มีเสียงสั่งให้ข่มขืน

เอามาจากหนังสือคนรู้ใจที่ ศ.ดร.นายแพทย์วิทยา นาควัชระ เป็นคนเขียนอยากให้รู้ว่าทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กหนุ่มคนนี้มาปรึกษาผมที่คลินิคด้วยอาการหูแว่ว ได้ยินเสียงคนมาสั่งให้ข่มขืนผู้ห_ิง เขารู้สึกกลัวเสียงนั้น ไม่ชอบเสียงนั้นและกลัวว่าจะต้องทำตามคำสั่งของเสียงนั้น คือต้องข่มขืนผู้ห_ิงซึ่งเขาไม่อยากทำ จึงรีบมาปรึกษา

เขาเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง บุคลิกค่อนข้างเรียบร้อย เก็บตัว ทั้งพ่อและแม่เป็นข้าราชการระดับบริหาร ทั้งคู่มีลักษณะคล้าย ๆ กันคือ ใจร้อน อารมณ์ร้าย และชอบทะเลาะกันเป็นประจำ ทั้งคู่มีเรื่องถกเถียงกันเสมอ ความเห็นไม่ลงรอยกัน และไม่ยอมกันเลย

พ่อชอบก้าวร้าวกับลูกและภรรยา ไม่พอใจชีวิตครอบครัว บ่นว่าตลอดเวลาต่อหน้าลูกเมียว่าเลือกคนมาเป็นภรรยาผิดไป ถ้าเลือกได้จะหย่าและอยู่ลำพังดีกว่า

ภรรยาก็บอกว่าไม่แคร์ จะหย่าก็หย่าไป ต่างท้าไปท้ามา แต่ก็ยังไม่หย่ายังอยู่ด้วยกันแบบเป็นคู่กรณี
พ่อชอบกินเหล้า เมื่อเหล้าเข้าปากจะยิ่งก้าวร้าวมากขึ้น มักแสดงความก้าวร้าว ด่าทอลูกเป็นประจำและชอบวิจารณ์จับผิดคนอื่น ๆ ในสังคม ไม่ว่าใครจะทำอะไรดี เขาเป็นต้องจับผิดได้ หรือหาทางด่าทอตำหนิได้ ภาษาพูดและภาษาด่านั้นหยาบคายมาก แต่เวลาเขาออกไปสังสรรค์นอกบ้านกับเพื่อนหรือ_าติ เขาจะเรียบร้อย สุภาพ และพูดเพราะ ชีวิตพ่อเคยยากจนมาก่อน ต่อสู้ชีวิตมามาก ปู่ก็เป็นคนกระด้าง เจ้าชู้ มีเมียหลายคน มีลูกหลายคน

แม่ก็เป็นคนก้าวร้าวกับลูกและสามี แต่เวลาออกไปนอกบ้านก็จะวางตัวดีเช่นกัน ลูก ๆ ทุกคนก้าวร้าวเข้าหากัน เกี่ยงกันทำงานบ้าน ทะเลาะกันเป็นประจำ
แต่ถึงลูก ๆ จะก้าวร้าว อวดเก่ง ทะเลาะกันเป็นประจำอย่างนี้ พอเวลาพ่อแม่เข้าบ้านลูก ๆ จะหลบลี้หายหน้าไปหมด

คนไข้คนนี้เติบโตมาด้วยความรู้สึกเหงา ว้าเหว่ ไม่ชอบแม่ และไม่ชอบพ่อ
ทั้งแม่และพ่อก้าวร้าว ข่มเหงลูก กดดันลูกตลอดเวลา เขามีความรู้สึกตลอดเวลาว่า...
...เขามีปมด้อย
...เขามีความระแวงผู้คนและอนาคต
...เขามีความกังวลมาก
ความรู้สึกภาคภูมิใจตัวเองไม่มีเลย เมื่ออยู่กับเพื่อนก็คิดว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าเพื่อน ๆ คิดว่าเพื่อนจับผิดและมองเห็นความต่ำต้อยของเขา เขาจึงไม่อยากมีเพื่อน เพราะคิดว่าเพื่อนไม่ต้องการคบเขา ครั้งหนึ่งในชีวิต...
เขานึกอยากจีบผู้ห_ิงคนหนึ่ง จึงพยายามตีสนิท แต่เขาได้ยินผู้ห_ิงในกลุ่มนั้นวิจารณ์ว่าเขาหน้าตาไม่ดี เรียนก็ธรรมดา เพียงแค่นั้นเขาก็เลิกจีบทันที
และตั้งแต่นั้นมาเขาก็เกิดความแค้นใจ และยิ่งตระหนักว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ต่ำต้อยจริง ๆ มากขึ้น

ชีวิตวัยเด็กนั้นเขาถูกจับผิด และถูกลงโทษมาก เมื่อผู้ห_ิงพูดอย่างนั้นเขาก็คิดว่าเขาถูกจับผิดและถูกลงโทษ กับพ่อแม่เขารู้สึกโกรธเมื่อถูกจับผิดและถูกลงโทษ แต่แก้แค้นไม่ได้ แต่กับผู้ห_ิงคนนั้นเขารู้สึกโกรธ และคิดว่าแก้แค้นได้ จึงกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เขาได้ยินเสียงแว่วทางหูว่าให้เขาข่มขืนผู้ห_ิงเสีย (Auditory Hallucination)

กรณีเช่นนี้เข้าข่ายเป็นโรคจิตชนิดระแวง แต่เขาพอรู้ตัวจึงรีบมาปรึกษาผม
ที่ผมนำกรณีนี้ขึ้นมาเล่าให้ฟังเพื่อชี้ให้เห็นว่า
1. คนเป็นโรคจิตแล้วมีหูแว่วสั่งให้ข่มขืน เขาอาจจะทำตามเสียงแว่วที่สั่งนั้น และข่มขืนผู้ห_ิงจริง ๆ ก็ได้
2. คนไข้แยกตัวสร้างโลกของตัวเอง จนได้ยินเป็นเสียงแว่ว เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนไร้ค่าในโลกของความเป็นจริง เป็นเพราะพ่อแม่สร้างความรู้สึกต่ำต้อยและไร้ค่าให้เขาตลอดมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งเขาไม่เคยลืม
3. พ่อแม่ที่ก้าวร้าวและไม่รู้วิธีเลี้ยงลูกอย่างเหมาะสมเท่ากับเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกป่วยทางจิตได้
4. พ่อแม่ที่ก้าวร้าวและขาดความสุขุมนั้น เป็นเพราะเขาได้สัมผัสแรงกดดันมาจากรุ่นปู่ย่า จึงมักจะทำความก้าวร้าวและกดดันนั้นมาใช้กับลูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จะต้องเลิกวงจรเลียนแบบอย่างความก้าวร้าวนั้นเสียให้ได้ ในกรณีที่พ่อกินเหล้าเพราะมีความเครียดจึงหันหน้าเข้าหาเหล้า และอาจจะติดเหล้าในที่สุด
5. ครอบครัวที่ขาดพื้นฐานของความรักและความเข้าใจ ดังเช่นครอบครัวที่เล่ามานี้ พบได้มากขึ้น ๆ ในสังคมทุกวันนี้ เป็นบ่อเกิดของความไม่ปกติสุขของครอบครัว และสมาชิกครอบครัวทำให้สังคมมีปั_หามากขึ้น
6. การรักษาโรคจิตชนิดระแวงนั้น รักษาได้โดยการกินยารักษาโรคจิตเมื่ออาการทางจิตระแวงหรือหูแว่วลดลง ก็จะรักษาด้วยการทำจิตบำบัดต่อไป
ลอง ๆ เหลียวมองรอบ ๆข้างตัวท่านดูซิว่า มีครอบครัวชนิดนี้ ที่ท่านรู้จักอยู่มากไหม?

ถือว่าเป็นครอบครัวที่ป่วยทางจิตทั้งพ่อแม่และลูก
ความเจ็บป่วยทางจิตนั้นร้ายแรงกว่ามะเร็งหรือโรคเอดส์เสียอีก เพราะเขายังไม่ตาย มองภายนอกอาจจะไม่เห็นชัด แต่ผลร้ายของมันนั้นเรื้อรังและบั่นทอนชีวิตทั้งของตนเอง และคนในสังคมรอบ ๆ ตัว บางคนจะทำร้ายคนในสังคมอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดยที่คนถูกทำร้ายนั้นไม่มีความผิด เช่นอาจจะไปแก้แค้นกับลูกเมียต่อไป หรืออาจไปข่มขืนคนอื่น ๆ ได้

สังคมให้ความสนใจกับการรณรงค์ป้องกันเอดส์หรือมะเร็งกันมาก
เมื่อไรจะมีองค์กรใดผ่านมาช่วยรณรงค์ป้องกันโรคทางจิตใจจริง ๆ จัง ๆ ให้มากขึ้นบ้าง?

 

จะใช้อะไรเป็นทางแก้

หมอนอกจากจะแนะนำทางด้านจิตบำบัดแล้ว ให้คำแนะนำทางวิ__านบ้างรึเปล่า หรือ คิดว่าทุกอย่างต้องเป็นวิทยาศาสตร์เท่านั้นจึงจะเชื่อถือได้ พิจารณาไปถึงเรื่องกรรมบ้างรึเปล่า? ทำไมมีชีวิตอีกมากมายประสบกับความยากลำบาก ทารุณ อดอยากยากแค้น แต่ก็สามารถผ่านพ้นสิ่งต่างๆมาได้จนประสบความสำเร็จในชีวิต เช่น ดอกเตอร์คนหนึ่งมาจากเด็กกำพร้า ถูกทารุณกรรม ดูหมื่นดูแคลนสารพัด ในอดีต ทำไม? ดอกเตอร์คนนี้จึงไม่กลายเป็นขยะสังคม อาช_ากรโรคจิต หรือฆาตกร หาสาเหตุมาเก็บเป็นกรณีศึกษาอย่างเดียวน่าจะไม่เพียงพอควรมีการกระทำมากกว่านั้น