เสียงธรรม มาฆบูชา..วันสำคัญของพระพุทธศาสนา โดย กายแก้ว (สมาชิกพลังจิต)

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 2 มีนาคม 2012.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    makabucha.jpg


    :D:D:D:D:D

    [AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%86%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82-mp3.4070854/][/AUDIOPLUS]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2017
  2. miss you

    miss you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +202
    พุธธังวันทามิ ธัมมังวันทามิ สังฆังวันทามิ

    กราบพระพุธ กราบพระธรรม กราบพระอริยสงฆ์สาวกด้วยเศียรเกล้า


    สาาาาาาาาาาาาาาาาาาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2012
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    วันมาฆบูชา



    makabucha.jpg

    วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับชาวพุทธ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
    หากปีใด เป็นอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหนจะเลื่อนไปตรงกับวันเพ็ญเดือน ๔
    หลังจากการตรัสรู้ของสัมมาสัมพุทธเจ้า ๙ เดือน ได้มีพระสาวกเดินทางมาเฝ้าพระพุทธองค์พร้อมกันเป็นครั้งแรกโดยมิได้นัดหมาย
    เป็นจำนวนถึง ๑ ,๒๕๐ รูป ณ เวฬุวันมหาวิหาร ชานเมืองราชคฤห์ เมืองหลวงของแควันมคธ ประเทศอินเดีย

    การประชุมครั้งใหญ่ของพระสาวกนี้เรียกว่า “มหาสันนิบาต”

    มีลักษณะพิเศษ ๔ ประการเรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” กล่าวคือ

    ๑.เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ หรือ มาฆมาส
    ๒.มีพระสงฆ์มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ๑ ,๒๕๐ รูป
    ๓.พระสงฆ์เหล่านี้ ล้วนเป็นพระที่บวชโดยพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา ”
    ๔.
    พระสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา ๖

    พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศหลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนาเสมือนหนึ่งรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นกฎหมายแม่บทสำคัญสูงสุดของประเทศ
    คือทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ ให้พระสาวกถือเป็นหลักปฏิบัติเพื่อนำไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีเนื้อหา ๓ ประการ

    ๑. อุดมการณ์
    พระพุทธศาสนามีจุดหมายสูงสุด ได้แก่ พระนิพพาน คือการดับสูญจากกิเลศ และทุกข์ทั้งปวง
    อันจะทำสำเร็จได้ด้วยพึ่งตนพากเพียรด้วยการกระทำของตนเอง ไม่ใช้สำเร็จด้วยการอ้อนวอนร้องขอจากเทพองค์ใด

    อุดมการณ์ ๔ ได้แก่

    - ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ
    - ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
    - ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
    - นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา

    ๒. หลักการ
    หลักคำสอนอันเป็นหัวใจในด้านปฏิบัติของพระพุทธศาสนาคือ

    - ไม่ทำความชั่วทั้งปวง
    - ทำกุศลธรรมความดีให้ถึงพร้อม
    - ทำจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส

    ๓. วิธีการ
    พุทธวิธีในการนำธรรมะสู่จิตใจชาวโลกด้วยเมตตา

    - ไม่มีการกล่าวร้ายใคร
    - ไม่มีการทำร้ายใคร
    - รักษาวินัยเคร่งครัด
    - รู้จักประมาณในการกินอาหาร
    - อยู่ในที่อันสงบสงัด
    - ฝึกฝนพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น ด้วยการบำเพ็ญสมาธิอยู่เสมอ



    ประวัติการถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย

    พิธีทำบุญวันมาฆบูชานี้ ไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีมาในสมัยใด อย่างไรก็ตามในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน"
    อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มีเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบราชกุศลมาฆบูชาไว้ว่า
    ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
    ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๓๙๔ ในพระบรมมหาราชวังก่อน
    โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวรวิหารและวัดราชประดิษฐ์จำนวน ๓๐ รูป
    ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    เมื่อถึงเวลาค่ำ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็น
    และสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์
    เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน ๑,๒๕๐ เล่ม รอบพระอุโบสถ
    มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ ๑ กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย
    ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วยจีวรเนื้อดี ๑ ผืน เงิน ๓ ตำลึงและขนมต่างๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ ๓๐ รูป สวดรับ

    ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี
    แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
    เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้นๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง

    ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร
    ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด
    เพื่อทำบุญกุศลและประกอกิจกรรมทางศาสนา

    นอกจากนี้ในปี พ.ศ ๒๕๔๙รั ฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย

    สรุปได้ความว่า แต่เดิมพิธีวันมาฆบูชา ไม่เคยกระทำมาก่อนในเมืองไทย
    เพิ่งจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔
    โดยพระองค์ทรงถือแบบอย่างโบราณบัณฑิตที่นิยมว่าวันเพ็ญกลางเดือน๓
    เป็นวันประชุมใหญ่ของพระสาวกของพระพุทธเจ้า มีลักษณะน่าอัศจรรย์ ซึ่งได้ถือว่าเอาเหตุนั้นเป็นเครื่องแสดงสักการะบูชา
    พิธีมาฆบูชา จึงได้เกิดมีขึ้นในเมืองไทย มีทั้งพิธีสงฆ์ ราชพิธี และพิธีราษฎร์ สืบมาจนถึงทุกวันนี้
    พระราชพิธีมีตามวัดพระอารามหลวง เช่นที่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชประดิษฐ์
    และปัจจุบันนี้ก็มีวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นต้น

    การปฏิบัติพุทธศาสนากิจในวันมาฆบูชา ที่นิยมโดยทั่วไป ก็คือ

    -ทำบุญตักบาตร หรือนำภัตตาหารไปถวายพระสงฆ์แล้ว กรวดน้ำ แผ่ส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว
    -บริจาค ให้ทาน แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม
    -การปล่อยสัตว์ เช่น โค กระบือ นก ปลา เป็นต้น
    -ฟังธรรมะ รักษาศิล ๕ ศิล ๘ เป็นต้น
    -บำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ – วิปัสสนากัมมัฎฐาน
    -นำดอกไม้ธูปเทียนไปเวียนเทียนที่พุทธสถานต่างๆ เช่น ที่วัดต่างๆ ที่ท้องสนามหลวง หรือที่พุทธ มณฑล เป็นต้น
    จะพากันนำดอกไม้ ธูปเทียน ไปที่วัดเพื่อชุมนุมกันทำพิธีเวียนเทียน รอบพระอุโบสถ
    พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์โดยเจ้าอาวาสจะนำว่า นะโม ๓ จบ จากนั้นกล่าวคำ ถวาย ดอกไม้ธูปเทียน ทุกคนว่าตาม
    จบแล้วเดิน เวียนขวา ตลอดเวลาให้ระลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ จนครบ ๓ รอบ
    แล้วนำดอกไม้ ธูปเทียนไปปักบูชาตามที่ทางวัด เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จพิธี



    บทสวดมนต์ในการทำพิธีวันมาฆบูชามีดังนี้

    ๑. บทสวดมนต์ไหว้พระบูชาพระรัตนตรัย (บทอรหัง สัมมา ฯ)
    ๒. บทสวดนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า (บทนะโมฯ ๓ จบ)
    ๓. บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ (บทอิติปิโส ฯ)
    ๔. บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทองค์ใดพระสัมพุทธ ฯ)
    ๕. บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ (บทสวากขาโต ฯ)
    ๖. บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทธรรมมะคือ คุณากร ฯ)
    ๗. บทสวดสรรเสริญพระสงฆคุณ (บทสุปฏิปันโน ฯ)
    ๘. บทสวดสรรเสริญพระสงฆคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (สงฆ์ใดสาวกศาสดา ฯ)
    ๙. บทสวดพุทธมังคลชยสิทธิคาถา (บทพาหุง ฯ)
    ๑๐. คำแปลบทสวดพุทธมังคลชยสิทธิคาถา สวดทำนองสรภัญญะ (ปางเมื่อพระองค์ ฯ)
    ๑๑. บทสวดบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา (อัชชายัง ฯลฯ)
    ๑๒. คาถาสวดมาฆบูชา


    สำหรับบทสวดในข้อที่ ๑๑ และ ๑๒ นั้น ค่อนข้างยาว เวลาทำพิธีจะมีผู้กล่าวนำ
    หากสนใจรายละเอียดให้ดูในหนังสือมนต์พิธี (หนังสือคู่มือสำหรับสวดมนต์ของพระ)

    [​IMG]

    ในการเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์ จะกระทำ ๓ รอบ โดยเวียนไปทางขวา เรียกว่า เวียนแบบทักขิณาวัฏ

    ในรอบที่ ๑ ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ

    ในรอบที่ ๒ ให้รำลึกถึงคุณพระธรรม โดยภาวนาคาถา บทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ

    ในรอบที่ ๓ ให้รำลึกถึงคุณพระสงฆ์ โดยภาวนาคาถา บทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ



    ข้อสังเกต

    -วันมาฆบูชา ถือว่า เป็นวันพระธรรม
    -วันวิสาขบูชา ถือว่า เป็นวันพระพุทธเจ้า
    -วันอาสาฬหบูชา ถือว่า เป็นวันพระสงฆ์


    ขอให้ท่านพุทธศาสนิกชน จงรักษาวันมาฆบูชาอันเป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนานี้ ไว้ให้อยู่กับประเทศไทยตลอดไป



    ----------
    ที่มา ::
    http://th.wikipedia.org
    http://www.watpamafai.org/index.php?mo=3&art=44841
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2017
  4. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขออนุโมทนาสาธุครับ................
     
  5. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    วันมาฆบูชา เป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงวางแผนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยตั้งเป้าหมาย
    ให้ภิกษุทั้งหมดช่วยกัน โดยมีหลักการ 3 ข้อ คือ
    1. งดทำชั่วทั้งหมด คือการไม่ทำบาปทาง กาย วาจา ใจ
    2. ทำบุญทุกอย่างด้วยกาย วาจา ใจ
    3. พัฒนาคือทำใจของตนให้สะอาด บริสุทธิ์จากสิ่งทั้งปวง คือทำให้ถึงนิพพานให้ได้
    เหล่านี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งในอดีต, ปัจจุบัน, และในอนาคต.

    มีอุดมการณ์ 4 ได้แก่
    1. ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ
    2. ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
    3. ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
    4. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา

    มีวิธีการ 6 (พุทธวิธีในการนำธรรมะสู่จิตใจชาวโลกด้วยเมตตา )
    1. ไม่มีการกล่าวร้ายใคร โจมตีใคร ๆ
    2. ไม่มีการทำร้ายใคร ไม่เบียดเบียน ไม่ใช้ความรุนแรง
    3. รักษาวินัยเคร่งครัด สำรวม กายวาจา ใจ
    4. รู้จักประมาณในการกินอาหาร
    5. อยู่ในที่อันสงบสงัด
    6. ฝึกฝนพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น ด้วยการบำเพ็ญสมาธิอยู่เสมอ
     
  6. Zintellar

    Zintellar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +143
    อนุโมทนาครับ
     
  7. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    เดี๋ยวจะ upload ไฟล์ที่ได้รับการแก้ไขใหม่นะคะ..^_^
    ต้องขออภัยในความไม่สะดวก (กำลังอ่านแก้ไขใหม่อยู่ค่ะ)
     
  8. วัตรธรรม

    วัตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    364
    ค่าพลัง:
    +448
    มหาโมทนาสาธุๆๆ
     
  9. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    แก้ไขไฟล์ใหม่แล้วค่ะ (อ่านใหม่อีกรอบ ^_^ )
     
  10. urai ay

    urai ay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,668
    ค่าพลัง:
    +13,548
    [​IMG] สาธุ สาธุ สาธุ...
    อนุโมทนาทั้งคนอ่านและคนโพส^_^
     
  11. tanaong2011

    tanaong2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    6,205
    ค่าพลัง:
    +7,392
    อนุโมทนาด้วยครับ
    ขอความสุขความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่าน....
     
  12. junoo

    junoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +268
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะคะ
     
  13. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ได้เลยค่ะ...:D
    เจ้าของเสียงต้องการอ่านเป็นธรรมทานอยู่แล้วค่ะ
     
  14. ดอกสร้อย

    ดอกสร้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +4,890
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ
     
  15. KeLBeRoS

    KeLBeRoS Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,409
    ค่าพลัง:
    +6,357
    อนุโมทนาด้วยครับ ยินดีครับ :)
     
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,487
    อนุโมทนาบุญกับความตั้งใจที่จะช่วยส่งเสริมทะนุบำรุงพระศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปนะคะ
    สาธุ สาธุ สาธุ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...