รดน้ำต้นไม้ทำให้มดตายได้หรือไม่ ทำไมมดชอบเป็นตัวขัดขวางไม่ให้เราศีล 5 บริสุทธิ์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Safetyman, 26 มิถุนายน 2012.

  1. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ผมพยายาม อย่างมาก ในการรักษาศีล 5 ให้ได้บริสุทธิ์ ที่สุด
    ติดปัญหาคือข้อ 1 ครับ เรื่องมด
    ตอนนี้รักษาความสะอาดในบ้านไม่ให้มี เศษอาหารแล้วครับ ก็เลยไม่ค่อยมีมดภายในบ้าน เลยมั่นใจว่า ไม่ได้พลั้งเผลอทำให้มดตายแบบไม่ตั้งใจ
    แต่บ้านผม ปลูกต้นไม้ครึ้ม รอบๆบ้าน
    ผมมักจะเห็น มดเดิน หรือทำรัง อยู่ใต้ต้นไม้ ต่างๆ
    คราวนี้ การรดน้ำต้นไม้นี่ จะทำให้มดตายหรือไม่ครับ ตอนนี้ใช้ระบบท่อ น้ำหยด ตามใต้โคนต้นไม้ บางครั้งก็ใช้สายยางฉีดน้ำเป็นละอองๆ ตามใบ ซึ่งผมมักจะอดคิดไม่ได้ว่า เราจะทำให้มดตายมากไหม
    ในใจนี่ไม่มีเจตนาที่จะฆ่ามดเลย ถ้าเห็นมดนี่จะพยาม ที่ฉีดน้ำไม่ให้โดนตัวมดโดยตรง แต่ปัญหาคือ มดเค้าเดินเต็มพื้นที่เลย หลบตัวนี้ก็โดนตัวอื่นๆ
    และผมมักชอบคิดว่า เราอาจจะทำให้มดตายแบบที่เราไม่ตั้งใจได้นะ
    ซึ่งทีนี้เวลาผมนั่งสมาธิ มักจะจิตไม่นิ่งเพราะมักจะคิดว่า เราศีล5 ยังไม่บริสุทธิ์พอ ทำให้จิตยังไม่นิ่งมาก แต่หลังนั่งสมาธิ ผมจะแผ่บุญให้มดด้วยครับ
    จะแก้ปัญหา ยังไงดีครับ ถ้าไม่รดน้ำต้นไม้ ต้นไม้ก็ตายครับ
    ตอนนี้ใช้แป้งฝุ่น โรยตามทางเดินมดในบ้านแล้ว ก็ป้องกันได้ในระดับหนึ่งครับ
     
  2. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    บางครั้ง การล้างรถ ในลานจอด ซึ่ง มดเค้าก็เดินเต็ม พื้นที่นั่น แหละ
    คราวนี้เราไม่มี เจตนา ฆ่าเขา แต่การล้างรถ น้ำจะไหลไปตามทาง ทำให้บางครั้ง พัดพามดไหลไปตามน้ำด้วย
    ประเด็นคือ เราบาปไหม ผิดศีลไหม
    ไม่มี เจตนาฆ่า โดยตรง แต่ เรารู้ว่าการกระทำอย่างนั้น อาจทำให้มดตายได้ เช่น การล้างรถนี่ จะหลีกไปล้างที่ไหน หน้าบ้าน ก็มีมดครับหรือต้องไปจ้างเขาล้างรถ? เพราะมดจะเดินรอบๆบ้าน เพราะผมปลูกต้นไม้เยอะครับ
     
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    อย่าคิดมากขนาดนั้นเลยครับ กฎแห่งกรรมนะครับ คุณไม่ได้กำลังสร้างกรรมใหม่ แต่คุณเป็นแค่ผู้ที่ต้องสร้างวิบากให้กับมดเหล่านั้น เท่านั้นเอง
    การจะปฏิบัติให้เกิดปัญญา สำคัญที่ใจ ครับ ถ้าคิดมากขนาดนี้ เกิดปัญหาตอนปฏิบัติแน่นอนครับ

    คำสอนของพระพุทธองค์ มีเพื่อให้เกิดปัญญา เกิดปัญญา เพื่อให้ เพื่อละ เพื่อเอาออก ไม่ใช่เพื่อขอ เพื่อได้ เพื่อเพิ่มพูน

    ลองตรึกประโยคด้านบนดู ครับ

    ป.ล. ถ้าจะเคร่งขนาดที่คุณว่า ให้ศีลบริสุทธิ์สะอาดแท้ๆ จริงๆ คนที่บวชเป็นพระนี่ห้ามแม้แต่ขยับตัวเลยครับ คงต้องนอนเตียงตลอดเวลา ให้อาหารทางสายยางเอาหละครับ ถึงจะไม่ผิดศีลของสงฆ์
     
  4. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
    รดน้ำตามปกตินั้นละครับ ธรรมชาติของมดถ้าเขาโดนน้ำพัดไปในร่องดิน เขาก็สามารถกลับขึ้นมาได้อีกนะครับ
    แต่ถ้าเมื่อไรท่าน จขกท. ตั้งใจฉีดน้ำให้มดตกลงไปในแม่น้ำใหญ่ๆ นั้นล่ะครับ บาปแน่ครับ
     
  5. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    คิดเยอะจัง จะทำให้ไม่สบายกายไม่สบายใจ พอไปปฏิบัติ ใจเราก็คงหาความสงบยากครับ ทุกครั้งที่ปฏิบัติอะไรแล้วกระทำไปด้วยความไม่ประมาท หรือไม่ได้เจตนาคิดร้ายผู้ใด แต่ถ้ามันไปทำให้ผู้ใดได้รับความเดือดร้อนโดยไม่เจตนา ก็ถือซะว่าเคยได้ทำกรรมร่วมกันมา ทำให้ไม่สามารถหลีกหนีกรรมได้พ้น ก็ขออโหสิต่อกันไป อย่าคิดมากครับ เจตนาสำคัญที่สุด
     
  6. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอบคุณครับ แต่ทำไมผม ถึงชอบคิดก็ไม่รู้ครับ
    ถ้าไม่คิดหรือระวังตัว เพราะตอนนี้จิต ผมเหมือนเขาจะรู้ตัวทุกๆการกระทำเลยครับ ทำให้เราละอกุศลไปได้เยอะเลยครับ
     
  7. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอบคุณครับ ที่แนะนำพยายามจะไม่ให้คิดมาก
     
  8. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    เอาจิตที่ระลึกรู้ตัวอยู่ตลอดนั่นแหละครับ จับความกังวลมาพิจารณาเลย
    พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของอารมณ์กังวลเรื่องการรักษาศีลนี้ ดูให้ทะลุว่า เมื่อเรากังวลในข้อนี้ จิตเราจับอะไร จิตเราคิดอะไร แล้วมันทำให้เราเสียโอกาสในการทำความดีอื่นไหม มันทำให้จิตเราเศร้าหมองไหม ทำไมการยึดมันแทนที่จะเป็นการรักษาศีลบริสุทธิ์ของเรา กลับเป็นการยึดนิวรณ์ให้เกิดขึ้นในใจ ดูบ่อยๆ ครับ ช่วงนี้มารจะเล่นงานทุกอย่างที่เป็นจุดอ่อนของเราครับ
     
  9. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอบคุณมากครับ เริ่มเข้าใจแล้วล่ะครับ
    บางครั้งก็คิดแบบนี้ละครับ แต่บางครั้งก็กังวลมากไปครับ เรารู้อยู่แล้วว่าใจเราไม่มีเจตนา ไม่น่าผิดศีล แต่บางครั้งก็กลัวโทษของการผิดศีลมากไปครับ
     
  10. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    ทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส
    เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

    เราแค่ทำดี ไม่ทำความชั่ว
    แต่ใจเรามัวหมอง เราก็ไปอบายภูมิได้เหมือนกันนะครับ


    บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นวิบากกรรม เราเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ต้องปล่อยให้ัมันเป็นไป ปล่อยวางอุเบกขา และพิจาณาสิ่งเหล่านั้นแทน


    ผมก็เคยเป็นเมื่อก่อน แบบว่า สงสารสัตว์มากๆทั้งคนทั้งสัตว์ เกิดมามีแต่ทุกข์
    หมา มันเกิดมา หากินก็ลำบาก หิวก็ไม่รู้จะบอกใคร ไปหาคนที่ไม่ใช้เจ้าของเค้าก็ไล่ตะเพิิด ทั้งๆที่ ดวงจิต อาจจะเคยเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่เขาเผลอทำกรรมไม่ดีเอาไว้เขาจึงต้องไปเป็นแบบนั้น พอเห็นมันทำหน้าหงอยๆ ที่อาหารไม่ได้ มันหิว ทรมาน ทนหนาว ทนฝน ทนร้อน ตัวไหนไม่มีเจ้าของ ก็เร่ร่อนไปตามวงจรชีวิต สัตว์เดรัจฉาน
    ไม่รู้ที่มา และจุดจบของชีวิต วนเวียนหากินอยู่แบบนั้น อิ่มบ้าง หิวบ้าง แต่หิวซะมากกว่าอิ่้ม แม้จะอิ่มก็อิ่มเล็กๆน้อยๆ อิ่มแบบได้กินเศษอาหารเหลือ นิดเดียว
    บางทีก็ต้องแย่งกันอีก ผมยิ่งนึกผมยิ่งจะร้องให้

    ยิ่งอ่านเรื่องกรรม หมู ถูกฆ่า เอามีดแทง เอาน้ำร้อนกรอกปาก เป็นๆ

    สัตว์บางตัวถูกลอกหนังทั้งเป็นๆแถมยังเป็นสัตว์ที่ร้องไม่ได้อีก แววตา เจ็บปวด มันเจ็บทรมานมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถบอกใครได้ ไม่สามารถแม้จะส่งเสียงร้องเพื่อแสดงอาการเจ็บปวด มันจะอึดอัดและทรมานสาหัสเพียงใด

    แมวบางตัวถูกโยนน้ำ แถมเป็นลูกแมวด้วย พอมันว่ายกลับมาฝั่ง ก็ถูกโยนกลับไปอีก จนหมดแรงว่าย จึงจมน้ำอย่างทรมาน

    ลูกหมาบางตัว ถูกโยนในแม่น้ำ อันเชี่ยวกราก ไม่มีทางช่วยตัวเอง ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
    ความกลัวของมันเริ่มเกิดขึ้นตอนนี้ มันอยู่บนผิวน้ำ และเริ่มที่จะรู้ว่า ตัวของมันจะต้องดิ่งลงใน น้ำ และมันก็ต้องพยายามหายใจ แม้จะต้องหายใจเอาน้ำเข้าไป เพราะ ร่างกายทั้งตัวทั้งจมูกมันจมอยู่ในน้ำแล้ว มันก็ยังพยายามหายใจเอาน้ำเข้าปอดไปจนสำลักน้ำ และขาดอากาศหายใจอึดอัดตายไปในที่สุด

    มดบางกลุ่มกำลังเิิดินขนอาหารกันอย่างขมักเขม้น แต่อยู่ดีๆก็เหมือนมีลมพิษพัดมาใส่ตัวมันและพรรคพวกของมัน
    ร่างกายของมันมึนๆชาๆคล้ายกับจะอ้วก ปวดแสบปวดร้อนในทางเดินหายใจ จนทนไม่ไหวตายไปในที่สุด

    แม้แต่คนที่ลำบาก ๆ เกิดมายากจน ผมเห็นผมรู้สึกจะร้องให้ทุกที ทำไมโชคชะตาเค้าต้องเป็นแบบนั้นด้วย
    ไม่ใช่ว่าผมรวยนะ ที่เห็นความแตกต่างแบบนั้นแล้วเกิดสงสาร
    ผมเองก็ไม่ได้รวย แค่ไม่ลำบากมากๆเหมือนเค้าเท่านั้นเอง


    ไม่ใช่แต่คนจนที่ผมสงสาร คนที่รวยๆผมก็สงสาร เห็นบางคนเค้าหลงทำบางสิ่งบางอย่างที่เขาคิดว่า เขามีอำนาจเงิน เขาจะทำอะไรก้ได้
    เขาเกิดมาโชคดี เขาไม่ต้องสงสารไม่ต้องเห็นใจคนอื่น
    ผมก็สงสารที่เขาเป็นแบบนั้น คนเราทำไมต้องเอาเปรียบ เหยียบย่ำกันด้วย

    ไม่ใช่แต่คนที่ถูกเหยียบย่ำเท่านั้นที่น่าสงสาร คนที่เหยียบย่ำคนอื่นก็น่าสงสารเองด้วย

    สังเวชใจว่าทำไมโลกนี้ต้องเป็นแบบนี้
    คนทำชั่ว ก็ น่าสงสารที่ต้องไปรับกรรม ที่ตนทำด้วยความประมาท
    คนที่ถูกกระทำ ก็น่าสงสาร

    จนผมเห็นใครก็ตาม ผมก็จะนึกจินตนาการได้เลยว่า ชีวิตคนนี้น่าสงสารแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    จนผมแทบจะร้องให้ทุกวัน ไม่เป็นอันทำอะไร เห็นใคร ทั้งดีทั้งไม่ดี สงสารหมด


    ผลดีของมันก็มี ก็คือทำให้คนขี้สงสารนั้นเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา
    แต่กลับมาสงสารตัวเองที่ตัวเองต้องไปทุกข์ใจกับคนที่เขาทุกข์ร้อน


    เลยคิดได้ว่า บางทีการคิดมากไปทางใดทางหนึ่งมันก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวเรา

    เช่น ถ้าเรากลับเป็นอีกคน
    เป็นคนที่ไม่สงสารเลย
    แต่ ชอบทารุณคนอื่น ชอบเบียดเบียนคนอื่น แบบนี้ก็ไม่เป็นผลดีอีกเช่นกัน ซ้ำยังได้รับกรรมชั่วหนักอีก

    ถ้าเราชั่วไป ก็ไม่ดี ถ้าเราดีเกินไป คือคิดสงสารคนอื่นมากเกินเหตุอันควร ก็ไม่ดี จิตเศร้าหมองตลอด

    ทางที่ดี เรา เดินทางสายกลางดีกว่า เราเป็นคนเมตตา ปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์ ก็ดี เมื่อเรามีโอกาสช่วยเหลือ คนที่เดือดร้อนหรือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เราก็ช่วยเท่าที่เราช่วยได้ เราก็กรุณาช่วยเขาไปตามกำลังของเรา เมื่อใครมีเรื่องน่ายินดีอะไร ประสบความสุข ความสำเร็จอะไร เราก็มีมุฑิตา คอยยินดีไปกับเขาด้วย แต่เมื่อเห็นใครได้รับผลไม่ดี ถูกกระทำชั่ว ลำบากลำบน เราก็วางอุเบกขา ว่า มันเป็นกรรมของเขาเอง เขาทำของเขาเอง ถ้าเราช่วยเต็มที่แล้ว ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็ วางเฉย ไม่ใ่ช่ว่าเราไม่สนใจโลก อะไรทั้งสิ้น แต่เรารับรู้แล้วเราก็ปล่อยวาง เป็นผู้รู้ ผู้ดู

    แบบนี้จะเกิดประโยชน์มากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มิถุนายน 2012
  11. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
    ผมก็ปล่อยวางอุเบกขาเหมือนกันครับ เมื่อช่วยคนอื่นไม่ได้
    แต่อย่างน้อยที่สุดผมจะพยายาม ไม่ให้ชีวิตอื่นๆต้องมาเดือดร้อนเพราะความประมาท โทสะ หรือความอยาก ของเราครับ
     
  12. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    คุณเซฟตี้แมน
    นึกเล่นๆ คุณลอง...
    เปลี่ยนศาสนา จากพุทธ ไป เชน...
    เพราะเขาต้องใช้แส่ กวาดทางเดิน เพื่อหลีกเลี่ยงการฆ่าสัตว์โดยไม่เจตนา เช่น มดเป็นต้น
    เมื่อคุณนับถือศาสดาเชน คุณก็จะไม่กล้าล้างรถ รดน้ำต้นไม้อีกเลย.เพราะกลัวบาป...คุณก็จะสบายใจ
    ...ตัวนี้วิเคราะห์แล้วว่า ลัทธิแบบนี้ ใกล้เคียงพระพุทธองค์เป็นอย่างมาก...แต่เป็นการจับประเด็นผิดไป....คือแทนที่จะละเว้นการฆ่าสัตว์โดยเจตนา แต่กลับไปดูการไม่เจตนาแล้วจับเอามาปฏิบัติ...ซึ่งมันก็ไม่สามารถ ถอดถอนกิเลศได้...
    ...ผู้คนในศาสนาพุทธก็เช่นกัน...คือมัวแต่ไปพะวง เช่นศีล5 ซึ่งเป็นแค่กระพี้ ได้แค่บุญกุศล ได้แค่เป็นเทวดา...แต่ไม่สามารถถอดถอนกิเลศได้เลย....ยังจมปลักอยู่ต่อไปทุกภพทุกชาติ...
    ..ศาสนาพุทธ ท่านเน้นให้ตนเอง...ปฏิบัติเอง..
    ..การปฏิบัติคือการภาวนา วิปัสสนากรรมฐาน เพื่อตัดกิเลศ และเมื่อมีวาสนา ก็สามารถพ้นทุกข์ไม่กลับมาเกิดอีก..นี่คือเป้าหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ...
    ..อุบายที่พระป่าจำมาคือยึดธุดงควัตร13 ยึดขันธวัตร14และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน40(อย่างใดอย่างหนึ่ง)
    คุณต้องเข้าใจศาสนาพุทธให้ตรง ว่า ธรรมสำหรับฆาราวาส มีอะไร ก็ปฏิบัติตามกำลังของเพศเรา อย่าไปปฏิบัติเหมือนเพศพระ ที่ต้องมีศีล227ข้อ
    ศีลมีไว้ทำไม.....ทำไมฆาราวาสแค่5 ทำไมพระถึง227 ทำไมเณรแค่10 ทำไมผ้าขาวแค่8....
    ศีลมีไว้เป็นเกราะของจิต เป็นพื้นฐานของจิต...เพื่อการปฏิบัติภาวนาต่อไป...
    หากผู้ใดไม่มีศีล...ก็คือจิตไม่บริสุทธิ์...
    เช่นพวกหลอกลวงหรือหลงผิด ทำเป็นมีฤทธิ์มีเดช รู้อดีตชาติต่างๆนาๆ แต่ศีลไม่บริสุทธิ์
    ...พวกนี้ ถ้าจับไปเดินป่า...เสือมันมีซิกเซนต์ มันรู้ว่าไม่บริสุทธิ์ มันจับกินหมด....
    ...นี่เห็นไหม...พระป่าที่บริสุทธิ์ในศีล227ข้อ แม้ยังไม่สำเร็จเป็นอริยะสงฆ์ ก็สามารถเดินธุดงค์ในป่าได้ โดยไม่ถูกเสือกิน...นี่คือความบริสุทธิ์ของศีลที่เป็นเกราะคุ้มจิต...
    ..สัตว์ต่างๆมันจะรับรู้ได้ เทวดาจะรับรู้ได้.....
    .....การถือศีลข้อ1 นั้น หากคุณภาวนาแล้ว สมาธิเมื่อถอนจิตออกมาปกติ มันจะสั่งการคุณเองว่า เวลาล้างรถ ให้ไปล้างที่ไหน ที่ไม่ต้องฆ่าสัตว์โดยไม่เจตนา มันจะสั่งการคุณเองว่า เวลาไหน จะรดน้ำได้ เวลาไหนรดน้ำไม่ได้...มันเป็นอัติโนมัติของจิตเอง...
    ..แต่หากคุณใช้สมองคิด...มันก็จะมีพลาดได้ ตลอดเวลาที่คุณจิตตก...
     
  13. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ครับเพราะตอนนี้ไงครับเหมือนจิตจะรู้ตัวแล้วครับ แต่ตอนนี้ยังกังวลในเรื่องของการฆ่าที่ไม่เจตนาเพราะความพลั้งเผลอ
     
  14. magnagiled

    magnagiled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    596
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อิอิ ลำบากเหมือนกันเวลา มดมากินอาหารที่อ่างล้างจาน ต้องเคาะๆแล้วรอตั้งนาน ให้มันวิ่งหนีไปก่อน ตัวไหนงง ไม่ยอมหนีซักที ก็เลยคิดว่า คงเป็นกรรมของมัน เวลามันเกาะมือ ก็เป่าออก เป่าไปหลายร้อยตัวแล้ว อาจจะมีเศษกรรม แต่ก็ไม่คิดอะไร ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...