มิติอื่นๆ มากกว่าตาเห็น

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD align=left>[SIZE=+2]มิติอื่นๆ มากกว่าตาเห็น[/SIZE] </TD></TR><TR><TD align=left background=/images/dotted_line.gif> </TD></TR><TR><TD align=left><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>ตามทฤษฏีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์นั้น ธรรมชาตินั้นประกอบด้วยมิติ 4 มิติ คือ อวกาศ 3 มิติ (กว้าง ยาว สูง) และ เวลาอีกหนึ่งมิติ มนุษย์เราจึงอาศัยอยู่ในโลก ที่มี 4 มิติ

ปัจจุบันนักฟิสิกส์มีความคิดใหม่ว่า แท้ที่จริงแล้วธรรมชาติอาจจะมีมากกว่า 4 มิติที่เห็น มิติที่เพิ่มขึ้นอาจตอบคำถามที่ว่า ทำไมแรงโน้มถ่วงถึงได้อ่อนกว่าแรงชนิดอื่นๆ เช่นแรงแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ แรงนิวเคลียร์
(จากผลการทดลองพบว่าแรงโน้มถ่วงมีความเข้มน้อยที่สุด)

ทฤษฎีใหม่ที่มีชื่อว่า Brane World อธิบายว่าจริงๆแล้วธรรมชาตินั้นมีมากกว่า
4 มิติ แต่มีเพียงแรงโน้มถ่วงเท่านั้นที่มีผลต่อมิติอื่นๆ ในขณะที่แรงแม่เหล็กไฟฟ้า
(โฟตอน) และ แรงอื่นๆ มองไม่เห็นมิติเหล่านั้น จึงมีผลแค่ในโลก 4 มิติ

การที่แรงโน้มถ่วง (หรือ อนุภาค Graviton) มีผลในมิติอื่นๆด้วยนี่เองที่ทำให้มัน
มีความเข้มน้อยลง

นักฟิสิกส์ที่ European Organization for Nuclear Research (CERN)
ได้พยายามที่จะทำการทดลองเพื่อพิสูจน์การมีอยู่จริงของมิติอื่นๆ ดังกล่าว
โดยการสร้างเครื่องเร่งอนุภาคขนาดยักษ์ที่เรียกว่า Large Hadron Collider หรือ LHC ซึ่งจะเสร็จสมบรูณในอีก 5 ปีข้างหน้า


http://lhc.web.cern.ch/lhc/ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มาจาก
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=26&Pid=5649