มิงกาลาบา..๓ เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์-พระมหาเจดีย์ชเวดากอง-พระธาตุมุเตา-พระธาตุอินทร์แขวน

ช่างเป็นศิลปะที่งดงาม อันแฝงไว้ด้วยความศรัทธาโดยแท้

 

ขอบคุณ คุณสิทธิพงษ์มากเลยนะคะสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอ่ะค่ะ

 

มี PM จากน้องท่านหนึ่งที่สนใจการท่องเที่ยวมาก ขออนุญาตน้องaietalk นำมาให้เพื่อนๆได้อ่านนะครับ..


<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: สวัสดีครับ ที่ได้สละเวลาพาเที่ยว....เมืองพม่า</TD></TR><TR><TD class=alt1>Recipients: <!--aietalk-->aietalk

</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 06:22 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:24 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43 ปี
ข้อความ: 3,577 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2,306 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 38,363 ครั้ง ใน 3,667 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3216



</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title --> Re: สวัสดีครับ ที่ได้สละเวลาพาเที่ยว....เมืองพม่า
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aietalk
สวัสดีครับ พี่เพชร
ก่อนอื่นผมขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนนะ ครับ ผมชื่อ aietalk เป็นสมาชิกใหม่ครับ สมัครเข้ามาเมื่อวันจันทรที่ 28-04-2008 ที่ผ่านมานี้เองครับ
ผมรู้สึกประทับใจภาพและเรื่องราวต่าง ๆ ที่พี่เพชรพาไปเที่ยวเมืองพม่า ดูภาพแต่ละสวยงามมาก ๆ และเนื้อหาก็ละเอียด
ใคร่ขออนุญาตถาม สักเล็กน้อย นะครับ เพราะสงสัย ? จริง ๆ ว่า พี่เพชรไปเที่ยวเป็นการส่วนตัว หรือ ไปทำงาน ครับ เพราะเห็นเก็บภาพสวยงามได้ละเอียดมาก ๆ และยอดเยียม มาก ๆ ครับ เหมือนกับพี่เพชรทำงานเก็บข้อมูลและภาพไว้ทำหนังสือประเภท ผู้สื่อสารคดี หรือประมาณสื่อมวลชนอะไรทำนองนั้น นะครับ
คือ อยากรู้จะได้เอาไว้ เพื่อศึกษาเป็นแนวทางหรือเป็นแบบอย่างที่ดี ๆ ไงครับ (||) ขอบพระคุณครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอบคุณที่ชอบนะครับ สิ่งแรกที่พี่ทำคือขอทำในสิ่งที่ตนเองรักก่อน ต้องรู้สึกรัก และรู้สึกสนใจเป็นทุนเดิม พี่ชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่สมัยเด็กๆ ไม่ชอบเลย แต่เวลาผ่านไป ประสบการณ์ชีวิตที่มีมากขึ้น หัวใจที่ศรัทธาในปฏิปทาของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ก็อาจจะช่วยน้อมนำให้เราเริ่มศึกษาประวัติศาสตร์มากขึ้นๆ สื่อต่างๆที่เหนือโลกก็เหมือนจะนำพาให้เราได้ไปนั่นไปนี่ พบสิ่งมงคลต่อชีวิต ทั้งชีวิตของผู้คน ความหวัง กำลังใจ ต่างๆ พี่ถือว่า เป็นการสะสมไมล์ชีวิต การศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ต้องเรียนรู้จากของจริง เป็นกำไรชีวิต เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้เห็น คิดเสมอว่า จะนำมาถ่ายทอดให้คนอื่นรู้ และเข้าใจแบบที่ตนเองเข้าใจได้อย่างไร

สมัยเด็กชอบเล่นกล้องมาก ถ่ายไปเรื่อย ดีมั่งเสียมั่ง ก็ถือว่าเป็นการลองผิดลองถูก แล้วจากนั้นมาผนวกกับเรื่องวัดวาอาราม พระธาตุเจดีย์เหล่านี้ จะรู้สึกผูกพัน หวงแหน และสุดบูชา

การไปพม่าครั้งนี้ ถือว่าเป็นวาสนาโดยแท้ เพราะปฏิเสธการเดินทางถึง ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๓ ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรแล้ว ชะรอยว่าได้วาระการไปตามหาอะไรบางอย่าง สุดคุ้มครับ พี่ชอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง เพราะมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีก เช่นหลักการสร้าง สร้างจากความคิดอะไร และยังมุมอื่นที่ยังนำมาไม่หมด มีรอบ ๒ แน่นอนครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลายๆท่านเริ่มสงสัยสอบถามผมว่า ทำยังไงถึงได้ภาพสวยงามมากมาย เลยบอกความลับกันเลยดีกว่าครับ

๑) จิตวิญญาณของการมองเป็นศิลปะ มุมกล้องต้องการถ่ายทอดสิ่งใดเน้นสิ่งนั้น ลอง take โปรแกรมจากชมรมถ่ายภาพต่างๆ หรือทดสอบด้วยตนเอง ภาพเดียว แต่ลองกดถ่ายหลายๆมุม

๒) ขณะซื้อกล้องต้องรู้ว่า จะเอามาถ่ายอะไร เลือก spec ของกล้องให้เหมาะกับงาน พี่ใช้เลนส์ optical ๑๐x digital ๔x รวมกันก้ ๔๐ เท่า มี super macro ๑ ซม.

๓) เตรียมแบตเตอรี่ขนาด ๔,๐๐๐ มิลลิแอมป์ ถ่ายได้ประมาณ ๕๐๐ ภาพ เตรียมไว้ ๒ ตัว

๔) card กล้องขนาด ๒ GB.

๕) Hard Disk ขนาด ๑๖๐ GB ดูดข้อมูลจากcard กล้อง

 

ขอบพระคุณมากนะครับ พี่เพชร
ที่ผมถามเรื่องกล้อง และยี่ห้อต่าง ๆ กับพี่ไปนั้น ผมกำลังสับสน ไม่รู้จะเลือกยี่ห้ออะไร ? ดี ระหว่าง นิคอน กับ แคนนอน ซึ่งการใช้งาน มันเป็นงานแนวสารคดี เมื่อมาเห็นมุมภาพของพี่เพชร ขอชมว่าอินเตอร์มาก ๆ
สำหรับความลังเลใจหนนี้มันมีมูลเหตุนะครับ คือ สมัยที่ผมได้คลุกคลี่งานสารคดีกับชาวต่างประเทศ ส่วนใหญ่และส่วนมาก มักจะเล่นกล้องยี่ห้อนิคอน โดยเขาให้เหตุผลว่าสมบุกสมบัน ทน ลุยได้ตลอด มีน้ำอดน้ำทน ส่วนยี่ห้อแคนนอนก็ดีในเรื่องความไวในการโฟกัสภาพ จับภาพ น้ำเบา แต่ข้อเสียอาจจะบอบบาง ไม่ทนประมาณนั้น นิคอน เขาว่าเป็นแมน แคนนอนเขาว่าเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์ มันก็เลยรักพี่เสียดายน้อง ใจรวนเร แย่จริง ๆ เลยอยากถามความคิดเห็นจากพี่เพชรผู้ผ่านสนามเซียนมาอย่างโชกโชน (ต้องขอโทษเพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่น ๆ ด้วยนะครับ ที่เอาเรื่องกล้องมาถามแบบนี้ ขอบคุณครับ)

 

กว่า ๑๐ ปีที่เลิกใช้กล้องรุ่นเก่า Pentax MX อายุกล้องตัวนี้มากกว่า ๓๐ ปี เนื่องจากมีคนทำหล่นกลิ้งลงเขา ตัวนี้ยังเสียดายจนทุกวันนี้

ต่อมาเปลี่ยนมาใช้กล้องCanon eos เพียงเหตุผลว่าเพื่อใช้ถ่ายทั่วไป และเพื่อให้คนอื่นถ่ายภาพของเราบ้าง เพราะกล้อง manual คนอื่นใช้ของเราไม่เป็น

เมื่อมีโอกาสได้เดินทางไปยังประเทศยุโรป ๖ ประเทศ ราว ๑๑ วัน เห็นว่าเป็น trip การเดินทางด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมาก(ประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อท่าน) จึงต้องการความแม่นยำ ภาพที่สวยงาม ด้วยงบประมาณที่จำกัด และสามารถนำมาใช้งานทั้งในระยะใกล้(zoom) และระยะไกลได้ในตัวเดียว(super macro) เมื่อเทียบรุ่น ราคา เงื่อนไขการใช้งานแล้วจากในหนังสือ shutter เล่มล่าสุด ก็เข้า internet ดูราคาที่ถูกที่สุดจากร้านต่างๆ พร้อมใบรับประกัน

น้องๆที่อยากเลือกกล้องซักตัวหนึ่งในงบประมาณจำกัดแบบพี่ และสามารถใช้งานไปได้ระดับหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นกล้องตัวใหม่ตามคุณสมบัติที่ต้องการเพิ่มขึ้น เหมือนการขัดตาทัพไปก่อน สะสมทุน เพื่อเลือกในสิ่งที่ต้องการจริงๆ แทนที่จะเลือกเพราะงบประมาณจำกัด

ประการแรกเลือกการใช้งานที่เหมาะกับเราก่อน คือคิดว่าจะใช้งานอะไร เทียบกรณีพี่ มองที่ supermacro ก่อน เพราะไม่ได้เที่ยวทุกวัน แต่อาจจะนำพระเครื่องมาถ่ายเก็บภาพไว้ ดังนั้นโปรแกรม macro สำคัญมากที่สุด พี่เลือก macro ระยะใกล้ที่สุดได้ที่กี่ซ.ม. กล้องตัวนี้ตอบสนอง macro ที่ระยะ ๑ ซ.ม. จึงผ่านคุณสมบัติที่ตั้งใจไว้

ประการที่ ๒ Optical Zoom อันนี้สำคัญมาก มือใหม่มักไม่เข้าใจว่ามันต่างกันยังไงระหว่าง Optical Zoom กับ Digital Zoom พี่เลือกตัวที่มีคุณสมบัติของ Optical Zoom มากๆ กล้องตัวนี้ตอบสนองระยะ Optical ที่ 10x(๑๐เท่า ขณะที่เมื่อ ๓ ปีก่อนมีรุ่นที่ผ่านคุณสมบัตินี้น้อยมาก หรือผ่าน แต่ราคาไม่ผ่าน) จึงผ่านคุณสมบัติที่ตั้งใจไว้ เมื่อนำ Optical และ Digital คูณกันเพื่อหาระยะภาพที่ closed up เพื่อหาระยะภาพจากภาพที่เห็นปกติ หากมากเท่าที่สุดก็เลือกกล้องตัวนั้น ผลทดสอบคือ กล้องตัวนี้ผ่านคุณสมบัติที่ 40x(๔๐ เท่า ขณะที่กล้องรุ่นอื่นที่เทียบราคาเท่าๆกันแล้วอยู่ที่ ๑๖ เท่าเท่านั้น)

ด้วยคุณสมบัติกล้องของดังกล่าวในสมัยเมื่อ ๓ ปีก่อน ก็นับว่าคุ้มมากที่ได้กล้อง Olympus C770 คือกล้องที่เลือก

มาวันนี้ พี่กำลังจะเลือก Optical Zoom ที่ ๒๐ เท่า และ Digital Zoom ที่ ๕ เท่า(รวม ๑๐๐ เท่า) เมื่อเทียบคุณสมบัติกล้อง และราคาแล้ว ยังถูกกว่ากล้องที่ใช้อยู่ในวันนี้มาก ระหว่าง ๒๖,๐๐๐ บาท เทียบกับ ๑๕,๐๐๐ ก็ห่างกันพอสมควรครับกล้องตัวนี้ก็ยังคงเป็น Olympus SP 570 และยังเพิ่มคุณสมบัติการ shake การสั่นไหวให้ด้วย ซึ่งต่างจากตัวเดิม

เหนือกว่านั้น หากเรียนรู้เรื่องของแสงด้วย เช่นหากแสงพอ เราจะไม่ต้องใช้ Flash ภาพจะนุ่มกว่า หากใช้ Flash ภาพจะดูแข็ง แต่ชัด หากต้องใช้ Flash จะพิจารณาว่าระยะเดินทางของ Flash กี่เมตร กี่ฟุต หากพอดี ฉากหลังมองไม่เห็น อธิบายยากครับ เพราะภาพเดียวกัน แต่สถานการณ์ต่างกัน การตัดสินใจใช้จึงต่างกัน

ปัญหาการใช้งานค่อนข้างมากครับ พี่เคยพบเหตุการณ์ในต่างประเทศที่ว่า ตั้งแต่ปลั๊กไฟบ้านเขากับบ้านเราต่างกันที่ volt แบบ ๒ ขา หรือ ๓ ขา แบนหรือกลม ทุกวันนี้มีครบเพื่อรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ เก็บภาพตั้งแต่เช้าจนค่ำเป็นเวลาร่วม ๑๐ ชม. แบบนี้ ทุกท่านล้วนมีปัญหาเรื่อง battery จุได้เพียง ๑,๐๐๐ มิลลิแอมป์ ถ่ายได้เพียง ๓ ชม. เมื่อใช้ Flash และหากไม่ได้การ save พลังงานด้วย คือดูที่จอ monitor ไม่ได้ใช้การถ่ายด้วยตาเล็งที่ช่องมองเล็ก พี่จึงมองหาว่า Battery ยี่หอใดที่สามารถตอบสนองการใช้งานต่อเนื่องที่ ๑๐ ชม. ก็พบว่า OSKA ทีมีขนาด ๔,๐๐๐ มิลลิแอมป์คือคำตอบสุดท้าย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีกล้องตัวใดสมบูรณ์แบบ เพราะยังไม่มีสถานการณ์ที่เราพบ แต่หากพบในตอนนั้นจะพบข้อผิดพลาดได้เอง ปัญหาที่พี่พบตอนนี้คือ บริษัทกล้องไม่ได้ผลิต Battery ที่มีความจุของกระแสไฟมากขนาดนั้น การต่อเข้ากับตัวกล้องจึงต้องใช้อุปกรณ์เสริมกับรูเสียบเดิมของกล้องที่มีเพียง ๑ รู ดังนั้นหมดสิทธิ์ใช้ขาตั้งกล้องเมื่อพบเหตุการณ์ที่ต้องการความไวแสง(ISO) ใช้ Program นี้ก็จะต้องรับกับสภาพที่หากนำไปขยายต้องทำใจ เพราะภาพอาจจะแตกได้...

ก็เอาไว้พิจารณาในการเลือกใช้กล้องให้เหมาะกับเราทั้งคุณสมบัติที่ต้องการ และงบประมาณเงินในกระเป๋าครับ

 

อยากรบกวนถามคุณเพชร

ไม่ทราบว่าจะจัดทัวร์ให้สมาชิกได้มีโอกาสไปตามรอยแบบนี้บ้างไหมค่ะ อยากไปและจะพาเพื่อนๆไปด้วย น่าจัดน่ะค่ะและไม่แพงแบบนี้และมีข้อมูลธรรมะมากแบบนี้สนใจมากเลยค่ะ จะทำอย่างไรอยากไปแบบนี้ตามภาพเลยค่ะ ขอคำแนะนำด้วย....สนใจจริงๆ หรือตอบมาให้ที่เมล์ dgoods07@yahoo.com ก็ได้น่ะ อยากทราบการไปและค่าใช้จ่ายและไปกับทัวร์ใครที่จะได้แบบคุณเพชรค่ะขอ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ
ณคุณ

 

มีเพื่อนๆทำทัวร์อยู่ ๒-๓ ราย เห็นรายละเอียดที่ผม post เล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกไม่มีเก็บงำอะไรไว้ ทั้งนี้เพียงมุ่งหวังบุญ"ธรรมทาน" สาเหตุเนื่องจากว่า เมื่อผม search เข้าไปในเวปไซด์การท่องเที่ยวทั้งหลาย ก็มีความรู้สึกว่า ภาพแต่ละภาพที่เจ้าของ post หรือถ่ายภาพไว้นั้นมีการสงวนลิขสิทธิ์ไว้ หรือแสดงความเป็นเจ้าของไว้ในภาพ ทำให้การนำไปใช้อ้างอิงในงานต่างๆกระทำไปด้วยความลำบาก ทั้งๆที่เป็นงานบุญ ซึ่งจากจุดนี้เองที่ผมคิดอยากจะบอกเล่ารายละเอียดของสถานที่ต่างๆจากการท่องเที่ยวใน trip ต่างๆเมื่อวัยเกษียณอายุมาถึง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมก็ตะรอนไปที่นั้นที่นี้ ไม่ใช่เพราะงาน แต่เพราะมีความชอบเป็นส่วนตัว จึงได้ใช้พักร้อนเท่าที่มีโอกาสอำนวย เพียรเก็บข้อมูลในสถานที่ต่างๆเป็นวัตถุดิบในการทำงานครั้งต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นงานส่วนตัว หรืองานบุญก็ตาม

การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ หากผู้จัด tour ไม่คิดเล็กคิดน้อยเอาเปรียบลูกทัวร์มากจนเกินไป รวมทั้งมีการวางแผนประสานงานที่ดีทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ไกด์ที่ต้อนรับที่สนามบินขาออก และเจ้าหน้าที่ไกด์ที่ต้อนรับที่สนามบินเป้าหมายขาเข้า ข้อมูลที่ถูกต้องเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับลูกทัวร์อย่างมากมาย

การเดินทางไปพม่านี้ ผมคิดว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พักระดับ ๕ ดาว และอาหารการกินที่มีคุณภาพ และคุ้มราคา ในปัจจุบันมีราคา และค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าสมัยก่อนมากมาย สมัยก่อนการเดินทางไปประเทศพม่าต้องมีค่าใช้จ่ายถึง ๓๐,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ บาท ด้วยเงินจำนวนนี้หากเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยก็สามารถจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นที่มีค่าครองชีพสูงกว่ามากมายได้เลย ด้วยระยะเวลาการพักผ่อนท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกัน ปัจจุบันการเดินทางไปยังประเทศพม่า ในสถานที่ดังกล่าวข้างต้นที่ post บอกเล่ารายละเอียดไว้นั้นมีค่าใช้จ่ายระหว่าง ๑๑,๙๐๐ -๑๗,๙๐๐ บาท ส่วนต่างราว ๖,๐๐๐ บาทนั้นอยู่ที่อาหารการกินในแต่ละมื้อ ซึ่งอาจจะแตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้เราไม่มีโอกาสได้ทราบจากทางผู้จัด Tour เลยว่าเขาจะพาเราไปทานที่ไหน ผมคิดว่าทางผู้จัด Tour ก็คงไม่อยากบอกเล่ารายละเอียดมากจนเกินไป เพราะกระทบยอดขายของเขาอยู่พอสมควร และแต่ละคนสามารถจะเดินทางไปกันเองได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า การใช้บริการของ Tour ต่างๆนั้นคุ้มค่ากว่ามาก กับเงื่อนไข ข้อห้ามต่างๆในประเทศปิดแบบนี้ เราไม่มีโอกาสรู้ว่า จะไปกระทำความผิดตอนไหน เราคิดว่าเป็นปกติของประเทศเราที่เป็นเสรีประชาธิปไตย แต่เงื่อนไขที่ประเทศพม่านี้มีข้อห้ามมากมาย ดังนั้นการเดินทางไปเอง กับผ่าน Tour จึงให้ความคุ้มครอง หรือหลักประกันความปลอดภัยที่แตกต่างกันมาก และการเดินทางติดต่อรถโดยสารไปยังสถานที่ต่างๆ หากขาดความชำนาญ และเชี่ยวชาญแล้วมีโอกาสถูกฟันหัวแบะเอาง่ายๆ ไม่คุ้มเลยจริงๆ รวมๆแล้วอาจจะจ่ายแพงกว่ามาก อย่างผมมานึกๆดูการเดินทางจากเมืองหงสาวดี หากไปยังจุดหมายปลายทางที่พระธาตุอินทร์แขวน จะต้องนั่งรถบัสปรับอากาศ ๓ ชม. เมื่อถึงยังสถานที่เปลี่ยนรถ ๖ ล้อขึ้นเขา(คล้ายไปพระพุทธบาท ๔ รอยของเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน) ซึ่งต้องนั่งด้วยรถประเภทนี้เท่านั้นอีก ๔๕ นาที ซึ่งทั้งโค้ง และชัน เมื่อถึงตีนเขาแล้ว ยังต้องจ้างลูกหาบอีก ๔ คนหามขึ้นไปอีก ๔๕ นาที (คล้ายขึ้นภูกระดึงเมื่อ ๒๐ ปีก่อน) จากนั้นเดินด้วยเท้าไปอีก ๑๕-๒๐ นาที เพียงนึกถึงตรงนี้แล้วเราเองหากเทียบเป็นเงินไทยแล้วอย่างต่ำต้องใช้จ่ายกันอย่างน้อย ๓-๔ พันบาทของการเดินทางไปกลับเข้าไปแล้ว

เพื่อนผมที่ทำ Tour แต่ยังไม่เคยจัด Tour ไปพม่ามาก่อน หลังจากได้เห็นแล้วก็คิดจะให้ผมทำทัวร์นี้ ผมก็งงๆนะครับ บอกตามตรงว่า ยังสงสัยว่าข้อมูลดีแล้วหรือนี่ ผมเองยังรู้สึกว่าขาดอะไรไปอีกอย่าง ๒ อย่างก็ไม่ทราบ แต่อาจจะค้นพบในเร็วๆนี้ ดูๆแล้วก็น่าสนใจนะครับ ได้ไปนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวนทุกครั้ง แถมยังได้ความสุขใจ อีกทั้งยังได้สตางค์อีกด้วย..

เอาไว้ขอคิดดูก่อนนะครับ รวมทั้งการวางแผนไปยังอีก ๒ มหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่พุกาม และมัณฑะเลย์ หากเวลานั้นมาถึงผมอาจจะชวนเพื่อนๆที่มีความสนใจได้ร่วมเดินทางไปแสวงธรรมกับผม และคณะในราคาประหยัด และคุ้มค่าครับ...

 

สวัสดีครับ พี่เพชร ระยะนี้ ผมไม่ได้เข้าอัพเดทข้อมูลข่าวสารกับชาวบ้านชาวช่องเขาเลย ครับ เพราะติดภารกิจ อยู่ครับ

ก่อนอื่นต้องกราบขอบคุณ พี่เพชรมาก ๆ นะครับ ที่ให้ความกระจ่าง ได้ดีมาก ๆ ในเรื่อง กล้องถ่ายภาพ เพราะ อย่างน้อย ๆ มันก็ทำให้ผมได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ และวิสัยทัศน์ เพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

ส่วนเรื่อง การแสดงความคิดเห็นของ คุณ Nkun4007 ผมขอสนับสนุน และเห็นด้วย นะครับ

ซึ่งมันก็จริงอยู่หรอก ครับ ที่...พี่เพชร บอกไปกับ บริษัททัวร์ มันดี มันสะดวกสบาย และประหยัดงบประมาณ ก็จริงครับ ไม่เถียงเลย

แต่จาก ประสบการณ์การเดินทาง (ส่วนตัว นะครับ พี่น้อง) ผมว่ามันทำให้ผมขาดความอิสระ ขาดความเป็นโลกส่วนตัวจริง ๆ คือ มันเหมือนๆ เราโดนบีบ ให้อยู่แต่เฉพาะในกรอบ ตามโปรแกรมท่องเที่ยวของ บริษัททัวร์นั้น ๆ ที่เขากำหนดเป็นสูตรสำเร็จตายตัว

ถึงแม้มันจะเป็นความสมัครใจ จากการสั่งซื้อโปรแกรมทัวร์ตามที่เราต้องการ หรือตามที่เราตัดสินใจเลือก มันก็จริงอยู่หรอกครับ พี่น้อง

แต่เวลา พอเอาเข้าจริง ๆ คือ ได้ลงพื้นที่จริง หรือเข้าเมืองแหล่งท่องเที่ยวนั้นแล้ว มันคนละเรื่องเลย นะครับพี่น้อง

คือ บางครั้ง อยากแวะ สถานที่ สำคัญ ๆ ที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมทัวร์ ก็ทำไม่ได้ หรือบังเอิญผ่านไปเจอ สิ่งแปลกใหม่ของสถานที่ท่องเที่ยวในระหว่างทาง ก็อดเที่ยว หรือ อดเข้าไปแวะชม มันเลยต้องกินแห้วแทนอยู่บ่อยครั้ง (ปัจจุบันชื่อ นี้เขาเปลี่ยนเป็น ชื่อ...สมหวัง กันไปแล้วล่ะพี่น้อง แต่ผมยังชอบของเก่า ๆ เพราะ คำว่า แห้ว....มัน อินเตอร์ดีออก ใช่มั้ย ครับ)

แล้วไงยังจะต้องตั้งหน้าตั้งตา รอคอยที่จะแข่งขันกับเวลา ไม่ว่าจะเป็นการตื่นนอน การนั่งรอในรถจากจุดหนึ่งเคลื่อนที่ไปยังอีดจุดหนึ่ง หรือเรื่องของการแข่งขันกัน เพื่อเร่งรีบ หรือแย่งกันเข้าคิวเพื่อรอคอยการรับประทานอาหารอย่างเร่งด่วน ซึ่งมันวุ่นวายไปหมด คือ ประมาณว่ามันหลากหลาย 100 พ่อพันธุ์แม่ ยังไงล่ะครับ

ถ้าเจอ กลุ่มดี ๆ ก็รอดตัวไป แต่ถ้าทริปไหนสุด ๆ มันเหมือนเจอฝันร้าย รับรองวันนั้น แทบอยากจะร้องไห้กลับบ้านทันที ให้มันรู้แล้ว รู้รอดไปเลย พับผ่าสิ !!

ผมเข็ด หลายครั้งแล้ว !! ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ที่ขีดเขียนแบบนี้ มิใช่จะว่ากล่าว บริษัททัวร์บ้านเรา หรือของต่างประเทศอื่น ๆ ไม่ดี ไม่ใช่ นะครับ

บ.ทัวร์ ดี ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ล้วนแต่มีดี และเยอะมากมาย หลายแห่ง หลายบริษัท อยู่เหมือนกัน

แต่เรื่องแบบนี้ และลองเอยอย่างนี้ มันคือ ความคิดเห็นส่วนตัว และที่สำคัญมันนิสัยส่วนตัว ส่วนตัว ในที่จะเลือกการเดินทางท่องเที่ยวของผมเอง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใคร ต่างหาก นะครับ

คือไหน ๆ จะมีเวลาว่างและดี ๆ แบบนี้ที่หายากทั้งที มันก็ต้องให้รางวัลชีวิตแก่ตัวเองเต็มทีหน่อย คือ อยากลุย ต้องได้ลุย อยากไป ต้องได้ไป หรืออยากทำอะไร ก็ต้องได้ทำ โดยอยู่บนพื้นฐานในกรอบแห่งความดีงาม ที่ไม่ต้องไปเบียดเบียนให้คนอื่นเดือดร้อนนะครับ รับรองผมทำหมด เอาหมด คือ มันเป็นความอิสระ เสรี จริง ๆ และเรื่องแบบนี้ เงินทองก็ไม่สามารถซื้อหาได้ง่าย นะครับ

ถ้าพี่เพชร มีโครงการดี ๆ โดยกำหนดหรือจัดเป็น ทริปเล็ก ๆ จำนวนน้อย ๆ ด้วยการรวมตัวคนคอเดียวกัน (แล้ว...จำกัดจำนวนคน เพื่อมิให้ ตัวเราขาดความอิสระ หรือขาดเสรีภาพส่วนตัวเลยไป) ผมว่ามันก็ดีออก นะครับ

เพราะอย่างน้อย ๆ พวกเราในนาม...คนไทย ที่มีใจรักความสงบ และรักความสามัคคี เป็นกลุ่ม เป็นก้อนดี ๆ แบบนี้ ยังจะได้มีโอกาสเรียนรู้ หรือรู้จักชีวิตตัวเอง และบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ กับสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งดีงามเพิ่มเติมเข้ามาในชีวิต ให้มีความสุข และกระชุ่มกระทวย อีกด้านหนึ่งมันก็คงจะดีมิใช่น้อย แถมยังได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมดี ๆ ที่เป็นบุญ เป็นกุศล และเป็นทาน หรือเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และสังคมส่วนรวม

และทั้งยังรวมไปถึงได้มีโอกาสสร้างสรรค์สังคมดีงาม ให้โดดเด่น อันเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อสืบทอดวัฒนธรรม ดี ๆ เช่นนี้ ต่อ ๆ ไป ก็คงจะดีมิใช่น้อย

ก็เพราะสิ่งนี้แหละ คือ ชีวิตคนไทยด้านสว่างที่ ดี ๆ ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย ที่ผมอยาก จะอนุรักษ์ และดำรงมันไว้ให้รุ่นหลัง ๆ ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อๆ กันไปไงครับ

พี่เพชร ครับ กรุณารับไว้พิจารณาด้วย นะขอรับ (สงสัยผม จะค่อยหาเรื่องเดินทางท่องเที่ยวอยู่เรื่อยเลย นะเนี่ย !!....ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าได้จะเป็นพระคุณ เลยครับ ฮา ฮา ฮา )

 

เห็นด้วยครับ หากไปกับ Tour เป็นแบบนี้แน่นอน เพราะหากไม่ทำในลักษณะนี้หมายกำหนดการจะผิดพลาดได้ หากกลุ่มใหญ่ยิ่งตามใจไม่ได้เลย เพราะเขาต้องยึดโปรแกรมเป็นหลัก อีกอย่างเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามระเบียบบริษัท หากผิดจากโปรแกรมไปแล้วเกิดเหตุอันตรายกับลูกทัวร์นี่ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นรับผิดชอบเต็มๆไปเลย

พี่เองก็เป็นแบบน้องเลยนะ ชอบอะไรที่อิสระ แต่ทราบไม๊ครับว่า บ่อยครั้งที่พี่ late กว่าชาวบ้านเขา ผลคือ เขาเรียกว่า เจ๊รั้ง กับนายบ๊วย ก็เป็นสมญานามที่เขาเคยตั้งให้ ดังนั้นการไปเที่ยวกับคนหมู่มาก สำคัญที่สุดคือการรักษาเวลา

หากต้องการในลักษณะที่น้องต้องการความสะดวก และอิสระแบบนี้ จะต้องจัด group เอง และทุกท่านเห็นชอบด้วย ลักษณะนี้แทนที่จะได้วันละ ๕ แห่ง อาจจะต้องเป็น ๓-๔ แห่งแทน คือให้เวลาแต่ละช่วงมากขึ้น ลดจำนวนสถานที่ลง เมื่อเปรียบเทียบกับทัวร์อื่น อาจจะดูแพงไปเลยนะ

พี่คิดว่าพอจะรู้ style น้องaietalk แล้วนะครับว่าต้องการแบบไหน ลักษณะนี้จะเหมาะกับลูกทัวร์ ไม่เกิน ๗ คน กำลังสนุก แต่ลักษณะนี้บริษัททัวร์เขาคงไม่รับ เพราะไม่คุ้มค่าใช้จ่าย จึงเข้าลักษณะจับกลุ่มเที่ยวกันเอง คล้ายคราวที่พี่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ทัวร์เขาจัด ๕ วัน ๔ คืน ประมาณ ๖๐,๐๐๐ บาทต่อท่าน พี่วางแผนเที่ยวเองก่อน ๖ วัน ๕ คืน ได้เที่ยวรวม ๑๑ วัน ๙ คืน ค่าใช้จ่ายรวม ๙๐,๐๐๐ บาทต่อท่าน ตอนนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ ๓๓ บาทแลกได้ ๑๐๐ เยน (ตอนนี้อยู่ที่ ๓๑ บาทแลกได้ ๑๐๐ เยน) เวลาวางแผนเที่ยวเองที่ญี่ปุ่นนี่ ต้องเลือกที่ไม่ซ้ำกับในโปรแกรมของทัวร์ที่เราซื้อทัวร์ และต้องแม่นยำเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า(ตรงเวลามากเป๊ะๆๆ ไม่มีคลาดเคลื่อนแม้นาทีเดียว) รถไฟฟ้าของญี่ปุ่นนี่ระดับปริญญาเอกเลยนะ ของพี่ไทยเราเพียงอนุบาล ๓ (ระดับต่ำสุด) จำได้ว่านั่งรถไฟหัวกระสุน"ชินคังเชน"จากโตเกียวไป"ทาคายามา"(เมืองมรดกโลก) คิดเป็นเงินไทยก็เกือบหมื่นบาทเข้าไปแล้วด้วยระยะทางร่วมพันกิโลเมตร เฉพาะ trip นี้หากเมืองไทยจัดไปนะครับ เขาจะต้องคิดค่าใช้จ่ายกับเราไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ บาทแล้ว หากจะไปดิสนีย์เจแปน พี่ก็ว่าเขาทำได้ดีมาก แต่ไม่เหมาะที่จะไปเที่ยวในวันเสาร์อาทิตย์ เพราะเราจะเล่นได้น้อยมาก เครื่องเล่นบางชนิดต้องเข้าแถวรอกันตั้งแต่บ่ายโมง กว่าจะได้เล่นก็เกือบ ๕ โมงเย็น ไม่น่าเชื่อ แต่เป็นไปแล้ว หากมีในโปรแกรมทัวร์เขาจะวางไว้ในวันเสาร์ อย่างภูเขาฟูจินี่ สวยงามมาก เราไปเองไม่ได้ เพราะเดินทางลำบาก ต้องไปรถบัสอย่างเดียว จ้างเหมาไม่คุ้มครับ การไปเองล่วงหน้าจึงต้องเลือกสถานที่ที่เราสามารถไปเองได้ อย่างพี่ก็อยากไป"ภัตตราคารราเมง"ของ TV Champion ค่าเดินทางเนี่ยขอบอกสูงมาก ต่อรถไฟฟ้าประมาณ ๓ ต่อ แถมเดินทะลุลัดเลาะไปถนน และอุโมงค์ ถามทางเขาไป สนุกไปอีกแบบ ค่าเดินทางเพื่อไปดู และทานราเมงที่ร้านเนี่ยตกเฉลี่ยชามละ ๑,๕๐๐ บาท 55555 ขำไม่ออก แถมพี่จะไม่ทาน แบบว่า แฟนพี่เขาสั่งก่อน แล้วแบ่งกันทานคนละเล็กละน้อย แล้วไปต่อร้านใหม่ในนั้นกัน ปรากฏว่า เจ้าของร้านบอกว่า หากนั่งรอไม่ทานในร้าน ขอคิดคนละ ๓๐๐ เยน เอากับมัน!!! นับว่าเป็น trip ที่สนุกมาก trip หนึ่งเลยนะครับ มีโอกาสน่าไปมาก พี่ก็ว่าจะมี plan ไปกันอีก คราวนี้จะย้ายไปเที่ยวแบบเน้นเทคโนโลยี่บ้าง แบบmodel หุ่นยนต์Gundum ดูเกมส์โชว์บ้าง ลักษณะนี้มีคนจัดเหมือนกัน เรียกว่า ตะเวนดูเกมโชว์ทั่วญี่ปุ่นเลยเชียว

แถบอาซากุสะ ก็จะมีวัยรุ่นแต่งตัวแข่งกัน ไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการทำตัวให้เด่น ให้ดังที่สุด เขาจะมีการจัดอันดับคนเด่น คนดังประจำเดือน แบบว่าว่างงานมาก วันหน้าจะเอาภาพมาให้ชมกัน 5555 สนุกไปอีกแบบ และที่สำคัญไปโชว์อยู่ใกล้ๆวัดซะอีก ในวัดสงบมาก แต่ออกมานอกวัดนี่สีสันสุดๆ ต่างจากของที่สเปนมาก อันนั้นเขาเรียก "pentromize" เป็นคนดีๆนี่แหละ แต่แต่งกายในชุดแปลกๆ เท่ห์ก็ดี แนว creative สร้างสรรค์สุดๆก็มี ทาหน้า และจัดองค์ประกอบอื่นๆมี concept ว่างั้นเถอะ pentromizes นี้จะไม่เคลื่อนไหว จะอยู่นิ่งๆ หากเราต้องการดูการแสดงของเขาเราต้องหย่อนก่อน ๒ ยูโร(ประมาณ ๑๔๐ บาทสมัยนั้น) ลงในภาชนะของเขา จึงจะเคลื่อนไหวให้ชม และที่สำคัญห้ามถ่ายรูปเขา เขาจะแสดงกิริยาไม่พอใจ ปิดตา ปิดตา และโบกมือ หรือส่ายหน้าในเชิงไม่อนุญาต หากจะถ่ายภาพเขา ก็อีก ๒ ยูโร ถือว่าเปิดการเปิดหู เปิดตากับการไปเที่ยวยุโรปเลยนะครับ..<!-- / message --><!-- sig -->

 

<CENTER></CENTER>
Olympus SP-570 UZ camera - Features
• 20x optical zoom (equivalent to 26-520mm) - from extreme close-ups to stunning scenes
• 10 Megapixels to make poster-size prints
• Avoids blur thanks to Dual Image Stabilisation
• Don't miss the moment with high-speed 13.5fps sequence shooting
• Face Detection Technology for perfectly focused faces & correct exposure of other image areas
• P/A/S/M exposure modes for creative freedom
• 23 scene modes for the best results in different situations
• See and share images on the 6.9cm/2.7" LCD
• Better low light shooting thanks to BrightCapture Technology
• Great for shots of flowers and detail from as close as 1cm with Super Macro mode
• Liven up your memories with movie recording with sound
• TruePic III image processor for faster image handling and higher image quality
• 38 languages on board
• Dioptric correction
• Flexible shooting with internal memory or using xD-Picture Card
• Olympus Master software 2.03 supplied including Muvee Pack trial version plus 4 AA batteries
• TCON-017 teleconversion lens and CLA-10 adapter ring optionally available for maximum of 884mm (or 4420mm when combined with digital zoom)


<CENTER></CENTER>
Olympus BrightCapture Technology
A technology developed for better shooting results in low light situations. It works in two ways: i) All available pixel information from the image sensor is used to provide a view on the LCD that’s up to four times brighter than conventional types, to make framing easy even in dark surroundings. ii) In certain shooting modes sensitivity is increased (resolution is sometimes reduced), which results in well-exposed images with accurate colour reproduction, high contrast and definition, even when not using the flash. Scene modes that benefit from BrightCapture Technology include Candle, Night Scene and Available Light.


<CENTER></CENTER>
Olympus Dual Image Stabilisation
Providing two-fold protection, this special function helps to avoid image blur caused by camera shake or fast-moving subjects. It combines high ISO values with a CCD-based mechanical image stabiliser, where a built-in gyro sensor detects camera movement and adjusts the CCD accordingly.

Olympus Face Detection Technology
A technology that searches for faces in a composition and recognises them as the main subject. It then automatically puts them in focus and optimally adjusts exposure to create an image that’s sharp in the right places and ideally exposed.


<CENTER></CENTER>
Olympus Shadow Adjustment Technology
A technology designed to improve exposure for pictures with dark areas. Using a sensor that works much like the human eye, dark parts of a composition (e.g. a shadow under a tree) are identified and the camera then adjusts the exposure settings accordingly for those areas. The result is a more realistic and detailed picture.

Olympus Wireless Flash Control
The user can control wireless flash units remotely - eliminating the need for extra cables - by using the built-in flash as the system’s master unit. Control options include the ability to independently regulate flash mode and compensation settings for up to three groups of flashes, four channel settings to avoid interference as well as a wide range of brightness levels.


<CENTER></CENTER>
Other introduced Olympus digital cameras
• Olympus SP-570 UZ
• Olympus Mju 1030 SW
• Olympus Mju 850 SW
• Olympus Mju 1020
• Olympus Mju 1010
• Olympus Mju 840
• Olympus FE-350
• Olympus FE-340
• Olympus FE-310

 

สวัสดีครับ พี่เพชร

ขอบคุณนะครับ ที่กรุณาตอบปัญหาต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเบ็ดเสร็จจนเข้าใจและกระจ่าง ขอขอบคุณอีกครั้ง นะครับ

พี่เพชรครับ กล้องโอลิมปัก ที่พี่เพชรโพสมาให้ชมนี้ ณ ปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ครับ ? (เฉพาะบอดี้ ?)

และผมเพิ่งนึกออกมานะครับ ว่า เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่าน ผมได้มีโอกาสไปเดินดู กล้องดิจิตอล ในพื้นที่ย่าน พลับพลาไชย

บังเอิญ ๆ เข้าไปดูกล้องดังกล่าว อยู่ร้านหนึ่ง ในย่านนั้น ก็เจอะเจอกับ เจ้าของร้านพอดิบพอดี

แต่ผมจำชื่อท่านไม่ได้แล้วครับ แต่จำร้านของท่านได้ ผมเข้าไปถามท่านดังกล่าว เพื่อซื้อ กล้องนิคอน D300 (จะซื้อเฉพาะบอดี้อย่างเดียวเท่านั้น นะครับ)

เจ้าของร้านๆ ดังกล่าว ท่านอายุก็มากแล้วครับ อายุราว ๆ 70-75 ปี ประมาณ นั้นแหละ ท่านก็ตอบผมว่าราคาเท่านี้ อย่างนี้

แต่จู่ ๆ ท่าน ร้องถามผมขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า "คุณทำอาชีพอะไร ? และมีความจำเป็นต้องใช้กล้องดิจิตอล ยี่ห้อ นิคอน D300 มากหรือครับ"

ผมก็ตอบและบอกตามเจตนาที่เราต้องการไป ท่านก็เลยอนุเคราะห์ว่า "เอาอย่างนี้แล้วกัน จะบอกอะไรให้นะ กล้องดิจิตอล ที่ดี ๆ ที่อยากจะแนะนำให้เล่นนั้น จริง ๆ มีแค่ 3-4 ยี่ห้อเท่านั้น คือ แคนนอน, พานาโซนิค, นิคอน และโอลิมปัก

และท่านยังแนะนำต่ออีกว่า ถ้าไม่อยากเสียดายเงินทอง (ท่านบอกประมาณอยากเก็บเงินไว้ซื้ออย่างอื่นจะดีกว่า) เพราะ บอดี้ กล้อง D300 นิคอน แค่เฉพาะบอดี้อย่างเดียว ก็ล่อไปแล้วเกือบ ครึ่งแสนค่อน ๆ อีกด้วย ครับ ถ้ารวมเลนส์อย่างดี และอ๊อฟชั่นอื่น ๆ ก็รวมราคาเบ็ดเสร็จล่อไปแล้ว แสนกลาง ๆ เลยครับพี่น้อง

ท่านเลยแนะนำต่อว่า ฉะนั้น ถ้าอยากจะเล่นกล้องดิจิตอล ในระดับมือโปร จริง ๆ ท่านแนะนำ กล้องดิจิตอล ยี่ห้อ พานาโซนิค รุ่น Lumix-DMC-FZ50 รุ่นล่าสุด ของพานาฯ โดยจุดเด่นคือ เรื่อง...เลนส์ถ่ายภาพ

ฉะนั้น ถ้าสมาชิกท่านใด หรือใครอยากจะไขปริศนาที่ผมหยดไว้ ก็ลองแวะเข้าไปดูใน เว็บไซดของพานาโซนิค ดูแล้วกัน ว่าปริศนาที่ผมทิ้งไว้มันคืออะไร ?

แต่พอผมไปขอซื้อกล้องตัวดังกล่าว ท่านกลับบอกผมว่า "หมดแล้ว" และในตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทย โดยเฉพาะกล้องรุ่นนี้ ขาดตลาดแล้วครับ หมดเกลี้ยง ขายดีมาก ๆ (ต้องรีบ....ออกตัวก่อน นะครับ ว่า ผม มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร กับ บ.พานาโซนิค แต่อย่างใด เห็นว่าดีจริง ๆ เลยยกมาให้อ่านกันเป็นข้อมูลนะ เจ้าค่ะ)

ท่านยังบอกอีกว่า ที่ว่า กล้องรุ่นนี้ ดีมาก เพราะเป็น กล้องดิจิตอล ระดับเกรด A มีดีมีเด่น ด้านเทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่า ระบบกันสะเทือน ระบบกันภาพไหว ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดที่ท่านกล่าวมานี้ ท่านบอกว่า ถือเป็นหัวใจของกล้องดิจิตอลเลยทีเดียว (ฉะนั้น อย่ามองข้ามเด็ดขาด และท่านยังย้ำอีก อย่ามองข้ามเด็ดขาด)

แถมยังถามผมสวนกลับมาอีกประโยคหนึ่งว่า "คุณรู้หรือเปล่า กล้องดิจิตอล คือ อะไร ?" ผมยังไม่ทันจะอ้าปากจะตอบเลย ท่านจัดการตอบคำถามเองให้รู้เรื่องเบ็ดเสร็จ ไปแล้วครับ

ท่านบอกว่า กล้องดิจิตอล ก็คือ กล้องVDO ดี ๆ นี่เอง แต่....กล้องVDO เป็นกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว ที่พวกเราเห็น ๆ กันอยู่ทั่วไป นั่นแหละครับ

เพียงแต่ กล้องดิจิตอลอย่างว่าแบบนี้ มันเป็นกล้องที่ใช้ถ่ายภาพนิ่ง เท่านั้น และท่านยังอธิบายเรื่องต่าง ๆ ต่อไปอีก อธิบายได้ดีมาก ๆ เรียกว่า ผมยืนฟังท่านอธิบาย และยังทดสอบกล้องดิจิตอลแบบ อะไรต่าง ๆ ให้ดูสารพัดวิธี นานกว่า 2 ชั่วโมง

ท่านยังถามผมต่ออีกว่า "ต้องการรีบซื้อหรือเปล่า ?" ผมตอบสวนท่านไปว่า "ไม่รีบครับ แต่ถ้าได้เร็วก็ยิ่งดี"

ท่านก็แนะนำต่ออีกว่า "ถ้าไม่รีบซื้อนะ ให้อดทนรออีกหน่อยสักระยะหนึ่ง เพราะ ค่ายพานาโซนิค กำลังจะผลิต กล้องดิจิตอล ตัวใหม่ ออกมาเร็ว ๆ นี้แหล่ะ คือ รุ่น FZ60 (ตัวล่าสุด) ซึ่งตอนนี้ผมไม่รู้ว่า กล้องตัวนี้ออกวางตลาดแล้วหรือยัง ก็ติดตามข่าวสารอยู่ตลอด ครับ

(ปล. ถ้า พี่เพชร หรือท่านเพื่อน ๆ สมาชิกท่านใด รู้ข่าวเรื่องนี้ ขอความกรุณาช่วยโพส ส่งข่าวสารกันบ้าง นะครับ พี่น้อง ผมรอคอยมานานแล้ว อยากได้จริง ๆ )

ต่อนะครับ ท่านบอก ถ้ากล้องรุ่นนี้ออกมา ให้รีบซื้อเลยไม่ต้องลังเล เพราะ รุ่นนี้ ดีมาก ๆ และยังดีกว่า รุ่น FZ50 เสียอีก

แถมราคาก็ไม่แพง ประมาณ สองหมื่นกลาง ๆ (ประมาณนั้น) ถ้าไม่ผิดพลาดนั้นครับ ผมก็รอลุ้นอยู่ เพราะหลังกลับจากร้านกล้องย่านนั้น ไปรีบสืบหา ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ของกล้องรุ่นดังกล่าว

ก็ยอมรับว่าเป็นกล้องดิจิตอลที่ดีจริง ๆ น่าเล่น น่าจับจองเป็นเจ้าของ ผมเลยเรียกท่าน ๆ นั้น ว่า....อาจารย์ เลยครับ

และก่อนหน้านี้ ท่านบอกอีกด้วยว่า "สงสารคนไทยจำนวนมาก และที่มายืนอธิบายให้ฟังเยอะ ๆ แบบนี้ ก็เพราะเห็นว่าคุณ ทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม เลยบอกให้เอาบุญ"

ผมก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ มาก ๆ นะครับ และอีกอย่างหนึ่ง ท่านเป็นนักทดสอบกล้องดิจิตอล ตัวยง อีกต่างหากด้วย เอากับแกสิ

และที่สำคัญท่านบอกผม ต่ออีกว่า "รู้หรือไม่ ? กล้องดิจิตอล ยี่ห้อ แคนนอน เขาซื้อลิขสิทธิ์ ระบบไอที และเทคโนโลยี่ของกล้องดิจิตอลมาจาก ค่ายพานาโซนิค อีกด้วย"

ท่านมิได้เล่าเพียงปากเปล่า ลอย ๆ เท่านั้น นะครับ พี่น้อง เชื่อมั้ยครับ ท่านงัดเอกสารอ้างอิงต่าง ๆ ออกมากางให้ผมดูกันจะ ๆ เลย ผมนี่ งง เป็นไก่ตายแตกเลยครับพี่น้อง เพราะอยู่วงการนี้มาก็นาน เพิ่งจะรู้ความจริงก็ วันนี้แหละครับพี่น้อง

ส่วน กล้องนิคอน ท่านยังบอกด้วยว่า ถ้าเป็น เมคอินเจแปน เหมือน...เมื่อก่อน ถือว่า OK แต่ปัจจุบัน มันกลายเป็น เมคอิน...ไทยแลนด์ (จว.อยุธยา) หรือ เมคอิน...ไชน่า ก็หรือจีน ไงครับพี่น้อง

ในอดีต กล้องนิคอนดี เก่งจริง แต่...เก่ง เฉพาะเรื่อง....กล้องฟิลม์ เท่านั้น แต่ไม่เก่ง ระบบดิจิตอล และระบบเทคโนโลยี่ดิจิตอล กล้องนิคอน ก็ซื้อลิขสิทธิ์จาก ค่ายอื่น ด้วยครับ

(พี่เพชรครับ และเพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่น ๆ ใครที่อ่านข้อมูลตรงนี้อยู่ กรุณา ฟังหู ไว้หู นะครับ หรือ อ่านแล้ววิเคราะห์ตามไปด้วยแล้วกัน อย่าเชื่อสักทีเดียว แต่ผมฟังเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว ก็นำมาโพสให้อ่านกัน โดยส่วนตัวผม ย้ำโดยส่วนผมเชื่อท่านอาจารย์ท่านนั้น ครับ และเชื่ออย่างสนิทใจเสียด้วย ถอนตัวยากแล้ว)

เพียงแต่ว่า ผมยังทำใจไม่ได้จริง ๆ เพราะตัวเองก็ใช้กล้อง ยี่ห้อนิคอน มาตลอดชีวิต ตั้งแต่สมัยเรียน มหาวิทยาลัย จนทำงาน ยอมรับว่า กล้องยี่ห้อ มันแมน มันเท่ แต่บอกตรง ๆ ถ้าจะเล่น กล้องระบบดิจิตอล มันเท่ก็จริง แต่กินบ่ไปนาน หรอกครับ เหนื่อใจจริง ๆ พับผ่าสิ
(เอา ๆ กลายเป็นบ่นไปเสียแล้ว ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ผมยังทำใจบ่ได้จริง ๆ ครับ คงจะติด...ค่านิยม หรือไม่ก็ยึดติดโลโก้ แน่ ๆ เลย ชัวร์)

ทักทายพอแค่นี้ นะครับ สวัสดีครับ
พี่เพชร และเพื่อน ๆ สมาชิกทุก ๆ ท่าน

 

เรื่องของกล้องนี่ก็เป็นความชอบส่วนตัวครับ ใครติดยี่ห้อไหนก็จะมองแต่ยี่ห้อนั้น หรืออีกนัยหนึ่ง spare part ของรุ่นใดที่เราซื้อไว้แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อใหม่ เพราะเท่ากับว่าไม่ได้ประโยชน์จากมันเลย หากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อใหม่

คุณสมบัติของกล้องบางอย่าง เราแทบจะไม่ได้ประโชน์จากมันเท่าไหร่ เช่นการ shake เป็นต้น น่าจะเหมาะกับมือใหม่มากกว่า สมัยก่อนที่เราใช้กล้องตัวใหญ่ระบบ film กัน และถูกฝึกให้หายใจเข้าแล้วกั้นไว้ แนบแขน ๒ ข้างเข้าลำตัว ตามองตรงช่องมอง และกล้องหนักกว่าสมัยนี้พอสมควร เมื่อมาใช้กับกล้อง digital จึงนับว่าได้เปรียบพอสมควร วันนี้พี่ลองทดสอบกล้องที่ระบบกันสะเทือนใน Fuji S5700 ที่มีระยะ optical Zoom ที่ 10x เท่ากับกล้อง Olympus C770 ที่พี่ใช้แล้ว แต่ความละเอียดของFuji S5700 มี ๗ ล้านพิกเซล มากกว่า Olympus C770 ที่มีเพียง ๔ ล้านพิกเซล พบว่า Fuji S5700 ที่มีระบบกันสะเทือน มีคุณภาพของภาพที่ออกมาสู้ Olympus C770 ไม่ได้เลย อาจจะเป็นที่คุณภาพของเลนส์ก็เป็นไปได้

ภาพนี้ทดสอบจากกล้อง Olympus C770 ที่ตึกสูง ๑๐ ชั้น ใช้ระยะ Optical 10x ไม่มีระบบกันไหว อีกกล้องที่นำมาเทียบนั้น อยู่ในกล้องของน้องสาว ไม่ได้นำภาพเปรียบเทียบมาให้ดู เพราะลืมขอ copy ไว้

เอาไว้ให้ได้ Olympus SP570 มาก่อน พี่ก็ไม่มั่นใจว่าจะได้ก่อนวันที่ ๖ พ.ค.นี้หรือไม่ เพราะบางแห่งยังไม่มีของมาเลย แต่คงจะมีนัดทดสอบคุณภาพของภาพอีกครั้ง

 

ผม.....จะรอคอย ดูการทดสอบกล้อง ของ....พี่เพชร นะครับ

โดยส่วนตัวผมเองก็มี OLYMPUS ไว้ใช้งานเหมือนกันครับ แต่เป็นกล้องขนาดเล็ก ๆ SP-350 (8 MEGAPIXEL) ตัวนี้มีเผื่อไว้ แล้วจะพกพาติดกายอยู่ตลอดเวลา คือมีไว้เผื่อ กรณี...เหตุฉุกเฉิน เท่านั้น ครับ (ขนาด....พี่แอ๊ด คาราบาว ยังขอชมเลยครับ พี่น้อง)

(คือ...ถ้ามันมีอะไรจริง ๆ หรือเกิดเหตุการณ์อะไร ? ขึ้นมากระทันหัน จะมามัวค้น หรือคว้ากล้องใหญ่ที่อยู่ในกระเป๋ากล้อง คงจะไม่ทันการณ์แน่ ๆ ประสบการณ์มันสอนมากเยอะแล้ว ครับ )

ตอนนี้ผมก็กำลังจะมองหา กล้องใหญ่....อีกสักตัวหนึ่ง อยู่ครับ ขนาดผมมีแล้ว ก็ต้องอยากมีอีก สงสัยผม มันจะกิเลสเยอะ ๆ อย่างนี้ ต้องตัดกิเลสลงเสียบ้างแล้ว ในระยะนี้ ก็เลยเป็นที่มาถือโอกาสปรึกษา พี่เพชร สักเลยเป็นยังไงล่ะ ครับ

พวกเทคโนโลยี่ ถ้าเราตามมันจริง ๆ รับรองตามไม่ทันหรอกครับ คือ วันนี้ มีรุ่นนี้ออกมาแล้ว ตัดสินใจซื้อไปแล้ว อีกไม่กี่เดือน ก็มีตัวใหม่ออกมาแทน และดีกว่า เสียแล้วครับ
ตัวที่ซื้อไปใช้ได้ไม่กี่วัน ก็ต้องตกขอบ ตกยุค ยิ่งทำงานในแวดวงสังคมข่าวสาร ด้วยก็ต้องอัพเดทรุ่นกันให้ วุ่นวาย !!

ถ้าย้อนมานั่ง นึก ๆ ดูก็น่าเบื่อ และจะเริ่มเบื่อตัวเองเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าครับ มันอยู่ที่ตัวเรา นั้นแหล่ะ คือ จะมามัว รักพี่ เสียดายน้อง ก็เลยเรียบร้อยโรงเรียนไทย อดทั้งพี่ อดทั้งน้อง ไปเลย นะสิ

ผมก็เห็นด้วยกับ....ข้อความของพี่เพชร นะครับ ให้ข้อคิดดี ครับ (พี่เพชร....อย่าเพิ่งเบื่อน้องคนนี้เสียก่อน ล่ะ ครับ)

ขอบคุณนะครับ (แล้วผมจะคอยเฝ้ารอดู การทดสอบกล้องตัวใหม่ของพี่เพชร นะครับ)

 

พี่เพชรไปเยือนเมียนมาร์

พี่....ว่าอุปนิสัยของ....คนเมียนมาร์ ในยุคปัจจุบันกับในอดีต มีความแตกต่างหรือไม่ ? ครับ

ส่วนตัวก็ผมชอบที่นั้นเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของ แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร ที่นั้นยังมีอะไรดี ๆ อยู่เยอะมาก ๆ ธรรมชาติบริสุทธิ์จริง ๆ (แต่ขอโทษครับ ทุกแห่งที่ห่างไกลเหล่านั้น ล้วนเต็มไปด้วยอันตรายทุกอณู ถ้าเข้าออกไม่ถูกทาง บังเอิญผมชอบไปแบบที่คนอื่น ๆ ไม่ค่อยเข้าไปเสียด้วย พวกชอบแหวกกฏ ไม่ขอแนะนำให้เลียนแบบ อันตรายจริง ๆ ครับ) และยังมีพวกโบราณสถานสำคัญ ๆ โดยเฉพาะเรื่องของพิธีกรรม และศาสนา ยิ่งเป็น...พระสงฆ์องค์เจ้า และประชาชน ชาวบ้าน ชาวช่องในหลากหลายพื้นที่ของเมียนมาร์ ที่นั้นเขาเคร่งกันจริง ๆ และมาก ๆ เสียด้วย น่านับถือ ผมอยากให้ชาวพุทธบ้านเราเป็นแบบนี้บ้าง....จังเลย

ผมเคยเข้าเมียนมาร์บ่อยครั้ง และเคยไปทาง เมืองเมียวดี และเดินทางลึกเข้าไปอีกเมือง แต่จะไม่ขอบอกชื่อสถานที่ นะครับ (คือ ผมมีเหตุผลบางอย่างจริง ๆ ครับ) ก็ไปแบบฉายเดียว ครับ (วันแมนโชว์) ก็สนุกดีครับ

ถามว่ากลัวหรือไม่ ? ไม่กลัวครับ มันอาจจะชินชาเสียแล้ว

ยิ่งช่วงที่ผมเข้าไปบังเอิญเป็นช่วงที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นเสียด้วย คือ เป็นช่วงหน้าแล้ง ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมของที่นั้น คือ รัฐบาลทหารเขาจะระดมพล ทำการปราบปราม ชนกลุ่มน้อย อาทิ พวกกระเหรี่ยง KNU และกลุ่มอื่น ๆ

เหตุการณ์นี้ ผ่านมานานแล้ว ย้อนหลังจากนี้ไปสัก 1-2 ปี เห็นจะได้ปัจจุบัน....บรรดา แหล่งข่าว สำคัญ ๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาลทหาร และผู้คนหรือทหารกองกำลังฝ่ายกระเหรี่ยง
ทุกวัน...ผมยังติดต่ออะไรใครไม่ได้เลย แต่พอทราบข่าวมาว่า ทุกอย่างในนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือ เลยทีเดียว สายรายงาน มาให้ทราบครับ สงสัย สักวันหนึ่ง ผมต้องเดินทางเข้าไปเองเลียแล้ว ขอลองอีกคำรบหนึ่ง แน่ ๆ


ทางฝ่าย...กระเหรี่ยง KNU ผมก็เคยไปนอนพักแรมมาหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งเดินทางไป ทางฝั่งชายแดน พื้นที่ จ.ตาก ซึ่งที่นั้น ผมจะสนิทกับ ท่านนายพลโอริเวอร์ (ตอนนี้...ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ? ก็ไม่รู้ ไม่ได้ข่าวเลย เพราะ ผมเองก็ยุ่ง ๆ กับภารกิจอื่น ๆ อยู่เพียบ)

ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก แถมยังมีดีกรี หรือเพาเวอร์ มาก ๆ ในกองกำลังทหารกระเหรี่ยง ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเบอร์หนึ่งหรือยัง ? หรืออาจจะให้ลูกชายท่านขึ้นแทนก็ไม่ทราบได้

เพราะเท่าที่ผ่านมา ถ้าผมไปหาท่าน ๆ มักสั่งให้ลูกน้องของท่านเลี้ยงดูปูเสื่อผมเป็นอย่างดี และท่านจะเป็นกันเองมาก ๆ ไม่ถือตัว แถมยังเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา และคุณธรรมสูงมาก ๆ

โดยบรรดาเด็ก ๆ ชาวกระเหรี่ยง ตัวเล็ก ตัวน้อย ๆ หรือบรรดาพวกวัยรุ่น ที่นั้นบอกได้เลย ทุกคนยิงปืน เป็นหมด ไม่ว่าจะเป็นอาวุธหนัก อาวุธเบา หรือปืนสั้น ดีเกินคาด ตัวผมยังอาย ครับ

ถ้ามีโอกาสคราวนี้ แล้วผมได้เดินทางเข้าไปอีก ผมจะเก็บภาพดี ๆ อีกมุมหนึ่งของโลกในเมียนมาร์ ที่น้อยคนจะมีโอกาสได้ยลโฉม มาฝาก....พี่เพชรบ้าง นะครับ

 

ผมอยากบอกเล่าให้ผู้ที่สนใจไปกราบสักการะองค์พระเกศาธาตุ ๒ เส้นที่ประดิษฐานบนองค์พระธาตุอินทร์แขวนแห่งนี้ที่ประเทศพม่าว่า หากมีโอกาสที่จะตื่นเช้าได้ราวๆ ตี ๔ ก็ควรเจริญสมาธิรอบๆองค์พระธาตุอินทร์แขวน และที่สำคัญคือการตักบาตรพระพุทธเจ้า ครั้งแรกผมได้ยินผมก็เข้าใจว่าคือการใส่บาตรพระทั่วไปที่เราเคยเห็น แต่ปรากฏว่าคือการถวายข้าวพระพุทธนั่นเอง แต่บริเวณที่ถวายข้าวพระพุทธนั้นคือบริเวณที่มีความใกล้กับพระธาตุอินทร์แขวนมากเป็นเขตที่ผู้หญิงไม่มีโอกาสได้เข้าไปในบริเวณนี้เลย นอกจากจะฝากผู้ชายถวายแทน สำหรับอาหารที่ใส่บาตรพระพุทธเจ้านั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จัดเป็นชุดๆไว้ตั้งแต่ราคา ๓,๐๐๐ จ๊าด(ประมาณ ๑๐๐ บาท) ไปจนถึงราคา ๑๒,๐๐๐ จ๊าด ประมาณ ๔๐๐ บาท ก็จะเป็นชุดที่ดูอลังการสำหรับผู้ที่มีฐานะหน่อย เท่าที่ผมสังเกตผู้ที่จะถวายชุดที่มากกว่า ๕,๐๐๐ จ๊าดขึ้นไปนั้นค่อนข้างน้อยมาก เราก็พอจะคาดเดาฐานะของคนที่นั่นได้ แต่ก็ไม่ใช่คนที่ขาดศรัทธา บรรยากาศรอบบริเวณพระธาตุอินทร์แขวนดีมากๆครับ การถ่ายภาพพระธาตุอินทร์แขวนนี้หากเลยช่วงเวลาที่เหมาะสมไปแล้ว เช่น ช่วงเวลาเกือบ ๗ โมงเช้าแบบนี้โอกาสได้ภาพสวยๆก็ยากมาก เพราะหมอกลงจัดมาก ดังภาพที่ผมถ่ายไว้เปรียบเทียบห่างกันเพียง ๑๐ นาทีเท่านั้น<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>

 

มีสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจบนพระธาตุอินทร์แขวนนั่นคือหอพระพุทธบาท ประดิษฐานอยู่ตรงกลางของช่องทางเดิน พระพุทธเจ้าเป็นประธานองค์ซ้ายประทับยืน และองค์ขวาประทับนั่ง เบื้องหน้าเป็นรูปปั้นบุคคลต่างๆตั้งแต่พระมหาจักรพรรดิกษัตริย์ ฤาษี คหบดี จนถึงชาวบ้าน กระทำวันทาองค์พระพุทธเจ้า

ช่วงนี้ผมสังเกตว่ามีผู้คนถวายปัจจัยพระพุทธเจ้า และนำเงินจ๊าดมาพับเป็นกรวยแล้วเสียบไว้ที่มือที่วันทาของรูปปั้นแต่ละรูป คล้ายดั่งร่วมถวายปัจจัยผ่านบุคคลต่างๆที่ถูกจริตกับตน หรือปรารถนาจะร่วมบุญกับผู้ใด..

รอยพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็นการจำลองขึ้นมา และมีน้ำขังอยู่ภายในพระพุทธบาท ผู้คนที่ศรัทธาจะใช้นิ้วแตะน้ำที่ขังไว้ในรอยพระพุทธบาทนี้ แต้มไปที่หน้าผาก เปลือกตาทั้ง ๒ ข้าง ปาก และลิ้น ชะรอยหมายความถึงความเป็นมงคลทั้งหลาย

และก็มีบางท่านที่ได้รับคำแนะนำจากไกด์บ้าง คนท้องถิ่นบ้าง ให้นำเงินบาท หรือเงินจ๊าด ใบละ ๒๐ บาท ๕๐ บาท หรือ ๑๐๐ บาท นำด้านที่มีรูปพระเจ้าอยู่หัวของเราอธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนา แล้ววางบนผิวน้ำ หากสำเร็จ และรวดเร็ว ปลายแบ๊งค์ทั้ง ๒ ข้างจะม้วนเข้าหากันอย่างรวดเร็ว หากสำเร็จ แต่รอหน่อยนึง จะม้วนข้างเดียว หากไม่สำเร็จจะไม่ม้วนเลย...ก็เป็นความแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ท่านผู้สนใจ หากได้ไปกราบนมัสการองค์พระธาตุอินทร์แขวนแล้วก็ลองเสี่ยงทายดูนะครับ

ยังมีสถานที่อื่นอีกเกี่ยวกับพระนางฉุ่ยนานจิง ในเรื่องของความเชื่อในการรักษาโรคที่เป็นอยู่ อันนี้อยากให้ไปค้นหากันเองดีกว่านะครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

 

หลังจากทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมบนยอดเขาแล้ว ช่วง ๘ โมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ลูกหาบชุดเดิมจะตามหาพวกเรากันแล้ว ซึ่งตามหาไม่ยากเลย พร้อมเพรียงกันหาบลงจากเขา ความสวยงามของบรรยากาศรอบๆเขาระหว่างนั่งเสี่ยงลงนี่สวยงามมาก ความสะดวกสบายระหว่างนั่งเสี่ยงลงเขานี่ สุดๆไปเลย ต่างจากขาขึ้นมากมาย หลายท่านทนไม่ไหว เพราะลูกหาบพวกนี้จะเดินกระแทกเท้าลงเขา คล้ายเดินแบบทหาร ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>

 

ก่อนออกเดินทางในกลุ่มนี้ควรต้องตกลงกันในกลุ่มให้เรียบร้อยกันก่อนว่าจะ Tip ลูกหามทั้ง ๔ คนเท่าไหร่ เหตุที่ต้องบอกกันตรงนี้ เพราะเป็นเรื่อง serious ของลูกหาบที่นี่กันเลยทีเดียว เพราะหากไปสอบถามกันเองในภายหลัง หรือเขาจะไม่ยอม คือรับไม่ได้ที่เขาจะได้น้อยกว่าเพื่อน คืออย่างน้อยเท่ากัน ก็จะสบายใจ เมื่อยอมไม่ได้ ลูกหาบที่ได้เงิน Tip น้อยจะตามหาแล้วขอ และตื้อกันตรงนั้นเลย เป็นภาพที่ดูน่ารำคาญมาก มีเรื่องกับพวกนี้แล้ว เขาเล่นไม่เลิกนะครับ ไม่คุ้มกัน จึงขอให้ตกลงกันในกลุ่มพวกเราที่ไปด้วยกันทุกคนก่อน ชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อความเรียบร้อย

ขนาดชี้แจงกันแล้ว ยังเป็นเรื่องจนได้ ในกลุ่มพวกเราท่านหนึ่งได้จ่าย Tip ไปเมื่อวานขาขึ้น ทั้งที่ไกด์แนะนำให้จ่ายขาลงทีเดียวพร้อมกัน ถึงบอกพวกเขาไปว่า Tomorrow ยังจำกันได้ใช่ไม๊ครับ พวกลูกหาบจะพูดอะไร ขอให้กล่าวว่า Tomorrow คำเดียวเท่านั้น ปรากฎว่า เมื่อส่วนมากทำกันตามที่ตกลงคือจ่าย Tip ขาลงให้ลูกหาบคนละ๒,๐๐๐ จ๊าด ประมาณ ๘๐ บาท หมายถึง Tip ขาขึ้น และขาลงพร้อมกัน ระหว่างนี้หากท่านใดใจอ่อน จ่ายเป็นเงินบาทให้คนละ ๑๐๐-๒๐๐ บาท จะเป็นเรื่อง เพราะเขาถามกัน คนได้มากก็จะคุยโวว่าได้เท่าไหร่ๆ คนที่เหลือจะกรูกันเข้ามาขอเพิ่มในสภาพ ๔ รุม ๑ นะครับ เพื่อนร่วมทางท่านอื่นๆอาจจะไม่พอใจได้

เมื่อเล่นกันไม่เลิก และอาจจะกระทบต่อภาพการท่องเที่ยวของพม่าเองในภายหลัง ผมก็ขอนำภาพลูกหาบคนที่จะก่อความรำคาญ และอาจะเป็นเรื่องกันได้มาให้ท่านได้ชมหน้าตา เพื่อหลีกเลี่ยงใช้บริการกับลูกหาบคนที่สร้างปัญหา กว่าจะได้ภาพชัดๆแบบนี้ ต้องบอกว่า Hey!!! U ...please show victory.

โปรดระมัดระวังลูกหาบท่านนี้กันให้ดีๆ...จำหน้าตากันไว้
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>