มีใครเคยเจอแบบนี้ม่างครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย happyokay, 21 มีนาคม 2015.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    สัมมาวาจา มีไว้เพื่ออะไร
     
  2. happyokay

    happyokay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +447
    ตอนที่ 2 รู้แล้วว่าไม่ได้มาดี~
    (ต่อเนื่องจากแชร์ประสบการณ์ > สุดขีดความกลัว V.1-5 ตอนที่ 1)
    หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไป ประกอบกับผมเป็นคนค่อนข้างจะปักใจเชื่ออะไรยาก หากว่าเรื่องนั้นผมไม่ได้สัมผัสหรือเห็นจะจะกับตาตนเอง และด้วยการที่ผมนับถือพุทธศาสนาเข้าวัดทำบุญฝึกนั่งสมาธิตั้งแต่เป็นเด็กน้อย ผมเชื่อว่าหากเรา คิดดี ทำดี พูดดี พระธรรมจะปกปักษ์รักษาเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายรวมถึงภูตผีปีศาจแน่นอน และด้วยความเชื่อดังกล่าวผมจึงไม่ได้ยึดติดที่จะต้องขวนขวายหรือค้นหาคำตอบจากเหตุการณ์ความฝันประหลาดนั้น แต่ต่อมาผมก็มั่นใจว่าผมกำลังโดนรังควานจากวิญญาณผู้หญิงที่ไม่ปรากฏกายและไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้เริ่มจากฝันเห็นกระจุกผมสีดำก่อน จากนั้นในความฝันครั้งถัดมาผมจำได้ว่า ผมอยู่บนตึกสูงแห่งหนึ่ง ณ ที่แห่งนั้นผมได้ยินเสียงร้องคล้ายเสียงผู้หญิงแต่ฟังไม่ได้ศัพท์เพราะเสียงเหมือนอยู่ไกลออกไป ด้วยความสงสัยใคร่รู้ผมจึงตั้งสติและพยายามเดินหาต้นเสียงนั้น ผมแน่ใจว่าผมมาถูกทางแล้วเพราะผมค่อยๆ ได้ยินเสียงร้องดังขึ้น ชัดขึ้น จับใจความได้ว่า
    ช่วยด้วยยยยยยยยย......ช่วยด้วยยยยยยยยย..........ช่วยด้วยยยยยยยยย
    กระทั่งรู้ตัวอีกทีผมก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องโถงต้นเสียงประตูถูกเปิดออก ภายในห้องมืดสลัวไม่มีแสงไฟ มีเพียงแสงจันทร์ลางๆ ที่ส่องผ่านบานกระจก 3-4 บาน ทะลุเข้ามาภายในห้องที่ฝาผนังด้านในสุดของห้อง ผมจึงพยายามเพ่งมองจนสามารถปรับสายตาชินกับแสงจันทร์จนสังเกตเห็นว่ามีมือข้างหนึ่งคล้ายมือผู้หญิงแต่จำไม่ได้ว่าเป็นมือข้างซ้ายหรือข้างขวา มือข้างนั่นกำลังเกาะเกี่ยวอยู่ตรงบริเวณขอบหน้าต่างซึ่งเอื้อมมาจากภายนอกตัวอาคารในลักษณะที่กำลังพยายามจะปีนกลับเข้ามาภายในตัวอาคารพร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อแน่ใจแล้วว่ามีคนประสบเหตุจริงๆ ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือของผู้หญิงคนนั้นไว้เมื่อชะโงกไปดูก็พบว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ เพราะนุ่งกระโปรง ไว้ผมยาวถึงกลางหลัง และร่างกายดูบอบบาง และกำลังก้มมองลงไปที่พื้นพสุธาด้านล่าง ตอนนั้นผมพยายามจะดึงเธอขึ้นมา แต่น่าแปลกมากที่เธอคนนั้นกลับทำตัวแข็งๆ นิ่งๆ ไม่เงยหน้าสบตาผม รวมทั้งไม่ยินดียินร้ายใดๆ กับการช่วยเหลือของผมเลย และเมื่ิอผมฉุดดึงมือผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งจนศีรษะของเราอยู่ห่างกันราว 1 ฟุตเศษ อยู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองสบตาผมและทำให้ผมหลอนมาก เพราะใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นทั้งบวมเป่งม่วงคล้ำและเต็มไปด้วยเส้นเลือดคอดสีดำๆ เต็มใบหน้า แววตามีแต่ความอาฆาตพยาบาท และไม่ทันที่ผมจะหายตกใจกลัว ผู้หญิงคนนั้นก็ฉุดกระชากดึงร่างของผมร่วงหล่นดิ่งพสุธาไปกับเธอด้วย และขณะที่หน้าของผมใกล้จะกระแทกลงกับพื้นพสุธา ผมก็สะดุ้งโหยงตกใจตื่นตัวลอย และทันทีที่ได้สติผมก็หรี่ตามองไปที่หน้าต่างมองเห็นท้องฟ้ายังคงมืดสนิทอยู่ผมก็รู้สึกดีใจที่มันเป็นเพียงความฝัน แต่ด้วยความที่ผมฝันร้าย ผมจึงนอนต่อโดยการภาวนา พุทโธ พุทโธ ฯลฯ แต่ปรากฏว่าขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับ พุทหายบ้าง โธหายบ้าง ไม่ต่อเนื่อง อยู่ๆ ผมก็ยินได้เสียงผู้หญิงมาแอบกระซิบหัวเราะเบาๆ ที่ข้างหูของผมด้วยเสียงหนักเบาสลับกัน
    อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เท่านั่นแหละครับผมขนลุกขนชันไปทั้งตัวใจนี้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เสียงนี้มันคุ้นๆ คล้ายกันกับเสียงผู้หญิงที่ฉุดกระชากผมในฝันเมื่อตะกี้นี้เลย ผมคิดในใจว่า เอาแล้วไงกรู โดนอีกแล้ว คราวนี้ผมรีบแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลและเปิดไฟนอนภาวนาพุทโธๆ ขออย่ามารังควานผมเลยจนกระทั่งผมหลับ มารู้สึกตัวอีกทีก็ช่วงสายของวันใหม่ ตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่เจออะไรแล้วมั้ง แต่ขอประทานโทษครับ ผมคิดผิดมหันต์ครับ......

    ตอนที่ 3 ในที่สุดก็มาปรากฏให้เห็น
     
  3. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    อ่านแล้วหลอนสุดๆ
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ช่างแนะนำ นะ

    สมมุติที่ผ่านมาเปรียบแกคือ ลูกสาวของฉัน แล้วฉันเข้ามาปกป้องแก .....แล้วคำตอบที่ได้ มันเป็นยังไงล่ะ.... แกแนะนำฉันทำเอง ว่าควรเข้าไปปกป้อง

    สุดท้าย แล้ว แกเข้าใจที่ฉันทำมั้ยล่ะ .....นี่ไง แม้แต่แก ยังเข้าใจไม่ได้

    ดังนั้น ไม่ต้องมาอวดเก่ง แนะนำให้ฉัน เข้าไปปกป้อง ลูกของฉันหรอก

    เพราะ ผลมันจะออกมา เหมือนกับ ที่แก ทำ ไง
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    บางครั้งการพูด ความจริง มันก็ถูกทำให้คนฟัง ไม่เข้าใจ ก็ได้
    สัมมาวาจา คือ การพูดความจริงไง ความจริงที่คนฟัง ไม่อยากจะฟัง
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เงี่ยหูฟัง แต่ไม่รู้จะได้ยินหมดไหม
     
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ไม่เห็นค่ะ ไม่มีแว่น

    เข้าไปทำไม มีอะไรน่าดูป่าว
     
  8. happyokay

    happyokay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +447
    ตอนที่ 3 ในที่สุดก็มาปรากฏให้เห็น
    (ต่อเนื่องจากแชร์ประสบการณ์ > สุดขีดความกลัว V.1-5 ตอนที่ 2)

    /ผมคิดในใจว่า เอาแล้วไงกรู โดนอีกแล้ว คราวนี้ผมรีบแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลและเปิดไฟนอนภาวนาพุทโธๆ ขออย่ามารังควานผมเลยจนกระทั่งผมหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ช่วงสายของวันใหม่ ตอนนั้นผมคิดว่าคงจะไม่เจออะไรแล้วละมั้ง แต่ขอประทานโทษครับ ผมคิดผิดมหันต์ครับ......
    เพราะคืนถัดมาระหว่างที่ผมหลับสนิท ผมรู้สึกเหมือนมีคนมานอนข้างๆ ผม และพ่นลมยาวๆ คล้ายเป่าปากเพื่อให้แรงลมมาปะทะที่ต้นคอของผม จนกระทั่งผมเริ่มรู้สึกตัว แต่ด้วยความที่ผมยังง่วงเพลียอยู่ ผมจึงงัวเงียเอามือรูปคลำดูที่ต้นคอว่ามีแมลงหรืออะไรแปลกปลอมไหม หลังจากคลำๆ ดูไม่พบอะไร ผมจึงพลิกตัวนอนต่อ แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันที่ผมจะเอามือออกจากต้นคอ เอาอีกแล้ว เสียงผู้หญิงคนเดิมเลย คราวนี้มาหัวเราะต่อกระซิกที่ข้างหูผม อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนักเบาสลับกันเป็นจังหวะ

    ตอนนั้นใจหนึ่งผมก็กลัวอีกใจหนึ่งผมก็โมโห เว้ยเฮ้ยยยยย ทำไมต้องมาแกล้งกรูด้วยวะ กรูไปทำอะไรให้ กรูก็อยู่ของกรูดีๆ มายุ่งกับกรูทำไม แม่มเอ้ยยยยยยย

    พอผมบ่นในใจเสร็จ ผมก็ตั้งใจว่าจะรีบลุกไปเปิดไฟในห้องให้สว่างไสว แต่ปรากฏว่า ไม่ว่าผมจะพยายาม ลุกนั่ง ลุกยืน เท่าไร ผมก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวร่างกายตัวเองได้เลย ตัวผมแข็งทื่อและรู้สึกหนักไปทั้งตัว ตอนนั้นผมตกใจมากคิดว่าตัวเองเป็นอัมพาต

    แต่แล้วสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า มันน่ากลัวและน่าตกใจกว่าอาการอัมพาตมากมายนัก ตอนนั้นผมเห็นเต็มๆ สองตาเลยว่า ที่ปลายขาของผม มีกลุ่มควันสีดำทะมึนคล้ายก้อนเมฆแต่ไม่ฟุ้งกระจาย ได้จับกลุ่มรวมตัวกันควบแน่น จนปรากฏให้เห็นเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ไว้ผมยาวเลยบ่า หุ่นบอบบาง เอวคอด นุ่งสไบห่มเฉียงพาดไหล่ กำลังนั่งคุกเข่าคล้ายท่าเบญจางคประดิษฐ์ คร่อมทับขาบริเวณข้อเท้าทั้งสองข้างของผมอยู่ ตอนนั้นผมกลัวมากและหลอกปลอบใจตัวเองวนไปวนมาว่า

    ไม่จริงหรอก ไม่ใช่หรอก ไม่จริงหรอก ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวก็หายไปเอง เดี๋ยวก็หายไปเอง

    จนผ่านไปสักพักใหญ่ภาพผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงนั่งคร่อมอยู่ท่าเดิม ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่ พุทโธ พุทโธ

    พอผมท่องไปได้ไม่ทันไร ปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่นั่งนิ่งๆ คราวนี้เริ่มขยับส่วนคอและศีรษะ ค่อยๆ เอียงไปทางด้านขวามืิอของผมอย่างผิดธรรมชาติ โดยไม่ละสายตาจากผม เท่านั้นแหละครับ ผมลืมพุทโธ ลืมกลัว ลืมทุกอย่าง รู้อยู่อย่างเดียวว่า
    กูไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย

    ผมสาบานกับตัวเองว่า ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มาจากไหน ผมจะขอตามจองเวรจองกรรมจองล้างจองผลาญทุกๆ ชาติไป
    พอสิ้นคำ!!! ปุ๊บ เรี่ยวแรงของผมก็คืนกลับมาดังเดิมทันที ผมจึงรีบยกเท้าและถีบออกไปที่ร่างนั้นเต็มแรง แต่ปรากฏว่า ยังไม่ทันที่เท้าของผมจะปะทะเข้ากับร่างนั้น จู่ๆ ผมก็วูบสิ้นสติไปทันที ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ชายผมเข้ามาปลุกผมในห้อง แต่ปรากฏว่าพอผมจะลุกออกจากเตียงผมกลับรู้สึกมีอาการเจ็บแปลบที่ขาขวามากและไม่สามารถจะลุกเดินได้เอง
    พี่ชายของผมจึงพาผมไปส่งที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ผู้รักษา ลงความเห็นว่า เอ็นหัวเข่าขาวของผมฉีกขาด ต้องพักรักษาตัวกว่า 2 อาทิตย์ จึงจะเดินได้ตามปกติ..............

    ตอนที่ 4 หนีกรรมไม่พ้น
     
  9. shamankings

    shamankings เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +543
    รออ่าน ตอนที่ 4 หนีกรรมไม่พ้น ครับ
     
  10. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    ตอนนั้นผมเห็นเต็มๆ สองตาเลยว่า ที่ปลายขาของผม มีกลุ่มควันสีดำทะมึนคล้ายก้อนเมฆแต่ไม่ฟุ้งกระจาย ได้จับกลุ่มรวมตัวกันควบแน่น จนปรากฏให้เห็นเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ไว้ผมยาวเลยบ่า หุ่นบอบบาง เอวคอด นุ่งสไบห่มเฉียงพาดไหล่ กำลังนั่งคุกเข่าคล้ายท่าเบญจางคประดิษฐ์ คร่อมทับขาบริเวณข้อเท้าทั้งสองข้างของผมอยู่ ตอนนั้นผมกลัวมากและหลอกปลอบใจตัวเองวนไปวนมาว่า

    ไม่จริงหรอก ไม่ใช่หรอก ไม่จริงหรอก ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวก็หายไปเอง เดี๋ยวก็หายไปเอง

    จนผ่านไปสักพักใหญ่ภาพผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงนั่งคร่อมอยู่ท่าเดิม ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่ พุทโธ พุทโธ


    อ่านมาถึงตอนนี้นึกภาพออกเลย เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2015
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ใครปฏิบัติธรรมแล้วเจอแบบนี้บ้าง

    ทำสิ่งใด ย่อมได้รับผลนั้นตอบแทน

    จริงไหม ผู้ฆ่า ย่อมถูกฆ่า

    ผู้ให้คนอื่นทุกข์ทางวาจา ผู้นั้นย่อมต้องโดนบ้าง

    จะได้รู้สึกสำนึกบ้างว่าพอถึงเวลาตัวเองเป็นอย่างไร

    ใครจะรู้ได้ หากเราไม่เคยทำใคร จะไม่มีใครทำกับเรา

    สิ่งที่เราทำลงไปนั้น มีครูบาอาจารย์สะท้อนเป็นกระจกให้เราเห็น

    เมื่อเราเห็นแล้วเราจะเปลี่ยนแปลงการกระทำ หรือจะละมันไหม

    ข้าพเจ้าเพียงมาขออโหสิกรรม ต่อ อาจารย์ขจรศักดิ์

    หากได้ล่วงเกินทั้งทั้ง กาย วาจา และใจ

    ไม่อย่างนั้นข้าพเจ้าคงไม่สบายใจ หากท่านมีความบริสุทธิ์

    ที่จะชี้ให้เห็น โทษภัยของตัวเราเอง

    ถ้าเราไม่กระทำขอโทษอย่างนี้ ผู้อื่นอาจจะปรามาสท่านได้

    เพราะเราเป็นต้นเหตุ เราไม่อยากมีเวรกรรมทำให้กรรมติดตัวเราตลอดไป
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ข้พเจ้ามาขออโหสิกรรมต่อท่าน นพกานต์

    ที่ท่านที่ท่านเมตตาแนะนำพยายามบอกนิสัย

    ข้าพเจ้าได้อ่านทบทวนอีกครั้ง

    ข้าพเจ้ายอมรับว่าจริง ขืนไม่ปรับปรุง

    จิตตอนตายอาจมีที่หมายคือ อบายได้

    ซ้ำร้ายคือเวรกรรมที่ได้รับ อาจส่งผลให้มีกรรมในการแนะนำคนอื่นได้

    ขออโหสิกรรมท่านมา ณ ที่นี้ หากได้กระทำด้วยวาจาอันไม่เหมาะสม

    และบุคคลอื่นทุก ๆ ท่าน ที่ข้าพเจ้าล่วงเกินโดยไม่ได้ตั้งใจนะคะ

    ข้าพเจ้าขออภัยทุก ๆ ท่าน
     
  13. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    :cool:เวลาปฏิบัติฯพยายามคุมสติให้อยู่กับตัว และรักษาศีล เจริญภาวนาตามที่ตนถนัด อย่ากลัวใดๆ และหมั่นแผ่เมตตาบ่อยๆ เพราะเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร ชอบหากมีจิตมั่นคงดีในการแผ่ที่ดี...เอวัง:cool:(k)({)
     
  14. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เวรกรรมที่กระทำมา เขาไม่ได้มีไว้ให้ มาคอยอโหสิ หรอกนะ เขามีเอาไว้เป็นบทเรียนว่า อย่าได้กระทำแบบนี้อีก เพราะผลกรรมมันมีอยู่ มันเกิดแล้ว...แต่ต้องไม่ให้มันเกิดได้อีก
     
  15. goodday3

    goodday3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    ตอนบวชได้ 3 วัน เราฝันว่า ได้กลับบ้าน แต่เข้าไม่ได้เพราะงูเหลือมนอนขวางเต็มบ้านไปหมด เลยออกมาที่ ต้นไม้หางจากบ้าน ประมาณ 300 เมตร เจองูเห่าตัวใหญ่ จะชกเรา ครั้งแรกไม่โดยมีคนมากันให้ ครั้งที่ 2 มีคน มากระชาก เราออกจากบริเวณที่ชก แล้วเราก็ตื่น แต่ยังไม่ลืมตานะ ให้ตายเถอะ ครับ เสียงใครไม่รู้ เรียกชื่อ เรา แบบว่าเสียงดุๆด้วย เราก็คิดว่าใครมาเรียกเรากลางคืน คิดไปคิด มาไม่ใช้คนแล้วแบบนี้ ลุกเลยไม่หลับตาต่อแล้ว เปิดไฟเลย หนังสือสวดมนต์อยู่หัวนอนเปิดเลย พาหุ สวดจบ นั้งสมาธิต่อ ในห้องไม่มีใครนะ นั่งอยู่คนเดียวได้สักพัก เหมื่อนมีคนเอาอะไรมากะแทกที่ลำคอ เบา แต่กระเด็น ติดกำแพงเลย ลื่มตาเลยไม่นั่งแล้ว แต่ท้องเจ้ากรรม มาปวด อะไรตอนนี้ ก็คิดอยู่เอาไงดี สักพัก ทนไม่ไหว ออกจากห้องเลยเดินเข้าห้องน้ำจะหลอกต่อก็ช่างปวดท้องไม่ไหวแล้ว พอเข้าห้องน้ำ หมาดันหอน ไล่มาจะถึงหลังห้องน้ำ ก็มีไอเย็นๆ มาชนหลัง ต่อนั้นก็คิดเออ เรื่องของมึง กูขี้ก่อน พอเส็ดกิจ ก็ออกมาเข้ากุฎิต่อ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ตอนเช้าโทรหาแม่เลย แม่บอกลองไปบอกพระอาจารย์ พระอาจารย์ ว่าน่าจะเป็นเจ้าที่ และก็บอกอีกว่า บทสวดพาหุง นะเป็นบทชนะมาร เราบารมียังไม่ถึงเค้าเลยดีดคอเอา ที่หลังให้ท่องบทกรณีเมตฯ
    คืนต่อมา มาอีก ฝนฟ้าตั้งเค้ามาเลย ตี 2 ฟ้าก็ฝ่าตรงกุฎิเรากุฎิเดียว ไม่ยอมไปฝ่าที่อื่นเลย เราว่ามันแปลกๆ ที่นี้ จุดธูป เทียน พร้อมหนังสือสวดมนต์ กราบพระ เรียบร้อย ท่องบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่องบทกรณีเมตฯ ปรากฎว่าเงียบเลย ฝนตั้งเค้ามาก็หยุดฟ้าก็หยุดฝ่าหลังจากนั้นก็มีอะไรแปลกๆเข้ามาในชีวิต อีกทั้งพรรษาเลย จากไม่เชื่อก็เลยว่า วิทยาศาสตร์ มันความสามารถไม่ถึงเลยว่างมงาย แมร่งเจอแบบ เราบ้าง จะซึ้ง เออที่เล่าถึงความฝันก่อน เพาะว่าเจองูชก 2 ที่ น่า จะเป็นเพราะ เสียงที่เรียกเรา 2 ครั้ง
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195

    อิอิ สงสัยเจ้าที่จะเรียกมาลุกให้ปฏิบัตินะคะ
     
  17. goodday3

    goodday3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    อื่มแต่ก็เพราะเจอแบบนี้แหละเราถึงลองนั่งสมาธิอย่างเป็นจริงเป็นจัง มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นหลายเรื่อง บางทีนึกอะไร สิ่งนั้นมันก็มา วัดที่ผมบวชอยู่ในป่า นั่งอยู่หน้ากุฎินึกถึงขอทาน 10 นาที มาจากไหนไม่รู้มาขอเงินเรา วัดอยู่ในป่าเงินไม่มีประโยชน์สำหรับเราด้วยก็เลยให้ไปน่าจะหมดนะ จำไม่ค่อยได้ อีกเรือง เป็นเกือบทุกวัน ตอนตี 5 หลังนั่งสมาธิ ก็จะออกบิณฑบาต จะมีกลิ่นอาหารโชยมาก่อน ระยะทาง ที่เราไปบิณฑบาต ห่างประมาณ 2 กิโลได้มั้งถึงเจอบ้านหลังแรก แต่กลิ่นอาหารมาได้ยังไง แล้วตรงด้วย มีอยู่ครั้งนึง ได้กลิ่นปู เราคิดเลยในป่าแบบนี้ จะได้กินปูหรอ อีก 3 วัน มีคนมานิมนต์ ปูตัวใหญ่มาก กลิ่นธูป กลิ่น อะไรเน่าๆ กลิ่นหอมจนน่าประหลาด เจอลูกไฟกลมๆ วิ่งส่ายเป็นงู ทะลุกำแพง ไปต่อหน้า เจอผีเด็กหลอก แต่ทุกอย่างในโลกล้วนมีวันเสื่อมแม้แต่จิตที่ฝึก พอไม่ฝึกต่อรู้สึกว่า เข้าสมาธิยากกว่าตอนบวชอีก เข้าแล้วก็ไม่นิ่ง สงบเหมือนตอนที่บวช เราก็ดูจิตอยู่ ดูได้พักเดียวก็ตะเลิดไปไหนไม่รู้
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อันนี้ดูว่าพูดเล่น แต่ที่จรืงไม่ได้พูดเล่นนะคะ
    หากวัดไหนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลรักษาอยู่
    หากเราเป็นพระบวชใหม่ ยังไม่เพียรปฏิบัติ
    ท่านอาจมาเตือน มาเรียกให้เราตาตื่นเพื่อลุกปฏิบัติก็ได้
    เพราะท่านลืมตาแบบสลึมสลือ ท่านก็เลยทำให้ตาสว่างนะคะ
    การปฏิบัติมีบททดสอบเยอะคะว่าจะเจอแบบบใด
    ถ้าเกี่ยวกับเจ้าที่เจ้าทาง หากเราไม่ทำอะไรผิดท่านก็ไม่ทำอะไร
    ท่านก็ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา ก็คุ้มครองให้แก่ผู้ปฏิบัติ

    มีอีกกรณีหนึ่งนะคะ การฝันงูก็ไม่ใช่กรณีเกี่ยวกับเนื้อคู่เสมอไป
    ถ้าฝันว่างูกัด หรือ งูทำร้าย แสดงว่าเราจะเจอเรื่องไม่ดี
    ถ้าปฏิบัติแล้วเจอกับผี แสดงว่าเขามาขอส่วนบุญนะ
     
  19. happyokay

    happyokay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +447
    เรื่องเล่าจากอาจารย์ยายในแบบของอาจารย์ยาย กับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมีใจความดังนี้ครับ

    มีเรื่องเล่าสู่กันฟัง เป็นข้อคิดเรื่องคนต่างความคิดในการนับถือศาสนา ทุกๆศาสนาต่างสอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้น ส่วนคนจะดีหรือไม่เป็นที่คนมิใช่ศาสนา ผู้ที่เป็นศาสดาของแต่ละศาสนาต้องยอมรับว่า เป็นผู้มากมายด้วยบารมีจึงสามารถสอนสาวก และเป็นที่ยอมรับนับถือของแต่ละศาสนานั้นๆได้ ดังนั้นผู้ที่ต่างความเชื่อความนับถือจึงต้องไม่แตะต้องศาสนาของผู้ใด เช่นกล่าวตำหนิติเตียนศาสนาของคนอื่น เรื่องความเชื่อก็ถือเป็นความเชื่อที่ศรัทธาสืบๆกันมา เราควรปล่อยให้เป็นอิสระพร้อมเคารพในความเชื่อในเรื่องของศาสนาของผู้อื่น เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนอ่านต้องทำความเข้าใจพิจารณาเนื้อหาให้ดีก่อนจะกล่าวอะไรออกมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันกับเมื่อยี่สิบสี่ปีที่ผ่านมา กับเรื่องเมื่อวันวานอย่างแปลกประหลาดโดยไม่คาดฝันมาก่อน เริ่มเรื่องขอท้าวความย้อนหลังเพื่อความเข้าใจ และเชื่อมโยงถึงกัน กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง และครอบครัวของสามี โดยครอบครัวสามีมีลูกชายห้าคน ผู้หญิงหนึ่งคน เรานั้นโชคดีมากที่ได้มาเป็นสะใภ้คนที่สามของครอบครัวนี้ เริ่มต้นพี่คนที่หนึ่งแต่งงานกับผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ คนที่สองแต่งงานกับสาวเชียงใหม่ นับถือทั้งพระ และผีปูย่าตามประเพณีทางเหนือ คนที่สามตัวเรา นับถือพุทธ คนที่สี่นับถืออิสลาม คนที่ห้านับถือเซียนเทพแบบจีน และเพราะทุกคนที่เป็นสะใภ้มีความรักกัน ไม่มีอิจฉาริษยากัน ไม่ชิงดีชิงเด่น ที่สำคัญไม่เคยเอาเรื่องต่างศาสนามาถกเถียงโต้แย้งกันเลย เรารักกันเสมอต้นเสมอปลายจนถึงเดียวนี้ แม้กาลเวลจะผ่านไป เราเริ่มแก่เฒ่าเราก็ยังรักกันมีวันสำหรับรวมตัวกันที่เราเรียกว่าวันครอบครัว จนกระทั่งตัวเราเริ่มปลีกตัวหาความสันโดษความวิเวกเพื่อการบำเพ็ญภาวนา แต่ทุกๆคนก็ยังอยากให้เราไปรวมตัวด้วยตลอด ในปัจจุบันนี้สืบสานสัมพันธ์ไปถึงรุ่นลูกๆแทน ทำให้เด็กๆเห็นความสำคัญของวันรวมญาติเพียงขาดแต่เราคนเดียวเท่านั้น และเคยถูกตัดพ้อว่า"สละสักวันไม่ได้หรือ เพื่อวันรวมญาติแบบแต่ก่อน" เราก็ยังคงนิ่ง สะใภ้ทั้งหลายจะเข้ามาหาเองที่ภวันตุเต เมื่อเจอกันแม้มีคนอื่นร่วมอยู่ด้วย พวกเค้าที่มองดูอยู่ก็แปลกใจ ที่เราจูบแก้มกัน กอดกัน ไม่ยอมปล่อยแม้กาลเวลาจะผ่านเลยไป ไม่มีอะไรมาบั่นทอนความรักของสะใภ้ใหญ่-เล็กอย่างพวกเราได้เลย และเรื่องนี้ก็เป็นเหตุเริ่มต้นที่เราได้สัมผัสกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยในชีวิต และไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนทัศนคติ ความคิด ในเรื่องของความเคารพนับถือของศาสนาอื่นๆ ที่สะใภ้ต่างนับถือแตกต่างกันออกไป...
    จบตอนที่หนึ่ง

    ตอนที่สอง
    เมื่อทุกๆอย่างในชีวิตสะใภ้ในสกุลเดียวกันได้ดำเนินผ่านไปตามกาลเวลา ลูกของสะใภ้แต่ละคนก็เคารพนับถือศาสนาตามคุณแม่ของแต่ละคน จนกะทั่งในวันหนึ่งพี่สะใภ้ใหญ่ที่นับถือคริสต์ ได้เข้ามาเล่าเรื่องน้องสาวให้ฟังว่า "ครอบครัวพี่เขาก็รักกันดีไม่มีปัญาหากับคนอื่นๆ แต่ยังไม่ได้แต่งงานนอกจากพี่สะใภ้ใหญ่คนเดียว" พี่เขาเล่าต่อไปว่า "มีพ่อม้ายลูกติดมาชอบน้องเค้า เขาเลยสงสัยว่าผู้ชายทำของใส่น้องเขาหรือป่าว เราเองในตอนนั้นก็กำลังสนุกกับความรู้เห็นแปลกอยู่ เมื่อพี่สะใภ้ขอให้ช่วยดูเรื่องน้องว่าถูกของหรือป่าว ก็รีบแสดงเลยว่าเดี๋ยวจะไปดูให้ พอนึกถึงตอนนั้นในเวลานี้ทีไร รู้สึกเลยว่าเรานี่คึกคะนองไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆถ้าเป็นตอนนี้คงไม่เอาแน่ แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ในตอนนั้นเราคงถือมิจฉาทิฐิไม่ปลงวาง แล้วไม่ยอมให้ความเคารพนับถือศาสดาของศาสนาคนอื่นได้ดังเช่นทุกวันนี้แน่นอน ก็ต้องขอขอบคุณความคึกคะนองในช่วงขณะนั้นด้วยอย่างยิ่งเช่นกัน ในวันนั้นรับปากแล้วตกกลางคืนได้เข้าห้องพระนั่งสมาธิ แล้วน้อมจิตว่าเราจะไปบ้านพี่สะใภ้เพื่อดูว่าเขาถูกของจริงหรือป่าว ยอมรับว่าในตอนนั้นคิดว่าตนเองทำได้ แล้วจิตก็รวมลงสมาธิเกิดภาพนิมิตก็บังเกิดขึ้น เราเห็นตัวเราไปยืนอยู่ในรั้วบ้านพี่สะใภ้ บ้านพี่เขาเป็นบ้านยกพื้นใต้ถุนสูง ข้างบ้านมีสังกะสีกั้นขอบเขต ถ้านั่งข้างล่างไม่ขึ้นชั้นบนก็จะไม่เห็นว่าข้างบ้านเป็นอะไร เราเคยไปหาพี่เขาที่บ้านบ่อยๆแต่ไม่เคยขึ้นข้างบนบ้านเลย ซึ่งพี่เค้าเองในตอนนั้นก็เหมือนมัคทายกของโบสถ์คริสต์ เพราะบ้านเขากับโบสถ์อยู่ติดกัน ในขณะที่ภาพนิมิตกำลังดำเนินไปนั้น ปรากฎตัวเรากำลังจะก้าวขึ้นบันไดบ้านพี่เค้าอยู่ ในขณะนั้นเองก็ปรากฎร่าง... โปรดอ่านตอนต่อไป ขอพักซักแปป...
     
  20. happyokay

    happyokay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +447
    ทันใดนั้นก็ปรากฎรูปร่างผู้ชายสูงใหญ่ผิวพรรณงดงามผ่องใส ใส่ชุดขาวแบบคลุมยาวลงมา มีเครายาวขาวสะอาด แวววาวในตามีสีบรอนซ์ เรื่องนี้ได้ผ่านมายาวนานมาก อาจไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก ในคอสวมสายสร้อยคล้ายสแตนเลส มีไม้กางเขนอันใหญ่ห้อยติดกับสายสร้อย ส่วนบนหัวเหมือนมีหมวกถักสีขาวอันเล็กๆอยู่กลางกระหม่อม ท่านถามว่า "เข้ามาทำไม" ตนก็ตอบท่านไปว่า "พี่สะใภ้ให้ช่วยมาดูน้องสาวว่าถูกของหรือเปล่า ขออนุญาติท่านขึ้นไปดูหน่อย" ท่านบอกว่า "ได้ แต่อย่านานนัก" ตอนนั้นไม่รู้ว่าท่านเป็นใครในใจคิดว่าท่านเป็นเจ้าที่ จากนั้นท่านก็หายไปเราเลยเดินขึ้นไปชั้นบน แล้วรู้สึกว่าตัวเองมาหยุดยืนอยู่ที่กลางห้องๆหนึ่ง มองเห็นน้องสาวพี่สะใภ้นอนหลับอยู่บนเตียง เราจำปลอกหมอนว่ามีสีอะไร ผ้าห่มชุดนอนข้าวของในห้องผ้าม่านโต๊ะเตียงเราจดจำได้หมด เพื่อที่จะได้บอกพี่สะใภ้ว่าจริงหรือไม่กับสิ่งรอบตัว และสิ่งต่างๆในห้องน้องสาวที่เราได้สัมผัสเห็น แต่เมื่อจะมองดูเพื่อหาว่าโดนของจริงหรือเปล่า ก็ไม่เห็นมีอะไร ตนจึงเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองลงไปข้างล่าง จึงเห็นว่าที่เขากั้นรั้วสังกะสีไว้นั้นคือสุสานคนตายของคนศาสนาคริสต์ มีไม้กางเขนเต็มไปหมดพอดูหมดก็ไม่เห็นอะไร ตนจึงเดินกลับออกมา จากนั้นจิตจึงถอนจากภาพนิมิตในสมาธิ เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์พอดี พี่สะใภ้ได้เข้ามาถามเรื่องราวที่ตนรับปากว่าจะดูให้ จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดพร้อมกับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ห้อยไม้กางเขนให้พี่เขาฟัง เขาตื่นเต้นมากพร้อมบอกว่าทุกอย่างที่เห็นในห้องนอนน้องสาวนั้นเป็นจริงทั้งหมด แต่ไม่บอกว่าผู้ชายคนที่สัมผัสเห็นก่อนขึ้นบ้านนั้นเป็นใคร แต่ขอให้ตนนั่งรถไปที่บ้านเขาเพื่อดูอะไรบางอย่าง เมื่อตนรับปากจึงพากันไปที่บ้านพี่สะใภ้ พอเจอคุณพ่อจึงได้เล่าให้ท่านฟังจนจบ แล้วพี่สะใภ้ก็พาขึ้นบันไดไปข้างบนหยุดยืนตรงระเบียงแล้วชี้ให้ดูรูปที่ติดไว้ด้านบนของขอบประตู ทันทีที่มองเห็นเราตัวเย็นไปหมด เพราะชายในรูปคือคนที่ถามว่าเรามาทำไมนั้นเอง เราจึงบอกพี่สะใภ้ว่านี่แหละคือผู้ชายคนเมื่อคืน
    แล้วท่านเป็นใคร พี่สะใภ้บอกว่านี่แหล่ะคือพระเยซูคริสต์ เราได้ฟังก็ใจหายวาบมันอธิบายไม่ถูกในอารมณ์นั้นว่าพระเยซูมีจริงๆหรือ เราได้เห็นท่านจริงๆหรือ จากนั้นพี่สะใภ้พาเข้าห้องน้องสาวก็พบว่าทุกสิ่งที่มองเห็นนั้นตรงกันทั้งหมด แม้แต่สุสานข้างบ้านที่กั้นแค่รั้วสังกะสีใครจะคิดว่ามีสุสานอยู่ที่บ้านพี่สะใภ ก็คุ้นเคยแต่ไม่เคยรู้ว่าติดกันนั้นคือป่าช้า ที่น่ายกย่องคือทำไมเขาไม่กลัวผีกันเลย ตั้งแต่นั้นมาก็เชื่อสนิทใจว่าพระเยซูมีจริงจึงไม่เคยก้าวล่วงศาสนาใดๆเลย และเชื่อมั่นในจิตเสมอว่า "ทุกศาสนา พระศาสดาของศาสนานั้นๆย่อมเป็นผู้มีบุญบารมี ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสาวกให้ความเคารพได้มากมายจนกลายเป็ศาสนาได้ แสดงว่าท่านต้องเป็นผู้มีบารมีสูงบุคคลหนึ่งอย่างแน่นอน นี่คือความเชื่อส่วนตัวที่ได้ประสบมา อนุโมทนา สาธุ ...ยังมีตอนต่อไปอีก รอซักครู่ ขอพักแปป...
     

แชร์หน้านี้

Loading...