มีใครเคยได้ยิน ได้รู้เรื่องนี้บ้างมั๊ย?

ที่มาของสังสารวัฏ

ตอนตรัสรู้ใหม่ ๆ พ_ามารถามว่าจะปราบหรือจะโปรด ก็ทรงเข้านิโรธสมาบัติไปถามพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ก็ได้รับคำตอบว่าให้โปรดเพราะบารมีที่จะไปสู้กับเขายังไม่พอ เมื่อพระองค์ทรงทราบคำตอบแล้วจึงตรัสตอบพ_ามารไปว่า จะทรงโปรดสัตว์ พ_ามารจึงขอสั__า ๔ ข้อ
๑. ห้ามยุ่งกับโครงงานของเขา
๒. ห้ามสาวกยุ่ง
๓. สอนเฉพาเรื่องกิเลส กรรม วิบาก ห้ามสอนเรื่องฉากหลังว่าใครบังคับ
๔. ถ้าอายุ ๘๐ พรรษาต้องปรินิพพาน
ความรู้สรรพสิ่งมูลฐานตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล แบ่งออกเป็น ๒ อย่างคือ
๑. ธาตุ ๒. ธรรม
ซึ่งธาตุและธรรม ยังแบ่งออกเป็น ๓ ฝ่าย คือ
๑. กุศลาธรรมา คือธาตุธรรมฝ่ายขาว
๒. อกุศลาธรรมา คือธาตุธรรมฝ่ายดำ
๓. อพยากตาธรรมา คือธาตุธรรมฝ่ายกลาง
ในอดีตท่ามกลางอากาศว่าง มีธาตุธรรม ๓ อย่างเกิดขึ้นคือ กุศลาธรรมา อกุศลาธรรมา อพยากตาธรรมา อยู่ต่อมาฝ่ายดำอยากครอบครองทั้งหมด จึงทำอวิชชาครอบงำล่วงหน้า ฝ่ายขาวจึงประกอบวิชชาดับเขา จะชนะได้ก็มีข้อตกลงว่าต้องไปถึงที่สุดของอีกฝ่ายหนึ่ง
ฝ่ายขาวจึงประกอบกายมนุษย์ขึ้นมามีลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการ ใสเป็นแก้วเป็นธาตุธรรมเดิม ฝ่ายอกุศลไม่สามารถผลิตกายมนุษย์ได้ จึงใช้วิธีสอดละเอียดเพื่อให้กายมนุษย์เสื่อมคุณภาพ ซึ่งแต่เดิมจะพร้อมด้วยรูปสมบัติ (กายมหาบุรุษ) ทรัพย์สมบัติ (รัตนะ ๗ ประการ) คุณสมบัติ (วิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิ__า ๖) มารก็สอดละเอียดโดยใช้ความโลภ ความโกรธ ความหลง ทำลายผังเดิม จิตเดิมของมนุษย์ซึ่งสะอาดผ่องใสเป็นประภัสสร โดยการกดธาตุธรรมให้ตกต่ำโดยค่อย ๆ หุ้มเคลือบ เอิบ อาบ ซึม ซาบ สวมสร้อย ร้อยไส้ ค่อย ๆ ถอยลงมาจนมาถึงหน้าตาปัจจุบัน
เมื่อเขาเอาความโกรธมาบังคับ ทำให้รูปสมบัติ ถอยลง

 

แฟนเพิ่งโทรมาเล่าให้ฟังเรื่องนี้เมื่อ 2 วันก่อนนี้เองครับ เพราะไปนั่งสมาธิปฎิบัติธรรมที่เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ของวัดให_่แห่งหนึ่ง โดยรายละเอียดมามากกว่านี้ ซึ่งสุดท้ายสรุปว่า ให้มาศึกษาที่วัดนี้จะได้วิชาปราบมาร ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน (แล้วจะได้ไปสวรรค์ชั้นดุสิตเป็นบริวารของหลวงปู่ ในวงเล็บไม่ทราบว่าอยู่ในเมลหรือไม่ แต่เพื่อนผมเล่าให้ฟังแล้วชวนไปทำบุณ) ผมไม่กล้าโพสแบบเต็มๆเพราะเกรงว่าจะเป็นการปรามาสทั้งพระพุทธเจ้าและหลวงปู่รูปดังกล่าว เพราะคำสอนหลวงพ่อองค์นี้เป็นผู้สอน มิใช่หลวงปู่โดยตรงซึ่งละสังขารไปแล้ว

แฟนและผมคุยกัน สรุปว่า สิ่งใดที่ไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฎก ก็ไม่ควรปักใจเชื่อให้ใช้ปัยยามากๆไตร่ตรองก่อน ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน เปรียบเหมือนใบไม้ในป่า มิใช่ในกำมือของพระพุทธเจ้า ก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนแสวงหา เพราะคงไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นพระพุทธองค์ก็คงสอนแล้วละ

ส่วนกำเนิดสังสารวัฎที่อธิบายมาไม่ตรงกับที่เคยอ่านจากหนังสือพุทธศาสนาเล่มอื่นๆที่ผ่านมาครับ แต่ไปใกล้เคียงคัมภีร์ OLD TESTAMENT ของศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม แทน (เหมือนเอา พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู มายำรวมกันเลย)

คิดอยู่นานว่าจะโพสดีมั๊ย เอาเป็นว่ารับฟังแล้วใช้ปัยยาตรึกตรองคิดเองละกันครับ ส่วนตัวผมปล่อยผ่านไป

 

ว่าจะไม่โพสแล้วนะ

เห็นด้วยกับคุณ R2 นะ

รู้สึกว่าทำไมสมัยนี้ถึงมีทฤษฏี หรือความเห็นอะไรแปลกๆอยู่เสมอๆ
ทำไมต้องคิดกันให้มากนักนะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน
ได้ทรงสั่งสอนไว้หมดสิ้นแล้วในพระไตรฯ ก่อนท่านปรินิพพานท่านทรงย้ำเรื่องศีล สมาธิ ปั__า ว่าทางนี้เป็นทางมรรคผลนิพพาน

พระเดชพระคุณท่านพระราชพรหมยาน ก็ย้ำว่าความรู้ที่ท่านมีท่านสอนหมดแล้ว ไม่มีที่ปกปิดไว้เลย

เอาเป็นว่าสิ่งใดที่พระองค์ไม่ได้สอน สิ่งนั้นไม่เป็นไปเพื่อการบรรลุมรรคผลนิพพาน ก็รู้ๆเอาไว้ แต่อย่าสนใจให้มาก

เดินทางตรง ดีกว่าเดินอ้อมไปก็อ้อมมา

 

reply 2 & 3

โมทนาด้วย

ดีแล้วครับ ที่มี "หลักยึด" กันการหลงแบบนี้

 

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ หมดข้อสงสัยแล้วค่ะ

 

Re: มาร

 

ร่วมแสดงความเห็น

เรียนคุณ kan

เรื่องที่มาของสังสารวัฏ ผมคงไม่มีเวลาไปค้นไปพิสูจน์ครับ จึงไม่ขอแสดงความเห็นในประเด็นนั้น เพราะไม่มีส่วนช่วยในการบรรลุเป็นพระอริยเจ้าสายสาวกภูมิ

แต่เรื่อง " ผัง " ที่คุณพูดถึง ผมมีความรู้สึกลึกๆและเห็นลางๆ ที่เห็นลางๆเพราะความรู้ความเห็นที่มียังไม่พอ แต่มีความเชื่อครับ กลัวแต่ว่าเวลาที่เหลือในชาตินี้จะไม่พอจะตายเสียก่อน ขนาดหลวงพ่อสดเองท่านยังบอกว่าตั้งแต่ได้ปฐมมรรคจนวันที่ท่านเทศน์ก็หลายสิบปี ท่านค้นเข้าไปไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว( ตรงนี้อย่าสงสัยเลยนะครับ หลวงพ่อสดท่านเป็นพระขนาดนี้แล้ว งานของกาย กับงานของจิต แยกกันทำเป็นเรื่องปกติ หมายถึงเดินสมาบัติไม่หยุด ) ยังไปไม่ถึงที่สุดของตัวเลย ต้องเข้าใจกันก่อนนะครับว่า ที่ท่านทำนี่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุพระอรหัตตผล

เรื่อง " ภาคปราบ ภาคโปรด " ต่างๆ เป็นเรื่องของพวกพุทธภูมิเขา ท่านใดอยากมีความรู้พิเศษ ความสามารถพิเศษ เลือกความประณีตของตัวเองและบริษัทบริวาร ก็เลือกเรียนกันไป ถ้าทำได้ก็เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกเก็บสั่งสมบารมีไปเรื่อย

เรื่องใครแบ่งภาคมาจากใครผมยังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจังจึงไม่ขอแสดงความเห็นครับ

 

เป็นเรื่องของวิชชาธรรมกายชั้นสูงครับ คนที่เรียนวิชชาต้องรู้ทุกคน บางเรื่องถ้าคุณรู้คุณจะต้องตกใจว่าเรื่อง
อย่างนี้มันมีด้วยหรือ ผมคงอธิบายอะไรมากไม่ได้ครับเพราะความกลัว เรื่องบางเรื่องถกเถียงกันไม่จบ
เรื่องบางเรื่องไม่สมควรเปิดเผยเพราะหาประโยชน์ไม่เจอ เอาเป็นว่าปฎิบัติตามองค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าถึงพระนิพพานก็พอแล้วครับ

 

วิชชาของหลวงพ่อ

จริงตามที่คุณพระราหูพูดไว้ครับ

" บางเรื่องถ้าคุณรู้คุณจะต้องตกใจว่าเรื่องอย่างนี้มันมีด้วยหรือ "

ผมยืนยันว่าเจอกับตัวเองครับ

 

แต่สำหรับผมมันกระตุ้นต่อมอยากรู้ขึ้นมาเลย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ารู้ไปไม่มีประโยชน์นิสัยมันเป็นงี้แก้ไม่ได้ ...

 

ขอเพียงพระนิพพานก็พอเพียงแล้วครับ

 

เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ก็ได้ เพราะบางครั้งการที่เราได้รับรู้บางสิ่ง อาจทำให้เรายิ่งหาทางออก ยากเข้าไปใหญ่ สู้ว่าเราปฎิบัติตามแนวทางที่ต้นกำเนิดปูทางไว้ให้ น่าจะง่ายกว่าที่เราจะต้องมาขวนขวายเอง

 

ต้นใหญ่นิพพานถอดกาย(คือต้นของเมล็ดโพธิเมล็ดไทร) ได้ให้หลวงพ่อสดมาดำเนินงานปราบมารแต่งานไม่สำเร็จในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ บัดนี้งานนี้ได้ตกทอดมายังท่านผู้หนึ่ง อ่านเรื่องราวได้ที่
http://www.crystalmind.org/
ในห้องสมุดชื่อเรื่องปราบมารภาค 1-5

 

เพิ่งรู้ขอรับว่าอย่างนี้ก็มีด้วย

มีข้อสงสัยก็คือพระพุทธเจ้าบารมียังเทียบกับมารไม่ได้อีกหรือ? ทั้งที่บำเพ็ญมาอย่างเป็นปรมัตถ์แล้วนี่นา แล้วยังมีที่เหนือกว่าปรมัตถ์อีกหรือ ถ้าอย่างนั้นไม่สมควรใช้คำว่าปรมัตถ์สำหรับประเด็นการบำเพ็ญบารนี้ถูกต้องมั๊ยครับเพราะยังไม่ถือว่าเป็นที่สุดของการพากเพียร
ทีนี้อีกข้อสงสัยว่าถ้าสมมติเลือกปราบแทนการเลือกที่จะโปรด แล้วเหล่าสัตว์ทั้วสังสารวัฎจะพ้นจากทุกข์อย่างนั้นหรือขอรับ เพราะมารถูกปราบไปแล้วนี่ขอรับ
เป็นข้อสงสัยเท่านั้นขอรับ ไม่ได้มีอคติหรือคิดเอนเอียงแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะข้าพเจ้ายังต้องศึกษาอีกมากจึงต้องถามไว้ เผื่อวันหลังเกิดบางอย่างขึ้นกับหนทางของตัวเองที่เดินอยู่ จะได้ถือเอาคำตอบนี้เป็นพจนานุกรมประจำตัว

 

เสี่ยง

ครับ

อจินไตยสำหรับคนหลายคน รวมทั้งผมด้วย

แต่สำหรับผู้ฝึกได้ตามที่คุณ universe กล่าว .. ต้องมีประโยชน์สิครับ หลวงปู่ท่านถึงได้สอน

 

http://www.crystalmind.org/
หนังสือปราบมาร
สุดยอด สุดยอดมึนจริงๆครับ
ผมเคยสั่งซื้อหนังสือมาอ่าน เสียดายเงินมากๆครับ
(b-green)

 

ไม่ใช่เรื่องละเอียดถึงขั้นอจินไตยดอกครับ แม้พระพุทธเจ้ายังทรงคิดแสดงธรรมเมื่อแรกตรัสรู้ เพราะเหตุว่า ผู้มีธุลีในจักษุเบาบางมีอยู่ พวกคุณที่แสดงความคิดเห็นเป็นเพียงผู้มีปัญหาในการอ่านและเข้าใจเนื้อความ จะเพราะอะไรก็ช่าง แต่หนังสือเหล่านี้เป็นผลของการปฏิบัติมิใช่ไปลอกมา และสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ควรอ่านและทำความเข้าใจให้ถูก ก็ผู้เขียนเขาก็บอกแล้วว่า สงสัยอะไรก็ถามมาได้ เพื่อความเจริญของวิชชา เรามาปิดวิชชากันแล้วอ้างอวดเก่งกันไป พอถามเนื้อวิชชาว่าเดินวิชชาอย่างไร ก็ตอบไม่ได้ แล้วอ้างว่ารู้เห็นมามันก็ไม่เข้าหลักวิชชา

สำหรับท่านผู้เขียนตำราปราบมารท่านมีความรู้จริง โปรดจงศึกษาให้ละเอียดและวางใจเป็นกลาง ถึงแม้จะอ่านแล้วไม่เข้าใจนั่นไม่ใช่เพราะตำราไม่ดี เป็นที่เราผู้อ่านเองนั่นแหละมีความรู้พื้นฐานน้อยเกินไป จึงทำให้ลำดับเหตุผลหรือเนื้อความไม่ได้

หลายคนมักแสดงความคิดเห็นโดยถือประสบการณ์ของตนเอง แต่นั่นไม่ทำให้คุณเข้าใจวิชชาธรรมกายได้อย่างถูกต้องดอกครับ คุณต้องเข้าหาผู้รู้ เข้าไปซักถามผู้เขียนตำราก็ได้ ถ้าท่านกล้าแสดงตัวแสดงว่าท่านกล้าให้เราพิสูจน์ความรู้ของท่าน เดี๋ยวนี้วิชชาธรรมมีแต่คนอ้างวาเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอให้พูดหลักวิชชาไม่เป็นเลย แล้วความเก่งที่ว่ามันจะป็นไปได้ยังไง

 

ผมยินดีให้ข้อมูลที่ตรงตามแนววิชชาธรรมกายและตามเนื้อวิชชา คนที่พยายามลดความน่าเชื่อถือของตำราและเนื้อวิชชาผมถือว่า ไม่รู้ค่าของวิชชา ปัจจุบันนี้มีคนอ้างว่าปราบมารกันทั้งนั้น ไปถามเนื้อวิชชาดูเถิดครับ ตอบไม่ได้สักคน ได้แต่อ้าง อย่าให้วิจารณ์เลย

คุณuniverse พยายามอ้างเป็นตุเป็นตะฝ่ายเดียวดูแล้วไม่สมเหตุสมผลนะครับ แสดงว่ายังไม่ได้อ่านประวัติของท่านผู้ทำวิชชาปราบมาร แม่ชีจันท์เป็นเพื่อร่วมรุ่นในการเรียนวิชชาธรรมกาย เพราะต่างก็เป็นศิษย์แม่ชีทองสุกเหมือนกัน เรียนมารุ่นเดียวกันมีความเท่าเทียมกัน ส่วนเจ้าอาวาสนั้นเป็นรุ่นน้องและผู้ทำปราบมารก็เคยอุปการะท่านก่อนที่ท่านจะบวชเสียอีก บางเรื่องเราไม่ควรสรุปฝ่ายเดียว เพราะเหมือนกับพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ คนรู้เขาจะว่าเอา ส่วนคนไม่รู้จะไขวเขวเอานะครับ

ที่สำคัญเลิกเสียทีเถิดครับ ที่ว่าเอาเรื่องละเอียดมาเล่าถ้าเราไม่เปิดเผยก็ไม่เกิดความชัดเจน แล้วก็ไม่เข้าใจกันเสียที บางคนที่มีอคติอ่านแต่เพียงผิวเผินแล้วด่วนสรุปความรู้ แล้วที่ว่าผิดเพี้ยนนั้น ในการฝึกฝนวิชชาธรรมกายมานานปี ผมเห็นว่าวิชชาที่ท่านผู้ปราบมารเขียนชัดเจนที่สุด ละเอียดที่สุด และเป็นเนื้อเดียวกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ คนไม่รู้มักคิดดเองเออเอง ถ้าท่านกล้าว่าเพี้ยน ขอเชิญมาถกกันว่าที่ถูกคืออย่างไร ผมยินดีคุยเรื่องเนื้อวิชชา เพราะถูกหรือผิด ชัดหรือเพี้ยน มันต้องคุยกันที่เนื้อวิชชาทั้งต้น กลาง ปลาย อ่อน แก่ หยาบ ละเอียด นะครับ ไม่ใช่นึกจะว่าใครก็ว่า ของอย่างนี้มันมั่วกันไม่ได้ดอกครับ วิชชาธรรมกายเน้นที่การตรวจสอบความถูกต้องอยู่แล้ว

ตำราเป็นเรื่องสำคัญนะครับเพราะถ้าเราไม่มีตำราเป็นเครื่องตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อวิชชา ก็เหมือนเราไม่มีพระไตรปิฎกคอยตรวจความรู้ของระพุทธเจ้า ความผิดความเพี้ยนจึงเกิดขึ้นเพราะเราไม่เคารพความรู้ในตำรา เราต้องแยกแยะระหว่างความถูกต้องเที่ยงตรงของเนื้อวิชชา กับภาคปฏิบัติที่ต้องอาศัยครูอาจารย์คอยดูแล ผมยืนยันว่าความรู้ในตำราสำคัญมากๆ หลวงพ่อวัดปากน้ำมอบความรู้เหล่านี้ไว้ให้เราตรวจสอบซึ่งกันและกัน ใครจะผิดจะเพี้ยนมันต้องมาเทียบกับตำราซีครับ

ผมเห็นว่าหลายคนไม่มีความรู้แต่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกส่วนตัว อันตรายนะครับ อย่าเอาความไม่รู้ ของคุณมาทำลายกันเลย...

 

อืม...ครับผมเข้าใจแล้วครับ อารมณ์ผสมกับความศรัทธานี่มันอันตรายจริงๆ นี่เพราะเราไม่คุยกันที่ตัววิชชาเลยจึงทำให้เราไม่เข้าใจกัน การได้ถกกันที่เนื้อวิชชาเป็นวิสัยของบัณฑิตครับ เพื่อความสมานฉันท์ เพื่อความเข้าใจถูกต้องตรงกัน ใครมีความรู้หรือไม่มีความรู้ก็จะได้แลกเปลี่ยนกัน คนไม่มีความรู้ก็อ้างโน่นอ้างนี่ ปัดให้พ้นตัว มีแต่พวกเชื่อเพราะศรัทธาแต่ไม่เคยพิสูจน์ให้เห็นด้วยการเข้าถึงได้เอง ผมสมถะเป็นคนเดียวกับที่คุยอยู่ประจำในห้องศาสนาของพันทิพย์ ผมคุยกับคนมาเยอะแล้ว และพอมีประสบการณ์ทางวิชชามาบ้าง เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลผมก็ต้องออกกตัวอย่างนี้แหละครับ

 

ทำไมคุณ UNIVERSE พูดเช่นนี้




คุณทราบได้อย่างไรว่าที่คุณลุงเขียน เป็นการนั่งเทียน หรือคัดลอกมา


คุณเข้าถึง18 กายและเดินวิชชาฯ จนคล่อง จนจบมรรคผลพิสดารเล่ม1-2
แล้วหรือยัง


ตรวจสอบวิชชาฯ กับท่านหลวงพ่อวีระ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ ผู้สืบวิชชา
ทั้งเบื้องต้น กลาง สูง จากหลวงปู่สดหรือยัง


คุณต้องตอบคำถามนี้ ควรรับผิดชอบในสิ่งที่คุณโพสไว้นะ
<!-- / message -->