รอบที่ ๘๔ หลายหลวงพ่อ เหนือ ใต้ อีสาน ภาคกลาง พระครูมานิตย์

รอบที่ ๔๔ ลพ เกษม ลพ อั้บ ลป บุญศรี ลพ กวย ลพ ใจ พระครูมานิตย์ .....๑๑ มค ๖๔

รายการที่ ๑ ตะกรุดมหารูดพญาเต่าเรือน พระครูมานิตย์ ......๑๐๐๐ บาท ......จองครับ

สรรพคุณตามฝอย ตะกรุดยาว ๓ นิ้วครึ่ง สร้างน้อย จารมือทีล่ะดอก หายาก

 

รายการที่ ๒ พระผงพุทธสิหิงค์หลวงพ่อเกษม ปี2503 ......... ๒๐๐๐ บาท .......ปิดครับ

สวยๆ เดิมๆ หายาก ราคาครึ่งหนึ่งที่เขาขายและสวยกว่า

( ปีลึก ๒๕๐๓ น่าจะเป็นรุ่นแรกจริงๆของ ลพ เกษม ในรูปพระพุทธ น่ะครับ )
ลักษณะของพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ด้านหน้าเป็นรูปจำลองพระพุทธสิหิงค์ แต่เป็นปางนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานบัว มีฐานเป็นขาโต๊ะรองอีกทีหนึ่ง บนพระเศียรมีเส้นรัศมีแผ่กระจาย รายละเอียดส่วนต่างๆของร่างกายติดชัดเจน ส่วนด้านหลังเรียบ ฐานกว้างประมาณ 2 ซม. สูงประมาณ 3.3 ซม. หนาประมาณ 0.3-0.4 ซม.
เนื้อหามวลสารออกสีดำ มีคราบไขผุดจากในเนื้อเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล พระเครื่องบางองค์มีรอยแตกรานเล็กน้อย เพราะความชื้นในเนื้อพระระเหยออกไป
ผู้สร้างพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ได้พยายามที่จะสร้างพระเครื่องชุดนี้ให้ดีที่สุด จึงได้ตระเตรียมจัดหาวัสดุมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมงคลหลายต่อหลายอย่างโดยเริ่มเตรียมการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 ซึ่งมวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่องนั้น ต้องใช้ความพยายามและอุตสาหะอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้มาแต่ละสิ่ง แต่ทางคณะผู้จัดสร้างก็ได้ใช้ความพยายามหามาได้หลายอย่างเช่น ดินจากสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่งจากประเทศอินเดีย ใบลานและสมุดข่อยที่จารึกพระธรรม คัมภีร์ พระพุทธมนต์ และตำราต่างๆที่ชำรุดแล้วใช้การไม่ได้ เอามาเผาและป่นให้ละเอียด ดอกไม้ธูปเทียนที่มีผู้นำไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อเกษม เพราะความเลื่อมใสศรัทธา ผงขี้ธูป ก้านธูป และดอกไม้แห้งที่หลวงพ่อเกษมท่านใช้จุดและบูชาขณะบำเพ็ญภาวนา ข้าวแห้งก้นบาตรของหลวงพ่อเกษมที่เหลือจากการฉันเอามาตากแห้งบดให้ละเอียด
ผงพุทธคุณจากการนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายวัด น้ำอ้อยเคี่ยว ยางไม้บางชนิด และที่สำคัญที่สุดก็คือ เส้นผมของหลวงพ่อเกษมที่ท่านได้ปลงผมไว้จำนวนหนึ่ง. จะเห็นได้ว่ามวลสารที่เป็นส่วนผสมของพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ล้วนเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และหาได้ยาก ทางคณะผู้สร้างต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวมมวลสารเหล่านี้ ถึงสามปีเต็มๆจึงได้ครบเพียงพอแก่ความต้องการ
เมื่อได้มวลสารเพียงพอแล้วจึงได้เอามวลสารเหล่านั้นไปบดตำและร่อนแยกเป็นส่วนๆก่อนที่จะเอาคลุกเคล้าด้วยตัวประสาน เพื่อให้มวลสารยึดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจึงได้อาศัยพระภิกษุและสามเณรช่วยกันกดพิมพ์ การกดพิมพ์พระก็เป็นการกระทำกันในวัด อาศัยแรงงานจากพระภิกษุและสามเณร ทุกคนที่มาช่วยงานต่างก็ได้อุทิศทั้งแรงกายและแรงใจ เพื่อให้งานครั้งนี้เสร็จลุล่วงไปด้วยดี และเพื่อให้พระเครื่องที่สร้างมีความศักดิ์สิทธิ์สูง จำนวนพระเครื่องที่กดพิมพ์ได้เข้าใจว่ามีมากพอสมควร แต่ก็ไม่มากจนเกินไป เพราะกดพิมพ์เท่าที่จำนวนมวลสารที่มีอยู่ เมื่อมวลสารหมดก็หยุดพิมพ์ ไม่ได้มีการสร้างเสริมขึ้นมาใหม่ทีหลัง
พระเครื่องที่พิมพ์ได้ทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหัวข่วง จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยนิมนต์หลวงพ่อเกษม มาเป็นประธานในพิธีร่วมกับพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วทางคณะผู้จัดสร้าง จึงได้นำเอาพระเครื่องออกให้ประชาชนทำบุญ เพื่อนำเอาปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุทางศาสนาในวัดหัวข่วง จนสำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ในตอนแรกทุกประการ

อ้างอิง http://uauction3.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=61...

มีเรื่องเล่าขานกันว่า ในขณะพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อเกษม ร่วมพิธีปลุกเสก หรือสมัยก่อนเรียกว่าสวดเบิก คือเป็นการสวดทั้งวันทั้งคืน ขณะปลุกเสก(สวด) ฝนได้ตกลงมาทำให้บริเวณนั้นน้ำเอ่อท่วมในพิธี แต่หลวงพ่อเกษม ท่านไม่ได้ลุกหนีฝนหรือน้ำที่เอ่อในบริเวณนั้น (พระท่านนั่งบนเสื่อกับพื้น ส่วนพระรูปอื่นลุกหนีน้ำ) แต่หลวงพ่อเกษม ยังคงทำพิธีสวดต่อไปครับ
ในบรรดาพระหลวงพ่อเกษม มีหลายรุ่นแพงมาก พวกเหรียญระฆัง พระผง ระฆัง และอีกหลายรุ่น หลวงพ่อแค่ เปิดฝาลังและเป่าปู็ดเดียวน่ะครับ เอาไปรบได้ ...แต่ถ้าเรื่องความตั้งใจปลุกเสก รุ่นนี้สุดยอดครับ ท่านนั่งเสกทั้งคืน ฝนฟ้าตกก็ไม่ไปไหน น่าใช้บูชามากที่สุด ทั้งเนื้อหา มากมายของดีๆ ที่เตรียมงานเป็นสามปี การสร้าง สร้งมือ แบบพิมพ์ตื้นชาวบ้าน การตัดขอบข้างแบบ ใช้ตอกหรือมีดแบบโบราณ เป็นรูปพระพุทธสิหิงค์ด้วย ได้มีมงคลเพิ่ม
ข้อความเพิ่มเติม…ในสมัยนั้นคงไม่ได้มีการตั้งราคาค่างวดในการทำบุญ คิดว่าทำบุญเท่าไรก็ได้ แล้วแจกพระเป็นที่ระลึกมากกว่า สายตรงในลำปางกระซิบมาว่า พอมีของเก๊ปะปนมาบ้างประปราย แต่เนื้อยังห่างความเก่า และพิมพ์ยังตื้นดูง่ายว่าเก๊ครับ

 

รายการที่ ๓ พระเนื้อยาวาสนา พิมพ์ปิดตา
พิมพ์นี้พิมพ์เดียวกับพระปิดตาพระครูมานิตย์ กดด้วยเครื่องทำให้เนื้อแน่น หลวงพ่ออั้บผสมเนื้อเองในโบสถ์ เครื่องยาครบแม้ของราคาแพงตอนนั้นยังพอหาได้ เดี๋ยวดึงประวัติให้ชมครับ ยุคโควิด ต้องยาวาสนานี่แหละครับ

องค์ที่ ๓.๑ ......................... ๑๐๐๐ บาท



พระนี่สำคัญที่เนื้อยา องค์แรกหนัก ๔.๖ กรัม ขอไม่เอา พลาสติกออกน่ะครับ เพราะไม่อยากให้เปื้อนมือ



องค์ที่ ๓.๒ ...................................๑๐๐๐ บาท ......ปิดครับ




องค์ที่สอง หนัก ๔.๘ กรัม

 

รายการที่ ๔ พระยาวาสนา พิมพ์สมเด็จ หลวงพ่ออั้บ วัดท้องไทร

ยุคภัยจากเชื้อโรคกำลังมา ครูบาอาจารย์ท่านก็ทราบ ทำพระเนื้อยาไว้ให้ใช้บูชากัน ฉุกเฉินหลวงพ่อบอกให้หักกินได้ ขอมองไม่เห็น ต้องเจอยาจินดามณี เมื่อเจอคราส ตามตำราท่านพระครู แนะนำ ต้องกินยาจินดามณีและ พกยาติดตัว กว่าเงาดำของคราส จะพ้นก็กลางๆปี ๒๕๖๔ นี่แหละครับ

พิมพ์นี้กดมือ ตัดนอกพิมพ์ด้วยมีด

ประวัติมี ผมจะดึงมาให้อ่านตอนหลวงพ่อปรุงยาในโบสถ์ครับ

องค์ที่ ๔.๑..........................๑๒๐๐ บาท ......ปิดครับ



องค์ที่ ๔.๑ หนัก ๕.๑ กรัม



องค์ที่ ๔.๒ .........................๑๒๐๐ บาท



องค์ที่ ๔.๒ หนัก ๖.๔ กรัม

 

รายการที่ ๕ เหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ ๕ รุ่นสารวัตรสร้าง ...............๕๐๐ บาท ....ปิดครับ

เหรียญนี้ปลุกเสกโดยหลวงปู่พระครูบุญศรี ตอกโค็ดแพโบสถ์น้ำ สองตัว ติดชัดมากใช้เป็นตัวอย่างดูพระกริ่งแพโบสถ์นำและพระชัยวัฒน์ได้ หลวงปู่พระครูบุญศรีท่านชาตะในรัชกาลที่ ๕ เป็นพระ ห้าแผ่นดิน ท่านนับถือในหลวงรัชกาลที่ ๕ มาก ถ้ามีพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ พอท่านเห็นท่านจะไม่จารทับ เหรียญนี้ประสบการณ์เพียบ

 

รายการที่ ๖ เบี้ยสี่หลวงพ่อ

ทำตอนปี ๕๓ ตอกโค็ด อุ ผมเคยเขียนประวัติไว้ตอนเบี้ย หลวงปู่ดี ท่านเสกให้ที่วัดบวรฯ ในวันเสาร์ ๕ นานสิบปี ชันแข็งแล้ว ยุคนั้น หอยยังถูกพอหาได้ ปรอทไม่แพงแบบตอนนี้ ใส่เต็มลูก แน่นบึ้ก
๑) พระครูมานิตย์ เป็นคนจาร
๒) หลวงปู่ดีเสกให้ที่วัดบวรฯ ปี ๒๕๕๓ ปีนั้นเสาร์ห้า เป็นชุดเดียวกับเบี้ยเสาร์ห้า สายพระครูมานิตย์ ท่านเป็นพระอาวุโสสูง
๓) หลวงพ่ออั้บเสกให้ชุดใหญ่ที่วัดท้องไทร ปี ๒๕๕๓ ขอท่านลงกันงู และ ท่านแถม ธรณีสารใหญ่ให้อีก ๑ ชุด
๔) หลวงปู่เล็ก เสกให้อีก สองครั้งใน ป ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๘ เอาเข้าพิธีร่วมกับเบี้ยชุดอื่น หลวงปู่เล็กเสกปิดท้ายให้ถือว่าจบไม่เอาไปเข้าที่ไหนอีกครับ หลวงปู่เล็กเสกให้ ไม่ต้องเอาไปเสกอีก ของๆท่านไม่ใช่ของโหล แบกะดิน

เสกมายาว ๖ ปีพอดี แน่นๆ ประสบการณ์เพียบ พอๆกับแสนหก ยุคโรคไวรัส ไข้ห่า ต้องมีเบี้ยไว้กันครับ

จดบันทึกใส่ขวดไว้กันลืมครับ



ตัวที่ ๖.๑ .........๑๕๐๐ บาท..............ปิดครับ


ตัวที่ ๖.๒ .....................๑๕๐๐ บาท.......ปิดครับ

 

รายการที่ ๗ พระนางพญา หลวงพ่อกวย ........๓๐๐ บาท ......ปิดครับ

เก่าเก็บของพ่อโรจน์ ไม่ใช่พระเขี่ยกอง เนื้อสวย แห้งสนิท เนื้อหาดีด้วย มาแบบแพ็คคู่ไปเลย

 

ปิดรายการที่ 6.1

 

รายการที่ ๘ พระนางพญา หลวงพ่อกวย ............ ๒๐๐ บาท......ปิดครับ

เก่าเก็บของพ่อโรจน์ ไม่ใช่พระเขี่ยกอง เนื้อแห้งสนิท เนื้อหาดีด้วย เก็บมานานกว่าสามสิบปี มาแบบแพ็คคู่ไปเลย

 

รายการที่ ๙ เหรียญทำน้ำมนต์ 7 ขัน ฤาชา 8 ทิศ ปี 2561(จันทร์เพ็ญ61) ......๑๕๐๐ บาท
เหรียญพอถ่ายรูปมาดู มีรอยคล้ายเสี้ยนๆด้านหลัง มาส่องดูไม่ใช่น่ะครับ เป็นรอยในพิมพ์ เสี้ยนๆเป็นรัศมี แปลกเหมือนกัน ใครจะเอารายการนี้ ถ้าไม่พอใจ เปลี่ยนได้ครับ


พระครูวิธานสุตสุนทร (มานิตย์ สุทธิญาโณ) วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) บางพรม กทม.
1. เนื้อเงิน ตอกโค๊ต “ อุองการ ” 50 เหรียญ
2. เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต “ ชฎา ” 5,000เหรียญ
- แบ่งเป็นเนื้อทองแดงไม่ขัดเงา 450 เหรียญ แจกในพิธีไหว้ครู จันทร์เพ็ญ61
- เนื้อทองแดงขัดเงา ออกให้เช่าบูชา 1,500 เหรียญ
-------------------------------------------
วิชาทำน้ำมนต์ 7 ขัน ของ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต เป็นตำรับที่ท่านเรียนมาจากพระอาจารย์สายในดง ซึ่งท่านจะทำน้ำมนต์นี้ให้เฉพาะบุคคลที่ท่านเห็นว่าเคราะห์หนักหนาสาหัสจริงๆ ซึ่งน้ำมนต์แต่ละขันก็มีอิทธิคุณแตกต่างกันไป 7 ขัน 7 อย่าง 7 ประการ ดังนี้
1. สัพพะสิริมงคล เสมือนดั่งมงกุฎพระพุทธเจ้าลงมาครอบ
2. แคล้วคลาด ป้องกันภัย
3. ถอดถอนของและคุณไสย ตลอดจนที่ต้องธรณีสาร
4. เสกยา รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้อายุยืน
5. โชคลาภ หนุนดวง
6. คงกระพัน ชาตรี
7. เป็นวิชาคุม
ซึ่งในสมัยท่านน้อยคนที่จะมีวาสนาได้รดครบทั้ง 7 ขัน เพราะบางอย่างใช้สำหรับรดกับผู้ที่เรียนวิชา เช่น ขันที่ 7 ที่เป็นวิชาคุม วิชานี้ท่านได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์ท่าน 4 คน แต่เสียชีวิตไปหมดแล้วเหลือแต่ตัวผู้ใหญ่หนุนเพียงคนเดียวที่รับสืบทอดวิชานี้ และท่านได้มอบถวายวิชานี้ให้กับท่านพระอาจารย์มานิตย์เป็นผู้สืบทอดต่อไป
เนื่องในโอกาสไหว้ครูประจำปีของ พระอาจารย์มานิตย์ สุทธิญาโณ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) ซึ่งท่านจัดเป็นประจำทุกปีในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันลอยกระทง) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นวันพฤหัสตรงกับวันครูพอดี ในปีนี้ท่านจึงได้ดำริที่จะทำวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกเพื่อแจกแก่ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ที่มารดน้ำมนต์จันทร์เพ็ญกับท่าน ท่านจึงได้ระลึกถึงวิชาทำน้ำมนต์ 7 ขัน ตำรับ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ขึ้น จึงเป็นที่มาของเหรียญ “ เหรียญทำน้ำมนต์ 7 ขัน ฤาชา 8 ทิศ ”
เหรียญทำน้ำมนต์ 7 ขัน ฤาชา 8 ทิศ เป็นเหรียญที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและลงตัว ทั้งรูปแบบ เอกลักษณ์ การจัดวางอักขระเลขยันต์ และการผนวกสรรพวิชาทั้งไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ และพุทธาคมเข้าไปในเหรียญนี้ได้อย่างลงตัว
ลักษณะ เป็นเหรียญทรงกลม มีกลีบบัว 8 แปดกลีบ โดยกลีบด้านหน้าจะงุ้มเว้าลงไปแบบกลับบัวจริง และกลีบบัวด้านหลังจะอูมออกมา ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง
ด้านหน้าตรงกลาง เป็นยันต์ตรีนิสิงเห ตำรับ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ซึ่งกลบทการลงตัวเลขในยันต์จะไม่เหมือนกับตำรับของวัดประดู่ทรงธรรม และมีเคล็ดวิชาเฉพาะ ซึ่งพระอาจารย์มานิตย์ท่านได้ลงเป็นเกสรบัวบังไว้ ถือเป็นมหาเสน่ห์เมตตาอาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์
กลีบบัวใหญ่ ลงไว้ด้วย นะฤาชา ตามตำรับท่านอาจารย์ชาญณรงค์ ทั้ง 8 ทิศ
กลีบบัวเล็ก ลงไว้ด้วย พระอรหันต์ทั้ง 8 ทิศ ตำรับของ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ซึ่งพบจดบันทึกอยู่ในหอไตรของวัดเงิน ซึ่งในบท “ พุทธมงคลคาถา ” ก็ได้มีการกล่าวถึงพระอรหันต์ทั้ง 8 ทิศไว้ ดังนี้
พุทธมงคลคาถา
สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคะเณยเย จะ กัสสะโป
สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลี จะ
ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ คะวัมปะติ
โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อิสาเณปิ จะ ราหุโล
อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน
อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ
------------------------------------------------------
(คำแปล) สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้า ทรงประทับนั่งอยู่ท่ามกลาง มี
• ท่านอัญญาโกญฑัญญะ อยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก)
• ท่านพระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
• ท่านพระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้)
• ท่านพระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
• ท่านพระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม (ตะวันตก)
• ท่านพระภควัมปติ อยู่ทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
• ท่านพระโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร (เหนือ)
• ท่านพระราหุล อยู่ทางทิศอิสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
กลีบบัวด้านหลัง ลงด้วย นะเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 ตามตำรา “ มหาทักษาพยากรณ์และวิธีบูชาสะเดาะเคราะห์ ” ของ อาจารย์อั้น สาริกบุตร (ท่านมีศักดิ์เป็นทั้งลุงและอาจารย์ของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร) ซึ่งในตำราได้กล่าวอ้างถึงพระสูตรหนึ่งที่มีชาวเมืองชมพูทวีปได้ไปกราบทูลถามพระพุทธองค์ถึงเรื่องของการที่เทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 เข้าเสวยอายุยังผลให้เกิดคุณและโทษต่างๆ นานา พระพุทธองค์จึงทรงมีพระฎีกาตรัสตอบว่าแม้แต่ตัวพระองค์เองก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 เช่นเดียวกัน แล้วจึงทรงมีพระบัญชาให้พระโมคคัลลาน์ไปถามถึงวิธีแก้จากเทวดาทั้ง 9 องค์นั้น จึงเป็นที่มาของ นะเทวดานพเคราะห์ แต่เนื่องจากกลีบบัวมีแค่ 8 กลับ จึงใช้พญานาคแทนพระเกตุ เพราะพระเกตุมีหางเป็นพญานาค แต่เพื่อซ้อนวิชาเข้าไปจึงทำเป็นนาศบาศก์ (งูกินงู) เป็นอาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์อีกที
ตรงกลางนาคบาศก์ เป็นคาถาหัวใจมนุษย์ทั้งชาย-หญิง
การปลุกเสก 2 วาระ คือ
• วาระที่ 1 ในเย็นของวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ก่อนวันไหว้ครูประจำปี 2561 พระอาจารย์มานิตย์ได้จัดพิธีสวดมนต์เย็นและธัมมจักกัปปวัตนสูตร โดยมีพระสงฆ์มาเจริญพุทธมนต์ 9 รูป ซึ่งมี ท่านผู้ใหญ่หนุน ศิษย์อาจารย์ชาญณรงค์ที่ยังมีชีวิตอยู่และคุ้นเคยกับพระอาจารย์มานิตย์เป็นอย่างยิ่งมาเป็นประธาน ในการเชิญบอกกล่าวท่านพระอาจารย์ชาญณรงค์ เมื่อเจริญพุทธมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำพิธีทักษิณานุปทาอุทิศถวาย อดีตเจ้าอาวาสวัดเงิน บางพรหม และพระอาจารย์ชาญณรงค์ เป็นลำดับสุดท้าย
• วาระที่ 2 ในวันลอยกระทง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561 โดยท่านได้ทำพิธีไหว้ครู และอธิษฐานจิตปลุกเสกตามตำรับวิชาที่ได้รับถ่ายทอดมา
อุปเท่ห์วิธีใช้ เมื่อจะใช้เหรียญนี้กระทำการใดๆ ให้จัดตั้งขัน 5 อันได้แก่ ดอกไม้ 5 ดอก เทียน 5 เล่ม ธูป 5ดอก บอกกล่าวครูบาอาจารย์ที่เป็นเจ้าของวิชาตั้งแต่ปฐมเจ้าอาวาสวัดเงินบางพรม อันมี ลป.เสม ลป.ภู ลป.ปั้น ลป.ชุ่ม ลป.พลอย ลพ.สมบูรณ์ พระอาจารย์ชาญณรงค์ ลป.ในดง และลป.นอกดง ให้มาอนุเคราะห์ แล้วอธิษฐานเอา

 

รายการที่ ๑๐ เหรียญสตางค์สิบ ลาภ ผล พูล ทวี หลวงพ่อใจ ปี ๒๕๕๕ ........ ๓๐๐ บาท .....ปิดหมด ๕ เหรียญ





ออกคราวนี้ ๕ เหรียญ หมดก็เก็บยาวครับ ของดี ค่อยๆมา

เหรียญนี้มีเจตนาทำให้ท่านแจกงานกฐินปี ๒๕๕๕ น่ะครับ หลวงพ่อท่านทำอะไรทำทีเดียว ไม่ทำซ้ำอีก เป็นเคล็ดของท่าน ลูกศิษย์ทำถวาย ท่านเสกในพรรษา ที่ผมจำได้เลยคือ ลูกศิษย์ขอท่าน นอกจาก เมตตา มหาลาภตามที่ท่านลงประจำให้ ได้ ขอให้ ท่านลง มหาปราบและ มหาระงับ สายแม่กลองอีกด้วย บันทึกไว้หลังเหรียญเลย มหาเมตตา มหาลาภ มหาปราบ มหาระงับ

สายแม่กลอง มหาปราบและมหาระงับมีชื่อเสียงมาก ตั้งแต่ยุค หลวงพ่อคง หลวงปู่ใจ หลวงพ่อหยอด หลวงพ่อเนื่อง หลวงพ่อสาย ฯลฯ ( เก่ายุคหลวงพ่อคงหรือเก่ากว่าก็มีแต่อย่าไปหาเลย แพง หายากอีกต่างหาก ) จัดว่าเหรียญนี้ลงให้ครบทุกด้าน ซ้ำเสก แน่นๆ เสก เดี่ยวตลอดพรรษา ออกพรรษา เอาแจกในงาน กฐินของท่าน
งานใหญ่น่ะครับ งานกฐินของท่าน มีหลายสาย คนเพียบ ๑๐๐๐๐ เหรียญก็อาจจะไม่พอแจกด้วยซ้ำ แต่ล่ะสายอาจจะทำเอามาขอท่านเสกไปแจกกันเองด้วย อาจจะมีจำหน่ายบ้างคงไม่มาก น่าจะหมดไปนานแล้ว

ผมร่วมลงทุนทรัพย์ถวายท่านร่วมกับเขา ทำถวายท่านด้วย เลยได้แจกมา เก็บไว้น่าจะสองสามปี พอมีเวลาไปแวะกราบท่านขอท่านลงจารซ้ำให้ ท่านจำเหรียญได้เลย ท่านเล่าประวัติยาวเฟื้อย มีเนื้ออะไรๆท่านจำได้หมด มีกี่เหรียญ อย่างนั้นๆ ผมยังทึ่ง เพราะท่านคงเสกมาเป็นร้อยรุ่น ยังจำรุ่นนี้ได้ดี ท่านจารเหรียญเงินกรรมการที่ผมได้แจกมาและหลังเรียบสองเหรียญ ให้อีกสองเหรียญ

พอท่านเล่าซ่ะอย่างดีเหมือนประทับใจ .... มีลูกศิษย์นั่งอยู่ด้วยมาก่อนผม น่าจะขาประจำหรือคนแถวๆนั้น ท่าทางคุ้นเคยกับหลวงพ่อเป็นอย่างดี อยากได้มั่งขอท่านหลวงพ่อมีแจกไหม ท่านก็บอกข้าไม่มีหรอกหมดไปนานแล้ว พี่คนนั้นฟังแล้วอยากได้ขอเหรียญผมไปส่องดู ว่าจะจำไว้จะไปหาบ้าง .... ท่าทางหลวงพ่อ คงอยากแจกให้เขาเหมือนกันแต่เหรียญแบบนี้หมดไปแล้ว ผมเลยตัดใจ ให้หลังเรียบที่จารให้เขาไปเหรียญ บอกพี่รับกับมือหลวงพ่อเองน่ะครับ ผมแอบๆดูท่าทางหลวงพ่อท่านก็พอใจที่ได้แจกฟรีน่ะครับ

ประวัติที่หาได้ แต่ไม่ละเอียดเพราะมีเนื้อเงิน น่าจะมีทองคำด้วย เหรียญนี้เสกนานทั้งพรรษา ขอท่านลงครบตามสูตรสายแม่กลอง แค่ มหาระงับอย่างเดียว ก็เที่ยวทั่วไทยได้แล้วครับ เนื้อไม่ใช่ทองเหลืองล้วนๆแต่เป็นเนื้อผสมชนวนของศิษย์สายวัดเงิน ดูประกายทองได้ ไม่เหลืองอ๋อย แต่เหลืองเงาวับวิบ เลี่ยมทองขึ้นคอก็ไม่แพงครับ เป็นเหรียญแนวเหรียญแจกทานในงานกฐินน่ะครับ

เหรียญหลังเรียบผมว่าจะไปเลี่ยมทองสักหน่อย กำลังน่ารัก

- เหรียญสตางค์ " แจกงานกฐิน " พระอธิการใจ วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม ปี2555
- เนื้อทองผสม แบบบาง

เหรียญสตางค์ เนื้อทองผสม สร้างจำนวน 13000 เหรียญ มี 3 แบบ
1.แบบหลังเรียบ สร้างจำนวน 1000 เหรียญ
2.แบบหนา สร้างจำนวน 2000 เหรียญ
3.แบบบาง สร้างจำนวน 10000 เหรียญ ( ที่มีแบบบาง จะได้ไม่เปลืองทอง ทองเขาทองผสม จึงประหยัดเนื้อลง )

 

รายการที่ ๑๑ แหวนเงินแม่พิมรุ่นแรก ....... ๓๐๐๐ บาท...........ปิดครับ

ราคาโควิด เอาลงประมูลทีไร ราคาสูงกว่านี่สองเท่าทุกครั้ง

มาตามคำขอไว้นาน แต่ผมไม่อยากออกไว ค่อยๆไปเรื่อยๆ เป็นที่นิยมอย่างสูง เนื้อเงินถูกอากาศดำ ไปล้างก็เงาแว็บน่ะครับไม่ได้ใช้ ผมติดนิ้วมือตลอดเวลา รุ่นเดียวกันแต่ของผมทำด้วยทองคำ ไม่ถอด ทั้งนอน เข้าห้องน้ำ ติดกายตลอด ของเขาดี หลวงพ่อลงให้ครบทั้งดูดพิษด้วย ลองมาเอง สี่ที มั่นใจมาก



ถ้าท่านไหน ไม่ชอบเงินดำ เปลี่ยนได้ครับ ผมเอามาให้ดูแบบเดิมๆ

 

ทุกรายการแถมยาวาสนาฟรี รายการล่ะ ๓ เม็ดเอาไปกินกันคราสเข้ากันน่ะครับ

 

รายการที่ ๑๐ เหรียญสตางค์สิบ ลาภ ผล พูล ทวี หลวงพ่อใจ ปี ๒๕๕๕ ........ ๓๐๐ บาท

ขอจอง 1 เหรียญครับ

 

ขอรับรายการที่ 5 และรายการที่ 10 จำนวน 3 เหรียญครับ

 

รับทราบครับ

 

รับทราบครับ

 

พระเครื่องและวัสดุทุกอย่างก่อนห่อและส่งออก ผมอบแสงยูวี แบบ โคม ๑๐ วัตต์ ๑๕ นาทีทุกรายการ มั่นใจได้ว่าในกล่องไม่มีไวรัสที่ไม่พึงประสงค์ แถมไปด้วย แต่นอกกล่องไม่สามารถรับรองได้ เพราะจับกันหลายมือ ไปมาหลายที่ ท่านได้ไป เปิดนอกบ้านเลย หรือเอาวางนอกบ้านสัก สอง สามวัน ตากแดดหน่อยยิ่งดีเพราะบ้านเราแดดมี ยูวีเยอะ จับปั้บ ก่อนเข้าบ้านล้างมือด้วยสบู่ทันที หรือ ล้างด้วยเแอลกอฮอล์ ด้วยความรักและปราถนาดีครับ อยู่ดูกันนานๆ

...พี เสาวภา

 

เบี้ยตัวที่ 2 ถ้าไม่มีใครรับผมขอรับเองครับ

 

จองรายการที่ 6.2ครับ