รวม สุดยอดวัตถุมงคล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย montrik, 21 มกราคม 2017.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 524 : พระผงสุพรรณก้นย่าม พระในย่ามหลวงปู่สี เนื้อน้ำมันสวยๆ
    มีเส้นเกษาเกือบสิบเส้นหายาก
    รับประกัน

    ราคา 2,000 บาท
    รวมค่าส่ง
    20180708_062735.jpg 20180708_062725.jpg 20180708_062639.jpg 20180708_062647.jpg 20180708_062702.jpg
    FB_IMG_1530759604693.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2018
  2. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ลงไว้ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันสำหรับท่านที่กำลังเสาะหาเหรียญแท้ รุ่นนี้ให้ทราบก่อนเสียเงินครับ
    1) ถ้าเจอห่วงแหว่งแบบนี้ อาจมีได้ ทั้ง แหว่งซ้าย และ ขวา จะแหว่งมาก หรือน้อย ก็ให้มั่นใจได้เลยว่า แท้แน่นอน ค่อยพิจารณาจุดอื่นต่อ
    2) เส้นผมของท่านต้องเห็นชัด ไม่โล้นเลี่ยน
    3) เม็ดประคำต้องเห็นเป็นเม็ดๆ ชัดเจน
    4) ดูเนื้อทองแดง ให้ได้สีนี้ครับ
    บางท่านอาจดูขอบตัด ห่วงปลิ้น ตัวหนังสือ ผิวธรรมชาติของเหรียญ และยันต์ประกอบด้วย
    ข้อมูลนี้แค่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้นครับ
    เหรียญเณร1.jpg เหรียญเณร2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2018
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ค รู บ า เ จ้ า บุ ญ ชุ่ ม ญ า ณ สํ ว โ ร

    ชาติภูมิ
    บิดา-มารดา
    พ่อคำหล้า แม่แสงหล้า ทาแกง
    นามเดิม
    เด็กชายบุญชุ่ม ทาแกง
    วันเดือนปี เกิด
    วันอังคารที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔
    สถานที่เกิด
    หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
    พี่น้อง
    ๑. พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร
    ๒. พระครูบาวีนัส กตปุญโญ
    ๓. เด็กหญิงเอื้องฟ้า (เสียชีวิต)
    ๔. นางอ้อมใจ ปูอุตรี สมรสกับนายประทีบ ปูอุตรี






    1530277491142458194541.jpg

    พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร





    ชีวิตในวัยเยาว์
    คุณแม่แสงหล้าได้แต่งงานกับคุณพ่อคำหล้า ก่อนตั้งครรภ์พระครูบาเจ้าฯ คุณแม่แสงหล้านิมิตฝันว่า “ได้ขึ้นภูเขาไปไหว้พระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่เหลืองอร่ามงามมากนัก” แล้วสะดุ้งตื่นอยู่มาไม่นานนัก คุณแม่แสงหล้าเริ่มตั้งครรภ์ พอตั้งครรภ์ได้ครบ ๑๐ เดือน ก็ได้ให้กำเนิดเด็กชายบุญชุ่ม ซึ่งเป็นเด็กหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู จากนั้นก็มีเหตุแยกจากพ่อคำหล้ากลับไปดูแลแม่อุ้ยนางหลวงที่เคยอยู่ด้วยกัน เพราะไม่มีใครดูแล ส่วนพ่อคำหล้าก็กลับไปดูแลแม่หลวงอุ่น จึงเป็นเหตุให้ต้องแยกกันอยู่ เมื่ออายุครบ ๖ เดือน พ่อคำหล้าได้มาเยี่ยม ซื้อเสื้อผ้ามาฝากลูกด้วย แต่กลับไปไม่นาน คุณพ่อก็ได้ล้มป่วยด้วยโรคบิดกระทันหัน ถึงแก่กรรม เมื่ออายุได้ ๒๕ ปี เท่านั้น เมื่อพระครูบาฯ อายุได้ ๔ ขวบ แม่อุ้ยนางหลวงและคุณแม่แสงหล้าได้ย้ายจากบ้านด้ายไปอยู่บ้านทาดอนชัย ตำบลป่าสักอำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ และสมรสใหม่กับนายสม ชัยวงศ์คำ มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อว่า เด็กชายวีนัส (แดง) และบุตรหญิง ๒ คน คือเด็กหญิงเอื้องฟ้า ถูกสุนัขกัดตาย เมื่ออายุได้ ๔ ขวบ และเด็กหญิงอ้อมใจ เมื่อแม่อุ้ยนางหลวงได้ถึงแก่กรรมไป ครอบครัวของเด็กชายบุญชุ่ม ยิ่งลำบากมากกว่าเก่า บ้านก็ถูกรื้อขาย แล้วอพยพไปอยู่เชิงดอยม่อนเรียบ ทำกระต๊อบน้อยอยู่กัน ๔-๕ คน แม่ลูก ฝาเรือนก็ไม่มี เวลาฝนตกหลังคาก็รั่ว เอามุ้งขาดเป็นเรือน ผ้าห่มก็มีผืนเดียวเวลาหน้าหนาวก็หนาวเหน็บ ต้องนอนผิงไฟเหมือนสุนัขผ้านุ่งผ้าห่มเสื้อกางเกงก็มีชุดเดียวเวลาไป โรงเรียนก็นุ่งกางเกงขาสั้นไป เรื่องอาหารก็ตามมีตามได้ เก็บกินเต้าแตง เผือกมัน ผักผลไม้กิน เพื่อยังชีพไปวันๆ บางทีแม่แสงหล้าก็ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวและปลูกหอม กระเทียม ได้ข้าวมาเลี้ยงกัน วันละลิตร สองลิตร ก็เอามาหุงต้มเลี้ยงกัน วันไหนข้าวมีน้อย ก็เอาต้มใส่เผือกใส่มัน บางครั้งก็ได้กินหัวกลอยต่างแทนข้าว บางครั้งได้กินข้าวกับพริกกับเกลือบ้าง บางทีแม่แสงหล้า ไม่สบายไปรับจ้างไม่ได้ พระครูบาเจ้าบุญชุ่มและน้องๆ ก็เที่ยวขอทาน ห่อข้าว ตามหมู่บ้านมาเลี้ยงดูกัน บางวันก็ได้มากบ้างน้อยบ้าง พอประทังชีวิต บางคนก็ด่าว่าตางๆ นานา บางคนก็ดีใจ บางคนก็ทุบต่อยตีไล่หมาใส่ ท่านก็ไม่ถือสาโกรธแค้น ส่วนพ่อเลี้ยงก็ไม่สบายเป็นโรคบวมพองทำงานไม่ได้ พระครูบาบุญชุ่มบางทีก็ต้องเก็บใบตองไปแลกข้าวบางทีก็หาฟืนไปขาย บางวันก็ไปรับจ้างเก็บถั่วลิสง ได้เงินมา ๑ บาท ๒ บาท ก็เอาไปซื้อข้าว น้ำมันและพริก เกลือมาเลี้ยงครอบครัวถึงแม้ชีวิตท่านจะลำบากเพียงใดก็ไม่เคยเป็นเด็กเกเร ลักเล็กขโมยน้อยเด็ดขาย แม่แสงหล้าจะสอนว่า “ห้ามลักขโมยของคนอื่นมาโดยเด็ดขาด” วันหน้าถ้ามีบุญก็จะสบายได้แล บางวันน้องซนไม่มีใครดูแลพระครูบาเจ้าบุญชุ่มก็ฉีกเอาชายผ้าถุงของแม่ผูกขา น้องๆ ติดกับเสาบ้านเสาเรือนไว้ แล้วก็เที่ยวขอทานมาเลี้ยงแม่เลี้ยงน้อง





    เห็นทุกข์ก็เห็นธรรม
    ชีวิตความเป็นอยู่ของพระครูบาเจ้าฯ ช่างน่าสังเวช ทุกข์ลำบากเหมือนกับว่า ในโลกนี้บ่มีใครเท่าเทียมได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกข์และสุขก็เป็นอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ทนลำบากไม่ใช่ตัวตนของเราบังคับไม่ได้ พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว พึงจะเบื่อหน่ายการเกิด การตาย ทุกข์ในวัฏฏะสงสารพึงสละละวางความยึดมั่น ถือมั่น พึงคลาย ความอาลัยในตัณหาตัวนำมาเกิด พึงละอวิชชา ความไม่รู้นำมาเกิดภพชาติ ชรามรณะทุกข์ เวียนว่าย ตายเกิด หาที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายบ่มิได้พึงสังเวชเบื่อหน่ายโลกาอามิสทั้งปวงพึง มีจิตยินดีในพระนิพพานเป็นอารมณ์ รีบขวนขวายหาทางดับทุกข์ ความเกิดแก่เจ็บตาย จงสร้างแต่กุศลบุญทาน รักษาศีลภาวนา อย่าขาด อย่าประมาทในชีวิตสังขารไม่ยั่งยืน ไม่รู้ว่าเราจะตายวันใด ที่ไหน เวลาใด ใครไม่สามารถกำหนดได้ ขอให้ทุกคน เราท่านทั้งหลายจงทำดีให้หนีวัฏฏะสงสารไม่ต้องกลับมาเกิดอีกเพราะการเกิด บ่อยๆ เป็นทุกข์ดังนี้แล





    อุปนิสัยฝักใฝ่ในธรรมของพระครูบาเจ้าฯ
    เนื่องจากคุณแม่แสงหล้าเป็นคนมีนิสัยใจดีมีเมตตาเผื่อแผ่โอบอ้อมอารีลูกเต้า ญาติมิตรพี่ๆ น้องๆ เป็นผู้รู้จักบุญคุณเสมอชอบทำบุญไปวัดไม่ขาด ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่จะลำบากยากจนขนาดไหน พอถึงวันพระแม่จะจัดหาอาหารตามมีตามได้ไปใส่บาตรทุกครั้ง ก่อนที่คุณยายของพระครูบาเจ้าฯ คือยายแม่อุ้ยนางหลวง ยังไม่เสียชีวิต ดังนั้นเมื่อพระครูบาเจ้าฯ อายุได้ ๔-๕ ปี ก็พาไปนอนวัดปฏิบัติธรรมด้วย ยายสอนว่าให้ไหว้พระสวดมนต์ และภาวนาพุทโธฯ ตั้งแต่เล็กได้คลุกคลีอยู่กับวัดตั้งแต่ตัวน้อยๆ เวลาเข้าโรงเรียนฯ ก็ติดกับวัดเวลาว่างก็ชอบเขาไปไหว้พระในวิหาร บางทีก็ภาวนาตามร่มไม้ ทำอยู่อย่างนี้ตลอดเท่าที่ท่านจำความได้ พระครูบาเจ้าฯ ไม่ชอบทานเนื้อสัตว์มาตั้งแต่เกิด ถ้าจำเป็นต้องท่านก็เอาคำข้าวจิ้มแต่น้ำแกง บางทีก็ทานข้าวเปล่าๆ บางทีก็ทานกับน้ำอ้อย บางทีก็ทานข้าวกับกล้วยไปวันๆ คุณแม่แสงหล้ารักเอ็นดูพระครูบาเจ้าฯ เป็นอย่างยิ่งไม่เคยด่าเคยตีด้วยไม้หรือฝ่ามือแม่แต่ครั้งเดียวในชีวิต





    IMG_1779(4).jpg

    พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร




    อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าชีวิตในวัยเยาว์ของพระครูบาเจ้าฯ จะทุกข์ยากลำบาก แต่ท่านก็เป็นเสมือนเพชรในตม คือจิตใจของท่านที่ได้รับการปลูกฝังคุณงามความดีอยู่เสมอ ทั้งจากคุณยายและจากคุณแม่ จากการคลุกคลีอยู่กับวัด กับพระสงฆ์ จึงทำให้จิตใจของเด็กน้อยรู้สึกผูกพันกับบวรพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ถูกสั่งสอนให้ขยันหมั่นเรียนเขียนอ่าน และสอนให้หมั่นเพียรทำงานทุกอย่าง แม่แสงหล้าจะใช้ไปซื้อของในตลาด บางทีมีเงินบาทเดียวได้ของมาสี่อย่าง ซื้อพริก ๑ สลึง เกลือ ๑ สลึง น้ำมัน ๑ สลึง เมี้ยง ๑ สลึง เป็นต้น เพราะเงินสมัยนั้นมีค่าข้าวสารลิตรละ ๑ บาท ก็พอกินไป ๒ วัน เท่าที่จำได้ตอนโตมาแล้วบางทีโรคลมของคุณแม่กำเริบก็ว่าด่าต่างๆ ด้วยความลืมตัวบ้างเสร็จแล้วพอรู้สึกดีขึ้นคุณแม่จะมาขอขมาลาโทษทุกครั้ง โดยการผูกข้อมือรับขวัญให้ทุกครั้ง





    การเดินทางของชีวิตฆราวาส
    เมื่อช่วงวัยเด็ก เคยป่วยด้วยพิษไข้มาลาเรีย เกือบเอาชีวิตไม่รอด เป็นช่วงเดียวกับพ่อเลี้ยงก็ป่วยหนักเช่นกัน ตามความเชื่อของชาวเหนือ ถ้ามีคนป่วยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันต้องแยกกันอยู่ ดังนั้นคุณแม่แสงหล้าจึงนำไปฝากไว้กับญาติผู้ใหญ่ คือแม่คำ พ่อคำหล้า ส่วนน้องชาย ด.ช.วีนัสไปอยู่กับคุณป้า น้องสาวไปอยู่กับพ่อก๋อง แม่เพชร ช่วงนั้น ด.ช.บุญชุ่ม ได้พลัดพรากจากญาติพี่น้อง รู้สึกสะเทือนใจร้องไห้ตามประสาเด็กทั่วไป ที่ต้องแยกันอยู่ ด้วยท่านเป็นพี่ชายคนโต เคยดูแลเลี้ยงดูน้องๆแทนแม่เสมอ จึงทำให้รักและผูกพันต่อกันมาก





    แม้การดำเนินชีวิตของท่านได้รับความลำบากทุกข์ยากต่างๆ แต่กลับทำให้พระครูบาเจ้าฯ มีความเข้มแข็ง อดทน เป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ดังในช่วงที่ท่านอยู่กับลุงน้อยจันตา มีลูกเลี้ยงของลุงเป็นคนเชื้อสายเขมร รังแก บังคับ ตีต่อย ให้ทำงานหนัก แต่ท่านก็ไม่ถือสาหาความ เพราะท่านผ่านความทุกข์ใหญ่หลวงมามากแล้ว เรื่องแค่นี้ท่านมีความเข้มแข็ง ผ่านพ้นไปได้และมีอยู่วันหนึ่ง หลังจากหยุดพักจากงานและนั่งพักผ่อน ท่านมีนิสัยที่ชอบชุ่มชื่นรื่นเริงจึงขับร้องเล่นซอเมืองเหนืออย่างสบาย อารมณ์ คนงานในบ้านก็โกรธท่านหาว่าเกียจคร้าน เอาก้อนดินใหญ่มาขว้างปาใส่หัวจนเจ็บและมึนงงไปหมด เกือบสลบ แต่ท่านก็ไม่บอกเรื่องที่ถูกคนใช้ทำร้ายให้กับคุณลุง คุณป้า เพราะกลัวคนทำจะเดือดร้อนถูกไล่ออก





    ถึงแม่ว่าท่านต้องทำงานหนัก แต่ในเรื่องการเรียนหนังสือท่านก็เอาใจใส่ ศึกษาหาความรู้ จนจบประถมศึกษาปีที่ ๔ ด้วยตั้งใจไว้ว่าถ้าหากเรียนจบแล้วจะบรรพชาเป็นสามเณรทันที กระทั่งเมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรอายุ ๑๑ ปี ได้เข้าศึกษานักธรรมสอบได้นักธรรมชั้นตรี ใน พ.ศ. ๒๕๒๖





    สามเณรน้อยใจสิงห์
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้เข้ามาเป็นเด็กวัด โดยมีพ่อลุงทาเอาไปฝากกับเจ้าอธิการสิน จิรธัมโม วัดบ้านด้ายตอนท่านอายุได้ ๑๑ ปี หลังจากเป็นเด็กวัดได้ 3 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ท่านชอบสงบอยากบวชตั้งแต่อายุ ๔-๕ ปีแล้ว ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนชอบนั่งสมาธิภาวนาไม่สุงสิงกับใคร เวลาว่างก็เดินจงกรมที่สนามหญ้าโรงเรียน จนเพื่อนฝูงว่าท่านเป็นบ้า ใครจะว่าอย่างไรไม่สนใจ ท่านถือว่าได้ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้า





    ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร ได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เยาว์วัย ถึงเวลาท่านก็กำหนดขอขมาลุงและป้าแทนพ่อแม่ แล้วจึงอาบน้ำและนุ่งผ้าขาวในคืนหนึ่ง พอใกล้รุ่งท่านนิมิตเห็นหลวงพ่อปู่องค์หนึ่งแก่ๆ ผมหงอกสักไม้เท้าจากต้นโพธิ์ใหญ่ที่ในวัดเดินเข้ามาห่านแล้วสอนธรรม กัมมัฏฐานให้ภาวนาว่า พุทโธๆและบอกว่าให้หมั่นภาวนาในภายหน้าจะได้เป็นครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่งของ คนทั่วไปและมนุษย์โลกทั้งหลาย แล้วท่านครูบาเฒ่าก็เดินลับหายไป พอสว่างก็ได้ไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญยืน ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่จัน เจ้าคณะอำเภอเชียงแสนเป็นองค์พระอุปัชฌาย์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ตรงกับเดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ วันพฤหัสฯ เวลา ๙.๓๙ น. ได้บวชเสร็จเรียบร้อย มีสามเณรที่บรรพชารวมกันทั้งตำบลสามสิบสองรูป ปัจจุบันเหลือพระครูบาฯเจ้าองค์เดียว





    ครั้นเสร็จพิธีบรรพชาแล้วก็กลับมาวัดบ้านด้ายเข้ากรรมฐานภาวนา ๓ วัน เริ่มเรียนสวดมนต์ภาวนาทำกิจวัตรต่างๆ มีล้างบาตรล้างถ้วยล้างชามทำความสะอาดวัด ดายหญ้า ท่านทำทุกอย่างที่ทำได้ในวัด จำเป็นที่สุดคือ การเจริญภาวนา ท่านนอนองค์เดียว นอนในกุฏิที่เก็บกระดูกผีตายชอบอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ พอบวชเป็นสามเณรไม่นานเกือบ ๑ เดือน คนทั้งหลายก็เล่าลือกันว่ามีสามเณรน้อยต๋นบุญถือกำเนิดที่วัดบ้านด้ายธรรม ประสิทธ์ ศรัทธาสาธุชนทั้งหลายก็พากันมาทำบุญขอให้ทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ให้ สามเณรบุญชุ่มก็บอกว่า “เราบวชเป็นสามเณรใหม่ยังไม่รู้อะไรสักอย่างให้ตั้งจิตอธิษฐานกันเอาเองเถอะ บางคนก็ขอให้เทศน์สั่งสอน เราก็บอกว่ายังไม่รู้อะไรเลยให้หั่นไหว้พระทำบุญให้ทานรักษาศีลห้าข้อให้ดี และภาวนาพุทโธๆไปก็จะได้พ้นทุกข์”





    paragraph_11_130(2).jpg

    พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร





    อารมณ์กรรมฐานโดยพิจารณาอัฐิ
    มีหลวงพ่อธุดงค์องค์หนึ่งอยู่อำเภอจุน จ.พะเยา ได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมามอบให้พระครูบาเจ้าฯ เมื่อท่านได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาแล้ว ได้น้อมจิตพิจารณาว่า กระดูกของสัตว์โลกทั้งหลายนั้น นับตั้งแต่เวียนว่าย ตายเกิด ในวัฏฏสงสารนี้ หากนำมากองรวมกัน คงกองใหญ่เป็นภูเขาทีเดียว หากแยกกันก็กระจัดกระจายอย่างที่เห็น กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกเข่าไปอีกทางหนึ่ง กระดูกข้อเท้าไปทางอื่น กระดูกข้อนิ้วเท้าก็กระจัดกระจายไปทางอื่น กระดูกทุกส่วนแยกออกจากกันไปคนละที่คนละแห่ง แล้วก็ผุพังกลายเป็นดินเป็นจุลไป ท่านก็น้อมพิจารณาเข้ามาในกายแห่งตนว่า

    “เอวงฺธมฺโม เอวงฺอนตฺติโต”





    ยกกระดูกสามร้อยท่อนเป็นกรรมมัฏฐานให้เห็นชัดแจ้งในสังขารรูปนาม ร่างกายอันเน่าเหม็นนี้ไม่ดีไม่งามเป็นอสุภะยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ วิปัสสนาพิจารณาสรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตาไม่ใช่ของเขาสักอย่าง เห็นความเกิดความดับของรูปนามสังขารดังนี้แล้วก็ยกจิตขึ้นสู่ยถาภูตญาณทัศนะ เห็นแจ้งชัดตามความเป็นจริงทุกอย่าง บังเกิดความเบื่อหน่ายในกองสังขารทุกข์ทั้งหลายอยากจะพ้นไปจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย หาทางที่จะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งหลาย แล้ววางเฉยต่อสังขารทั้งหลายไม่ติดข้องยินดีในสังขารทั้งหลาย แล้วมองเห็นอริยะสัจจะธรรมทั้งสี่ให้เห็นแจ้งชัดว่านี้คือทุกข์ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจเป็นทุกข์ได้ประสบพบสิ่งที่ไม่ได้รักก็เป็นทุกข์ได้ พลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์ อยากได้อันใดไม่สมปรารถนาก็เป็นทุกข์ จึงพึงกำหนดรู้ทุกข์อย่างนี้แล้วให้รู้เหตุที่ให้เกิดทุกข์คือสมุทัยทำให้ เกิดทุกข์ คือ ตัณหา ความอยากได้ทั้งสามคือ กามตัณหาในกามอารมณ์ทั้งหลาย ภาวะตัณหา ตัณหาในภาวะน้อยใหญ่ ความมีความเป็นทั้งหลาย วิภาวะตัณหา ตัณหาในความไม่อยากมีอยากเป็น ทุกข์ทั้งหลายเกิดจากตัณหาทั้งสามนี้ เมื่อดับตัณหา ความอยากได้ก็ดับทุกข์ทั้งปวง ตัณหาขะยังสัพพะ ทุกขัง ชินาติ ดับตัณหาได้ชนะทุกข์ทั้งปวง แล้วก็มาพิจารณานิโรธ ความดับทุกข์วิราคะไม่ติดข้องด้วยราคะตัณหา ปราศจากไปแล้ว ปฏิสัคโค ความสลัดออกแห่งตัณหาทั้งหลาย นิโรธ ความดับสนิทไม่เหลือ อาจโย มีอาลัยขาดแล้ว วัฏฏะปัจเฉโต ตัดวัฏฏะทั้งสามขาดแล้ว คือกิเลสวัฏฏะ กรรมะวัฏฏะ วิปากวัฏฏะทั้งสามนี้แล นิโรโธติได้ชื่อว่าความดับทุกข์คือพระนิพพานแล้วให้พิจารณาด้วยปัญญาใน วิปัสสนาญาณต่อไป ถึงมรรค คือหนทางอันดับทุกข์ คือมรรคมีองค์แปด คือ





    ๑. สัมมาทิฏฐิ
    ๒. สัมมาสังกับโป ความชอบดำริ
    ๓. สัมมาวาจา ความพูดวาจาชอบ
    ๔. สัมมากัมมันโต มีการงานอันชอบ
    ๕. สัมมาอาชีโว เลี้ยงชีวิตชอบ
    ๖. สัมมาวายาโม มีความเพียรชอบ
    ๗. สัมมาสติ มีระลึกชอบ
    ๘. สัมมาสมาธิ มีความตั้งใจชอบ




    ดังนี้ได้ชื่อว่ามรรคมีองค์แปดคือเป็นหนทางอันประเสริฐไม่มีทางอื่นยิ่งกว่า ทางนี้เป็นทางให้ถึงซึ่งความดับแห่งกองทุกข์ในวัฏฏะทั้งหลาย เราพึงทำภาวนาให้รู้แจ้งแล้ว น้อมเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ ดับความเห็นผิดทั้งหลายอันเป็นปุถุชนอันแน่นหนาไปด้วยกิเลส แล้วน้อมจิตเข้าสู่โลกุตรภูมิแห่งพระอริยะเจ้าทั้งหลาย แล้วมาพิจารณาดูมรรคธรรมที่เราได้บำเพ็ญมาตลอดสืบเนื่องติดต่อกันไม่ขาดสาย รู้ความไม่เที่ยงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก รู้ความจางคลายความกำหนดยินดีในสัพพนิมิตสังขารทั้งหลาย รู้ความเป็นไปแห่งสังขารทั้งหลาย ทุกลมหายใจเข้าออก รู้ความสลัดคืนในกองสังขารทั้งหลายหายใจเข้าออก อยู่น้อมจิตเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ตลอดจึงได้ชื่อว่าเจริญมรรคญาณ ต่อไปให้พิจารณาความดับทุกข์ทั้งหลายเป็นนิโรธญาณผละญาณ แล้วก็ถึง ปัจเจกขณาญาณ พิจารณาสภาวธรรมทั้งหลายเป็นมรรคะสมังคี คือว่าธรรมทั้งหลายมารวมลงกันในที่เดียวคือสติปัฏฐานสี่ สัมมัปปธานสี่อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละธรรมห้า โพชฌงค์เจ็ด อัฐฐังคิกะมรรคะทั้งแปดมาลงรวมกันที่เดียวได้ชื่อว่ามรรคสมังคี แล้วก็น้อมเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ให้แจ้งแล้วให้รู้แจ้งตามสภาวะธรรมที่เป็นจริง แล้วก็มาพิจารณาดูว่าเราได้รู้แจ้งในธรรมหรือยัง ถ้าไม่รู้แจ้งตราบใดก็ละกิเลสไม่ได้ ถ้าตรัสรู้แจ้งแล้วกิเลสธรรมทั้งหลายก็ละได้เองโดยอัตโนมัติไม่ต้องสงสัยเลย ในมรรคผลนิพพานมีจริงทุกอย่างถ้าเราทำจริงต่อมรรคธรรมเราก็จะถึงความดับ ทุกข์ วันหนึ่งเราก็มาพิจารณาดูว่าเราละกิเลสได้เท่าใด เหลืออยู่เท่าใด ดูพระอริยะบ้างก็พิจารณาบ้าง พิจารณาว่ากิเลสมีเท่าใดตัดขาดเท่าใดสุดแล้วแต่บุญวาสนา ปัญญาของใครของมัน ท่านที่มีปัญญาแก่กล้าจึงจะพิจารณาได้ ถ้าบรรลุมรรคขั้นต้นก็มีการตัดกิเลสสังโยชน์ได้สามคือสักกายทิฏฐิ ความยึดมั่นเห็นผิดในกาย วิจิกิจฉาความลังเลสงสัยในธรรมดับไป สีลัพพัตปรามาสความถือศีลไม่มั่นคงลูบคลำศีลก็ดับไป ถ้าได้ถึงสกิทาคาก็กระทำให้ความโลภราคะ โทษะ โมหะ ส่วนที่หยาบๆดับไปถ้าได้ถึงอริยมรรค ที่สามคือพระอนาคามี คือผู้ไม่กลับมาอีก ก็ตัดกิเลสสังโยชน์ได้อีก สองคือกามราคะ ความยินดีในกามราคะดับอย่างสนิท ปฏิฆะความโกรธแค้นพยาบาท ดับสนิท ตรงกับคติธรรมคำสอนของท่านครูบาศรีวิชัยให้เป็นคติว่า อู้ร้อยคำบ่เท่าผ่อครั้งเดียว






    พิธีอุปสมบท
    พอถึงเดือนวิสาขะวันที่ ๑๑ เดือน ๘ ขึ้น ๑๕ ค่ำ โยมแม่แสงหล้าและพ่อน้อยใจมาและลูกศิษย์ทุกคนก็จัดพิธีอุปสมบทให้ในวัดสวนดอก ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พัทธสีมาในโบสถ์วิหารพระเจ้าเก้าตื้อเชียงใหม่ มีคนคณะศรัทธามาร่วมเต็มวัด ทำให้ปลื้มปีติยินดีมาก ได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ ๙ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ตรงกับเดือน ๘ เหนือขึ้น ๑๑ ค่ำวัน เวลา ๙.๑๙ น. ในโบสถ์วิหารพระเจ้าเก้าตื้อ พระราชพรหมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นองค์อุปัชฌาย์ พระครูเวสุวันพิทักษ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระครูศรีปริยัตินุรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระสงฆ์ร่วมหัตถบาทยี่สิบเก้าองค์ พระครูบาเจ้าบุญชุ่มได้ให้ศีลให้พรคุณแม่แสงหล้าและศรัทธาทั้งหลายแล้วก็ได้ไปเข้ากรรมภาวนาที่วัดอุโมงค์เชียงใหม่เจ็ดวัน แล้วได้กลับไปที่เมืองพงจำพรรษาที่วัดพระเจ้านอนบ้านทุ่งในปีนี้ คุณแม่แสงหล้าก็มาเข้าพรรษาถือศีลด้วย ท่านดีใจที่สุดได้อยู่ใกล้โยมแม่นำพาแม่ไหว้พระสวดมนต์ภาวนา ตอนอยู่ที่เนปาลนึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าโยมมารดาอีกแล้ว ท่านได้กลับมาดูแลแม่เหมือนในนิมิตบอกทุกอย่าง ได้ปลูกบ้านหลังน้อยๆ ให้คุณแม่อยู่ที่บ้านห้วยน้ำราก ได้สร้างเจดีย์พุทธรูปวิหารทุกอย่างก็ได้ลงชื่อคุณแม่แสงหล้าหมด หลังจากบวชเป็นพระได้สามพรรษา พ่อน้อยใจมา ชัยเผือกก็ถึงแก่กรรมไป ท่านและคุณแม่ก็จัดพิธีศพอย่างดี ทำบุญอุทิศให้ทุกอย่าง โยมแม่กลับมาอยู่บ้านหลังน้อย บ้านห้วยน้ำรากด้วยความผาสุข ท่านดูแลตามใจแม่ทุกอย่างเอาใจใส่ตลอด บางครั้งก็ชวนโยมแม่มาอยู่วัดถือศีลภาวนาในพรรษาบำเพ็ญกุศลภาวนาไม่ขาด คุณแม่เป็นห่วงท่าน และน้องๆทุกคน พระครูบาฯ มีน้ำใจกว้างขวางดูแลญาติพี่น้อง ใครมาขอให้ท่านช่วยเหลือท่านก็ให้เงินใช้จ่ายตามสมควร เวลาญาติพี่น้องมาวัดจะไม่มามือเปล่าจะเตรียมอาหารผักผลไม้มาทุกครั้งที่ขาดไม่ได้ก็คือยาหอมเป็นขวดของวัดโพธิ์กับมะนาวมาถวายท่านทุกครั้งบางทีก็ทำอาหารถวายผักกาดจอ น้ำพริกตาแดงทำถวายพระเณร คุณโยมแม่ใจบุญที่สุด เป็นห่วงท่านมากในปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ท่านได้พาโยมแม่ไปกราบสังเวชนียสถานที่อินเดีย ท่านดีใจที่สุดในชีวิตได้ตอบบุญคุณท่านจนสุดยอด ได้พาไปกราบสถานที่ประสูติ ที่ตรัสรู้ ที่ปฐมเทศนาและที่ดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ได้ชื่อว่าท่านเป็นอุตะมะบุตรผู้โปรดพระแม่มารดาโดยแท้ และปกติตลอดเวลาช่วงเข้าพรรษา ท่านจะไปบำเพ็ญศีลภาวนา ณ พุทธสถานสำคัญหลายแห่ง ได้สัมผัส “ธรรมนิมิต” มากมาย ระหว่างที่เป็นสามเณรและพระสงฆ์





    unnamed(24).jpg

    พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร





    ลำดับครูบาอาจารย์โดยตรง ของ พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร
    ๑. หลวงปู่ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทราวตากผ้า จังหวัดลำพูน
    ๒. หลวงปู่ครูบาอินทจักร์ วัดวนาราม (น้ำบ่อหลวง) สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
    ๓. หลวงปู่ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน
    ๔. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
    ๕. หลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง แม่แตง
    ๖. หลวงปู่ครูบาคำแสน วัดดอนมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
    ๗. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (มหาวีระ ถาวโร)
    ๘. หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
    ๙. หลวงปู่ฤาษีธนะธัมโม วัดถ้ำผาแตก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
    ๑๐. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร
    ๑๑. หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา
    ๑๒. พระครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน เป็นพระสหธรรมิก




    ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้ปฏิบัติถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความดับทุกข์เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านได้ไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์แล้ว ส่วนมากไม่ได้มีโอกาสไปอยู่ด้วย





    อ่านเพิ่มเติม... "พระคาถาธรรมราช"พระคาถาที่ใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง





    ครูบาอาจารย์ภาคอีสาน ที่ท่านได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์
    ๑. หลวงปู่นิล วัดครบุรี จ.นครราชสีมา
    ๒. หลวงปู่พุธ ฐานิโย วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา
    ๓. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    ๔. หลวงพ่อแสวง วัดถ้ำพระ จ.สกลนคร
    ๕. หลวงปู่คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา



    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูล

    ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” http://www.dhammajak.net

     
  4. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รู้ไว้ ใช่ว่า
    คนเราเวียนว่าย ตายเกิด
    เส้นทางแห่งพระโพธิญาน ยาวนานนัก

    #ครูบาบุญชุ่ม คราวเกิดเป็น โสณพราหณ์
    อนาคตวงศ์
    พระพุทธรังสีมุนีนาท (โสณพราหณ์)
    ( #แชร์ เป็นธรรมทาน)

    ลำดับนั้น โสณพราหมณ์จะได้บังเกิดเป็นพระพุทธเจ้าสืบต่อไปในอนาคตกาล ทรงพระนามว่าพระรังสีมุนีนาถศาสดาจารย์เจ้านั้น

    - พระองค์มีพระวรกายสูงได้ ๖๐ ศอก
    - มีพระชนมายุยืนได้ ๕ พันปีเป็นกำหนด
    - คัมภีร์หนึ่งว่าไม้เลียบ คัมภีร์หนึ่งว่าไม้ดีปลี เป็นพระมหาโพธิ
    - ประกอบไปด้วยพระพุทธรัศมีดุจสีทองรุ่งเรืองสว่างทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นอันงาม
    - ในศาสนาพระพุทธรังสีมุนีนั้น มนุษย์ทั้งปวงกระทำการงานเลี้ยงชีวิตของอาตมาเหมือนมนุษย์ทุกวันนี้
    พระพุทธเจ้าผู้ทรงพระนามว่า รังสีมุนี นั้น
    ได้สร้างพระบารมีทั้ง ๑๐ ประการมาเป็นอาทิ คือทานและศีล แต่กองพระบารมีครั้งหนึ่ง เป็นปรมัตถบารมีปรากฏอัศจรรย์หวั่นไหวจึงได้พระพุทธสมบัติทั้งปวง พระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงนำมาซึ่งอดีตนิทาน ของพระรังสีมุนีนาถว่า อตีเต กาเล ในอดีตกาลล่วงลับไปแล้วช้านาน ในเมื่อพระศาสนาพระกุกกุสันธสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสในโลก

    ครั้งนั้นโสณพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ บังเกิดเป็นมาณพผู้หนึ่งมีนามว่า มาฆมานพ เป็นมหาวาณิชพ่อค้าสำเภา มีความปรารถนามักมาก ไปค้าสำเภาเป็นปฐมนั้น ราคาสินค้าอันหนึ่งขายได้กำไร ๑๐ เท่าแล้วประมวญทรัพย์กลับสำเภาแล่นมานาวาก็จมลงในน้ำแต่ตัวนั้นรอดมาได้
    ...มาฆมานพก็จัดแจงสำเภาไปใหม่เป็นคำรบ ๒ สินค้าอันเดียวขายได้กำไร ๑๐ เท่า ได้ทรัพย์แล้วกลับมาสู่บ้านเรือนได้ ๗ วันก็เกิดเพลิงไหม้เรือนสิ้นข้าวของทั้งหลายเป็นอันมาก
    ...จึงจัดแจงสำเภาไปค้าขายอีกเป็นคำรบ ๓ ก็ขายของสิ่งเดียวได้กำไรอีก ๑๐ เท่า ได้ทรัพย์แล้วกลับมายังบ้านเรือนก็มีโจรทั้งหลายเข้าสะกดหลับเก็บเอาทรัพย์สิ่งของทองเงินทั้งปวงไปสิ้น
    ...ในขณะนั้นมฆมานพจัดแจงแต่งสินค้าไปขายเป็นคำรบ ๔ ก็ได้ราคาขายของสิ่งเดียวบังเกิดผลถึง ๑๐ เท่า ได้ทรัพย์แล้วกลับถึงบ้านเรือน ในวันนั้นพระมหากษัตริย์ให้ราชบุรุษทั้งหลายไปเก็บเอาทรัพย์สิ่งของแห่งมาฆมาณพนั้น มาเข้าท้องพระคลังจนหมดจนสิ้น
    ...ตกลงว่ามาฆมาณพผู้เป็นมหาวาณิชนั้น ได้ซึ่งความพินาศฉิบหายถึง ๔ ครั้ง มาฆมาณพกับภรรยาสองคนผัวเมีย ก็เกิดความทุกข์ยากวิวาทกับภรรยาเมื่อคราวจนแล้ว ส่วนตัวได้ผ้าแดงผืนหนึ่งกับทองแสนหนึ่ง หย่ากันกับภรรยาเสียแล้วก็ลงจากเรือนไปเที่ยวค้าขาย คิดว่าครั้งนี้เราจะไปกระทำวาณิชกรรมในที่ดังฤา ก็เที่ยวไปในประเทศจนถึงเมืองโกสัมพี ในกาลนั้นเป็นวันปัณณรสีอุโบสถ มาณพนั้นก็รักษาศีลสำรวมจิตปรกติ ฝ่ายว่าชาวเมืองโกสัมพีและชาวนิคมชนบททั้งหลายก็ชวนกันเดินไปมาในท่ามกลางพระนครตามความปรารถนา

    ในกาลนั้น พระสาวกองค์หนึ่งแห่งพระกุกกุสันธสัพพัญญูพระผู้เป็นเจ้าพระองค์นั้นเข้าสู่ผลสมาบัติ ครั้นว่าออกจากษมาบัติแล้วพระผู้เป็นเจ้าจินตนาว่า ใครหนอมีความทุกข์เบียดเบียนเป็นอันมาก
    ...เล็งแลดูด้วยทิพยจักษุญาณก็เห็นแจ้งว่ามาฆมาณพผู้เป็นบรมโพธิสัตว์นั้นประกอบด้วยมหันตทุกข์มากนัก
    ...ควรอาตมาจะยังมาณพผู้นี้ให้บังเกิดผลเห็นเป็นทิฏฐธรรมเวทนีย์ ให้ได้เสวยผลในอัตภาพชาตินี้ พระผู้เป็นเจ้าคิดแล้วก็จับบาตรและจีวรประดับกายพร้อมแล้วเหาะมาโดยอากาศ ลงในท่ามกลางเมืองโกสัมพี ยืนอยู่ในที่ใกล้มรรคาหนทาง
    ...พอมาฆมาณพเดินมาตามมรรคาเห็นพระสาวกแล้วก็เข้าไปกราบไหว้ถามว่า
    "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าจะปรารถนาสิ่งดังฤา "

    "ดูก่อนมาณพ อาตมาภาพมายืนอยู่เพื่อจะรับทานของท่าน "

    มาณพได้ฟังดังนั้นก็มีจิตเลื่อมใสศรัทธา ประกอบไปด้วยความโสมนัส เปรียบเหมือนบุรุษยากไร้เข็ญใจ ได้ซึ่งถุงทรัพย์พันตำลึงอันท่านมาวางลงในมือแห่งตน
    จึงกล่าวว่า
    "ข้าแต่พระผู้เจริญศีลาธิคุณ ตัวของข้าพเจ้าเป็นปุถุชนวาณิช เที่ยวค้าขายได้กำไรถึง ๔ หน ก็บังเกิดมหันตทุกข์เป็นอันมาก บัดนี้ข้าพเจ้าขอกระทำพระนิพพานเป็นวาณิชกรรมแห่งข้าพเจ้าแล้ว จะยังจิตให้เที่ยวไปค้าขายในเมืองแก้ว ให้ได้สมบัติโลกุตระในเบื้องหน้า "

    ครั้นว่าแล้วก็เอาทองแสนหนึ่งกับผ้าแดงผืนหนึ่งถวายแก่พระสาวก ด้วยจิตโสมนัสศรัทธาเลื่อมใสเป็นอันดี แล้วก็กระทำความปรารถนาว่า

    "เดชะผลทานในกาลบัดนี้จงเป็นปัจจัยให้สำเร็จแก่พระสัพพัญญุตญาณเถิด "

    ...พระสาวกเจ้าก็รับเอาไทยทานแล้วก็อนุโมทนาว่า

    "ดูก่อนอุบาสกผู้รู้พระไตรสรณาคุณแก้วสามประการ อันว่าความปรารถนาของท่านมีประการใด ขิปฺปํ สมิจฺฉตุ จงสำเร็จเป็นอันเร็วแก่ท่านดังความปรารถนานั้นเถิด"

    ...พระผู้เป็นเจ้ากล่าวอนุโมทนาแล้วก็เหาะไปในอากาศเวหา ในเมื่อพระสาวกนั้นหายไปลับจักษุมาณพแล้ว ในที่ถวายทานแห่งมาณพนั้นก็บังเกิดมีไม้กัลปพฤกษ์ขึ้นมาต้นหนึ่ง ฝ่ายมาณพก็ขึ้นอาศัยไม้กัลปพฤกษ์นั้น เปรียบเหมือนเทพบุตรผู้มีฤทธิ์ไปนั่งอยู่บนยอดเขายุคนธรบรรพต

    ️️ครั้งนั้นพระเจ้าโกสัมพีเสด็จแวดล้อมมาด้วยมหาชนเป็นบริวาร ออกมาถึงสถนที่นั้น ทอดพระเนตรเห็นมาณพนั่งอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์นั้น ประดุจดังทิพยพิมาน จึงเสด็จเข้าไปใกล้ต้นกัลปพฤกษ์
    ...ฝ่ายว่าเทพารักษ์ที่รักษาต้นกัลปพฤกษ์นั้น ก็จับเอาพระศอพระยาโกสัมพีเสือกไสออกมา
    ...จึงทรงพิโรธ สั่งให้ราชบุรุษทั้งหลายเอาไฟมาเผาทิพยพิมานนั้นเสีย ในที่นั้นก็บังเกิดเป็นดอกประทุมชาติผุดขึ้นมารองรับเอามาณพนั้นไว้ให้นั่งอยู่บนดอกบัวเป็นอันงาม
    ...ฝ่ายพระยาโกสัมพีทรงเห็นเป็นอัศจรรย์ จึงสั่งให้จับตัวมาณพบรมโพธิสัตว์ให้เอาไปถ่วงน้ำเสีย เมื่อมหาชนเอามาณพไปถ่วงน้ำครั้งนั้นดอกบัวใหญ่ก็ผุดขึ้นมารับเอามาณพไว้มิได้เป็นอันตราย
    ...ครั้นพระยาโกสัมพีเห็นอัศจรรย์ดังนั้น จึงถามมาณพว่า

    "ไม้กัลปพฤกษ์ต้นนี้บุคคลดังฤาให้แก่ท่าน"

    มาณพจึงทูลว่า
    "ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐไม้วิมานทิพย์นี้พระสาวกให้แก่ข้าพระบาท"

    จึงตรัสว่า
    "ท่านจงไปหาพระสาวกให้มายังสำนักแห่งเรา เราจึงจะเชื่อถ้อยฟังคำของท่าน"

    ครั้งนั้นมาฆมาณพจึงตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อจะให้พระผู้เป็นเจ้ามา ด้วยวาจาว่า
    "ข้าแต่พระผู้เจริญคุณเป็นอันมาก บัดนี้จงอนุเคราะห์แก่ข้าพเจ้ากลับมายังสำนักข้าพเจ้าก่อนเถิด "

    พอขาดคำอธิษฐานลง องค์พระสาวกผู้ประเสริฐก็เล็งแลด้วยทิพยจักษุญาณ รู้แจ้งแล้วก็เหาะลอยลงมายืนประดิษฐานอยู่ณที่ใกล้แห่งมาณพนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงบอกแก่กษัตริย์กรุงโกสัมพีว่า
    "ดูก่อนพระองค์ผู้ทรงเป็นสมมติเทวราช ถ้าแลพระองค์ขืนกระทำประทุษร้ายแก่มาณพหน่อพุทธางกูรผู้นี้ ในพระนครของพระองค์ก็จะทรุดจมลงไปในแผ่นปฐพีหมดสิ้น"

    พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้นแล้ว ก็กลับเหาะไปในอากาศเวหา ลงยังสำนักของพระผู้เป็นเจ้า พระยาโกสัมพีได้ฟังพระมหาเถระกล่าวดังนั้น ก็ตกใจสะดุ้งกลัวแต่ภัยยิ่งนัก จึงตรัสว่า
    "ดูก่อนมาณพผู้เจริญ เราขออภัยโทษแก่ท่านเสียเถิด ตั้งแต่วันนี้ไปท่านจงเป็นที่อนุชาธิราชของเรา พระยาโกสัมพีกตั้งมาฆมาณพบรมโพธิสัตว์ไว้ในที่เป็นอนุชาธิราชของพระองค์ฯ "

    ดูก่อนธรรมเสนาบดีสารีบุตร
    "อันว่ามาณพนั้นได้ซึ่งมหาสมบัติทั้งปวงเป็นอันมาก เมื่อได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูเจ้า ทรงพระนามว่าพระรังสีมุนี จึงมีพระพุทธรัศมี และได้ซึ่งสมบัติบริบูรณ์อันประเสริฐยิ่งนัก แสดงมาด้วยเรื่องราวโสณพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ คำรบ ๖ ก็ยุติแต่เพียงนี้"

    เรื่องราวโดย https://palungjit.org/threads/พระอนาคตวงศ์-10-พระองค์.110586/

    เรียบเรียงใหม่ #AchitaPS

    เรื่องเสริม

    คลิปตอนท่านกล่าวว่า จะบรรลุเป็น
    พระพุทธรังสีมุนีนาท
     
  5. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 525 : พระลือโขง ซุ้มเรือนแก้ว

    พิธีใหญ่ เมืองเชียงราย พร้อมกล่องเดิม
    มวลสารชั้นยอดทั่วแผ่นดินไทย
    ราคา 1,500 บาท

    20180703_193427-jpg.jpg 20180703_193445-jpg.jpg 20180703_193503-jpg.jpg
    พระลือโขงซุ้มเรือนแก้ว (จามเทวีซุ้มเรือนแก้ว) วัดสันมะเหม้า อ.พาน จ.เชียงราย
    พระลือโขง มิติใหม่ เป็นพระหล่อเนื้อโลหะศิลปะล้านนา ตามแนวทางพุทธศิลป์ที่มีการสืบทอด มาตั้งแต่โบราณ ผมเชื่อว่าพระลือโขงรุ่นนี้มีศิลปะ กระบวนการหล่อแบบบล็อคที่สมบูรณ์ และเชื่อต่อไปอีกว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ของวงการพระใหม่ที่น่าเฝ้าติดตาม เป็นอย่างยิ่ง
    • พระเศียรเป็นเศียรโล้น ปรากฏเม็ดพระศกชัดเจน แสดงแนวไรพระศกอย่างงดงาม
    - พระพักตร์มีลักษณะแป้น พระปรางอิ่มที่เรียกว่า "แก้มยุ้ย" โดยรวมจะแลดูคล้ายหญิงแก่
    - พระเนตรแบบตามนุษย์
    - พระนาสิก โด่งพองามคล้ายมนุษย์
    - พระโอษฐ์ไม่กว้าง และยื่นออกเล็กน้อยคล้ายปากสตรี
    - พระกรรณเป็นเส้นนูนคู่ โค้งติดแก้มและตวัดออกตอนปลายติ่งหู
    - พระอุระนูน
    - พระนาภีกลมกลึงแบบเอวนาง
    - ครองจีวรแบบห่มดอง ปรากฏเส้นสังฆาฏิ 2 เส้นชัดเจนอ่อนช้อย และแสดงเส้นแสงการห่มจีวรตลอดลำพระองค์ได้คมและชัดเจน
    - พระหัตถ์ขวาแสดงนิ้วพระหัตถ์ชัดเจนทั้ง 5 นิ้ว


    พระลือโขงสร้างจำนวนจำกัด 1,999 องค์ ตอกโค๊ตทุกองค์



    การออกแบบพระ ด้านหน้าพระลือ เป็นลักษณะใบหน้าอวบอิ่ม ลำตัวอวบ เป็นลักษณะถึงความอุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยซุ้มเรือนแก้ว เหมือนหนึ่งว่าเป็นเกราะป้องกันภัย ส่วนด้านหลัง ออกแบบเป็นฮวงจุ้ย คือ มีพระจันทร์ หมายถึงหยาง และมีพระอาทิตย์เป็น หยิน
    คติจีนเชื่อว่าสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ล้วนมีสองด้านคือหยินและหยาง เป็นกฎแห่งความสมดุลของธรรมชาติ เป็นปรัชญาของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าสรรพสิ่งบนโลกใบนี้จะต้องมีสิ่งคู่กันเสมอ มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีร้อนก็ต้องมีเย็น มีผู้หญิงก็ต้องมีผู้ชาย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไปก็จะเกิดภาวะไม่สมดุลซึ่งจะนำหายนะมาให้
    ที่สุดแล้วคือ "หยิน" เป็นตัวแทนของความมืดมิด ไม่เคลื่อนไหว อ่อนล้า เศร้าโศก ความตาย ความหนาวเย็น ผู้หญิง "หยาง" เป็นตัวแทนของความกระตือรือร้น พลังงาน แสงสว่าง ผู้ชาย การเกิด การเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่ง หยินและหยางเป็นพลังตรงข้ามที่คู่กัน เปลี่ยนแปลงและส่งเสริมซึ่งกันและกัน พลังซึ่งคู่กันนี้หากเท่ากันจะสร้างความสมดุล เช่น บวก-ลบ ชาย-หญิง พระอาทิตย์-พระจันทร์ ร้อน-หนาว กลางวัน-กลางคืน โดยสิ่งแรกในแต่ละคู่คือหยาง อีกสิ่งคือหยิน



    เป็นวัตถุมงคลซึ่งเจ้าอาวาสตั้งใจสร้างด้วยความปราณีตทั้งรูปทรงแบบล้านนาไทย รวมไปถึงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เก็บรวบรวมจากการไปกราบพระเกจิอาจารย์ต่างๆหลายท่าน รวมไปถึงแผ่นจาร อธิษฐานจิตโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในปัจจุบันยกตัวอย่างเช่น

    1.ครูบาคำแสง อธิจิตโต พระอริยเจ้าของจังหวัดเชียงราย วัดพระธาตุสันขวาง อายุ 94 ปี
    2.ครูบาอ่อน ร้ตนวณฺโณ วัดสันต้นหวีด จังหวัดพะเยา อายุ 97 ปี
    3.ครูบาสิทธิ อภิวณฺโณ วัดปางต้นเดื่อ อำเภอแม่อาย อายุ 90 ปี
    4.ครูบาเหนือชัย โฆษิโต นักบุญแห่งขุนเขา จังหวัดเชียงราย
    5.ครูบาพรชัย วรปัญโญ อำเภอพญาเม็งราย. ท่านอธิษฐานจิตให้ แล้วบอกว่า จุ่มเนื้อเย็นใจ๋เน้อ
    6.ครูบาน้อย เตชปัญโญ. วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ จารแผ่นชนวนมวลสาร เพิ่มเติมมวลสารได้รับจากคุณ กฤชณัท ศรีวิลัยที่ได้เมตตาให้มวลสารศักดิ์สิทธิ์จากการทำพระกริ่งปารมีครูบาสีลธัมม์ เพื่อนำมาหลอมสร้างพระรุ่นนี้
     
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    เหรียญ ฝากให้เช่า
    ราคา 15,000 บาท
    รับประกันครับ
    (เหรียญแท้ ไม่ถึงแสน)
    ครูบา.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2018
  7. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 526 : เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรืองรุ่นพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน 2547
    พร้อมกล่องเดิม
    สวย คมชัดมาก
    รับประกัน

    ราคา 2,500 บาท ปิดแล้วครับ

    เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง รุ่นพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน
    เนื้อทองแดง จัดสร้างเมื่อคราวการจัดสร้างองค์ 'พระเจ้าล้านตื๊อ (พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน)' บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ
    พิธีพุทธาภิเษก พระพุทธรูปเชียงแสนสี่แผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ปี พ.ศ.2547
    รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่นิยมมากในกลุ่มศิษย์ครับ เนื้อทองแดง สภาพสวยครับ
    20180707_045904.jpg 20180707_045928.jpg 20180707_045955.jpg 20180707_050020.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018
  8. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 527 : สร้อยประคำหวายหิน หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ยุคต ้น เก่าๆมันส์ๆ พร้อมลูกอม (ผมจำไม่ได้แล้วว่าหลวงพ่ออะไร)
    เชือกเดิมครับ
    เส้นนี้ อยู่กับผมมานาน ผ่าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร สมัยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำหลายรอบ
    และนำเข้าพิธีเปิดโลก หลวงปู่ดู่วัดสะแก ปี 2532 อีกด้วย
    รับประกัน

    ราคา 2,200 บาท

    สร้อยประคำหวายหิน หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ยุคต้นสีเข้มๆ
    ประคำเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ยาว ๘๐ เชนติเมตรสภาพผ่านการใช้ภาวนามานานยุคต้นๆ (สีเข้มแสดงถึงการใช้ภาวนามานานครับ)
    มีพุทธานุภาพธรรมานุภาพและสังฆานุภาพจากการใช้ภาวนาของท่านผู้ใช้
    ปัจจุบันหาได้ยากยิ่งแล้วครับ

    สร้อยประคำเม็ดหวาย 108 เม็ด ของ ครูบาชัยวงศ์ฯ นอกจากหลวงปู่จะสร้างและปลุกเสกเครื่องรางอย่างเช่น เต่าสำลี,เต่าจีวร,มีดหมอที่เป็นที่รู้จักในหมู่ลูกศิษย์กันเป็นอย่างดีแล้ว ท่านยังได้จัดสร้างสร้อยประคำ 108 ที่ทำจากเม็ดหวายอีกด้วย หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ ท่านจะปลุกเสกเองทุกเส้น เส้นนี้ถือว่าเป็นประคำยุคแรกของท่านที่ท่านได้ทำการปลุกเสกยาวนานมากๆ ดูจากความเก่าและความฉ่ำของเนื้อเม็ดหวายที่เป็นการยืนยันได้ครับ

    ประคำเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาพวกเรามักจะสังเกตเห็นสร้อยประคำแบบนี้ที่สวมใส่ไว้กับองค์หลวงปู่เสมอ เรียกว่าลูกประคำ มี ๑๐๘ ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ ๕๖ พระธรรมคุณ ๓๘ สังฆคุณ ๑๔ รวมเป็น ๑๐๘ พอดี


    หลวงปู่เคยบอกว่า... “ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ต่อไปจะหายากต้องเอาทองคำเส้นเท่ากันมาแลก”และท่านยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า... “ประคำเป็นเครื่องมือสู่พระนิพพาน” ...เป็นปริศนาธรรมให้เรานำไปคิดพิจารณาครับ

    วิธีการอาราธนานับลูกประคำของท่าน.....ตั้งนะโมฯ ๓ จบ

    รอบแรก...อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ (บริกรรม)....พุทโธพุทโธ พุทโธ .....
    รอบสอง...สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม (บริกรรม)....ธัมโม ธัมโม ธัมโม.....
    รอบสาม...สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ....(บริกรรม) สังโฆ สังโฆ สังโฆ.....
    รอบสี่ (บริกรรม)...เมตตา เมตตา เมตตา .....
    รอบห้า (บริกรรม)...กรุณากรุณา กรุณา .....
    รอบหก (บริกรรม)...มุทิตา มุทิตา มุทิตา .....
    รอบเจ็ด(บริกรรม)...อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา .....
    41151.jpg 41152.jpg
     
  9. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ายการที่ 528 : พระปรกโพธิ์เชียงแสนเล็ก...ทองแดง
    ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง

    องค์ที่ 1 ปรกโพธิ์รุ่นแผ่นดินไหว (ไม่มี พ.ศ. นิยม)
    องค์ที่ 2/3 ปรกโพธิ์ 2533
    ปิดองค์ที่ 3 ขวามือสุดครับ
    ราคาเหรียญละ 1,500 บาท

    พระปรกโพธิ์เชียงแสน ออกวัดเจดีย์หลวง เชียงแสนรุ่นแรกสร้างประมาณปี 2532 มีเกจิอาจารย์ทั่วไทยและประเทศพม่าและลาวปลุกเสกเช่นหลวงปู่ครูบาก๋ง ครูบาดวงดี หลวงพ่อเกษม หลวงปู่หล้าตาทิพย์ หลวงปู่สิม รุ่นนี้หายากมากครับโดยส่วนมากจะเก็บเนื่องจากมีประสบการณ์ในเรื่องค้าขายครับ
    20180703_185727.jpg 20180703_185749.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018
  10. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 529 : ประคำไม้ วัดท่าซุง หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ยุคประมาณ ปี 2530
    เช่ามาเองจากที่วัด

    รับประกัน (ดูสีของพู่ จะซีดเก่าถึงยุค)
    ราคา 3,250 บาท
    41169.jpg
     
  11. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 530 : พระยอดขุนพลเชียงแสน อนุสรณ์สมโภชน์เมืองเชียงแสนครบรอบ 661ปี 7เมษายน2532 กล่องเดิมๆสวยเนื้อชินตะกั่ว สมเด็จพระญาณสังวรพระสังฆราช วัดบวร เกจิมากมายอาทิเช่น หลวงปู่สิม-หลวงปู่ดาบส-ครูบาศรีนวล-ครูบาหล้าเชียงใหม่ -หลวงพ่อเกษม เป็นต้นอฐิษฐานจิต

    รับประกัน

    ราคา 2.500 บาท
    ปรดโพธิ์.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2018
  12. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 531 : เหรียญพระนาคปรกใบโพธิ์ เนื้อทองแดง รุ่นแรก พ.ศ. 2536 ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรืองจ.เชียงราย สภาพสวยเดิม

    รับประกัน
    ราคา 1,850 บาท ปิดครับ
    upload_2018-7-7_11-43-44.png 20180703_184144.jpg 20180703_184205.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018
  13. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 532 : เหรียญหล่อซุ้มกอครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน
    พระสุพรหมยานเถร (พรหมมา พรหมจักโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน

    รับประกัน
    ราคา 3,500 บาท

    เหรียญหล่อแบบโบราณ พิมพ์ซุ้มกอเนื้อทองแดงยุคต้น
    จำนวนการสร้างน้อยเพียงหลักร้อย
    ครูบาพรหมจักร ท่านมีจริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม และมีเมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมคำสั่งสอน ขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยยังขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นพระอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    เหรียญหล่อแบบโบราณ พิมพ์ซุ้มกอ เป็นเหรียญหล่อที่สุดคลาสสิคอีกรุ่นหนึ่งของครูบา รวมทั้งเป็นเหรียญหล่อที่มีประสบการณ์มาก พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย และเมตตามหานิยม เป็นเหรียญหล่อแบบโบราณที่น่าสะสมบูชาอีกรุ่นหนึ่ง..
    -พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ "พระครูพรหมจักรสังวร" ฝ่ายอรัญวาสี
    -พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระสุพรหมยานเถร"
    -ธรรมเทศนา
    ชีวิตของเราทั้งหลายนั้นมันไหลไปตามกระแสแห่งความอยาก คือ ตัณหา มันจึงดิ้นรน วุ่นวาย เป็นทุกข์ทรมาน เพราะว่าเรา ไม่มีสติมากันกระแสแห่งตัณหา คือ ความอยาก เรามาปฏิบัติ วิปัสสนากัมมัฏฐานจุดมุ่งหมายก็เพื่อที่จะชำระจิตใจของเรา ให้บริสุทธิ์ ให้สะอาด หรือมาปิดกั้นเสีย ซึ่งกระแสแห่งตัณหา คือ ความอยาก จำเป็นที่จะต้องปลูกสติ สร้างสติขึ้นให้แก่กล้า จึงจะสามารถปิดกั้นเสีย ซึ่งกระแสแห่งตัณหาได้
    การปฏิบัติธรรม ท่านครูบาพรหมา(หลวงพ่อพระพุทธบาทตากผ้า) ได้เทศนาไว้มาก พอจะสรุปได้ว่า ขั้นแรกท่านได้ตั้งใจสมาทานอธิษฐานเอาธุดงค์ธรรมตามกำลังที่จะปฏิบัติได้ แล้วได้ฝึกหัดเป็นคนสันโดษมักน้อย อยู่ง่าย ฉันง่าย ปรับปรุงจิตใจให้เข้ากับธรรมชาติ พยายามฝึกจิตให้อาจหาญเป็นสมถภาวนา มีพุทธานุสติและอภิณหปัจเวกขณ์ เป็นต้น แล้วพิจารณาสังขาร รูป นาม ให้เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามระเบียบวิธีแห่งการปฏิบัติธรรม
    ทั้งนี้มิใช่มุ่งหมายอย่างอื่นหากมุ่งหมายความที่พระพุทธองค์ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้เราประพฤติมิใช่เพื่อหลอกลวงคน มิใช่เพื่อเรียกร้องให้คนนับถือ มิใช่เพื่อลาภสักการะและความสรรเสริญเยินยอ ที่แท้พรหมจรรย์นี้เราประพฤติเพื่อสังวรคือความสำรวมเพื่อปหานะคือความละเว้น และเพื่อนิโรธะคือความดับทุกข์"
    ครูบาเจ้าพรหมจักรได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๒๗ เวลา ๐๖.๐๐ น.สิริอายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗
    คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา ๓ ปี
    ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑
    ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมจักรด้วยพระองค์เอง
    หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมจักร ได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ
    20180703_185010.jpg 20180703_185023.jpg 20180703_185041.jpg
     
  14. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 533 : ด้ายแดง ครูบาบุญชุ่ม เส้นหนาๆ
    มี 2 เส้น จากศิษย์พม่า เมืองพง
    รับประกัน

    ราคาเส้นละ 750 บาท
    รวมค่าส่ง
    20180707_192804.jpg 20180707_192814.jpg 20180707_192825.jpg 20180707_192832.jpg
     
  15. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 534 : ประคำมือ ไม้มงคล ครูบาบุญชุ่มมี 2 สี
    รับประกัน
    ปิด ขาว ดำ อย่างละ 1 เส้น
    ราคา 850 บาท
    รวมค่าส่ง
    1530967163779.jpg
    FB_IMG_1531037516074.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018
  16. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 535 : ประคำ 108 เม็ด ครูบาบุญชุ่ม
    รับประกัน จากเมืองพง
    มี 5 เส้น
    ราคาเส้นละ 1,000 บาท
    รวมค่าส่ง
    1530967548439.jpg
     
  17. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +908
    ขอจองรายการ534ประคำมือ ไม้มงคล 2 เส้นครับ
     
  18. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 536 : พระรอด ผงชานหมาก เกษา ครูบาบุญชุ่ม มีเส้นเกษา 3 เส้น
    สร้างน้อย และหายาก

    รับประกัน
    ราคา 2,500 บาท
    20180708_145025.jpg 20180708_145039.jpg 20180708_145052.jpg 20180708_145204.jpg 20180708_145333.jpg
     
  19. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 537 : ภาพถ่ายครูบาบุญชุ่ม เณร ขนาด12*19เซ็น เก่าๆ
    รับประกัน

    ราคา 3,500 บาท ปิดแล้วครับ
    ครูบา (1).jpg ครูบาบุญชุ่ม เณร.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2018
  20. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 538 : เหรียญครูบาบุญชุ่ม รุ่นมหาเศรษฐี ปี 2540
    เหรียญสภาพคลาสสิค

    รับประกัน
    ราคา 1,650 บาท จองแล้วครับ
    เหรียญมหาเศรษฐี40.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...