิ่งนั้น ๆ
    ความทุกข์ก็จะเบาไป คือ ไม่หนักอื้ง
    เพราะเรารู้จักวาง รู้จักพักผ่อนทางใจ ใจก็สบาย...


    ที่มา...ปาฏกถาธรรมของ ปัญญานันทะ ภิกขุ
    (วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๒๙)

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...