รุ่นเทียนระเบิด ที่จริงเป็นวัตถุมงคลที่พุทธาภิเษกหลายอย่าง แต่พอดีว่าเหรียญที่ทำไว้สำหรับแจก ที่ทำเยอะสุด ด้านหลังเป็นเสาธรรมจักร คล้ายรูปเทียนระเบิดพอดี เลยเป็นตัวแทนของรุ่นไป ถ้าผมจำไม่ผิด รุ่นทำบุญครบรอบ 69 ปี ( พ.ศ.2537 ) หลวงพ่อดี ชื่อรุ่นจริงๆ แต่พอดีตอนดับเทียนชัยระเบิด เลยเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็นเทียนระเบิด ผมมั่นใจว่าเป็นคนแรกที่ได้รับแจกเหรียญรุ่นนี้ เนื่องจากผมไปเช่าพระกริ่งรุ่นแรก แล้วเหรียญรุ่นนี้ยังไม่แจก แต่อาศัยไปบ่อยๆ หลวงพ่อที่ดูแลวัตถุมงคลจำได้ จึงอ้อนวอน หลวงพ่อจึงฉีกถุงแจกอย่างไม่เป็นทางการ
ส่วนประสพการณ์รุ่นนี้ ที่ผมคุยกับพี่เลี่ยมพระที่วัดหนองจอก ( ผมชอบเช่าพระและเลี่ยมพระที่นี่เพราะถูกกว่า นครปฐม ) ว่า วันหนึ่งมีทหารมาถามแกว่า " เหรียญเทียนระเบิดมีไหม " พี่เขา บอกว่า " มี 3 เหรียญ ราคาเหรียญละ 800 บาท " ที่จริงพี่เขาล้อเล่น เหรียญไม่มีราคาเอาไว้แจกฟรี แต่ทหารกับไม่ต่อราคาเลยควักเงินจ่าย พี่เขาก็งง แต่เงินนะเอานะครับ จึงถามทหารว่าทำไมหารุ่นนี้ ทหารบอกว่าเพื่อนคล้องรุ่นนี้ ออกลาดตระเวนโดนซุ่มยิงแต่ไม่เข้าจึงมาตามหา
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับคุณ Tew.2007
ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาเปิดบันทึกตำนาน
เหรียญหลวงพ่อดีวัดหนองจอกรุ่นเทียนระเบิดและรุ่นสถาปนาโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ๒ องค์ ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
ยอดขุนพล ลพ.เอีย วัดบ้านด่านเสก เสมาหลวงปู่สายดอนกระต่ายทอง
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.
หน้า 80 ของ 102
-
-
บันทึกคำสอนของหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต โดยศิษยานุศิษย์ เมื่อปี 2552
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้สอนภาวนาครั้งสุดท้าย โดยพูดเรื่องของ สังขาร
ที่มา : ลานธรรมจักร
“ตอนที่พระเทศน์ สอน และนำปฏิบัติภาวนานั้น เทวดา ทั้งหลายก็จะลงมาฟังและร่วมปฏิบัติภาวนาด้วยเช่นกัน เทวดานั้นมี “สังขาร” เช่นเดียวกับ มนุษย์ ทั้ง อสุรกาย สัตว์ ยักษ์ มนุษย์ เทวดา ไปจนถึง พรหม สรรพสิ่งที่เวียนวนอยู่ในวัฏสงสาร ก็ล้วนแต่มี “สังขาร” ทั้งสิ้น หรือในอีกแง่หนึ่งก็คือ “การปรุงแต่งของจิต” ในสังสารวัฏตั้งแต่ชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุด ทุกระดับชั้น ระดับจิต ก็ล้วนแล้วแต่มีการปรุงแต่งในจิตทั้งสิ้น
จะปรุงแต่งแบบหยาบ (เป็นกาย เป็นธาตุขันธ์) หรือปรุงแต่งแบบละเอียด (เป็นอรูป) จะปรุงแต่งไปโดยอกุศล (นรก เดรัจฉาน) หรือ ปรุงแต่งไปโดยกุศล (สวรรค์) ก็ยังเป็นการปรุงแต่งทั้งสิ้น พูดง่ายๆ คือ “ไม่มีสภาวะจิตใดที่ไม่ปรุงแต่ง เว้นจากจิตแห่งอริยะบุคคล”
การทำให้เราเท่าทันและพ้นไปจากอำนาจการปรุงแต่งของจิต ตัดวงจรแห่งความทุกข์ และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นมีเพียงการภาวนาเท่านั้น จะเป็น 1 ชั่วโมง จะได้ครึ่งชั่วโมง หรือทำได้แค่ 10-15 นาทีก็ต้องเพียรพยายามที่จะทำให้ได้”
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระผงรูปเหมือน ๑๐๐ ปีและรูปถ่ายติดจีวร ๒ องค์ บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
วันนี้จัดส่ง
ขอบคุณครับ -
ประวัติหลวงพ่อจวนวัดบ้านสร้าง
พระครูวิโรจน์ธรรมรัตน์ (จวน เวโรจโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้าง สกุลเดิม ไวยสุภีร์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2455 ที่ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่ออ่อง โยมมารดาชื่อแห อุปสมบทเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2476 ณ วัดบ้านสร้าง โดยมีพระครูนิเทศธรรมกถา(หลวงพ่อพัน)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จวน ได้ศึกษาวิทยาอาคม จากหลวงพ่อพันผู้เป็นอาจารย์ (ยอดคณาจารย์สายวังน้อย) และหลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง(ศิษย์พี่ร่วมอาจารย์เดียวกัน) หลวงพ่อจวนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างต่อจากพระครูปิยะ ในปี 2517และได้พระบรมราชานุญาติ ให้รับพระราชทานพระครูชั้นเอก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2536 หลวงพ่อจวนนอกจากท่านจะเป็นพระเกจิแล้วท่านยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย ท่านได้สร้างถาวรวัตถุไว้มากมาย และเป็นที่เคารพรักของชาวบ้านมากมาย ในช่วงที่หลวงพ่อจวนมีชีวิตอยู่จะมีประเพณีแห่พระเกิดขึ้นทุกวันที่ 15 เมษายนของทุกปีหรือวันสงกรานต์นั่นเอง ชาวบ้านในหมู่บ้านจะต้องทำการนำรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสมาจัดขบวนแห่ไปตามชุมชนต่างๆเพื่อให้ชาวบ้านได้ทำการสักการะ มีขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ หรือจะแฝงไปด้วยความสามัคคีของคนในชุมชนก็เป็นไปได้เพราะวัดคือศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทุกๆคน
หลวงพ่อจวนนอกจากสร้างถาวรวัตถุแล้ว ท่านยังสร้างวัตถุมงคลหรือพระเครื่องต่างๆไว้หลายๆ อย่างอีกด้วย ในช่วงวาระท้ายๆของการปลุกเสกพระเครื่องของท่านนั้น ท่านยังได้พระเกจิอาจารย์ทรงวิทยาอาคมอีกหลายต่อหลายรูปมาร่วมในการปลุกเสกพระเครื่องของท่าน
หลวงพ่อจวน เวโรจโน มรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542 สิริอายุรวมได้ 88 ปี 66 พรรษา นับว่าเป็นการสูญเสียเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างที่ดีรูปหนึ่งไป
ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระผงรูปเหมือนไตรมาสปี๓๗ หลวงพ่อจวนและพระผงกฐินปี๓๘ ๒ องค์
บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
พระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม
พระอาจารย์ไทผู้หยั่งรู้กรรมเก่า
July 26, 2017 Ampol Jane
ได้ยินว่า..
จรรยาบรรณโหรนั้น – ห้ามพยากรณ์ใครว่าจะถึงคราวตาย
แต่พระอาจารย์ไทพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำ
ราวๆปี ๒๕๓๐ ผม,บวร และ เฮียบัติ นัดกันไปทำธุระที่เชียงใหม่ โดยมี >เฮียบิ< ล่วงหน้าไปคอยอยู่ที่นั่นแล้ว
ขณะนั้นกำลังคิดจะลงทุนทำอะไรสักอย่าง ก็มีผู้แนะนำให้ไปหาพระอาจารย์รูปหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้)พำนักอยู่วัดเล็กๆหลังดอยสุเทพ
ร่ำลือว่าใครจะทำธุระกิจอะไร,จะซื้อที่ดินที่ไหน ชอบไปปรึกษาหารือกับท่านทั้งนั้น..
เขาบอกอีกว่าให้ซื้อลิโพวิตันดีไปถวาย ..ท่านชอบฉันลิโพฯ
—
เมื่อไปถึง-พบว่ามีพระภิกษุ ๒ รูป นั่งอยู่ด้วยกันในศาลา
ภิกษุรูปหนึ่งยังหนุ่ม อีกรูปหนึ่งสูงวัยกว่า
ผู้นำทางกระซิบเบาๆ ชี้เป้าไปที่องค์ซึ่งยังหนุ่มๆ
ผมก็คลานเข้าไปหาองค์นั้น.. จะเอาลิโพฯไปถวาย .. ท่านก็โบกมือห้ามไว้ ..โบ้ยไปที่พระภิกษุสูงวัย ..บอกผมว่าให้เอาลิโพฯไปถวายองค์นั้น
ท่านคงเห็นผมชะงัก และมีอาการลังเลสับสน ท่านจึงเอ็ดเบาๆว่า “..นั่นน่ะอาจารย์ฉัน..ท่านมาเยี่ยมพอดี ..มีอะไร สงสัยอะไร อยากรู้อะไร ให้ถามท่าน ”
ได้ยินเท่านั้นก็ถึงกับลิงโลดอยู่ในใจว่าวาสนาอะไรจะดีขนาดนี้
รีบคลานเข้าไป ยกถุงลิโพฯขึ้นจบหัวถวาย, ท่านรับเอาไว้,.. โดยที่ไม่ทันได้เอ่ยปากถามอะไรเลย ท่านก็มีบัญชาด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
” เอากระดาษปากกาขึ้นมาจด ! ”
บวรรีบควักกระดาษปากกาที่เผอิญพกมาด้วย..เตรียมจด
“..นางน้อย,นางหงส์,นางจันทร์ และตระกูลหงส์บุญทั้งหมด คือเจ้ากรรมนายเวร… วิธีแก้ ข้าวต้มเครื่อง ๑ หม้อ ,ขนมจีน ๗ ถ้วย, ไม้กวาด ๑ ด้าม เอาไปถวายพระ อุทิศให้คนทั้งหมดที่กล่าวนามมานี้ ”
” ผมไปทำอะไรให้พวกเขาหรือครับ..”
“..อย่าถาม มันลึกมาก ..เชื่อก็ทำ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องทำ ..จะไปทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาทำกับฉัน”
ท่านพูดจาสั้นๆห้วนๆ..ไม่ยืดยาดร่ำไร
เมื่อผมถอยออกมา บวรก็คลานเข้าไป ท่านมองหน้าบวรฯโดยที่ไม่ได้ถามอะไรเช่นกัน..แล้วก็เอ่ยปากว่า
” ทำบุญทุกวันเกิดติดต่อกัน ๓ ปี อุทิศให้ยายหอม”
ครั้นบวรคลานออกมา ..เฮียบิก็รีบคลานเข้าไปมั่ง
ท่านชี้ใส่เฮียบิ
“พญามารหูกะตายะตา เจ้ากรรมนายเวร.. วิธีแก้..ใส่บาตรด้วยส้มเขียวหวาน ๑๕ ลูก ติดต่อกัน ๓ วัน อุทิศให้พญามาร”
“อาจารย์ครับถ้าผมใส่บาตรวันเว้นวันได้ไหมครับ บางวันตื่นสาย..”
“ไม่ได้..ถ้าไม่มั่นว่าจะทำต่อเนื่องได้ทั้ง ๓ วัน ก็อย่าเพิ่งทำ”
“ถ้าผมจะใส่ส้มไม่ครบ ๑๕ ลูก หรือว่าผมจะใส่เกิน ๑๕ ลูกจะเป็นไรไหมครับ”
“ไม่ได้.. ขาดก็ไม่ได้ เกินก็ไม่ได้”
“เมียผมตื่นเช้าทุกวัน..ถ้าผมจะให้เมียผมใส่บาตรแทนล่ะครับ”
” ไม่ได้.. ไม่เชื่อก็อย่าทำ..” ท่านเอ็ดตะโรเสียงดังลั่น, ชี้นิ้วใส่ท้ายทอยของท่านเอง “..เราน่ะ กำลังจะเป็นมะเร็งตรงนี้..จะตายในไม่เกิน ๓ เดือน ..ยังไม่รู้ตัวอีกรึ ? ”
—
คงต้องบอกว่า บุคคลิกของ -เฮียบิ- โดยเฉพาะวิธีพูดและการทำอะไรๆยียวนกวนประสาทแบบหน้าตายไร้ความรู้สึกนั้น สามารถทำให้ใครก็ตามที่คุยด้วย หลั่งน้ำกรดออกมากัดท้องไส้ตน จนเป็นโรคกระเพาะเอาง่ายๆ
—
ตกลงก็ไม่ได้ถามและไม่ได้รับคำตอบเรื่องธุระกิจที่กำลังจะลงทุน
กลับได้เรื่องได้ราวเจ้ากรรมนายเวร หรือ“กรรมเก่า“ของใครของมันมาแทน
—
ภายหลังจึงทราบว่าพระภิกษสูงวัยรูปนั้นคือพระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม วัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นทั้งศิษย์และเป็นทั้งหลานแท้ๆของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโมอีกด้วย
พระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม วัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
พระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม
หลังจากกลับออกมาจากวัด ก็แวะเข้าไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่
เรื่องแปลกประหลาดก็เกิดแบบไม่คาด
เสือดำในกรงกว้างที่กำลังนอนเงียบอยู่นั้น พอเห็นเฮียบิปุ๊บ ก็ลุกขึ้นปั๊บ ปรี่เข้ามาประชิดลูกกรง แยกเขี้ยวคำราม จ้องเฮียบิตาเป็นมัน
เฮียบิเดินไปไหนก็เดินตามเหมือนอยากจะกินเฮียบิเต็มแก่
เฮียบิแกล้งเดินกลับไปกลับมา
เสือดำก็เดินตามกลับไปกลับมาเหมือนกัน
แปลกที่เสือมันไม่สนใจคนอื่นเลย
จ้องจะเล่นงานเฮียบิคนเดียว
วันรุ่งขึ้นเฮียบิออกไปใส่บาตรที่หน้าวัดพระสิงห์ฯซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก
พอเฮียบิกลับเข้ามา ผมก็นึกสังหรณ์ใจ ถามไปว่า
“เฮียบิ..ใส่ส้มเขียวหวานไปกี่ลูก”
” ๓๐ลูก..”
“อ้าว..หลวงพ่อท่านสั่งให้ใส่ ๑๕ ลูก อย่าขาดอย่าเกินไม่ใช่เรอะ”
“ผมว่า..ผมใส่ส้มไป ๓๐ ลูก น่าจะดีกว่า.. แต่ถ้าพญามารฯไม่โอเค.ผมก็ไม่สน..”
—
หลังจากนั้นราวๆเดือนกว่าๆ เฮียบัติโทรฯมาบอกผมว่า
“ไอ้บิแย่แล้ว..”
“แย่ยังไง”
“จู่ๆมันปวดหัว ไปหาหมอ ตรวจเจอมะเร็งอยู่กลางกระบาลเลย”
“แย่จริงๆ”
” มันคงปลงตก..วันๆไม่ทำอะไร ..ชอบจะไปนั่งเงียบๆคนเดียวอยู่ริมคลองหลอด ”
—
อีกเดือนกว่า เฮียบิก็เสียชีวิต ตรงตามที่พระอาจารย์ไทพยากรณ์ไว้ทุกประการ
—
ในส่วนของผมกับบวรก็คงคล้ายๆกัน คือไม่ถึงกับจะเชื่อที่พระอาจารย์ไทบอกทั้งหมด แต่พอเฮียบิป่วยเสียชีวิตไปจริง ก็บอกกันว่าต้องทำ
ผมรีบทำก่อนที่วัดป่าแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี .. แต่บวรฯต้องรอวันเกิดอีกหลายเดือน
—
๖-๗ ปีต่อมา .. ได้เล่าเรื่องนี้ให้อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์ กับอ.เบิ้ม สุวัฒน์ พบร่มเย็น ฟัง
ทั้ง ๒ ท่านสนใจอยากไปกราบพระอาจารย์ไทหรือจะอยากไปสังเกตุการณ์ก็ไม่ทราบ
ระหว่างเดินทาง ผมก็บอกอาจารย์ทั้งสองว่า ผมจะลองถามท่านเรื่องกรรมเก่าของผม ถ้าท่านยังมีกรรมเก่าให้ผมอีกสักกรรม ผมก็จะว่าท่านอาจารย์ไทเป็นของเก๊
เมื่อไปถึงวัดเขาพุนก พระอาจารย์ไทกำลังรับแขกคนหนึ่งอยู่ เราก็รอจนแขกท่านนั้นกราบลากลับ จึงคลานเข้าไปหา
ท่านจำผมไม่ได้หรอกครับ
เพราะเคยเจอกันครั้งเดียวที่เชียงใหม่
ผมเองก็ยังจำหน้าท่านไม่ได้เลย
“มีธุระอะไร?”
“อยากให้หลวงพ่อดูกรรมเก่าของผม”
ท่านก็เอาปากกามาเขียนใส่กระดาษ เขียนวนไปวนมา ขยึกขยัก ผมก็แอบชะโงกดูว่าท่านเขียนอะไร
ไส้เดือนกิ้งกือครับ
ท่านขีดเขียนไปไม่มีสาระอะไรเลย เป็นเส้นเป็นสายแบบเด็กๆที่ยังเขียนหนังสือไม่เป็น ..เขียนสุ่มสี่สุ่มห้าเรื่อยเปื่อย
สักพักท่านก็หยุดเขียน ..เงยหน้าขึ้นมองผม แล้วบอกว่า
” ไม่มี… แต่ให้ระวังกรรมใหม่ที่จะเกิดจากปลายปากกา ”
ไม่อยากจะเชื่อเลย..
รู้อีกด้วยว่าผมคนหากินอยู่กับการเขียนหนังสือ
นี่เรียกว่าเป็นบุญวาสนา ..ได้พบเจอพระอาจารย์ของจริง,เก่งจริงอีกรูปหนึ่งเข้าให้แล้ว
แต่น่าเสียดายและเสียใจอย่างยิ่ง..ยังไม่ทันจะได้สานต่ออะไรๆจริงๆจังๆเลย
เพียงเดือนเศษๆหลังจากนั้นก็ได้ข่าวว่า.. พระอาจารย์ไทมรณภาพแล้ว
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับเว็บ Ampoljane.com
ในคืนวันหนึ่งหลังจากที่ท่านปฏิบัติกัมมัฏฐานแล้วลูกศิษย์ท่านหนึ่งได้กราบเรียนถามถึงการปฏิบัติธรรมของท่านท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่าขณะที่ท่านปฏิบัติธรรมอยู่ถ้ำผาไทจังหวัดลำปาง จิตได้ความสงบจนได้เกิดนิมิตมีดังระเบิดขึ้นสนั่นเมื่อเสียงนั้นเงียบลงแล้วท่านก็ได้ยินเสียงพูดขึ้ชัดเจนว่า"ครูบา...ขณะนี้จิตท่านได้ถึงความสงบแล้วขอให้ท่านรักษาจิตของท่านให้มีความสงบอย่างนี้ตลอดไปจะมีผู้คนเคารพสักการะและมาพึ่งปาระมีท่านเป็นอันมาก
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป"
แล้วเสียงพูดนั้นก็เงียบไป
ครั้นท่านได้กำหนดจิตต่อเนื่องไปอีกก็บังเกิดแสงสว่างกระจ่างนวลสดใสสามารถจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้แจ่มชัดต่อจากนั้นมาก็มีท่านครูฤาษีมาบอกคาถาและตัวยาต่างๆเพื่อให้ท่านได้โปรดญาติโยมที่เจ็บไข้ได้ป่วยและประสบเคราะห์กรรมทุกข์ภัยที่พากันมาขอเมตตาปาระมีจากท่านมากมายในทุกแห่งที่ท่านพำนักอยู่
ขอบคุณเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
ล็อกเก็ตพระอาจารย์ไท หายากไม่ค่อยเจอครับ ให้บูชา 470 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
พระกำลังแผ่นดิน พระราชทาน มวลสารจิตรลดา ที่ระลึกสร้าง "อาคารเรียนเทิดพระเกียรติ ญสส.๘๔ พรรษา" ในปี พ.ศ.๒๕๓๙ รูปทรงเช่นเดียวกับพระสมเด็จจิตรลดา มีมวลสารและส่วนผสมของสมเด็จจิตรลดาได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ประดิษฐานด้านหลังองค์พระพระกำลังแผ่นดินองค์นี้ เป็นเนื้อผงสีดำอมน้ำตาล วัดบวรนิเวศวิหารจัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ในหลวงครองสิริราชสมบัติครบ 50 พรรษา ในปี 2539 ที่ระลึกพิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์ 5 รุ่น กาญจนาภิเษก (พิมพ์พิเศษ-พิมพ์กรรมการ) วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมกล่องเดิม
พระผงชุดมวลสาร จิตรลดา วัดบวรนิเวศวิหาร รุ่นกาญจนาภิเษก ปี พ.ศ.2539 ไม่ค่อยมีให้พบเห็นง่ายๆครับ จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ ผู้ร่วมทำบุญสร้างอุโบสถ วัดอัมพุวราราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
ประกอบด้วยมวลสารหลักที่สำคัญๆ ดังนี้
ผงจิตรลดาเก่า, ผงจิตรลดาใหม่ รุ่นโครงการหลวง CP, ผงไพรีพินาศ, ผงพระศาสดา, ข้าวสารหิน และที่สำคัญมีเส้นพระเกศาของสมเด็จ พระสังฆราช พระญาณสังวร, ผงสมเด็จวัดระฆัง, วัดเกศไชโย, มวลสารวัดปากน้ำ, มวลสารหลวงพ่อเกษม, หลวงพ่อคูณ, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่ออุตตมะ, หลวงพ่อเปิ่น, เส้นพระเกศาของ หลวงปู่หล้า แห่งภูจ้อก้อ และมวลสารพระพุทธศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ
พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 2 วาระ ครั้งแรก วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศ เป็นประธานจุดเทียนชัย พระเถราจารย์ทั่วประเทศ 108 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต
ครั้งที่ 2 พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ 5 ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร
สร้างในโอกาสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดิน สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แห่งราชจักรีวงศ์
ทรงเป็นพุทธมากะและองค์อุปถัมภกพระพุทธศาสนา ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (กาญจนาภิเษก) ใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์(มวลสารจิตรลดา)สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เสด็จทรงประกอบพิธีเททอง และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร) เสด็จฯ ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัยพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2539 เวลา 15.19 น.
อธิษฐานจิตโดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช และพระเถระ พระเกจิคณาจารย์รวม 109 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์รอบพระอุโบสถอีกกว่า 1,000รูป โดยรายนามพระเกจิบางส่วนที่ร่วมอธิษฐานจิต อาทิ พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดเทพธิดาราม พระวิสุทธาธิบดี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) วัดสุทัศนเทพวราราม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก หลวงพ่อทองบัว วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม ครูบาน้อย วัดบ้านปง หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์ เป็นต้น.
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
มี ๒ องค์ มีกล่อง ๑ องค์ไม่มีกล่อง ๑ องค์
ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
หลวงพ่อสะอาด อาวุธฺฑสีโล (พระครูนิวิฐมณีวงศ์) เทพเจ้าแห่งเมืองพยุหะคีรี ผู้สืบทอดตำนานการสร้างมีดหมอสายหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
**********************
ชาติภูมิ
หลวงพ่อสะอาด อาวุธฺฑสีโล หรือในราชทินนามที่ “พระครูนิวิฐมณีวงศ์” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว ตำบลพยุหะ อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ท่านมีนามเดิมว่า “สะอาด จันทร์สมบัติ”
ท่านถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ ปี จอ ตรงกับวันที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ ณ บ้านเลขที่ ๑๐ หมู่ที่ ๗ ตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โยมบิดาชื่อเอก จันทร์สมบัติ โยมมารดาชื่อ ย้วย จันทร์สมบัติ
การศึกษา
โยมพ่อเอก จันทร์สมบัติได้นำหลวงพ่อสะอาดหรือเด็กชายสะอาดในขณะนั้น มาฝากตัวเป็นศิษย์ในความดูแลและอุปการะของหลวงพ่อกัน เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว เพื่อให้ได้รับการศึกษาจากทางโลกในโรงเรียนพยุหะวิทยาซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอพยุหะคีรี จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
หลวงพ่อสะอาดท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อกันตั้งแต่วันแรกที่ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์จวบจนท่านมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ท่านจึงได้กราบลาหลวงพ่อกันไปบวชที่วัดพระปรางค์เหลืองซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด เมื่อวันเสาร์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๓๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๗ โดยมี พระครูประสุตธรรมโชติ รองเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท วัดใหญ่ จังหวัดชัยนาท เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สอน จิรธมฺโม วัดพระปรางค์เหลือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สนม อติธมฺโม วัดพระปรางค์เหลือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาในทางพระพุทธศาสนาว่า “อาวุธฺฑสีโล”
ภายหลังจากที่หลวงพ่อสะอาดท่านอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระปรางค์เหลือง ๓ พรรษา เมื่อท่านสอบได้นักธรรมชั้นโท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้แล้ว ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านจึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดเขาแก้ว เพื่อปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อกันและมาศึกษาเล่าเรียนต่อนักธรรมชั้นเอกที่สำนักวัดเขาแก้ว และท่านก็สอบนักธรรมชั้นเอกได้ในปีนั้นเอง
การศึกษาพุทธาคม
หลวงพ่อสะอาด อาวุธฺฑสีโล ท่านเป็นยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิทยาคมอย่างเอกอุในยุคปัจจุบัน ท่านเป็นผู้สืบทอดพุทธาคมสายหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อย่างแท้จริง ท่านมิได้ตั้งตนยกเมฆแต่ประการใด กล่าวคือ ในสมัยที่ท่านเป็นเด็ก ท่านได้ศึกษาหาความรู้ในด้านพุทธเวทวิทยาคมจากโยมพ่อเอก จันทร์สมบัติ ครูคนแรกของท่านซึ่งเป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์แห่งเมืองพยุหะคีรีในสมัยนั้น ซึ่งโยมพ่อเอกนี้เองท่านได้เรียนวิชาอาคมมาอย่างชำชองจากหลวงพ่ออิน วัดหางน้ำหนองแขม จังหวัดนครสวรรค์ หลวงพ่ออินรูปนี้ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ และเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือท่านทั้ง ๒ เป็นศิษย์ของหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล เหมือนกัน
ตั้งแต่วันที่หลวงพ่อสะอาด อาวุธฺฑสีโล ย้ายมาจำพรรษาและอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อกันที่วัดเขาแก้วนั้น นอกจากท่านจะศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อกัน ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพแล้ว ท่านยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากโยมพ่อเอก จันทร์สมบัติ ซึ่งเป็นศิษ์หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำหนองแขม ควบคู่กันไป
ในสมัยที่ท่านฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อกันเพื่อศึกษาวิชาอาคมนั้น หลวงพ่อกันได้ถามท่านคำหนึ่งว่า “จะสิกขาลาเพศไหม” ซึ่งหลวงพ่อสะอาดท่านก็ได้ตอบหลวงพ่อกันไปว่า “ไม่สึก” หลวงพ่อกันท่านจึงยอมสอนวิชาการทำมีดหมอ ตลอดจนสอนคาถาอาคมต่าง ๆ ที่ท่านได้ล่ำเรียนมาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ให้หลวงพ่อสะอาดจนหมด
การเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อกันนั้น หลวงพ่อสะอาดท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อถึงวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ หลวงพ่อกันท่านจะชวนหลวงพ่อสะอาดไปที่อุโบสถ เพื่อสอนหลวงพ่อสะอาดลงตะกรุดและทำมีดหมอ ซึ่งวิธีสอนของหลวงพ่อกันนั้น ท่านก็จะให้หลวงพ่อสะอาดลงตะกรุดแทนท่านบ้าง เข้าด้ามมีดหมอแทนท่านบ้าง ซึ่งตำราที่หลวงพ่อกันใช้สอนหลวงพ่อสะอาดนั้นก็เป็นตำราเดียวที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
จากนั้นหลวงพ่อกันก็จะนำมีดหมอและตะกรุดที่หลวงพ่อสะอาดลงเสร็จมาเสกเอง หลวงพ่อสะอาดท่านลงตะกรุดและทำมีดหมอถวายหลวงพ่อกันแบบนี้มากว่า ๒๐ พรรษา จวบจนหลวงพ่อกันท่านได้ละสังขารไป เป็นที่รู้กันในหมู่พระภิกษุวัดเขาแก้วและผู้คนชาวพยุหะคีรีในสมัยนั้นว่าหลวงพ่อกันท่านไว้วางใจและเมตตาหลวงพ่อสะอาดเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ท่านให้หลวงพ่อสะอาดลงตะกรุดและเข้าด้ามมีดหมอแทนท่าน เพราะหลวงพ่อกันท่านแน่ใจเป็นอย่างยิ่งว่าวิชาอาคมทุกอย่างที่ท่านได้สอนให้แก่หลวงพ่อสะอาดหรือพระภิกษุสะอาดในขณะนั้น หลวงพ่อสะอาดหรือพระภิกษุสะอาดได้เล่าเรียนจนเกิดความเชี่ยวชาญจนอยู่ในระดับที่ท่านสามารถให้ลงแทนท่านได้ จนภายหลังจากที่หลวงพ่อกันท่านละสังขารและได้จัดการบำเพ็ญกุศลศพหลวงพ่อกันเสร็จแล้ว หลวงพ่อสะอาดท่านก็ยังได้จำพรรษาที่วัดเขาแก้วเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อสะอาดทำนุบำรุงวัดเขาแก้ว วัดพระปรางเหลือง และช่วยเหลือสาธารณะกุศลต่าง ๆ เรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน เป็นเวลากว่า ๕๖ ปี ท่านใช้ปัจจัยส่วนตัวบ้าง ปัจจัยที่มีผู้ร่วมทำบุญกับท่านบ้าง และปัจจัยที่เป็นเงินเช่าบูชามีดหมอของท่านบ้าง รวมเป็นปัจจัยกว่า ๘๙,๗๑๖,๖๓๕ บาท (แปดสิบเก้าล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นหกพันหกร้อยสามสิบห้าล้านบาท)
หลวงพ่อสะอาด ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ลูกทุ่ง คือ ท่านเป็นพระแท้ พูดจริง ทำจริง ใจนักเลง ตรงไปตรงมา วัตถุมงคลของท่านทุกอย่างถ้าท่านยังเสกไม่พอใจ ท่านจะไม่ให้ลูกศิษย์ของท่านนำไปติดตัวเป็นอันขาด แต่ถ้าท่านเสกจนเป็นที่พอใจแล้วใครจะลองเอาไปทำอะไรก็สามารถลองได้ทุกเวลา เพราะวัตถุมงคลของท่านมากด้วยประสบการณ์ ทางด้านคงกระพันและมหาอุดเป็นอย่างมาก จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาลูกศิษย์มาแล้วนับไม่ถ้วน
หลวงพ่อสะอาดท่านเป็นที่นับถือและรู้จักในหมู่พระเกจิอาจารย์ด้วยกันว่าท่านมีดี เช่น หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ ครูบาสายทอง วัดท่าไม้แดง และหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
ในส่วนของหลวงพ่อพูนนั้น หลวงพ่อสะอาดท่านให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อพูนเป็นอย่างยิ่ง ท่านนับถือหลวงพ่อพูนในฐานะพี่น้องและได้มีการแลกเปลี่ยนวิชากันเลยที่เดียว
วัตถุมงคลของหลวงพ่อสะอาดที่โดดเด่นทางพุทธาคมในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นวัตถุมงคลที่ท่านได้ลำเรียนมาจากหลวงพ่อกัน วัดเข้าแก้ว และโยมพ่อเอก จันทร์สมบัติ อาทิเช่น มีดหมอ ตะกรุด สิงห์งาแกะ สิงห์แกะจากไม้มะขามตายพราย อายุกว่า ๔๐๐ ปี และพระผงหลวงพ่ออู่ทอง ที่ท่านสร้างไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ ในคราวเกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย โดยรวบรวมมวลสารต่าง ๆ อายุหลายร้อยปีมาผสมสร้างเป็นพระผงหลวงพ่อ อู่ทอง
สมเด็จอู่ทองรุ่นแรก หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
ประวัติการสร้าง ผงที่นำมาสร้างสมเด็จหลวงพ่อ อู่ทอง เมื่อ พ.ศ.2509 ทางกรมศิลปกรได้ขุดกรุเมืองบนคือบ้านโคกไม้เดน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ได้พบกรุสมบัติ สมัยทวารวดี ในสมัยของพระนางเจ้าจามเทวีมีคูเมืองเก่าใหญ่โต ได้พบสมบัติมากพอสมควรแต่ผ้าทิพย์ที่หน้าแท่นพระหลงเหลืออยู่ทางวัดพระปรางได้เก็บรักษาไว้มวลสารสมเด็จอู่ทอง อาตมาได้ขอนำมารวมกับผงพระธาตุเมืองศรีเทพ , ผงใต้แท่นหลวงพ่อเชียงแสน , ผงใต้แท่นหลวงพ่ออู่ทอง , ผงพระนอนไสยาทรและมวลสารอื่นๆ อีกหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดมีอายุอยู่ในระยะ 1,000 ปี , ของทวารวดี 500 ปี , หลวงพ่ออู่ทอง 300 ปี , ผงพระนอนไสยาต , พระสมเด็จแท้ วัดระฆังที่หัก , ผงหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล , ผงหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ , ผงหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว และอื่นๆ อีกมากน่านำไปใช้ติดตัวและบูชาดีทางด้านค้าขายและแคล้วคลาดจากอันตรายเยี่ยมมาก พุทธคุณพระนี้ทำการสร้างครั้งเกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียอายุการสร้างประมาณ 20 กว่าปี มีประการณ์มากมายนับเป็นโอกาสดีที่ญาติโยมทั้งหลายได้มีไว้ติดตัวไปเหนือมาใต้ให้ตั้งใจนึกถึง หลวงพ่ออู่ทอง – หลวงพ่อเทศ – หลวงพ่อเดิม – หลวงพ่อกัน และคุณบิดา-คุณมารดา จึงนำติดตัวไปเถิดจะเกิดผลดีอย่างยิ่ง แคล้วคลาดอันตรายดีเยี่ยมทางค้าขายเมตตาก็เยี่ยม ลองใช้ดูเถิดท่านทั้งหลาย เมตตาจาก พระครูนิวิฐมณีวงศ์ ( หลวงพ่ สะอาด อาวุสีโล )วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรีจังหวัดนครสวรรค์
หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้วเลยน่ะครับ ซื่งหลวงพ่อกันก็เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ ท่านได้เรียนวิชาจากหลวงพ่อกันจนหมด และได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อกันให้ออกงานกิจนิมนต์ นั่งปรก ปลุกเสก แทนหลวงพ่อกัน และวัตถุมงคลของหลวงพ่อกันน่ะครับ เช่น ตะกรุด 108 ท่านเป็นคนจารให้หลวงพ่อกันทั้งสิ้น รวมถึงวัตถุมงคลอื่นๆ อีกหลายรุ่น ท่านเป็นคนที่มีใจนักเลงมากๆ เป็นคนเสียงดัง พูดตรง กล้าขอกล้าไห้ วัตถุมงคลของท่านน่ะครับ ถ้ายังไม่ดีจริง ยังไช้ไม่ได้ ท่านจะยังไม่นำออกแจก และที่สำคัญนะครับมีดของท่านนี่ล่ะ เด็ดมากจนบางคนพูดว่าถ้าอยากมีมีดหลวงพ่อเดิมใช้ ไปเอาของหลวงพ่อสะอาดก็ได้เหมือนกัน เพราะเป็นตำราเดียวกับหลวงพ่อเดิมและหลวงพ่อกัน ซึ่งหลวงพ่อเดิมได้มาจากหลวงปูเทศ วัดสระทะเล วัตถุมงคลของท่านน่ะครับ มีคนนำไปใช้เจอประสบการมากมาย ทั้งแคล้วคลาด กัมบัง เมตตา คงกระพัน ดีทั้งนั้น เพราะเวลาท่านจะทำอะไรท่านจะบอกครูบาอาจารย์ไห้รับรู้และช่วยทามไห้วัตถุมงคลเกิดความขลัง บางคนมีคนเอาไปลองยิงน่ะครับ ยิงไม่ออกรีบมากราบขอขมาท่านแทบไม่ทัน เพราะท่านเคยเล่าว่า ถ้ามีใครเอาของของท่านไปลองท่านจะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เถ้าเงินที่ญาติโยมทำบุญน่ะครับท่านจะไม่รับ ท่านจะบอกว่าไห้เอาไปใส่ในตู้ บริจาคเพื่อท่านจะได้นำไปทำนุบำรุงวัด และพระพุทธศาสนาต่อไป ทุกปีท่านจะแจกทุนการศึกษาให้เด็กๆที่เรียนดีแต่ยากจนตลอด
จึงอยากให้ลองไปกราบท่านซักครั้งเชื่อว่าจะได้อะไรดีๆแน่นอน
ท่านได้สร้างพระผงอู่ทองตั้งแต่ปี 09 และวัตถุมงคลของท่านน่ะครับจะมี มวลสารของหลวงพ่อเดิมผสมอยู่เสมอๆ
ปัจจุบันท่านยังรับกิจนิมนต์นั่งปรกอยุ่แทบไม่เว้นวัน นี่คงพอที่จะรับประกันความเข้มขลังของจิตและอาคมของท่านได้น่ะครับ
ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
หลวงพ่ออู่ทองรุ่น 1 กล่องเดิมๆครับสีแดงหายาก บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
-
หลวงพ่อเต้ามีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนามเจ้าตำรับวิชามหาอุดและคงกระพันชาตรี ผู้ทรงคุณวิเศษในการย่นระยะทาง ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมการลงอักขระเลขยันต์ การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ตลอดจนการเจริญวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อแช่มโดยตรง หลวงพ่อแช่มรักและไว้ใจหลวงพ่อเต้ามาก ขนาดให้ทำหน้าที่ลงอักขระเลขยันต์แทนแม้ขณะนั้นหลวงพ่อเต้าจะยังบวชได้ไม่ถึง 5 พรรษา
เรื่องเล่าลือกันอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือในงานพุทธาภิเษก ในวัดใหญ่แห่งหนึ่งในนครปฐมมีพระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งปรกกันมาก เจ้าภาพตั้งบาตรนํามนต์ไว้หน้าอาสนะ ที่พระเกจิอาจารย์จะนั่งปรกปลุกเสก และจุดเทียนนํามนต์เอาไว้ที่ปากบาตร พอพิธีเริ่มไปได้ไม่นาน ฝนก็ตั้งเค้าลมกระโชกมาอย่างรุนแรง เทียนนํามนต์ในที่บาตรของพระเกจิที่นั่งปรกถูกลมพัดดับหมด
เหลือแต่เพียงเทียนที่ปากบาตรนํามนต์หน้าหลวงพ่อเต้ายังไม่ดับและเปลวไฟตั้งตรงเหมือนไม่โดนลมพัดอีกด้วย
#หลวงพ่อเต้านั้นท่านมีฌาณสูง และในการนั่งปรกทุกครั้ง หลวงพ่อจะกำหนดจิตนั่งปรกเป็นเวลานานเรียกว่าไม่มีพักยกหลับตาเข้าฌาณแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปตามที่หลวงพ่อกำหนดท่านก็จะออกจากฌาณเหมือนตั้งนาฬิกาปลุก ไม่ต้องไปยุ่งกับท่าน
แม้พระเกจิส่วนใหญ่จะกลับกันหมดแล้ว แต่ถ้าไม่ถึงเวลาที่กำหนดไว้ในงาน หลวงพ่อก็จะนั่งอยู่อย่างนั้น
จนถึงเวลาจะออกจากฌาณ
พระเครื่อง พระบูชา ตลอดจนอิทธิมงคลของหลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร มีทุกรูปแบบทั้ง ตะกรุด ผ้ายันต์ พระกริ่ง รูปหล่อเหมือน เหรียญรูปเหมือน พระเนื้อดินเผา พระเนื้อผง พุทธคุณ ภาพถ่าย พระปิดาตาเนื้อผงและ เนื้อเมฆพัด ฯลฯ
อิทธิมงคลวัตถุของหลวงพ่อ ล้วนแล้วครบวงจรของความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์
จากพลังจิตและพุทธาคมอันเอกอุดมจากตำรับตำราของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องที่ได้ประสิทธิ์ประสาทให้หลวงพ่อซึ่งเป็นศิษย์เอกอย่างหมดสิ้น
ประสบการณ์จากอิทธิมงคลวัตถุของหลวงพ่อ ปรากฎความมหัศจรรย์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ จนเป็นเรื่องปกติ
ทั้งด้านแคล้วคลาดจากอันตราย อยู่ยงคงกะพัน มหาอุด เมตตามหานิยม ตามแต่อธิษฐาน
#ท่านคือพระอีกองค์ที่ ลป.วิเวียรวัดดสงแขนิมนต์มาเสกพระด้วยครับ ปัจจุบันสังขารของท่านยังอยู่ที่วัดครับ สามารถไปกราบขอพรท่านได้
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญหลวงพ่อวัดตาก้องหลังหลวงพ่อเต้าวัดเกาะวังไทรปี๒๐
บูชา 120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
(ปิดรายการ)
-
-
พระอาจารย์ประดิษฐ์ คุตฺตธมฺโม ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์หนุ่ม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในด้านคาถาอาคมขลัง และการพัฒนาวัดและพัฒนาจิตใจของชาวบ้านให้หันหน้าสามัคคีไม่แบ่งเขาแบ่งเราเป็นหมู่เหล่า ท่านเน้นหนักในเรื่องให้ละเว้นการทะเลาะวิวาทและทำร้ายกัน แล้วหันหน้ามาสามัคคีกลมเกลียว ในการประกอบอาชีพเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมของประเทศชาติเป็นที่สุด
ก่อนที่หลวงพ่อประดิษฐ์ จะได้รับหมายจากพระอุปฌาย์จารย์ ให้พัฒนาวัดคลองลุนั้น สภาพของวัดคลองลุเป็นเหมือนวัดร้าง ไม่มีพระไม่มีเณร ทางไปมาก็ทุรกันดาร ผู้คนในย่านนนั้น ก็ได้ชื่อว่าเป็นย่านคนดุ นิยมการตัดสินใจด้วยชีวิต แต่เมื่อท่านได้พัฒนาวัดคลองลุแล้วไม่นานกิตติศัพท์ของท่านก็แพร่ไปไกล ชาวบ้านใกล้ไกลก็เริ่มเข้าวัดภาพพจน์ของท้องถิ่นนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองคนดุ ก็กายมาเป็นถิ่นแห่งผู้คนที่มีอัธยาศัยไมตรีและน้ำใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน โดยเฉพาะในแวดวงของผู้เล่นของหรืเลื่อมใสในวิชาไสยศาสตร์ ที่สักยันต์ลงของจากอาจารย์ดังต่างๆ กันนั้น โดยปกติเมี่อมาพบกันและได้รับการปลุกให้ของขึ้นแล้ว ก็มักจะทะเลาะวิวาทตบตีกันโดยเจ้าตัวไม่รู้สึกตัว แต่สำหรับต่อหน้าพระอาจารย์ประดิษฐ์นั้น
เมื่อผู้ลงของไว้ในตัวได้รับการปลุกจนของขึ้นแล้วก็จะออกท่าเสือ ท่าลิง ท่าหมู หรือื่นใดสุดแต่จะได้รับการลงหรืการสักมาแต่ละอาจารย์นั้น ก็ได้รับการปรามจากพระอาจารย์ประดิษฐ์ ว่าให้เบาไว้ เบาไว้ อย่าเต้น อย่าตีกัน หรืออย่ากระโดด ไม่เต้น และไม่ตบตีหรือขบกัน นับว่าท่านเข้าถึงหัวใจของพระคาถาต่างๆนั้น อย่างแท้จริง จึงสามารถสั่งหรือกำกับให้อยู่ในโอวาทได้
การเล่นกับไฟท่านก็โด่งดัง มาจากไฟนรกในเรือนกาย ที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ และได้มีการปฏิบัติกันเป็นประจำทุกปีที่วัดคลองลุ ท่านก็เจริญพรว่าต่อไปจะเน้นหนักในทางเผยแพร่ธรรม เพราะการสำแดงฤทธิ์เล่นกับไฟนั้น อาจจะท่ำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการเล่นแบบเดรฉานวิชา ทั้งๆ ที่สูตรพระมาลัยหรือพระโมคัลลานะเปิดโลกที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกนั่นเอง
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญหลวงพ่อประดิษฐ์วัดคลองครุหลังขุนแผนออกศึก ปี๒๓ ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ เหรียญสวยๆหายากสุดยอดประสบการณ์ถ้าคำศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้คือของแทร่
-
ประวัติ ชื่อ สุระ นามสกุล เจริญปรุง
ฉายา ภูริปญฺโญ
เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๙ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง เวลา ๐๑.๓๐ น.
สถานที่เกิด ณ หมู่บ้านพังเหวน ม.๕ ต.บ่อดาน อ.สทิงพระ จ.สงขลา
โยมบิดา นายสั้น เจริญปรุง โยมมารดา นางฉีด เจริญปรุง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันสามคน
บรรพชา
พ.ศ. ๒๔๗๓ อายุ ๑๕ ขวบ บรรพชาเป็นสามเณร วัดใหม่ ต.บ่อดาน อ.สทิงพระ จ.สงขลา
อุปสมบท
พ.ศ.๒๔๗๙ เมื่ออายุ ๒๐ปี วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๔๗๙ โดยมีพระเทพวิสุทธิคุณ(เลี่ยม อลีโน) วัดมัชฌิมาวาส จ.สงขลา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการฉุ้น ปญฺญาทีโป วัดผาสุกาวาส เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอาจารย์มาก โชติปาโล วัดประดิษฐ์สโมสร เป็นสรณคมนาจารย์ มีฉายาว่า ภูริปญฺโญ
สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นพระครูสังฆรักขิต
พ.ศ.๒๔๙๓ เป็นพระครูพิศิษฐ์วินัยการ พระครูสัญญาบัตร
พ.ศ.๒๕๐๑ เป็นพระพิศิษฐ์วินัยการ พระราชาคณะชั้นสามัญ
พ.ศ.๒๕๑๙ เป็น พระราชญาณเวที พระราชาคณะชั้นราช
พ.ศ.๒๕๓๙ เป็นพระเทพญาณเมธี พระราชาคณะชั้นเทพ
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
วัตถุมงคลหลวงปู่สุระส่วนมากจะเป็นเนื้อว่านยา ในประวัติที่วัดท่านจะปลูกว่านยาต่างๆไว้ ท่านยังนำมวลสารว่านยาต่างๆมาถวายหลวงพ่อวิเวียรวัดดวงแขสร้างสมเด็จรุ่นแรกของหลวงพ่อวิเวียนวัดดวงแขด้วยครับราวๆปี 22 23
พระผงรูปเหมือนหลวงปู่สุระวัดสวนใหญ่เนื้อว่านพิมพ์เตารีดปี 43 เลี่ยมพลาสติกหลังติดจีวร ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
-
-
-
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เสด็จฯ ทรงเททองหล่อ “หลวงพ่อพระเสริม จำลอง ภ.ป.ร.” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ.2535 คณะกรรมการฯ ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกทั้ง “โลหะ” และ “ผงพุทธคุณ” แล้วจึงมอบให้ช่างนำไปจัดสร้างวัตถุมงคล ณ มณฑลพิธีวัดปทุมวนารามฯ ในวันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2535 โดยมีท่านเจ้าคุณ “สมเด็จพระมหามุนีวงศ์” วัดนรนาถสุนทริการาม เป็นองค์ประธาน และมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป มาร่วมเจริญพุทธมนต์
วัตถุมงคลที่จัดสร้างมีรายละเอียดดังนี้
1. พระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อเสริม ภ.ป.ร. หน้าตัก 5 – 9 นิ้ว ไม่ทราบจำนวน
2. พระกริ่งไพรีพินาศ ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
3. พระกริ่งไพรีพินาศ ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
4. พระกริ่งนวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
5. พระกริ่งนวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
6. ชัยวัฒน์นวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อทองคำ หนัก 1 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง
7. ชัยวัฒน์นวปทุม ภ.ป.ร. เนื้อเงิน และ นวโลหะ เนื้อละ 3,000 องค์
8. เหรียญรูปเหมือนพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จำนวน 50,000 เหรียญ
9. พระผงรูปเหมือนพระเสริมหลังตรา ภ.ป.ร. จำนวน 50,000 องค์ ฯลฯ
ส่วนพิธีมหาพุทธาภิเษกท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเบิกพระเนตรพระพุทธปฏิมา และพิธีชัยมังคลาภิเษกในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 ณ มณฑลพิธีศาลาพระราชศรัทธาวัดปทุมวนาราม โดยอาราธนาพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วประเทศ 142 รูป มาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก อาทิเช่น
1. หลวงปู่วิริยังค์ วัดธรรมมงคล
2. หลวงปู่หลอด วัดสิริกมลาวาศ
3. พระอาจารย์มหาถาวร วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
4. หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี
5. หลวงปู่ดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี
6. หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี
7. หลวงพ่อจำเนียร วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
8. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
9. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
10. หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
11. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการม กาญจนบุรี
12. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
13. หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต หนองคาย
14. หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง เลย
15. หลวงปู่คำพอง วัดพัฒนาราม อุดรธานี
16. หลวงปู่ท่อน วัดถ้ำอภัยคีรีวัน อุดรธานี
17. หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
18. หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย
19. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
20. หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ ชลบุรี
21. หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ระยอง เป็นต้น
ที่มา : หนังสือมหามงคลแห่งแผ่นดิน โดย คุณอลุย์นันท์ทัต กิจไชยพร และ หนังสือ สระปทุมฯ
องค์นี้เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อพระเสริมเนื้อผง หายากครับ ราคาตามสภาพครับ สุทธิ์, ทองแดง, ทองเหลือง, ขันลงหิน”
อีกเป็นจำนวนมากมาร่วมหล่อเป็นองค์ “หลวงพ่อพระเสริม ภปร.” ที่แสดงให้เห็นถึงการ “ไม่แบ่งแยกชนชั้น” ไม่ว่าจะยากดีมีจนทุกคนมีสิทธิได้ร่วม “โดยเสด็จพระราชกุศล” สร้างพระพุทธปฏิมา “หลวงพ่อพระเสริม ภปร.” เป็นพระประธานประจำ “ศาลาพระราชศรัทธา”ทางด้านการจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกท่านเจ้าพระคุณ “สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก” เสด็จเป็น องค์ประธานในพิธีเบิกพระเนตรพระพุทธปฏิมา “หลวงพ่อพระเสริม ภปร.” ภายหลังจากช่าง ได้ทำการตกแต่งเสร็จแล้วนับตั้งแต่ล้นเกล้าฯ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช” ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราช ดำเนินทรงประกอบพิธีเททองเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้ว ในครั้งนี้คณะกรรมการได้จัดให้มีการประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก “หลวงพ่อพระเสริม ภปร.” พระพุทธปฏิมาเป็นพระประธานประจำศาลาพระราชศรัทธาแล้วยังประกอบด้วย “หลวงพ่อพระเสริม ภปร.” ขนาดบูชา ๙ นิ้ว ๕ ฟุต “พระกริ่งนวปทุม ภปร., พระชัยวัฒน์นวปทุม ภปร., พระกริ่งไผ่รีพินาศ ภปร., พระผงหลวงพ่อพระเสริม ภปร.” และพิธีชัยมังคลาภิเษกเหรียญพระรูปเหมือน “พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ภปร.” ในวันอังคารที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ณ มณฑลพิธีศาลาพระ ราชศรัทธาวัดปทุมวนาราม เวลา ๑๖.๓๐ น. และ ในเวลา ๑๗.๐๙ น. “สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ” เสด็จไปยังตู้เทียนชัย ทรงเจิมเทียนชัย ทรงจุดเทียนชัย จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงเจิมเทียนพระพุทธมหามงคล ทรงโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่พระเครื่องในราชวัตรฉัตรธง บัณฑิตอาราธนาพระปริตรพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ตามรายนามดังต่อไปนี้
๑.สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตกาโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ๒.สมเด็จพระพุทธชินวงศ์(สุวรรณ สุวัณณโชโต)วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ๓.พระญาณวโรดม (สันตังกุโร) วัดเทพศิรินทราวาส ภายหลังได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระญาณวโรดม” ๔.พระธรรมธีรราชมหามุนี (วิลาส ญาณวโร) วัดยานนาวา ภายหลังได้รับพระราชทานสมณ ศักดิ์เป็น “พระพรหมโมลี” ๕.พระธรรมธัชมุนี (ประจวบ กันตจาโร) วัดมกุฏกษัตริยาราม ภายหลัง ได้รับพระราชทานสมณศักด์เป็น “พระธรรมปัญญาจารย์” และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ “สมเด็จพระพุทธชินวงศ์” ๖.พระธรรมบัณฑิต วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี ๗.พระเทพมุนี วัดบพิตรพิมุข ๘.พระเทพปัญญาเมธี วัดไตรมิตรวิทยาราม ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระพรหมเวที” ๙.พระกิตติสารกวี วัดปทุมวนาราม ๑๐.พระญาณเวที วัดปทุมวนาราม จากนั้น “สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ” ทรงประทับพิงอธิษฐานจิตเจริญภาวนาและเสด็จกลับในเวลา ๑๘.๐๙ น.
บัณฑิตและคณะนิมนต์ “พระเกจิอาจารย์” พร้อม “พระภาวนาจารย์” ผู้ทรง วิทยาคุณจำนวน “๑๔๒ รูป” ผู้เขียนจึงคัดเอาเฉพาะรายนามพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็น ที่เลื่องลือในขณะนั้นมานำเสนอดังนี้ “พระเทพเมธี (บุญนาค) วัดเศวตฉัตร กทม., หลวงปู่ วิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล, หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส กทม., พระอาจารย์มหาถาวรจิตตถาวโร วัดปทุมวนาราม พระครูวิเศษภัทรกิจ (ทองใบ) วัดสายไหม จ.ปทุม ธานี, หลวงปู่บุดดาถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี, พระครูธรรมจักรชโยดม (หลวงปู่ผล) วัดดักดะนน จ.ชัยนาท, พระครูวิชัยประสิทธิคุณ (หลวงพ่อเชิญ) วัดโคกทอง, พระครูภัทรกิตโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธศวรร
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
หลวงพ่อพระเสริมหลังภปร.วัดปฐมวารามพิธีใหญ่ปี๒๕๓๕ ได้บูชา 700 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับครับ
-
ประวัติวัดน้อยนางหงษ์และประวัติหลวงปู่เซ่งพอสังเขปวัดน้อยนางหงษ์เป็นวัดเก่าแก่ตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.๒๓๒๓อยู่หมูที่4ตำบลท่าจีนอำเภอเมืองสมุทรสาครจ.สมุทรสาครมีเจ้าอาวาสที่ปรากฏ มีชื่อเสียงในอดีตรูปหนึ่ง คือพระปลัดเซ่ง หรือ #หลวงปู่เซ่ง ในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้สร้างอุโบสถวัดน้อยนางหงษ์ ไว้และได้รับพระราชวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๙ซึ่งอยู่ติดกับคลองสุนัขหอนอันเป็นคลองประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่๕ทรงเสด็จประพาสทางน้ำไปทางแม่กลอง มาเปิดสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทยและยังทรงเสด็จมาถวายผ้าไตรแก่หลวงปู่เซ่งและทรงพักแรมที่วัดนี้ด้วย และที่วัดยังมีหอระฆังโบราณทรงยุโรปและเจดีย์เรือโบราณที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ยังคงมีปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน
ประวัติหลวงปู่เช่ง
ตามประวัติที่พอสืบค้นได้ หลวงปู่เซ่งท่าน
ท่านเกิดในพ.ศ.๒๓๘๖และถึงกาลมรณภาพในพ.ศ.๒๔๖๖ ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอดีตในเขตลุ่มน้ำท่าจีนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักท่านท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู้นาควัดห้วยจระเข้จ.นครปฐม เจ้าของตำนาน "พระปิดตาเมฆพัตร วัดห้วยจระเข้" และ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในอดีตอีกหลายรูป และท่านยังได้เดินไปเรียนวิชาต่างๆที่ ที่วัดราชสิทธาราม(วัดพลับ ) กรุงเทพมหานคร อีกด้วยหลวงปู่เซ่งท่านเป็นพระนักปฏิบัติ มีวิชาคาถาอาคมแก่กล้า ลงตะกรุด ผ้ายันต์ ลูกอม เบี้ยแก้ ทำเครื่องรางของขลัง เป็นที่เชื่อถือเป็นอย่างมาก และท่านยังเป็นพระหมอยารักษาด้วยน้ำดองลูกมะกรูด น้ำดีเกลือสมุทร ทำน้ำมนต์รักษาโรคไว้เป็นโอ่งๆ ไว้รักษาช่วยเหลือผู้คนที่มาหาและมีตำรับยามากมาย ซึ่งท่านเป็นที่นับถือและพึ่งพิงของชาวบ้านในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เซ่งมีมากมายเช่นหลวงปู่เซ่งท่านชอบฉันหมากมาก วันไหนที่หมากท่านจะหมด เล่ากันมาว่า ท่านจะเอาจีวรมาคลุมโปงแล้วจะบอกกับศิษย์ว่าประเดี๋ยวจะมีโยมมาถวายเอง ซึ่งปรากฎว่าชั่วเคี้ยวหมากแหลก ก็มีคนมานำหมากมาถวายท่านจริงๆ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ และว่ากันว่าสมัยนั้นริมน้ำท่าน้ำที่วัด มีเรือชาวบ้านที่มาเทียบรอเข้ากราบนมัสการหลวงปู่เซ่ง มากมายเต็มลำคลองถึงขนาดว่าสามารถเดินจากฝากหนึ่งโดยเดินข้ามเรือแต่ละลำไปอีกฝากหนึ่งได้เลยศิษย์ของหลวงปู่เซ่ง มีชื่อเสียงมากรูปหนึ่งคือหลวงพ่อรุ่ง แห่งวัดท่ากระบืจ.สมุทรสาคร และในสมัยนั้นท่านยังมีพระเกจิดังยุคเก่าเดินทางมาขอเรียนจากท่านเช่นหลวงปู่บัว วัดกลางอ่างแก้ว และอีกหลายรูปตำราสรรพวิชาต่างๆของหลวงปู่เซ่ง นั้นมีมากมายที่ท่านลงไว้ในใบลาน บรรจุไว้ในหีบส่วนหนึ่งยังตกค้างอยู่ที่วัดน้อนางหงษ์ สืบมาจวบจนปัจจุบันวัดน้อยนางหงษ์ มีเจ้าอาวาสที่ปรากฎชื่อรวม๗ รูป
๑.พระอธิการทัน เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๐
๒. พระปลัดเซ่ง
๓. หลวงปู่ทับ
๔. หลวงปู่ชุ่ม
๕. พระอธิการบาง
๖. พระครูสาครธรรมกิจ ( หลวงพ่อหยวก )
๗. พระครูสาครสุตกิจ ( หลวงพ่อชาญ ) เจ้า
อาวาสรูปปัจจุบัน
บทความโดย --อสาพตี--
เข็มนาฬิกามันย้อนคืนไม่ได้ ดังนั้นทุกการเดินทาง ทุกตัวอักษร ทุกความทรงจำ จึงมีคุณค่าต่อกาลเวลา ที่จะส่งต่อและบันทึกไว้ถึงลูกถึงหลานเราในกาลข้างหน้าให้พอได้มาชื่นชมในความงดงามของกาลเวลานี้บ้าง
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
รูปหล่อและเหรียญปี ๓๗ พิธีใหญ่ให้บูชาคู่กัน ๒ องค์ 300 บาทค่าส่งด่วน 30 บาทครับ
-
เหรียญกะไหล่ทองลงยาสีแดงรุ่น ๒ หลวงพ่อแกละวัดลำลูกบัว หลวงพ่อเต๋คงทอง
เหรียญรุ่นนี้นิยมในสายศิษย์และมากประสบการณ์ของท่าน
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
-
วัตถุมงคลหลวงปู่บุดดาถาวโรวัดกลางชูศรีเจริญสุข
พระสมเด็จ รูปเหมือน เหรียญ
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
พระเนื้อผงอังคารธาตุ " จิตกาธาน " หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี พศ.2530
ท่านพระครูวิมลญาณอุดม ( ชินเทพ ชินเทโว ) ได้นำอังคารของหลวงปู่มาผสมกับดินเหนียวที่รองในโกศหลวงปู่รวมกับผงเกสรดอกไม้และน้ำพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมารวมกันสร้างเป็นองค์พระผงรูปเหมือนหลวงปู่แหวนนั่งสมาธิในใบโพธิ์ ซึ่งปลัดณัฎฐ์ ศรีวิหค ( ปลัดจังหวัดนครปฐม ) เป็นผู้สร้างพิมพ์ถวาย
ส่วนการผสมและสร้างพระนั้นพระครูชินเทพเป็นผู้ทำด้วยตนเองทั้งสิ้น โดยมีพระผู้ช่วยคือพระสมพงษ์ พระเนื้อผงรุ่นนี้มีชื่อเป็นทางการคือรุ่น " จิตกาธาน "
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระผงจิตกาธานรูปขาวดำอัดกระจกหลวงปู่แหวน ๒ องค์ บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
หลวงปู่เครื่องเป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่นทางหลวงพ่อทาวัดถ้ำซับมืดปากช่องศิษย์สายสมเด็จลุนจากหลวงปู่คำมีถ้ำคูหาสวรรค์ลพบุรีและศิษย์วิชาธรรมกายจากหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ
หลวงปู่เครื่องยังพูดถึงวัตถุมงคลไว้อย่างน่าคิดว่า วัตถุมงคลของหลวงปู่นั้นไม่ขลังเลยสักรุ่น อย่าไปเชื่อว่ารุ่นเก่าดีกว่ารุ่นใหม่ รุ่นนี้ดีใช้เวลาปลุกเสกทั้งไตรมาสขลังกว่ารุ่นที่ปลุกเสกวันเดียว รุ่นนี้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ปลุกเสกเยอะกว่าอีกรุ่นหนึ่ง ขลังไม่ขลังไม่ได้อยู่ที่วัตถุมงคล มันขลังเฉพาะคนที่เคารพในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เท่านั้น ถ้าคนไม่มีคุณพระเหล่านี้ก็ไม่ขลัง ความขลังของวัตถุมงคลไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุมงคล หากแต่อยู่ที่คนถือคนใช้ต่างหาก ถ้าคนไหนมีพระวิสุทธิคุณ พระธรรมคุณ และพระปัญญาคุณ รวมทั้งถือคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์อยู่ในตัว ไม่แขวนพระหรือวัตถุมงคลใดผู้นั้น ก็มีความขลังอยู่ในตัว ต่อให้แขวนวัตถุมงคลนับร้อยชิ้นถ้าไม่มีธรรมะอยู่ในใจวัตถุมงคลก็ไม่แตกต่าง จากตุ๊กตาพระ แขวนไว้ก็หนักคอเท่านั้น
โอวาทธรรม หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท วัดสระกำแพงใหญ่
“…โลกนี้มันบ่เที่ยงมั่น เสมอดั่งนิระพาน
เกิดอยู่ในสงสาร บ่เที่ยงธรรมดีฮ้าย
มีแต่ตายกับย้าย เวียนวนเกิดก่อ
อย่าสิหลงหลอกล้อ ลงหม้อแผ่นแดง…”
“..มา ให้ดีมีธรรมประจำจิต
ดี จะติตต่อตั้งเมื่อยังอยู่
ไป ให้ดีมีธรรมเข้าคํ้าชู
ดี จะอยู่แบ่งภาคเมื่อจาก
เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว เกิดเป็นเหตุ ตายเป็นผล กรรมดีกรรมชั่วขอแก้ตัวไม่ได้ ทำความดีไว้แต่เมื่อยังไม่ตาย เมื่อมีดีแล้ว ถึงจะตายก็ชื่อว่า ตายดี..”
“..จงปล่อยวาง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า..”
“..สุขทุกข์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในทุกลมหายใจ
สภาพจิตเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอาการสุขทุกข์
ความนึกคิดปรุงแต่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสภาพจิต
เรรวนบ้าง มั่นคงบ้าง สลับๆกันไป
ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งไหนน่ายึด
ไม่เห็นสิ่งไหนเป็นตัวเป็นตนสักอย่าง
สัพเพ ธัมมา อนัตตาติฯ..”
“..ผู้มีความอดทน นับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และ มีสุขเสมอ ,ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นที่รัก ชอบใจของเทวดา และ มนุษย์ทั้งหลาย..”
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระชุดหลวงปู่เครื่อง 230 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
โอนแล้วครับ 07/06/67 จำนวน 380 บ.เวลา 19.02 น.จัดส่งที่เดิมครับ
หน้า 80 ของ 102