ระทึก! ลาว แผ่นดินไหว ขนาด6.4 แรงสั่นเขย่าไทยหลายจังหวัด สะเทือนถึงกรุงเทพฯ

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร ที่ลาว โดยรับรู้แรงสั่นไหวในบริเวณ จ. น่าน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำปาง จ.เลย

วันนี้ (21 พ.ย.2562) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องแผ่นดินไหวที่ลาว โดยเมื่อเวลา 04.03 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ประเทศลาว ที่ละติจูด 19.42 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.33 องศาตะวันออก ขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวบริเวณ จ. น่าน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำปาง จ.เลย



กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานเพิ่มเติมว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกที่ลาวตามมาอีก 11 ครั้ง ในช่วง 04.19-06.38 น.

ขอบคุณที่มา
https://news.thaipbs.or.th/content/286294

 

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เกิดเหตุแผ่นดินไหวแรงศูนย์กลางใน สปป.ลาว แถมอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบตั้งแต่กลางดึกจนถึงเช้าวันนี้ แรงสุดวัดได้ 6.4 แมกนิจูด รู้สึกได้ทั่วภาคเหนือตอนบนทั้งเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง แรงสั่นสะเทือนทำให้โบสถ์เก่า 400 ปีและบ้านเรือนประชาชนในเมืองหงสาแตกร้าวเสียหาย


วันนี้ (21 พ.ย.) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ได้เกิดเหตุแผินดินไหวใน สปป.ลาว และอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบ เริ่มตั้งแต่ 23.49 น.คืนที่ผ่านมา (20 พ.ย.) ความแรง 2.9 ต่อมาเวลา 04.03 น. วันนี้ (21 พ.ย.) เกิดแผ่นดินไหว ความแรง 5.9 เวลา 04.19 น. ความแรง 4.3 เวลา 04.23 น. ความแรง 3.1

เวลา 04.33 น. ความแรงวัดได้ 3.9 เวลา 04.41 น. ความแรงวัดได้ 3.6 เวลา 04.59 น. ความแรงวัดได้ 3.5 เวลา 05.07 น. ความแรงวัดได้ 2.3 เวลา 05.10 น. ความแรงวัดได้ 3.3 เวลา 05.17 น. ความแรงวัดได้ 3.5 เวลา 05.30 น. ความแรงวัดได้ 3.0 เวลา 05.51 น. ความแรงวัดได้ 3.2 เวลา 06.28 น. ความแรงวัดได้ 2.3 และล่าสุดเมื่อ 06.50 น.ที่ผ่านมาวัดความแรงได้ถึง 6.4

ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งคืนที่ผ่านมาทั้งหมดอยู่ใน สปป.ลาว แต่หลายครั้งแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยเฉพาะกรณีเกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดความแรง 6.4 แมกนิจูด ทุกครั้งมีศูนย์กลางห่างจากบ้านน้ำซาง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ระหว่าง 10-20 กม.เท่านั้น รู้สึกได้ทั้งในเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน ลำพูน

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงใดๆ แต่เจ้าหน้าที่จะออกสำรวจโบราณสถานสำคัญในทุกพื้นที่อีกครั้งในสายวันนี้

ส่วนในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีรายงานว่า โบสถ์เก่าแก่อายุ 400 กว่าปี มีรอยแตกร้าวขาดใหญ่ที่ผนังโบสถ์ จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และผนังบ้านเรือนประชาชนหลายหลังแตกร้าวเสียหายอีกด้วย


ขอบคุณที่มา
https://mgronline.com/local/detail/9620000111621

 

กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานแผ่นดินไหวบริเวณประเทศไทยและใกล้เคียง โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.03 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ที่ประเทศลาว หลังจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายรอบ ล่าสุด 06.50 น. วัดแรงสั่นสะเมือนได้ 6.4 ลึกจากผิวดิน 3 กิโลเมตร

รายงานข่าวแจ้งว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้หลายจังหวัด เช่น น่าน แพร่ พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เลย ขอนแก่น อุดรธานี รวมถึงกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนตึกสูง สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน

แผ่นดินไหวเมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา pic.twitter.com/sKRaMubFyN

— Ekkorn Suwannetr (@papakobi) November 21, 2019


Lights swinging in Bangkok from the earthquake near Laos border #แผ่นดินไหว pic.twitter.com/OqTNJFFOCV

— Andy Baird (@andy_engineer) November 21, 2019


RT@GameBoy_Advance
06:58 เห้ยยยย !!! แผ่นดินไหวชิดลม #แผ่นดินไหวpic.twitter.com/70qejgn1Kg

— JS100 (@js100radio) November 20, 2019
​

matichon


ขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/region/news_1762104

 

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.4 บริเวณประเทศลาว มีรายงานรับรู้แรงสั่นไหวหลายจังหวัด รวมถึงตึกสูงใน กรุงเทพฯ บางจุด

วันนี้ (21 พ.ย.2562) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเมื่อเวลา 04.03 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ลึก 5 กม.ที่ประเทศลาว สามารถรับรู้แรงสั่นไหวถึง จ.น่าน แพร่ พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เลย ขอนแก่น และอุดรธานี จากนั้นช่วงเวลา 04.19 ถึง 05.51 น. เกิดแผ่นดินไหวตามมาอีก 10 ครั้ง ขนาด 2.3 ถึง 4.3

ล่าสุดเมื่อ เวลา 06.50 น. เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 6.4 ความลึก 3 กม. ที่ประเทศลาว ห่างจากบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กม. มีรายงานรับรู้แรงสั่นไหวหลายจังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร



แผ่นดินไหวสะเทือนถึงไทย


นายไพบูลย์ นวลนิล ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว อธิบายว่า แผ่นไหวขนาด 5.9 เมื่อเวลา 04.03 น. คือ Foreshock หรือ แผ่นดินไหวนำที่เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินหลักขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.50 น. แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ในรัศมี 50 กิโลเมตร รอบจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว และไม่ส่งผลกระทบต่ออาคารบริเวณกรุงเทพมหานครเพราะอยู่ไกลกัน

ด้าน รศ.อเนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย อธิบายถึงการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนบริเวณกรุงเทพมหานคร ว่า คลื่นที่มาไม่ใช่คลื่นแผ่นดินไหวแต่เป็นการสะท้อนคลื่นที่เกิดขึ้นจากดินอ่อนบริเวณกรุงเทพมหานคร คลื่นลักษณะนี้จะมีคาบที่ยาว หรือ มีความถี่ต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับอาคารสูงบริเวณกรุงเทพมหานครทำให้อาคารสูงบริเวณกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 30-50 เมตร สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้

คาดจะไม่มีผลกระทบ แต่หากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใกล้กับกรุงเทพฯ เช่น เกิดที่กาญจนบุรี ก็อาจจะส่งผลกระทบต่ออาคารที่กรุงเทพฯ ได้
​

โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จ.ขอนแก่น อพยพผู้ป่วยบางส่วนลงมาด้านล่างอาคาร หลังรับรู้แรงสั่นไหวเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.4 ในลาว เมื่อเวลา 06.50 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แผ่นดินไหวขนาด 5.9 ที่ลาว รับรู้แรงสั่นไหว 6 จังหวัดของไทย

ขอบคุณที่มา
https://news.thaipbs.or.th/content/286297

 

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 รายงานข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ภายหลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 23.49 น. ศูนย์กลางที่ประเทศลาว ขนาด 2.9 ซึ่งรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้หลายจังหวัดในประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพฯ ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก 19 ครั้ง

โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 04.03 น. ขนาด 5.9 จากนั้นเวลา 04.19 น. ขนาด 4.3 เวลา 04.33 น. ขนาด 3.1 เวลา 04.33 น. ขนาด 3.9 เวลา 04.41 น. ขนาด 3.6 เวลา 04.59 น. ขนาด 3.5 เวลา 05.07 น. ขนาด 2.3 เวลา 05.10 น. ขนาด 3.3 เวลา 05.15 น. ขนาด 3.5 เวลา 05.30 น. ขนาด 3.0 เวลา 05.51 น. ขนาด 3.2 เวลา 06.28 น. ขนาด 2.3 เวลา 06.50 น. ขนาด 6.4 เวลา 07.33 น. ขนาด 3.9 เวลา 07.40 น. ขนาด 3.7 เวลา 07.47 น. ขนาด 3.3 เวลา 07.55 น. ขนาด 3.7 เวลา 07.57 น. ขนาด 4.8 และเวลา 08.14 น. ขนาด 4.4


matichon


ขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/economy/news_1762165

 

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นายวรพจน์ วรพงษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง แผ่นดินไหวที่ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เวลา04.03น. เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ที่ความลึก 5 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนสิริกิติ์ 202 กิโลเมตร



การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. วัดอัตราเร่งสูงสุดได้ 0.00363 g น้อยกว่าค่าที่ออกแบบไว้ และเวลา 06:50 น. ขนาด 6.4 ลึก 3 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนสิริกิติ์ ไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 207 กิโลเมตร กฟผ. วัดอัตราเร่งสูงสุดได้ 0.01530 g น้อยกว่าค่าที่ออกแบบไว้ ซึ่งไม่มีผลกระทบเขื่อนสิริกิติ์แต่อย่างใด



นายวรพจน์ ยืนยันว่าเขื่อนสิริกิติ์ยังคงมีความมั่นคงแข็งแรง แผ่นดินไหวที่ สปป.ลาว แม้จะมีชายแดนติดกับจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงตัวเขื่อนสิริกิติ์ หลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเครื่องวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งไว้ ทั้ง 3 เครื่อง พบว่าเครื่องไม่อ่านค่า เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นไม่กระทบหรือส่งผลกระทบกับตัวเขื่อนสิริกิติ์

อีกทั้งเหตุแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเขื่อนสิริกิติ์ มากกว่า 200 กิโลเมตร จึงอยากแจ้งข่าวให้ประชาชนได้รับทราบและไม่ต้องตื่นตระหนก หากมีผลกระทบกับทางเขื่อนก็จะรายงานให้ทางจังหวัดทราบทันที



“โครงสร้างของเขื่อนสิริกิติ์ ออกแบบและก่อสร้างเพื่อรองรับผลกระทบจากแผ่นดิน จึงขอให้ประชาชนมีความมั่นใจในความปลอดภัยของเขื่อนและการทำงานของเจ้าหน้าที่ของ กฟผ. ที่มีการตรวจสอบและบำรุงรักษา เพื่อความปลอดภัยของเขื่อนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อการใช้งานและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ และยังคงบริหารจัดการน้ำ หรือปล่อยน้ำตามปกติ

ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 5,159 ล้าน ลบ.เมตร เป็นน้ำที่พร้อมใช้งานเพียง 2,309ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ34 ซึ่งต่ำกว่าในเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมามากถึง 13 เมตร รทก. หรือกว่า 3,000ล้าน ลบ.เมตร โดยมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเฉลี่ยวันละ 12ล้าน ลบ.เมตร เขื่อนสิริกิติ์ยังคงระบายน้ำตามแผนการระบายน้ำและขอยืนยันว่าเขื่อนสิริกิติ์ยังมั่นคงแข็งแรงดี” นายวรพจน์กล่าว

เพิ่มเราเป็นเพื่อน ข่าว ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ทุกวัน @springnews



ขอบคุณที่มา
https://www.springnews.co.th/thailand/577755

 

น่าน – เผยแผ่นดินไหวใน สปป.ลาวติดชายแดนน่าน แถมเกิดอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบข้ามคืนกว่า 20 ครั้ง และล่าสุดศูนย์กลางอยู่เขตไทย ทำวัดเก่าแก่เมืองน่าน-ร.ร.ตชด.100 ปี รวมถึงบ้านเรือนชาวบ้านแตกร้าวเสียหายเพียบ


ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบใน สปป.ลาว เริ่มตั้งแต่ 23.49 น.คืนที่ผ่านมา (20 พ.ย.) จนถึงสายวันนี้ (21 พ.ย.) รวมกว่า 20 ครั้ง ศูนย์กลางในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ห่างจากบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ระหว่าง 10-30 วัดความแรงได้สูงสุด 6.4 แมกนิจูด ความลึก 3 กิโลเมตร

และเมื่อเวลา 09.23 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งวัดความแรงได้ 3.8 แมกนิจูด ลึก 8 กม. มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติด้วยนั้น


เบื้องต้นมีรายงานความเสียหายในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บ่อเกลือ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอำเภอแนวชายแดนที่อยู่ติดกับประเทศลาว โดยมีรายงานที่บ้านน้ำช้าง หมู่ 11 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน เร่งสำรวจความเสียหายพบบ้านเรือนประชาชนมีรอยร้าวตามตัวบ้านที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

และที่โรงเรียน ตชด.100 ปี ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ พบว่าหลังคาและฝ้าเพดานบางส่วนได้หลุดพังลงมา หน้ามุขด้านหน้าอาคารเรียนแตกร้าว บ้านพักครูมีรอยร้าวทั้ง 2 หลัง, อาคารสุขศาลาพระราชทานอยู่ระหว่างการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ขณะที่กระจกตึกแถวทางด้านทิศเหนือธนาคารออมสิน สาขาท่าวังผา เกิดแตกร้าวจากแรงสั่นสะเทือนด้วย

พ.อ.รัตนะ พัฒนโสภณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ได้สั่งการให้ 6 กองร้อย ประสานหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแนวชายแดนออกสำรวจความเสียหายและติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด


นอกจากนี้ ยังพบว่าวัดพระธาตุเขาน้อย โบราณสถานเก่าแก่อายุ 5 ร้อยกว่าปี ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูง ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน ก็ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในลาวเมื่อเช้ามืดวันนี้ โดยพบรอยแตกร้าวรอบตัวอาคารพระอุโบสถ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้าตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากวัดพระธาตุเขาน้อยเคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 57 ก่อนมาแล้ว

พระมหาจรัล สิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเขาน้อย เล่าวินาทีช่วงเกิดแผ่นดินไหวว่า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเพราะวัดอยู่บนเนินเขาสูง จึงรู้สึกตกใจ พระและสามเณรที่อยู่ในกุฏิต่างวิ่งหนีออกมาอยู่บริเวณลานวัดกันหมด


ทางด้านนายวิทยา ขันทยศ นายช่างโยธา สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งวางแผนการสำรวจความเสียหายของโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนจำนวน 25 แห่ง โดยเฉพาะที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ คือวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และวัดภูมินทร์ ที่อยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม และวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ซึ่งเคยมีรอยร้าวที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงที่วัดพระธาตุเขาน้อย อ.เมืองน่าน ซึ่งเป็นวัดสำคัญและอยู่จุดที่สูง รวมถึงวัดพระธาตุเบ็งสกัด และวัดต้นแหลง อ.ปัว และวัด หนองแดง อ.เชียงกลางด้วย


นายมณเฑียร คูคำมี ผู้อำนวยการ กลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดน่าน เร่งประสานคณะสงฆ์จังหวัดน่านเพื่อสั่งการให้วัดทุกแห่งทั่วทั้งจังหวัด โดยเฉพาะวัดในเขตอำเภอแนวชายแดนให้เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด

ขณะที่นายคทายุทธ์ ชุพูล กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าหงสา ที่ตั้งอยู่ที่เมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว

ขอขอบคุณที่มา
https://mgronline.com/local/detail/9620000111670

 

21 พฤศจิกายน 2562


273

แผ่นดินไหวที่ลาว พิษณุโลกสัมผัสได้น้ำในคลองกระเพื่อม ป้ายร้านสั่นไหว


เมื่อเวลา 04.03 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ประกาศจากทางกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องแผ่นดินไหว มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ประเทศลาว ที่ ลองติจูด 103.33 องศาตะวันออก ขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน

อ่านข่าว-เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ลาว รับรู้ความสั่นไหวถึงกรุงเทพ

ที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ม.2 ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก เจ้าของร้านผัดไทยตงฟาน ซึ่งได้เตรียมขึ้นมา เปิดร้าน ซื้อกับข้าวในตอนเช้าได้สังเกตปรากฏการณ์แผ่นดินไหวได้โดยได้ถ่ายคลิปภาพ ป้ายที่แขวนอยู่หน้าร้านที่กำลังสั่นไหวชั่วขณะหนึ่ง นอกจากนี้ที่ม.7 บ้านดงพลวง ตำบลวังพิกุลอำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลก เวลาประมาณ 07.12 น. มีชาวบ้านได้พบกับปรากฏการณ์แผ่นดินไหว น้ำในลำคลองส่งน้ำในนาข้าว ได้กระเพื่อม เป็นคลื่น ไหลออกไปและไหลย้อนกลับ จึงได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย ซึ่งในจังหวัดพิษณุโลกยังไม่มีรายงานความเสียหายแจ้งเข้ามา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง




ข่าวอื่นๆ ในเครือ

ขอบคุณที่มา
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/855389

 

กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เมื่อเวลา 06.50 น.เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ที่ละติจุด 19.46 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.38 องศาตะวันออก ขนาด 6.4 ความลึก 3 กม. ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 20 กม. เบื้องต้นรู้สึกสั่นไหวบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้านกรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ สาเหตุจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนใน สปป.ลาว ที่วางตัวแนว NNW-SSE แบบตามแนวระนาบเหลื่อมขวาเป็นหลัก (Right lateral strike-slip fault) โดยได้เกิดเผ่นดินไหวตั้งแต่เวลา 23.49 -06.28 น.


ขนาด 2.0-5.9 จำนวน 13 ครั้ง ครั้งที่รู้สึกได้เป็นเวลา 04.03 น. ขนาด 5.9 และ เวลา 14.19 น.ขนาด 4.3 และมีแผ่นดินไหวตาม ตั้งแต่เวลา 07.33-08.14 น. มีแผ่นดินไหวตาม (aftershocks) 6 ครั้ง

แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เบื้องต้นส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน


–อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th–


ขอบคุณที่มา
https://www.ryt9.com/s/iq01/3069931

 

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 6.4 ริกเตอร์ ที่ประเทศลาว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้อย่างชัดเจน เช่นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา บรรดาแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดตึก 15 ชั้น อยู่ในช่วงเช้า ได้พากันหนีตายลงมาจากตึกกันอย่างจ้าละหวั่น หลังจากที่ตึกเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง โดยนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เข้าไปสอบถามความรู้สึกของแม่บ้าน ก็พบว่าหลายคนต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับหยิบยาดมมาดมกันยกใหญ่ เพราะไม่เคยเจอปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงได้อธิบายว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอาฟเตอร์ช็อคแผ่นดินไหวที่ประเทศลาว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ที่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ เช่น ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่สีมาคอนโดมีเนียม และอาคารสูงหลายแห่ง ซึ่งมีการแชร์ภาพการสั่นไหวของโคมไฟ และสิ่งของต่างๆ ในโลกโซเชียลกันอย่างต่อเนื่องตลอดในช่วงเช้านี้





ขอบคุณที่มา
https://www.innnews.co.th/regional-news/news_537411/

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ล่าสุด ณ เวลา 10.26 น. อยู่ที่ 17.70 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 2.75% สูงสุดที่ 18.20 บาท ต่ำสุดที่ 17.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.18 ล้านบาท



โดยราคาหุ้น BPP ปรับตัวลง คาดเกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 5.9 แมกนิจูด ความลึก 5 กม. มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ซึ่งแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทย ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น น่าน พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เลย ขอนแก่น อุดรธานี

ทั้งนี้ทางบริษัทไฟฟ้า หงสา จำกัด ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น โดยเนื้อหาใจความสำคัญของหนังสือฉบับนี้ ระบุว่า ทางบริษัทกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหาย ซึ่งหากมีความคืบหน้า ทางบริษัทจะแจ้งให้รับทราบต่อไป

อนึ่งบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใน สปป.ลาว มีผู้ถือหุ้น 3 รายคือ 1.รัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว ซึ่งเป็นนิติบุคคลของรัฐบาลลาว ถือหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ 2. บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในกลุ่มของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และบริษัท บ้านปูพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์



ขอบคุณที่มา
https://www.kaohoon.com/content/328252

 

น่าน-ส่อง2อำเภอแนวชายแดนติดสปป.ลาวหลังเกิดแผ่นดินไหว2ครั้งต่อเนื่องกันทั้งบ้านและอาคารโยกคลอนพระอุโบสถอายุกว่า500ปีเกิดรอยแตกร้าว


ที่จังหวัดน่าน เกิดแผ่นดินไหว จนสามารถรับรู้และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน ติดต่อกันถึงสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อเวลา 4.03 น. และ อีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 6.59 น.ประชาชนสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวได้อย่างชัดเจน บ้านและอาคารโยกคลอนและสั่นสะเทือน ทั้งหลัง ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว โดยเมื่อเวลา 4.03 น. มีขนาด 5.9ความลึก 5 กิโลเมตร และ เมื่อเวลา 6.59 น. ที่ผ่านมา มีขนาด 6.4 มึความลึก 3 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร ทำให้เกิดแรงสั่นไหวในบริเวณ จ.น่าน จนประชาชนรู้สึกได้อย่างชัดเจน



เบื้องต้นมีรายงานความเสียหายที่อำเภอบ่อเกลือ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอำเภอแนวชายแดนติดกับประเทศลาว ที่บ้าน น้ำช้าง หมุ่ 11 ต.ขุน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ เกิดรอยร้าวตามตัวบ้านที่โรงเรียน ตชด.100 ปี ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ พบว่า หลังคา และ ฝ้าเพดานบางส่วนได้หลุดพังลงมา หน้ามุขด้านหน้าอาคารเรียนแตกร้าว บ้านพักครูมีรอยร้าวทั้ง 2 หลัง และ อาคารสุขศาลาพระราชทาน ขณะที่กระจกตึกแถวทางด้านทิศเหนือธนาคารออมสิน สาขาท่าวังผา



พันเอกรัตนะ พัฒนโสภณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ได้สั่งการให้ 6 กองร้อย ประสานหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแนวชายแดนออกสำรวจความเสียหายและติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ที่วัดพระธาตุเขาน้อย โบราณสถานเก่าแก่อายุ 5 ร้อยกว่าปี ที่อยู่บนเขาสูงสุดในตัวเมือง ได้รับความเสียหาย โดยพระและสามเณรวัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูง ในตำบลไชยสถาน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ชี้ให้ดูความเสียหาย ของพระอุโบสถเก่าแก่ของวัดอายุ 5 ร้อยกว่าปี จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในลาวเมื่อเช้ามืดวันนี้ โดยพบรอยแตกร้าวรอบตัวอาคารพระอุโบสถ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้าตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากวัดพระธาตุเขาน้อยเคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 57 ก่อนมาแล้ว



พระมหาจรัล สิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเขาน้อย เล่าวินาทีช่วงเกิดแผ่นดินไหวว่า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เพราะวัดอยู่บนเนินเขาสูง จึงรู้สึกตกใจ พระและสามเณรที่อยู่ในกุฏิต่างวิ่งหนีออกมาอยู่บริเวณลานวัด และความรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวจนประชาชนในทุกพื้นที่อำเภอสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อโบราณสถานสำคัญและวัดเก่าแก่ต่างๆในจังหวัดน่าน

ด้าน นายวิทยา ขันทยศ นายช่างโยธา สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งวางแผนการสำรวจความเสียหายของโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 25 แห่ง โดยเฉพาะที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ คือที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และ วัดภูมินทร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม และที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ซึ่งเคยมีรอยร้าวที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงที่วัดพระธาตุเขาน้อย อ.เมืองน่าน ซึ่งเป็นวัดสำคัญและอยู่จุดที่สูง นอกจากนี้ยังมี วัดสำคัญ ที่ต้องตรวจสอบ คือ วัดพระธาตุเบ็งสกัด และวัดต้นแหลง อ.ปัว และวัด หนองแดง อ.เชียงกลางด้วย



นายมณเฑียร คูคำมี ผู้อำนวยการ กลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดน่าน เร่งประสานคณะสงฆ์จังหวัดน่าน เพื่อสั่งการให้วัดทุกแห่งทั่วทั้งจังหวัด โดยเฉพาะวัดในเขตอำเภอแนวชายแดน ให้เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ และสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด

ขณะที่นาย คทายุทธ์ ชุพูล กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าหงสา ที่ตั้งอยู่ที่เมืองหงสา แขวงไชยบุรี ประเทศลาว



ข่าวอื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้องในอดีต

ขอบคุณที่มา
https://www.posttoday.com/social/local/607019

 

น่านสะเทือน! หลังแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน อาคารโรงเรียน-วัดเก่าแก่พังร้าว


น่านสะเทือน! หลังแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน / เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดน่านว่า เกิดแผ่นดินไหว จนสามารถรับรู้และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน ติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเวลา 04.03 น. และ อีกครั้งเวลา 6.59 น. โดยประชาชนสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวได้อย่างชัดเจน บ้านและอาคารโยกคลอนและสั่นสะเทือนทั้งหลัง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่


ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว โดยเมื่อเวลา 04.03 น. มีขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร และเมื่อเวลา 6.59 น. ที่ผ่านมา มีขนาด 6.4 มีความลึก 3 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร ทำให้เกิดแรงสั่นไหวในบริเวณ จ.น่าน จนประชาชนรู้สึกได้อย่างชัดเจน

เบื้องต้นมีรายงานความเสียหายและความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหว ในพื้นที่หลายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอำเภอแนวชายแดน ที่อยู่ติดกับประเทศลาว



ที่บ้าน น้ำช้าง หมุ่ 11 ต.ขุน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ผู้ใหญ่บ้านและผุ้นำชุมชน เร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ซึ่งพบว่ามีรอยร้าวตามตัวบ้านที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

อ่านข่าว ระทึก! ลาว แผ่นดินไหว ขนาด6.4 แรงสั่นเขย่าไทยหลายจังหวัด สะเทือนถึงกรุง

ที่โรงเรียน ตชด.100 ปี ตำบล บ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ พบว่าหลังคาและฝ้าเพดานบางส่วนได้หลุดพังลงมา หน้ามุขด้านหน้าอาคารเรียนแตกร้าว บ้านพักครูมีรอยร้าวทั้ง 2 หลัง และอาคารสุขศาลาพระราชทานอยระหว่างการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ขณะที่ กระจกตึกแถวทางด้านทิศเหนือธนาคารออมสิน สาขาท่าวังผา เกิดแตกร้าว จากแรงสั่นสะเทือน





พันเอกรัตนะ พัฒนโสภณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ได้สั่งการให้ 6 กองร้อย ประสานหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแนวชายแดนออกสำรวจความเสียหายและติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด

ขณะที่นาย คทายุทธ์ ชุพูล กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าหงสา ที่ตั้งอยู่ที่เมืองหงสา แขวงไชยบุรี ประเทศลาว

นอกจากนี้ที่วัดพระธาตุเขาน้อย โบราณสถานเก่าแก่อายุ 5 ร้อยกว่าปี ที่อยู่บนเขาสูงสุดในตัวเมือง ได้รับความเสียหาย โดยพระและสามเณรวัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูง ในตำบลไชยสถาน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ชี้ให้ดูความเสียหาย ของพระอุโบสถเก่าแก่ของวัดอายุ 5 ร้อยกว่าปี จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในลาวเมื่อเช้ามืดวันนี้ โดยพบรอยแตกร้าวรอบตัวอาคารพระอุโบสถ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้าตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากวัดพระธาตุเขาน้อยเคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 57 ก่อนมาแล้ว

พระมหาจรัล สิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเขาน้อย เล่าวินาทีช่วงเกิดแผ่นดินไหวว่า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เพราะวัดอยู่บนเนินเขาสูง จึงรู้สึกตกใจ พระและสามเณรที่อยู่ในกุฏิต่างวิ่งหนีออกมาอยู่บริเวณลานวัด และความรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวจนประชาชนในทุกพื้นที่อำเภอสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อโบราณสถานสำคัญและวัดเก่าแก่ต่างๆในจังหวัดน่าน

นายวิทยา ขันทยศ นายช่างโยธา สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งวางแผนการสำรวจความเสียหายของโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 25 แห่ง โดยเฉพาะที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ คือที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และ วัดภูมินทร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม และที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ซึ่งเคยมีรอยร้าวที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงที่วัดพระธาตุเขาน้อย อ.เมืองน่าน ซึ่งเป็นวัดสำคัญและอยู่จุดที่สูง นอกจากนี้ยังมี วัดสำคัญ ที่ต้องตรวจสอบ คือ วัดพระธาตุเบ็งสกัด และวัดต้นแหลง อ.ปัว และวัด หนองแดง อ.เชียงกลางด้วย

นายมณเฑียร คูคำมี ผู้อำนวยการ กลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดน่าน เร่งประสานคณะสงฆ์จังหวัดน่าน เพื่อสั่งการให้วัดทุกแห่งทั่วทั้งจังหวัด โดยเฉพาะวัดในเขตอำเภอแนวชายแดน ให้เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ และสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3075006

 

วีดีโอ คลิปวิดีโอ




โหวตถูกใจคลิปนี้ 0

ไม่ถูกใจ 0



close แจ้งลบวิดีโอนี้


แจ้งลบวิดีโอนี้


ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ได้รับแจ้ง
เกี่ยวกับคลิปวิดีโอเรื่อง :
แสดงความเกลียดชัง/ไม่เหมาะสม

ปิด



แชร์คลิปวิดีโอนี้

คัดลอก URL


http://video.sanook.com/player/1391917/



EMBED CODE
เลือกขนาด EMBED CODE


‘, css: { top: ‘30%’, width: ‘auto’, height: ‘auto’, padding: ’30px’, border: ‘none’, color: ‘#353535’, cursor: null }, overlayCSS: { cursor: null } }); $(‘.blockOverlay, .comment-closeblockui, .btn-ok’).click($.unblockUI); }


คลิปแนะนำ


โหลดเพิ่ม



เพิ่มคลิปใน “คลิปโปรด” แล้ว

เพิ่มคลิปใน “คลิปที่เก็บไว้ดูทีหลัง” แล้ว

คุณโหวตเรียบร้อยแล้ว

เพิ่มลงในเพลย์ลิสต์โปรดแล้ว

เพิ่มวิดีโอนี้เข้าใน Playlist เรียบร้อยแล้วค่ะ

วันนี้คุณโหวตไปแล้ว โหวตใหม่ได้อีกครั้งพรุ่งนี้ค่ะ


เข้าสู่ระบบสมาชิกสนุก Sanook! Video

กรุณาเข้าสู่ระบบสมาชิก
ของ Sanook! Video ก่อนนะคะ


ขอบคุณที่มา
http://video.sanook.com/player/1391917/

 

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ประเทศลาว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้อย่างชัดเจน เช่นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา บรรดาแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดตึก 15 ชั้น อยู่ในช่วงเช้า ได้พากันหนีตายลงมาจากตึกกันอย่างจ้าละหวั่น หลังจากที่ตึกเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง โดยนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เข้าไปสอบถามความรู้สึกของแม่บ้าน ก็พบว่าหลายคนต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับหยิบยาดมมาดมกันยกใหญ่ เพราะไม่เคยเจอปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงได้อธิบายว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอาฟเตอร์ช็อกแผ่นดินไหวที่ประเทศลาว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ที่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ เช่น ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่สีมาคอนโดมีเนียม และอาคารสูงหลายแห่ง ซึ่งมีการแชร์ภาพการสั่นไหวของโคมไฟ และสิ่งของต่างๆ ในโลกโซเชียลกันอย่างต่อเนื่องตลอดในช่วงเช้านี้



matichon


ขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/region/news_1762264

 

วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดแผ่นดินไหว


แผ่นดินไหว – วันที่ 21 พ.ย. สร้างความตกใจอกสั่นขวัญแขวนให้กับชาวกรุงและชาวเหนือไม่น้อย หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน สปป. ลาว ตามรายลงานระบุว่า เวลาประมาณ 4 นาฬิกาตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ที่ระดับความลึก 5 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร

ต่อมาเวลา 06.50 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกครั้ง ขนาด 6.4 ความลึก 3 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว รับรู้ได้ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้คนที่อยู่บนตึกสูงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหว หลังจากแผ่นดินไหวหลัก ก็ได้มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระยะ ระดับความแรงระหว่าง 2.4-4.8

ภาพความเสียหายจาก #แผ่นดินไหว โรงไฟฟ้าหงสา แขวงไซยะบุรี ใน สปป.ลาว pic.twitter.com/OBseillVig

— Kowit_Boondham (@kowit_ThaiPBS) November 21, 2019
​

ผลจากแผ่นดินไหว ทำให้อาคารบางส่วนของโรงไฟฟ้าเมืองหงสาได้รับความเสียหาย ภาพจาก: @ kowit_ThaiPBS

ต่อมา เวลา 09.23 นาฬิกา กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงาน แผ่นดินไหวขนาด 3.8 ศูนย์กลางอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน พิกัด 19.435 องศาเหนือ, 101.174 องศาตะวันออก ความลึก 8 กม. นั่นทำให้เห็นว่า แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัวเรา เราควรรู้จักวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัย

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ให้ความรู้ในการปฏิบัติและการป้องกันตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวไว้ดังนี้

การปฏิบัติและการป้องกันตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว


ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว

1. ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน และให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน
2. ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
3. ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น
4. ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า
5. อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้
6. ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน
7. ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมาย ในกรณีที่ต้องพลัดพรากจากกัน เพื่อมารวมกันอีกครั้ง ในภายหลัง
8. สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว

1. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ ถ้าท่านอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าท่านอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกจากบ้าน
2. ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ที่สามารถรับน้ำหนัก ได้มาก และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง
3. หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น และรีบออกจากอาคารโดยเร็ว หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้
4. ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้ง ให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ ที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง
5. อย่าใช้ เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดเปลวหรือประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น
6. ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด
7. ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว
8. หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

หลังเกิดแผ่นดินไหว

1. ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน
2. ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้
3. ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ และสิ่งหักพังแทง
4. ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ
หรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว
5. ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน
6. ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง
7. เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ
8. สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้
9. อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคารพัง
10. อย่าแพร่ข่าวลือ

ขอบคุณข้อมูลจาก: tmd.go.th

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.ขอบคุณที่มา
https://thethaiger.com/thai/news-th/thailand-th/แผ่นดินไหวน่าน-3-8-อัปเดตแ

 

แผ่นดินไหวที่ลาว รู้สึกถึง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ เผยเห็นสินค้าที่ห้อยไว้แกว่งไปมาทั้งร้านไม่มีลมเพราะยังไม่เปิดร้าน คิดว่าโดนผีหลอก


คลิปที่ 1



วันที่ 21 พ.ย.2562 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน เกิดแผ่นดินไหว ขนาด Magnitude 5.9 ในเขตพื้นที่ สปป.ลาว ติดชายแดนไทย ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ห่างไปประมาณ 19 กม.



จากกรณีเกิดแผ่นไหวที่ประเทศลาว ซึ่งประเทศไทยหลายจังหวัดต่างรับรู้ถึงความรู้สึกได้ ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ผู้สื่อข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดจากนายรุ่งเกียรติ ฉัตรสันติประภา อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน”นาทวี”ซึ่งเป็นร้านขายของสังฆภัณฑ์ อยู่ในตลาดสดเทศบาลสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นภาพสินค้าที่แขวนเอาไว้ส่ายไปมาอย่างเห็นได้ชัดโดยนายรุ่งเกียรติ เล่าว่า ช่วงเช้าตนได้ตื่นมาเตรียมจะเปิดร้าน หลังเปิดไฟในร้าน ก็พบความผิดปกติ สินค้าที่ห้อยแขวนไว้ทั่วร้านไหวสั่นส่ายไปมา ตนแปลกใจมาก เพราะยังไม่เปิดประตูร้าน ไม่มีลมเข้ามา ถึงแม้จะมีลมตอนเปิดร้านก็ไม่ทำให้ข้าวของส่ายไปมาได้ แต่ภาพที่เห็นเป็นเหมือนคนจับตัวบ้านส่ายเบาๆ ตนตกใจคิดว่าผีหลอก เรียกแฟนมาดูก็เห็นเช่นเดียวกันนานร่วม 2 นาที ทันใดนั้นข่าวในทีวี มีการประกาศว่ามีแผ่นดินไหวที่ลาว รับรู้ถึงกรุงเทพฯ ตนจึงมั่นใจว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกันแน่ๆเพราะเวลาใกล้เคียงกัน





อย่างไรก็ตามหลังจากตนทำการเปิดร้านก็ได้ไปสอบถามร้านค้าใกล้ๆกันไม่มีใครรับรู้ได้ว่ามีแผ่นดินไหว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะร้านค้าร้านอื่นไม่มีสินค้าที่ห้อยแขวนไว้ เหมือนร้านตนเองจึงไม่ได้ผิดสังเกต สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้มีเพียงข้าวของแกว่งไปมาเท่านั้น แต่ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเวียนหัวแต่อย่างใด



อุดร ลาดธรรมา ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.บุรีรัมย์


ข่าวเกี่ยวข้องในเครือ

แผ่นดินไหวที่ลาว รู้สึกถึง อสตึก บุรีรัมย์ เจ้าของร้านเผยคิดว่าผีหลอก บุรีรัมย์
Shares :


ข่าวเกี่ยวข้อง


ขอบคุณที่มา
https://www.komchadluek.net/news/local/400218

 

กรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมด้วยกรมทรัพยากรธรณี ร่วมแถลงเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นที่ประเทศลาว เมื่อเวลา 06.50 น. ระดับความลึก 3 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ประมาณ 20 กิโลเมตร



นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเกิดจากรอยเลื่อนในประเทศลาว จากการเฝ้าระวังและตรวจวัดพบว่า เริ่มมีการเกิดแผ่นดินไหวตั้งแต่เวลา 23.49 น. และเกิดต่อเนื่องรวม 12 ครั้ง ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวหลักหรือ Mainshock ขนาด 6.4 เมื่อเวลา 6.50 หลังจากนี้จะมีการเกิด Aftershock ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ระดับหรือขนาดของความแรงจะลดลง ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ปกติ เพราะเป็นลักษณะของการคลายตัวของเปลือกโลกที่กำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะกินระยะเวลานานเป็นเดือนหรือนานกว่านั้น

ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก และเตรียมตัวให้พร้อมกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้ ป้องกันการสับสนและเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อน



ขณะที่นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเกิดจากการขยับหรือเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนที่ประเทศลาว ขอประชาชนอย่าได้วิตกกังวลเนื่องจากศูนย์กลางอยู่ห่างจากไทยประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนที่กังวลว่าจะส่งผลต่อรอยเลื่อนปัวที่อยู่ขนานกันหรือไม่นั้น มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลและผลการศึกษาย้อนหลัง โอกาสที่หากจะเกิดแผ่นดินไหวจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ถือเป็นภัยพิบัติอย่างเดียวที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้



ส่วนสาเหตุที่กรุงเทพมหานครอยู่ห่างไกลประมาณ 600-700 กิโลเมตร แต่ยังสามารถรับรู้และสัมผัสถึงแรงสั่นไหว เนื่องจากปัจจัยของชั้นดินที่เป็นตะกอนไม่แข็งตัว ทำให้มีลักษณะเป็นดินอ่อนตัว จึงเกิดแรงกระเพื่อมเมื่อเกิดแผ่นดินไหวได้ แต่ระดับของความรุนแรงจะเพียงเล็กน้อยจะไม่เท่ากับจุดศูนย์กลางหรือบริเวณที่อยู่ใกล้อย่างแน่นอน

ขอบคุณที่มา
http://news.ch3thailand.com/local/100080

 

นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เขื่อนทุกเขื่อนของ กฟผ.ในไทยไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวใน สปป.ลาว รวมทั้งสถานีไฟฟ้าแรงสูงน่าน ตรวจสอบแล้วไม่มีความเสียหาย และเหตุการณ์นี้ไม่มีไฟฟ้าดับ กฟผ.สามารถผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอื่นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทน โรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาใน สปป.ลาวที่หยุดผลิตชั่วคราวจากผลกระทบแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่าคงจะหยุดผลิตอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งโดยปกติแล้วต้นทุนค่าไฟฟ้าจากเชิ้อเพลิงก๊าซฯ มีต้นทุนสูงกว่าถ่านหิน

ทั้งนี้ วันนี้ (21 พ.ย.) เมื่อเวลา 04.03 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ ความลึก 5 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน และส่งผลให้โรงไฟฟ้าหงสา เครื่องที่ 1 และ 2 หยุดการผลิตฉุกเฉินด้วยสัญญาณ Vibration high ขณะจ่ายโหลดรวม 985 MW และโรงไฟฟ้าหงสา เครื่องที่ 3 ลดการผลิตเหลือ 200 MW เหตุการณ์นี้ไม่มีไฟฟ้าดับ กฟผ.สามารถผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอื่นที่ใช้ก๊าซทดแทน ต่อมาเวลา 06.51 น. โรงไฟฟ้าหงสา เครื่องที่ 3 หยุดการผลิตฉุกเฉิน หลังเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มเติม (After shock)

อนึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาตั้งอยู่ในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี กำลังผลิตติดตั้ง 1,878 เมกะวัตต์ ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ประกอบด้วย โรงไฟฟ้า 3 หน่วย กำลังผลิตติดตั้งหน่วย ๆ ละ 626 เมกะวัตต์ โดยจะผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับประเทศไทย 1,473 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับ สปป.ลาว 100 เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับขบวนการผลิตทั้งในส่วนของเหมืองและโรงไฟฟ้า

ขอบคุณที่มา
https://kaohoon.com/content/328274

 

กรมอุตุยืนยันแผ่นดินไหวลาว ไม่น่ากังวล ย้ำเขื่อนในไทย ไม่อยู่บนรอยเลื่อน-รับมือแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ได้


นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดแผ่นดินไหว ณ ประเทศลาว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ย. 2562 ขนาด 6.4 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาดค่อนข้างรุนแรง และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมา ขนาด 2.4-4.8 จำนวน 9 ครั้ง คาดว่าเกิดจากรอยเลื่อนในประเทศ ลาวที่เชื่อมต่อจากรอยเลื่อนปัวในประเทศไทย ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2478 ขนาด 6.5 ในบริเวณเดียวกัน



“ก่อนหน้าการเกิด Mainshock ในครั้งนี้ มีการเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 12 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวาน เวลาประมาณ 23.49 ที่ผ่านมา และหลังจากเกิด Mainshock อาจจะมีการลดระดับความรุนแรงเป็น Aftershock ตามมาเรื่อยๆ ซักระยะ เป็นการคลายตัวของเปลือกโลก ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ ในส่วนที่หลายคนกังวล เรื่องของ เขื่อน ยังมีความมั่นคงแข็งแรง กรมชลประทานดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง รับรองการเกิดแผ่นดินไหวได้ถึงขนาด 7.5 และไม่ได้อยู่บนรอยเลื่อน”

ด้านนายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับรอยเลื่อนมีพลัง คือการมีรอยแตกของแผ่นดิน มีการขยับตัวเนื่องมาจากแรงบีบอัด ในประเทศไทยได้รับอิทธิพลแรงบีบอัดมาจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนหลักอยู่ 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนสะกาย ในประเทศเมียนมา และ รอยเลื่อนแม่น้ำแดง พาดผ่านมาทางตอนเหนือจากประเทศจีนมาถึงประเทศเวียดนาม เมื่อ 2 รอยเลื่อนนี้มีการขยับตัว จึงทำให้ช่วงที่ผ่านมา จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เกิดการขยับตัวจำนวนมาก จะเห็นได้ชัดเจนว่าระยะหลังทางตอนเหนือของประเทศไทยเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางหรือขนาดเล็กบ่อยครั้ง และการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ รอยเลื่อนมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศลาว ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะมีการเฝ้าระวังอยู่ตลอด

อธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวเสริมว่า แผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ แต่สามารถปฎิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้เรานั้นปลอดภัยได้ เช่น อย่าอยู่ใกล้ตึกอาคาร หากอยู่ในอาคารก็ต้องอยู่ในที่หลบภัย ไม่ว่าจะเป็นเตียง หรือ โต๊ะที่ความมั่นคงแข็งแรง มากไปกว่านั้นคือการติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุฯ จากหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ



ขอบคุณที่มา
https://www.prachachat.net/ict/news-393788