ม่วนอกม่วนใจ๋...แอ่วทะเลสาบดอยเต่า

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD vAlign=top align=right>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ยังจำเพลง "ไอ้หนุ่มดอยเต่า" จากเสียงใสๆ ของน้องวัยละอ่อน วงนกแลยุคเก่าก่อน ที่เคยทำให้ผู้ฟังรู้จักภาพอดีตแร้นแค้นกันดารของอ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ จนมาถึงยุคพัฒนา ชักชวนกันกลับฐานถิ่น

ผ่านไปหลายสิบปีให้หลัง อัพเดตข้อมูลกันอีกที หนุ่มดอยเต่าเมื่อวันวานอาจจะกลายเป็นหนุ่มใหญ่วัยทำงาน ขะมักเขม้น เป็นเจ้าของกิจการ หรือออกเรือหาปลา บริการนักท่องเที่ยว ชวนไปเที่ยวทะเลกัน

​

อย่าเพิ่งแปลกใจที่ภาพดอยเต่าซึ่งเดิมรับรู้มาว่าเป็นชุมชนอาศัยอยู่บนเขาและตามชายขอบ จะไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับท้องทะเลได้อย่างไร

แต่หากถามคนพื้นถิ่นจะได้รับคำตอบว่าทะเลที่ว่า หมายถึง "ทะเลสาบดอยเต่า" ทะเลสาบน้ำจืดขนาดกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยวิวของดอยสูงประกอบยอดไม้ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านท่าเดื่อ ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า

ผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติ เนื่องเพราะจากฤดูกาลที่ผ่านมาบริเวณนี้เกิดฝนตกชุกจนแปรสภาพพื้นที่รอบบริเวณกลายเป็นแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ประกอบกับพื้นที่อ.ดอยเต่าถือเป็นแหล่งต้นน้ำของเขื่อนภูมิพลและลำน้ำปิงซึ่งคนเชียงใหม่ใช้สอย จึงกลายเป็นเสน่ห์ทำให้ผู้คนท้ายน้ำและนักเดินทางทั่วไปอยากมาสัมผัสบรรยากาศบริสุทธิ์

การเดินทางไม่ลำบากนัก ถนนเข้าตัวอ.ดอยเต่าลาดยางตลอดเส้นทาง และระหว่างทางยังสามารถแวะชมทิวทัศน์ ทัศนียภาพได้ตลอดสองข้างทาง

เส้นทางแรก จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามถนนเชียงใหม่ - ฮอด ผ่านอ.หางดง อ.สันป่าตอง อ.จอมทอง อ.ฮอด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตัวอ.ดอยเต่า รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 125 ก.ม. ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง

ถนนสายนี้จะผ่านหมู่บ้านท่าเดื่อ รวมถึงวัดท่าเดื่อ ที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะรูปปั้นตรงประตูทางเข้าวัด สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น เนื่องจากตัวหุ่นปั้นหัวให้เป็นคน แต่ร่างกลับเป็นสิงห์ 2 ตนตั้งอยู่ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

เส้นทางดังกล่าวยังมีรถโดยสารประจำทางวิ่งบริการทุกวัน สอบถามได้จากสถานีขนส่ง ขณะที่เส้นทางอีกสายหนึ่งมุ่งหน้าออกจากตัวอ.ลี้ ของจ.ลำพูน ตามถนนสาย 1103 มุ่งหน้ามาที่อ.ดอยเต่าได้เช่นกัน

ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ นอกจากผืนน้ำที่เสมอขอบฟ้าแล้ว ยังได้เห็นทิวเขาเขียวขจีทอดตัวเล่นระดับให้แสงและเงาในบรรยากาศที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาของวันโดยเฉพาะยามเช้าและช่วงอาทิตย์อัสดง

มองเห็นเรือนแพน้อยใหญ่เรียงรายลอยลำอยู่ริมน้ำให้บริการนักเดินทางทั้งการล่องแพรับประทานอาหารหรือจะพักผ่อนค้างคืนตามแต่ความสะดวก

กลางทะเลสาบมีเรือหางยาวของชาวบ้านล่องออกไปจับปลา บ้างก็ใช้ "ตุ้ม" หรือเครื่องมือจับปลาพื้นบ้านขนาดใหญ่ ดักปลาช่อน ปลาซิว ปลากด ปลาคัง ปลาเนื้ออ่อน ที่มีอย่างอุดมในแอ่งเป็นวิถียังชีพ

​

นำกลับมาปรุงอาหาร หลากเมนูแนะนำ อาทิ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม แกงเมืองปลาคังที่เน้นรสชาติจัดจ้าน ปรุงรสเครื่องแกงด้วยตะไคร้และขมิ้นสูตรพื้นบ้าน

นั่งรับประทานอาหารรับลมเย็นสบาย บางหนอาจจะเจอกับสายฝนที่โปรยลงมาสร้างความเย็นสดชื่น ต้อนรับคนต่างถิ่นที่ไม่มีโอกาสพบเจอบรรยากาศแบบนี้บ่อยนัก

​

อีกทั้งเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับการล่องแพในทะเลเหนือยอดดอยเต่าทีเดียว เกินที่ใครจะนึกไปถึงว่าบนภูเมืองเหนือมีทะเลให้ยล

จากเสียงเว้าวอนของไอ้หนุ่มดอยเต่าเมื่อวันวานให้ลูกหลานรีบกลับไปเยือนบ้านด้วยคำพื้นเมืองว่า "ขอให้ขะไจ๋ปิ๊กบ้านเหียเน้อ"

​

มาหนนี้แว่วเสียงหนุ่มดอยเต่ายุค 2549 เว้าวอนนักแบกเป้ดังมาว่า

"ขอให้ขะไจ๋ไปแอ่วเหียเน้อ"

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>

คอลัมน์ แบกเป้

วิชัย ทาเปรียว





</TD></TR></TBODY></TABLE>


ที่มา :