มี ลูก หลาน ภรรยา ญาติพี่น้องช่วยบอกต่อกันไปด้วย

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย นพสร, 31 พฤษภาคม 2008.

  1. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,176
    (one-eye) (one-eye) (sing)

    มี ลูก หลาน ภรรยา ญาติพี่น้องช่วยบอกต่อกันไปด้วย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

    ผมมีตัวตนแต่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ
    เรื่องต่อไปนี้จะเป็นตัวบอกว่าทำไมผมจึงบอกไม่ได้

    ประมาณสองสัปดาห์หลังปีใหม่ ภรรยาผมลางานเพื่อไปติดต่องานราชการ
    เสร็จแล้วแวะ Central ลาดพร้าว เพื่อหาซื้อหนังสือแนวที่เธอชอบอ่านที่ B2S


    ระหว่างที่กำลังเลือกหาซื้อหนังสืออยู่นั้น
    ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ
    สามสิบเข้ามาทักทาย
    บอกว่าชอบหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนเช่นกันและ
    มีหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มที่น่าอ่านมาก การสนทนาก็เป็นไปอย่างมี
    มิตรไมตรีต่อกัน เพราะจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวดูเหมือนเป็น
    คนทำงานทั่วไป แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ให้นามบัตรภรรยาผมมา ส่วนภรรยาผม
    ก็ให้เบอร์มือถือเธอไปเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน การติดต่อพูดคุยก็


    มีขึ้นเป็นระยะๆ
    และมีนัดเจอกันเพื่อให้หนังสือภรรยาผมมาอ่านแล้วก็บอกว่า
    จะรีบไปทำงาน
    แต่หนังสือที่ให้มาเป็นหนังสือแนวสืบสวนธรรมดาที่ภรรยาผม
    เคยอ่านมาแล้ว
    จึงอยากจะคืนกลับไป

    การนัดเจอกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
    แต่คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นชวนทานข้าวเพราะเป็น
    ช่วงเกือบเที่ยงวันแล้ว

    และได้แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ที่ Food
    Center

    เธอบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานชอบอ่านหนังสือแนวนี้เช่นกัน ผู้ชายคนนั้น

    ถามภรรยาผมและผู้หญิงคนนั้นว่า จะทานอะไรจะไปซื้อมาให้ ด้วยความเกรงใจ

    จึงทานเหมือนกันเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู
    แต่ภรรยาผมก็พยายามจะขอตัวไปซื้อ

    น้ำมาให้แต่ทางผู้หญิงคนนั้น
    ชิงเดินไปซื้อมาให้ก่อน
    พอนั่งทานไปได้ประมาณ
    ครึ่งชามและดื่มน้ำไปหน่อย
    ภรรยาผมก็เกิดอาการมึนๆ และเริ่มง่วงนอน
    เพียงอีก
    ไม่กี่นาทีต่อมา
    เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
    ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาประคองตัวภรรยาผม
    แล้วพูดบอกผู้ชายว่า
    คงเป็นลมช่วยพาออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย ตอนนั้น
    ภรรยาผมบอกว่าไม่สามารถพูดอะไรได้ ร่างกายยืนแทบไม่ไหว ระหว่างเดินผ่าน
    ตัวห้างมาลานจอดรถเห็นผู้ชายโทรศัพท์เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที
    รถตู้สีขาวก็มาจอด
    แล้วทั้งคู่ก็พาภรรยาผมขึ้นรถ
    วินาทีนั้นภรรยาผมบอกว่าเธอพยายามขัดขืนแต่
    ทั้งคู่ก็ใช้กำลังพาเธอขึ้นรถแล้วปิดประตูรถ

    บนรถมีผู้ชายสองคนนั่งมาในรถด้วย เมื่อรถวิ่งออกจากห้างภรรยาผมพยายาม
    ร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีเสียงและผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเอามือมาปิดปากเธอไว้


    พอรถวิ่งออกมาระยะหนึ่งผู้ชายที่เจอกันที่ Food Center
    เริ่มปลดเสื้อผ้าภรรยาผม
    เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือและต่อสู้แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง
    ผู้ชายอีกสองคนที่นั่ง
    รออยู่บนรถก็ช่วยกันถอด
    สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคงไม่ต้องบรรยายกันอีก
    โดยมีผู้หญิงเป็น
    คนเก็บภาพเป็นระยะๆ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบ
    รู้สึกตัวอีกที่ภรรยาผมถูกนำ
    มาทิ้งที่ห้องน้ำหญิงของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวสุขาภิบาลสองย่านบางกะปิ

    ผมไปรับเธอแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
    เธอไม่พูดอะไรได้แต่ร้องไห้และไม่ไปทำงานอีกเลย
    นั่งซึมอยู่กับบ้าน


    สามวันต่อมาคุณแม่ของภรรยาโทรมาบอกว่ามีจดหมายลงทะเบียนส่งมาที่

    บ้านให้ไปรับผมก็ไปรับ แล้วเปิดออกดู
    มีภาพถ่ายพร้อมขอเงินสดสี่แสนบาทเป็นค่าฟิล์มและ
    ภาพถ่ายทั้งหมด
    ผมพูดไม่ออก ทุกความรู้สึกวิ่งพุ่งเข้ามาในใจ สับสน เสียใจ
    แค้นใจ

    เจ็บใจ
    ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อและเพื่อนท่านที่เป็นนายตำรวจ

    มีความเห็นเหมือนกันว่าต้องแจ้ง
    ความกับตำรวจ
    เพราะเงินสี่แสนครอบครัวเราคงหามาให้ได้ยาก
    ผมกับภรรยาเป็นเพียงลูกจ้าง

    กินเงินเดือนเท่านั้น
    ในวันส่งเงินตามนัดหมายตำรวจกองปราบวางแผนอย่างดีและสามารถจับ
    พวกเดนสังคมได้สองคนได้ฟิล์มและภาพจำนวนหนึ่ง
    และตำรวจกำลังตามจับพวกที่เหลืออีก
    สามคน
    แต่ก็ไม่แน่ใจว่าภาพถ่ายยังคงมีเหลืออยู่อีกหรือเปล่า
    ซึ่งหลังจากพวกมันถูกจับผมก็
    ได้รับโทรศัพท์ขู่ว่าจะภาพลง internet

    สองครั้ง

    ทุกวันนี้ภรรยาผมไม่ได้ทำงานอีกแล้ว
    อยู่บ้านด้วยอาการซึมเศร้าและไม่ต้องการ
    พบปะกับใครเลย
    ส่วนผมก็ไม่กล้าออกไปไหนเช่นกันทำงานเสร็จก็กลับบ้าน
    ชีวิตความเป็นอยู่

    มีแต่ความกลัว ระแวง คิดมาก
    เหมือนเป็นโรคประสาท
    ผมจึงอยากฝากบอกเรื่องราวของ
    ผมให้เป็นข้อมูลกับทุกคน
    ทุกวันนี้การหากินบนความทุกข์ร้อนของคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา
    ไปแล้วครับ ขอบุญกุศลในการให้ข้อมูลนี้ ทำให้ชีวิตครอบครัวผมดีขึ้นด้วยเถอะ



    อย่าลืมบอกต่อๆกันไปด้วยครับ

    พ. ศรีฯ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...