ระหว่างฟันจริงกับรากเทียม สัมผัสการใช้งานต่างกันแค่ไหน

“รากเทียม” เปรียบเหมือนฟันชุดที่ 3 จัดเป็นบริการทันตกรรมที่ช่วยให้คนที่สูญเสียฟันจริง หรือฟันแตกหักเสียหาย ให้กลับมาใช้งานบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ฟันซี่นั้น ๆ กลับมามีสภาพดีอีกครั้ง

เปรียบเทียบรากเทียมกับฟันจริง

รากเทียมมีความเป็นธรรมชาติใช้งานได้ดี https://www.edelweissdentalhouse.com/th/implants/ ต่างกันที่ฟันน้ำนมและฟันแท้ของคนซึ่งเป็นฟันชุดที่ 1 และ 2 มีเส้นประสาทรองรับและเมื่ออกแรงเคี้ยวอาหารฟันก็สามารถขยับขึ้นลงได้ ทำให้ฟันจริงว่องไว้ต่อการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบสูง

ส่วนรากเทียมแม้ไม่มีเส้นประสาทเหมือนฟันจริงแต่ก็ใช้งานได้ไม่ต่างกัน หากทันตแพทย์ปรับการสบฟันได้เหมาะสมก็ยังคงรับรู้การสัมผัสของอาหารเวลาคบเคี้ยวได้ดี แต่ในกรณี่ที่มีวัตถุขนาดเดียวกับเส้นผมปะปนอยู่ในอาหารและคบเคี้ยวอยู่นั้น พบว่าฟันจริงรับรู้ได้รวดเร็วกว่า

รากเทียมไวต่อการสัมผัสไม่น้อยไปกว่าฟันจริง

ผลทดสอบความไวต่อการสัมผัสของรากเทียมและฟันจริง แสดงให้เห็นว่าฟันจริงไวต่อสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนมากับอาหารได้หนาเกินกว่า 20 ไมครอน ส่วนรากฟันเทียมก็ไม่ต่างกัน โดยมีสัมผัสที่ว่องไวต่อสิ่งแปลกปลอมที่หนาประมาณ 20 พอกัน

เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้รากเทียมมีความใกล้เคียงกับฟันจริง ทั้งเรื่องการใช้งานและรูปลักภายนอกแล้ว เพราะรากฟันเทียมต้องฝังลงไปในกระดูก แล้วบูรณะฟันขึ้นมาใหม่ ซึ่งฟันจริงก็ยึดติดอยู่กับกระดูกเหมือนกัน เวลาสัมผัสกับอาหารและวัตถุที่เคี้ยวจึงไม่ต่างกัน

ทั้งนี้ รากเทียมสามารถติดได้หลายซี่ตามความเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียง ทำให้ฟันมีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบดเคี้ยวอหารได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากฟันธรรมชาติ ช่วยสร้างความมั่นใจ รวมทั้งทำให้สุขอนามัยช่องปากโดยรวมดีขึ้น.