รบกวนสอบถามอีกสักคนนะคะ คุณ Nopphakan

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย phimwalan, 17 กันยายน 2015.

  1. phimwalan

    phimwalan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2015
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอสอบถามสภาวะธรรมขณะนั่งสมาธิคะ พอดีมีรุ่นพี่แนะนำมาว่าคุณ Nopphakan ตอบคำถามเกี่ยวกับสภาวะธรรมได้ละเอียดดีมาก ขออนุโมทนาบุญกับคุณล่วงหน้าด้วยนะคะ หรือถ้ามีท่านอื่นๆที่สามารถจะไขข้อข้องใจได้ก็ยินดีนะคะ
    เรื่องมีอยู่ว่าตัวเองเพิ่งเริ่มฝึกนั่งสมาธิได้ไม่นานคะ ประมาณ 1-2 เดือน มานี้เองได้เรียนรู้วิธีการสายต่างๆ เช่น การฝึกรู้ตัวเวลานั่ง ฝึกอาณาฯ รวมถึงได้มีโอกาสได้ฝึกมโนมยิทธิ 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็นั่งฝึกเองที่บ้านคะ แต่ก็ไม่ได้ฝึกแนวของมโนมยิทธิแล้วนะคะ ฝึกแบบรู้ตัว หรือไม่ก็แบบอาณาฯ คะ

    *** ขออนุญาตเกริ่นก่อนเข้าเรื่องค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นนานมาแล้วก่อนที่จะมาเริ่มปฏิบัติสมาธิอย่างจริงจัง เวลานอนตอนกลางคืนช่วงเคลิมๆ ใกล้จะหลับ หนูจะมีความรู้สึกว่า หนูลืมอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าลืมอะไร นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าลืมอะไร แล้วจะมีความรู้สึกเสียใจมากที่ลืมส่ิงๆ นี้ และพอเร่ิมมาปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ มีวันหนึ่งจึงอธิษฐานขอพุทธานุภาพว่า ขอให้หนูรู้สักทีว่าหนูลืมอะไร แล้วหลังจากนั้นหนูก็มีอาการขนลุกซูทั้งตัว ทั้งศีรษะ มีอาการใจวิวๆ เหมือนอยู่ในภวังค์ อาการนี้คลุมกายหนูอยู่สักครู่จึงหายไป

    และหลังจากนั้น มีเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่อยากจะสอบถามท่านผู้รู้คะ
    1.เหตุการณ์แรก นั่งไปสักพักไม่นาน มีแสงสว่างคล้างแสงนีออนจ้าสว่างขาวโพนวาบออกมา ซึ่งก่อนนั่งหนูได้ขอพุทธานุภาพจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยเจ้า รวมถึงครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติสืบๆ กันมา รวมถึงได้อธิษฐานว่า หากมีสายสัมพันธ์อันใดต่อกันก็ขอให้ท่านเหล่านั้นโปรดมาอนุเคราะห์อบรมสั่งสอนหนู ซึ่งในแสงสว่างจ้านั้น ได้ปรากฏเป็นนิมิตของ หลวงปู่มั่น มาให้เห็นชัดเจนมากคะ ซึ่งก่อนหน้านั้นหนูไม่ได้นึกถึงท่านมาก่อน จะสอบถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเรียกว่าอะไร และเป็นของจริงหรือไม่คะ
    2. เหตุการณ์ทีสอง เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แรกไม่นาน ห่างกันประมาณ สองหรือสามอาทิตย์ได้คะ หนูนั่งสมาธิโดยใช้วิธีการดูกายรู้สึกตัวไปสักพัก เริ่มเบื่อเลยเปลี่ยนมาใช้วิธีดูลมหายใจแทน จากนั้นนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ รู้สึกว่าจิตมีการรวมตัวกันคล้ายกลุ่มควันขนาดใหญ่สีขาวที่หน้าผาก สักพักรู้สึกว่าจิตมีการพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอย่างรุนแรง จนรู้สึกว่าร่างกายโยกและเหมือนหัวโดนผลักไปด้านหลัง หนูตกใจ แล้วเหมือนร่างกายมี refect ต้านอัตโนมัติ อีกใจก็อยากปล่อยให้มันหลุดไป แต่อีกใจก็กลัวคะ รบกวนสอบถามท่านผู้รู้หน่อยนะคะ ว่าหนูต้องปฏิบัติต่อไปอย่างไรให้ถูกต้องค่ะ
     
  2. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    รออีกสองอาทิตย์นะคะ พอดีทราบมาว่าช่วงนี้คุณนบ เขาจะไม่เข้ามาในพลังจิต มีอะไรถามไว้เลยค่ะ เดี๋ยวคุณนบคงมาตอบ รึฟังท่านอื่นๆแนะนำไปก่อนก็ได้ค่ะ
     
  3. phimwalan

    phimwalan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2015
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอบคุณคะ คุณ dawlong
    หรือคุณ dawlong. มีอะไรจะแนะนำไหมคะ เชิญเลยนะคะ
    พอดีเพิ่งเริ่มปฏิบัติค่ะ เลยอยากขอคำแนะนำจากผู้รู้คะ ขอบคุณคะ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    พึ่งเห็นกระทู้นี้ ตอนนี้เข้าใจว่าคงจะเริ่มเข้าใจสภาวะที่มาถามบ้างแล้ว
    แต่ยังติดอยู่ที่ว่าลืมปล่อยวางสิ่งที่สัมผัสได้เท่านั้นเอง

    ตรง ***เป็นการรับรู้ปกติ เพียงแต่ ณ เวลานั้นภูมิต้านทาน
    เรายังไม่แข็งแรงพอ พวกนี้พอฝึกสมาธิต่อไปอีกซักพักจะไม่เกิด
    กิริยากับร่างกายแบบนี้ แต่จะข้ามไปสัมผัสได้อย่างอื่นๆแทน
    และความเข้าใจว่าเป็นอะไรขึ้นอยู่กับกำลังสติทางธรรมของเรานั่นเอง

    เด่วช่วยตอบ ตรงประเด็นข้อที่ ๑ เพื่อให้หายสงสัย
    สภาวะตอนนั้นของเราเกิดจากจิตเราส่วนหนึ่ง
    และกำลังของครูบาร์อาจารย์ท่าน ๓ ส่วนเราถึง
    เห็นสภาวะสว่างๆและพบเห็นท่านได้ ณ เวลานั้น
    และให้เราเข้าใจเอาไว้ว่า ถ้าในอดีตจิตของเรานั้น
    เคยสัมผัสกับท่านใดมาก่อนก็ตาม หากเราได้เริ่ม
    มานั่งสมาธิ เราจะมีโอกาศได้พบได้เจอท่านได้
    เป็นเรื่องปกตินะครับ.และไม่ว่าท่านใดๆก็ตาม
    และการที่เราได้พบท่านดังกล่าว แสดงว่าในอดีต
    จิตดวงนี้มีพื้นฐานสมาธิในกำลังระดับที่สูงมาพอตัวนั้นเอง...
    และสิ่งที่สำคัญอีกอย่าง อย่าไปสนใจว่าจะจริงหรือไม่จริงครับ
    ให้เฉยๆไว้ทุกๆกรณี และอย่าไปเผลอยึดมั่นถือมั่น
    ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ตามที่ไม่ชอบ หรือเห็นอะไรก็ตามที่ดีที่สุด
    ให้เราเคารพได้ แต่อย่ายึดถือ ตรงนี้จำให้ดีๆนะครับ
    เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญมาก ที่จะกลับเข้าสู่สมาธิในระดับ
    สูงได้เหมือนในอดีตที่จิตดวงนี้ที่อยู่ในกายเรามันเคยทำได้มาก่อนครับ

    ส่วนข้อ ที่ ๒ นั้นถ้ารวมแล้วออกอย่างนั่นถือว่าเป็นปกติ..
    แต่ถ้าเราจะพัฒนา ถ้ามันรวมตัวกัน เราต้องรีบดับให้เร็วที่สุดครับ
    ไม่งั้น แม้ว่าการออกไปได้ จะดูเหมือนไม่ยึดติด และเป็นธรรม
    แต่ว่ามันจะเป็นกิเลสธรรม ที่จะทำให้เราไม่สนใจในเรื่องการเจริญสติ
    และเดินปัญญาทางธรรมและจะทำให้เราไปสนใจในเรื่องนามธรรมพิเศษ
    มากเกินไป อย่าลืมว่าเรื่องพิเศษยังไม่ใช่ทางหลุดพ้น
    ให้เราดับก้อนๆนั่นซะ กำหนดดับ เดียวพอดับ มันได้
    เราจะดับจนถึงขั้น ที่มันกำลังจะก่อตัวขึ้นตรงลิ้นปี่ได้เอง
    และถ้าเราเห็นตอนมันก่อตัวขึ้น จิตจะแยกรูปแยกนามได้
    และนั่งสมาธิต่ออีกซักพักจะสามารถมองเห็นขันธ์ ๕ นามธรรมได้
    ซึ่งจะทำให้ ความเห็นชอบซึ่งเป็นอริยมรรค ๘ เปิดทางให้
    เราสามารถเดินปัญญาได้ ที่นี้ความเข้าใจทางด้านนามธรรม
    ต่างๆของเราจะดีขึ้น จะเข้าใจตรงทางขึ้น
    และเราก็จะเดินปัญญาเพื่อลดละกิเลสได้จริง
    ส่วนสัมผัสหรืออะไรต่างๆถ้ามันเกิดขึ้นมา
    มันจะมาของมันเอง เพียงแต่เราไม่ต้องไปยึด
    และไปฟุ้งกับมัน และยอมรับตามความเป็นจริง
    เท่านี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วหละครับ...

    ปล ถือว่าเล่าให้ฟังทั่วไปแล้วกันนะครับ
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    แก้สงสัยได้หลายอย่างเลยค่ะ ท่าน อ นพ แถมบางทีนั่งดูคอมเฉยๆก็ได้ยินเสียงผู้ชาย เสียงใหญ่ๆ ตํ่าๆ"ธรรมา อนัตตา"ซั้าแล้วซํ้าเล่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Thank you.jpg
      Thank you.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      187
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถ้าสมมุติว่าลองไปสังเกตุต้นกำเนิดเสียงให้ดีๆนะครับ..
    จะพบว่าแท้จริงแล้ว เสียงนี้ขึ้นมาจากตรงกลางลิ้นปี่เรานั่นหละครับ
    แล้วถึงเหมือนกับว่าเราได้ยินอยู่ภายในกระโหลกของเรา
    คือพูดง่ายๆว่า ไม่ใช่เสียงภายนอกที่ได้ยินชัดเจนจากทางหูขวา
    หรือได้ยินบ้างไม่ค่อยชัดจากทางหูซ้าย

    และในความหมายของคำที่เราได้ยิน..
    มันคือ นัยยะในการวางอารมย์ของตัวจิต
    เฉพาะบุคคล ซึ่งเหมาะกับเราที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น
    และถ้าเราเข้าใจความหมาย
    และเราปฏิบัติตาม จนตัวจิตเข้าใจแล้ว
    เราจะไม่ได้ยินเสียงคำสอนนี้อีก..
    และอาจจะได้ยินเสียงคำสอนอย่างอื่นๆแทนได้
    ถ้าหากว่าจิตเรายังฟุ้งไม่สงบเพราะเหตุอื่นๆอีก...

    บอกให้ก็ได้ ท่านที่มักจะบอกคำสอนแนวๆอย่างนี้
    คือกลุ่มท่านที่อาศัยอยู่บริเวณตีนเขาพระสุเมรนั่นหละครับ..
    บางทีชอบแอบสอนสมาธิแบบลับๆเชิงช่วยเหลือให้ผ่าน
    สภาวะนั้นไปได้ เช่น บริเวณนั้นร้อนตับแล๊บ แต่เรากลับ
    นั่งแล้วเย็นสบาย(นี่คือพูดเปรียบให้เข้าใจ)
    และจริตนิสัยท่านเหล่านั้น..ถ้าตามบารมีถือว่าเป็นพระอริยะนะครับ
    เหมือนคล้ายๆสมมุติว่า เราเก่งกีฬาอะไรบางอย่าง
    แล้วเราไปเห็นเด็กคนหนึ่ง กำลังเล่นกีฬาแบบที่เราเก่งแล้ว
    เราก็มีความรู้สึกว่า อยากจะสอนเด็กคนนี้จัง
    เพราะเหมือนๆถูกชะตากัน อะไรประมาณนี้
    พอเข้าใจนะครับ..
    ที่มาบอกคุณนะ เป็นพระสงฆ์ที่มีเอกลักษณ์
    แบบห่มคลุม แบบที่พระสงฆ์แต่งกายแบบปิดไหล่
    ทั้งสองข้างพอนึกภาพออกนะครับ ท่านดูเหมือนอวบ
    หน่อยเวลาหุ่มคลุม แต่จริงๆคือไม่ผอมและไม่อ้วน
    รูปร่างพอดี ไม่ได้ดูสูงนะครับ
    แต่ชื่ออะไรท่านไม่ได้บอก
    พูดแต่ว่า เราไม่เน้น แค่นี้หละครับ
    ฟังหูไว้หูนะครับ ( ^_^ )
    ปล.แต่ว่าอย่าไปยึดติดนะครับ ให้ปฏิบัติ
    ตามให้ได้ก็พอครับเป็นเรื่องหลัก ประมาณนี้หละครับ
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    สาาาธุ ทราบเลยว่าหลวงปู่ .. ท่านเคยมาเข้าฝันครั้งหนึ่งนานมาแล้วค่ะ (ขนลุกทั่วตัว๓ครั้ง)แต่ไม่ได้พูดอะไรตอนนั้นไม่รู้จักท่านเลยค้นหาเสียทั่วเวป ใช้เวลาพอสมควรจนเจอค่ะ:cool:
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ว่างๆก็เอารูปมาลงให้ดูหน่อยเน้อ...
    เพราะถ้าไม่ใช่แบบที่ว่า พอเห็นหน้าปุ๊บ
    แล้วเกือบทุกคนรู้จักเลย หรือเป็นระดับที่
    มีตำแหน่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีทางภพภูมิ
    ส่วนตัวก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกัน
    เพราะส่วนมากท่านมักจะไม่ค่อยบอกชื่อ
    เพราะนัยยะจริงๆคือท่านจะสอน
    ให้เรารู้จักปล่อยวางและไม่ยึดนั่นหละครับ
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    พระในฝันค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ขอบคุณที่นำรูปมาลงให้ดูครับ
    มีประโยชน์มากเลย ส่วนตัวจะได้
    เอาไว้เพิ่มความสังเกตุขึ้นอีกหน่อย
    ถือว่าบุคคลลิกใกล้เคียงบ้าง..
    กับอีกส่วนคือมุมของเครื่องแต่งกาย
    ที่ยังต้องฝึกสังเกตุเพิ่มเติมอีก..
    แต่ตอนนั้นไม่ทราบจริงๆว่าท่านเป็นใครครับ...

    แสดงว่าเป็นระดับที่ทางปฏิบัติเรียกว่า ไร้ร่องรอย
    คือไม่ทิ้งอะไรไว้ ให้ติด ให้ขัด ให้สงสัยอะไร
    จบคือจบ แค่ไหนแค่นั้น ซึ่งโดยมากระดับไร้ร่องรอย
    แบบนี้ประกันได้ว่า อนาคตจะต้องเป็นระดับพระพุทธฯ
    ท่านใดท่านหนึ่งแน่นอนครับ...

    จะว่าไปเหมือนจุดใต้ตำตอนะ มีเรื่องโม้ให้ฟัง
    มีช่วงหนึ่งตอนไปวัดป่าฉัพพรรณรังษี ไปถาม
    พระครูปลัดที่นั่น เรื่องการต่อยอดกรรมฐาน
    บางกองเพื่อมาใช้ประโยชน์ ท่านพระครูบอกว่า
    ท่านไม่ให้บอก พยายามถามเทคนิคท่านก็ไม่บอก
    แล้วท่านก็บอกว่า หลวงปู่ท่านนี้หละครับ
    ยืนอยู่และบอกว่า ไม่ให้บอก ให้ข้าพเจ้า
    ไปลองฝึกไปลองทำไปลองค้นคว้าด้วยตัวเองก่อน
    ซึ่งก็กินเวลาประมาณ ๗ ถึง ๘ เดือน
    แล้วกลับมาถามทำถึงบอก ซึ่งก็ได้ใช้ประโยชน์
    มาจนถึงทุกวันนี้อยู่ คือเรื่อง การย้ายเส้นเอนแบบไม่โดนตัวนั่นหละครับ
    ตอนนั้นยอมรับว่า รู้สึกแปลกมาก เพราะว่า
    ในอดีตท่านที่มาแนะนำกรรมฐานอะไรให้ก็ตาม
    โดยปกติส่วนตัวจะเคยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    ไม่ก็ในนิมิต แต่สำหรับหลวงปู่ท่านนี้ยอมรับเลยว่า
    ส่วนตัว แทบไม่รู้เรื่องและจับอะไรได้เลย(เอกลักษณ์ของท่านที่
    ไร้ร่องรอย มักจะมาอีกด้านในนามผู้โปรดร่วมด้วย)

    เคยมีข้อสังเกตุอีกข้อ สมัยที่หลวงตาม้ามาบริเวณบ้าน
    ยังแปลกว่า เห็นท่านจ้องหน้ามาแต่ไกล ทั้งที่นั่งห่างกัน
    แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไรมาก

    และที่เด็ด ถ้าเคยไปวัดท่าน ตรงศาลาด้านหน้าด้านขวา
    ที่มีรูปปั่นท่านขนาดเท่าองค์จริงยืนหันหน้าออกไปนอกศาลา
    เคยไปยืนถ่ายรูปตรง ประตูที่ตรงกับหลังรูปปั่นท่าน

    ปรากฏว่า ภาพสะท้อนกลับมา กลายเป็นรูปท่านยืนหันหน้า
    กลับมามองอย่างชัดเจนในกระจก รูปนี้ลงเฟสไปแล้วครับ
    ที่ยืนกอดอกใส่กางเกงยืนขาสั้นกับเสื้อพอดีตัวสีเทาๆหน่อย
    ปล ตอนนี้พอจับหลักสังเกตุในการแยกท่านจากท่านอื่นได้
    บ้างแล้ว เพราะท่านจะคล้ายอีกท่านหนึ่งที่อยู่ในดงมาก
    ถ้าดูจากด้านบนอย่างเดียว ให้ดูที่องศาการปรากฏกาย
    จะพอทราบได้ว่าเป็นท่านใดประมาณนี้(พูดเพื่อใครเห็นได้นะครับ)
    ขอบใจมากเน้อ....(^_^)
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    ท่านนี้อีกองค์ค่ะ มาเยี่ยมบ้านและเพื่อนบ้านบอกว่า"นั่นไงท่านเจ้าคุณนร" (ในฝัน)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    องค์นี้ท่านมาโปรดวันเกิดพอดีเมื่อสองปีที่แล้ว(เอาหัวไปซุกใต้รักแร้ขวาท่านเลย) ฝันแบบนี้สั้นมากค่ะแวบเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • LP Ruesri1.jpg
      LP Ruesri1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.2 KB
      เปิดดู:
      74
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    องค์แรกไม่เคยพบในนิมิตหรือในฝัน
    แต่ถ้าจะใช้ตาอีกแบบดูต้องมองด้านข้าง
    ถึงจะพอทราบว่าเป็นท่านครับ
    เพราะไม่งั้นจะแยกยากมากครับ

    องค์ต่อมามักจะสวมแว่นเป็นเอกลักษณ์
    เคยพบท่านมายืนยิ้มให้ก่อนฝึกกสิณซักปีหนึ่งได้
    ถ้าจำไม่ผิดเป็นแว่นกรอบพลาสติกถ้าสภาพแวดล้อม
    แบบในฝันหรือนิมิตและกรอบแบบในรูป
    ถ้าสภาพแวดล้อมแบบตอนกลางวัน

    จุดใต้ตำตออีกแระ
    องค์นี้หละครับที่มาตามข้าพเจ้าที่บ้าน
    หลังจากไปสนทนากับหลวงตา
    ท่านหนึ่งที่วัดถ้ำเขาวงค์
    ที่ สระบุรี ถามท่านว่าทำอย่างไร
    จะฝึกกสิณสำเร็จ
    แล้วอีก ๓ วันองค์นี้ก็มาเรียก
    ครั้งที่ ๓ เลยบอกว่าฝึกครับ
    และท่านเป็นผู้สอนและแนะเทคนิค
    ตอนฝึกกสิณให้เป็นเหตุให้ฝึก
    ถึงระดับพลังงานและใช้งานได้
    หลังจากผ่านไป ๒ เดือนครึ่ง
    (แต่ช่วงนั้นพอดีว่างเลยฟิตจัด
    ขาดวันเดียวไม่ได้นะครับ
    เจอท่านทักทายทันที)
    จนทุกวันนี้ก็ยังใช้งาน
    ที่เป็นประโยนช์ต่อบุคคลอื่นๆอยู่
    พูดได้แต่ขอว่าอย่าเอ่ยชื่อท่าน
    ตรงๆแบบนี้ดีแล้วครับ(^_^)
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เสียงดังมากๆยังกับฟ้าฝ่าเป็นตัวบอก
    ทุกครั้งที่เราผ่านสภาวะธรรมอะไรบ้างอย่างได้
    สังเกตุง่ายๆว่า ช่วงนั้นนิสัยบ้างอย่างที่เรารู้ว่า
    ไม่ดีเราสามารถผ่านมันมาได้นั้นหละครับ

    ที่เมื่อก่อนเราอาจจะเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีคิด
    ด้วยการแสดงออก ทั้งกาย วาจา และใจอีกอย่าง
    ซึ่งกระทำไปเพื่อสนองตามใจเราเองและเรามาพบว่ามันไม่ได้ส่งผลให้จิตใจ
    เรายกพัฒนาขึ้นมาก่อนนั้นหละครับ

    ปล คือผ่านเรื่องประมาณที่เล่าให้ฟังมานั่นหละครับ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แต่ถ้าผ่านสภาวะอะไรบ้างอย่างที่ค่อนข้างหนัก
    ซึ่งต้องใช้ปัญญาทางธรรมในการช่วยหนุนร่วมด้วย
    จะมีอะไรบางอย่างที่ ยังไม่อยากบอกตอนนี้ ที่จะเป็นกิริยา
    ที่เราจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง
    ปล เอาว่ามาจากทางด้านศรีษะเรา
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    สงสัยจะต้องระเบิดหลายๆๆครั้งเลยใช่ไหมคะ เจ้ากิเลส๑๕๐๐ ตัว หวังว่ามันตายแล้วคงไม่ฟื้นกลับมาอีก ;38
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ก็จนกว่าจิตจะเริ่มคลายตัวได้เองโดยธรรมชาติของมันเอง
    ในเวลาลืมตาใช้ชีวิตปกตินั่นหละครับ
    เริ่มต้นจากวินาทีนะครับ...
    แค่ไม่กี่วินาที เรื่องข้างบนที่คุณ supatorn เคยถาม
    ข้าพเจ้ามา
    แทบไม่ต้องได้มาถามแล้วครับ
    เพราะมันจะรู้ได้ของมันเองอัตโนมัติ...
    ที่บุคคลส่วนมากพลาดกัน ก็เพราะไปเข้าใจ
    กิริยาจิตวาง จิตว่าง จิตสงบ คือจิตมันคลายตัว
    จริงๆมันยังไม่คลายตัวเองครับ มันเป็นแค่
    กิริยาหนึ่งที่มันยังมีตัวไปกระทำให้มัน สงบ วาง ว่างอยู่
    ไม่ว่าจาก( สติ สมาธิ ตบะ ฌาน ญาณ กำลังจิต ความรู้ในอดีต
    จากการรับรู้จาก การได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านมา และปัญญา
    ต่างๆทางสมมุติทั้งหลาย) อย่างใดอย่างหนึ่งพวกนี้
    มันฟอร์มตัวมาให้เราเข้าใจว่า จิตเรา สงบ วาง ว่างเฉยๆครับ
    ยิ่งเพราะมันดูเหมือนนิ่งๆ ไม่สนใจอะไร มันเลยดูเนียนเข้าไปใหญ่
    ตรงนี้ต้องระวังให้ดีๆครับ
    ตัวจิตมันเลยไม่ขยายออกกว้าง เพราะมีพวกนี้มันฟอร์มตัวกันอยู่
    การเข้าใจนามธรรมต่างๆ
    รวมทั้งสัมผัสการรับรู้ฝ่ายนามธรรมต่างๆ
    เลยยังไม่มีตามมานั่นเองครับ
    เราต้องทิ้ง ต้องปล่อยวางมันให้หมดครับ(ในวงเล็บข้างบน)
    แล้วทุกอย่างมันจะค่อยๆดีขึ้นมาได้
    ของมันเองตามเนื้อหาเดิมแท้ของจิตเรานั่นหละครับ

    ปล จริงๆแล้วส่วนตัวเป็นคนธรรมดามากๆ ไม่ได้เก่งอะไรเลย
    เพียงแต่แค่ไม่รู้อะไร ณ เวลานั้นก็ทิ้ง ก็วางมันไปเลย
    ไม่เก็บมาคิด มาวิเคราะห์ มาสงสัย มาวิพากษ์ วิจารณ์อะไร
    ประมาณว่า เหมือนไม่เคยเกิดเรื่องนั้น บนโลกใบนี้เลยแล้ว
    มาฝึกเจริญสติต่อให้มันต่อเนื่องเพิ่มขึ้นแค่นั้น
    และเวลาพระท่านสอนอะไร ก็ทำตามที่ท่านสอน
    ถ้ายังไม่ถึงจุดที่ท่านบอก ก็ไม่เคยสนใจระหว่างทางอะไรเลยและ
    ไม่ได้ไปถามเหตุถามผลกับท่านว่ามันคืออะไรซักที
    พวกที่เกิดระหว่างทาง
    แม้ว่าตอนแรกจะยังไม่เข้าใจ รู้สึกแปลกๆขัดๆบ้าง
    ว่ามันคืออะไร
    แต่ก็ของไปลองทำ ลองปฏิบัติดูก่อน
    แล้วสังเกตุผลดูว่า เมื่อไรที่เราปฏิบัติถึงจุดที่ท่านบอก
    ด้วยตัวเองก็แค่นั้น ซึ่งมันจะสัมพันธ์กับ
    การมาฝึกเจริญสติให้มันต่อเนื่องเพิ่มขึ้นนั้น
    เด่วถึงจุดหนึ่ง มันจะมีการย้อนรู้ในสภาวะ
    ที่ผ่านมาระหว่างทางทั้งหมด(ย้ำว่ารู้ได้ทั้งหมดที่เคยผ่านมา)
    ได้ของมันแบบอัตโนมัติ
    เองนั้นหละครับเรื่องนามธรรมทั้งหลาย
    พวกนี้รวมทั้งเรื่อง กรรมฐานต่างๆด้วยครับและ
    รู้แบบที่เอามาแนะนำต่อได้ด้วย
    แค่การรู้เพียง ปิ้งแว๊บเดียว ก็เขียนจนมือหงิกมือเคล็ดแล้วครับ

    ทั่วๆไปมันไม่มีอะไรหรอกครับ ใครก็ทำกันได้ทุกคนครับ
    ที่ติดกันเพราะ ความอยากรู้คำตอบ ความสงสัย
    ในใจที่ตัดไม่ลงนี่หละครับ ที่เป็นตัวขวางการรู้ได้
    ของตัวจิตเราเอง บางเรื่องเกี่ยวกับนามธรรม
    อย่างคาดไม่ถึง(ใช้คำว่าคาดไม่ถึงนะครับ)
    บางคนเป็นสิบยี่สิบปีก็ยังไม่ลืม
    ส่วนตัวแค่ สองสามวินาที ณ เวลานั้นถ้าไม่เข้าใจ
    ก็ปล่อยส่งไปดาวอังคารไม่เก็บมาคิดแล้วครับ
    ปล พอเข้าใจเนาะ (^_^)
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    ..........
    สาธุๆๆ ขอบพระคุณท่าน อ นพค่ะ เนี่ย เมื่อก่อนก็ก้าวหน้าดี แต่ยิ่งรู้มากก็ยิ่งสงสัยมาก เลยถอยหลัง ถึงได้โดนท่าน อ ระมิงค์ดุ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...