มาสร้างบ้านให้รุกขเทวดาอยู่กันเถอะ 2

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 9 พฤศจิกายน 2013.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    จากหัวข้อแรกที่ผ่านมาแล้ว นั้นคือการชักชวนให้ทุกท่านมาปลูกต้นไม้ ส่วนในครั้งนี้ จะเป็นการแนะนำพันธุ์ที่น่าปลูก แต่ยังไรก็ตาม เนื่องห้องนี้เป็นห้องกระทู้ผี ดังนั้นผมคงไม่สามารถเขียนบทความในเชิงวิทยาศาสตร์เพียวๆ ได้ เพราะถ้าต้องการจะเขียนแบบนั้นคงต้องไปเขียนใน pantip ดังนั้นเนื้อหาจะออกมาในรูป วิทยาศาสตร์+ความเชื่อ

    ต้นลิ้นมังกรที่ผมแนะนำไป บางคนอาจไม่ชอบ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะให้แนะนำไม้ที่อึด ทนทาน อื่นๆ นอกจากลิ้นมังกร ผมขอแนะนำ จั๋ง ต้นจันทน์ผา หมากเหลือง โมก พุด เข็ม หมากผู้หมากเมีย เข็มสามสี สับปะรดสี ดาดตะกั่ว หนวดปลาดุกแคระ หัวใจม่วง หลิวไต้หวัน ไม้เลื้อย (พลูด่าง เคราฤษี เหลืองชัชวาลย์ พวงแก้วมณี ฯลฯ) รายละเอียดดังนี้

    รายชื่อต้นไม้สำหรับสวนดาดฟ้า | community.akanek.com


    และต้นไม้ 40 ชนิด ที่มีในประเทศไทย สามารถดูดสารพิษได้ ที่ ดร. บี ซี วูฟเวอร์ตัน ทดลองวิจัย
    คือ หมากเหลือง จั๋ง ปาล์มไผ่ ยางอินเดีย ไอวี่ สิบสองปันนา ไทรใบเล็ก บอสตันเฟิร์น เดหลี วาสนาอธิษฐาน พลูด่าง เบญจมาศ เยอบีร่า ประกายเงิน เข็มริมแดง มรกตแดง ออมทอง สาวน้อยประแป้ง ปาล์มใบไผ่ ไทรย้อยใบแหลม หนวดปลาหมึก ฟิโลเดนดรอน ฟิโลใบหัวใจ ลิ้นมังกร สโนว์ดรอป ฟิโลหูช้าง สนฉัตร เสน่ห์จันทร์แดง แววมยุรา กล้วยแคระ เศรษฐีเรือนแก้ว กล้วยไม้พันธุ์หวาย เศรษฐีเรือนใน เขียวหมื่นปี ดอกหน้าวัวโกสน ต้นคริสต์มาส ว่านหางจระเข้ สับประรดสี กุหลาบหิน

    สรุป พันธุ์ไม้ทนทาน อึด ปลูกง่ายตายยาก และสามารถใช้ฟอกอากาศได้ ซึ่งผมแนะนำให้ปลูกคือ จั๋ง สับประรดสี พลูด่าง และลิ้นมังกร

    หมายเหตุ ลิ้นมังกรเท่านั้นที่คายออกซิเจนในตอนกลางคืน ดังนั้น จั๋ง สับประรดสี พลูด่าง ไม่ควรปลูกในห้องนอน


    สำหรับผู้ที่มีหัวใจสุนทรีย์ ต้นไม้ปลูกยากไม่เป็นไร ขอให้สวย สดชื่น มีกลิ่นหอม หรือบางคนต้องการปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ได้ร่มเงา ผมก็มีตัวเลือกพันธุ์ไม้อีกหลายชนิดให้เลือก ซึ่งการปลูกก็ยากง่ายแตกต่างกันไปน่ะครับ ซึ่งผมคงจะไม่สามารถบอกถึงวิธีเพาะเลี้ยง ดูแลได้หมดครับ ผมจึงขอนำเสนอต้นไม้มงคลและว่าน 108 ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวไทยเรา

    ไม้มงคลของคนที่เกิดวันอาทิตย์ จะเป็นไม้ดอกสีเหลือง หรือสีส้ม เนื่องจากสีเหลืองและสีส้มเป็นสีที่ถูกโฉลก ต้นไม้ที่เป็นสิริมงคลของคนเกิดวันอาทิตย์มี ดังนี้
    - โป๊ยเซียน จะเป็นพันธุ์ใดก็ได้แต่จะต้องมีดอกสีเหลือง หรือสีส้ม และจะเป็นมงคลอย่างยิ่งหากเป็นสีส้มหรือสีเหลืองในดอกเดียวกัน โป๊ยเซียนไม้แห่งโชคลาภจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
    - โกศล เป็นไม้ที่ใบมีสีสันต่างๆ ทั้งเหลือง เขียว แดง ส้ม ซึ่งก็เป็นสีที่ถูกโฉลก คำว่าโกศลนั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
    - จำปา ถือเป็นต้นไม้ที่จะนำโชค และเหมาะสมกับคนเกิดวันอาทิตย์อย่างยิ่ง
    - ชบา ทั้งที่ดอกสีเหลือง และ สีส้ม ซึ่งจะทำให้บ้านดูสดใส
    - ราชพฤกษ์หรือคูน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าสวยงาม และมีดอกสีเหลืองตัดกับสีของท้องฟ้าในฤดูร้อน จะทำให้บ้านดูสดใส และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
    - กุหลาบ ควรเป็นกุหลาบดอกสีเหลือง หรือส้ม หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันจันทร์ ถ้าเป็นไม้ดอกควรเป็นไม้ที่มีดอกสีขาวหรือเหลืองจะถูกโฉลกมาก คนเกิดวันจันทร์จะมีต้นไม้มงคลให้เลือกปลูก ดังนี้
    - วาสนา ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
    - โกศล นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
    - มะลิ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
    - ราตรี นอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจยังให้ความเป็นสิริมงคลดีมาก
    - มะม่วง นอกจากจะเก็บผลกินได้แล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกร่ำรวยยิ่งขึ้นอีกด้วย
    - กวนอิม เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
    - โป๊ยเซียน ควรเลือกปลูกที่ดอกสีขาว หรือสีเหลือง โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
    - จำปี หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
    - พลูด่าง เป็นไม้ที่เจริญงอกงามง่าย ให้คุณทางด้านการเจริญงอกงามในชีวิต
    - แก้ว คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลุกต้นแก้วไว้จะทำให้คนในบ้านนั้นมีความดี มีความสูงค่า มีจิตใจแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจแก้ว
    - มะละกอ มะยม เชื่อว่าสามารถป้องกันความถ่อย ถ้อยความ และผีร้าย แต่บางตำราว่าจะทำให้ผู้คนนิยมชมชอบ
    - บัวบก กระถิน ท่านว่าสามารถป้องกันเสนียดจัญไร

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันอังคาร สีมงคลของคนวันอังคารคือ สีแดง หรือชมพู ดังนั้นไม้ดอกที่ปลูกควรเป็นสีใดสีหนึ่งนี้ ไม้ประดับที่เป็นสิริมงคล ได้แก่
    - กุหลาบ ควรปลูกที่ดอกสีแดง หรือชมพู เพื่อก่อให้เกิดความเป็นมงคล เกิดความสุขความสบายใจ และมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
    - โป๊ยเซียน เลือกที่ดอกสีแดงหรือชมพู จะช่วยให้มีความโชคดีในชีวิตเสมอ
    - อัญชัน เป็นไม้ประดับที่ให้คุณกับคนเกิดวันอังคารทางด้านความเป็นสิริมงคล
    - โกศล นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
    - เข็ม ควรเป็นเข็มแดงหรือชมพู ปลูกต้นเข็มไว้ในบริเวณบ้านเชื่อว่าจะทำให้สมองปลอดโปร่ง เกิดความคิดความอ่านที่ดี ให้คุณโดยทั่วไปด้วย
    - ชบา ที่ถูกโฉลกต้องเป็นชบาสีแดงหรือชมพู ให้คุณด้านการงานเจริญก้าวหน้าไร้ปัญหาและอุปสรรค
    - พญายอ หากคนวันอังคารปลูกเลี้ยงไว้ท่านว่าจะทำให้ดำเนินชีวิตราบรื่นเป็นสุขสมบูรณ์

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันพุธ มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเกิดพุธกลางวันหรือกลางคืนจะมีไม้มงคลอย่างเดียวกัน และควรเลือกที่มีดอกสีเหลืองซึ่งเป็นสีต้องโฉลก
    - กวนอิม เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
    - วาสนา ชื่อก็เป็นสิริมงคลอยู่แล้ว หากปลูกร่วมกับต้นกวนอิมจะเหมาะสมอย่างยิ่ง ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
    - พลูด่าง เป็นไม้ที่เจริญงอกงามง่าย ให้คุณทางด้านการเจริญงอกงามในชีวิต
    - โป๊ยเซียน ควรเป็นโป๊ยเซียนที่มีดอกสีเหลือง จะต้องโฉลกกว่าสีอื่น ๆ โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
    - มะละกอ กล้วย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยชนิดใด จะให้ผู้ปลูกร่มเย็นเป็นสุขกายสบายใจ
    - ราชพฤกษ์หรือคูน เป็นไม้ที่ให้ความสดใสแก่บ้าน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าที่สวยงาม และสีเหลืองที่จะตัดกับสีของฟ้าในฤดูร้อน และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
    - กุหลาบ หากเป็นสีเหลืองจะดีที่สุดสำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ จะทำให้ประสบกับความสุขสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน
    - โกศล นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
    - ชบา ควรเลือกปลูกชบาที่ดอกสีเหลือง จะต้องโฉลกที่สุด

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี ควรเป็นไม้ดอกสีขาวจึงจะต้องโฉลก
    - มะลิ ถือเป็นไม้มงคลที่สูงค่าจึงนิยมใช้บูชาพระ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
    - จำปี เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่งของผู้เกิดวันพฤหัสบดี หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
    - ราตรี นอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจยังให้ความเป็นสิริมงคลดีมาก
    - พุด ไม่ว่าจะเป็นพุดชนิดใดจะส่งผลให้มีความเจริญ มั่นคง แข็งแรงสมบูรณ็ ทั้งสิ้น แต่ควรเป็นพุดชนิดที่ดอกสีขาว
    - กุหลาบ ควรเป็นดอกสีขาว หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
    - แก้ว ท่านว่าปลูกแล้วจะส่งผลให้คนในบ้านนั้นมีความดี มีความสูงค่า มีจิตใจแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจแก้ว

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันศุกร์ มีดังนี้
    - กุหลาบ ควรเป็นกุหลาบแดง หรือชมพู หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
    - อัญชัน นั้นให้คุณด้านการประสบความสำเร็จในชีวิต
    - เข็ม หากปลูกเข็มไม่ว่าจะสีแดงหรือชมพูไว้ในบ้าน จะทำให้ชีวิตก้าวหน้าไปด้วยดี
    - ชบา เป็นไม้ที่เป็นสิริมงคลของคนเกิดวันศุกร์ จะสีแดงหรือชมพูก็ดีทั้งสิ้น
    - โกศล นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
    - โป๊ยเซียน ควรปลูกที่ดอกสีแดงหรือชมพู โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก

    ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันเสาร์ มีดังนี้
    - วาสนา ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
    - มะลิ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
    - กวนอิม เป็นไม้ที่ชื่อเป็นสิริมงคล ดังนั้นนอกจะเป็นมงคลแก่ผู้เกิดวันเสาร์แล้วยังส่งผลถึงบุคคลอื่นในครอบครัวด้วย เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
    - ชมพู่ หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
    - จำปา ถือเป็นต้นไม้ที่จะนำโชค และเหมาะสมกับคนเกิดวันเสาร์อย่างยิ่ง
    - ราชพฤกษ์หรือคูน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าที่สวยงาม และสีเหลืองที่จะตัดกับสีของฟ้าในฤดูร้อน จะทำให้บ้านดูสดใส และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
    - มะม่วง นอกจากจะเก็บผลกินได้แล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกร่ำรวยยิ่งขึ้นอีกด้วย

    ราศีมังกร
    16 ม.ค.–15 ก.พ.
    ไม้มงคลที่ชาวราศีมังกรควรปลูกคือ แก้ว วาสนา โป๊ยเซียน และกุหลาบ เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา ให้กับตนเอง และเพื่อเสริมความมั่นคงแก่ลูกหลาน นอกจากนี้แล้วยังมีไม้มงคลเพื่อเสริมดวงชะตาให้กับผู้ที่เกิดราศีมังกร คือ ไผ่ ซึ่งแสดงถึงความอดทนความเป็นนักสู้ ราชพฤกษ์ดอกสีเหลืองของราชพฤกษ์เปรียบได้กับความรุ่งเรืองดั่งทอง
    ราศีกุมภ์
    16 ก.พ.-15 มี.ค.
    สำหรับชาวราศีกุมภ์แล้วควรปลูกต้นเข็ม เฟื้องฟ้า หรือ บอนไซ ไว้บริเวณสวนหน้าบ้าน โรงงาน หรือ ร้านค้าของตน เพื่อเป็นสิริมงคลให้เกิดความมั่นคั่ง รุ่งเรือง และมีชีวิตที่ยืนยาว เข็ม เพื่อเสริมพลังความฉลาดเฉียบแหลมของผู้เกิดราศีกุมภ์ เฟื่องฟ้า เป็นพรรณไม้ที่สามารถสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น และเมื่อดอกเฟื้องฟ้าบาน เชื่อว่าจะแสดงถึงชีวิตที่สดใสเบิกบาน สว่าง รุ่งเรือง และความก้าวไกลแห่งชีวิต บอนไซ แสดงถึงความแข็งแกร่ง อดทน สามารถทนอยู่ได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ สมกับเป็นพรรณไม้ของชาวราศีกุมภ์
    ราศีมีน
    16 มี.ค.–15 เม.ย.
    ไม้ที่ช่วยเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง และให้โชคลาภกับผู้เกิดราศีมีน คือ กล้วยไม้ คนโบราณเชื่อว่า กล้วยไม้ จะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม เหมาะกับผู้ปลูกที่มีอุปนิสัยเยือกเย็นอ่อนโยน เฟื่องฟ้าแสดงถึงชีวิตที่รุ่งเรือง สดใสเบิกบาน ต้นวาสนา ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง ถือเป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าสามารถปลูกได้สวยงามและออกดอก เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภ ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ดังหวัง ส่วนไม้ที่ให้พลังอำนาจแก่ชาวราศีมีน เช่น โมก กล้วย มะม่วง จะช่วยเสริมบารมีคุ้มครองบริวารและลูกหลานเช่นกัน
    ราศีเมษ
    16 เม.ย.–15 พ.ค.
    มะยม และ มะขาม เป็นไม้มงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดราศีเมษ ต้นไม้ทั้งสองนี้จะเป็นพลังช่วยหนุนให้ชาวราศีเมษประสบความสำเร็จในชีวิต และในหน้าที่การงาน มะยม ปลูกแล้วจะทำให้มีคนนิยมชมชอบ มีเมตตามหานิยม สำหรับมะขามจะทำให้มีแต่ผู้คนเกรงขาม ให้ความนับถือ นอกจากนี้ยังมีต้นเฟื้องฟ้าที่จะทำให้ชาวราศีเมษมีชีวิตที่รุ่งเรือง สว่างไสว และสดใสเบิกบาน
    ราศีพฤษภ
    16 พ.ค.–15 มิ.ย.
    ต้นไม้มงคล ที่ชาวราศีพฤษภควรปลูกที่บ้าน โรงงาน หรือ ร้านค้า คือ โมก ดอกสีขาวของโมกจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์สดใส และโบราณยังเชื่อว่าต้นโมกสามารถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งปวงจากภายนอก และควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านและควรปลูกในวันเสาร์ แก้ว จะทำให้มีโชคมีลาภ คนในบ้านจะมีความดี มีคุณค่าสูง ควรปลูกทางทิศ ตะวันออกและควรปลูกในวันพุธ ส้มโอ เป็นต้นไม้ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์
    ราศีเมถุน
    16 มิ.ย.-15 ก.ค.
    ต้นไม้มงคลสำหรับชาวราศีเมถุน คือ โมกจะทำให้เกิดความสุข ความบริสุทธิ์ และความสดใส เข็ม ควรปลูกเป็นร่องตรงประตูบ้าน หรือสองฝากทางเข้าบ้านจะทำให้ชะตารุ่งเรือง อุปสรรคและปัญหาไม่กล้ำกลายทับทิม เพื่อให้เกิดความสงบร่มเย็นของชีวิต โป๊ยเซียน ถือเป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าปลูกออกดอกได้มากกว่า 8 ดอก ผู้ปลูกและคนในบ้านจะมีโชคลาภ และยังเชื่อว่าโป๊ยเซียนช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข กุหลาบ หากปลูกไว้ประจำบ้าน จะเกิดความสง่าภาคภูมิ จะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่งชีวิตที่สูง
    ราศีกรกฎ
    16 ก.ค.–15 ส.ค.
    กล้วยไม้ เป็นไม้ดอกที่ให้โชคลาภและเหมาะกับผู้ปลูกที่มีอุปนิสัยเยือกเย็นอ่อนโยน เช่นชาวราศีกรกฎ กล้วยไม้จะออกดอกต้องได้รับการดูแลด้วยความหมั่นเพียร ดอกที่สวยงาม จะทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็น และเชื่อว่าจะ ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม ชมพู่ ช่วยให้อุดมทรัพย์ มั่งมีเงินทอง วาสนา ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง พลูด่าง นำพามาซึ่งความร่มเย็น เป็นสุข เฟื่องฟ้าจะช่วยเสริมให้ชีวิตสดใสเบิกบาน
    ราศีสิงห์
    16 ส.ค.–15 ก.ย.
    ชาวราศีสิงห์ควรปลูก ขนุน ซึ่งนับได้ว่าเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย ตามโบราณเชื่อกันว่า การปลูกต้นขนุนในบริเวณบ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง มีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ จำปี ดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆโป๊ยเซียน เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง เป็นไม้เสี่ยงทาย เชื่อว่าถ้าออกดอก 8 ดอกแล้วจะทำให้มีโชคลาภ กล้วยไม้ ดอกสวยของกล้วยไม้ย่อมเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น จึงถือเคล็ดที่ว่าการปลูกกล้วยไม้จะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป
    ราศีกันย์
    16 ก.ย.–15 ต.ค.
    ต้นไม้ที่เป็นมงคลกับชาวราศีกันย์คือ สนฉัตร ทำให้มีเกียรติและความสง่า ได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไป ควรปลูกทางทิศเหนือและปลูกในวันเสาร์เพื่อเป็นสิริมงคล ราชพฤกษ์ ปลูกไว้จะช่วยเสริมให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและบารมี เฟื้องฟ้าทำให้เกิดความสดใส เบิกบาน มีชีวิตที่เฟื่องฟู โป๊ยเซียนจะนำมาซึ่งโชคลาภ ขนุน เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย การปลูกต้นขนุนบริเวณบ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือช่วยเหลือ ขนุนจึงเหมาะกับผู้ที่เกิดราศีกันย์ มะยม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมชมชอบนับหน้าถือตา
    ราศีตุลย์
    16 ต.ค.–15 พ.ย.
    ไม้มงคลที่ผู้เกิดราศีตุลย์ ควรปลูกไว้ประจำบ้านคือ หมากแดง ปาล์ม พลูด่าง โกสน ปลูกไว้จะช่วยเสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข จำปี ดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ จำปา ดอกไม้ที่ใช้แสดงถึงความรักมาแต่โบราณ การปลูกจำปาก็เพื่อแสดงถึงความรักต่อผู้อื่นและเพื่อให้มีแต่คนรัก เฟิร์นข้าหลวง จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก
    ราศีพิจิก
    16 พ.ย.–15 ธ.ค.
    ต้นไม้ที่เป็นมงคลแก่ผู้ที่เกิดราศีพิจิก ได้แก่ พวงแสด ปาล์ม เฟื่องฟ้า แสดงถึงชีวิตที่สว่างไสวรุ่งเรือง สดใสเบิกบาน เบญจมาศ ช่วยให้รุ่งเรืองมั่นคง ขนุน ช่วยให้เกิดความรุ่งเรืองมั่นคง เป็นไม้มงคลแต่โบราณ เชื่อกันว่า การปลูกต้นขนุนในบริเวณบ้านจะช่วยหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ ว่านสี่ทิศ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ต่างถิ่น ในทิศใดก็จะแคล้วคลาด ปลอดภัย และมีแต่ผู้ให้ความช่วยเหลือ
    ราศีธนู
    16 ธ.ค.–15 ม.ค.
    ไม้มงคล ไม้ที่ช่วยเสริมมงคลชีวิตให้ชาวราศีธนูคือ บัว บ้านใดปลูกบัว จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เบิกบาน ทำให้คนในครอบครัวมีความห่วงใยผูกพันกัน เฟิร์นข้าหลวง จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก แก้วช่วยกระจายอุปสรรคปัญหาออกไปจากชีวิต นอกจากนี้ยังมี พลูด่าง และ โป๊ยเซียน จะช่วยเสริมโชคลาภแก่ชาวราศีธนูอีกด้วย

    นอกจากความเชื่อเรื่องการปลูกต้นไม้ตามวันเกิดและราศีแล้ว ยังมีความเชื่อการปลูกต้นไม้ประจำทิศ ดังนี้

    ทิศเหนือ ปลูกมะตูม ทุเรียน หัวว่านต่าง ๆ เสริมในเรื่องบารมี ความก้าวหน้า

    ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกทุเรียน ไม้ดอกสีสันสดใส แดงชมพูส้ม ดอกมะลิ หมายถึง ความสุข ร่มเย็น

    ทิศตะวันออก ปลูกต้นสารภีและมะพร้าว จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ ต้นทับทิมหรือไม้ดอกสีแดงจะนำพลังที่ดีมาให้ และหมายถึงลูกหลานหรือบริวารที่ดี

    ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกต้นไผ่ ทำให้มีลาภยศ หรือการเลื่อนตำแหน่ง การ มีเกียรติยศ การปลูกต้นยอ หรือสารภี ก็เป็นมงคล

    ทิศใต้ ควรปลูกมะม่วง มะปราง หมายถึง ความรุ่งเรือง มั่งคั่ง ทรัพย์สิน

    ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกราชพฤกษ์ ต้นคูน ต้นขนุน ต้นพิกุล หรือต้นสะเดา จะไกลจากอบายมุขและสิ่งชั่วร้าย กันตนและลูกหลานไม่ให้ติดยาเสพติด มัวเมากับการพนัน

    ทิศตะวันตก ปลูกมะยม ความเชื่อของคนที่บอกว่ามะยมปลูกหน้าบ้านเป็นความเชื่อที่ผิด รวมไปถึงมะขาม ซึ่งมะยม ไม่ได้หมายถึง คนจะมานิยม แต่จะกันเสนียดจัญไร กันเรื่องของคดีความ กันเรื่องความอื้อฉาว และกันคนนำของเข้าบ้าน

    ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะกรูด มะนาว ส้มโอ ส้มจี๊ด ส้มป่อย ดีในเรื่องของให้คนเอ็นดู รักใคร่ คนจะชอบพอเรา เพราะฉะนั้นถ้าเราปลูกแบบนี้ทั้งบ้าน บริเวณสวนรอบบ้าน แล้วจัดสวนให้สวยโดยมีไม้มงคลเหล่านี้เป็นหลัก ก็จะส่งผลให้ชีวิตเรามีความสุข
    ทีมวาไรตี้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

    อานุภาพแห่งว่านมงคล 108 ชนิด
    อานุภาพแห่งว่านมงคล 108 ชนิด ตามตำราโบราณกล่าวไว้ดังนี้
    1.ว่านตระกูลกวัก ซึ่ง บันทึกไว้ในตำราสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่ามีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครอง ประกอบด้วย ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง ว่านกวักนางพญาใหญ่ ว่านกวักนางพญาเล็ก หรือ ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี ว่านกวักมาคาวดี หรือ ว่านมหาโชค ว่านกวักหงสาวดี ว่านกวักแม่จันทร์ ว่านกวักโพธิ์เงิน ว่านกวักทองใบ ว่านกวักเงิน กวักทอง ว่านกวักเศรษฐีพญาบดินทร์ ว่านกวักนางพญาเผือก โดยเฉพาะว่านกวักนางพญา ถือกันว่า เป็นว่าน ที่มีตระกูลสูงส่งผลทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เรียกอีกอย่างว่า ว่านทรงยศ ทรงเกียรติ เป็นสง่าราศีแก่ผู้พบเห็น
    2.ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ประกอบ ด้วย เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทอง อานุภาพของว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น โบราณใช้ทำนางกวัก ค้าขายดี มีโชคลาภ
    3.ว่านตระกูลเศรษฐี เป็น ว่านที่บ่งบอกในตัวเอง อานุภาพให้คุณทางด้านลาภผล เงินทอง โบราณกล่าวว่า ผู้ใดได้ครอบครอง จะเจริญด้วยฐานะ บริบูรณ์ ด้วย โภคทรัพย์ ข้าทาสบริวาร จัดเป็นตระกูลว่านที่นิยม อย่างยิ่ง โบราณมักจะนำมาปลูกในกระถางที่มีค่า เช่น กระถางลายคราม ดังนั้น จึงเป็นว่านตระกูลสูงอีกประเภทหนึ่งมีดังนี้ ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านเศรษฐีขอด (กอบ ทรัพย์) ว่านเศรษฐีด่าง ว่านเศรษฐีมงคล ว่านมหาเศรษฐี ว่านเศรษฐีจีน ว่านเศรษฐีญวน ว่านเศรษฐีแขก ว่านเศรษฐีใบพาย ว่านเศรษฐีใบโพธิ์ ว่านเศรษฐีเรือนใหญ่ ว่านเศรษฐีเรือนแก้ว
    4.ว่านโกเมน อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ
    5.ว่านหม่องเล ว่านนี้ตามตำราพม่ากล่าวว่า มีอานุภาพ เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน เรียกมิตรมาหาร้านค้าขาย ควรมีว่านชนิดนี้ไว้ครอบครอง
    6.ว่านไก่กุก อานุภาพ ทางเสน่ห์เมตตานิยม ซึ่งว่านนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันลือชื่อก็ได้ใช้ว่านนี้เป็นส่วนผสมในพระสมเด็จวัดระฆัง ที่ท่านสร้างด้วย
    7.ว่านไก่ฟ้าพญาแล อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม
    8.ว่านกำแพงเจ็ดชั้น มีอานุภาพทางด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย กันและแก้ คุณไสยภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลทั้งปวงไม่ให้กล้ำกราย
    9.ว่านกระแจะจันทร์หงสา มีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตา นิยม เป็นที่รัก เมตตาแก่ผู้พบเห็น
    10.ว่านคุ้มรจนา มีอานุภาพคุ้มครองปกป้องเคหสถาน บ้านเรือนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
    11.ว่านเครือสาวหลง เป็น ว่านพิเศษที่มีลักษณะฝอยๆ ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าลึก มีกลิ่นหอมตลอดเวลา มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงมาก ซึ่งว่านนี้พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้ให้พวกที่หาของป่า และนำมาวางขายในวัดช่วงงานประจำปี ไปหามาจากป่าลึกทางภาคเหนือ
    12.ว่านเงินไหลมา มีอานุภาพเรียกเงินทองให้เข้ามาสู่เคหะสถาน บ้านเรือน ทั้งยังคุ้มครองปกป้อง เป็นว่านนิยมมากของคนไทย
    13.ว่านเงาะถอดรูป มี อิทธิฤทธิ์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น ดีทางค้าขาย ประดุจเงาะถอดรูป ใครเห็นใครก็รัก แล้วยังมีอานุภาพเรียกลูกค้าเข้ามาสู่ร้านค้าอีกด้วย
    14.ว่านช้างพลาย มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นสง่าราศี ขับเสนียดจัญไร ศัตรูหมู่มาร เป็นเดชอำนาจบารมี
    15.ว่านช้างดำ มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกัน เสมือนเกราะแก้ว คุ้มกัน และ ป้องกันไฟเวทย์มนต์คาถาทำอันตรายไม่ได้
    16.ว่านญาณรังษี มีอานุภาพประดุจพทุธานุภาพแห่งพระพุทธองค์ หัวว่านนี้ มีลักษณะชั้นๆ 3 ชั้น คล้ายพระพุทธรูปประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์
    17.ว่านถุงเงินถุงทอง มีอานุภาพทางด้านโภคทรัพย์ ประดุจถุงเงินถุงทอง ในเคหะสถานบ้านเรือนดีทางโชคลาภ และป้องกันคุณไสยต่างๆ
    18.ว่านทองไหลมา เป็นว่านมงคลคู่กัยว่านเงินไหลมา อานุภาพให้ผู้ครอบครองมีโชคลาภอยู่เป็นนิจ
    19.ว่านเทพรำพึง เป็นเอกทางด้านเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง
    20.ว่านธรรมรักษา เป็นว่านสิริมงคล โน้มน้าวให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรม ป้งอกันภัยพิบัติ
    21.ว่านนางพญาหงษ์ทอง เป็นว่านทางเมตตามหานิยม เจรจาสิ่งใดจะเป็นที่พอใจถูกอัธยาศัยกับผู้ที่พบเห็น
    22.ว่านนพมาศ เป็น ว่านเก่าแก่ครั้งกรุงสุโขทัย มีอานุภาพป้องกันเสนียจัญไร คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ เป็นสิริมงคล พร้อมพรั่งทางด้านเมตตานิยม เป็นสง่าราศี
    23.ว่านนเรศวร เป็นว่านที่ทรงอานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู หมู่มาร และ คุ้มครองปกป้องเป็นเลิศ
    24.ว่านน้ำเต้าทอง เด่นทางเมตตา โชคลาภ ทั้งยังมีคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพัน
    25.ว่านปัดตลอด อานุภาพทางด้านแคล้วคลาด ปราศจาก อุปสรรค
    26.ว่านปัญจเศวตร มีอานุภาพด้านคุ้มครอง ปกป้องเป็นตบะบารมี
    27.ว่านประกายเพชร ดีทางโชคลาภ เป็นเสน่ห์มหานิยม เจริญด้วยโภคทรัพย์
    28.ว่านพญาหัวเสือ เด่นทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เป็นตบะเดชะ นะจังงัง และ คงกระพันชาตรี
    29.ว่านพญากาเผือก เป็นว่านที่ดีทางเรียกโชค เรียกลาภ เด่านเป็นสง่า คือ เมตตาหานิยม
    30.ว่านเพชรกลับดำ อานุภาพเด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล ไปที่ใดปราศจากอันตราย และกลับถึงเคหะสถานได้เป็นอัศจรรย์
    31.ว่านเพชรหลีก ดีทางแคล้วคลาดจากภยันตราย ศาตราวุธ ทั้งปวง
    32.ว่านมหาอุตม์ มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี เป็นว่านเก่าโบราณ
    33.ว่านมหาหงษ์แดง เป็นว่านที่มีสิริมงคล คนโบราณมักพกพากับตัวเวลาเข้าหาเจ้านาย ว่ากันว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมยิ่งนัก
    34.ว่านมงคลชัย เป็นว่านที่มีสิริมงคลตามชื่อว่าน ศัตรูหมู่มารมิอยากเข้าใกล้ ก็ด้วยอานุภาพแห่งชัยมงคลของว่านนี้
    35.ว่านวาสนาทางลาย เด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความสมบูรณ์พูนสุข
    36.ว่านแววมยุรา เป็นว่านที่มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม นำโชคลาภเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนผู้ครอบครอง
    37.ว่านสาริกาลิ้นทอง มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมโบราณใช้โขลกตำผสมกับสีผึ้งทาปาก เพื่อไปติดต่อเจรจาค้าขาย จะเป็นที่เมตตาและสำเร็จตามปรารถนา
    38.ว่านกระทู้เจ็ดแบก เป็นว่านเด่นทางคงกระพันชาตรี นักรบโบราณมักใช้ว่านนี้ในการรพทัพจับศึก
    39.ว่านกำบัง มีอานุภาพป้องกันสรรพภัย คุณไสยเวทย์วิทยาคมที่ประสงค์ร้าย และ แคล้วคลาดปราศจากเหตุร้าย
    40.ว่านกงจักรพระอินทร์ เป็นว่านดีทางอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยมเป็นอำนาจป้องปราบ ข้าศึกศัตรู
    41.ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด ว่าน นี้อยู่ที่ใดก็นำความเจริญ มาสู่ที่นั่น ทั้งยังนำโชคลาภความเจริญ ความมีเมตตามหานิยม และความร่มเย็นเป็นสุขมั่งคั่ง สมบูรณ์พูนผล เจริญในหน้าที่การงาน ว่านนี้พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระเกจิอาจารย์ ผู้สร้างพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน อันโด่งดัง กล่าวไว้ว่า ว่านนี่เป็น “พญาว่าน” มีอานุภาพมาก ท่านเคยนำไปสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อขมิ้นขาว ปัจจุบันองค์ละหลายหมื่นบาท
    42.ว่านค้ำคูณ เป็นว่านดีทางเมตตามหานิยมแก่เคหสถาน บ้านเรือน ค้ำจุนชะตาชีวิต เพิ่มพูนพลัง
    43.ว่านเพรชหน้าทั่ง เป็นว่านเสน่ห์มหานิยมและคงกระพันชาตรี
    44.จ่าว่าน เป็นว่านอานุภาพสูง มีสรรพคุณคุมกำลังว่านต่างๆ ให้ทรงด้วยอานุภาพ ป้องกันเสนียดจัญไร พิษร้ายต่างๆ
    45.ว่านจังงัง เป็นเมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่เมตตาแก่ศัตรูหมู่มารทำให้ไม่กล้าคิดร้าย อำนาจของว่านจะทำให้ศัตรูเกิดจังงัง
    46.ว่านดาบหลวง เป็นว่านที่มีอำนาจป้องกันฟ้าผ่า ป้องกันอันตรายแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เป็นตบะเดชะและเสน่ห์ มหานิยมแก่ผู้พบเห็น
    47.ว่านฤษี ดีทางเสน่ห์มหานิยมยอดเยี่ยม เข้าหาเจ้านายดียิ่งนัก
    48.ว่านถอนโมกขศักดิ์ ใช้ดีทางด้านแก้ถอนคุณไสย ยาเบื่อเมาทุกประเภท
    49.ว่านเถาวัลย์หลง ดีทางเจรจาพาที เป็นที่เมตตามหานิยม กลับจากโกรธเป็นรักเมตตา เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี
    50.ว่านเทพรัญจวน ให้ในทางเมตตามหานิยม เป็นที่รัก เมตตาต่อผู้พบเห็น51.ว่านนางล้อม เป็นว่านมหามงคล ป้องกันสรรพสัตว์ทั้งปวง และศัตรูหมู่มาร เมื่อเกิดเรื่องราวใด จะได้รับชัยชนะเสมอ52.ว่านนางคุ้ม ป้องกันไฟ และคุ้มกันภยันตรายต่างๆ โบราณกล่าวว่า ว่านนางคุ้มมีไว้คุ้มครองบ้านเรือน เสมือนมีเกราะเพชรไว้ป้องกันภัยถึง 7 ชั้น
    53.ว่านปลาไหลม่วง เป็นว่านแก้คุณไสย ลมเพลมพัด กันอัปมงคลต่างๆ
    54.ว่านเพ็ชรนารายณ์ เป็นว่านตระกูลสูง มีอำนาจตบะเดชะ เพิ่มพูนบารมีและเจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์
    55.ว่านเพ็ชรกลับ ว่าน นี้มีอานุภาพอยู่ยงคงกระพัน เป็นว่านป้องกันการถูกคุณไสยและแก้อาถรรพ์ ป้องกันอุบัติเหตุ เป็นมงคลแก้วคุ้มครองป้องกันทั้งไปและกลับ ปราศจากอันตราย
    56.ว่านพัดโบก เป็นว่านมหามงคลสูงพร้อมด้วยเมตตา มหานิยม โบราณว่าว่านนี้อยู่บ้านใดจะได้ลาภมหาศาล นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่บ้านเรือน
    57.ว่านไพรปลุกเสก อานุภาพเกิดลาภผล ความอุดมสมบูรณ์พูนสุขเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังแก้คุณไสย ขับภูติ ผี ปีศาจ
    58.ว่านพุทธกัวก ว่านนี้ดีทางเมตตาและทางการค้า เป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ครอบครอง
    59.ว่านนางพญาห้าร้อย มีสรรพคุณทางเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ชน
    60.ว่านพญาจงอาง อานุภาพด้านกันงูและสัตว์มีพิษ ตลอดจนสรรพภัยทุกชนิดไม่ให้กล้ำกลาย
    61.ว่านพระฉิม เป็นสิริมงคล อุดมด้วยโภคทรัพย์และคงกระพันชาตรี
    62.ว่านพะตะบะ ใช้กันภูติ ผี ปีศาจ มีอานภาพสูงมาก วิญญาณต่างๆ จะไม่เข้าใกล้ แต่เทพยดาอารักษ์จะรู้จักว่านชนิดนี้ดี
    63.ว่านพรายแก้ว เป็นว่านคงกระพันชาตรี เป็นเสน่ห์มหานิยมสำหรับร้านค้าขาย
    64.ว่านมหานิยม ตรงตามชื่อ เป็นเมตตามหานิยม สิริมงคล ต่อผู้ครอบครอง
    65.ว่านแม่ทัพ มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เพิ่มพูนตบะเดชะ อำนาจบารมี
    66.ว่านมหาเมฆ เป็นว่านนิยมมาตั้งแต่โบราณ ดีทางคลกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ
    67.ว่านมหาปราบ สรรพคุณดีทางฤทธิ์และอำนาจ อยู่ยงคงกระพัน ป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ ได้ดียิ่งนัก
    68.ว่านมรกต ดีทางคงกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ
    69.ว่านมหาเสน่ห์ อานุภาพดีทางเสน่ห์มหานิยม เป็นว่านมีอานุภาพชั้นสูง ดึงดูดจิตใจผู้คนใช้ทางค้าขาย มีสรรพคุณเป็นเลิศ
    70.ว่านมหาอุดม เป็นว่านมหานิยมสูงมาก เป็นที่รักใคร่ เมตตาแก่ผู้ที่พบเห็น
    71.ว่านมหาจักรพรรดิ ใช้ดีทางเมตตามหานิยม มีอิทธิฤทธิ์ทางคุ้มครองเคหสถานบ้านเรือน ป้องกันเสนียดจัญไร อีกชื่อคือ ว่านอรหันต์แปดทิศ
    72.ว่านมหากวัก อานุภาพ สิริมงคล ส่งเสริมกิจการธุรกิจการค้าและเจริญก้าวหน้า เข้าเจรจากับผู้ใหญ่เป็นที่รักของผู้คนโบราณเอาว่านนี้ แช่น้ำมนต์ประพรมร้านค้า จะค้าขายดีมาก
    73.ว่านรางจืดเถา มีอานุภาพทางถอนพิษ ถอนยาสั่งโบราณว่าว่านนี้มีค่า 5,000 ตำลึงทอง ดังนั้นต้องเป็นว่านที่ไม่ธรรมดา
    74.ว่านภควัมบดี มีอานุภาพเป็นศรีสง่า สิริมงคลนำโชคลาภบันดาลให้เจริญด้วยโภคทรัพย์ มีความอุดมสมบูรณ์และอยู่เย็นเป็นสุข
    75.ว่านศรนารายณ์ มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี และเมตตามหามงคล
    76.ว่านสามพันตึง มีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี ต่อศัตราวุธทั้งปวง
    77.ว่านสามกษัตริย์ เป็นเมตตามหานิยมรักใคร่และความเจริญรุ่งเรือง
    78.ว่านสาวหลง เป็น ว่านที่ทรงคุณค่าทางด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด โบราณกล่าวว่า ว่านนี้ไม่เป็นเสนียดจัญไร มีอานุภาพสูงล้ำเกิดเสน่ห์เมตตาเจรจากับใครไม่มีรังเกียจ ทั้งยังเป็นว่านที่ดีทางโภคทรัพย์พกไว้ เงินจะไม่ขาดกระเป๋า
    79.ว่านเหล็กไหล ดีทางด้านคงกระพันชาตรี มีตบะเดชะ
    80.ว่านพัดแม่ชี มีอานุภาพสูงทางด้านปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ป้องกันอำนาจคุณไสย และผู้ที่คิดร้าย ว่านี้ใช้ถอนคุณไสยได้
    81.ว่านอุมาวดี มีอานุภาพบันดาลให้ประสบโชคลาภ ความร่มเย็นเป็นสุข
    82.ว่านกวักพระพรหม เป็น ว่านที่มีอานุภาพสูง นำโชคลาภความร่มเย็น เป็นสุขมาสู่เคหสถานบ้านเรือน เจริญรุ่งเรืองและคุ้มครอง ป้องกันภัยอันตรายได้อย่างดีเยี่ยม
    83.ว่านกระบี่ทอง มีสรรพคุณทางคงกะพันชาตรี
    84.ว่านกุมารทอง มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี ค้าขายดี มีกำไรเป็นสิริมงคลทั้งยังมีอำนาจ มีเทวดารักษาคุ้มครอง
    85.ว่านกาสัก มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย
    86.ว่านกบ เป็นว่านมีเทพรักษา มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี ป้องกัน ไม่ให้ภัยพิบัติมาแผ้วพาล
    87.ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์ ดีทางด้านเมตตามหานิยม ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม
    88.ว่านเขียวพันปี ให้คุณทางด้านเมตตามหานิยม
    89.ว่านพระยาค่าง ให้คุณทางด้านคงกระพันชาตรี
    90.ว่านเฉลิม ตำราว่านกล่าวว่า ว่านนี้ดีทางเมตตามหานิยม คนเห็นคนรักคนชอบ
    91.ว่านเณรแก้ว เป็นเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี
    92.ว่านรางเงิน เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ
    93.ว่านรางทอง เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ
    94.ว่านรางนาค เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ
    95.ว่านสิทธิโชค เป็นว่านที่มากด้วยสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้ประสบโชคลาภ
    96.ว่านแสนนางล้อม เป็นว่านที่มีสิริมงคลและป้องกันอัคคีภัยได้
    97.ว่านเสือสามทุ่ง มีอานุภาพทางด้านบารมี ปกป้อง คุ้มครองเป็นตบะเดชะอำนาจ
    98.ว่านปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีอำนาจเดชบารมี อยู่ที่ใดมักมีทรัพย์สมบัติมิได้ขาด
    99.ว่านแสงอาทิตย์ มีอิทธิฤทธิ์อำนาจ ความร่มเย็นเป็นสุข
    100.ว่านสบู่เหล็ก มีสรรพคุณทางคงกระพันชาตรี
    101.ว่านหอมดำ เป็นว่านมีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี
    102.ว่านหางเสือ มีอานุภาพทางด้านป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ และคุณไสยต่างๆ
    103.ว่านพญาหงส์เงิน ดีทางด้านเมตตามหานิยมและเดชอำนาจ
    104.ว่านลิ้นกระทิงลาย ดีทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี ป้องกันอันตรายจากหมู่มาร
    105.ว่านกลิ้งกลางดง มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี
    106.ว่านสบู่เลือด ดีทางด้านคงกระพันชาตรี โบราณนิยมมาสร้างพระ เช่น พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม
    107.ว่านท้าวชมพู ดีทางคงกระพันชาตรี
    108.ว่านชมพูหนังแห้ง ดีทางคงกระพันชาตรีป้องกันศัตราวุธ เป็นว่านที่ดีมาก
    อ้างอิง คุณอุ๊ กรุงสยาม
    จาก นิตยสารตลาดพระดอทคอม ปีที่1 ฉบับที่1 / ธันวาคม 2546

    กล่าวโดยสรุป สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกต้นไม้ ในขั้นนี้ ท่านต้องเลือกพันธุ์ไม้ครับ แล้วคราวหน้าจะเป็นเรื่องทำอย่างไรให้ต้นไม้ขลังหรือมีเทวดามาอาศัยในต้นไม้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ช่วงนี้เผาหัวกันต่อ สำหรับคนที่ไม่ต้องการปลูกต้นไม้

    ปัญหาคนกรุง!มลพิษทางอากาศ
    คนกรุงอ่วมมลพิษทางอากาศเพิ่ม ส่งผลโรคระบบทางเดินหายใจพุ่งเฉียดปีละ 3 หมื่นราย กทม.ชี้แคมเปญรถยนต์คันแรกรัฐบาล ต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาสังคม
    วันที่ 14 ธ.ค. 2555 คนกรุงเทพฯพบเจอมลพิษทางอากาศเพิ่ม ส่งผลโรคระบบทางเดินหายใจ ปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพมหานครในปี 2555 ซึ่งสาเหตุ
    ส่วนหนึ่งมาจากปริมาณรถที่หนาแน่นมากขึ้น จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.ที่มีรายงานการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่สูงถึง 2 แสนคันจนทำให้เกิดความ
    แออัดในบริเวณถนนสายหลักทั่วพื้นที่ กทม. ลุ้นคลอดมาตรการดันเก็บภาษี รถยนต์ที่เข้าพื้นที่แออัด เตรียมถกหน่วยงานรัฐ เปิดถนน 5 สายชั้นในพบความเร็วเฉลียวิ่งช้าลง

    คนกรุงอ่วมโรคทางเดินหายใจพุ่ง3หมื่นต่อปี
    ด้านพญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวยอมรับว่า ความหนาแน่นของรถยนต์ส่วนบุคคลที่วิ่งในเขตพื้นที่กทม.นั้น ส่งผลให้มลพิษทางอากาศ
    ในกทม.มีความวิกฤติขึ้นอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน และสารมลพิษอื่นๆเช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ไนโตรเจนได
    ออกไซด์ ก๊าซโอโซนที่ถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศนั้นส่งผลต่อสุขภาพของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องสูดเอาฝุ่นละอองหรืออากาศเป็นพิษเข้าไปในปอดด้วย ซึ่งจากข้อมูลสถิติ
    การเจ็บป่วย ที่กองวิชาการ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เก็บข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2548-2554 พบแนวโน้มโรคระบบทางเดินหายใจมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้นทุกๆปีเฉลี่ยปี
    ละ 20,000-30,000 ราย เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด เป็นต้น
    'ด้านสถิติคนเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจในกลุ่มโรคต่างๆมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากตัวเลขปี 2548 ที่มีเพียง 242,405 รายเพิ่มเป็น 305,929 รายในปี 2551
    ส่วนปี 2552 จำนวน 365,372 ราย และเพิ่มเป็น 363,744 รายในปี 2553 ขณะที่ปี 2554 สูงขึ้นเป็น 381,184 รายแล้ว ทั้งนี้นัยที่เป็นรูปธรรมจากความเจ็บป่วยของโรคระบบทางเดินหายใจ ที่สัมพันธ์กับมลพิษทางอากาศที่มาจากปัญหาการจราจรที่ติดหนักมากในพื้นที่ กทม.เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก โดยกทม.อาจจะต้องหาคนมาทำวิจัยเชิงลึกใน
    เรื่องสุขภาพโดยตรง เพราะเป็นปัญหาในระยะยาวที่ส่งผลต่อคนที่ต้องทำมาหากินอยู่ที่นี่' รองผวจ.กทม.ระบุ

    หนุนเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบกรุง
    ส่วนคำถามที่ว่าในส่วนกทม.จะมีมาตรการแก้ปัญหาอะไรหรือไม่ พญ.มาลินี กล่าวว่า 'ขณะนี้ทางกทม.ได้มีแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตกทม.และปริมณฑลเพื่อเป็นแหล่ง
    กรองอากาศพิษ โดยสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ 5,025 ไร่ภายในระยะเวลาอีก 4 ปี เพิ่มสวนสาธารณะ 4 แห่งได้กว่า 60 ไร่ และอีก 3 สวนพื้นที่รวมกันร่วม 200 ไร่ที่อยู่ระหว่าง
    การก่อสร้างคือ สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เขตบางบอนพื้นที่ 100 ไร่ บริเวณทางแยกต่างระดับวัชรพลเขตบางเขน 21 ไร่ และสวนบริเวณซอยเพชรเกษม69 พื้นที่ 70 ไร่
    โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2556 เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำสัญญาเช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2575 หรืออีก 20ปีข้างหน้าจะต้องเพิ่ม
    สัดส่วนพื้นที่สีเขียวให้ได้เป็น 9ตรม.ต่อคน จากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 4.73 ตรม.ต่อคนเท่านั้น



    ใช้ชีวิต-ทำงานแต่ในตึก รู้วิธีป้องโรค Sick Building Syndrome ด้วยตัวเอง

    Sick Building Syndrome (SBS) คือ ภาวะผิดปกติด้านสุขภาพทางตา จมูก ลำคอ การหายใจส่วนล่าง ผิวหนังและอาการทั่วไปที่เกิดขึ้นคล้ายกัน ในกลุ่มคนทำงานในอาคารสำนักงานที่มีความเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่อยู่ในอาคาร แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่นอนได้ ปัญหาอาจเกิดขึ้นเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารหรือกับทุกส่วนของอาคารก็ได้ โดยอาการป่วยดังกล่าวเป็นอาการที่ไม่มีลักษณะเฉพาะโรค มักเกิดในสำนักงาน แต่อาการจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อออกนอกอาคาร

    สาเหตุ

    ปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นมาหลังจากได้มีการใช้อาคารแล้วซึ่งอาจเป็นเพราะการดีไซน์อาคารที่ไม่ดีมาตั้งแต่แรก หรือการมีระบบดูแลรักษาอาคารที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ แต่อีกเหตุผลที่เป็นไปได้คือ กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในอาคารเองก็มีส่วนทำให้อะไร ๆ ดูแย่ลงได้

    อากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ทำให้ปริมาณอากาศภายนอกที่เข้าไปแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกับอากาศภายในอาคารลดลง

    มีสารเคมีฟุ้งกระจายภายในอาคารในปริมาณสูงแหล่งของสารเคมีที่พบบ่อยคือ กาว น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนประกอบของสารฟอร์มาลดีไฮด์ การทำงานเกี่ยวกับอุปกรณ์หรือวัสดุที่เป็นไม้ เครื่องถ่ายเอกสาร ปริ๊นเตอร์ ยาฆ่าแมลง ควันบุหรี่ในอาคาร เตาอบที่ใช้แก๊ส รวมถึงสารระเหยจากสีทาผนัง ไม้อัด สารเคลือบเงาทั้งหลายหรือรังสีจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตาไมโครเวฟ

    สารเคมีจากภายนอกอาการ เช่น ก๊าซจากรถยนต์หรือจักรยานยนต์ ควันจากการปรุงอาหารประกอบกับการถ่ายเทอากาศภายในที่ไม่เพียงพอ

    สารชีวภาพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส รา ละอองเกสร มูลนก สารเหล่านี้มักปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ฝ้าเพดานที่ขึ้น ฝุ่นในพรม เชื้อโรคจากมด ปลวก และแมลงสาบ นอกจากนี้อาจเป็นเพราะคนในอาคารแออัดมากเกินไป แล้วไอหรือจามไว้ทำให้เชื้อโรคกระจายเวียนวนอยู่ในตึก

    อาการ

    ผู้อาศัยในอาคารมีอาการไม่สบายอย่างเฉียบพลัน เช่น ปวดศีรษะ ระคายเคือง ตา จมูก หรือลำคอ จาม น้ำมูกไหล คันตามผิวหนัง หน้ามืด คลื่นไส้ ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน ไวต่อกลิ่นมากขึ้น หดหู่ อ่อนเพลีย ง่วงนอน

    สำหรับคนที่แพ้ง่ายหรือคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการแพ้จะกำเริบมากขึ้น ที่พบบ่อยคือ แพ้ไรฝุ่น เชื้อรา เชื้อจากแมลงสาบ ทำให้มีอาการไอ จามที่รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นหอบ

    มีเหตุแก้เหตุ กำจัดแหล่งสารปนเปื้อน เช่น จัดระบบบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ และระบบระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศอยู่เป็นประจำ ทำความสะอาดพรมหรือเพดานที่ขึ้น เก็บสารระเหยอย่างมิดชิดไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท และเปิดใช้ในช่วงเวลาที่ไม่มีคนทำงาน หากเป็นอาคารใหม่ ควรมีช่วงเวลาที่ให้อากาศหรือก๊าซจากการตกแต่งระเหยออกไปก่อนเข้าใช้อาคาร กำหนดบริเวณในการสูบบุหรี่ซึ่งต้องมีอากาศถ่ายเทได้

    ลดปริมาณมูลภาวะทางอากาศ เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นต้นกำเนิดของไอระเหยที่เป็นพิษให้น้อยที่สุด (ค่า VOCs ต่ำ) หรือเลือกวัสดุอื่นทดแทน เช่น ใช้สีทาผนังแบบที่ไม่มีโลหะหนักผสม ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้จริง หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดแบบที่ปล่อยไอระเหยน้อยกว่าปกติ

    ควบคุมสิ่งแวดล้อมในอาคารให้มีอากาศหมุนเวียนจากภายนอกอาคารบ้างควรให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง หรือเปิดหน้าต่างตอนที่ปิดแอร์ เพื่อให้อากาศที่ค้างอยู่ในตึกระบายออกไป

    เพิ่มระบบการถ่ายเทอากาศ โดยเฉพาะบริเวณที่มีสารเคมีระเหยออกมาได้ เช่น ห้องน้ำ ห้องถ่ายเอกสารหรือห้องที่มีปริ๊นเตอร์ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกำจัดกลิ่นควัน

    ทำความสะอาดอาคาร เครื่องเรือน ดูดฝุ่น ตามพรม หรือซักผ้าม่านให้บ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้มีไรฝุ่นเกาะสะสม

    เครื่องปรับอากาศ ไม่ควรมีน้ำรั่ว จะเกิดเชื้อราตามพื้น ฝาผนัง ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดถูตามพื้นอาคารและเครื่องเรือนใช้น้ำยาพ่น กำจัดเชื้อรา ไวรัส และแบคทีเรีย หลังเวลาใช้งาน

    หลีกเลี่ยงการตากผ้าเปียกในอาคาร

    ไม่ควรทิ้งขยะค้างคืนไว้ในสำนักงานเพราะจะเป็นอาหารของแมลงสาบ

    หาต้นไม้ในร่มมาปลูก และตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในห้องเพื่อช่วยฟอกอากาศ และลดปริมาณสารพิษ ยิ่งถ้าเป็นไม้ประดับที่ดูดสารพิษได้ก็ยิ่งเริ่ด

    ให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ใช้อาคารซึ่งจะเป็นวิธีป้องกันที่ยั่งยืนที่สุด

    องค์การอนามัยโลกประมาณการว่าร้อยละ 30 ของอาคารสำนักงานใหม่หรือที่มีการปรับปรุงจะพบกลุ่มอาการป่วยเหตุอาคารขณะเดียวกันพบว่า ร้อยละ 20-35 ของผู้ทำงานในอาคารสำนักงานที่ไม่มีปัญหาเรื่องคุรภาพอากาศภายในอาคาร สามารถพบอาการของกลุ่มอาการป่วยเหตุอาคารได้เช่นกัน และผู้ทำงานในอาคารสำนักงานเก่าจะปรากฏอาการมากกว่า อาคารสำนักงานใหม่

    หญิงเสี่ยงกว่าชาย

    มีรายงานว่า อัตราการเกิดโรคป่วยอาคารสูงนั้น ส่วนใหญ่เป็นมากในผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมีระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าผู้ชายและยังมีแนวโน้มที่เกิดอาการปากแห้งคอแห้งหรือผื่นแพ้บนผิวหนังมากกว่าผู้ชายอีกด้วยสาว ๆ ส่วนใหญ่มักทำงานอยู่ในออฟฟิศ ทำให้มีโอกาสจะเจอกับมลพิษในอาคารได้บ่อยกว่า เนื่องจากผู้ชายโดยเฉพาะแล้วจะทำงานนอกสถานที่ซะมากกว่านั่นเอง

    http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/28452
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...