[FONT=Tahoma,]ระทึกนาทีเป็นนาทีตาย แม่เฒ่าเผาลูก-เผาตัว เครียด-ญาติไล่จากบ้าน
สดจากสนามข่าว
อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ
<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
ช่วยชีวิตนางนงคราญ
</td></tr></tbody></table>คน ใกล้ชิดครอบครัว 'นรางกูล' รู้ดีว่าในระยะหลังนี้ นางนงคราญ นรางกูล กับ นายณัฐพล นรางกูล สองคนแม่ลูก ตกอยู่ในภวังค์แห่งความเครียดเรื่องที่อยู่อาศัย
ด้วยเพราะทั้งคู่กำลังจะถูกไล่ออกจากบ้านอันเป็นที่พึ่งสุดท้าย
เลยทำให้จิตตกทั้งแม่ทั้งลูก!?!
บ้าน ทรงโบราณ ตั้งอยู่เลขที่ 87 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กลายเป็นข้อพิพาทของคนในตระกูล 'นรางกูล' ในที่สุด
เนื่องจากบ้านหลังนี้เดิมเป็นของน้องสามี ที่ให้มาอาศัยอยู่นานนับสิบปี จนเมื่อสามีนางนงคราญ เสียชีวิต น้องสาวสามีก็ขอทวงบ้านคืน มิหนำซ้ำยังไปประ กาศขายในราคา กว่า 20 ล้าน จนเป็นคดีความฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล
ด้วยความเครียดในข้อพิพาท เรื่องบ้าน ประกอบกับปัญหาด้านอื่นที่รุมเร้าเป็นพัลวัน จึงทำให้นางนงคราญคิดสั้นตัดสินใจใช้น้ำมันเบนซินราดลูกชายแล้วจุดไฟเผา ก่อนที่จะใช้น้ำมันเบนซินราดตัวเอง ย่างสดหวังตายตกไปตามกัน
ฤทธิ์ของไฟที่โลมเลียอยู่บนน้ำมันเบนซิน พึ่บเดียวก็คลอกทั้งตัวหวิดวอดวายทั้งบ้าน <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
1นางนงคราญ ก่อนสิ้นลม
2.บ้านที่เกิดเหตุ
3.นายณัฐพล
4.นางนงคราญ
5.จุดเผา!
</td></tr></tbody></table>
งาน นี้สองแม่ลูกถูกไฟคลอกผิวหนังไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยนางนงคราญ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในภายหลัง ส่วนนายณัฐพลบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน
สยองเกินบรรยาย
เหตุสะเทือนใจและสะเทือน ขวัญเกิดขึ้นตอนสายวันที่ 1 ธ.ค. มีเหตุคนเผาตัวเองขึ้นที่บ้านพักภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 ร.ต.ท. อนุชิต เหล่าแหลม ร้อยเวร สน.ท่าพระ จึงรุดไปตรวจสอบ
บ้านทรงโบราณสองชั้น ปลูกด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ กว่า 100 ตารางวา หน้าบ้านติดป้าย 'บ้านสองพี่น้อง' กลายเป็นสุสานกลืนร่างคนอย่างสยดสยอง
เมื่อ ไปถึงเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เพราะพบร่างนายณัฐพล นรางกูล อายุ 39 ปี บาดเจ็บถูกไฟไหม้ตามร่างกายเกรียมไปกว่า 70 เปอร์ เซ็นต์ นอนร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา ได้กลิ่นน้ำมันเหม็นคลุ้ง จึง รีบนำส่งโรงพยาบาลศิริราช
นอกจากภาพที่ปรากฏตรงหน้า เจ้าหน้าที่ยังต้องตะลึงซ้ำสอง เมื่อพบกลุ่มควันไฟลอยคลุ้งอีกจุดที่ชั้นบน มีนายมนูญ เสน่ห์ เพื่อนบ้านและเพื่อนๆ กำลังใช้น้ำยาเคมีฉีดสกัดไฟไม่ให้ลุกลาม
จุดนี้เองตำรวจพบร่างนาง นงคราญ หญิงชรา วัย 70 ปี มารดานายณัฐพล นั่งหายใจรวยรินอยู่บนเก้าอี้ ในสภาพถูกไฟไหม้เกรียมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ตามร่างกายมีกลิ่นน้ำมันคละคลุ้งจึงนำส่งโรงพยาบาล
"ทุกอย่างเกิด ขึ้นเร็วมาก ก่อนเกิดเหตุผมได้ยินเสียงลูกชายเจ้าของบ้านร้องขอความช่วยเหลือ ได้ยินพูดว่าแม่เอาน้ำมันมาราดผมทำไม ทำไมทำอย่างนี้ วันนี้ผมต้องไปขึ้นศาลนะแม่ ส่งเสียงตะโกนดังลั่น ตามมาด้วยกลิ่นน้ำมันและกลุ่มควัน ผมกับนายสมคิดเพื่อนบ้านอีกคน จึงปีนข้ามกำแพงเข้าไปดู ถือถังดับเพลิงติดมือมาด้วย ภาพที่เห็นแทบช็อก เมื่อพบร่างนายณัฐพล ถูกไฟไหม้ร้องครวญคราง ดิ้นทุรนทุรายตรงหน้า จึงใช้น้ำยาฉีด และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ"
เพื่อนบ้านเล่าอีกว่า ตอนนั้นพบนางนงคราญ นั่งอยู่บริเวณบันไดขึ้นชั้น 2 พูดน้ำเสียงเรียบๆ ว่าไฟดับแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว ก่อนใช้น้ำมันเบนซินราดตัวแล้วจุดไฟเผาต่อหน้าต่อตา แล้ววิ่งเตลิดร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด ขึ้นไปบนชั้น 2 พวกตนก็ตามไปช่วยดับไฟที่ร่างกาย นางนงคราญวิ่งไปได้ไม่ไกล ก็หมดแรงนั่งหอบตัวโยนอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ บันได
เป็นภาพนาทีเป็นนาทีตายที่เกิดขึ้นต่อหน้า
งานนี้พลเมืองดีใช้ถังดับเพลิงถึง 6 ถัง ในการดับไฟที่ติดอยู่บนตัวสองแม่ลูก
ตํารวจ ท้องที่และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรายละเอียดของเหตุการณ์ ที่บริเวณชั้นล่างพบแกลลอนน้ำมัน 2 แกลลอน ที่ใต้บันไดอีก 3 แกลลอน สภาพภายในบ้านไฟลุกไหม้ตู้เสื้อผ้าเสียหาย ชั้นบนไฟไหม้เครื่องเฟอร์นิเจอร์กับทีวีวอดวาย
สอบปากคำพยานที่คุ้น เคยกับนางนงคราญ ได้ความว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแก่ ก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนพักอยู่กับสามีชื่อนายฐานันท์ และนางเรไร คนรับใช้ รวม 4 คน
แต่เมื่อ 2 ปีก่อน นายฐานันท์ สามีนางนงคราญเสียชีวิต บ้านหลังนี้มีชื่อของนางสุธีรา น้องสาวของนายฐานันท์ เป็นเจ้าของบ้าน โดยนางสุธีรา ให้พี่ชายอยู่อาศัยกับครอบครัว แต่หลังจากนายฐานันท์ตาย นางสุธีราก็ขอบ้านคืน พร้อมทั้งฟ้องขับไล่สองแม่ลูกออกจากบ้าน จนเป็นกรณีพิพาทกันในศาล
ทำให้นางนงคราญคิดมากเรื่องถูกไล่ที่อยู่อาศัย
ตำรวจเชื่อว่าเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจฆ่าลูกและฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหา!??
[/FONT]
ระทึกนาทีเป็นนาทีตาย แม่เฒ่าเผาลูก-เผาตัว เครียด-ญาติไล่จากบ้าน
ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย titawan, 6 ธันวาคม 2010.