เรื่องเด่น รวมหลวงพ่อตอบปัญหา/จากคำบอกเล่า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    *** สวัสดีครับท่านนักคอลัมภ์นิสต์ธรรมะจากสื่อออนไลน์

    ผมทราบว่าคุณเข้ามาอ่านมาหาาบทความหาเรื่องหลวงพ่อตอบคำถามไปใช้ในงานที่คุณทำอยู่

    การที่คุณเข้ามาในเวบและในกระทู้นี้ลอกข้อมูลหยิบธรรมหลวงพ่อเอาไปลงในเวบในเพจคุณ มันเป็นงานเป็นหน้าที่หาเงินของคุณมีแอดในบทความธรรมที่่สคุณนำไปลง มันเป็นเงินเป็นทอง ถึงแม้ว่าการเผยแพร่ธรรมเป็นเรื่องดี แต่ผมว่าคุณควรหัดให้มีมรรยาทในการให้เครดิตแหล่งข้อมูลที่คุณไปนำธรรมมาลงในเพจคุณดีกว่าครับ เกรงว่าคนอ่านเขาจะทราบว่าเอาจากไหนแล้วตามมาอ่านไม่อ่านคอลัมภ์คุณหรือครับ ? การลอกข้อมูลไปผมไม่ว่าอะไรหรอกครับเป็นการเผยแพร่ธรรมแต่วิธีที่คุณใช้มันเป็นมรรยาทเลวนะครับ


    การเผยแพร่ธรรมเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ท่านที่เข้ามาคัดลอกธรรมตามกระทู้ต่างๆในเวบนี้หรือเวบอื่นๆแล้วนำไปลงในเพจในเวบสื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ที่ท่านทำงานอยู่เพื่องานในอาชีพของท่าน กรุณามีมารยาทในการให้เครดิตแหล่งที่คุณคัดลอกมาด้วย

    ถ้าไม่คุณก็ไปหาอ่านธรรมในหนังสือหลวงพ่อแล้วคัดลอกพิมพ์ด้วยตัวท่านเองแล้วนำไปลงในสื่อสิ่งพิมพ์ของท่านเอง


    1_zpskz7pyd2v.jpg



    2_zpssaomuvje.jpg

    3_zps3jy1fjgy.jpg

    4_zpsw8ovbgbv.jpg

    5_zpsdtbmubul.jpg

    6_zpspoxn7x9d.jpg

    7_zpsvgi4zvjt.jpg

    8_zpsmx0dxubt.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 หน้า 35 -48)

    หลวงพ่อตอบปัญหาด้านบนนำมาจาก E-Book เวบวัดท่าซุง ท่านสามารถหาอ่านหนังสือเล่มอื่นๆได้จากเวบลิงค์ด้านล่างครับ

    http://thasungmedia.com/wat/puy/ebook/index.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2019
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    78558e6ee18c437ba79f0a111fc178d4.jpg
    87e8ff2ebee4800632a441f9b1a517a3.jpg

    ในหลวงเคยเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และ พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า และเคยเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าตวันอธิราช และพระเจ้าพรหมมหาราช ("พระเจ้าตวันอธิราช" ไปเกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช") ทั้ง ๒ ครั้ง ดังนี้



    พ.ศ. ๒๔๖ สมัยสุวรรณภูมิ ในหลวงเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรก ของ พระเจ้าตวันอธิราช มีพระนามว่า พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า

    พ.ศ. ๙๐๐ สมัยเชียงแสน พระเจ้าตวันอธิราช เกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช" ส่วนพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ตามไปเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรกนามว่า "พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า" แต่สิ้นพระชนม์ในสมัยทรงพระเยาว์ พระราชสมบัติจึงตกแก่พระโอรสองค์รองคือ "พระเจ้าชัยสิริ" (หลวงปู่ธรรมชัย) ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์จักรี สืบสันติวงศ์ถึงปัจจุบัน พระเจ้าพรหมมหาราช มีพระเชษฐาคือ "พระเจ้าทุกขิตะ" (หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดดอนมูล)

    ย้อนกลับมาสมัยสุวรรณภูมิ พ.ศ.๒๔๖ พระโพธิสัตว์ทั้ง ๒ พระองค์นี้ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกัน (พ่อ-ลูก) พระเจ้าตวันอธิราช กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมินี้ ได้วางรากฐานการสร้างพระบารมีไว้ให้พระราชโอรสของพระองค์ ในฐานะที่จะทรงเป็นกษัตริย์ต่อไปภายภาคหน้า อาทิ

    - การสร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ปรับปรุงกองทัพให้เข้มแข็ง ส่งเสริมอาชีพของราษฏร โรงพยาบาลเพื่อสงเคราะห์พสกนิกร ฯลฯ

    - ด้านพระพุทธศาสนา ได้โปรดสร้างวัด โรงเรียนปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร โดยมี พระโสณะ กับ พระอุตตระ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีการมอบ "พัศยศ" สำหรับผู้สอบบาลีได้

    - ต่อมาก็มีการแต่งตั้งพระสงฆ์ไทยขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระองค์แรกของเมืองไทย จนได้สืบต่อวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มาจนถึงบัดนี้

    - อีกทั้งพระองค์ได้เสด็จประพาสไปยังนานาประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และที่อยู่ห่างไกลออกไป ส่วนภายในประเทศอาณาเขตของพระองค์ ก็เสด็จเยี่ยมเยือนไปตามหัวเมืองต่าง ๆ อีกด้วย

    - พระราชจริยวัตรของพระเจ้าตวันอธิราชนี้ มีลักษณะที่ทรงปฏิบัติคล้ายกับพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวของพระเจ้ากรุงสยามทุกประการ

    - ฉะนั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีในด้านพระศาสนา เช่น พิธีกวนข้าวทิพย์ การสวดมนต์ หรือ พิธีการนิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้าน ตลอดถึงพิธีกรรมต่าง ๆ ตามโบราณราชประเพณี เรามีการสืบทอดวัฒนธรรมอันเป็นมรดกมานานนับพันปี

    (ทั้งหมดนี้เป็นรากฐานที่พระเจ้าตวันอธิราช วางไว้ให้พระราชโอรสคือ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ทั้ง ๒ พระองค์ต่างก็เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มข้น)
    ต่อมา...หลังจากพระเจ้าเดือนเด่นฟ้าได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยที่ดำเนินรอยตามพระยุคคลบาทของสมเด็จพระราชบิดา ในฐานะที่พระองค์ก็ทรงเป็นพระโพธิสัตว์เช่นเดียวกัน และก่อนที่ พระโสณะ จะนิพพาน ก็ยังได้พยากรณ์ไว้อีกว่า

    "พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า จะมาเกิดที่ "กรุงเทพมหานคร" เมื่อนั้น "สุวรรณภูมิ" จะฟื้นชื่อมีคนรู้ทั่ว..."

    - สอดคล้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม องค์ปัจจุบันที่ได้ทรงตรัสพยากรณ์ไว้ดังนี้

    "ดูก่อนอานนท์..ตถาคตสงสารสัตว์เป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ใกล้ยุคกึ่งสมัย คือในหลังพุทธกาลนี้ แต่ในเวลานั้น จะมี "พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช" ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งจะเกิดภายในอุปถัมภ์ของ "พระมหาเถระโพธิสัตว์"

    - พระโพธิสัตว์สองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้ามาบำรุงพระพุทธศาสนาของตถาคต สมณชีพราหมณ์จะตามเสด็จเป็นอันมาก ในระยะนี้จะเป็นยุค "ชาวศรีวิไล" ดังนี้

    (หลักฐานหนึ่ง ทางด้านโบราณวัตถุได้แก่ กระเบื้องจาร ที่ขุดได้จาก ซากเมือง คูบัว จ.ราชบุรี ก็ได้ยืนยันว่า พ่อกับลูกคู่นี้ ทรงเป็นหน่อเนื้อพระบรมพงศ์พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ ได้ตั้งความปรารถนา "พุทธภูมิ"
    วิริยาธิกะ คือจะต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลา ๑๖ อสงไขย กับแสนกัปล์ จึงจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ)

    ในชาติปัจจุบัน ของ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า (พระบาทสมเด็จภูมิพลอดุลยเดชมหาราช)

    หลวงพ่อเคยถวายพระพรไว้ ณ พระตำหนักภุพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๐ ในตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อว่า

    "เขาพูดกันว่าผมปรารถนาพุทธภูมิเป็นความจริงไหมครับ..?"

    หลวงพ่อถวายพระพรว่า...เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ปรารถนามานาน..แต่เวลานี้บารมีเป็น"ปรมัตถบารมี" แล้ว ก็เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว..ไม่ใช่ไม่สำเร็จ..!

    "พุทธภูมิ" นี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น "วิริยาธิกะ" วิริยาธิกะนี่..ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่บำเพ็ญมาเกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว "แสนกัป" อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ"

    ในขณะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ตรัสถามหลวงพ่อว่า "พระเจ้าอยู่หัวก็ดี หม่อมฉันก็ดี ก็มีความเคารพในพระคุณพระราชวงศ์จักรีอยู่ตลอดเวลา ที่ท่านจะทรงสามารถจะทรงความเป็นเอกราชไว้ได้ ก็อยากจะทราบว่าทั้งสององค์นี่..จะทรงชาติกับศาสนาไว้ได้ไหม..? "

    หลวงพ่อถวายพระพรว่า "ก็ได้..ประเทศเราไม่มีเกณฑ์จะต้องตกเป็นเหยื่อคอมมิวนิสต์"
    แล้วพระองค์ก็ตรัสถามอีกว่า "ฉันทั้งสององค์นี่ ทั้งพระเจ้าอยู่หัวด้วยและฉันด้วย จะต้องตายเพราะการที่เขามุ่งจะฆ่าไหม..? "

    พอตรัสถามตรงนี้ หลวงพ่อท่านบอกว่าพระดลใจให้ตอบว่าดังนี้..

    "ก็เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่ เป็นนักรบฝีมือดีมาจากสุโขทัย และมาเกิดคราวนี้ ต้องการจะเกิดเพื่อจรรโลงให้คงอยู่ให้ชาติมีความร่มเย็นเป็นสุข แล้วเรื่องอะไร..ที่ต้องตายเพราะคมอาวุธล่ะ..ถ้าจะเจ็บตายเองเป็นเรื่องธรรมดา และต้องตายด้วยเรื่อง "คมอาวุธ" อันนี้ไม่มี..!"

    สรุป..ในหลวงเกิดเป็นพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ในสมัยสุวรรณภูมิ และเกิดเป็นพระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า ในสมัยเชียงแสน ปรารถนา พุทธภูมิ ประเภท วิริยาธิกะ ตอนนี้บารมีใก้ลเต็ม และต้องเกิดสร้างบารมีอีก ๕ ชาติ

    (จาก หนังสือธัมมวิโมกข์ หน้า ๙๒ ถึง ๙๕ ฉบับที่ ๒๑๒ ประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๔๑)

    http://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน.538477/page-468#post10153912
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2019
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    166265_zpsejurqbki.jpg
    PIC17_zpsyboga7gs.jpg
    1476507088_1_zps8vxvtm2a.jpg
    1476526606767_zpsm5aabuwa.jpg


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราถนาพุทธภูมิ/เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าตากสิน/พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาครบ 5,000 ปีที่ประเทศไทย

    บางท่านสงสัยว่าพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงลาพุทธภูมิแล้วหรือยัง ลองอ่านเรื่องด้านล่างนี้กันดูครับ








    1_5.jpg

    2_6.jpg


    4_4.jpg


    5_4.jpg


    6_3.jpg

    7_4.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ กรกฏาคม 2533 หน้า 12 - 16)


    คาถา "สัมปติจฉามิ(สัมปติฉามิ)"




    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg"/></a>


    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 45)

    ภาวนาคาถา "สัมปติจฉามิ"

    ไม่ต้องกลัวใครนะลูกนะ ไม่ต้องกลัวภาวนาคาถาไว้บทหนึ่ง "สัมปติจฉามิ"

    ใครทำอะไรไม่ได้ลูก จำได้ไหม จดซิ ภาวนา "สัมปติจฉามิ" เดี๋ยวลืม เ ดี๋ยวออกไปข้างนอกแล้วลืม คาถาบทนี้ดีนะ เรียกว่า ข้าศึกไม่เห็นตัว จะทำร้ายทำไม่ได้ แล้วก็เป็นเมตตา

    "สัมปติจฉามิ" ไอ้หนูภาวนานะลูกนะ ให้ภาวนาก่อนจะไป นึกขึ้นมาได้ ก็ภาวนา ไม่ต้องกลัวใครลูก คนทำร้ายไม่ได้เลย

    เป็นคาถาที่ท่านเจ้าของบอกว่า ข้าศึกจะมองไม่เห็นตัว ไอ้นี่เราเห็นตัวเรา แต่เขาไม่เห็นเรา คนทำร้ายไม่ได้

    อย่าลืมนะหนูนะ นึกถึงแหนบหรือเหรียญที่หลวงพ่อให้ไป นึกเห็นภาพแล้วนึกถึงคาถาด้วยนะ แทนที่จะมีคนเกลียด จะมีแต่คนรัก ไม่เป็นไรนะลูกนะ ไม่ต้องกลัวนะลูกนะ

    ถ้ามีคาถาบทนี้ ผีสาง แม่มด พ่อมดสู้ไม่ได้ คือไม่มีอะไรทำร้ายเราได้เลยนะ มั่นใจนะ เลิกกลัวได้เลยลูก

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41)


    คาถา "สัมปติจฉามิ"

    คาถาเป็นหัวใจ เขาไม่แปล อยากรู้แปลว่าอะไร ให้ถามตรงพระพุทธเจ้า เป็นหัวใจไม่ใช่คาถาตรง คาถาเขาไม่แปลกันนะ

    สัมปติจฉามิ มันเหมือนกัน ภาษาบาลี สัมปติฉามิ เขาซ้อน จ. ขึ้นมาเป็น สัมปติจฉามิ ถ้ารู้ภาษาบาลีไม่ใช่ของแปลก ตัวเดิมมัน ติ ซ้อน จ. ขึ้นมาอีกตัวเป็น ติจ ใช้ได้ แปลเหมือนกัน ตัวเดิมเขาซ้อนกันมา แปลอย่างเดียวกัน

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 45)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2019
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/559000010707231_zpsslpbpofn.jpeg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/559000010707231_zpsslpbpofn.jpeg" border="0" alt=" photo 559000010707231_zpsslpbpofn.jpeg"/></a>


    น้ำพระทัยพระเจ้าอยู่หัว


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0115_zps0ahup0yu.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0115_zps0ahup0yu.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0115_zps0ahup0yu.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0119_zpsiv7lp7uh.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0119_zpsiv7lp7uh.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0119_zpsiv7lp7uh.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0122_zpsbdlqchs2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0122_zpsbdlqchs2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0122_zpsbdlqchs2.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0134_zps09vr12ng.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0134_zps09vr12ng.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0134_zps09vr12ng.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0141_zpsxywiv0py.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0141_zpsxywiv0py.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0141_zpsxywiv0py.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0149_zpshqyax20n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0149_zpshqyax20n.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0149_zpshqyax20n.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0154_zpsyzbamdl9.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0154_zpsyzbamdl9.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0154_zpsyzbamdl9.jpg"/></a>

    (จากหนังสือธัมมวิโมกข์ เดือนมิถุนายน 2533 หน้า 29 - 35)


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/559000010707233_zpsn9cu8hb3.jpeg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/559000010707233_zpsn9cu8hb3.jpeg" border="0" alt=" photo 559000010707233_zpsn9cu8hb3.jpeg"/></a>
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    รอยยิ้มพ่อหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • KingSmile.jpg
      KingSmile.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9 KB
      เปิดดู:
      93
    • Sadhu.jpg
      Sadhu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.7 KB
      เปิดดู:
      68
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    พระนิพพาน

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0207_zpsfs3z7aur.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0207_zpsfs3z7aur.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0207_zpsfs3z7aur.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0212_zpstlan3bvo.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0212_zpstlan3bvo.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0212_zpstlan3bvo.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0217_zpsunow3qfv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0217_zpsunow3qfv.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0217_zpsunow3qfv.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0221_zps4qj43nsn.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0221_zps4qj43nsn.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0221_zps4qj43nsn.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0235_zpslpdatlzx.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0235_zpslpdatlzx.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0235_zpslpdatlzx.jpg"/></a>

    (จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุงเล่ม 1 หน้า 118-122)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2021
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ล่วงเกินหลวงพ่อ/ใจปรามาสพระรัตนตรัย

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/d_zpscprw8u3j.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/d_zpscprw8u3j.jpg" border="0" alt=" photo d_zpscprw8u3j.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/e_zpssxauaqxm.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/e_zpssxauaqxm.jpg" border="0" alt=" photo e_zpssxauaqxm.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/f_zpsqrq2n3mb.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/f_zpsqrq2n3mb.jpg" border="0" alt=" photo f_zpsqrq2n3mb.jpg"/></a>


    (จากธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2530 หน้า 75-76)


    ภาพจากธัมมวิโมกข์นำมาจาก E-Book เวบวัดท่าซุง ท่านสามารถหาอ่านหนังสือเล่มต่างๆได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ


    http://thasungmedia.com/wat/puy/ebook/index.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2020
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    [​IMG]


    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน ณ วัดสามพระยา...
    ขณะถวายสักการะแด่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) ณ วัดสามพระยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2016
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    พุทธพยากรณ์โลก


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0012_zpsgmacqzpp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0012_zpsgmacqzpp.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0012_zpsgmacqzpp.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0019_zps3iqfjjyb.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0019_zps3iqfjjyb.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0019_zps3iqfjjyb.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0020_zpsgyhyoeen.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0020_zpsgyhyoeen.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0020_zpsgyhyoeen.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0027_zps9w9zo9gs.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0027_zps9w9zo9gs.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0027_zps9w9zo9gs.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0033_zpsepyznpuc.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0033_zpsepyznpuc.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0033_zpsepyznpuc.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0037_zpsu3xgkajv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0037_zpsu3xgkajv.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0037_zpsu3xgkajv.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0042_zpsgogarmto.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0042_zpsgogarmto.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0042_zpsgogarmto.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ หน้า 226 - 232)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2021
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337

    คำพยากรณ์ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ใย) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0033_zps5a6hruo7.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0033_zps5a6hruo7.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0033_zps5a6hruo7.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0037_zpsd1cvtok5.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0037_zpsd1cvtok5.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0037_zpsd1cvtok5.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0040_zps9npmtykj.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0040_zps9npmtykj.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0040_zps9npmtykj.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0043_zpsjj39vvaa.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0043_zpsjj39vvaa.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0043_zpsjj39vvaa.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0052_zps7uwpermt.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0052_zps7uwpermt.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0052_zps7uwpermt.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0057_zpsxd5pu9vy.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0057_zpsxd5pu9vy.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0057_zpsxd5pu9vy.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0060_zpsx2hcr3k5.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0060_zpsx2hcr3k5.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0060_zpsx2hcr3k5.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0065_zps4cgt2xfp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0065_zps4cgt2xfp.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0065_zps4cgt2xfp.jpg"/></a>

    (จากหนังสือพระเมตตา เล่ม 1 หน้า 52 -29)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2016
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    คำพยากรณ์ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ใย) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา (ต่อ)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0070_zpsmdin0rjg.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0070_zpsmdin0rjg.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0070_zpsmdin0rjg.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0073_zps1oujjm6d.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0073_zps1oujjm6d.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0073_zps1oujjm6d.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0079_zps5yojp7d6.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0079_zps5yojp7d6.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0079_zps5yojp7d6.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0081_zpsrxdrz9m3.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0081_zpsrxdrz9m3.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0081_zpsrxdrz9m3.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0086_zps0fabh5ta.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0086_zps0fabh5ta.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0086_zps0fabh5ta.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0089_zpsnb8yvygy.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0089_zpsnb8yvygy.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0089_zpsnb8yvygy.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0097_zpseoycjklw.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0097_zpseoycjklw.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0097_zpseoycjklw.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0099_zps52ddbpds.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0099_zps52ddbpds.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0099_zps52ddbpds.jpg"/></a>

    (จากหนังสือพระเมตตา เล่ม 1 หน้า 60 - 67)
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    [​IMG]
    [​IMG]

    ผ้ากาสายะของหลวงพ่อ แจกในงานทำบุญที่ระลึก 100 ปีเกิดหลวงปู่ปานในปีพ.ศ. 2518
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0044_zpsdmbphuwq.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0044_zpsdmbphuwq.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0044_zpsdmbphuwq.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0049_zpszlzhxsy6.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0049_zpszlzhxsy6.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0049_zpszlzhxsy6.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0051_zpssqunxbs0.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0051_zpssqunxbs0.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0051_zpssqunxbs0.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0057_zpsk1zp0uk0.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0057_zpsk1zp0uk0.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0057_zpsk1zp0uk0.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0063_zps4o6m93mh.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0063_zps4o6m93mh.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0063_zps4o6m93mh.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0068_zpsxcnusy0k.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0068_zpsxcnusy0k.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0068_zpsxcnusy0k.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0070_zpssfeowaja.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0070_zpssfeowaja.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0070_zpssfeowaja.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0076_zpscyzybaf7.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0076_zpscyzybaf7.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0076_zpscyzybaf7.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ หน้า 233 - 240)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2021
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    เรื่องน่ารู้จากพระสูตร ตอนอายุขัย

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0111_zpsfnxnhjhz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0111_zpsfnxnhjhz.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0111_zpsfnxnhjhz.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0116_zpsohkqeyaq.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0116_zpsohkqeyaq.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0116_zpsohkqeyaq.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0122_zpsoc8wpzt7.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0122_zpsoc8wpzt7.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0122_zpsoc8wpzt7.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0127_zpsnevfygtz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0127_zpsnevfygtz.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0127_zpsnevfygtz.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 45 หน้า 102 - 105)

    หมายเหตุ : ก.ษ.ป. ย่อจาก "โกษาป่อง" เป็นนามปากกาของพล.อ.ท.ม.ร.ว. เสริม ศุขสวัสดิ์ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2020
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337

    ประสบการณ์ฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังของคุณสมศรี ตั้งศิริพร


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0151_zps6waygxq0.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0151_zps6waygxq0.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0151_zps6waygxq0.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0155_zpsivunw9fv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0155_zpsivunw9fv.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0155_zpsivunw9fv.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0156_zpsx6a81syt.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0156_zpsx6a81syt.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0156_zpsx6a81syt.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0162_zps04uzpxkd.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0162_zps04uzpxkd.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0162_zps04uzpxkd.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0164_zpsdjdgplfp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0164_zpsdjdgplfp.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0164_zpsdjdgplfp.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0169_zps1eg7m3to.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0169_zps1eg7m3to.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0169_zps1eg7m3to.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0173_zpslgxvczyn.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0173_zpslgxvczyn.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0173_zpslgxvczyn.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0177_zps4vraoaqg.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0177_zps4vraoaqg.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0177_zps4vraoaqg.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0181_zpsfnhc8f0q.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0181_zpsfnhc8f0q.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0181_zpsfnhc8f0q.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0185_zpscnhixapk.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0185_zpscnhixapk.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0185_zpscnhixapk.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0189_zpsyifat29o.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0189_zpsyifat29o.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0189_zpsyifat29o.jpg"/></a>


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0196_zpsuheitohz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0196_zpsuheitohz.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0196_zpsuheitohz.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/DSC_0201_zpsg2ea6dml.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/DSC_0201_zpsg2ea6dml.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0201_zpsg2ea6dml.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ เมษายน 2538 หน้า 72 - 84)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2021
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    เรื่องของดวงดาว/ฝันเห็นหลวงพ่อกับในหลวง

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0057_zpsq2pp2a4o.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0057_zpsq2pp2a4o.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0057_zpsq2pp2a4o.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0063_zpsckaq8zbu.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0063_zpsckaq8zbu.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0063_zpsckaq8zbu.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2540 หน้า 70 - 71)
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    คาถา "สัมปติจฉามิ(สัมปติฉามิ)"



    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0044_zpsjwwf26tv.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0032_zpsnbqwmgmp.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0036_zps6aq3afyw.jpg"/></a>


    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 45)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2019
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นประเทศไทยจะเป็นเจ้าโลก, สนทนาเรื่องสงครามโลก

    ยักษ์นอกศาสนารบกันต่างฝ่ายตายฝ่ายละครึ่งถึงเลิกรากัน หลวงพ่อบอกว่า ไม่พอ 20 ล้านละมั๊ง....เห็นจะร้อยล้าน

    มาอ่านเรื่องที่หลวงพ่อเล่ากันดูครับ


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0001_zps1jypusgz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0001_zps1jypusgz.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0001_zps1jypusgz.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0009_zpsnheu5cmi.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0009_zpsnheu5cmi.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0009_zpsnheu5cmi.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0014_zps9tzjpo0f.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0014_zps9tzjpo0f.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0014_zps9tzjpo0f.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0019_zpsct883x7k.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0019_zpsct883x7k.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0019_zpsct883x7k.jpg"/></a>

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0026_zpsnmnu8igo.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0026_zpsnmnu8igo.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0026_zpsnmnu8igo.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2545 หน้า 66-70)

    [​IMG]
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/GIF/fallout-4-nuclear-bomb-gif-animation_zps0wtri3b2.gif.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/GIF/fallout-4-nuclear-bomb-gif-animation_zps0wtri3b2.gif" border="0" alt=" photo fallout-4-nuclear-bomb-gif-animation_zps0wtri3b2.gif"/></a>
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0062_zpsboy8d0wb.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0062_zpsboy8d0wb.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0062_zpsboy8d0wb.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 91)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0050_zpspxxfipm8.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0050_zpspxxfipm8.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0050_zpspxxfipm8.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 66)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Doc/DSC_0056_zpszj6hnugu.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Doc/DSC_0056_zpszj6hnugu.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0056_zpszj6hnugu.jpg"/></a>



    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 78)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2019
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    เรื่องศพหลวงพ่อ, งานสาธาราณประโยชน์, เรื่องการสร้างวัดพุทธไชโย, สร้างวัดท่าซุง, อนาคตวัดท่าซุง, เรื่องรวบรวมเทปธรรมะ, เรื่องเมรุเก่า

    DSC_0099_zps6phx2qa4.jpg b.jpg c.jpg d.jpg e.jpg f.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ มิถุนายน 2536 หน้า 94 - 99)


    เรื่องเล่าจากหมวดตระกูล


    ในบรรดาลูกศิษย์รุ่นแรกๆของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เริ่มตั้งแต่ก่อร่างสร้างวัด
    กันมา ร.ต.ต. ตระกูล เปาริก เป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อคนหนึ่ง ได้รู้ได้เห็นปฏิปทาของหลวงพ่อมาอย่างต่อเนื่อง หมวดตระกูลเคยเล่าประสบการณ์หลายเรื่องให้ฟังกัน ซึ่งพวกเรามัวแต่ชะล่าใจว่าอยู่ใกล้ๆ เลยไม่ทันได้ถ่ายทำไว้ มาตื่นตัวอีกทีก็เมื่อหมวดตระกูลป่วยและจากพวกเราไปแล้ว เลยต้องบันทึกข้อมูลเผื่อให้คนรุ่นหลังไว้

    เรื่องแรก ระหว่างปี 2514-2518 ปีไหนจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าปีนั้นน้ำท่วมวัด ในช่วงนั้นโบสถ์ใหม่ยังไม่ใด้สร้าง ต้องใช้แพโบสถ์น้ำในการทำสังฆกรรม ตำแหน่งของแพโบสถ์น้ำก็ประมาณแพปลาในแม่น้ำสะแกกรังหน้าวัดในปัจจุบันนี้

    มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อเดินถือแผ่นทองแดงปึกหนึ่ง กะคร่าวๆประมาณ 10 แผ่น เดินไปแพโบสถ์น้ำ (ระหว่างนั้นยังไม่ได้สร้างหอฉัน) หมวดตระกูลก็เดินตามไป ที่แพจะมีกระดานเป็นสะพานทอดข้ามอยู่ พอหลวงพ่อขึ้นแพไปแล้วก็เดินไปลงน้ำอีกด้านหนึ่ง และในขณะที่หลวงพ่อเดินลงน้ำเหมือนมีขั้นบันไดรับเท้าหลวงพ่อลงไปทีละขั้นจนมิดศีรษะหายไป ด้วยความที่ได้ติดตามและเห็นอภินิหารของหลวงพ่อมาหลายครั้งทำให้หมวดตระกูลมั่นใจว่าหลวงพ่อคงจะลงไปทำตะกรุดใต้น้ำ

    แต่คราวนี้หลวงพ่อลงไปนานมากน่าจะเกินครึ่งชั่วโมง จนหมวดตระกูลร้อนใจเป็นห่วงหลวงพ่อ เตรียมตัวจะถอดเสื้อตามลงไป ก็พอดีกับหลวงพ่อเดินขึ้นมา การเดินก็คล้ายๆกับเดินขึ้นบันไดมาทีละชั้น เมื่อขึ้นมาแล้วสังเกตว่าจีวรหลวงพ่อก็ไม่เปียก ส่วนตะกรุดนั้นม้วนเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเดินถือกำขึ้นมาแล้วกลับกุฏิไป ตะกรุดชุดนั้นหมวตตระกูลบอกว่าหลวงพ่อน่าจะแจกให้กับญาติโยมที่อุปัฏฐากวัดในขณะนั้น เช่น ท่านเจ้ากรมเสริม ท่านเจ้ากรมอาทร เป็นตัน

    เรื่องตะกรุดใต้น้ำนี้ได้ยินมาอีกครั้งว่าหลวงพ่อท่านเคยปรารภกับศิษย์ใกล้ชิดในช่วงประมาณปี 2533-2535 ว่าใครอยากได้ตะกรุดให้นำแผ่นทองแดงมา หลวงพ่อท่านจะไปทำในน้ำให้ ตำรวจทหารที่ดูแลหลวงพ่ออยู่ในขณะนั้น ก็รวบรวมถวายไปจำนวนหนึ่งท่านก็ทำมาให้ แต่ครั้งนี้ไม่มีใครเห็นว่าท่านไปทำที่ไหนอย่างไร


    เรื่องที่สอง มีอยู่คราวหนึ่งมีขโมยเข้ามาลักของในวัด หลังจากสืบเสาะจนได้ความแล้ว
    หมวดตระกูลก็ตามไปที่บ้าน ไปถามตรงๆขโมยยอมรับ หมวดก็ยิงเลย เสร็จแล้วก็กลับวัดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พอพบหลวงพ่อท่านก็ถามว่าแกไปยิงเขามาหรือ หมวดก็ยอมรับแล้วถามว่าหลวงพ่อรู้ไดัอย่างไรครับ ท่านตอบว่า มันเดินตามหลังแกมา หมวดก็ถามว่าแล้วจะทำอย่างไรดีครับ หลวงพ่อบอกให้หยิบกิ่งไม้วางข้างหลังแล้วภาวนา สัมปะติจฉามิ เดินไปข้างหน้าอย่าหันกลับไปมอง


    เรื่องที่สาม ทางเข้าตีกอินทราพงษ์ที่พักของหลวงพ่อในอดีตจะมีประตู 2 ประตู คือประตูรั้ววัดและประตูเหล็กยืดท้ายศาลาหลวงพ่อ 5 พระองค์ มีกำหนดเปิด-ปิดเป็นเวลา มีอยู่วันหนึ่งตอนเย็นๆ ปิดประตูแล้ว หลวงพ่อท่านคงมีธุระไปฝั่งศาลานวราชบพิตร ท่านเดินไปหมวดตระกูลก็เดินตามไปห่างๆ เพราะมีหมาห้อมล้อมติดตามหลวงพ่ออยู่ พอไปถึงประตูเหล็กหลวงพ่อก็เดินทะลุประตูไปเฉยๆ พร้อมกับหมาอีก 1 ฝูง หมวดตระกูลต้องหยิบลูกกุญแจออกมาไขแล้วจ้ำตามหลวงพ่อไป เป็นแบบนี้ทั้ง 2 ประตู

    เรื่องที่สี่ เรื่องหางพลูของหลวงพ่อ สมัยหนุ่มๆ หมวดตระกูลเป็นคนเจ้าชู้ไม่ธรรมดา มี
    วีรกรรมเล่าขานมากมาย มีอยู่คราวหนึ่งพบสาวงามถูกใจ พยายามเจริญสัมพันธไมตรีทุกวิถีทางแต่กลับถูกสาวพูดจาสบประมาทจนเสียหน้าอย่างรุนแรง หมวดตระกูลมาเล่าความคับแค้นใจระบายให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อท่านฉันหมาก ฉันเสร็จท่านยื่นหางพลูให้หมวดตระกูล หมวดตระกูลรับมาอธิษฐานกินแล้วกลับไปใหม่ หมวดบอกว่าคราวนี้สำเร็จ (เรื่องนี้สันนิษฐานว่าหลวงพ่อท่านคงสงเคราะห์ตามกฎแห่งกรรมของแต่ละคน)


    เรื่องที่ห้า เป็นเรื่องแถม ไม่ใช่เรื่องเล่าจากหมวดตระกูล แต่เป็นเรื่องของหมวดตระกูลที่เล่าโดยจ่าตุ่ม (ดต.ไพโรจน์ ทิมแท้) จ่าตุ่มเป็นช่างทำมีดมือ 1 ของประเทศไทย มีฉายาว่า จ่าตุ่มมีดเทวดา ถึงแม้ภายหลังจะเป็นนายดาบแล้วก็ยังเรียกจ่ากันติดปาก จ่าตุ่มเป็นผู้บุกเบิกการทำมีดจนเป็นตำนานมีดเมืองอุทัยธานีทุกวันนี้

    มีดจ่าตุ่มนั้นมีทั้งที่เป็นมีดใช้งานคุณภาพดี (ดีจนเจ้าของไม่กล้าใช้เพราะกลัวมีดเป็นรอยสกปรก) ไปจนถึงมีดของนักสะสมที่ทำด้วยเหล็กคุณภาพดีประดับตัวยอัญมณีและวัสดุสูงค่า เป็นงานศิลปะชั้นสูงที่ยากจะหาคนทำได้ใกล้เคียง

    จ่าตุ่มเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหมวดตระกูลสมัยที่รับราชการตำรวจ ในยุคที่ยังมีการต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ มีพื้นที่รับผิดชอบอยู่แถวๆ อำเภอบ้านไร่ มีลูกน้องที่อยู่ในชุดลาดตระเวนอยู่ 4 คน จ่าตุ่มเล่าว่า จ่าตระกูลแกเป็นคนมีวิชา ทุกๆเช้าก่อนกินข้าว จ่าตระกูลจะต้องแบ่งข้าวและกับข้าวใส่ใบไม้เอาไปวางโคนตันไม้ และทุกครั้งก่อนออกลาดตระเวนจะให้ลูกน้องคุกเข่าพนมมือเข้าไปหาทีละคน จ่าตระกูลจะว่าคาถาและหยิบดินโรยบนศีรษะให้ทุกคน ในสมัยที่ติดตามจ่าตระกูลอยู่นั้นมีการปะทะกับผู้ก่อการร้ายบ่อยมาก แต่ชุดของจ่าตระกูลไม่เคยมีใครโดนยิงตายหรือบาดเจ็บเลย จ่าตุ่มว่างั้น (จ่าตุ่มเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2546)


    (จากธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2556 หน้า 128-129)

    ถูกขโมย 1.jpg ถูกขโมย 2.jpg ถูกขโมย 3.jpg

    ถูกขโมยงัดบ้านเรื่อย



    ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ คือว่าหมู่นี้ลูกโชคดีตลอด เดือนหนึ่งถูกขโมยงัดบ้านหลายครั้ง วิทยุ โทรทัศน์ ไอ้โน่น ไอ้นี่ แต่ลูกก็คิดว่า เป็นกฏของกรรม คือชอบผิดศีลข้อ 2

    เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เกิดความไม่สบายใจว่า ต่อไปข้างหน้ามันจะขโมยหรือเปล่า

    หลวงพ่อ : ความจริงคนนี้ดีนะ เข้าถึงอริยสัจ

    ผู้ถาม : หลวงพ่อ ของหายยังมีอริยสัจอีกหรือครับ ?


    หลวงพ่อ : อ้าว... อริยสัจมันขึ้นอะไร ขึ้นทุกข์ ของหายก็เกิดเป็นทุกข์แล้วในอริยสัจ ทีนี้ต่อไป เหตุให้เกิดทุกข์คือสมุทัย เพราะมีของมาก ถ้าเราไม่มีของ ขโมยมันจะเอาอะไร ใช่ไหมล่ะ

    ต่อไปก็นิโรธะ ความดับทุกข์ เพราะหมดแล้ว ไม่รู้จะใช้อะไรแล้ว ต่อไปก็มรรค แสวงหาต่อไป ไม่หาก็ไม่มีใช้...

    ผู้ถาม : อ๋อ เป็นอริยสัจอย่างนี้เองนะ

    หลวงพ่อ : เอาอย่างนี้ซิ ลองใช้คาถาของพระพุทธเจ้าท่านนะ ตั้งใจว่าเป็นสมาธิสัก 3 นาที

    "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิง กะระณัง ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ อะระหังปิตัง ชานามิ ชานามิ"

    บทนี้ท่านบอกสมัยเมื่อท่านจุลปัณฑก เป็นลูกมหาเศรษฐี ใช่ไหม เรียนกับอาจารย์ เรียนยังไงก็เรียนไม่ได้ เขาเรียนวิชาการต่างๆ แต่องค์นี้เรียนไม่ได้ ปัญญาทึบ

    ต่อมาเมื่อตอนจะกลับบ้าน ตอนอยู่ปฏิบัติอาจารย์ดีมาก อาจารย์ก็เห็นใจ ลูกศิษย์คนนี้กลับบ้านไป ไม่มีอะไรไปเลย ควรจะสนองความดี จึงสอนคาถาบทนี้ แค่นี้ท่องยัน 7 วันได้ แกก็ได้มาเท่านั้น

    ต่อมาอยู่ที่บ้าน มีวันหนึ่งขโมยมันจะเข้าไปลักของในบ้าน พระเจ้าปเสทิโกศลเดินเข้าไปตรวจเวลากลางคืน ก็เห็นคนมันขุดรั้วจะเข้าไป ท่านก็นั่งดูคิดว่า ถ้าเข้าไปจริงจะสั่งเจ้าหน้าที่จับ ท่านจุลปัณฑก ท่านตื่นขึ้นมา ก็ท่องคาถา "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิง กะระณัง ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ อะระหังปิตัง ชานามิ ชานามิ"

    ขโมยเปิดหนีเลยเพราะคาถาบทนี้ ต่อมาท่านจุลปัณฑกได้เป็นพระอรหันต์ ลองไปใช้ดูนะ สมัยปัจจุบันนี้ มีคนไปใช้หลายราย เขาบอกว่า ขโมยจะปล้นร้าน ปรากฏว่าไม่มีใครเข้าปล้น

    ผู้ถาม : อย่างนี้ก็ ประตูประเตอ ไม่ต้องปิด

    หลวงพ่อ : ไม่ต้องปิด ขโมยยิ้มร่า ขโมยกลัว กลัวความดี ขนหมด

    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่มที่ 10 หน้า 22)


    เรื่องบวชตลอดชีวิต


    มีคนปรารภเรื่องตั้งใจบวชตลอดชีวิต พระครูปลัดอนันต์ แนะนำว่า

    การบวชตลอดชีวิตมารมันเอาเราเหมือนกัน มารก็คือกิเลสของตัวเราเองนี่แหละ ก็มี
    พวกกันตั้งหลายคน รุ่นนายทหาร รุ่นท่านอาจินต์นี่แหละ บวชหลายองค์ ตอนหลังสึก
    หมด อย่างยกทรงพวกกันน่ะรู้ดี

    "เพื่อนของผมหนักกว่านั่นหน่อย ไปที่โคนโพธิ์ที่อินเดีย อธิษฐานข้าพระพุทธเจ้า
    ขอเป็นพระพุทธเจ้าในเร็วๆนี้เถิด กลับมาอยู่กุฏิไม่ได้เลย ต้องวิ่งแอบไปอยู่วัดโพธิ์ ใครนิมนต์เทศน์ ด่ามันแหลกเลย อยู่ได้แค่ 7 วัน เตสังวูปะสะโม สุโข นี่พุทธภูมิ"

    พุทธภูมิต้องสึก ต้องไปหาสาวกนี่

    "โอ..ใช่ๆ ต้องมีสาวก"

    คือว่าพ่อแม่ต้องการให้ลูกบวช ลูกบวชแล้วสบายใจ คือไม่มีกังวล เพราะอยู่ในขอบวัด หลวงพ่อบอกว่าแม้นว่าพระเป็นคนเลว บวชแล้วก็ยังทำตัวเลวอยู่ พ่อแม่เขาก็ไม่รู้ แต่พ่อแม่รู้ว่าลูกชายบวชในพระพุทธศาสนา มีความชื่นใจ เท่านี้พ่อแม่ตายแล้วไปสวรรค์ อย่างน้อยนะ

    เมื่อเราบวชแล้ว มันไม่มีอะไรหนักหรอก มันรบกับนิวรณ์ เรื่องที่อยู่อาศัย ยศถาบรรดาศักดิ์ เกียรติยศ ชื่อเสียง เสื้อผ้าอาภรณ์ ไมได้คิดจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความกังวลเรื่องนั้นไม่มี มันกังวลอยู่กับนิวรณ์ ความฟุ้งช่านของจิตเท่านั้นเอง ปัญหาอยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง จะตั้งใจแข็งเกินไป ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็เอาเรื่อง

    คือว่า "มัชณิมาปฏิปทา" มันต้องมีผ่อนสั้นผ่อนยาว บางทีอกุศลกรรมมันให้ผลทำให้เร่าร้อนใจ เราก็ต้องรู้เท่าทัน เมื่อมันให้ผลจะเอาบารมีตัวใดมาใช้ อย่างฉันนี่เป็น 10 ปี ฟังเทปไม่ได้ฟังหูซ้ายทะลุหูขวาก็ยังดี มันไม่เข้าหูเลย คือมันไม่เข้าไปในที่จิตเราเลย พอได้ยินเสียงมันเบื่อขึ้นมาเลย ตัวเองนะ โอ้ย..ทำยังไงโว้ย กลุ้มเหลือเกิน ภาวนามันก็ไม่ภาวนา ไม่มีกำลังใจภาวนา

    "ที่ว่านี่บวชหรือยังนี่"

    ยังบวชอยู่ซิ

    "ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ"

    แต่ไม่คิดสึกเท่านั้นเอง เอาขันติบารมีมาใช้ได้ 1 ตัว ตัวอื่นใช้ไม่ได้แล้ว มันไม่มีกำลัง
    สู้กับมัน นี่ทนๆๆ แต่ไม่ได้ทำความชั่วอะไร พอมันคลายปุ๊บก็ภาวนา พอสู้กับมันได้ ถ้ามันเหนือกว่าเรา เราก็สู้ไม่ไหว เดี๋ยวประสาทเครียดไปใหญ่เลย ฉะนั้นถ้าพระมีปัญหาหนักใจจะต้องคุยกัน อย่าไปเก็บความร้อนไว้ในใจ

    พวกที่เคร่งมีอะไรเก็บไว้เงียบๆ ระเบิดตูม ถอดผ้าเหลืองออกไปเลย อย่างนี้ทุกคน ฉะนั้นเรื่องบวช จะไม่ชวนใครบวชตลอดชีวิต ไอ้ความพอดีของคนไปบอกกันไม่ได้ มัชฌิมาปฏิปทานะ มันกลางของเราซิ ไม่กลางของคนอื่น ถ้าใครจะบวชตลอดชีวิตมันต้องมีลูกยืดหยุ่นเยอะ ยืดหยุ่นกับไอ้กิเลสนี่นะ แรงเกินไปก็ไปแล้วอยู่ไม่ได้ หย่อนเกินไปก็ไม่ไหวอีก ต้องใช้ปัญญาประกอบไปตลอดเลย

    "เพื่อนกันมีอยู่องค์หนึ่ง พอผู้หญิงมาปั๊บแกไม่มองเลย ก้มเลย พูดคำตอบคำ ได้สัก
    20 กว่าวันไปตัดกางเกงเสียแล้ว สึกเลย"

    อันที่จริงถ้าบวชได้อยากให้บวชกัน เพราะว่าความสุขมีมากจริงๆนะ ความสุขจาก
    ความไม่กังวลน่ะ คิดดูก็แล้วกันมีกินไม่มีกินไม่ต้องกังวล การแต่งตัวไม่กังวล ที่อยู่อาศัยไม่กังวล ยศถาบรรดาศักดิ์ไม่กังวล ศักดิ์ศรีไม่กังวล แต่ฆราวาสตรงข้ามกันเลย จะต้องหาให้ได้มากเพื่อตัวเอง แล้วต้องเผื่อพี่น้องเพื่อนพ้องอีก ถ้าแต่งงานมีลูกมีเต้าก็ต้องเผื่อลูกหลานเหลนอีก ต้องเตรียมหมดทุกอย่าง

    ไม่ใช่คิดเฉพาะวันนี้ พรุ่งนี้ทั้งชีวิตต้องคิดล่วงหน้าไว้เลย พระพรุ่งนี้ยังไม่คิดเลย ความกังวลเหล่านี้มันไม่มี มันจึงเบาจิต จิตไม่มีทุกข์เรื่องพวกนี้ คนเราไม่ใช่ทำวันเดียวบรรลุเลยหรอก มันเหมือนเราตัวเท่านี้ กินข้าวมา 20 กระสอบ ไม่ได้กินวันเดียวนี่ กินทีละหน่อยๆ มันถึงตัวเท่านี้ได้

    หลวงพ่อเคยสอนว่า เรารักษาศีลเจริญภาวนานั่งกรรมฐาน บางครั้งมันก็มีความโกรธความโลภความหลงมันก็มีอยู่ แต่ท่านบอกให้ไปวัดกำลังใจก่อนที่เรามาปฏิบัติธรรม เขาด่าเรามาคำหนึ่งเราไปสิบ แถมให้ดอกไปเลยแต่เมื่อเรามาปฏิบัติธรรมแล้ว เขาด่าเรามาคำเราไปคำ แสดงว่าลดไปตั้ง 9 แล้ว บางทีเขาด่าเรามาคำเราไปครึ่ง บางทีเขาด่ามาคำเราอดได้ หลวงพ่อบอกให้ดูความดีตรงนี้ ดูจิตของเราตรงนี้ ความดีมันจะสะสม ให้ดูตัวเองไม่ต้องให้ใครเขามายอเราหรอก

    สมัยก่อนหลวงพ่อบอกให้ดูความผิดของตัวเราเองอยู่เสมอ ก็เหมือนเก็บของ ถ้าไปเก็บแต่ความดีออกความชั่วมันก็พอกพูน ถ้าเก็บความชั่วออก มันก็เหลือแต่ความดี


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 158 เมษายน 2537 หน้า 93-94)


    ยำท่านย่า

    "ตอนที่หลวงพี่มาอยู่กับหลวงพ่อใหม่ๆ หลวงพ่อผอมหรืออ้วนครับ"

    ยังผอม หลวงพ่อเพิ่งอ้วนเมื่อไม่กี่ปีนี้ ที่อ้วนนี้เพราะว่าท่านแม่ศรีหรือใครให้กินมันหมูต้ม มัน 3 ชั้นจิ้มน้ำปลา สั่งให้กินยังไงก็ต้องกินยังงั้น

    เย็นๆท่านจะคุยเรื่องอาหารเหมือนกัน วันนี้จะกินอะไร ท่านย่าก็ดี แม่ศรีก็ดี จะสั่งอาหารตอนจะฉันยา พรุ่งนี้ต้มหัวปลีนะ ทำนั่นทำนี่

    มีอยู่วันหนึ่ง สั่งอาหารชื่อ "ยำท่านย่า"

    ท่านย่าสั่งบอกว่า เอาเห็ดฟางมาต้มนึ่งให้สุก แล้วก็เอาเนื้อมาย่าง ตำโขลกพริกใส่มะนาว น้ำปลา น้ำตาลหน่อย พอโขลกพริกแล้วเอามะนาวบีบ ให้รสจัด เอาเห็ดฟางเนื้อย่างหั่นเป็นชิ้นๆใหญ่ๆ เอาแตงกวาลูกขาวๆหั่นซอยเคล้ากันให้ดีรสจะแซบ เราได้ยินแล้วกลืนน้ำลายเอื้อก

    หลวงพ่อหันมาเห็น ไอ้นี่มันน้ำลายไหลแล้วนี่


    "ที่ทำนี่ทำถวายหลวงพ่อใช่ไหมครับ"

    ถวายหลวงพ่อ ตอนหลังเขาก็ทำถวายเรา

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 158 เมษายน 2537 หน้า 96)

    เรื่องการแจกของแก่ผู้ยากจน

    มีคนปรารภว่าการแจกของให้แก่พวกกะเหรี่ยงทำให้กะหรี่ยงขี้เกียจ ไม่ทำมาหากิน พระครูปลัดอนันต์จึงชี้แจงว่า

    การแจกของของที่เราแจกไปกิน 3 วันก็หมดแล้ว ถ้าพวกกะเหรี่ยงมัวแต่รอเราแจกไม่ทำมาหากินมันตายไปหมดแล้ว มันไม่จริงตามนั้นนี่

    พวกเราทำนี่ไม่ได้ยอตัวเองนะทำด้วยใจ คือไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร หวังอยากจะให้ใจมันเป็นกุศล ถึงทำกันได้ แต่คนอื่นเขาจะเป็นอย่างไรไม่รู้ เขาจึงมีความคิดอย่าง
    นี้ ฉะนั้นหลวงพึ่จึงทำงานไม่อยากผ่านเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผ่านไปทางทหารตรงเลย ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมาก เราออกแจกของเรา คนของเราก็ได้สัมผัสกับของจริง พวกเด็กๆที่ไปก็ได้ออกพื้นที่ได้ไปช่วยกันการแจกของ นี่พูดไปเหมือนกับทำง่ายๆ แต่เวลาไปแจกจริงๆแล้วไม่ใช่ง่าย

    ตอนขึ้นเขารถบรรทุกขึ้นไม่ไหวเป็นทางขึ้นแล้วก็หักศอกชันขึ้นไปอีก มันไม่มีแรงส่ง ต้องไปถ่ายรถกัน ออกจากวัดท่าซุงเที่ยง ไปถึงบ่าย 3 โมงกว่า ก็ด้วยความเหน็ด
    เหนื่อยล่ะนะ ถ่ายของหนักทั้งนั้น ก็เป็นภาพที่น่าประทับใจ เห็นความสามัคคีจึงสำเร็จงานนี้ได้

    "ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่ได้ก็คือ พวกที่รับของแจกเขามีความกตัญญูรู้คุณ และเขา
    จะได้เป็นมือเป็นเท้าให้แก่ทหารเท่ากับว่าเป็นรั้วป้องกันประเทศชาติไปในตัว โอกาสที่เขาจะได้กินราดหน้า คงจะหายากนะ"

    มีราดหน้า มีข้าวหมูแดง มีข้าวตัม มีกาแฟ ผู้การสถาพรบอกว่า เอ๊ะ มันมีกินดีกว่า
    ที่วัดเราอีกนะนี่

    "ดีนะ ทุกปีเราจะได้ไปกัน เป็นงานสาธารณประโยชน์"

    ขอนำคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่กล่าวถึงอานิสงส์ของการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน หลวงพ่อบอกว่า

    "ในแดนใดถ้ามีสังคหวัตถุ มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน

    1. ทาน การให้ เป็นปัจจัยปลูกความรัก
    2. ปิยวาจา มีวาจาอ่อนหวาน มีวาจาไพเราะ
    3. อัตถจริยา ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่น หมายความว่า ใช้ร่างกายของเราให้เป็นประโยชน์แก่คนที่เราจะสงเคราะห์
    4. สมานัตตตา ไม่ถือตัวถือตน

    ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้ดินแดนที่เราอยู่ก็มีความสุขไม่มีอันตราย การที่มีอันตรายเกิดขึ้นจากทรัพย์สินมีการปล้นกันบ้าง แย่งชิงกันบ้าง ก็เพราะอาศัยความยากจนเป็นเหตุ"

    ที่มาของศูนย์ฯ

    หลวงพ่อบอกว่า "ศูนย์ที่อาตมาตั้งขึ้นที่มีนามว่าศูนย์สงเคราะห์บุคคลที่ยากจนในถิ่นทุรกันดาร ตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2520 ทรงขอร้องบอกว่าอยากจะให้หลวงพ่อตั้งศูนย์ฯขึ้น เพื่อการสงเคราะห์บุคคลที่ยากจนในถิ่นทุรกันดาร อาตมาก็จัดขึ้น ฉะนั้นศูนย์นี้จึงถือว่าเป็นศูนย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างหนึ่ง

    และอีกประการหนึ่งพระองค์ก็ให้ทุนเริ่มต้นมา 3 แสนบาท แค่ปี 21 จ่ายจริงๆจากเงินที่ได้มาไป 1 ล้านบาทเศษ แต่ว่าสำหรับข้าวของที่ญาติโยมพุทธบริษัทบริจาคมาอีกหลายล้านบาท ปีนั้นรู้สึกว่าคนอดอยากมาก

    แต่ต่อมาก็คิดว่าการแจกฟรีแบบนั้นก็ดี แต่ว่าไม่เป็นพื้นฐานยืนยงคงทน เพราะว่าได้รับไปแล้วก็หมดไป ถ้าตั้งธนาคารข้าวตามพระราชประสงค์จะดีมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นอย่างนั้น

    แต่ว่าเรื่องอาหารการบริโภคผ้าผ่อนท่อนสไบก็ดี หรือว่ากับข้าวกับปลายารักษาโรคอันนี้ให้ฟรี ถ้าข้าวก็ให้ยืม ให้ยืมไปได้มาก็คืนทุน คืนทุนกับธนาคารข้าว อดใหม่ก็เอาไปกิน หากว่าศูนย์ฯทำได้มาอีกก็จะเพิ่มเติมเข้าไป เป็นการจรรโลงให้ท่านพวกนั้นทรงตัวได้ อันตรายก็จะไม่มีกับพวกเราที่มีฐานะดีกว่า"
    (คัดจากเทปออกอากาศที่สถานีวิทยุทหารอากาศเชียงราย วันที่ 24 มีนาคม 2523)

    "มิน่าล่ะ หลวงพ่อจึงต้องฝากบอกว่าลูกรัก เมื่อพ่อจากไปแล้วก็อย่าลืมงานที่หลวงพ่อมอบไว้ให้ แล้วอีตอนที่หลวงพ่อจะจากไปได้บอกกับท่านเจ้าอาวาสหรือเปล่าครับว่าจะมอบสมบัตินี้ให้ มีลูกรักไหมครับ"

    หลวงพ่อตอนหลังนี่ท่านปล่อยร่างกายจริงๆ ไม่เคยเห็นหลวงพ่อปล่อย จะเป็นธรรมชาติ เหมือนคนป่วยเต็มที่ ปล่อยหมดเลย ตอนป่วยตอนหลังเพิ่งเห็นภาพจริงๆว่าท่านปล่อยร่างกาย หลับตาตลอด อุ้มขึ้นรถโอนอ่อนไปหมดทั้งตัว รูปปั้นในห้องกระจกศาลา 2 ไร่คล้ายเป็นคนแก่น่ะนะเหมือนตอนหลวงพ่อป่วย ตอนธรรมดาร่างกายดีไม่เหมือนเลย

    "แสดงว่าสภาพจริงๆของหลวงพ่อน่าสงสารมากนะครับ"

    ความใจดีของท่านยัง..ขนาดท่านพูดไม่ไหว ตอนเข้าไปกับพระปลัดวิรัช ตาท่านลืมไม่ค่อยขึ้น ตาขาว เรียก "พระครูเหรอ" ลิ้นแข็งๆอยู่ พูดไม่ค่อยชัด ตาลอย บอกยานอนหลับมันค้าง"

    "เวลารับแขกท่านบังคับไม่ให้รู้เลยนะว่าป่วยเจ็บ เพื่อไม่ให้ลูกหลาน ไม่สบายใจ"


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 158 เมษายน 2537 หน้า 94-96)


    ท่องคาถาเงินล้านขายของดี


    ผู้ถาม : เมื่อคราวไปวัดโพธิ์เมืองปัก อ.ปักธงชัย ไปพบหญิงคนหนึ่งมากระซิบบอกว่า คาถาเงินล้านทำให้ขายผ้าขายผ่อนได้คล่องเหลือเกิน

    ผมก็ถามว่า เขาว่าอย่างไรละ แกก็เอาเลย " พรหมมา จะ มหาเทวาสัพเพยักขา ปลาร้า ยันติ" (สงสัยจะกินปลาร้าบ่อย แต่ก็ผิดกับภาคกลางนะ สัพเพ หักขา ปะรายันติ) เอ.. ทำไมว่าผิดๆ จึงขายดีได้ละครับ ?

    หลวงพ่อ : อย่าลืมซิว่าอยู่ที่การตั้งใจด้วยความเคารพ อย่าง "นะโมพุทธายะ" กับ "นะโมพุทธาแยะ" มันมีผลต่างกัน

    ตอนที่ไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อปาน กลางคืนก็ไปคุยกับท่าน ท่านถามว่าเจริญพระกรรมฐานภาวนาว่าอย่างไร ก็บอกกับท่านว่า ภาวนาว่า พุทโธ ครับ ท่านบอกว่า คำภาวนานี่ไม่จำกัด อยู่ที่ความพอใจ แล้วท่านก็เล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง

    ท่านบอกว่า มีพระองค์หนึ่ง เดี๊ยวนี้เขาเรียกว่าปัญญาอ่อน แต่ฉันว่าปัญญาแข็ง อาจารย์สอนท่านให้ภาวนาว่า "นะโมพุทธายะ" ก็ทำได้พอควร เวลานั้นป่าเยอะ ท่านก็ไปนั่งบนยอดเขาแล้วบอกกับอาจารย์ว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 15 วัน ผมจะไม่กินอาหารครับ" อาจารย์ก็ถามว่า "แล้วเธอจะกินอะไร" ท่านก็บอกว่า "ทำอะไรไม่ได้ก็ให้มันตายไป"

    พอไปถึงบนเขาท่านไม่รู้หนังสือ พอขึ้นไป นะโมพุทธายะ กลายเป็น นะโมพุทธาแยะ ไป ตอนเช้าแกหิวขึ้นมาก็ไม่รู้จะกินอะไร บิณฑบาตที่ไหนไม่ได้ ก็อธิษฐานว่าขอหินจงเป็นวุ้น ก็ปรากฏว่ามีวุ้นเกิดขึ้น ก็อิ่ม ทำอย่างนั้นทุกวันจนหมดเวลากำหนด

    พอออกมาจากป่า ท่านก็กลับมาหาอาจารย์ บอกกับอาจารย์ว่า "คาถาที่อาจารย์ให้ไปนั้นดีมาก ผมไม่มีอาหาร ปรากฏว่ามีวุ้นที่ต้องการให้เป็นรสอะไรก็ได้" อาจารย์เลยบอกว่า "คุณเก่งมาก แต่ความจริง นะโมพุทธาแยะ มันเป็นตัวเมีย แต่ที่ให้ไปมันเป็นตัวผู้"

    พอจำได้จากอาจารย์ก็ล่อ นะโมพุทธายะ ท่านว่า 3 วันอด ต้องเล่น นะโมพุทธาแยะ ตามเดิม

    ผู้ถาม : เอ...อย่างเจ้าปักธงชัย ก็ต้องใช้ " ปลาร้ายันติ " อย่างเดิมซิครับ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ขืนฝืนจิตสะดุด ว่าผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ใจเขานึกถึงพระพุทธเจ้ามั่นคง

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 159 เดือนพฤษภาคม 2537 หน้า 51-52)


    (สนทนาที่นวราช วันที่ 20 ก.ค. 2522)
    เรื่อง..คุยกับพระเจ้าตากสินเรื่องการทำน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืด

    ตอนนั้นไปนั่งที่ระยอง ไปนั่งๆเล่นที่ท่ามองดูน้ำมอง นึกถึงพระจ้าตากสินว่าที่นำกำลังมาจากชลบุรีเข้ากรุงเทพฯนี่น่ะ ก็มาแล้วท่านใช้กองทัพเรือ กำลังพลประมาณ 5,000 คน ก็คิดว่าไอ้เรือพายเรือแจวเรือใบกว่าจะถึงกรุงเทพๆนี่ ต้องใช้เวลาเยอะ เรื่องที่น่าหนักใจมากที่สุดก็คือน้ำ เรื่องส้วมไม่สำคัญ นั่งห้อยก็ได้นะ

    ถามกินน้ำอะไร

    ท่านบอกมันมีวิธีง่ายๆ

    ถามทำยังไง

    ท่านบอกก็ตักน้ำในทะเลมาแล้วก็ใช้ปูนขาว ปูนขาวใส่ลงไป และก็ในเมื่อมันนอนดีแล้ว ไอ้ตะกอนปูนขาวนอนก้นเกลือมันอยู่ข้างบน และก็เอาน้ำออกจากก๊อกนะ ดึงน้ำออกมา ไอ้น้ำนี่จะมีรสกร่อยน้อยๆ แล้วก็ใส่ขันฑ์ทสกรลงไป ก็ดีกว่าไม่มีน้ำกิน

    เราก็เอามั่ง ทีนี้ก็ลองทำดู เช้าก็เอาซิ ก็เอาน้ำมาใส่คูลเลอร์ พอเอาไอ้ปูนขาวใส่ไปปึกหนึ่ง พอตกตะกอนดี เกลือนี่ขึ้นมาอยู่ข้างบนเป็นฝาเลย เหมือนกับนาเกลือ

    "ฝาเป็นแผ่น" เป็นแผ่นเลยเหมือนนาเกลือ แต่อย่าไปถูก ไปถูกมันจะละลาย ลองเอามือไปแตะถูๆจะละลาย

    ทีนี้ทำไง ก็ไขก้อกให้เขาเอาน้ำออกมา แล้วลองจิบน้ำกร่อยนิดๆเอง มันกร่อยนิดๆทำไง ท่านบอกให้เอาขันฑ์ทสกร ขันฑ์ทสกรนี่ใส่นิดเดียวมันหวาน ใช่ไหม ก็กินชุ่มๆคอหวานๆ อันนี้มันทรงตัวได้

    เอ..เราก็แปลก ไปถามนักวิทยาศาสตร์ บอกมันเป็นไปไม่ได้ บอกเฮ้ย...มันเป็นไปแล้ว กูลองแล้ว

    "แสดงว่าโง่ โง่กว่าคนโบราณ" เขาบอกเป็นไปไม่ได้ บอกเป็นไปแล้วกูลองแล้ว นั่งคุยๆ เห็นท่านยืนก็ถามท่าน บอกใช้วิธีนี้ คือว่าเราไม่มีน้ำจืดเต็มที่ แต่มันกร่อยเล็กน้อย นี่คุณกินได้ถ้าอยากจะกิน ทีนี้ถ้าให้มันกินดีขึ้นทำไง ใส่ขันฑ์ทสกร เพราะหวานๆนี่ ชุ่มๆชื่นๆ ชาวบ้านสบายๆ นะ

    "วิธีนี้ดีมาก" ถามท่านแล้วถ้าไม่ลองก็ไม่แนใจ นี่เราลองแล้ว ลองกันเลย บอกเอาลงมือทำกันเลย

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 159 เดือนพฤษภาคม 2537 หน้า 15)


    (สนทนาที่สายลม เดือนตุลาคม 2538)
    เรื่อง ปากเสีย

    (มีคนมาปรารภให้หลวงพี่พระครูปลัดอนันต์ฟังว่า ได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับพระในวัดท่าซุง ซึ่งฟังแล้วทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ จึงมากราบเรียนถาม หลวงพี่พระครูปลัดอนันต์จึงตอบให้ทราบดังต่อไปนี้)

    ไอ้โรคปากนี่สำคัญไอ้โรคปากนี่พูดโดยไม่รู้พูดต่อกันไป โดยไม่มีสาเหตุ เพิ่งจะรู้เมื่อ 2-3 วันนี้ว่าใครต้นตอ มีคนต้นตออยู่ ไปพูดกับพวกเราเสียด้วย ไปพูดกับพวกโยมที่อยู่เก่าๆกันมาตั้ง 10 กว่าปี เขาก็รู้ยี่ห้อเราเหมือนกัน โอโฮพูดน่ากลัว

    (เรื่องใส่ร้าย พูดไม่จริง สมัยหลวงพ่อก็มี)

    เราก็บอกกับหลวงพ่อ หลวงพ่อครับ ผมไม่รู้เรื่องเลย ไอ้พวกนี้มันพูดไปอย่างนี้ หลวงพ่อบอก นันต์ แกกวาดลงให้หมดไปเลยนะ ไอ้พวกปากนรกทั้งนั้นพวกนี้

    ที่วัดนี่จึงไม่จำเป็นไม่ให้อยู่ เขาขับมาหลายชุดนะ พวกปากไม่ดีนี่ต้องกวาดล้างไปเรื่อยๆน่ะ ให้อยู่ 7 วัน ถ้าอยู่นานเขี้ยวงอก

    ไอ้พวกเขี้ยวงอกนี่ไม่เจริญศรัทธาหรอก ขับลูกเดียว แล้วไม่ต้องเข้าวัด ติดประกาศเลย ถ่ายรูปติดไว้เลยที่วัดน่ะ พูดภาษาหยาบๆไม่ต้องมาทั้งโคตร ไม่ต้องมาวัด คือพูดไม่อยู่ในศีลในธรรมคล้ายๆเราโหดร้ายน่ะ คนไม่ดีเราโหดร้ายเลย ขับเลย มันยังไงล่ะ แบบไม่ทำให้ตัวเองเจริญ ไม่ทำให้วัดเจริญ

    (พูดถึงพระที่ถูกขับออกไปจากวัด)

    สำหรับพระพวกฉันเองไม่ใช่ว่าปกป้องกันเอง คือเราไม่ต้องให้ใครขับหรอก เราขับกันเองอยู่แล้ว ที่วัดน่ะขับกันเองอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรมานี่ ถ้ามันมีอะไรสุดวิสัยมาพระนี่ขับกันเอง ไม่ต้องรอคนอื่นเขาขับหรอก ไม่ต้องรอให้ใครมาทำความสะอาด เราทำความสะอาดเอง วัดน่ะ

    ฆราวาสฉันก็ขับไปเยอะ พระก็ให้ออกไปหลายองค์ เพราะปกติถ้าไม่ดี เสียหายจริงๆก็ต้องออก ไม่ใช่เจ้าอาวาสขับเขาอย่างเดียวนะ เขาก็ขับเจ้าอาวาสได้เหมือนกัน คือให้เขาดูเราได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าอาวาสจะทำอะไรดีทุกอย่างคือให้คนอื่นเขาดูด้วย คนอื่นเขาก็ดูเราได้

    (ปรารภถึงพระองค์หนึ่งที่คิดว่าตัวเองวิเศษ)

    มีอยู่ทีหนึ่งพระบวชใหม่เขาบวชได้พรรษาก็ตั้งวง ไอ้เราก็เตือน เตือนก็หาว่าเราอิจฉา เจ้าอาวาสอิจฉา พระท้ายแถวจะดังนี่อิจฉา มันเป็นอย่างนั้นนะ เพราะยังงั้นถึงต้องนิมนต์

    ทีนี้ไอ้การที่มีลูกมีเต้าบวชในศาสนานี่ หนึ่ง บวชพาญาติโยมไปสวรรค์มี สอง บวชพาญาติโยมไปนรกมี พาไปสวรรค์นี่เข้าใจง่าย แต่พาไปนรกนี่จะพายังไง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

    คือพระทำผิด เจ้าอาวาส คณะกรรมการสงฆ์ตักเตือน จนถึงต้องขับออกจากวัด ก็มาบอกพ่อบอกแม่ บอกญาติโยมว่าฉันทำดี พระนี่กลั่นแกล้ง พระทั้งวัดเขากลั่นแกล้งขับออกจากวัด บอกพ่อแม่ พ่อแม่ก็เอาละ ต้องรักลูกอยู่แล้ว ธรรมชาตินี่ ไอ้พระอย่างนี้..ทั้งวัดเป็นอย่างนั้น ด่าไปเลย นี่เขาเรียกว่าบวชพระแล้วพาพ่อแม่ให้ลงนรกด้วย พ่อแม่ไม่เป็นธรรมก็อย่างนั้น

    สมัยก่อนมีบวชเณรอยู่ เณรก็เล่นกันเป็นเด็กสิ หลวงพ่อก็ว่า ทีนี้ก็กลับไปฟ้องพ่อแม่ แหม ลูกเราดีจังเลยไปบวชเณรมีศรัทธา พระผู้ใหญ่แกล้งเสียอีก หาว่าซน พ่อแม่มาอยู่ด้วยกันที่ไหนล่ะ มาอยู่กับเรา เราก็ต้องทำโทษ หลวงพ่อจึงเลิกรับเณรเลย เณรที่วัดจึงไม่รับ ไม่มี พระต้องช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่จำเป็นจะต้องหาใครมาช่วย ไอ้พวกนี้อย่างกับลิง เด็กนี่ ก็เล่นแบบเด็กน่ะ ฉะนั้นบางอย่างจึงไม่รับ

    แล้วคนมาพักนี่ ให้อยู่ได้ 7 วัน ถ้าเกิน 7 วันก็ต้องกรณีพิเศษ แต่กรณีพิเศษก็ต้องมีระเบียบว่า ถ้ามีเรื่องมาก็ต้องไปนะ เจ้าของห้องก็เหมือนกัน ที่สร้างห้องกรรมฐานน่ะ ไม่ใช่จะอยู่เป็นเจ้าโลกได้ ต้องอยู่ในระเบียบวินัยของวัด บางทีพออยู่แล้วทะเลาะกัน เป็นเจ้าโลกขึ้นมาละ เจ้าของห้องก็ต้องขับ ไม่เอาไว้หรอก ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด

    ฉะนั้น ที่วัดจึงถือระเบียบวินัยเป็นใหญ่ ถ้าบางทีอาจจะผิดพลาดไปแต่ว่ายังไม่มีเรื่อง ถ้ามีเรื่องเมื่อไรขับ เจ้าของห้องก็ไม่ให้อยู่ทั้งนั้น เสียการปกครอง เสียความร่มเย็นหมด เพราะมีมาตรการอย่างนี้ถึงไม่ค่อยมีเขี้ยวงอกเท่าไร มีเขี้ยวก็หุบไว้ก่อน พอถึงวัดก็ถอดเขี้ยวถอดงาไว้เสียก่อน

    ถ้าไปแสดงที่นั่นก็ต้องเอา ไม่มีญาติโกโหติกาทั้งนั้น ต้องถือระเบียบวินัยเป็นที่ตั้ง ไม่มีเส้นเล็กเส้นใหญ่ บางคนว่ามีคนนอกคนใน ไม่มี ถ้าผิดมา แม้แต่พระยังขับกันเอง โยมจะมีเส้นนอกเส้นในไม่มีหรอก ความดีก็ส่วนความดี

    ฉะนั้นจึงแบบยังไงล่ะ บางครั้งจึงไม่หวานจ๋อยไปเลย ไม่ประจบประแจงจนเกินไป แต่เข้าเขตวัดเรา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นโดยคนอื่นรังแก เราให้ความปลอดภัยเต็มที่นี่ เข้ามาในวัดเราเราอยากให้คนในวัดมีความสงบ คือเข้าไปอยู่วัดแล้วอยากให้คนเข้าไปวัดแล้วนอนหลับสบาย ไม่ต้องกังวลโจร ไม่กังวลคนจี้คนปล้นจากคนภายใน เพราะว่ามืดค่ำเราก็ปิดประตู เราต้องรับความปลอดภัยคนภายใน ถ้าใครจะมาเกเรเราก็ต้องจัดการ ข้างในข้างนอกทุกอย่าง ถ้าคนภายในเกก็ต้องเอา มันจะได้อยู่ทุกคนต้องเกรงใจระเบียบวินัยกัน จะได้มีความสุข

    (ปรารภเรื่องธุดงค์ที่ผ่านมา)

    ธุดงค์คราวที่แล้วจัดก็ต้องขับพระออกองค์หนึ่ง ต้องขับพระออกจากวัด ก็พวกไม่อยู่ในระเบียบวินัยก็ต้องเอา ต่อไปจะได้อยู่กันง่ายขึ้น ขับพระนอกวัดมาอาศัยธุดงค์ประพฤติไม่ถูกต้อง เราให้มันรัดไว้ดีกว่า ดีกว่าปล่อยให้เละไป อยากให้คนอยู่มีความสุข เท่านั้นเอง

    (โยมปรารภถึงพระที่ออกไปจากวัด และพูดเรื่องในทางที่ไม่ถูกต้อง พระครูปลัดอนันต์จึงตอบให้ทราบดังนี้)

    หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นอย่างที่เขามีกันน่ะ ข้างในขับไปแล้ว ขอให้รู้ว่าพระภายในเขาขับกันไปแล้วอย่างที่เขามีข่าวอะไรอย่างนี้นะ คือวัดเราก็ไม่มีอะไรหนักใจนะ หมายความว่าอยู่ด้วยกันก็มีความสุขพอตามอัตภาพของพระ ไม่มีอะไร

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 176 เดือนพฤศจิกายน 2538 หน้า 93-95)


    ไพลกับการบูร

    ไอ้เจ็บเท้าเรื่องเก๊าต์นี่จะคุยให้ฟัง เมื่อตอนแรกที่เป็น มันเจ็บหนัก เท้าบวมหนัก เดินขึ้นไปรับแขก กะเผลกๆ ก็มีโยมผู้หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณ 70 หรือ 68-69 เป็นอย่างน้อย บอกว่า

    "ท่านเจ้าคะ ยาแก้ปวด ยาฝรั่งนี่สู้ ไพลกับการบูร ไม่ได้ ใช้ไพลโขลกเข้า ผสมกับการบูรพอก เอาผ้าพันจะหายปวดเร็ว"

    ก็เป็นความจริงตามนั้น พอทนปวดหนักมา 2 วัน 2 คืน แต่ก็ทนต่อสู้กับความดีของบรรดาญาติโยมที่มาหา แต่ทว่าเอาไพลกับการบูรพอกเข้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีอาการปวดคลายเกือบหมด เป็นอันว่า ใช้เวลาแค่ 2-3 วัน ก็เลิกพอกผ้าได้

    นี่เป็นอันว่า ยาสมุนไพรของไทยยังมีคุณค่ามาก นี่บอกเอาบุญกันนะ มองไปดูเวลาเหลือเวลาอีก 12 นาที ก็คุยกันต่อไป

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 290 เดือนพฤษภาคม 2548 หน้า 12-13)

    เรื่องหลวงปู่ปาน

    ลูกศิษย์ : หลวงพ่อเจ้าคะ หลวงปู่ปานมีพระธาตุไหมคะ

    หลวงพ่อ : ไม่มี มีแต่กระดูก

    ลูกศิษย์ : มีกระดูกหรือคะ

    หลวงพ่อ : มีกระดูก

    ลูกศิษย์ : กระดูกของท่านเก็บไว้ที่ไหนคะ

    หลวงพ่อ : เก็บไว้ที่วัดน่ะสิ เอามาได้รึ ทำไมต้องไหว้กระดูกล่ะ ไหว้รูปท่านก็ถึง นึกถึงตัวท่านนะ ท่านเป็นเทวดาอยู่ชั้นดุสิต

    ลูกศิษย์ : เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : รอที่จะลงมาบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 รองจาก
    พระศรีอาริย์

    ลูกศิษย์ : อย่างนั้นพระองค์เดียวกันใช่ไหมเจ้าคะ หลวงปู่ที่เป็นช้าง

    หลวงพ่อ : ไม่ๆ หลวงปู่ปานเป็นพระเจ้าปเสนทิโกศล

    ลูกศิษย์ : พระเจ้าปเสนทิโกศล

    หลวงพ่อ : เมืองนี้ชื่อ ปเสนทิโกศล เหมือนกันหมด เมืองนี้พระราชาชื่อเดียวกันหมด พระราชินีชื่อ มัลลิกาเทวี เหมือนกันหมด

    ลูกศิษย์ : องค์เดียวกัน

    หลวงพ่อ : องค์ไหนๆอะไรอีกล่ะ ชื่อเดียวกันทุกคน เราต้องดูองค์ไหน ถ้าสมัยนั้นเขาเรียก "มหาโกศล"

    (จาก หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 10 หน้า 500)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...