มีปัญหากับ อารมณ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชมทรัพย์, 8 พฤศจิกายน 2019.

  1. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    ให้มีสิ่งรู้ ให้มีการกระทบตามปกติชีวิตตามธรรมชาติ เมื่อมีสิ่งกระทบ รู้สึก กระเทือนถึงใจ-ไม่ถึงใจเกิดๆดับๆบ้าง ยึดบ้างติดบ้าง ตกหล่นหายสลายไปบ้าง จะทำความรู้อยู่แค่นี้ไม่ต้องมีสมาธิตั้งท่าจะเป็นไปได้ไหมในความเป็นจริง จะเลื่อนลอยเป็นขี้ลอยน้ำ ไม่มีแก่นสารมรรคผลไหม
     
  2. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    รู้ทุกข์อริยสัจ ปรากฏที่ใจ

    ละ ตัญหาและ ทิฏฐิ เสียได้
     
  3. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    พอกล่าวว่า ละ ทิฎฐิ ปั๊ป !!!

    รู้เลย มะใช่ตน ยังใช้ ปรัชญา อยู่
    ไม่ได้ อนุโลมลู่ลมไปกับ ความเพียร

    ถ้า อนุโลม จะทราบว่า ไม่ใช่ให้ไปละ ทิฏฐิ
    เพราะ จิต มีหน้าที่ คิด ..... เหมือน จิตมี
    หน้าที่ ทำกริยาตาย(จากภพชาติ) [ จิตมี
    กิจ 14 อย่าง ไปห้ามมันเกิดไม่ได้ ]

    ทิฏฐิในแง่นักปฏิบัติ จะเห็น "ความถึงพร้อมทิฏฐิ"

    ถึงพร้อมทิฏฐิคืออะไร

    ให้ มะใช่ตนนึกถึง นักกีฬาสองคนวิ่งแข่งกัน
    คนนึงชื่อ สตางค์(น้องสติ) อีกคนชื่อ "ลิ้นมหา"

    พอนึกภาพออกไหม ว่า ใครเข้าเส้นชัยก่อน
    ถ้าสองคนนี้ อัตราวิ่งเท่ากัน

    ปุถุชน เห็น เข้าพร้อมกัน (ถึงพร้อมทิฏฐิ)

    แต่ บัณฑิตจะพึงทราบธรรมจาก อุปมา ว่าใคร
    เข้าก่อน ( มันต้องมีสิ่งใด เฉือนกันนิดนึง )


    อนึ่ง พึงทราบว่า "อภิชญา และ โทมนัส"
    เป็นชื่อของ กรรมการ ที่จะยืนหลักชัยใน
    "กาลก่อน"



    ปล. อ่านไม่เข้าใจ อนุญาติให้ แลบลิ้น แทน
    การใช้ ทิฏฐิ ถามหาคำอธิบาย เพราะจะ
    ไม่อธิบาย พวก ด๊อกเตอร์ห้องแถวลากพร้าว
    มันเยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2019
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ต่างกันที่ "กระบวนการ/ขั้นตอน" และ ภาษา ที่ระบุปัจจุบัณขณะ
    +++ ณ เวลา/สถานการณ์ ที่กำลังวิวัฒนาการ ณขณะนั้น ๆ
    +++ เป็นเรื่อง "วิมุติญาณทัศนะ"
    +++ เป็น "สภาวะรู้ อยู่ส่วนหนึ่ง"
    +++ และ "สังขารจิต อยู่ คนละส่วน"
    +++ ทั้ง 2 ส่วน "หลุด/พ้น ออกจากกัน"
    +++ เป็นเรื่อง "หยุดสังขารจิต ที่ ปรุงแต่ง"
    +++ แล้ว "ปล่อย เอาไว้เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร"
    +++ มันจะ "รู้อยู่เฉย ๆ" ตรงนี้เป็น "อุเบกขาสัมโภชฌงค์"
    +++ จนกว่า "ความเป็น จิต/กาย/สังขาร/ตน" จะสลายคลายตัว ไปเอง

    +++ เป็นกรณีของ "อาการ ดับ/คลาย/ปล่อย" สังขารจิต
    +++ เป็นเรื่อง "ต่อจาก ปล่อยวางจิต"
    +++ เป็น "ผลลัพธ์" จากการ "วางสังขารจิต" ทิ้งไป

    +++ แค่นี้นะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...