ยิ่งเราทำความดีแล้วมีคนอนุโมทนาบุญด้วย บุญของเราก็เพิ่มขึ้นจริงไหม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Tanakorn, 21 ตุลาคม 2015.

  1. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    เวลาที่เราทำสิ่งดี ๆ เป็นบุญกุศล แล้วมีคนเห็นดีเห็นงามกับเรา อาจด้วยการกล่าวคำชมเชย กล่าวคำอนุโมทนา หรือ กดไลค์ อย่างนี้เข้าข่าย บุญอันเกิดจากการให้ส่วนบุญ ?

    เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 ?

    อีกประการหนึ่งก็เข้าข่าย บุญอันเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญด้วย ถูกต้องไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 ตุลาคม 2015
  2. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    เพราะบางคนว่า อยากให้คนอื่นมากดไลค์

    แต่คนที่เขาตั้งใจทำดีจริงๆ ส่วนใหญ่เขาจะไม่แคร์สายตาคน เพราะเขามั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง เหมาะสม เป็นบุญกุศลสำหรับสร้างบารมีของตนแล้ว

    แต่อ้ายเรื่องการอยากให้คนมากดไลค์ มันก็ต้องมีกันบ้างอ่ะนะ ก็เรายังเป็นปุถุชนมิใช่รึ ?


    ปล. นี่ไม่ได้หมายถึงตัวผมนะ เพราะผมยังไม่เคยโดนว่า แต่เห็นมีบางท่านโดนว่าอยากให้คนมากดไลค์ (ผมว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดานะ อยากให้คนรู้ว่า เราทำแล้ว คนทั่วไปเขาจะรู้สึกกับสิ่งที่เราทำอย่างไร เพื่อที่ต่อไปจะได้แก้ไขให้ถูก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 ตุลาคม 2015
  3. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ให้คิด

    หมายเหตุ : กระทู้นี้ กระผมตั้งใจเพื่อจะให้ทุกท่านได้ฉุกคิดกัน ว่าพวกเรากำลังทำสิ่งใดที่เป็นบุญในเว็บนี้บ้าง มิได้มีเจตนาตั้งกระทู้เพื่อให้ทะเลาะกัน แต่ถ้าด้วยธรรม ด้วยเหตุผลนั้น เชิญ
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ในfacebook เห็นด่าเพื่อนด้วยนะคะ ว่าไม่มากดlike ดูแล้วก็ขำค่ะ ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่
    มันมีตั้งหลายสาเหตที่เพื่อนไม่ได้กดlike ให้เรา จะไปโกรธไปโมโหให้ขุ่นใจทำไมนะ
     
  5. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    นั่นสิครับ

    จริงด้วยครับ เราห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่ห้ามใจเราได้สักวัน ถ้าตั้งใจจริง
     
  6. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,836
    ค่าพลัง:
    +2,232
    คนอนุโมทนา เป็นผู้ได้บุญครับ .. ส่วนคนทำก็ได้บุญส่วนที่ทำเต็มๆ อยู่แล้ว

    สำหรับบุญส่วนอุทิศ (ให้ส่วนบุญ) คือ เมื่อทำบุญก็อุทิศไปให้ญาติที่ยังไม่ล่วงหรือล่วงลับไปแล้ว หรือจะให้ต่อ สรรพสัตว์อื่นๆ เป็นต้นครับ ซึ่งก็จะได้บุญย้อนกลับมา
     
  7. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +2,161
    พูดมันง่าย แต่เอาตามความจริงจะได้บุญกันสักกี่คน เพราะไม่ใช่แค่รู้สึกยินดีปกติเฉยๆ มันต้องประกอบไปด้วยปัญญา คนอนุโมทนามีประมาณเท่าไหร่ ทำไมเขาเหล่านั้นไม่เจริญสักที ทั้งๆ ที่ก็ได้บุญกันตั้ง 90% ของคนทำ

    แสดงว่าจริงๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เข้าใจ ถ้าตัวยินดีมันไม่เห็นด้วยปัญญาจริงๆ แล้วน้อมใจยินดี ด้วยกำลังที่เต็ม จะมีสักกี่คนที่ทำได้ ??? แล้วปกติคนที่ทำได้จะเอาแค่มานั่งยินดีบุญคนอื่นก็คงไม่ใช่ สุดท้ายแล้ว บารมีใครบารมีมัน ใครทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ใครจะยินดีหรือไม่ก็เป็นไปตามธรรมเลย
     
  8. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    คนอื่นอนุโมทานบุญของเรา บุญเราก็ยังเท่าเดิม แต่คนอนุโมธนาได้บุญเพิ่ม

    เราอุทิศส่วนบุญให้คนอื่น เราได้บุญเพิ่ม คนอื่นก็ได้บุญเพิ่ม(พวกเปรต/สัมพเวสี) พวกเทพเขาไม่รับส่วนบุญแต่จะอนุโมธนาบุญ
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถูกต้อง
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    ปัตตานุโมทนามัย...อนุโมทนากับคนที่ทำบุญ เราก็ได้บุญด้วย
    (โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ผู้ถาม : มีคนฝากให้มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ

    ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ

    หลวงพ่อ :เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่าพ่อ(หรือแม่)ฉันทำบุญให้แล้ว


    ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รู้โว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่

    ผู้ถาม : อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ

    แต่หนูไม่มีของ ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ : อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตุนาโมทนามัยเป็นผลกำไร จากการเจริญพระ
    กรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ
    เอ้าเยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก


    การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ

    มันไม่ได้อะไร คำว่า "สาธุ" ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้

    เอาใจยินดีใช้ได้เลย และการแสดงความยินดีมันก็คือ

    มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่ บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า

    "จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา"

    ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้

    สุดแล้วแต่กำลังใจเรา และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม....

    เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา

    เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีไหม...

    แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ

    หลวงพ่อ : ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มา


    ทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่

    ก็พลอยได้บุญไปด้วย “มีอานิสงส์ต่ำกว่าบวรเณรนิดหนึ่ง” ไม่เบานะ


    แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ

    พวกโมทนานี่ ไม่ต้องออกแรงเลย

    แต่อย่าลืมนะ “เอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด

    ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรถผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา

    ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด

    ที่มา เว็บพลังจิต
    <hr>

    อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตุนาโมทนามัยเป็นผลกำไร จากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้าเยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก


     
  11. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,836
    ค่าพลัง:
    +2,232
    มีคำพระป่าท่านว่า .. ตอนมีชีวิตอยู่ให้ขวนขวายทำบุญ เพราะตายไปแล้ว ทำได้แค่อนุโมทนา ..
    ซึ่งเปรียบเหมือนดื่มน้ำก้นแก้ว มันไม่อิ่มเหมือนทำบุญเป็นต้นบุญของเราเอง
     
  12. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,836
    ค่าพลัง:
    +2,232
    แต่เทคนิคการอนุโมทนาให้ได้บุญมาก ก็มีนะ ..
    แต่ก็อย่าลืมว่าต้นบุญที่แท้จริง ก็เป็นต้นบุญที่แท้อยู่วันยังค่ำ
    เพราะหากไม่มีต้นบุญ บุญการอนุโมทนาจะเกิดมีแต่ที่ไหน
     
  13. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    สาธุ

    ขอจงเป็นไปตามนั้นเถิด
     
  14. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +2,161
    ไม่ได้จะค้านอะไรนะครับ แต่ในทางปฎิบัติมันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ อารมณ์มันต้องเคยยินดีถึงปิติมาก่อน แล้วถ้ากำลังปัญญาทรงตัว ถึงจะอนุโมทนาบุญด้วยอารมณ์ปกติได้ ไม่ใช่ไปนั่งโลภเห็นคนอื่นยินดีแล้วคิดว่าเราโมทนาแล้วจะได้บุญเขามา แบบนั้นยังโลภอยู่

    ถ้าระดับพระโพธิสัตว์ใจต้องละเอียดยิบ จะข้ามทุกขั้นตอนทุกอารมณ์ใจไม่ได้ มันต้องรู้เข้าใจกระจ่างหมด ดังนั้นแค่อารมณ์หยาบๆ นี้ก็ต้องรู้ที่มาที่ไปในเหตุและผล ไม่งั้นจะไปสอนใครได้ถ้าใจไม่ละเอียดพอ

    เรื่องของอนุโมทนาบุญ เรามนุษย์ไม่มีทางสู้ผีได้หรอกครับ ภพภูมิมันต่างกันเยอะ เราถูกขันธ์ห้าลดทอนกำลังใจไปมากแล้วส่วนนึง เป็นนิวรณ์โดยอัตโนมัติ แต่ผี พรหม เทวดา สัมภเวสี เปรต อสูรกาย ไม่มีนิวรณ์ตัวนี้ จึงสามารถอนุโมทนาแล้วได้ผลก่อนเลย

    ทริคที่ชอบใช้กันมากที่สุดคือ ภาวนาบุญ หรือทรงฌานสมาบัติแล้วจะระดับใดก็ได้ก็แล้วแต่ แล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้ พรหม เทวดา สัมภเวสี โมทนา พอเขาได้บุญเพิ่มความเป็นทิพย์เพิ่มขึ้น เขาก็สามารถช่วยเราได้มากขึ้น อันนี้เป็นทริคปกติที่ชอบใช้กันเลย

    แต่พระโพธิสัตว์ ทรงฌานเป็นปกติ มีเมตตา ทรงพรหมวิหารสี่เป็นฌานเป็นปกติ ผลจึงมีพรหม เทวดาคอยดูแลมากอยู่แล้ว เพียงแต่พระโพธิสัตว์จะสบายไม่ได้!! ไม่งั้นจะเสียเวลาเปล่า ส่วนมากจึงโดนจัดหนักกันเป็นปกติ !!!
     
  15. @มายาคติ@

    @มายาคติ@ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +70
    ถ้าเราทำความดีแล้วมีคนอนุโมทนาบุญด้วย บุญของเราก็เพิ่มขึ้นจริงไหม ?

    - ถ้าตามหลักบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เราจะได้บุญต่อเมื่อเราอนุโมทนาบุญคนอื่น หรืออุทิศบุญให้คนอื่นค่ะ ดังนั้นถ้าจะให้เข้าหลักเกณฑ์นี้ เราจะ
    ต้อง
    ทำบุญ แล้วตั้งใจอุทิศบุญให้คนอื่นอนุโมทนา เราถึงจะได้บุญเพิ่มค่ะ


    การอนุโมทนาบุญคนอื่นมีผลให้เราได้บุญถึง ๙๐% จริงหรือ ?

    - ต้องตอบว่า "ถ้าตั้งใจจริงได้ถึง ๙๐% แน่นอนค่ะ"


    แต่ปัญหาคือ เราจะอนุโมทนาบุญด้วยใจที่ยินดีในบุญกุศลของบุคคลนั้นๆอย่างเต็มหัวจิตหัวใจได้อย่างไรนั่นเอง ?

    - ตรงนี้ต้องบอกว่า ให้ฝึกบ่อยๆค่ะ โดยไม่ต้องสนใจว่าเราจะได้บุญกี่ % หรือเต็มหัวจิตหัวใจหรือยัง ซึ่งในช่วงแรกๆที่ฝึก ส่วนตัวก็เริ่มจากการ
    อยากได้บุญเพิ่มเยอะๆแบบง่ายๆ หรือที่เรียกว่าโลภนั่นเองค่ะ ขอแนะนำว่าถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ต้องสนใจนะคะ ให้ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะมีพัฒนาการไปเอง

    พอเริ่มทำบ่อยๆ จิตจะเริ่มชินค่ะ การซึมซับในส่วนนี้จะทำให้ใจเราน้อมไปในทางที่เป็นบุญกุศลมากขึ้น เกิดปีติอิ่มเอมใจกับบุญกุศลของบุคคลอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ ง่ายขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายมันจะเต็มเข้าไปในจิตในใจในบุญกุศลของผู้อื่นไปโดยอัตโนมัติเอง

    ตรงจุดนี้เป็นส่วนที่ทำให้เกิดมุทิตาจิตในที่สุด ซึ่งทำให้พรหมวิหารสี่ดี เป็นเหตุให้ทาน ศีล และภาวนามีความก้าวหน้า และถ้าถามว่าทำไมอนุโมทนาบุญคนอื่นแล้วทำให้บารมีเต็มเร็ว ก็ต้องตอบว่าพรหมวิหารสี่เป็นตัวหล่อเลี้ยงปัญญาบารมี(เพราะถ้าคนเราไม่มีปัญญา ก็จะไม่เห็นความดีของบุคคลอื่นค่ะ) ซึ่งปัญญาบารมีนี้แหละก็จะนำมาบารมีอีก ๙ ตัวที่เหลือมาสู่ตัวเราด้วย

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการอนุโมทนาบุญนั้นมีคุณค่ามากมายมหาศาล เพราะเป็นการสั่งสมทั้งบุญและบารมีไปในตัวทั้งสองทางเลยทีเดียว

    และหากใครสังเกตหรือเคยอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเองจากทางตะวันตก เค้าจะใช้วิธีการที่เรียกว่า "การรู้จักชื่นชมคนอื่น" ซึ่งจริงๆแล้ว หากใครอนุโมทนาบุญบ่อยๆจนถึงจุดนึงที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จะรู้สึกว่าตนเองมองเห็นส่วนดีของบุคคลอื่นๆ แล้วรู้สึกชื่นชมโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว และพลังจากการชื่นชมคนอื่น(มุทิตาจิต)นี้แหละ จะเป็นเหตุให้เราซึมซับแต่ส่วนดีๆของบุคคลนั้นมาเป็นคุณสมบัติภายในตัวเราอย่างไม่รู้ตัว หรือที่เรียกว่าการเลียนแบบที่เกิดโดยธรรมชาตินั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤศจิกายน 2015
  16. jay12345

    jay12345 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +43
    ผมว่าเมื่อคนอนุโมทนา ผู้ทำบุญย่อมได้บุญเพิ่ม เพราะเป็นการทำให้ผู้อื่นมีจิตกุศล อิ่มเอิบ รู้สึกเป็นสุข ยิ่งเป็นตัวอย่างการทำบุญที่ดีที่เหมาะสม ผู้อื่นนำไปเป็นต้นแบบที่ดี น่าจะถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของธรรมทานได้อีกด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...