เรื่องเด่น รวมหลวงพ่อตอบปัญหา/จากคำบอกเล่า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    อยากเข้าถึงดวงธรรม

    ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ นั่งกรรมฐานมานานแล้ว รู้สึกว่าจิตใจสงบสบายแต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจึงจะไปถงองค์ธรรมที่แท้จริงได้ ขอหลวงพ่อได้โปรดแนะนำหน่อยเถิดขอรับ ?

    หลวงพ่อ : องค์ธรรมแท้จริงรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ?

    ผู้ถาม : เอ...ผมก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ

    หลวงพ่อ : ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

    ผู้ถาม : คงไม่ใช่หมายถึงอย่างนั้นนะครับ

    หลวงพ่อ : ก็นั่นนะซิ แต่ความจริงที่ปฏิบัตินี่ก็เป็นศึล ทั้งสมาธิ ทั้งปัญญา เป็นธรรมสูงอยู่แล้ว จะเอาอย่างไรอีกล่ะ ถ้าจริงๆ เขาอาจจะหมายถึงนิพพานก็ได้ละมั้ง ความจริงสวรรค์ก็ธรรม คือเทวธรรม พรหมก็ธรรม นิพพานก็ธรรม

    ถ้าจะเอากันจริงๆนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อันดับแรกยึดอารมณ์พระโสดาบันให้ทรงตัวก่อน

    1. ตัดสักกายทิฏฐิ คิดตามความเป็นจริงว่าชีวิตนี้จะต้องตาย ไม่เมาในชีวิตคิดไว้เสมอว่าความตายจะเข้าถึงเราในวันนี้ก็ได้

    2. วิจิกิจฉา ไม่สงสัยในคุณพระรัตนตรัย คือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ยอมรับนับถือด้วยความเป็นจริง

    3. สีลัพพตปรามาส ไม่ลูบคลำศีล ถือศีลด้วยความเคร่งครัด ระมัดระวังศีลด้วยชีวิต

    อย่างนี้ถือว่าเข้าถึงองค์ธรรมจุดแรกคือพระโสดาบัน แล้วต่อไปก็โดดจับหาง ใช้ปัญญาตามความเป็นจริงตัดอวิชชา อวิชชามี 2 ศัพท์ คือ ฉันทะกับราคะ " ฉันทะ " คือ ความพอใจในมนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลกว่าโลกทั้ง 3 นี้เราไม่ต้องการจะอยู่ต่อไป " ตัดราคะ " คิดว่ามนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ไม่สวยจริง ที่ดีจริง ๆคือพระนิพพาน จับจุดพระนิพพานโดยตรง

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2536)



    [​IMG]


    http://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวต่อองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน.310631/page-153
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ทำกรรมฐานให้จิตนิ่ง

    ผู้ถาม : ฝึกกรรมฐานทำอย่างไรให้จิตนิ่ง จิตนิ่งแล้วผมควรปฏิบัติอย่างไรต่อครับ ?

    หลวงพ่อ : ฝึกกรรมฐานต้องการให้จิตนิ่ง คือเราเป็นรูปปั้นเสีย ถ้าไม่ปั้นไม่หล่อจิตมันไม่นิ่ง (หัวเราะ)

    พระพุทธเจ้าเมื่อทรงพระชนม์อยู่ก็ไม่นิ่ง เวลาตอนเช้ามืดตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์ใครจะบรรลุมรรคผลบ้าง ก็ต้องคิด ใช่ไหม เวลาสว่างขึ้นมาบิณฑบาต ตอนสายขึ้นมาก็ฉันข้าว ฉันเสร็จก็เทศน์ จิตก็ไม่นิ่งแล้วก็ตอนหัวค่ำตอบปัญหากับเทวดาชั้นกามาจรสวรรค์ สองยามไปแล้วก็ตอบปัญหากับพรหม ท่านก็ไม่นิ่ง

    ถ้าต้องการให้จิตนิ่งจริงๆ ก็ใช้สติ๊กนินนะ เป็นกรรมฐานกองที่ 41 ไอ้คำว่าจิตนิ่งนี่มันไม่มี

    อย่าลืมนะ จิตของปุถุชนคนที่ทรงฌาณจิตเข้าถึงฌาน 4 ก็ไม่นิ่ง อารมณ์มันทรงตัว คำว่าอารมณ์เป็นเอกัตคตารมณ์นี่มันไม่นิ่งนะ มันจับอารมณ์อย่างเดียว

    เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคา อรหันต์ ก็ไม่นิ่ง เพราะจิตอิ่มด้านกุศลอย่างเดียว เป็นพระพุทธเจ้าก็ไม่นิ่ง จิตอยู่ในมหากรุณาธิคุณ

    คำว่า "นิ่ง" หมายความว่าจิตนิ่งจากอกุศล คือไม่คิดชั่ว คิดดีอย่างเดียว เข้าใจไหม นิ่งจากอกุศล คือ ไม่นิ่งในเรื่องของกุศล


    (จาก "หลวงพ่อตอบปัญหา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 153 เดือนพฤศจิกายน 2536 หน้า 91-92)


    http://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวต่อองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน.310631/page-34
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2020
  3. สร้อยเงิน

    สร้อยเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +1,013
    มารออ่านต่อค่ะคุณ wannachai001 ตั้งแต่เกิดมาจนจะ ป่านนี้ยังไม่เคยไปวัดท่าซุงเลยค่ะเห็นตามเว็ปบ้างในทีวีบ้าง วัดสวยงามกว้างใหญ่มาก มาอ่านหลวงพ่อตอบคำถามแล้ว ยิ่งอยากไปกราบหลวงพ่อ รอโอกาสดีดีอยู่ค่ะ
    ขอบพระคุณค่ะที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่านกัน
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337

    ถ้าอยู่ กทม. ก็ไปทำุบุญกับหลวงพี่นันต์เ้จ้าอาวาสองค์ปัจจุบันก่อนซิครับ ที่บ้านซอยสายลม นะครับ



    http://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวต่อองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน.310631/page-34
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2012
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2013
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    มุมทุคตะ

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมได้ฟังเรื่อง มุมเศรษฐี มุมทุคตะ เกี่ยวกับการซื้อบ้านสร้างบ้านใหม่ ตอนนี้กำลังจะตกลงซื้อ กราบเรียนถามหลวงพ่อว่าตำราที่จะดู ดูแบบไหน ช่วยเมตตาบอกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ?

    หลวงพ่อ : เขาดูที่วัดไม่ใช่ดูที่บ้าน ระหว่างโบสถ์กับกุฏิพระอยู่มุมไหน ไม่ใช่ดูบ้าน

    ผู้ถาม : อ๋อ..ไม่ได้เกี่ยวกับบ้านเหรอครับ

    หลวงพ่อ : เกี่ยวซิ ! ถ้าเราทำบุญกับวัด วัดนั้นอยู่ใน มุมมหาเศรษฐี การคล่องตัวดีมาก ถ้าวัดนั้นเข้า มุมมหาทุคตะ ก็ไม่ต้องห่วงล่ะ พอมั่งไม่พอมั่ง

    ก็คงเข้าใจแล้วนะ ไม่เกี่ยวกับบ้าน แต่เกี่ยวกับบุคคลที่อยู่ในบ้าน ถ้าไปทำบุญกับวัดที่สร้าง มุมเศรษฐี ก็พลอยดีไปด้วย

    แล้วจะรู้ได้ไงล่ะว่าวัดไหนสร้างเข้า มุมทุคตะ วัดไหนสร้างเข้า มุมเศรษฐี ตามตำราเขาว่ายังงี้

    เอาโบสถ์เป็นหลัก หน้าโบสถ์หันไปทางทิตตะวันออก

    มุมเศรษฐี อยู่ตรงมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    มุมทุคตะ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    ถ้าสร้างกุฏิเจ้าอาวาสอยู่ตรง มุมทุคตะ ก็ลำบากหน่อย ถ้าสร้างกุฏิเจ้าอาวาสอยู่ตรง มุมเศรษฐี ก็จะรวย


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มกราคม 2544)




    http://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวต่อองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน.310631/page-154
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    119673207_1705367366306462_6660020303995942898_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    ทำบุญไม่ขึ้น

    ผู้ถาม : เจ็บใจเหลือเกินเจ้าค่ะ ทำความดีมาหลายครั้ง ปรากฏว่าทำบุญแล้วไม่ขึ้น

    หลวงพ่อ : จะขึ้นไปไหน การให้ไปถือว่าเป็นจาคานุสสติกรรมฐาน เป็นตัวตัดความโลภ เมื่อความโลภมันตัดได้แล้ว กิเสลมันก็ยังอยู่อีกตัวหนึ่งคือความโกรธเขาก็มาซ้อม

    ต้องจำไว้ว่าคนมีทั้งดีทั้งเลว จำไว้ว่าในโลกนี้ถึงจะทำความดีขนาดไหนก็ตามคนที่เห็นความดีมันเห็นยาก ก็ไม่ควรจะมาโลกนี้อีกต่อไป ตัดสินใจอย่างนี้นะ

    ของที่ให้ไปแล้วก็ถือว่าก็แล้วกันไป ไอ้ที่เขาว่าก็ถือเป็นอโหสิกรรมไป แต่ว่าจำหน้าไว้ว่าคนนี้ไม่ควรให้ต่อไป ต้องทำตามพระพุทธเจ้าบอก

    อย่างบิดาท่านวิสาขาท่านแนะนำว่า "ผู้ให้เราจงให้ ผู้ไม่ให้เราอย่าให้"

    ถ้าเราให้เขาไป สมมุติเขามายืมของไป เขามาส่งคืน เราก็ให้เขาต่อไป

    ถ้ายืมของไปแล้วเขาไม่ส่งกลับ คนนั้นเลิกให้ต่อไป

    แล้วไอ้คนที่เราให้ไปแล้วไม่รู้สึกคุณ ก็ไม่ควรจะให้ต่อไป

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 48 หน้า 82)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2020
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    น้ำมันชาตรีด้านเมตตา มหานิยม


    ผู้ถาม : อยากจะขอคำแนะนำวิธีวางอารมณ์เวลาทวงเงินเจ้าหนี้ เขาเตรียมตัวเบี้ยวเต็มที่เลยคะ

    หลวงพ่อ : อ้าว.. เราก็เตรียมตัวเต็มที่เหมือนกัน ตั้งใจไว้....ช่างมัน ให้ก็เอา... ไม่ให้ก็แล้วไป (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : เงินเยอะคะ

    หลวงพ่อ : เงินเยอะนะซิ เราถึงช่างมันๆๆ ถ้าช่างมันไว้เขาให้นะ ตั้งใจเอาเขาไม่ให้ ใจมันโปร่งความโลภ เห็นไหม เออ... ถ้าได้น้ำมันแตะลิ้น น้ำมันจิ้มติดแตะลิ้น

    ผู้ถาม : น้ำมันชาตรีที่จะออกใหม่นี่หรือคะ

    หลวงพ่อ : ใช่ อธิษฐานเอา เพราะท่านบอกได้ทุกอย่างนี่ น้ำมันชาตรีใช้ได้ลูก เราจะไปพูดกับใคร เอาไม้ขีดก็ได้ จุ่มนิดหนึ่งแตะลิ้น อธิษฐานไว้ก่อนนะ

    ผู้ถาม : ถ้าหากเขาไม่อยู่รอฟังคำพูดละคะ แตะลิ้นไปแล้วเขาไม่อยู่

    หลวงพ่อ : อธิษฐานเสียก่อน ต้องบอกให้เขาอยู่ ขอบารมีพระพุทธเจ้า จนถึงหลวงพ่อปาน พระอรหันต์ทั้งหมด พรหมเทวดาทั้งหมด ขอให้เขาอยู่ ถ้าเขาไม่อยู่ขอให้เราไม่อยากไป ถ้าไปแล้วให้เขามีเมตตาจิต ให้เขามีเมตตาในเรา ใช่ไหม...เขามีเมตตาในเรา ถ้าบังเอิญเขามี ให้เขาให้โดยง่าย ให้ตัดสินใจเร็วๆ อธิษฐานไปแบบนั้นนะ ตั้งใจไป


    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 11)


    ชานหมากชาตรี


    เมื่อวานนี้ที่ปทุมธานีตอนเช้าตรู่ หลวงพ่อปานมาบอกว่าให้ขอสมเด็จองค์ปฐมว่า ชานหมากนี่ขอ ชาตรี นำหน้า สมเด็จองค์ปฐมท่านมาบอก เมื่อขณะหมอให้น้ำเกลือท่านบอก ความจริงฉันก็ซุกไว้ทุกอย่างแล้วนะ คราวนี้ขอนำหน้า ก็จะขอให้อยู่หน้า ฉะนั้นอย่างพระหางหมากนี่ ท่านก็ซุกไว้แล้วใช่ไหม...

    เรื่องนี้มีชาวพิษณุโลกถ่ายภาพมาให้ดูว่า รถปิคอัพถูกรถสิบล้อชน หลังคาพลิกและก็พวงมาลัยโพล่ง ปรากฏว่าตำรวจมาถามว่า ศพอยู่ไหน... ไปเจอะเอาศพพอดีเข้า บอกยืนอยู่นี่ครับ ! สองคนตายายแม้แต่ถลอกก็ไม่มี ถลอกนิดเดียวก็ไม่มีเลยนะ...อัศจรรย์ !

    ผู้ถาม : ส่วนลูกหลานนี่ชอบเจ็บไข้ได้ป่วย จะนำน้ำมันชาตรีจะเอาไปรักษาได้ไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ท่านบอกรักษาได้ทุกโรค คำว่ารักษาได้ทุกโรค มีเรื่องเมื่อคืนนี้มีโรคหนึ่ง หมอจรูญ ที่มารักษาฉันนะ แกขาบวม บวมแล้วก็งอไม่ได้ ต้องเหยียดอยู่เสมอ ขากะเผลกๆ ขากลับไปบ้านมันปวดมากใช่ไหม แกก็เลยคิดว่า ถ้าแช่น้ำมนต์กิน กินน้ำมนต์ละก็จะช้าไป เคี้ยวกินเลย ล่อทั้งเม็ดเลย แล้วปรากฏว่าเห็นผลทันตา เข้าส้วมงอขาได้ ขางอได้และเจ็บนิดหน่อยเท่าน้นเอง ได้ผลทันตาเมื่อคืนนี้

    ผู้ถาม : นี่แสดงว่าลาภก็ได้ คุ้มครองก็ได้

    หลวงพ่อ : ลาภก็ได้ รักษาโรคก็ได้ ป้องกันก็ได้ ถ้าเก็บไว้ให้ดีในที่ใสๆ ต่อไปอาจจะเป็นพระธาตุ อยางเบานะ อย่างเต็มที่เป็นแก้ว พระธาตุเป็นแก้ว

    ผู้ถาม : ก็เรียกว่า ชานหมากคราวนี้มีผลสมบูรณ์แบบ

    หลวงพ่อ : ใช่ๆๆๆ ท่านทำแรงมาก ไมเคยทำไว้เลย

    ผู้ถาม : ทีนี้เวลาที่ว่าจะเอาไปแก้โรคภัยไข้เจ็บนี่ จะกินก็เสียดาย เดี๊ยวหมดก็หายาก

    หลวงพ่อ : เอาพลาสติกห่อซะ แล้วก็แช่น้ำเป็นน้ำมนต์ ถ้าทางที่ดีนะ หุ้มพลาสติกห้อยคอนะดีมาก ใส่ไว้นะจะมีประโยชน์ ประโยชน์หลายอย่าง

    ผู้ถาม : ถ้าคิดในใจว่า เจ้าประคุณ..ขอชานหมากเป็นพระธาตุ ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะไว้กิน

    หลวงพ่อ : นี่เห็นจะต้องแบ่งห่อ พระธาตุก็เป็นพระธาตุหมอรักษาโรคได้ เอาแช่น้ำทำน้ำมนต์



    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาเล่ม 11)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2020
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    บริจาคโลหิตเป็นทาน

    ผู้ถาม : การบริจาคโลหิตเป็นทานนั้น อยากจะเรียนถามว่าเป็นทานขั้นไหนครับ ?

    หลวงพ่อ : เขาเรียกว่าทานภายในนะ จะถือว่าเป็นปรมัตถทานก็ยังไม่ได้ เขาเรียกทานภายในคือให้ของภายในกายนี่เป็นทานภายใน ให้ของนอกร่างกายเขาเรียกทานภายนอกนะ ยังถือว่าเป็นปรมัตทานไม่ได้นะ ถ้าเป็นปรมัตถทานต้องอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านทำ

    ผู้ถาม : เป็นยังไงครับหลวงพ่อ ?

    หลวงพ่อ : เชือดเนื้อเอาไปเลี้ยงเขาเลย

    ผู้ถาม : ถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช่ นั่นเป็นปรมัตถทาน เอาถือว่าเป็นปกติทานก็แล้วกัน แต่เป็นทานภายในเพราะอานิสงส์สูงมาก อาจจะสูงกว่าทานภายนอกสักหน่อยหนึ่งนะ

    ผู้ถาม : แล้วการบริจาคโลหิตกับการอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาลเป็นทาน อันไหนจะมีอานิสงส์มากกว่ากันคะ ?

    หลวงพ่อ : อุทิศให้เลือดให้ขณะที่ยังไม่ตายมีอานิสงส์สูงกว่าเมื่อตายแล้ว ตายแล้วเหมือนของเขาทิ้งแล้ว ร่างกายใช้อะไรไม่ได้ มีประโยชน์เพียงแค่วัตถุทาน จะให้มีอานิสงส์เท่ากับให้เลือดตอนมีชีวิตนั้นไม่ได้แน่ ใช่ไหม

    ดูอย่างพระพุทธเจ้าสมัยเมื่อเป็นพระเวสสันดร ตอนนั้นที่คนเขามาขอช้างหรือของต่างๆ พระองค์ก็คิดว่าทำไมเขาไม่ขอดวงตา ถ้าขอท่านก็จะให้ ไม่ว่าจะเป็นแขนซ้าย หรือแขนขวาก็จะให้ นี่ท่านตั้งใจให้ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตอนตายแล้ว ฉะนั้นถ้าให้ได้ก็เป็นปรมัตถบารมี

    ผู้ถาม : ทีนี้ถ้าจะบริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เขาศึกษาต่อเมื่อเราตายแล้ว แต่อธิษฐานไว้ว่า เมื่อตายเมื่อไรขอพ้นจากวัฏสงสาร อย่างนี้จะมีโอกาสไม่ให้มาเกิดอีกใช่หรือเปล่าครับ ?

    หลวงพ่อ : ถ้าเวลาจะตายนะ จิตตัดกิเลสแน่นอน ไม่อยากมาเกิดอีก หรือเมื่อนั้นเมื่อเวลาะตาย จิตตัดความรักในระหว่างเพศ ตัดความโกรธ ก็ไม่มาเกิดอีก มันไม่แน่นะ เดาส่งไม่ได้ มันเฉพาะจิตใช่ไหม จะเดาไม่ได้

    แต่บังเอิญก่อนที่จะตาย เวลานี้ทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้นะ และก็ตัดสินไว้เสมอทุกเช้าว่า ร่างกายนี้ตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น อันนี้จิตทรงตัวแน่นอน อย่างนี้ไปได้ทันที


    (จาก "หลวงพ่อตอบปัญหา" ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 48 หน้า 79)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2020
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    หลวงพ่อตายแล้วยิ่งเฮี้ยนมาก


    ก็มีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง คือเมื่อตอนรับแขกอยู่เมื่อไม่กี่วันนี้มั้งที่วิหาร 100 เมตร ก็มีลูกศิษย์หลวงพ่อรุ่นเก่าเลย รุ่นสมัยที่หลวงพ่อมาพ.ศ. 2511-2512 นั้นน่ะก็มาหามาทำบุญด้วย เขาก็บอกว่าแนะนำให้คนที่อยู่ข้างๆรู้จักกันบอกเนี่ยผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ชื่อ สุวิมล พี่ชายเป็นเจ้าของสัมปทานป่าไม้ที่ จ.อุทัย จ.กาญจนบุรี สมัยก่อนหลวงพ่อจะไปไหนต้องไปจ้างรถสองแถวมารับท่านไปหรือมาสามล้ออะไรอย่างนี้ หลวงพ่อท่านไม่ค่อยมีเงิน ก็ได้โยมนี่อุปการะ ชื่อสุวิมลนี่เป็นภรรยาของส.ส. ศิลป์ชัย นุ้ยปรี จ.อุทัย ก็แนะนำให้คนอื่นรู้จักว่านี่เป็นคนอุปการะหลวงพ่อ สมัยหลวงพ่อยังไม่มีอะไรน่ะ ไปไหนก็ต้องไปรถสองแถวจ้างเขาไป บางทีก็ไปรถสามล้อรถอะไรอย่างนี้

    "มาสายลมก็นั่งรถเมล์มา"

    ใช่...ทีนี้คุยกันท่านก็บอกว่า สมัยหลวงพ่อที่มีชีวิตอยู่นี่ ท่านให้หา ไม้ คำว่า ไม้ แบบนี่ทำโบสถ์ มา 3 รถเทรลเลอร์ เทรลเลอร์ที่มันต่อพ่วง มาถวายหลวงพ่อเอาไว้สร้างโบสถ์ เป็นไม้แบบ ไม้แป ไม้ยางอะไร ก็ตามมาถวายเยอะ

    แกก็เข้าไปหาหลวงพ่อตอนไหนก็ไม่รู้ช่วงนี้ บอกหลวงพ่อสร้างวัดซะใหญ่เลย ต่อไปใครจะมาดูแลล่ะ หลวงพ่อตายไปแล้วน่ะ หลวงพ่อบอกแกไม่ต้องห่วง ข้าตายแล้วยิ่งเฮี้ยนใหญ่เลย ข้านี่ (หัวเราะ) ข้าตายแล้วยิ่งเฮี้ยนใหญ่เลย

    เลยถามโยม หลวงพ่อพูดจริงหรือ ? จริงซิ ฉันเป็นห่วงวัดว่าต่อไปใครจะมาดูแล ท่านบอกแกไม่ต้องห่วง ข้าตายยิ่งเฮี้ยนใหญ่ บอกข้าตายแล้วนี่นะ ข้าจะช่วยพวกแกได้เยอะ มีความคล่องตัว นี่ร่างกายข้าป่วย

    มันก็ตรงกัน ผู้การสถาพรถือว่าคนรุ่นใหม่ก็แล้วกัน นี่ก็คนรุ่นเก่า 20-30 ปีเนี่ยพูดตรงกัน ผู้การสถาพรแกก็เป็นหมอนวดหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกผู้การถ้าข้าตายไปแล้วนี่ ข้าช่วยพวกแกได้เยอะ ร่างกายมันป่วยนี่ทำอะไรไม่ได้หรอก ไว้ข้าตายไปแล้วนี่ ร่างกายก็ไม่ต้องห่วงนี่ขันธ์ 5 ช่วยพวกแกได้เยอะ

    มันก็ตรงกันตรงกันกับผู้การ คุณสุวิมล หลวงพ่อดาบส หลวงพ่อดาบสนี่ พวกที่ไปมา พวกนี้ไปมา ท่านก็บอกว่าหลวงพ่อไม่ได้หนีไปไหนนะ หลวงพ่อไปรอเราอยู่ หลวงพ่อพระราชพรหมยานไม่ได้ตายหนีเราไป แต่ท่านไปรอเราอยู่ ทำอะไรท่านไม่รู้ไม่มี จำไว้ท่านต้องรู้ ท่านรู้

    ท่านก็บอกว่าสมัยหลวงพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่เนี่ย หลวงปู่สีอยู่ตาคลี อายุ 120 กว่าปี ตอนเช้าๆมีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่สีแต่งตัวแต่เช้าเลย สั่งให้คนเตรียมน้ำใช้น้ำฉัน สั่งให้คนเตรียมสถานที่ พอตอนสายๆหน่อย หลวงพ่อฤาษีไปแล้วไปหา นี่แสดงว่ารู้กัน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ท่านไม่มีโทรศัพท์นี่สมัยก่อนเนี่ยไม่มีโทรศัพท์ ท่านก็เน้นบอกว่าขณะมีชีวิตอยู่ท่านยังรู้ใจกันนี่ ยิ่งตายยิ่งรู้มากใหญ่ ไม่ต้องห่วงหรอก ขอให้มั่นใจในคำสอนของท่านก็แล้วกัน นิพพานนี่ไม่ใช่สูญ แต่ศูนย์ก็มีค่านะ ศูนย์ 1 ตัวมีเลขนำหน้าก็ ศูนย์ 2 ตัวมีเลขนำหน้ามีค่ามากขึ้น ศูนย์ 3 ตัวยิ่งมีเลขยิ่งมีค่ามาก ศูนย์ 4 ตัว ศูนย์ 5 ตัว ศูนย์ 6 ตัว ยิ่งศูนย์ยิ่งมากยิ่งมีค่า ศูนย์มีค่าเลยได้มาแสนหนึ่ง (หัวเราะ) ได้มาแสนเพราะไอ้ศูนย์ 4 ตัว 5 ตัวนี่ แหม.. ไปมา 7 คันได้มาแสนแล้วนี่ ทุนคืนมาหมดแล้ว


    แสดงว่าพระท่านมีท่านจริง ทีนี้ก็มีเคล็ดลับอยู่อย่าง ใครจะรู้น้อย เพราะว่าท่าน เทศน์ตอนแรกบอกดีท่านเจ้าคุณลาซะ ทำไมจะพาลูกศิษย์นี่อ้อม อ้อมต้องกลับมาเกิดอีก 7 ชาติ ดีเจ้าคุณตัดลามาเสียก่อน ดึงพาพวกเราตรงขึ้นอะไรอย่างนี้ นี่เราไม่ค่อยรู้ซิตรงนี้ว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยคุยให้ฟังนี่ ทีนี้โยมน้อยกานดาแกเป็นคนเก่าแกก็ถาม ไอ้น้อย หลวงพ่อเคยพูดไว้กับแกไว้ ไอ้น้อยข้าไม่อยากให้พวกแกมีทุกข์น่ะ ทุกข์ต้องตามข้าไปอีก 7 ชาติ ข้าจึงตัดสินใจลาซะ พวกเราจะได้ทุกข์น้อยลงไป ย่นระยะลงไป

    ทีนี้หลวงพ่อกับหลวงปู่ดาบสยังไม่เคยเจอะกันเลย แล้วหลวงพ่อก็ไม่เขียนหนังสือไว้ที่ไหน เนี่ยความรู้สึกตรงนี้คนชักหลั่งน้ำตา ฮึกฮักๆๆ ออกมาบ้างแล้ว ชื่นใจว่าหลวงพ่อ หลวงปู่ดาบสทวนความอะไรให้เกิดศรัทธา พูดให้เราเกิดศรัทธานี่ จะไม่เกิดศรัทธาจะให้เจ้าอาวาส (พระครูปลัดอนันต์)เทศน์นี่ ศรัทธาจะหาย (หัวเราะ) แหม..จะให้เราเทศน์ หลวงปู่เรียกว่าโยนเผือกร้อนๆ ให้ขบซะแล้ว เกือบเสียท่า

    "แล้วเอาตัวรอดได้ยังไงครับ วันนั้นน่ะ โยมเขาอยากจะถามน่ะ คือหลวงปู่ดาบสบอกว่าให้พระครูเทศน์ บอกแล้วก็โยนไมค์มาให้เลยใช่ไหมครับ"

    หลวงปู่ดาบสก็บอกว่า ที่นี่ก็เทศน์กันทุกวัน เจอหน้าก็เทศน์สอนธรรมะกันทุกวัน ท่านพระครูมาก็ดีแล้ว ช่วยเทศน์ใหญาติโยมฟังบ้าง ก็นึกในใจ เวรกรรมล่ะกูเอ้ย...ทีนี้ (หัวเราะ) กูอยู่ไหนกูไม่เคยเทศน์ซะที เอากูเทศน์ จะขายขี้หน้าญาติโยม (หัวเราะ) ทำไงดีวะเนี่ย จะเอาตัวรอดยังไง รับไมค์มาแล้วก็ต้องเอาแล้ว

    ก็บอกว่า ที่มาที่นี่ก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทั้งนั้นนี่ มากันตั้งหลายคันรถเนี่ย ก็เจอกันที่สายลมแทบทุกเดือนอยู่แล้ว คุยกันเรื่องกรรมฐานทุกเดือนกันอยู่แล้ว แต่พวกเราก็มาไกลกัน คือพระอย่างฉันนี่หาได้เยอะห่มผ้าเหลืองอย่างงี้ ไปที่ไหนก็ได้เยอะ ที่เราดั้นด้นมาก็มาหาพระที่หลวงพ่อบอกไว้ว่า พระอย่างหลวงปู่นี่ มีพระปลัดวิรัชมาหาก็ถ่ายรูปกลับไป แล้วไปเล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อบอกพระยังงี้เย็นมา 20 ปีแล้ว หมดอยากมา 20 ปีแล้วนี่ เราก็ดั้นด้นมาตั้ง 700 กว่าก.ม. เพื่อจะมาหาพระดี ฉะนั้นอยากให้หลวงปู่ช่วยเทศน์ เพราะว่าพวกนี้มาอยากจะฟังเทศน์หลวงปู่ครับ

    โยนไปยังงี้คล้ายๆ ยังงี้แหละ หลวงปู่ก็จำเป็นต้องเทศน์ คืนกลับแล้วนี่ ท่านก็เริ่มคุยให้ฟัง

    "พวกเราก็ตบมือกันกราว ท่านพระครูเอาตัวรอดได้"

    เออ..ไม่ได้นัดไม่รู้เรื่องมาก่อนซิว่าท่านจะโยนมาให้เรายังงี้ ใครๆก็รู้เราจะไปฟังเทศน์จากท่าน ใช่ไหม แต่ท่านโยนมาให้เราซะแน่ แต่ท่านก็คุยไปเรื่อย คุยไป คุยไปถูกใจนี่ ท่านก็ทวนความจำ หลวงปู่แหวนเหลือหลวงปู่หนูแล้ว เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยไปอยู่กับท่าน พระองค์นั้นองค์นี้ แต่หลวงพ่อเราคนยังมีศรัทธา แสดงว่าคนเข้าใจในคำสอนของพระราชพรหมยาน ขอให้มั่นใจไว้ได้เลยไม่ต้องเชื่อใครอีกแล้วนะที่ว่านิพพานสูญน่ะ ขอให้เชื่อท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน ให้มั่นใจได้เลย นิพพานเป็นเมืองแก้ว เป็นเพชรเป็นอะไร ยืนยันเลยนะทีนี้ ก็พูดยืนยันเลยล่ะ ก็ให้เชื่อได้ ไม่ต้องไปนั่นแล้ว อะไรต่ออะไรนี่ ลงเรือลำเดียวกับเราแล้ว เราลงเรือลำเดียวกับท่านหรือไงก็ไม่รู้ คือคุยกันรู้เรื่องกันแล้วนี่

    "ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า นิพพานไม่สูญ ตามที่คนอื่นเขาว่า"

    เจ้าหน้าที่ประทับใจ ปีหน้าจะไปเอาหวยอีกนี่ (หัวเราะ) ได้คราวนี้แสนคราวหน้าจะเสียไปแสนหรือเปล่า


    (จากคอลัภม์ "จากคำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ มีนาคม 2538 หน้า 82-84)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2019
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    59
    ค่าพลัง:
    +225,337
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...